ความคิดเห็นที่ 1 ด่วน!บังยีบุกถิ่นผู้ดีถกอนาคต3แข้งไทย บังยี" วรวีร์ มะกูดี บิ๊กลูกหนังไทย บุกอังกฤษ เพื่อเคลียร์เอกสารการเล่นอาชีพของ 3 แข้งไทย กับ มร.เดวิด ริชาร์ด ประธานพรีเมียร์ลีก และ มร.เจฟ ธอมสัน นายก ส.ฟุตบอลอังกฤษ วันที่ 14 ก.ย. นี้ พร้อมรับ 3 นักเตะกลับไทย 17 ก.ย.นี้ ด้วยเพื่อเข้าแคมป์ อุ่นเครื่อง ยูเออี วันที่ 3 ต.ค. ก่อน 8 ต.ค. ลุยฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ มาเก๊า ด้าน 3 นักเตะไทย ยังฟิตเหมือนเดิม ลงซ้อมกับชุดใหญ่ "เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ สนุก สุรีย์ สุขะ ฟอร์มเจ๋งเหมือนเดิมซัดประตูสุดสวย เรียกเสียงปรบมือทั้งสนาม หลังจากที่ 3 นักเตะไทย ทั้ง สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ธีรศิลป์ แดงดา ได้เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังในพรีเมียร์ลีก แต่ยังไม่สามารถที่จะลงสนามเล่นได้แม้กระทั่งทีมสำรอง เนื่องจากยังขาดใบอนุญาตในการทำงาน หรือที่เรียกกันว่าเวิร์คเพอมิตต์ นั่นเอง ล่าสุด "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทย ได้เดินนั่งเครื่องบินจากประเทศจีน หลังเดินทางไปดูแลการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ จีน มุ่งสู่ประเทศอังกฤษ เพื่อคุยเรื่องเอกสารการเป็นนักเตะอาชีพของ 3 แข้งไทย ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ สุรีย์ สุขะ โดยจะมีการพูดคุยกับ มร.เดวิด ริชาร์ด ประธานฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ และ มร.เจฟ ธอมสัน นายกสมาคมฟุตบอลของอังกฤษ ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ นอกจากนั้น ขากลับเมืองไทย จะเดินทางกลับมาพร้อมกับ 3 นักเตะไทยในวันที่ 17 ก.ย. เพื่อเข้าแค้มป์ฝึกซ้อมทีมชาติไทย เตรียมอุ่นเครื่องกับทีม ยูเออี ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ และวันนี้จะเป็นการอำลาทีมชาติของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ด้วย ต่อจากนั้น วันที่ 8 ต.ค. จะร่วมกับทีมชาติไทยสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ มาเก๊า ที่สนามศุภชลาศัย เหมือนเดิม นายกสมาคมฟุตบอลไทย กล่าวว่า "การเดินทางไปอังกฤษครั้งนี้ จะมีการพูดคุยกันทั้ง 3 ฝ่าย คือทาง สมาคมฟุตบอลไทย, สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และ ประธานพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับเอกสาร หรือเวิร์คเพอมิตต์ การเล่นฟุตบอลของ 3 นักเตะไทยในอนาคตวันข้างหน้า" การเจรจาพูดคุยกันครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ เนื่องจากทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างลึกซึ้ง โดยเฉพาะ วรวีร์ มะกูดี กับ ธอมสัน นายกสมาคมฟุตบอลอังกฤษเพราะว่า ครั้งหนึ่งเมื่อคราวการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพนั้น วรวีร์ มะกูดี เป็นประธานคณะกรรรมการดูแลความเรียบร้อยที่สนามแข่งขันเมืองโกเบ ส่วน มร.ธอมสัน เป็นรอง ทั้งสองคนทำงานร่วมกันมาตลอด อีกทั้งยังเป็นเมมเบอร์ฟีฟ่าด้วยกันอีกต่างหาก ขณะที่ มร.ริชาร์ด ประธานพรีเมียร์ลีก ครั้งหนึ่งเคยนำทีมอย่าง โบลตัน, แมนฯ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน เดินทางมาแข่งขันฟุตบอล 4 เส้า ที่เมืองไทย และตัวเองก็ได้เดินทางมาด้วย อีกทั้งยังได้รับการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมจาก วรวีร์ มะกูดี และสภากรรมการ ส.ฟุตบอลฯ ด้วย ส่วนความเคลื่อนไหวของ 3 นักเตะไทย ทั้ง เกียรติประวุฒิ, ธีรศิลป์, สุรีย์ ล่าสุดวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ลงซ้อมกับนักเตะชุดใหญ่ เนื่องจากทางชุดสำรองได้เดินทางไปแข่งขันกับทีมแบล็คพูล โดยชุดใหญ่ที่ไม่ได้เดินทางไปรับใช้ชาติมาซ้อมกันพร้อมหน้า ทั้ง ดีทมาร์ ฮามันน์, ดาริอุส วาสเซลล์, โรลันโด้ เบียงคี่, ซุน จี ไห่ ฯลฯ ในวันนี้ได้เน้นในเรื่องรูปแบบของการเข้าทำต่างๆ ก่อนแบ่งทีมแบบ 4 ต่อ 4 นักเตะไทยแยกทีมกันอยู่ โดย ธีรศิลป์ เป็นตัวแถม และสลับกันเล่นกับ สุรีย์ ช่วงท้ายเกม สุรีย์ สุขะ ซึ่งเล่นได้ดีมากๆ ในเกมนี้ กระชากบอลก่อนทำชิ่งกับ ดาริอุส วาสเซลล์ ก่อนเจ้าตัววอลเลย์เต็มข้อเข้าประตู เรียกเสียงปรบมือจาก สเวน โกรัน อิริคส์สัน และเพื่อร่วมสนามได้ ก่อนจะเลิกซ้อมทันที http://www.siamsport.co.th/25500912-077.html จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วยกันโหวต ภาพหัวเว็บไซต์ชมรมหน่อยครับ http://community.mcfc4thai.com/viewtopic.php?id=161 ช่วยกันโหวตแบ็คกาวน์ พื้น เว็บไซต์ ชมรม http://community.mcfc4thai.com/viewtopic.php?id=162 บทความริชาร์ดเขียนลง BBC website ผมแปลลงในนี้ครับ ลองไปอ่านดู http://community.mcfc4thai.com/viewtopic.php?id=145 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกชมรม โดยสมัครสมาชิกเว็บบอร์ดชมรม http://community.mcfc4thai.com จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไมกาห์คุยแข็งแกร่งธรรมชาติไม่พึ่งยิม ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลังดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ เผยความน่าทึ่งของตัวเองว่า มีสภาพร่างกายที่กำยำ ทั้งที่อายุยังน้อย โดยไม่ได้พึ่งพาการเข้าโรงยิมหรือฝึกซ้อมพิเศษแต่อย่างใด หากแต่เป็นเรื่องธรรมชาติที่สร้างขึ้น เท่านั้น ไมกาห์ ริชาร์ดส์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ทีมใน พรีเมียร์ลีก ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอันน่าทึ่งของตัวเองว่า ไม่เคยเข้าโรงยิมเพื่อฟิตร่างกายตัวเอง โดยปัจจุบันอายุเพียง 19 ปี แต่มีหุ่นที่ทั้งเฟิร์มและสูงใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เติบโตมาด้วยสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติล้วนๆ "มีผู้คนมากมายที่ถามผมเกี่ยวกับเรื่องวิธีออกกำลังกายในสมัยเด็ก หลายคนสงสัยว่า ผมไปเล่นที่ยิมไหน แต่บอกตามตรงว่าไม่เคยไปฝึกฝนวิธีพิเศษที่ไหนเลย ผมคิดว่าความแข็งแกร่งตัวเอง มาจากพันธุกรรมและธรรมชาติโดยแท้" ดาวเตะถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ กล่าว http://www.siamsport.co.th/25500913-014.html จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โซเรนเซ่นปัดข่าวหนีวิลล่าขอสู้ยึดมือ1คืน โธมัส โซเรนเซ่น นายทวารจอมหนึบ ของ แอสตัน วิลล่า ปัดข่าวเตรียมหาสังกัดใหม่ ยืนยันประกาศพร้อมแย่งตำแหน่งมือ 1 คืนจาก สกอตต์ คาร์สัน โกล์ดาวรุ่งที่ มาร์ติน โอนีล กุนซือ "สิงห์ผงาด" ยืมตัวมาจาก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ โธมัส โซเรนเซ่น ผู้รักษาประตูทีมชาติเดนมาร์ก ของ แอสตัน วิลล่า ในศึก พรีเมียร์ลีก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่า เขาเตรียมจะเก็บข้าวของย้ายออกไปจากถิ่น วิลล่า พาร์ก หลังจากต้องเสียตำแหน่งมือ 1 ไปให้กับ สกอตต์ คาร์สัน นายทวารดาวรุ่งที่ถูกยืมตัวจาก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ยืนยันพร้อมจะต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมา "เรื่องนี้ทำให้ดูเหมือนว่าผมยอมแพ้ และผมไม่ต้องการจะต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง ซึ่งนั่นเหลวไหลมาก ความจริงผมไม่ฟิตสมบูรณ์ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถอยู่ในตัวเลือกของผู้จัดการทีม แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว และอยากจะทำให้ผู้จัดการมีปัญหาในการตัดสินใจ ผมพูดกับทุกคนในทีม แอสตัน วิลล่า ว่า ผมจะอยู่ที่นี่เพื่อต่อสู้แย่งตำแหน่ง" "ผมรู้สถานการณ์ตัวเองดี สกอตต์ ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ผมก็ต้องทำงานหนัก และรอโอกาสของผม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เมื่อโอกาสมาถึง หวังอย่างยิ่งว่าผมจะสามารถแสดงสิ่งที่ผมมีอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลงเล่นตำแหน่งตัวจริง ผมจะไม่ปิดบัง แต่ผมไม่เคยคิดจะย้ายออกไปจากทีมเพื่อทำอย่างนั้น นั่นไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในหัวผมเลย" "ผมยังเหลือสัญญากับสโมสรอีก 1 ปี และแน่นอนถ้าผมยังอยู่ในปีหน้า แล้วผมยังคงไม่ได้ลงเล่น ผมก็คงมองหาทางเลือกต่อไป ในวลานี้ผมจะอยู่กับสโมสร และผมต้องการจะต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่ง ผมต้องการจะเบียดกับ สกอตต์ และนั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ" อดีตนายทวารซันเดอร์แลนด์ ยืนยัน http://www.siamsport.co.th/25500913-027.html จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อังกฤษสุดสะเด่าขย้ำ3-0 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 (รอบคัดเลือก) (วันพุธที่ 12 กันยายน 2550) (กลุ่มอี) อังกฤษ 3 - รัสเซีย 0 ผู้ชม :- สนาม :นิว เวมบลีย์ สิงโตคำราม ส่งนักเตะชุดเดิมลงเล่น แม้ว่า ปีเตอร์ เคร้าช์ จะพ้นโทษแบนกลับมาแล้ว แต่ เอมิล เฮสกี้ ยังฟอร์มประทับใจ สตีฟ แม็คคลาเรน ส่วนทีมเยือน กุส ฮิดดิ้งค์ ไม่มี วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ นายประตูที่ติดโทษแบน ทำให้ วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ ได้เฝ้าเสาแทน เพียงแค่ 7 นาทีแรกของเกม อังกฤษ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา แกเร็ธ แบร์รี่ ปั่นด้วยซ้ายเข้าไปหน้าประตู กองหลังรัสเซียโหม่งสกัดออกมาที่เดิม แบร์รี่ ปั่นด้วยซ้ายเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้บอลตกที่เท้า ไมเคิ่ล โอเว่น จับหนึ่งจังหวะแล้วแปเช็ดเสาเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่ 39 ของโอเว่นในทีมชาติ ถัดมา 3 นาที สิงโตคำราม น่าได้ประตูที่สองอย่างที่สุด เอมิล เฮสกี้ โฉบเข้าไปซัดด้วยซ้ายติดตัว มาลาเฟเยฟ โอเว่น จะพุ่งเข้าซ้ำแต่ดันลื่นล้มเสียอีก นาทีที่ 12 เป็นโอกาสลุ้นของ รัสเซีย บ้าง แต่ ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ ก็ยิงมุมแคบไปเข้าข้างตาข่าย รัสเซีย ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจนได้ในนาทีที่ 18 อังเดร อาร์ชาวิน ผ่านบอลจากซ้ายไปให้ คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ พักบอลลงแต่ดันไปโดนแขน ทำให้ลูกกลับตัวยิงผ่าน พอล โรบินสัน ไม่เป็นประตู สิงโตคำราม มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 31 จากลูกสาดยาวให้ เอมิล เฮสกี้ โหม่งเช็ดต่อไปถึง ไมเคิ่ล โอเว่น ตะบันด้วยขวาเต็มเหนี่ยวผ่าน มาลาเฟเยฟ เข้าไป จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ 2-0 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กองกลางตัวเก่งจากลิเวอร์พูล เกือบจะบวกอีกประตูให้ทีมชาติอังกฤษเมื่อเริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที แต่ลูกยิงของเขาไปโดน มาลาเฟฟ เซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่อีกนาทีถัดมา พอล โรบินสัน ของอังกฤษ ก็ต้องออกแรงป้องกันลูกยิงของผู้เล่นรัสเซียไว้ รัสเซีย หวิดได้ลุ้นยิงตีตื้นเมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เคลียร์บอลไม่ขาด เซียร์คอฟ ของรัสเซีย เกือบจะได้ซัลโว แต่แบร์รี่ วิ่งมาเคลียร์ออกไปได้ เกมดูเนือยๆ ลงเนื่องจากอังกฤษ เพลาเกมรุกและเน้นเล่นให้รัดกุม ขณะที่รัสเซีย แม้จะได้ครองบอลมากขึ้นแต่ก็หาจังหวะเข้ายิงเน้นๆไม่ได้เลย พอจะได้ลุ้นบ้างจากลูกยิงไกลของ บิลยาเลตดินอฟ แต่บอลก็ห่างกรอบไปไกล รัสเซีย มีโอกาสดีที่สุดในนาทีที่ 76 เมื่อ บิลยาเลตดินอฟ ที่เล่นได้ดีที่สุดของรัสเซียในเกมนี้ ล็อกบอลเข้าซ้ายบริเวณกรอบเขตโทษก่อนจะตะบันเต็มข้อ แต่โรบินสัน ล้มต้วเซฟเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม นาทีที่ 84 อังกฤษก็มาได้ประตูหนีไปเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สับไกยิงบอลตุงตาข่าย ช่วงเวลาที่รัสเซีย ไม่สามารถทำประตูตีไข่แตกได้ ขณะที่อังกฤษ ก็ไม่ได้ทำเกมรุกมากนัก ทำให้จบเกม อังกฤษ เอาชนะ รัสเซีย ไป 3-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญ ทำให้ไล่จี้ติดโครเอเชียเหลือ 3 คะแนนเช่นเดิม เพราะโครเอเชีย ก็เก็บชัยชนะได้เช่นกัน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อังกฤษ : พอล โรบินสัน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แกเร็ธ แบร์รี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล, เอมิล เฮสกี้, ไมเคิ่ล โอเว่น สำรอง : เดวิด เจมส์, เวส บราวน์, ฟิล เนวิลล์, อลัน สมิธ, สจ็วร์ต ดาวนิ่ง, แอนดี้ จอห์นสัน, ปีเตอร์ เคร้าช์ รัสเซีย : วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเซวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ, อิกอร์ เซมชอฟ, ยูริ เซียร์คอฟ, คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ, ดิมิทรี ซีเชฟ, อังเดร อาร์ชาวิน สำรอง : อันตัน ชูนิน, ดมิทรี ตอร์บินสกี้, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ, พาเวล โปเกรบยัค, โรมัน พาฟลูเชนโก้, วลาดิเมียร์ บิสตรอฟ, เดนิส โคโลดิน http://www.siamsport.co.th/25500913-009.html จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลาซิโอเล็งตราเบลซี่เสริมแนวรับฉุกเฉิน "อินทรีฟ้าขาว" ลาซิโอ เตรียมเปิดเจรจากับ ฮาเต็ม ตราเบลซี่ เพื่อดึงเข้ามาช่วยแก้วิกฤตผู้เล่นบาดเจ็บของทีมในตอนนี้ หลังจาก แบ็กจอมลุยเลือดตูนิเซีย หาสังกัดใหม่ลงเล่นไม่ได้นับตั้งแต่ถูก "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ยกเลิกสัญญาเมื่อช่วงจบฤดูกาลที่ผ่านมา ลาซิโอ สโมสรดังของศึก กัลโช่ เซเรีย อา เตรียมยื่นข้อเสนอให้ ฮาเต็ม ตราเบลซี่ ฟูลแบ็กชาวตูนิเซีย หลังจากเสียนักเตะหลายคนไปจากอาการบาดเจ็บในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ และไม่อาจคว้าใครมาเพิ่มในช่วงก่อนตลาดซื้อขายรอบแรกจะปิดลงเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ตราเบลซี่ วัย 30 ปี ไม่ประสบความสำเร็จในการเล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดล่าสุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทำให้ถูกยกเลิกสัญญาในช่วงซัมเมอร์ และตอนนี้เขาก็ยังไม่อาจหาสังกัดใหม่ลงเล่นได้ โดยรายงานข่าวบอกว่า อดีตดาวเตะอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สนใจที่จะย้ายมาค้าแข้งในถิ่น โอลิมปิก สเตเดี้ยม และพร้อมจะเปิดเจรจาสัญญาส่วนตัวทันที ความล้มเหลวในการซื้อนักเตะของ ลาซิโอ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้ วอลเตอร์ ซับบาตินี่ ผู้อำนวยการกีฬาของพวกเขา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการเจรจาซื้อ ตัดสินใจยื่นจดหมายลาออกไปแล้ว แต่ถูกทาง บอร์ดบริหาร "เบียงโคเชเลสเต้" ปฏิเสธ และทำให้เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้การเจรจากับ ตราเบลซี่ ประสบความสำเร็จ http://www.siamsport.co.th/25500913-030.html จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 “ลีซอ” รอวันคืนถิ่นผู้ดี ความหวังที่จะได้เห็นนักเตะไทยได้โลดแล่นอยู่ในลีกอังกฤษอีกครั้งใกล้ความจริงเข้าไปทุกขณะ เมื่อทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่าจะเซ็นสัญญากับ 3 แข้งไทยทั้ง สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเหลือเพียงรอใบอนุญาตทำงานเท่านั้น โดยเฉพาะในรายของ สุรีย์ แบ็กขวาจอมตะลุย ถึงกับมีข่าวว่าจะถูกดึงขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่โชว์ฝีเท้าในลีกสูงสุดอย่างศึกพรีเมียร์ชิป หลังจากที่มีนักเตะแดนสยามเดินทางไปพิสูจน์ตัวเองยังแผ่นดินผู้ดีมาแล้วก่อนหน้านี้แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งรุ่นพี่อย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เป็นได้แค่นักเตะทีมสำรองของฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ รวมถึง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่ไปได้ไกลสุดเพียงนักเตะเยาวชนของคริสตัล พาเลซ             อย่างไรก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ 3 นักเตะไทยชุดล่าสุดมีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น เป็นเพราะเส้นสายที่ใหญ่ระดับเจ้าของทีมตราเรือใบของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ผลักดันให้เกิดการเซ็นสัญญาขึ้น ซึ่งหากเจ้าของเป็นคนชาติอื่น บทสรุปของทั้ง 3 ราย อาจไม่แตกต่างจากจาก “ซิโก้” หรือ “ลีซอ” และแน่นอนว่าโอกาสทองฝังเพชรที่ทั้ง 3 คนได้รับ ย่อมทำให้ใครหลายคนวาดฝันว่าสักวันจะมีโอกาสไปค้าแข้งยังลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะกับคนที่ทำได้แค่ “เกือบ”มาแล้วอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย             นักเตะวัย 22 ปีทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโผ 3 นักเตะที่ทางสมาคมฟุตบอลคัดเลือกให้ไปทดสอบฝีเท้ากับทีมเรือใบ ที่ตั้งเกณฑ์ไว้ว่าต้องมีรูปร่างสูงและอายุน้อย ซึ่ง “หนุ่มซอ” สอบตกตั้งแต่เงื่อนไขแรก ถึงแม้จะมองว่าความสามารถสำคัญกว่าสรีระ แต่ลีซอก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังที่พลาดโอกาสในครั้งนี้ เพราะสิ่งที่เจ้าตัวเสียดายมากกว่าคือโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก ตั้งแต่สมัยค้าแข้งในทีมชุดเยาวชนของคริสตัล พาเลซ เมื่อ 4 ปีก่อน             เพราะจะว่าไปแล้วนักเตะจากแดนสยามที่ผ่านการทดสอบฝีเท้ายังลีกผู้ดีมาทั้งหมด มีเพียงลีซอคนเดียวที่เริ่มก้าวตั้งแต่บันไดขั้นแรกโดยไปอยู่กับทีมปราสาทเรือนแก้วในฐานะนักเตะเยาวชนของสโมสรด้วยวัยเพียง 14 ขวบ สมัยยังเป็นเด็กชายธีรเทพอยู่ด้วยซ้ำ แถมผลงานในสนามก็ไม่ขี้เหร่ เรียกว่าเป็นนักเตะตัวหลักของทีมโอกาสได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ติดตรงที่เจ้าตัวไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว และที่สำคัญในตอนนั้นยังไม่มีมหาเศรษฐีหน้าไหนหาญกล้าไปซื้อสโมสรในอังกฤษ ทำให้ติดปัญหาใบอนุญาตทำงานจนต้องเก็บกระเป๋ากลับสู่มาตุภูมิมาค้าแข้งอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมชาติกำลังจะได้เป็นนักเตะอาชีพอยู่รอมร่อ ทำให้เจ้าตัวถึงกับเสียดายที่ตัวเองไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้             ลีซอ ร่ายยาวให้ฟังว่า “ตอนที่ผมไปอยู่ คริสตัล พาเลซ ก็มีกระแสพอสมควรที่จะให้มีการเซ็นสัญญา แต่ไม่มีใครช่วยก็เลยไม่สามารถต่อเนื่องได้ รวมทั้งทีมชาติไทยมีแข่งพอดีจึงต้องยกเลิกสัญญาแล้วกลับมาในที่สุด จริงๆ แล้วโอกาสของผมก็พอมีและผมคิดว่ามันมากพอสมควรด้วย ถ้าหากมีคนคิดจะช่วยเหลือบ้างก็น่าจะทำได้”             “ส่วน 3 คนที่ไปทดสอบฝีเท้ากับแมนฯซิตี้ ตอนนี้เขามีโอกาสดีกว่าผมเยอะ ดีกว่าทุกๆ คนที่เคยไปมาก่อน ทั้งผมรวมถึงพี่โก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) อย่างที่บอกว่าเขามีคนช่วย มีคนคอยหนุนหลัง แล้วยิ่งคนไทยไปเป็นประธานสโมสรด้วย ก็มีโอกาสที่จะได้ง่ายๆ ถ้าต้องการจะเซ็นสัญญาจริงสามารถช่วยได้อยู่แล้ว แต่ขอให้ตั้งใจจริงๆ เถอะ ส่วนเรื่องจะได้ลงเล่นหรือไม่ ยังไม่ต้องคิดหรอก เอาแค่ให้ได้เซ็นสัญญาก่อนจากนั้นก็มุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม ค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าให้เขาเห็น”             ไม่เพียงแค่พลาดการเป็นนักเตะอาชีพเท่านั้น เด็กหนุ่มวัย 22 ปียังยอมรับว่าก้าวพลาดอย่างมหันต์ที่ปฏิเสธการไปค้าแข้งกับทีมในดวงใจอย่าง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาที่อยู่กับ คริสตัล พาเลซ “ทางโค้ชของแมนฯยูไนเต็ด ติดต่อมาว่าสนใจในตัวผม แต่ตอนนั้นที่คริสตัล พาเลซ ผมเป็นตัวหลักของทีมอยู่ โค้ชก็เลยไม่อยากปล่อยตัวไป เขาบอกว่าย้ายไปแล้วจะไม่ค่อยได้ลงเล่น เพราะคนเก่งที่ แมนฯยูไนเต็ด มีเยอะ แต่ถ้าอยู่ที่นี่จะได้ลงเล่นตลอด ผมก็เชื่อ เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ แต่ถ้าตอนนั้นผมตัดสินใจย้ายไปแมนฯยูไนเต็ด ตอนนี้อาจจะยังอยู่ที่นั่นก็เป็นได้ เพราะพวกเขาไม่เล่นสไตล์บอลตัวใหญ่ เล่นบอลกับพื้นและเน้นทีมเวิร์ค ยอมรับว่าตัดสินใจพลาดเองด้วย แต่ไม่เป็นไร ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ อย่างน้อยไปอยู่ที่โน่นก็ได้ประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่าง”             แม้ว่าปัจจุบันชีวิตค้าแข้งของลีซอกำลังไปได้สวยด้วยการพา บีอีซีเทโร ศาสน ต้นสังกัดรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในศึกไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก อยู่ในเวลานี้ แต่เป้าหมายสุดท้ายของเจ้าตัวยังมีสถานีปลายทางอยู่ที่แผ่นดินอังกฤษอยู่เช่นเดิม โดยเฉพาะกับทีมรักที่เคยปฏิเสธมาก่อนหน้านี้อย่าง แมนฯยูไนเต็ด             “ความจริงผมสามารถไปด้วยตัวเองได้ทันทีเลย แต่อยากให้พร้อมมากกว่านี้ก่อน นี่ก็เล่นอยู่ที่บีอีซีเพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้กระดูกมันแข็งขึ้น จากนั้นค่อยก้าวทีละสเต็ปไปค้าแข้งยังต่างแดน ซึ่งอาจยังไม่ใช่ที่อังกฤษก็ได้ เพราะตอนนี้ทางออสเตรเลียก็ติดต่อมาแล้วเพียงแค่รอให้ผมตอบไปว่าพร้อมเมื่อไหร่ ซึ่งอาจจะสักปีหรือสองปี ส่วนเป้าหมายสูงสุดของผมอยู่ที่อังกฤษ กับแมนฯ ยูไนเต็ด นั่นแหละ จะเมื่อไหร่ก็ได้แค่ขอให้ได้ไปอยู่ที่นั่น หรือหากไม่ใช่แมนฯยูไนเต็ด จะเป็นทีมไหนก็ได้ในพรีเมียร์ชิป ขอเพียงแค่มีโอกาสได้ลงเล่นก็พอ”             จากนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าลีซอจะสามารถก้าวตามเส้นทางที่ตัวเองวางไว้เพื่อจะไปค้าแข้งยังลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีได้หรือไม่ แต่กว่าจะถึงเวลานั้น นักเตะวัย 22 ปีคงต้องพิสูจน์ตัวเองกับบีอีซี เทโรศาสน รวมทั้งกับทีมชาติไทยให้ได้เสียก่อนว่า มีดีพอที่จะกลับไปเผชิญความท้าทายยังลีกต่างแดนอีกครั้ง! http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000107559 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำนักเตะแมน ซิตี้ โดย M.C. Hazard เกร็ดความรู้เพื่อมือใหม่ ประตูตัวจริงของเรา Andreas Isaksson (อิแซคซั่น) อายุ 25 ขวบ ดีกรีทีมชาติสวีเดน ปัจจุบันนั่งสำรองซิตี้  คงนึกในใจ...ทำไมชีวิตกรูเป็นแบบนี้ เล่นทีมชาติมา 49 เกม ตั้งแต่ปี 2002  ส่วนสโมสรนั้นพี่เปลี่ยนเป็นว่าเล่น ซิตี้เป็นสโมสรที่ 5 ตั้งแต่แกเริ่มเล่นมา ย้ายมาจาก ทีม Stade Rennais เมืองน้ำหอม ด้วยค่าตัว 2 ล้านเท่านั้น จัดว่าไม่แพง แม้ว่าจะเป็นโกล์ก็ตาม ความตั้งใจแรกคือจะเอามาแทนเฮียเฟอะฟะ (เดวิด เจมส์) แต่พี่แกเจ็บเก่งเหลือเกิน  กว่าจะได้เล่นก็ธันวา 2006 แล้ว ก่อนเปิดฤดูกาลพี่แกก็เจ็บอีก และนั่นก็คือที่มาของผีน้อยขวัญใจสาวๆ แคสเปอร์ ชไมพร Kasper Schmeichel หนุ่มน้อยเดนิชวัย 20 ขวบคนนี้เป็นขวัญใจคนใหม่ของชาวซิตี้จริงๆ (โดยเฉพาะสาวแก่แม่ม่ายชาวซิตี้ไทย) (แม่ผมยังชอบ...หุ หุ) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของปีเตอร์ ชไมพร ยักษ์เดนส์แห่งทีมคู่อริ แมนยูฯ ซึ่งถ่ายทอดพันธุกรรมมาได้ดีจริงๆ เกิดที่โคเปนเฮเกน สวีเดน เป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกอายุ 18 ปี ก็เซ็นสัญญากับซิตี้ทันที ได้เล่นทีมสำรองของซิตี้เป็นหลัก ก่อนที่จะถูกให้ยืมตัวไปอย่างน่าสงสารถึง 3 สโมสรภายใน 1 ปี ในปี 2006 ...ทำไมทำกับน้องเขาได้แบบนี้ ก่อนเปิดฤดูกาลอิแซคซั่นดันเจ็บ (ตามสูตร) เปิดโอกาสให้ผีน้อยได้โชว์ฟอร์มสุดยอด 5 นัดเสีย 2 เมล็ด ในบ้านไม่เสียซะด้วย ติดตามกันต่อไปว่าชไมพรจะได้เป็นตัวจริงไปนานแค่ไหน อิแซคซั่นจะยอมมั๊ย ไม่ยอมแล้วอีจะงอนไปอยู่ที่อื่นหรือไม่ ผีน้อยจะโชว์ฟอร์มสุดยอดไปอีกแค่ไหน เฮียเถิกจะไว้ใจใครกว่ากัน   ถ้าเฮียเถิกไม่ไว้ใจชไมพร สาวแก่แม่ม่ายจะขาดใจมั๊ยถ้าต้องดูหน้าเห่ยๆของอีแสกแทนผีน้อย ติดตามต่อไปครับ สนุกแน่ครับ นักเตะแมน ซิตี้ กับ ทีมชาติอังกฤษ Michael Ball เองก็เคยติดทีมชาติ (เอ๋ๆๆ ใครไม่รู้มั่ง)   ถูกเรียกไปตอนปี 2001 ลงไปเตะนัดไหน ไม่มีใครจำได้ โดยโชว์ฟอร์มสุดยอดให้เป็นที่ประจักษ์ จากนั้นจึงไม่ได้รับการเรียกตัวไปเตะอีกเลย แหะ แหะ แหะ Nedum Onuoha อยู่ชุด U-21 ได้ลงเตะไป 9 ครั้งตั้งแต่ปี 2005 ผลงานเป็นเช่นไรไม่ทราบ แต่ปัจจุบันยังติดทีมชาติอยู่คร๊าบบบ Michael Johnson  ผู้นำชัยให้ในนัดพบดาร์บี้ ปัจจุบันมีชื่อในทีมชาติชุด U-21 เพิ่งจะได้เตะไปหนเดียว Darius Vassell ก็เคยติดทีมชาติชุดหญ่ายยย ตอนนี้ได้ข่าวว่าดาร์บี้อยากจะได้ไปร่วมทีม เฮียเถิกมีหรือจะยอม   บอกคำเดียวว่า  "ถ้ามันอยากไป อั๊วะก็ปล่อยทันที"  น่าสงสารแต๊ๆ... Joe Hart โกล์มือสามของเรา ผู้ซึ่งคาดว่าไม่มีวันจะได้เห็นหน้าทางจอโทรทัศน์แน่นอน   แต่ช้าก่อน พี่คนนี้ติดทีมชาติชุด U-19 และปัจจุบันก็ติด U-21 ด้วยนะเออ... Daniel Sturridge กองหน้าวัยละอ่อน (หน้ากร้านโลก) ตัวสำรองของสำรองของเรา เคยติดทีมชาติชุด U-17 และ U-18 ตอนอยู่ U-17 ยิงกระจาย ตอนเล่นทีมชุดเล็ก U-18 ของแมนซิ ก็ฟอร์มดีจนเชลซีอยากจะได้ โปรดติดตามพี่เขาต่อไป Danny Mills กองหลังวัยทอง (แก่นะ...ไม่ใช่ฟอร์มดี) น่าสงสารถูกยืมไปยืมมา ล่าสุดกลับมาเฮียเถิกก็ตั้งท่าจะขายทิ้งซะ พี่เขาเลยขอโอนชั่วคราวไปอยู่รังเก่าชั่วคราวที่ชาล์ตั้นจนถึงต้นปีหน้า (แล้วไมชาล์ตั้นไม่ซื้อซะเลยฟะ) ติดทีมชาติชุดใหญ่มาช่วงปี 2001-2004 ลงเตะไป 19 นัด ไม่มีประตู (กองหลังนี่หว่า) Matthew Mills ไม่รู้เป็นญาติอะไรกับคนข้างบน หวังว่าไม่ใช่พ่อกับลูก อายุ 20 คาดว่าจะติดชุด U-21 ต้องติดตามชมตอนต่อไป (แต่เดี๋ยวก่อน!!! U-17 U-18 U-19 ไม่เคยจะเรียกมันไปเลยอ่ะ) ขณะนี้ให้ Doncaster ยืมไป (...มันอยู่ตรงไหนของอังกฤษฟะ) ที่มา http://community.mcfc4thai.com/viewtopic.php?id=84 หลากหลายสาระที่ชาวตามรอยฯ ร่วมสร้างสรร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเว็บไซต์ชมรมแฟนคลับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สาขาประเทศไทย (ตอนนี้ ส่งค่าสมัครเรียบร้อย รอแค่ตอบรับจากทางอังกฤษอย่างเดียว) โปรดสมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ชมรม http://community.mcfc4thai.com จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไฮไลต์ อังกฤษ 3 - รัสเซีย 0 จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ บรรยายโดย นักพากษ์มือ 1 ของไทย ขุนไข่ เอกราช เก่งทุกทาง http://tv.sanook.com/vdo/player.php?contentID=236813 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 50 16:56:44 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 16:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ฮาร์ทแบะท่าอยากชิ่งหนีเรือใบ โดย คิกออฟ วัน พฤหัสบดี ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2550 12:19 น. อังกฤษ : อัพเดท 13 กันยายน 2550 ฮาร์ทแบะท่าอยากชิ่งหนีเรือใบ โจ ฮาร์ท นายประตูเลือดอังกฤษของทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาแบะท่าประกาศก้องว่าเตรียมที่จะย้ายไปเฝ้าเสาให้กับทีมอื่นแบบสัญญายืมตัว หลังจากที่ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งมือกาวเบอร์หนึ่งของทีมได้เลยในฤดูกาลนี้ โดยที่ นายด่านดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ต้องกลายเป็นมือสามของทีมเรือใบสี้ฟ้าภายใต้การคุมทีมของสเวน โกรัน เอริคส์สันต่อจากแคสเปอร์ ชไมเคิลและอันเดรียส อิซาคส์สัน มาตลอดในช่วงเปิดฤดูกาลที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าในช่วงเวลาที่ อิซาคส์สัน นายประตูเลือดสวีดิชได้รับบาดเจ็บ โจ ฮาร์ท ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกทะยานขึ้นไปเป็นโกล์นัมเบอร์วันได้เลย อีกทั้งในตอนนี้ อิซาคส์สันก็สามารถเรียกความกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้แล้วด้วย ทำให้นายประตูเลือดผู้ดีรายนี้เตรียมออกไปเสาะแสวงหาประสบการณ์กับทีมใหม่ แคสเปอร์กำลังยึดตำแหน่งนายทวาลตัวจริงในทีมซิตี้ ซึ่งผมมองว่าผมน่าจะมีโอกาสลงสนามบ้าง แต่แคสเปอร์ก็โชว์ฟอร์มได้เยี่ยม และผมก็ต้องก้มหน้าก้มตารอคอยโอกาสต่อไป ซึ่งผมเองได้ลงเล่นเพียงถ้วยคาร์ลิ่ง คัพเท่านั้น บางทีการที่ผมจะออกไปหาประสบการณ์กับทีมอื่นๆแบบยืมตัวมันก็ดีเหมือนกันนะ เหมือนอย่างตอนที่ผมไปเฝ้าเสาให้กับทรานเมียร์และแบล็คพูลไงล่ะ ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้รักษาประตูของทีมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ลงเล่น ซึ่งผมเองก็ต้องเจอคู่แข่งฝีมือดีเสมอทั้งตอนที่ผมเล่นให้กับชรูว์บิวรี่,แมนเชสเตอร์ ซิตี้และทีมชาติอังกฤษโจ ฮาร์ทกล่าว ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 2975 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข่าวฝากจากเพื่อนร่วมเมือง ไม่รู้ข่าวดี ข่าวร้าย ขี้เมาสารภาพเล่นงาน “เฟอร์กี้” เพราะเข้าใจผิด เควิน เรย์โนลด์ส หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ยอมรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกาย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สถานีรถไฟในกรุงลอนดอน แต่ที่ทำไปเพราะคิดว่าเป็นแค่คนหน้าเหมือน “เฟอร์กี้” เท่านั้น       เมื่อช่วงเวลาประมาณบ่ายสี่โมงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา เซอร์ เล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมคนดังแห่งศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ไปใช้บริการรถไฟที่สถานียูสตัน ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน แต่กลับโดนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่ขา              ล่าสุด มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า ผู้ทำร้ายร่างกาย เฟอร์กี้ และตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่เข้ามาระงับเหตุ ได้แก่ เควิน เรย์โนลด์ส ซึ่งเป็นชาวสกอตติช และไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง โดยพ่อหนุ่มรายนี้อาจต้องเข้าไปนอนซังเตเป็นเวลา 2 ปีเนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น              ภายหลังโดนจับกุม เรย์โนลด์ส ซึ่งถูกระบุว่ามีอาการเมามายจากการดื่มเหล้าวอทก้าเข้าไปครึ่งขวดแถมซดเบียร์ไปอีกหลายกระป๋อง ออกมาเผย “ผมขอโทษด้วย เฟอร์กี้ ที่ผมทำไป เพราะไม่คิดว่าจะเป็นคุณจริงๆ”              นอกเหนือจากทำร้ายร่างกาย ท่านเซอร์ พ่อหนุ่มขาดสติที่ปรี่เข้าไปขอเงินกุนซือคนดังยังมีการตะโกนร้องเพลง “เฟอร์กี้ เฟอร์กี้ หุบปากของคุณซะ” ซึ่งเป็นเพลงฮิตในวงการลูกหนังในสกอตแลนด์ แต่การกระทำต่างๆ ของ เรย์โนลด์ส ผู้พิพากษา เดฟห์นี่ วิคแฮม เชื่อว่า เฟอร์กูสัน คงไม่มาตลกด้วยกับ “ขี้เมาจอมอันธพาล” โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2550 00:46 น. จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โพลเซ่นฮากลิ้งข่าวย้ายซบเรือใบ คริสเตียน โพลเซ่น มิดฟิลด์ห้องเครื่องทีมเซบีญ่า ปฏิเสธข่าวเรื่องเตรียมย้ายไปร่วมทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนมกราคมว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก ยังเหลือสัยญาในถิ่นรามอน ซานเชซ ปิซฆวนจนถึงปี 2009 แต่ก็มีข่าวว่ากำลังได้รับการทาบทามจากแมนฯ ซิตี้ ที่พร้อมจะดึงตัวไปร่วมทีมในตลาดนักเตะเปิดเดือนหน้า แต่ทางด้านโพลเซ่น ก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้วว่าไม่เคยคิดที่จะย้ายออกจากเซบีญ่าเลย เนื่องจากปัจจุบันก็เล่นในทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอยู่แล้ว "ผมมีความสุขที่สโมสรแห่งนี้และเมืองแห่งนี้" "ผมยังเหลือสัญญาอีก 2 ปี และในหัวของผมก็ไม่เคยคิดเรื่องจะย้ายออกเลย" "ผมไม่สนใจที่จะคุยกับใครอีก ผมอยู่ที่นี่ก็ได้ลุ้นแชมป์อยู่แล้ว ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องเปลี่ยนแปลงด้วย" โพลเซ่นปัดข่าวชัด ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 2975 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดีครับ  มาตอกบัตรและขอบคุณที่นำข่าวมาให้อ่านครับ ช่วงดึกๆผมจะเข้ามาใหม่   ถ้ามีเวลาจะหาข่าวมาโพสต์เพิ่ม // ดูบอลเมื่อคืนคู่อังกฤษ-รัสเซีย  ดูไปดูมา  หลับไปอีกตามเคย..เป็นประจำแล้ว ดูบอลไม่ค่อยจบ.. แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 50 17:35:45 จากคุณ : yut - [ 13 ก.ย. 50 17:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "ไมกาห์"หวังยัดตัวจริง"สิงโต"ถาวร ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลังจากแมนฯซิตี้ ได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่งที่ร้อนแรงมากที่สุดของศึกพรีเมียร์ในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการโชว์ฟอร์มให้ต้นสังกัดได้อย่างแข็งแกร่งมาโดยตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตัวจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษทั้งที่เพิ่งเริ่มอาชีพค้าแข้งได้ไม่นาน ริชาร์ดส์ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อในการเตะกระชับมิตรกับทีมชาติฮอลแลนด์ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2006 เพื่อแทนที่แกรี่ เนวิลล์ ปราการหลังประสบการณ์สูงจากทีมคู่ปรับร่วมเมือง"ผีแดง"แมนฯยู ที่ได้รับบาดเจ็บและต้องถอนตัวออกไป ซึ่งทำให้ริชาร์ดส์ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่มวยแทนให้กับเนวิลล์ เรื่องดังกล่าวสร้างความหงุดหงิดให้เจ้าตัวเล็กน้อย เพราะดาวรุ่งวัย 19 ปี ไม่ได้คิดว่าการถูกเรียกตัวติดทีมชาติเป็นการมาเพื่อแทนที่ใคร แต่นี่คือย่างก้าวสำคัญของชีวิต และเขาจะทำให้มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่มั่นคงด้วยยึดตำแหน่งนี้มาเป็นของตัวเองอย่างถาวรในเร็ววันนี้ "ผมไม่ได้มาที่นี่เพียงเพราะว่ามีใครกำลังได้รับบาดเจ็บ ผมมาที่นี่เพื่อโอกาสของตัวเอง เมื่อแกรี่ เนวิลล์ กลับมาฟิตอีกครั้ง มันก็เป็นหน้าที่ของผู้จัดการแล้วว่าจะเลือกใคร แต่ผมคิดว่าผมทำได้ดีมากพอนะ" "หากแกรี่ฟิตสมบูรณ์มันอาจจะมีบางเกมที่ทีมต้องการเขา เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่า แต่ตัวผมเองก็ไม่ได้เล่นได้ดีแค่ 1 หรือ 2 เกม ผมเล่นได้ดีทุกครั้งกับทีมชาติ" ริชาร์ดส์ยังได้สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดเผยความลับของตัวเอง ว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้เวลาในห้องยิมฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายเหมือนกับนักเตะคนอื่นๆ เลย "มีคนถามผมว่าผมต้องทำงานอย่างหนักมากใช่มั้ยตอนที่ผมเด็กกว่านี้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สภาพร่างกายของผมเป็นแบบนี้เอง ผมไม่เคยไปพบกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ออกแบบและดูแลเรื่องโปรแกรมการซ้อมของผมเป็นพิเศษ หรืออะไรพวกนั้นเหมือนนักเตะคนอื่นๆ เลยนะ" ริชาร์ดส์กล่าว http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03spo05130950&day=2007-09-13&sectionid=0308 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โดนหกสำนัก.........ปั่นหุ้นตามล่า........ ไปมาไร้ดอย.................กระปี่น้อยไร้ใจ ทอดไปทั่วหล้า...........ท้องฟ้าเป็นมุ้ง.......ใจมุ่ง เชียรแมน.ซิ......สู้ๆๆๆ ตอกบัตร.........โป๊ก ด้วยความเคารพ....ข่าวสาร จากคุณ : กองพัน...nick - [ 13 ก.ย. 50 17:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปัญหานักเตะต่างชาติใน ‘ฟรีเมียร์ลีก’ จริงๆผมเคยเขียนประเด็นเรื่องนักเตะต่างชาติในอังกฤษบ่อยมาก และทุกครั้ง “บทสรุป” หรือ “จุดยืน” ของผมก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากนิยาม “พาสปอร์ตไม่สำคัญ ฝีเท้าดีเท่านั้นเป็นใช้ได้” เพียงแค่นั้น แค่นั้นจริง ๆ ครับในโลกยุคการค้าเสรีซึ่งรวมไปถึงการซื้อขายนักเตะอาชีพด้วยเช่นกันที่ไม่ควร “แบ่งแยก” สัญชาติ หรือพิจารณา “พาสปอร์ต” มากกว่าคุณภาพที่แท้จริงของนักเตะ แต่ความเชื่อเช่นนี้กำลังกลายเป็น “ดาบสองคม” หลอกหลอนวงการฟุตบอลอังกฤษโดยเฉพาะในลีกสูงสุดอย่าง “พรีเมียร์ลีก” อยู่ในตอนนี้ เหตุผลก็เพราะจำนวนนักเตะต่างชาติฝีเท้าดี และราคาไม่แพงได้ “เติบโต” ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยจำนวนที่น่าตกใจนับจากพรีเมียร์ลีกเริ่มก่อตั้งในปี 1992 และหลังจากกฎฟรีเอเย่นต์ “บอสแมน” ได้คลอดมาใช้ในปี 1996 ความเป็นที่นิยมของฟุตบอลอังกฤษเพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปลี่ยนชื่อและโครงสร้างบริหารในครั้งนั้น และการย้ายทีมได้โดยอิสระ และยกเลิก “โควตา” ของนักเตะสัญชาติ “อียู” รวมถึงอังกฤษภายในลีก ฟุตบอลประเทศ “อียู” ของกฎบอสแมนล้วนส่งเสริมและเปิดช่องทางให้นักเตะต่างชาติย้ายทีมมาอังกฤษได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ เซอร์เทรเวอร์ บรุคกิง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคที่รับผิดชอบในด้านการพัฒนาฟุตบอลของชาติทุกระดับจึงได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลกับ “อนาคต” ของวงการฟุตบอลอังกฤษในช่วงก่อนเกมทีมชาติผู้ดี 2 นัดสำคัญในส่วนคัดเลือก “ยูโร 2008” กับอิสราเอล (8 ก.ย.) และรัสเซีย (12 ก.ย.)   บรุคกิง กำลังวิตกว่า ตัวเลขนักเตะตัวจริงโดยเฉลี่ยในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้วมีเพียง 43% เท่านั้นที่เป็นนักเตะอังกฤษ (ไม่ใช่สหราชอาณาจักรซึ่งรวม เวลส์, สกอตแลนด์, ไอร์แลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ นะครับ)   เทียบกับทีมแชมป์โลก อิตาลีที่มีถึง 70%, ฝรั่งเศส และสเปน ชาติละ 61% แล้วมันเทียบกันไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่สูสีและเป็นรองเยอรมนีแค่นิดหน่อย   นอกจาก “ตัวเลข” ของบรุคกิงแล้ว “บีบีซี” ยังเสริมข้อมูลที่น่าสนใจอีกเช่น 76% ของนักเตะ 11 คนแรกที่ลงสนามในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกซีซั่นแรก 1992/93 เป็นนักเตะอังกฤษ ขณะที่ซีซั่นนี้ 2007/08 มีเพียง 37% เท่านั้น   ถ้าให้เจาะลึกลงไปอีก 10% หรือ แค่ 23 คนในปี 1992 คือนักเตะต่างชาตินอกเกาะอังกฤษ ขณะที่ซีซั่นนี้ตัวเลขพุ่งถึง 56% หรือ 123 คน ในส่วนของการทำประตู นักเตะต่างชาติยิงไปแล้ว 69% ของจำนวนประตูทั้งหมดนับจากเปิดฤดูกาลนี้มา และจาก 118 ประตูนั้นมีแค่ 9 ประตูเท่านั้นที่ยิงโดยกองหน้าสัญชาติอังกฤษนำโดย ไมเคิล โอเวน ทั้งหมดนี้ “สอดคล้อง” กับผลงานของทีมชาติอังกฤษที่ไปได้ไม่สวยงามภายใต้การทำทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน ในตอนนี้ และยังอาจ      “ตอกย้ำ” ว่าทำไมอังกฤษถึงไม่ประสบความสำเร็จเลยในเวลาฟุตบอลระดับโลกที่ทำได้ดีที่สุดแค่รอบตัดเชือกใน “ยูโร 1996” และ “บอลโลก 1990” เท่านั้นหลังจากได้แชมป์โลกในปี 1966 แล้วบรุคกิง และทีมชาติอังกฤษจะทำอย่างไร? คำถามนี้ “โลกแตก” มาก ๆ ครับ เพราะหากให้ไล่ถามกุนซือสโมสรในพรีเมียร์ลีกทุกคน ผมมั่นใจว่าไม่มีใครไม่อยากได้ หรืออยากซื้อนักเตะสัญชาติอังกฤษมาร่วมทีม แต่ประเด็นนั้นอยู่ที่ นักเตะอังกฤษดี ๆ มีน้อย และพอมีน้อย ปัญหาเรื่อง “ดีมานด์” กับ “ซัพพลาย” จึงเกิดขึ้น และถีบให้ราคานักเตะอังกฤษนั้นแพงกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเป็นเช่นนี้ กุนซือสโมสรจึงมัก “ลงเอย” ด้วยการซื้อนักเตะต่างชาติมาร่วมทีมแทนที่จะเป็นนักเตะอังกฤษ ตัวอย่างง่าย ๆ คือ ดาร์เรน เบนท์ กองหน้าสัญชาติอังกฤษ เจ้าของค่าตัว 16.4 ล้านปอนด์จะมีราคาเท่ากับเธียร์รี อองรี หรือแพงกว่า  โรเก ซานตา ครูซ ของแบล็กเบิร์นถึง 5 เท่าได้อย่างไร เบนท์เพิ่งติดทีมชาติแค่ 2 หน และยิงไม่ได้เลย ขณะที่ซานตา ครูซ นั้นยิง 14 ประตูจาก 49 นัดในนามทีมชาติไม่นับประสบการณ์โชกโชนในแชม เปี้ยนส์ ลีก โดยที่อองรีนั้นไม่ต้องคิดจะเทียบเลย หรือ ฮูลิอาโน เบลเล็ตติ แบ๊กขวารายใหม่ของเชลซีซึ่งเคยติดทีมชาติบราซิลมาแล้ว 20 นัด และยิงอาร์เซนอลในแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงฯปี 2006 มาแล้ว ทำไมมีราคาไม่ต่างกับ พอล คอนเชสกี แบ๊กซ้ายคนใหม่ฟูแลม ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองเลยแม้จะเคยติดทีมชาติอังกฤษยุค สเวน โกรัน       อีริคส์สัน มาแล้วก็ตาม พูดถึงอีริคส์สัน...กุนซือชาวสวีดิชยังทำสถิติซื้อนักเตะต่างชาติรวดเดียว 8 คน และแต่ละคนมีระดับทั้งนั้นในราคาย่อมเยาเหลือเกินที่ราคาไม่น่าเกิน 30 ล้านปอนด์ แต่หากเป็นนักเตะผู้ดี ค่าตัวรวมกันน่าจะเหยียบ หรือเกิน 100 ล้านปอนด์ก็ได้ ดังนั้น เหนือสิ่งอื่นใดคือ นักเตะอังกฤษเองต้องพัฒนาตัวเองมาสู้ให้ทัดเทียมต่างชาติให้ได้ซึ่งนั่นก็เป็นหน้าที่ของบรุคกิง และแต่ละสโมสรนั่นแหละครับที่ต้องลงทุนปั้นนักเตะผ่าน “อะคาเดมี่” ของตัวเอง นอกเหนือจากนี้ และก็เป็นอย่างที่ สุรีย์ สุขะ ของเรากำลังเจออยู่นั่นคือ “กฎเหล็ก” นักเตะนอกอียูต้องเล่นทีมชาติชุดใหญ่อย่างต่ำ 75% และทีมชาติต้องมีอันดับดีกว่า 70 ตามมาตรฐาน “ฟีฟ่า” เพื่อต้องการ     “สกรีน” นักเตะก่อน 1 รอบ เอาแค่กฎนี้ นักเตะต่างชาติจำนวนมากก็สอบไม่ผ่านแล้ว ทว่า     “ของดี” จริง ๆ เช่น ยาคูบู หรือ อัลแดร์สัน ต่างยื่นประท้วงผ่านทั้งนั้นหากคุณสมบัติไม่ผ่านกฎ ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า “กฎเหล็ก” ของโฮมออฟฟิศ “กลั่นกรอง” นักเตะต่างชาติดี ๆ ได้ชั้นหนึ่งแล้ว หาใช่สโมสรต้องการจะเซ็นใครก็จะเซ็นได้อันจะเป็นการ “ปิดกั้น” โอกาสเด็กผู้ดีท้องถิ่นอย่างแท้จริง สรุป : ผมมองเหมือนเดิมว่า นักเตะอังกฤษต้องพัฒนาตัวเองมาแข่งขันกับของดีจากต่างชาติ ขณะที่โลกปัจจุบันนั้นเป็นโลกแข่งขันเสรี ดังนั้นแค่อังกฤษเอา “กฎเหล็ก” มากั้นความเสรีไม่ให้เป็น 100% มันก็น่าเกลียดพอแล้วครับ... ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์ http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=45437&NewsType=2&Template=1 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แคสเปอร์ ชไมเคิล’ พิสูจน์ศักดิ์ศรีทายาท ‘ยักษ์เดนส์’ คำโบราณที่ว่า “ลูกไม้ ย่อมหล่นไม่ไกลต้น”  หมายถึง ทายาทหรือบุตร ที่สืบทอดต้นแบบผู้ให้กำเนิดอย่างใกล้เคียง แต่สำหรับนายทวารวัย 20 ปีของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี แคสเปอร์ ชไมเคิล ลูกชายของ “เดอะ เกรท เดนส์” หรือ “ยักษ์เดนส์”   ปีเตอร์ ชไมเคิล อดีตนายทวารทีมชาติเดนมาร์ก และ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ซิตี ต้องเรียกว่า “ลูกไม้หล่นใต้ต้น” เพราะนอกจากจะเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งนายทวารเฝ้าเสาเหมือนพ่อแล้ว หน้าตา และฝีมือ ยังถอดแบบมาจากพ่อแทบไม่พิดเพี้ยน แคสเปอร์ มีชื่อเต็ม ๆ ว่า แคส เปอร์ ปีเตอร์ ชไมเคิล เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 1986 ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สูง 6 ฟุต 1 นิ้ว หรือ 1.83 เมตร หนัก 76 กก. เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ยอดนายทวารที่มาจบชีวิตค้าแข้งกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์   ซิตี ทำให้ แคสเปอร์ เลือกแมนฯ ซิตี เป็นสโมสรแรกที่จะค้าแข้ง เริ่มต้นจากการเข้าเป็นนักเตะฝึกหัดของ “เรือใบสีฟ้า” ในปี 2002  โดยมีสัญญาเป็นนักเรียนทุนและนักเตะอาชีพไปด้วย ก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัวกับ “เรือใบสีฟ้า” เมื่อเดือน พ.ย. 2004 ในเดือน ม.ค. 2006 หรือต้นปีที่ผ่านมา แมนฯ ซีตี ให้ ดาร์ลิงตัน ทีมในลีกทูยืมตัว แคสเปอร์ ไปใช้งาน เพื่อฝึกประสบ การณ์ให้ “ชไมเคิลน้อย” และ แคสเปอร์ ก็ได้ลงสังเวียนแข้งอาชีพเป็นครั้งแรก    ในเกมกับ ปีเตอร์โบโร เมื่อ 14 ม.ค. 2006 ซึ่ง ดาร์ลิงตัน เป็นฝ่ายชนะ 2-1 จากนั้นโชว์ฟอร์มดีกับ ดาร์ลิงตัน อีก 3 นัด ก่อนที่จะคืนสู่แมนฯ ซิตี และในเดือน ก.พ. แมนฯ ซิตี ก็ปล่อยให้บิวรี ทีมในลีกทูเช่นกัน ยืมตัวไปใช้งานอีก คราวนี้ แคสเปอร์ ได้บ่มเพาะประสบการณ์ยืนเฝ้าเสาให้บิวรีถึง 15 แมตช์ เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับมาฝึกต่อกับแมนฯ ซิตี ในช่วง  สั้น ๆ แล้วกลับไปเล่นให้บิวรีอีก 14 แมตช์   จากนั้นในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา หรือ ต้นปีนี้ แมนฯ ซิตี ปล่อย แคสเปอร์ ให้  ฟัลเคิร์ก ทีมในสกอตติช พรีเมียร์ ลีก ยืมตัวไปใช้จนจบฤดูกาล 2006-2007 ซึ่ง แคสเปอร์ โชว์ฟอร์มได้ไม่ผิดหวัง ได้รับ    เลือกเป็น “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ในเกมกับเรนเจอร์ส เมื่อ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ฟัลเคิร์ก ยังพอใจในฟอร์มของ แคสเปอร์ ถึงกับทาบทามจะซื้อมาใช้งานเป็นการถาวรไปเลย อย่างไรก็ตาม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ในยุคนี้ที่มี สเวน โกรัน อีริคส์สัน เข้ามาคุมทีม ได้เรียกตัว แคส เปอร์ กลับมาเพื่อเตรียม   รับมือพรีเมียร์ลีกอังกฤษ   ฤดูกาล 2007-2008  และโอกาสทองก็เป็นของ  “ชไมเคิลน้อย” เมื่อ  อันเดรียส อีซากส์สัน นายด่านมือหนึ่ง กับ โจ ฮาร์ต นายทวารมือสองของทีม ประสบปัญหาบาดเจ็บขณะที่ นิกกี วีเวอร์ นายทวารมือ 3 ย้ายไปอยู่กับชาร์ลตัน ทำให้  แคสเปอร์ ได้รับโอกาสจาก อีริคส์สัน ที่เน้นปั้นเด็กเยาวชนอยู่แล้ว และ แคสเปอร์ ไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในการออกสตาร์ต 3 เกมแรก “เรือใบสีฟ้า” เกมแรกบุกไปชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม 2-0,  นัดที่ 2 เปิดรังเฉือนดาร์บี 1-0 และนัดที่ 3 ทำศึก  ดาร์บีแมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เปิดรังเชือดแชมป์เก่า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ชนิดที่ผ่านไป 3 นัด  แคสเปอร์ ไม่เสียประตูเลย ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” ขึ้นนำเป็น จ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ กับ 3 เกมที่ผ่านมา โดยมีผู้พ่อ ปีเตอร์ ชไมเคิล มาให้กำลังใจถึงขอบสนาม สเวน โกรัน อีริคส์สัน ดูจะพอ   ใจฟอร์มการเฝ้าเสาของ แคสเปอร์ ไม่น้อย ชี้ว่า ถึงแม้  แคสเปอร์ จะไม่สูงใหญ่เหมือนพ่อที่สูงถึง 1.93 เมตร แต่มีสิ่งที่เหมือนกับ “เดอะ เกรท เดนส์” หรือ “ยักษ์เดนส์” คือ มีปฏิกิริยาที่ว่องไวมาก เป็นนายทวารที่เปิดบอล และเตะบอลเปิดเกมได้ ดี แม่นยำ เชื่อว่าจะเป็นนายทวารอนาคตไกลไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ “ผมรู้จักเขาไม่นาน ประมาณเดือนเดียวเท่านั้น แต่ แคส เปอร์ ก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็น เขาเป็นนายทวารที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำให้คุมสถานการณ์ได้ดีในเกมที่กดดัน ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่ให้โอกาสเขา ผมเชื่อว่าเขาจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้พ่อในอนาคต” อีริคส์สัน กล่าว นอกจากนั้น อีริคส์สัน ย้ำด้วยว่า “หาก แคส เปอร์ ยังเล่นได้ดีแบบนี้ เราก็คงไม่ต้องซื้อนายทวารมาเพิ่มอีก เขาไม่ใช่นายทวารที่ตัวสูงมาก และก็เล่นได้วิเศษมาก 3 เกมที่ผ่านมา หาข้อตำหนิไม่ได้เลย” ด้าน แคสเปอร์ เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจที่ยังไม่เสียประตูเลยในการออกสตาร์ต 3 นัดแรก และต้องชมกองหลังของ แมนฯ ซิตี ด้วยที่เล่นได้ดีมาก แบ่งเบาภาระ และช่วยให้การทำงานของตนง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่ยิ่งใหญ่อย่างเกมดาร์บีแมตช์กับ “ผีแดง” ที่ตนเองรู้สึกภูมิใจมาก ที่สุด ที่มีส่วนช่วยทำให้ทีมชนะ ทำให้แฟนบอลมีความสุข และพ่อของตนก็คงมีความสุขที่เห็นตนโชว์ฟอร์มได้ดี “ตอนนี้ผมทำงานหนัก ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อหวังลงเล่นเป็นตัวจริงให้มากที่สุด นี่คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในขณะนี้” แคสเปอร์ กล่าว ในอดีต ปีเตอร์ ชไมเคิล เป็นตำนานยอดนายทวาร ได้รับเลือกให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกในปี 1992-1993 นำ “ผีแดง” คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์     ลีก ในปี 1999 และมีส่วนสำคัญทำให้ทีมชาติเดนมาร์กคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 1992” เป็นนักเตะเดนมาร์กที่ลงเล่นให้ทีมชาติเดนมาร์กมากที่  สุด 129 นัด จบชีวิตค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในฤดูกาล 2002-2003 จนถึงทุกวันนี้ ปีเตอร์ ชไมเคิล ก็ยังได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดที่โลกเคยมีมาคนหนึ่ง สำหรับ แคสเปอร์ ชไมเคิล ลงเล่นให้ทีมชาติเดนมาร์ก ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี 2004-2005 และทีมชาติเดนมาร์กชุดยู 20 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนขึ้นมาติดทีมชาติเดนมาร์กชุดยู 21 ปี ในปีนี้ และในเร็ว ๆ นี้ก็คงจะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป น่าติดตามว่า “ชไมเคิลน้อย” จะสืบทอดความยิ่งใหญ่จากพ่อได้มากน้อยเพียงใด. มร.เดรมเลอร์ http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=44734&NewsType=2&Template=1 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 17:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 55 สาระเยอะแหะ จากคุณ : WangYu - [ 13 ก.ย. 50 18:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 thank you จากคุณ : mooagiko - [ 13 ก.ย. 50 19:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบข่าว ๆ ๆ ๆ จากคุณ : ty[no] - [ 13 ก.ย. 50 19:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รับทราบๆ จากคุณ : กลม_กลม_Girl - [ 13 ก.ย. 50 19:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข่าวล่าสุดการจัดตั้งชมรมสาขาประเทศไทย ใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วครับ ไม่เกิน สองสัปดาห์ พวกเราเหล่าชาวตามรอยฯ ได้เป็นชมรมแฟนคลับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สาขาประเทศไทยแน่ครับ http://community.mcfc4thai.com/viewtopic.php?pid=864#p864 จากคุณ : tiggerabb - [ 13 ก.ย. 50 20:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 วันนี้ข่าวเพียบเลยแฮะ ขอบคุณ ๆ ๆ จากคุณ : Sagacity - [ 13 ก.ย. 50 21:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รายงานตัวครับ จากคุณ : bowlman - [ 13 ก.ย. 50 21:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ สำหรับข่าว จากคุณ : คนบางสนาน - [ 13 ก.ย. 50 21:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาแล้ว จากคุณ : triplexxx - [ 13 ก.ย. 50 21:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ง่วงนอนจัง จากคุณ : jeabแมนซิ - [ 13 ก.ย. 50 22:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข่าวเพียบเลย........... แต๊งค์กิ้วเพื่อนสำหรับข่าว จากคุณ : sdg25 - [ 13 ก.ย. 50 23:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณข่าวสารมากครับผม อิอิอิ ช่วงนี้ดูเหงาๆกันลงไป แต่ก็มาติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องครับ เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนครับผม จากคุณ : ฮาตึงว่าแล้ว - [ 13 ก.ย. 50 23:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บังยีเตรียมบุกเอฟเอเคลียร์เวิร์กเพอร์มิต3แข้ง "บังยี" วรวีร์ มะ(กระผม)ดี บิ๊กลูกหนังไทย ถึงเมืองแมนเชสเตอร์ เตรียมบุกเอฟเอ อังกฤษ 15 ก.ย.นี้ เคลียร์เวิร์กเพอร์มิต ให้ 3 เด็กไทย กับ มร.เดวิด ริชาร์ด ประธานพรีเมียร์, มร.เจฟ ธอมป์สัน นายก ส.ฟุตบอลอังกฤษ เชื่อมีโอกาสสูง เพราะเคยมีเคสคล้ายนักเตะไทยอันดับโลกเกิน 70 และติดทีมชาติไม่ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้ายก็ผ่าน ส่วนทีมชาติไทยชุดเตรียมทำศึกคัดฟุตบอลโลกกับมาเก๊า คลอดโผเป็นทางการ 30 คน มีแข้งหน้าใหม่ที่ไม่ติดเอเชียน คัพ แค่ 4 คน ด้านตัวนอก พาเหรดติดเพียบ แถมยังมีชื่อ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ตีลังกาโชว์เป็นนัดสุดท้ายในเกมอำลาทีมชาติไทยด้วย โดยรายงานตัว 16 ก.ย.นี้ที่สนามไทยเบฟฯ (มีสุวรรณ) แฟนบอลเข้าชมการฝึกซ้อมรับเสื้อเชียร์ไทยพร้อมลายเซ็นซิโก้ ด้วย ความเคลื่อนไหวของ 3 นักเตะทีมชาติไทย สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ธีรศิลป์ แดงดา ที่เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ล่าสุด "บังยี" วรวีร์ มะ(กระผม)ดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เดินทางถึงสนามบินแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เพื่อเคลียร์เรื่องเวิร์กเพอร์มิต ให้กับ 3 นักเตะไทย ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก พร้อมกับเตรียมเข้าพบกับ มร.เดวิด ริชาร์ด ประธานจัดการแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และ มร.เจฟ ธอมป์สัน นายก ส.ฟุตบอลอังกฤษ ที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ "บังยี" เผยว่า การเจรจาขอเวิร์กเพอร์มิต ให้กับ 3 นักเตะไทย น่าจะมีโอกาสผ่านสูง เพราะเคสที่เกิดกับนักเตะไทย ทั้งในเรื่องของอันดับโลกของฟุตบอลไทยเกินอันดับ 70 และ ติดทีมชาติไม่ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เคยมีแล้ว ไม่ใช่ไม่เคย แต่สุดท้ายก็ผ่านด้วยดี เพราะการพูดคุยและทางอังกฤษเห็นฝีเท้าของนักเตะว่าสามารถที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ ไม่ใช่มาด้วยสาเหตุอื่น "มาครั้งนี้ต้องช่วยกันเจรจาและพูดคุยให้ดีที่สุด เพราะถ้าหากทั้ง 3 คนได้รับเวิร์กเพอร์มิต น่าจะทำให้วงการฟุตบอลไทยตื่นตัวขึ้น และถือเป็นการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยไปด้วย อีกอย่าง นักเตะทั้ง 3 คนมั่นใจว่าศักยภาพฝีเท้าของพวกเขาถึงพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะได้รับโอกาสให้ลงสนามหรือเปล่าเท่านั้นเอง" ทีมชาติเปิดโผ 30 แข้งรออุ่นยูเออี 3 ต.ค. ขณะเดียวกันทีมชาติไทยชุดเตรียมตัวคัดฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่จะเปิดบ้านชนกับมาเก๊า ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ ก่อนจะออกไปเยือนในวันที่ 17 ต.ค. นี้ และในวันที่ 3 ต.ค.จะลงสนามศุภชลาศัย อุ่นเครื่องกับทีมยูเออี เวลา 19.00 น.ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวนักเตะทั้งหมด 30 คนอย่างเป็นทางการเพื่ออุ่นเครื่องกับยูเออี ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักเตะที่ติดชาติชุดเอเชียน คัพถึง 26 คนมีหน้าใหม่ แค่ 4 คน คือ สุริยา ดอมไธสง, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, อานนท์ สังสระน้อย และเป็นนักเตะที่ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ 7 คน ส่วนชื่อของ "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหอกทีมชาติไทยมีชื่อติดอยู่เนื่องจากเกมอุ่นกับยูเออี จะเป็นแมตช์อำลาทีมชาติของซิโก้ ที่ติดทีมชาติมาถึง 15 ปี และเคยยิงประตูทำให้ทีมชาติไทยชนะ ยูเออี ได้ด้วย ในการแข่งขันฟุตบอลชิงชนะเลิศเอเชีย หรือเอเชียน คัพ ในปี 2535 ด้วยสกอร์ 2-1 ด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ เวลา 15.30 น.ให้นักเตะที่อยู่ในเมืองไทยทั้ง 23 คนมารายงานตัวเพื่อฝึกซ้อมที่สนามฟุตบอลไทยเบฟฯ (สนามมีสุวรรณเดิม) ซึ่งแฟนบอลที่เข้าไปชมการฝึกซ้อมจะได้รับเสื้อเชียร์ทีมชาติไทยพร้อมลายเซ็น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นของที่ระลึก จากนั้นนักเตะจะซ้อมรวมกันอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ย. เวลา 07.00 น.ก่อนปล่อยนักเตะกลับ ทาง "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เผยว่า นักเตะที่เรียกมาทั้งหมด 30 คนจะแบ่งเป็น 23 คนที่เล่นในเมืองไทย ซึ่งทุกคนจะมาร่วมซ้อมกันในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ก่อนจะปล่อยกลับก่อนจะเรียกเข้ามาฝึกซ้อมอีกครั้งในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เชื่อว่านักเตะทั้ง 30 คนถือว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในเมืองไทยชั่วโมงนี้แล้ว น่าจะไม่มีเสียงคัดค้านแน่นอน เพราะถือว่านำนักเตะที่ดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุดมารวมกันเพื่อช่วยทีมชาติไทยสู้กับมาเก๊าทั้ง 2 เกม สำหรับ 30 นักเตะทีมชาติไทย ประกอบด้วย โกสินทร์ หทัยรัตนกุล,วีระ เกิดพุดซา, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, นิเวส ศิริวงศ์, ปฏิภาณ เพชรพูล, ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, จักรกริช บุญคำ, ตะวัน ศรีปาน, ณรงค์ชัย วชิรบาล, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, หัตฐพร สุวรรณ, ณัฐพงษ์ สมณะ, ธีรเทพ วิโนทัย, อานนท์ สังสระน้อย, พิพัฒน์ ต้นกันยา, สุริยา ดอมไธสง,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ส่วนนักเตะที่ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศประกอบด้วย สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ธีรศิลป์ แดงดา, สุธี สุขสมกิจ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, นิรุจน์ สุระเสียง และ ดัสกร ทองเหลา http://www.siamsport.co.th/25500914-001.html จากคุณ : จอบศักดิ์ - [ 14 ก.ย. 50 05:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เต็มอิ่มเลย จากคุณ : juninho - [ 14 ก.ย. 50 07:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ จากคุณ : c_kanok - [ 14 ก.ย. 50 08:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอกบัตรอ่านข่าว วันนี้มีให้อ่านเยอะดีจัง ขอบคุณคับ (โดยเฉพาะ #32 อิอิ) จากคุณ : Caesar. - [ 14 ก.ย. 50 09:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณข่าวที่นำเสนอครับ   สงสัยบัตรสมาชิกจากอังกฤษใกล้แล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : ลำไยแห้ง - [ 14 ก.ย. 50 10:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยม ข่าว เพียบ เข้ม ค้น ถึงใจ อร่อยๆดี ข่าว สารไร้สิ่งเจือปน ดีแท้แน่ๆ รายงานตัว ครับ สวัสดี เหล่าสมาชิกทั้งหลาย จากคุณ : CityEagle - [ 14 ก.ย. 50 10:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นี่สิรักกันจริง ต้องตามเข้ามายั่งนี้ละ ดีใจกับข่าวดีของชมรมเราด้วยครับ จากคุณ : qee2010 - [ 14 ก.ย. 50 11:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จุใจเลย จากคุณ : kasang - [ 14 ก.ย. 50 11:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ้าวลืมตอกบัตร จากคุณ : kasang - [ 14 ก.ย. 50 11:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาตอกบัตรครับ จากคุณ : นายสำลี - [ 14 ก.ย. 50 12:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แวะมาตอกบัตรมั่ง โป๊กๆๆๆ จากคุณ : สิงห์จำแลงจอมพลัง - [ 14 ก.ย. 50 14:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ลงชื่อติดตามข่าวครับ ขอบคุณ จากคุณ : คือ.........ฉันเอง - [ 15 ก.ย. 50 17:01:04 ]