ความคิดเห็นที่ 1 ลูกซ้อมแบบลอยน้ำ กับ ลูกซ้อมแบบธรรมดา มีความแตกต่างกันอย่างไรครับ 1.  ความรู้สึก 2.  น้ำหนัก 3.  ราคา ต่อถาด เพราะเท่าที่เห็นลูกลอยน้ำ ส่วนใหญ่จะเก่ามาก ไม่ชี้ชวนให้เล่น ผมว่า น่าจะทำ สนามซ้อมบนหญ้าจริง จะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นนะครับ ลองพิจารณาดูนะครับ จากคุณ : ลุงแก่ (skavee) - [ 28 ก.ย. 50 15:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สนามไดร์ฟลงน้ำ ฟังแล้วนึกถึงหนังเรื่อง "There's something about Mary" สัก 8-9 ปีก่อน มีอยู่ฉากนึงที่ Mary ไปสนามไดร์ฟ ที่ไดร์ฟลงน้ำ จำกันได้ไหมครับ จากคุณ : Baton - [ 28 ก.ย. 50 16:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดถึงหนังเรื่องนี้เหมือนคคห.#2 เลยครับ          จริงๆ ผมว่าไดรฟ์ลงน้ำจะได้ในเรื่องของความแปลกใหม่เท่านั้น(ถ้าแปลกและใหม่จริงนะ!) เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบนึง                  แต่คนที่ตั้งใจฝึกซ้อมจริงๆ คงไม่ชอบ เพราะรู้แต่ระยะแครี่ ไม่รู้ระยะวิ่งของลูก แล้วลูกก็จะเบากว่าปกติด้วย(เคยเห็นลูกกอล์ฟแบบลอยน้ำได้มาขายที่รานกอล์ฟแถวคลองถม เบาหยองเลย ตอนนั้นตีตกน้ำบ่อยจนเกือบคิดสั้นซื้อมาใช้แล้ว) จากคุณ : แรงดีแต่ยากจน - [ 28 ก.ย. 50 16:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไดร์ฟลงน้ำก็ดีนะครับ จะได้เคยชินเวลาเล่นจริงลูกตกน้ำจะได้ไม่ตกใจมาก  ถ้ามีที่ไดร์ฟลงทรายด้วย ยิ่งดีใหญ่ จากคุณ : พี่ไก่ ใจดี (kai golf) - [ 28 ก.ย. 50 16:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำแบบ ญี่ปุ่นก็ดีครับ  แต่เอามาประยุกต์นิดหน่อย ที่โน่นบางที่ เค๊าไดร์ว จากชั้น 2 - 3 ลงบนลานจอดรถ แต่ลานจอดรถ จะมีตาข่าย ขึงเอาไว้ ทำให้สามารถเก็บลูกง่าย, ไม่เป็นอันตรายกับรถที่จอด ( คนจอดก็ใจถึงเอาเรื่อง ฮ่าๆๆ ) และประหยัดพื้นที่ด้วย ( พื้นที่ของญี่ปุ่น ก็ทราบกันดีว่าแพงมาก ) ผมเสนอแนวความคิด เอาข้อดีของทั้ง ไดร์ว ลงพื้น กับบนน้ำ มารวมกัน คือ - ไม่ต้องถมที่ ปล่อยเป็นหนองน้ำไว้อย่างนั้นแหละ สวยดี - เอาตาข่ายขึงเป็นช่วงๆ ช่วงละ 10 หลา - ตาข่ายที่ขึงไว้ทำสีฉูดฉาด สะท้อนแสง โดยสลับสีกันในแต่ละช่วง เพื่อให้แยกความแตกต่างในละช่วง 10 หลาให้ดูง่าย - พ่นสีบอกระยะบนตาข่าย - ทำชุดม้วนตาข่ายเก็บไว้แต่ละด้านไว้คอยดึงลูกกลับมาใช้งานใหม่ ที่ญี่ปุ่นเค๊าจะทำที่ดึงไว้สองด้าน โดยผลัดกันดึงด้านละครั้ง  โดยมีรางเก็บลูกอัตโนมัติ ( พอนึกภาพออกหรือไม่ครับ ) - ปลายสุด และ ด้านข้าง ยังไงก็ต้องทำตาข่ายเหล็ก กันลูกลอยออกไป - แถมอีกนิ ตาข่ายเหล็กด้านหลังสุด ทาสีแยกเป็นช่วงๆ ด้วย เพื่อให้ผู้ตีทราบว่า  เมื่อไดร์วไปชนตาข่ายด้านหลัง ที่ช่วงความสูงใด หมายถึงตีได้ระยะประมาณเท่าใด ( ทำป้ายบอกระยะไว้ด้วย ) จากคุณ : น้าแสบ - [ 28 ก.ย. 50 16:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไดร์ฟลงน้ำก็ดีครับ ไม่ต้องลงทุนมาก มีป่าอยู่ด้วยก็จะดีครับ ได้ไม่ตกใจเหมือนกันกับพี่ไก่... จากคุณ : ธารใส - [ 28 ก.ย. 50 16:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่าจะได้อารมณ์ดีค่ะ อาจจะ้ได้อารมณ์ตอนต้องตีข้ามน้ำ ฝึกจิตให้เข้มแข็งไปในตัว ว่าแต่สนามไดร์ฟนี้จะอยู่แถวไหนเหรอคะ ไอเดียน่าสนใจจัง แปลกใหม่ดีค่ะ จากคุณ : แรมโบ้มัม - [ 28 ก.ย. 50 17:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 1. ทำกรีนกลางน้ำ เลยครับ ลุ้นดีเหมือนกัน เวลาซ้อมซ็อตแอฟโพรส 2. ผมเห็นบางที่  ที่ระยะต่างๆ เช่น 50 100 150 เขาทำเป็นกรีนหญ้าบ้าง ทำบ่อน้ำเป็นรูปกรีนบ้างแล้วก็ปักธงไว้ เห็นคนซ้อมก็ชอบตีลงน้ำดูจุดตกของลูก สนุกดีครับ ปล. อยากให้ทำทั้งสองอย่างครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 17:14:17 จากคุณ : Stroke of Genius - [ 28 ก.ย. 50 17:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีหลุมทรายใหญ่ไว้ก็ดีครับ เวลา appoach ตกทรายจะไม่ตกใจเหมือนพี่ไก่จ้า จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 28 ก.ย. 50 17:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าตีเลี้ยวไม่ตกน้ำให้ถือว่าโอบี เวลาออกโอบีจริงๆจะได้ไม่ตกใจ....เหมือนกันกับพี่ไก่....ด้วยคน จากคุณ : ดำซ้าย - [ 28 ก.ย. 50 19:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับลุงแก่ครับ ผมเองชอบซ้อมสนามหญ้าจริงมากๆแต่นานๆจะได้ซ้อมซักที จากคุณ : ซูชิหน้าปลาไหล - [ 28 ก.ย. 50 19:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แบบปรกติครับ   สนามไดรฟ์ลงทุนสูงมาก ก่อนทำควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ จากคุณ : 701ls - [ 28 ก.ย. 50 20:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ๊ย สงสารพี่หมอไก่จังเลย  โดนยำอยู่อยู่คนเดียว อยากให้มีทั้งสองแบบครับจะได้ดูมีความท้าทายมากขึ้นทำกรีนกลางน้ำสัก 2-3 ระยะก็ดีเหมือนกันนะ จากคุณ : ไม่กลัวน้ำ (ครูไก่) - [ 28 ก.ย. 50 20:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ชอบไดร์ฟลงน้ำครับ แบบปัญญาอินทรา มันไม่ได้ความรู้สึกเลย จากคุณ : devada - [ 28 ก.ย. 50 22:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สนามไดร์ฟในอุดมคติของผมคือ เรียบเสมอกันหมด แต่สโลพจากแท่นตีขึ้นไปจะสุดเขตด้านหลัง ซึ่งจะทำให้มองเห็นจุดที่ลูกตกได้ทั่วทุกระยะ ตัดหญ้าสั้นเท่านแฟร์เวย์ มีป้ายบอกระยะ ทุก 50 หลา ลูกซ้อมขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกันลูกจริง วิธีนี้จะทำให้เรามองเห็นตำแหน่งลูกตก และรู้ระยะได้ง่าย ช่วยให้การซ้อมมีประสิทธิภาพในการพัฒนาฝีมือมากขึ้นครับ จากคุณ : พลภัทร - [ 28 ก.ย. 50 22:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าอย่างพี่พลภัทรบอก ต้องไปดูงานที่เขาชะโงกเลยครับ ่เห็นจุดตกชัดดีครับ แต่เอียงมากแบบเขาชะโงก็ไม่ไหว ระยะหายไปพอควร และสนามที่ดีควรเป็นอย่างที่พี่พลภัทรว่าครับ นอกนั้นก็ปั้นเนินหน่อย เพื่อความสวยงาม และเป็นกรีนจำลอง เพื่อตีเข้าหาธง ระยะที่บอกควรจะแม่นยำหน่อยครับ มีหลายสนามที่ระยะไม่ตรงตามความจริง ตีไปแล้วนึกว่าตัวเองเก่งขึ้น เหล็ก 5 ตีได้สองร้อยกว่า ที่แท้่โดนสนามหลอก สงสัยหลอกให้ดีใจ จะได้ซ้อมเยอะๆ จากคุณ : ตั๋น phk - [ 29 ก.ย. 50 09:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทำเป็นเกาะกลางน้ำไปเลยครับ มีหลายๆ เกาะตามระยะ จะได้ทดสอบความสามารถ ความแม่นยำเพื่อไดร์ฟขึ้นไปบนเกาะ ผมว่ามันท้าทายดีครับ เปิดใหม่ก็ไม่ควรให้เหมือนเดิม จากคุณ : อยู่แถวบางนา - [ 29 ก.ย. 50 10:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีบ่อน้ำก็ดีนะ สูบมารดน้ำหญ้า ไม่ต้องซื้อน้ำ จากคุณ : 66 (กรรมกรใจเกิน100) - [ 1 ต.ค. 50 09:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ช่วยออกแบบเล่นๆนะครับ          สูบน้ำในบ่อออกปรับระดับตามลักษณะเดิมๆ ปั้นคันดินรอบๆพื้นที่กันน้ำเข้า ติดตั้งระบบสูบน้ำป้องกันน้ำท่วม ปรับพื้นที่ให้เป็นเนินเขาลาดขึ้นลงตามพื้นที่เดิมแต่ให้รถเก็บลูกกอล์ฟวิ่งได้ ปั้นเนินเป็นรูปกรีนกลมบ้าง รีบ้าง ทุกระยะ 50 หลา ไปจนถึง 200 หลา หน้าช่องตีทำตาข่ายเหล็กสูง40 ซม.ยื่นไปข้างหน้ากันลูกแชงค์ทุกช่องปลูกหญ้าตัดเท่าความสูงรัฟฟ์มาตราฐาน อนุญาตให้ลงไปซ้อมชิพได้ เมื่อไม่มีใครซ้อมอยู่เลนข้างๆ ปลูกหญ้าทั้งหมด ถ้าจำเป็นต้องมีบ่อน้ำในระบบระบายน้ำให้ใช้สแลนสีเขียวคลุมกันลูกกอล์ฟตก มันจะงมยากนะ... ที่สำคัญ มีบริการถ่ายวีดิโอรูปวงสวิงฟรี ใครอยากได้เสียค่าไรท์ 50 บาทพอ ขายเบียร์ถูกๆหน่อยนะครับ... จากคุณ : papafaa - [ 2 ต.ค. 50 17:33:01 ]