PANTIP.COM : S5870136 อยากรู้เรื่องรองเท้าบาสครับ [B-Kickz]

ความคิดเห็นที่ 8

ลืมตอบเจ้าของกระทู้ครับ อดิดาส มีระบบ หลายอย่างเหมือนกันนะครับ พูดง่ายๆคือ แข่งกับ ไนกี้อยู่ทุกอย่างอ่ะครับ เดี๋ยวผมจะเปรียบเทียบให้ดูครับ
เอาแบบคร่าวๆนะครับเพราะจิงๆแล้วทางอดิดาสมีระบบเยอะแยะอ่ะ แต่ผมยกตัวอย่างที่อยู่ในรองเท้าบาสเท่านั้นนะครับ
1.aidPRENE = ระบบนี้ง่ายๆเลยครับ เป็นระบบรองรับแรงกระแทกเหมือนกับระบบ airของไนกี้นั้นเองครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอยู่ในรองเท้าบาสเกือบทุกรุ่นครับ เช่น T-mac 1 ครับ
2.adiPRENE+ = อันนี้ก็คงจะดีกว่าตัวที่1อ่ะครับ คล้ายๆ zoom air อ่ะครับ จะนุ่มกว่า ดึ๋งๆกว่า adiPRENE ธรรดาครับ เช่น T-mac 3
3.Torsion System = เป็นระบบการล๊อคตรงฝ่าเท้าครับ ถ้าใครมีรองเท้าบาสของอดิดาสลองหยิบมาดูนะครับ จะเป็นแผ่นพลาสติกแข็ง ตงฝ่าเท้าครับ จะทำให้เวลาเราเคลื่อนไหวมันจะล๊อคไม่ให้ฝ่าเท่าของเราบิดตัวอ่ะครับ 3 ระบบที่กล่าวมาข้างต้นจะมีอยู่ในรองเท้าบาสแทบจะทุกรุ่นของอดิดาสครับ เช่นใน T-mac ก็จะมีระบบ adiPRENE/Torsion System และอย่าง T-mac 3 ก็จะมี ระบบ adiPRENE+/Torsion System เป็นต้นครับ
4.Climacool = ระบบนี้ไม่เกี่ยวกับการรองรับแรงกระแทกนะครับ แต่ว่าจะมีอยู่ในรองเท้าบาสบางรุ่นเท่านั้นครับ ปัจจุบันไม่เห็นรองเท้าที่มีระบบนี้เท่าไหร่แล้วครับ มันจะเป็นรรบบการระบายอากาศน่ะครับ รองเท้ารุ่นที่มีระบบนี้มักจะถ่ายเทอากาศที่อยู่ภายในรองเท้าได้ดีครับ ทำให้ไม่ค่อยมีกลิ่นอัพในรองเท้าเราครับ เพราะที่พื้นเท่าที่ผมเห็นนะครับ เค้าจะมีช่องระบายอากาศให้เห็นเลยอ่ะครับ แบบว่าถ้าเหยียบน้ำ น้ำก็ซึมเข้ารองเท้าได้เลยแหละ อย่างรุ่น Climacool หรือ Climacool ii ครับ
5.Hug System = ระบบนี้เท่าที่ผมเห็นนะครับ จะมีอยู่ในรองเท้ารุ่น T-mac 4 และ T-mac 5 เท่านั้นนะครับ ระบบมันก็ตามชื่อเลยอ่ะครับ โอบกอดอ่ะ อิอิ มันจะเพิ่มความกระชับขึ้นอีกต่อจากที่เราได้ผูกเชือกรองเท้าแล้วนะครับ แต่ใน T-mac 4 ไม่มีเชือกนะครับ จะใช้เป็นสายสลิงดึงแทนน่ะครับ ซึ่งถ้าพูดถึงความแปลกใหม่รุ่นนี้ใช้ได้เลยครับ แต่ไม่work ครับ ส่วนใน T-mac 5 จะเป็นลักษณะของสายคาดไขว่กันนะครับ คล้ายๆ Jordan 8 ครับ อย่างงี้Jordan 8 ก็ถือว่าเป็นระบบ Hug System ได้เหมือนกันครับ
6.a3 = เพื่อนๆส่วนใหญ่เรีกว่า เอสาม ครับ แต่จิงๆแล้วมันเรียกว่า เอคิว ครับ ระบบ a3 นี้จะออกมาแข่งกับระบบ shox ของไนกี้ครับ คือการรองรับแรงกระแทกแล้วส่งตัวกลับเหมือนสปริงครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรองเท้าของ garnett ครับ เช่น garnett 2 และ garnett 3 ครับ ตอนที่รุ่น shox ออกมาใหม่ๆนั้นเป็นที่ฮือฮาในวงการบาสมากครับ เพราะเค้าโปรโมตว่าจะกระโดดได้สูงขึ้นกับระบบนี้ (แต่จิงแล้วเท่าที่รองใส่ shox bb4 นะครับ ผมไม่เห็นว่ามันจะกระโดดสูงขึ้นตงไหนเลย) โกหกตู ตั้ง 6500 แน่ะ -_-"
7.GCS (Ground Contro System) = ระบบนี้ก็มีฮือครับ เป็นการรองรับแรงกระแทกแล้วสลายแรงกระแทกออกทางด้านข้าง ทำให้เกินอาการบาดเจ็บน้อยที่สุด(ไม่รู้จิงป่าว) มีอยุ่ในรองเท้าไม่กี่รุ่นนะครับ ที่ดังๆก็ Gil Zero กับ T-mac 6 ครับ ซึ้งรุ่นที่กล่าวมานี้ก็ยังมีระบบ อื่นๆ+มาด้วยนะครับ
8.One System (ตั้งเองครับ อิอิ) = ระบบนี้รู้ๆกันอยู่ครับว่าเป็นคอมพิวเตอร์ ประมวลผลด้วย ชิพอัจฉริยะ รุ่นแรกของโลก รองรับแรงกระแทกตามน้ำหนักการลงเท้าของเราครับ แต่ผมเองก็ไม่เคยลองรุ่นนี้ครับ บอกไม่ได้ว่ามันเป็นยังไงอ่ะ มีอยู่ในรุ่น adidas 1.1 b ครับ
9.Bounce = เป็นระบบที่ได้รับการพัฒนามาจากระบบ a3 อีกทีครับ จะเปลี่ยนวัสดุใหม่หมดครับ ดีกว่า เบากว่า เด้งกว่า แต่ concept เดิมครับ คือรองรับแรงกระแทกแล้วดีดตัวกลับเหมือนสปริง มีอยู่ในรุ่น Kg Bounce ครับ
เฮ้อ...เล่นซะเหนื่อยเลยครับ เอาแค่นี้ละกันครับ เท่านี้ก็เป็นระบบหลักๆที่มีอยู่ในรองเท้าบาสของอดิดาสแล้วครับ พวกกะจิ๊ปกะจ้อยอย่าไปสนใจมันครับ เพื่อเพื่อนๆ B-Kickz รักษ์จัดหั้ย
แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 14:02:26

จากคุณ : RakieZ - [ 1 ต.ค. 50 13:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13

เพิ่มเติมครับจาก http://www.locker-room.pantown.com/
NIKE TECHNOLOGY
NIKE AIR เป็นเทคโนโลยีแรกที่ NIKE พัฒนาขึ้น และเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดในการรับแรงกระแทก ทั้งเป็นมาตรฐานในการป้องกันแรงกระแทกมากว่า 20 ปี โดย NIKE AIR ทำมาจากการบรรจุก๊าซเข้าไปภายในยูรีเทนพลาสติก แคปซูล ที่มีความยืดหยุ่นและคงทน โมเลกุลขนาดใหญ่ของก๊าซจะป้องกันการไหลออกของก๊าซภายในยูรีเทนพลาสติก แคปซูล ( พยายามนึกภาพ เราเอามือทุบลงบนขนมเค้ก แล้วขนมเค้กจะแตกกระจาย แต่ถ้าเราเอามือทุบลงบนยูรีเทนพลาสติก แคปซูล ซึ่งจะเรียกว่า AIR SOLE ตามศัพท์เทคนิค ก็ขอให้นึกภาพเราเอามือทุบลงบนขนมเค้กยี่ห้อ NIKE แล้วขนมเค้กยืดหยุ่นดึ๋งๆ ไม่แตกกระจาย ) AIR SOLE จะถูกบรรจุอยู่ภายใต้ส้นเท้า ฝ่าเท้าด้านหน้า หรือทั้ง 2 บริเวณ โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบรองเท้าให้เหมาะกับชนิดกีฬานั้นๆ ทั้งนี้ AIR SOLE จะทำงานในการกดอัดและลดแรงกระแทก พร้อมทั้งคืนตัวทันทีเพื่อรับแรงกระแทกในครั้งต่อไป

NIKE AIR MAX เป็นเทคโนโลยีในการรับแรงกระแทกในระดับสูงสุด โดยออกแบบเพื่อรับแรงกระแทกที่รุนแรงและมีความถี่สูง เช่น เวลาเล่นบาสนาย ก เล่นตำแหน่ง center ก็ต้องกระโดดรีบาวน์ ทำแต้ม ซึ่งโดยทั่วไปรองเท้าต้องรับแรงกระแทกและมีความถี่ในการกระแทกมากกว่านาย ข ซึ่งเล่นในตำแหน่ง point guard เป็นต้น โดย AIR MAX จะลดแรงกระแทก และส่งผลกระทบต่อร่างกายขณะเคลื่อนไหวน้อยที่สุด นอกจากนี้ AIR MAX ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า blow-molding นั่นก็คือการใช้ AIR SOLE ที่บรรจุอากาศในปริมาณเต็มพื้นที่ ไม่เหลือที่ว่างภายใน เช่น สมมติว่า AIR SOLE สามารถบรรจุอากาศได้เต็มที่ 10 โมเลกุล NIKE AIR บรรจุโมเลกุลอากาศ 5 โมเลกุล แต่มีแรงกระแทก 10 แรง ดังนั้น 1 โมเลกุลจะรับเฉลี่ย 2 แรง แต่ถ้าเป็น NIKE AIR MAX บรรจุเต็มความจุคือ 10 โมเลกุล พอมีแรงกระแทก 10 แรง แต่ละโมเลกุลจะรับแรงกระแทกเพียง 1 แรงต่อ 1 โมเลกุลเท่านั้น เป็นต้น จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า AIR MAX รับแรงในรูปแบบแรงต่อแรง ซึ่งทำให้เกิดความสม่ำเสมอของบริเวณฝ่าเท้าในขณะเคลื่อนไหว ทั้งนี้ลักษณะเด่นของ AIR MAX คือ AIR SOLE ที่สังเกตเห็นได้ชัดบริเวณส้นเท้า และการป้องกันแรงกระแทกตลอดความยาวของฝ่าเท้า

NIKE ZOOM AIR/AIR ZOOM เป็นเทคโนโลยีที่มีน้ำหนักเบา เนื่องจากโมลกุลของอากาศมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อย ทำให้รู้สึกเหมือนฝ่าเท้าสัมผัสพื้น และรู้สึกเหมือนรองเท้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ทำให้ AIR ZOOM ตอบสนองการเคลื่อนไหวบนพื้นได้อย่างรวดเร็ว AIR ZOOM มีลักษณะเป็นพื้นรองรับแรง 2 ชั้น เนื่องจากมีความบางมากๆ และเชื่อมต่อด้วยเส้นใยกว่า 1000 เส้น โดยรอบๆ เส้นใยจะถูกล้อมรอบด้วยโมเลกุลของก๊าซภายใน AIR SOLE ในขณะรับแรงกระแทก air bag ( ถุงอากาศภายใน AIR SOLE ) จะช่วยลดแรงตึงภายในเส้นใย และหลังจากรับแรงกระแทกความดันของโมเลกุลก๊าซจะกระจายภายใน air bag และปรับแรงตึงภายในเส้นใยให้คืนตัวทันที นึกภาพเราใช้นิ้วบีบสปิง พอปล่อยสปริงที่บีบ สปริงก็จะคืนตัวทันที ข้อดีของAIR ZOOM ก็คือความบางและเบาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับลดแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับพื้นอย่างนุ่มนวล

จากคุณ : AIRFORCE24 - [ 2 ต.ค. 50 17:26:26 ]