PANTIP.COM : S5878727 [[This is Our city]] <>M<>A<>N<>C<>I<>T<>Y<> 03/10/2550<<< ประตูแดนฟรีเซ็กส์ ได้ลงสนามครั้งแรก หลังจากเจ็บ >>> [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 24

เรื่องโกหก" : ตลกร้ายแห่งวงการฟุตบอล?
รู้ทั้งรู้ว่า การโกหก เป็นสิ่งไม่ดี นอกจากนั้นยังถือว่าผิดศีล 5 แต่ก็ยังมีหลายคนหาข้ออ้างข้าง ๆ คู ๆ เพื่อโกหกว่า ถ้าหากมีเจตนาดี มันคงไม่ใช่เรื่องผิด

มีผลการสำรวจ ระบุว่า ในจำนวนคนโกหก 5 คน จะมีอย่างน้อย 1 คน ที่เอาเรื่องครอบครัวมาอ้าง โดยเฉพาะเพื่อจุดประสงค์ในการลาหยุดงาน

เหตุผลก็ไม่ยากอะไร เพราะคงไม่มีเจ้านายคนไหนใจไม้ใส้ระกำถึงขนาดจะไม่ยอมให้คุณหยุด ถ้าหากเกิดมีคนในครอบครัวเสียชีวิต หรือเกิดเหตุการณ์รุนแรงในครอบครัว

ช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีข่าวเล็ก ๆ ที่น่าสนใจ แต่อาจจะไม่ค่อยมีใครสนใจเกี่ยวกับการโกหกในวงการฟุตบอลครับ

นั่นคือเรื่องของ สตีเฟน ไอร์แลนด์ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ทำหนังสือไปถึงสมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์ เพื่อขอถอนตัวออกจากการลงเล่นให้ทีมชาติ ในเกมกับ สาธารณรัฐเช็ก

ไอร์แลนด์ ให้เหตุผลในการถอนตัวว่า เป็นเพราะคุณยาย ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพิ่งจะเสียชีวิต

ตอนนั้น สมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์ เห็นใจ ไอร์แลนด์ สุด ๆ ถึงกับจัดเครื่องบินเจ๊ตมาส่ง ไอร์แลนด์ ถึงบ้านเลยทีเดียว

แต่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อมีผู้สื่อข่าวพบว่า คุณยายของ ไอร์แลนด์ ยังมีชีวิตอยู่

อย่างไรก็ดี ไอร์แลนด์ ยังคงไม่ยอมรับ และขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกยิ่งขึ้น ด้วยการแก้ต่างว่า ความจริงแล้ว คนที่เสียชีวิต คือ คุณย่า ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาเท่าไหร่ต่างหาก และถ้าหากรู้ความจริงแบบนี้ เขาจะไม่ถอนตัวออกจากทีมแน่นอน

ไม่น่าเชื่อว่า ในที่สุด ทุกคนก็พบว่า ไอร์แลนด์ โกหกอีกแล้ว

และที่สำคัญก็คือ เขายังไม่หยุดแค่นี้ และโกหกอีกเป็นครั้งที่ 3 โดยคราวนี้บอกว่า จริง ๆ คนที่ตายคือ คุณย่า คนที่เป็นภรรยาเก่าของคุณปู่ ที่หย่ากันไปแล้ว

ครั้งนี้ ไม่มีใครเชื่อเขาอีกแล้ว และในที่สุดก็เป็นไปตามคาด เมื่อปรากฏว่า มันเป็นเพียงแค่การโกหกอีกครั้งของ ไอร์แลนด์

ในที่สุด เมื่อไม่รู้จะโกหกว่าอะไรอีกแล้ว ไอร์แลนด์ จึงยอมรับจนได้ว่า ที่ต้องโกหกทั้งหมด ก็เพียงเพื่อต้องการปกป้องแฟนสาวที่เพิ่งแท้งลูกเท่านั้น

คุณเชื่อเขาหรือไม่ ?

ถึงตอนนี้ ต่อให้ ไอร์แลนด์ พูดจริง แต่ถามว่าจะมีสักกี่คนที่จะเชื่อเขา เพราะถ้าหากจะว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ถ้าเขาบอกสมาคมฟุตบอลไปตั้งแต่แรกว่า จะขอถอนตัว เพื่ออยู่ดูแลแฟนสาว ที่เพิ่งสูญเสียลูก ทางสมาคมฟุตบอลก็คงจะไม่ใจไม้ใส้ระกำจนถึงกับจะไม่ปล่อยตัวเขากลับบ้านหรอก

ดังนั้น ตอนนี้ คงไม่มีใครโง่พอที่จะเชื่อ ไอร์แลนด์ อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หลายคน ถึงกับตั้งคำถามแบบติดตลกร้ายด้วยว่า ไอร์แลนด์ มีแฟนจริงหรือเปล่า หรือ เขามีชื่อว่า ไอร์แลนด์ จริงหรือเปล่าด้วย

เพราะถ้าจะว่าไป มันก็บังเอิญอย่างเหลือเกิน ที่นอกจากจะชื่อ ไอร์แลนด์ แล้ว เขายังเป็นคนไอร์แลนด์ และได้ลงเล่นให้ ทีมชาติไอร์แลนด์ อีกต่างหาก

น่าคิดว่า ในอนาคต ถ้าหาก ไอร์แลนด์ บอกว่า ตัวเองเจ็บ ผู้จัดการทีม จะเชื่อเขาหรือไม่ และถึงกับต้องให้เขาสาบานหรือเปล่า ?

แต่ ไอร์แลนด์ ไม่ใช่นักฟุตบอลคนแรกที่โกหกหรอก ครับ ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่นับไม่ถ้วนแล้วด้วยซ้ำ เพราะในยุคนี้ การโกหกกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับคนเรา

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ กับการโกหกแบบขำ ๆ ที่ยังไม่ซีเรียสเท่าไหร่ และไม่เกี่ยวกับเรื่องหนัก ๆ อย่าง การรับเงินสินบน หรือ การเล่นแร่แปรหุ้น ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่า จะต้องมีคนโกหกแน่นอนอยู่แล้ว

แอนตัน เฟอร์ดินานด์ เคยบอก เวสต์แฮม ว่า เขาจำเป็นจะต้องไปเยี่ยมคุณยาย (ยายอีกแล้ว !) ที่บ้านเกิด แต่กลับมีคนเห็นเขาเมาปลิ้นอยู่ในไนต์คลับแถว ๆ เซาท์ แคโรไลนา ในสหรัฐ

ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ เมื่ออยู่ในสนาม แอนตัน จะดูรู้ไปหมดว่าลูกจะมาทางไหน แต่เมื่ออยู่นอกสนาม เขากลับไม่รู้เลยหรือยังไงว่า 1) ตัวเองเป็นคนดัง ที่มีคนรู้จักมากมาย 2) เพื่อนกินเชื่อถือไม่ได้ และ 3) โทรศัพท์สมัยนี้มีกล้อง

ด้าน เอียน ดาววี ก็เคยลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ เมื่อปี 2006 โดยให้เหตุผลว่าต้องการย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ กับภรรยา และครอบครัว ที่โบลตัน

แต่อีกไม่กี่วันต่อมา เขากลับได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาร์ลตัน ซึ่งอยู่ในกรุงลอนดอนเหมือนกัน และสโมสรตั้งอยู่ห่างจาก พาเลซ แค่ไม่กี่ช่วงตึก !

เรื่องดังกล่าว ทำให้ ดาววี โดนฟ้อง และถูกปรับเงินถึง 400,000 ปอนด์ ในข้อหาลวงโลก

ในปีเดียวกัน ยูริ จอร์เกฟฟ์ อดีตจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส รุ่น ๆ เดียวกับ ซีเนอดีน ซีดาน บอกแก่เจ้าหน้าที่ของสโมสรนิวยอร์ก เรด บูลล์ส ต้นสังกัดในสหรัฐว่า จะต้องเดินทางกลับเมืองน้ำหอม เพื่อร่วมงานที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของครอบครัว

แต่ไป ๆ มา ๆ งานสำคัญของครอบครัวดังกล่าว กลายเป็น สภาพเมาปลิ้นของ จอร์เกฟฟ์ ที่กล้องโทรทัศน์จับภาพได้ ระหว่างที่เขากำลังเฉลิมฉลองแบบสุดเหวี่ยง หลังจาก ฝรั่งเศส เอาชนะ บราซิล ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ของฟุตบอลโลก 2006 แถมเขายังดอดไปฉลองถึงเยอรมนีเลยทีเดียวด้วย

อย่างไรก็ดี ที่เด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้น โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก มิดฟิลด์ทีมชาติมาลี ของ ลิเวอร์พูล

สมัยเล่นอยู่กับ บาเลนเซีย ในสเปน “โมโม่” เคยบอกโค้ชว่า เขาจะไม่สามารถลงเล่นให้สโมสรได้ช่วงหนึ่ง เพราะต้องกลับไปช่วยชาติ แต่เขาอาจจะลืมไปว่า สตาฟฟ์โค้ชสามารถเช็กว่าเขาพูดจริงหรือเปล่าได้อย่างง่ายดายสุด ๆ ด้วยการหาโปรแกรมการแข่งขันมาดู หรือง่ายกว่านั้นก็เพียงแค่โทรศัพท์ไปถามสมาคมฟุตบอลของมาลีแค่กริ๊งเดียว

รู้ไหมว่า ตอนกลับมา ซิสโซโก บอกโค้ชของ บาเลนเซีย ว่ายังไง เขาบอกว่า มาลี ชนะ 1-0 และตัวเองถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 48 ทั้ง ๆ ที่เกมดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นเลย !

ดังนั้น สรุปแล้ว จึงอยากจะขอแนะนำนักฟุตบอลในบ้านเราที่กำลังคิดจะโกหกดังนี้ว่า

1) ทำให้แน่ใจที่สุดว่า คำโกหกนั้นเป็นไปได้ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ไปเอาเกมที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาอ้าง

2) หาหลักฐานมาอ้าง ยกตัวอย่างเช่น รูปคุณยายที่กำลังป่วย

3) อย่าโกหกให้มันโอเวอร์เกินไป ถ้าหากบอกว่า คุณยายเสีย ก็เสียแค่คนเดียวพอ ไม่ต้องเสียพร้อม ๆ กันถึง 2 คน

4) ถามตัวเองก่อนว่าเรื่องที่จะโกหกนั้น ถ้าหากเกิดถูกจับได้ จะกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศหรือไม่ ถ้าหากใช่ ก็ให้หาข้ออ้างอย่างอื่น

5) ดีที่สุด ไม่ต้องโกหก เพราะไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรมาโกหก สุดท้าย มันก็ยังคงเป็นการโกหก ที่ไม่ใช่ความจริงอยู่ดี.

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=46469&NewsType=2&Template=1

จากคุณ : Angkor_One - [ 3 ต.ค. 50 12:54:56 ]