PANTIP.COM : S5928163 [[This is Our city]]<>M<>A<>N<>C<>I<>T<>Y<> 17/10/2550<<<เพี้ยง สาธุ มาเต๊อะ ริเควเม่+เอลาโน่ โอววววว....Come On City!!! [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 6

สเมอร์ติน : รัสเซีย vs อังกฤษ บ้านใครบ้านมัน!!

ไม่รู้ทราบกันหรือเปล่าว่าเมื่อเดือนก่อนอังกฤษเปิดสนามนิว เวมบลีย์ไล่ต้อนรัสเซียเหมือนมวยคนละรุ่น 3-0 มีชายคนนึงชื่ออเล็กซี่ สเมอร์ตินเป็นคนรัสเซียที่ทรมานที่สุดในประเทศ

มิดฟิลด์ฟูแล่มหมดสิทธิ์แสดงความรู้สึกส่วนตัวหรืออากัปกริยาทั้งๆที่ใจสุดแค้นหลังเห็นภาพไมเคิ่ล โอเว่นยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 7 แต่นั่นคือความเป็นมืออาชีพที่น่านับถือและน่าเอาเยี่ยงอย่างเนื่องจากเจ้าตัวกำลังทำหน้าที่เป็นคอมเมนเตเตอร์ให้ทีวีของรัสเซียอยู่นั่นเอง

"คุณหมดสิทธิ์แสดงความรู้สึกผิดหวังออกมาให้คนอื่นเห็น เมื่อคุณดูทีมเล่นที่สนามคุณก็อยู่ในฐานะแฟนบอลเต็มตัว คุณมีแต่เฮฮาหรือไม่ก็เจ็บปวดสองอย่างเท่านั้น"

"แต่เมื่อคุณดูเกมจากในอีกมุมนึง ณ ฐานะของคอมเมนเตเตอร์ มันก็เป็นงานที่คุณต้องคิดและวิเคราะห์ออกมาเพียงอย่างเดียว...นอธิง มอร์"

เกมอันฝันร้ายที่นิว เวมบลีย์กับในวันพุธนี้จะคนละเรื่องกันเมื่อมิดฟิลด์เชิงสูงของฟูแล่มนัดเพื่อนรัสเซียคนหนึ่งเดินทางออกจากลอนดอนมายังบ้านเกิดเพื่อมาดูเกมใหญ่มหาบิ๊กทางทีวีพร้อมกับญาติโกโหติกา

สเมอร์ตินมองไม่ต่างจากทุกคนว่านี่คือเกมสำคัญที่สุดของ"หมีขาว"ในรอบปีและบางทีสำคัญที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตนู่นเลย ความพ่ายแพ้ต่ออังกฤษจะมีความหมายเท่ากับ"ตกรอบคัดเลือก"ทันที

ความต้องการตั๋วที่ลูซนิกี้มีสูงมากและความจุในเกมนี้ลดลงเหลือเพียงแค่ 74,000 คนด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย

สัปดาห์ก่อนแฟนเป็นพันๆคนต่อคิวยาวรอซื้อตั๋วเป็นตับแพะทั้งๆที่ฝนตกโดยตั๋วราคาต่ำสุดคือ 6 ปอนด์ได้มีมูลค่าในตลาดมืดในพริบตาถึง 40 ปอนด์

"ผลเสมอยังไม่พอ"สเมอร์ตินกลับมาร่ายใหม่

"ต้องไม่ต่ำกว่าสามแต้ม...จะทำให้ได้ตอนนี้หรือจะปล่อยให้กลายเป็นความผิดหวังต่อวงการฟุตบอลรัสเซียอีกคำรบ"

"ยังจำครั้งสุดท้ายที่เราได้แชมป์มาครองได้บ้างหรือเปล่า? นานมากจนจำไม่ได้แล้ว"

"ผมยังรู้อีกด้วยว่าอังกฤษเองก็นานโขซึ่งต้องย้อนไปยังปี 1966 และก็เป็นเพราะโทฟิค บาครามอฟไลน์แมน พวกคุณคงจำกันได้ดีแต่ขอย้ำว่าเขาไม่ใช่คนรัสเซียเขาเป็นอเซอร์ไบจานแต่ก่อนประเทศล่มสลายเขาก็เป็นคนชาติเดียวกับเรานี่แหละ"

สหภาพโซเวียตได้แชมป์ยุโรปในปี 1960 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนเด็กชายสเมอร์ตินจะลืมตาดูโลกในอีก 15 ปีต่อมาและเคยเข้าชิงสามครั้งและชวดแชมป์ทั้งสามครั้งในปี 1964,1972 และ 1988

แต่นับตั้งแต่ประเทศแตกหน่อมากมายในช่วงต้นยุค 90 รัสเซียก็ไม่ประสบความสำเร็จแม้จะมีประชากรมากถึง 145 ล้านคนรวมทั้งมีฐานคุณภาพทางด้านกีฬาห้อยท้อยอีกด้วย

ชีวิตในทีมชาติของสเมอร์ตินรูดม่านลงเมื่อปีก่อนโดยหยุดสะสมหมวก"หมีขาว"ไว้ที่ 55 ใบหลังได้ตกลงกับกุส ฮิดดิงค์ว่าจะไม่ขอเล่นให้รัสเซียอีกแต่ก็ยังเชื่อมั่นในทีมชุดนี้อย่างเต็มเปี่ยม

"เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ดีนะและเขาต้องการนำความแปลกใหม่มาสู่วงการรัสเซีย ผมว่านี่เป็นเรื่องจำเป็นนะ,งานที่เขาทำอยู่กำลังเจริญวันเจริญคืน"

"เรากำลังมองไกลข้ามยูโรไปยังฟุตบอลโลก เราวางใจในตัวฮิดดิงค์และกำลังรอคอยผลลัพท์ในบั้นปลายอย่างใจจดใจจ่อ"

"เราได้วางแผนมาก่อนหน้านี้แล้วว่ารัสเซียต้องมีผู้จัดการทีมเป็นชาวต่างชาติ วงการลูกหนังของเราเป็นสไตล์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งผู้จัดการทีมคนรัสเซียยังไม่พอที่จะลงมือทำ"

สัญญาของฮิดดิงค์จะหมดลงในปีหน้าแต่เจ้าตัวให้สัญญายอมรับข้อเสนอต่อเพิ่มอีกสองปีเพื่อพยายามยุติข่าวลือกับเชลซีนั่นเอง

"เกมที่เวมบลีย์อังกฤษดีกว่าเราชัดเจน"สเมอร์ตินยังไม่ยอมจบง่ายๆ

"ปัญหาของทีมรัสเซียในยุคนี้คือยืนระยะในจังหวะเร็วไม่ได้ตลอดทั้ง 90 นาที"

"ในรัสเซีย,แม้กระทั่งตอนสองสโมสรใหญ่โคจรมาพบกันเอง มันไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นเกมที่น่าสนใจ บางทีอาจมีความกดดันซัก 10 นาทีจากนั้นก็เริ่มห่างชั้นอย่างชัดเจน นักเตะของเราไม่เคยชินกับการเล่นหนักๆเขี้ยวๆตลอดทั้ง 90 นาทีแต่พวกอังกฤษบอกชิวๆ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นที่เวมบลีย์ไปแล้ว"

อดีตนักเตะเชลซีรู้สึกสยองเกล้ากับเกมฟุตบอลอังกฤษอยู่เสมอๆแม้กระทั่งตอนที่นั่งจ๋องดูไฮท์ไลท์ทางทีวีซึ่งยิงตรงส่งถึงเมืองบาร์นาลในไซเบอร์เรียช่วงยุค 90

"ผมงี้ช็อกกับจังหวะเล่นรวดเร็วปานสายฟ้ารวมทั้งบรรยากาศอันสุดระทึก มันผ่านมาแล้ว 15 ปีและตอนนั้นหันกลับมาทีไรบอลก็ลอยอยู่กลางอากาศอยู่ร่ำไป"

"ผมช็อกโคตรๆแต่อยากบอกว่าชอบสุดๆ!!"

อย่างไรก็ตามผู้คนในมอสโกว์ต่างมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าลูกทีมของสตีฟ แม็คคลาเรนจะบุกมาพ่ายรัสเซียไม่ใช่แค่สาเหตุจากสนามหญ้าเทียมในสนามลูซนิกี้ที่คนทั่วโลกพากันพูดถึงอย่างเดียว

"เราได้เปรียบไม่น้อยนะและฮิดดิงค์เองก็มองเห็นถึงเรื่องนี้"

"นักเตะของเราคุ้นเคยกับการเล่นในสนามหญ้าเทียม มันเป็นเรื่องปกติของฟุตบอลรัสเซียเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัด"

"ผมเคยเล่นที่ลูซนิกี้หลายครั้ง มันเพี้ยนอย่างเห็นได้ชัดแถมยังอันตรายอีกต่างหากเพราะมันหนึบติดเท้าคุณ"

"พวกเขาฉีดน้ำก่อนเตะในแต่ละครึ่งเพื่อให้บอลมันวิ่งว่องๆ มันง่ายกว่าเยอะหากคุณเก็บบอลไว้กับตัว สนามแบบนี้เข้าทางรัสเซียมากกว่าแต่อังกฤษก็มีพวกแข้งทักษะอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน"

สเมอร์ตินยังคาดหวังว่าจะได้เห็นฮิดดิงค์งัดเอาศักยภาพในเกมรุกของรัสเซียมาใช้ให้เต็มที่มากกว่าจะมาหงอเน้นรับและไม่ทำพลาดเหมือนอย่างที่จับเอาอเล็ซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟหอกเซบีญ่าเป็นเพียงแค่ตัวสำรองที่เวมบลีย์

สเมอร์ตินถือโอกาสไร้โปรแกรมในช่วงสุดสัปดาห์และไม่มีซ้อมบินกลับมารัสเซียแต่ตัวแกเองเสียดายที่ชาตินี้คงไม่มีทางได้ลงปะทะแข้งกับทีมชาติอังกฤษอีก

"มันน่าเสียดาย ผมอยากลงเล่นในเกมใหญ่เช่นนี้ ผมไม่เคยเล่นกับอังกฤษมาก่อนเลย"

และเป็นอีกครั้งที่สเมอร์ตินต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจหลังให้สัมภาษณ์ปิดท้าย

"แต่มันเป็นการตัดสินใจของผมเองแหละ ไม่มีความรู้สึกอิจฉาริษยาอะไรเลย"

จากคุณ : yut - [ 17 ต.ค. 50 22:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7

ข่าวทีมอังกฤษกับรัสเซีย เยอะ แฟนบอลบ้านเราก็ติดตามเยอะ

ศึกยูโร 2008 รอบคัดเลือก ทัพ สิงโตคำรามอังกฤษ โชว์ผลงานได้ดีหลังจากเปิด นิว เวมบลีย์ เก็บชัยชนะเหนือ สมันน้อย เอสโตเนีย ไป 3-0 จากผลงานของ ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์, เวย์น รูนีย์ และ ทาวี ราห์น นักเตะทีมเยือน ทำเข้าประตูตัวเอง

ส่งผลให้ทัพนักเตะ ทรีไลออนส์ ยังรั้งอันดับสอง แข่ง 10 นัด มี 23 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง ตราหมากรุก โครเอเชีย อยู่ 3 แต้ม และทิ้งห่าง รัสเซีย อันดับสาม อยู่ 5 คะแนน แต่ สิงโตคำราม แข่งมากกว่าหมีขาว อยู่ 1 นัด

ถึงตรงนี้ โอกาสในการคว้าตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายที่ ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์ ของทีมชาติอังกฤษดูไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว และถ้าหาก สิงโตคำรามสามารถบุกไปเก็บชัยชนะได้ที่ลุซนิกิ สเตเดียม ของรัง หมีขาว ในคืนวันพุธนี้ได้ ก็จะทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทันที

เกมที่พบกับ เอสโตเนีย นั้น บิ๊กแม็ค สตีฟ แม็คคลาเรน ตัดสินใจส่ง แกเร็ธ แบร์รี มิดฟิลด์จอมขยัน ลงเป็น 11 คนแรกเหมือนเดิม โดยดร็อป แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เพิ่งหายเจ็บเป็นเพียงตัวสำรอง

ซึ่งกองกลางจาก แอสตัน วิลลา ยังโชว์ผลงานได้โดดเด่นในแดนกลาง ทั้งการตัดเกม ทำลายเกมของคู่แข่ง รวมไปถึงการวางบอลที่แม่นยำ แถมบางจังหวะยังเติมมาช่วยในเกมรุก นอกจากนั้นยังจับคู่กับ สตีเวน เจอร์รารด์ ได้อย่างเข้าขาลงตัว

ส่วน แลมพ์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง ถูกแฟน สิงโตคำราม บางกลุ่มโห่ใส่ด้วย โดย แมคคลาเรน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีใครอยากเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่มันก็เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง แฟรงค์ รับมันได้ และปล่อยให้การเล่นฟุตบอลของเขาพูดแทน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า มันน่าผิดหวังที่เกิดเหตุการณ์อย่างน

ด้วยผลงานที่ดีของ แบร์รี ก็น่าจะทำให้ บิ๊กแม็ค ต้องคิดหนักว่าในเกมสำคัญที่จะพบกับ รัสเซีย ว่ามิดฟิลด์ฝีมือดีอย่าง แลมพาร์ด จะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองนั่งดูเพื่อนอยู่ข้างสนามอีกหรือเปล่า

ในขณะเดียวกันการกลับมาเบิกสกอร์ได้อีกครั้งนับตั้งแต่ ยูโร 2004 ของ หมูอ้วน รูนีย์ ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเวลานี้คงจะเป็นเรื่องยาก ถ้าจะหาศูนย์หน้าอังกฤษซักคน ที่ไว้ใจได้ในการยิงประตู

ถ้าจะฝากความหวังไว้ที่ ไมเคิล โอเวน ก็ดูจะไม่ไหว เพราะในเกมวันเสาร์ เบบี โกล์ได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปทำประตูหลายครั้ง แต่กลับพลาดหมด อย่างไรก็ตาม กุนซือสิงโตคำราม ก็ยังกล่าวชมทั้งคู่

ไมเคิล ต้องการเกมเพื่อลงสนาม และต้องการเวลา ส่วน รูนีย์ มีอะไรให้ต้องพิสูนจ์ ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์แล้ว เขาสมควรได้ประตูนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ได้เขากลับมา

แต่ชัยชนะต่อ เอสโตเนีย ก็ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของ แอชลีย์ โคล แบ็กซ้ายจอมบุกจาก เชลซี ที่ปะทะกับ ไคมาร์ ซาก ผู้เล่นทีมเยือน จนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องรอดูอาการว่าจะฟิตทัน ในเกมวันพุธหน้าหรือไม่ ซึ่ง แม็คคลาเรน ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้นักเตะชุดเดิมหรือเปลี่ยนในบางตำแหน่ง

เราจะดูกันอีกครั้ง ดูว่าใครที่มีอาการบาดเจ็บอะไรบ้าง เราจะเตรียมการในวันจันทร์นี้ คุณต้องการความสมดุล และคุณต้องการให้ทีมแย่แก่การเอาชนะ คุณยังไม่อยากจะเสียประตูด้วย ชัยชนะก็เป็นสิ่งสุดยอด แต่ผลเสมอก็ดีเหมือนกันในเกมที่จะพบกับ รัสเซีย เราทำได้ดีมาก และอยู่ในสถานะที่ดี ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเราแล้ว

ถึงตอนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพลพรรค
สิงโตคำราม
เองแล้วว่าจะทำได้หรือเปล่าเท่านั้น
แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 22:08:48

จากคุณ : yut - [ 17 ต.ค. 50 22:04:37 ]