ความคิดเห็นที่ 1 สิงโตจ่อร่วง!นำก่อนแพ้หมี2-1 สองประตูในสี่นาทีของรัสเซียกลายเป็นประตูพลิกสถานการณ์ให้กลับมาเอาชนะอังกฤษอย่างเหลือเชื่อ 2-1 หลังถูกเวย์น รูนี่ย์ยิงแสกหน้านำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 29 ก่อนได้ตัวสำรองอย่างบาฟลูเชนโก้เหมาคนเดียวสองประตูและมีแววที่รัสเซียจะเข้ารอบแทนหากเอาชนะในสองเกมที่เหลือได้ทั้งหมด รัสเซีย 2-1 อังกฤษ ประตู : 0-1 รูนี่ย์ น.29,1-1 ปาฟลูฟเชนโก้ น.69(จุดโทษ),2-1 ปาฟลูเชนโก้ น.73 ช่วงต้นเกมรัสเซียโหมบุกหนักจนแนวรับอังกฤษต้องเคลียร์ทิ้งหัวหมุนโดยลูกทีมสตีฟ แม็คคลาเรนไม่สนใจเรื่องการเล่นบอลสวยงามขอแค่พาบอลหนีจากเขตอันตรายและจังหวะถูกสวนกลับพวกมิดฟิลด์ก็ลงมาช่วยไล่กันอย่างหนัก นาทีที่ 11 "สิงโตคำราม"เสียบวูบเมื่อโจ โคลเข้าพรวดจังหวะที่เคอร์ชาคอฟยกบอลแล้วล้มทั้งยืนแต่กรรมการยังเฉย อีก 4 นาทีอังกฤษได้เตะมุมและบอลมาถึงโจ โคลที่หลอกทำท่าจะครอสตรงหน้ากรอบเขตโทษก่อนดึงจังหวะหลอกจนตัวประกบกระโดดบล็อกเป็นกุ้งและซัดเต็มๆแต่ดันไปติดบล็อกพวกเดียวกัน เกมมาถึงนาทีที่ 20 ทั้งสองทีมเปิดแลกกันทุกๆครั้งที่มีโอกาสสวนโดยแค่ไม่กี่วินาทีจากที่รัสเซียตั้งป้อมยิงหน้ากรอบโทษติดบล็อกแนวรับกลายเป็นรูนี่ย์ที่ฉกบอลจากแดนตัวเองก่อนกระชากโซโล่เดี่ยวถึงหน้าเขต"หมีขาว"จนมาเสียตอนที่ไหลให้ไรท์ ฟิลลิปส์กระชากในที่สุด อีก 5 นาทีต่อมารัสเซียเกือบขึ้นนำก่อนหลังซูเรียนอฟลากมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนตะบันยิงเต็มๆบอลพุ่งเลียดติดปลายมือโรบินสันและจูบเสาดังโครมชนิดน่าเข้าสุดๆ อย่างไรก็ตามทีมเยือนมาขึ้นนำหน้าตาเฉยในนาที 28 หลังเซนเตอร์ซึ่งโย่งกว่าโอเว่นหลายเท่าดันโดดช้าและปล่อยให้หอกนิวคาสเซิ่ลโหม่งเช็ดต่อให้เวย์น รูนี่ย์วิ่งมาโล่งๆก่อนวางเท้าวอลเลย์แสกหน้ากาลูบอฟนายทวารเข้าไปอย่างสุดยอด อังกฤษนำ 1-0 อังกฤษหันมาตั้งรับกันมากขึ้นกว่าเดิมและรัสเซียก็พยายามทุกอย่างทั้งขึ้นทางปีก,ยิงไกลและบอมบ์แต่ก็ไม่ผ่านแนวรับทีมเยือนที่ถนัดลูกกลางอากาศอยู่แล้ว ครึ่งหลังเริ่มมาแค่ 5 นาทีเดอะค็อปแทบมุดลงดินหลังอังกฤษได้ฟรีคิกทางริมเส้นเป็นแบร์รี่ที่สาดยาวและบอลโด่งเลยมาถึงเจอร์ราร์ดซึ่งยืนเสาสองโล่งชนิดเหลือเชื่อแต่เจ้าตัวดันแปแป๊กออกข้างเสาอย่างน่าเสียดาย จังหวะนี้เอาบอลลงแล้วสั่งบะหมี่ยังยิงทันเลย เพื่อนๆกุมหัวเสียดายกันเป็นแถว เจ้าถิ่นเหมือนมีปัญหากับลูกโด่งและอีก 10 นาทีก็เกือบเสียลูกสองซึ่งคราวนี้เป็นฟรีคิกตรงริมเส้นฝั่งซ้ายเป็น"หัวขิง"ปั่นมาตรงหน้าเขตโทษให้รูนี่ย์กระโดดเช็ดโหม่งคนเดียวโล่งๆบอลหลุดมาถึงไมคาห์ ริชาร์ดที่พยายามเหยียดขายิงจ่อๆแค่ 6 หลาแต่ไม่ถึงและกาลูบอฟล้มตัวปัดออกไปทัน ถึงหนึ่งขั่วโมงแข้ง"หมีขาว"เริ่มดันกันจนหลังลอยและได้ล่อเป้าหน้าประตูอยู่พักนึงแต่ดันไม่รู้กันบอลติดไปติดมาจนพลาดโอกาสกันไปเอง อีกแค่นาทีเดียวเชอร์คอฟพาบอลถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางแต่โซล แคมป์เบลล์ยังไวสไลด์เคลียร์ทิ้งหน้าประตูแค่ 2 หลาก่อนถึงเคอร์ชาคอฟ รัสเซียโหมหนักสุดๆและตวัดบอลหน้ากรอบโทษอังกฤษให้บิลบาเลทดินอฟหลุดเข้าไปยิงเหน่งๆแต่ช้าเกินเลยถูกแคมป์เบลล์กับริชาร์ดแซนวิชบล็อกจังหวะยิงพอดี แต่แล้วนาที ฮีโร่รูนี่ย์ขยันเกินเหตุหลังจังหวะ 1-2 ของเจ้าถิ่นกำลังจะทะลุช่องไปถึงบิลบาเลทดินอฟเลยดึงและรั้งจนล้มลงและกรรมการชี้ให้เป็นจุดโทษทันทีแต่จากภาพช้าเป็นการล้มนอกเขต อย่างไรก็ตามปาฟลูเชนโก้รับหน้าที่สังหารยิงเสียบมุมแม้โรบินสันจะพุ่งถูกทางแล้วก็ตาม รัสเซียเหมือนได้ยาดีลุยหนักหน้าตั้งแบบไม่คิดชีวิตและนาที 72 ก็มาขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อหลังอเล็กซ์ เบเรซูทสกี้ยิงไกลนอกเขตเป็นโรบินสันที่ปัดไปตกตรงหน้าโรมัน ปาฟลูเชนโก้ตัวสำรองที่แหย่หัวเกือกเร็วกว่าเลสค็อตต์ที่พยายามเคลียร์ทิ้ง รัสเซียพลิกขึ้นนำ 2-1 อังกฤษต่อเกมไม่ติดและต้องรับเละลูกยิงของรัสเซียทั้งในกรอบนอกกรอบจนแวนรับลิ้นห้อยกันเป็นแถว ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นได้เตะมุมและริชาร์ดเคลียร์วืดบอลไปถูกบอลเกือบเข้ายังดีที่โรบินสันล้มตัวปัดข้างเสาทันเวลา ก่อนหมดเวลา 4 นาทีรูนี่ย์อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากเข้าไปยิงในกรอบแต่กาลูบอฟปัดออกไปและจากจังหวะเตะมุมโซล แคมป์เบลล์โถมมาโขกทั้งคนเดียวเหน่งๆแต่บอลกลับเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่เหลืออังกฤษพยายามบอมบ์ใส๋เจ้าถิ่นแต่ไม่เป็นผลจบเกมบุกมาแพ้รัสเซีย 2-1 และแม้จะเอาชนะโครเอเชียในนัดสุดท้ายแต่ถ้ารัสเซียชนะสองนัดที่เหลือก็จะเป็นลูกทีมสตีฟ แม็คคลาเรนที่ตกรอบแทน รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม : รัสเซีย : กาบูลอฟ,อเล็กซ์ เบเรซูทสกี้,อิกนาเชฟวิช,วาซิลี่ เบเรซูทสกี้(ทอร์บินสกี้ น.46),เชอร์คอฟ,บิลยาเลดินอฟ,เซมชอฟ,ซูเรียนอฟ,อนิอูนอฟ,อาร์ชาวิน,เคอร์ชาคอฟ(ปาลูเชนโก้ น.58) อังกฤษ : โรบินสัน,ริชาร์ดส,เฟอร์ดินานด์,แคมป์เบลล์,เลสค็อตต์(แลมพาร์ด น.79),ไรท์ ฟิลลิปส์(ดาว์นนิ่ง น.80),เจอร์ราร์ด,แบร์รี่,โจ โคล(เคราช์ น.80),เวย์น รูนี่ย์,โอเว่น ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62297 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สิงโตโคม่า!หมีขาวแซงสะเด่า2-1ลุ้นระทึกนัดท้าย พลพรรค "สิงโตคำราม" อังกฤษ ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเสียแล้วเมื่อบุกไปโดน "หมีขาว" รัสเซีย ซัดเบิ้ลในครึ่งหลังแซงกลับมาชนะ 2-1 ทำให้เกมนัดสุดท้ายต้องชนะโครแอตสถานเดียว ส่วนรัสเซียยังได้ลุ้นเมื่อตามหลังอังกฤษแค่ 2 แต้มแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ฟุตบอลยูโร 2008 รอบคัดเลือก กลุ่ม อี รัสเซีย 2 - อังกฤษ 1 "หมีขาว" รัสเซีย เปิดสนาม ลุซนิกี้ ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ซึ่งทั้งคู่ต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบต่อไป โดยเจ้าถิ่นวาง อังเดร อาร์ชาวิน กับ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ ยืนคู่หัวหอก ขณะที่ทีมเยือนยังยึดทีมตัวจริงจากเกมชนะเอสโตเนียเป็นหลักโดยเปลี่ยนแปลงเพียงส่งโจลีออน เลสค็อตต์ลงยืนแบ๊กซ้ายแทนแอชลีย์ โคลที่เจ็บ ส่วนแดนกลางยังเป็น แกเร็ธ แบร์รี่คู่กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่รับบทกัปตันทีม ด้านคู่กองหน้าเป็นไมเคิ่ล โอเว่น กับ เวย์น รูนี่ย์ ครึ่งแรก น.27 รัสเซีย หวิดเบิกสกอร์ได้ก่อนเมื่อ คอนสแตนติน ซูเรียนอฟ ได้ซัดด้วยขวาตรงหน้ากรอบโทษบอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ พอล โรบินสัน ปัดได้ปลายมือ น.29 เป็นอังกฤษที่ได้ประตูนำไปก่อน 1-0 เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น เทกตัวโหม่งเช็ดให้ เวย์น รูนี่ย์ พักอกหนึ่งจังหวะแล้ววอลเลย์แสกหน้า วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ ตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด น.42 ทีมสิงโตคำรามมามีโอกาสอีกครั้งจากฟรีคิกระยะไกล 30 หลา รูนี่ย์ รับหน้าที่สังหารแต่ซัดข้ามคานออกไปทำให้จบครึ่งแรก อังกฤษ บุกมานำ รัสเซีย อยู่ 1-0 ครึ่งหลังน.50 อังกฤษ น่าได้ประตูที่ 2 อย่างยิ่งเมื่อ แกเร็ธ แบร์รี่ เปิดบอลจากด้านขวาเข้าไปในกรอบโทษบอลเลยไปที่เสาสอง สตีเว่น เจอร์ราร์ด วิ่งเข้าแปโล่งๆ ออกข้างไปอย่าง ไม่น่าเชื่อ น.54 สิงโตคำราม มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง คราวนี้ เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกด้านซ้ายเข้าไปในกรอบโทษ รูนี่ย์ โหม่งเช็ดต่อให้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ พุ่งชาร์จโดนปลายสตั๊ด แต่ กาบูลอฟ ก็ยังปัด ไว้ได้ น.62 หมีขาวมามีเสียวเหมือนกันเมื่อ อังเดร อาร์ชาวิน จ่ายหักข้อให้ ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ หลุดเข้ามาในเขตโทษ แต่ โซล แคมป์เบลล์ พุ่งเข้ามาชาร์จได้ทัน น.69 ในที่สุดเจ้าถิ่นก็ตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ ไปดึง ซูเรียนอฟ นอกเขตโทษแต่ซูเรียนอฟไปล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และ โรมัน ปาฟลุเชนโก้ หัว หอกตัวสำรองรับหน้าที่สังหารไม่เหลือเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1 น.72รัสเซีย มาพลิกขึ้นนำเป็น 2-1 เมื่อ อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ ได้โอกาสยิงเต็มแรงจากนอกกรอบพอล โรบินสัน ปัดไปเข้าทาง ปาฟลุเชนโก้ ซ้ำไม่กี่หลาตุงตาข่าย น.83 อังกฤษ หวิดโดนอีกลูก จากลูกเตะมุมที่ บิลยาเล็ตดินอฟ เปิดเข้าไปหน้าประตูไมกาห์ ริชาร์ดส์ เตะสกัดวืดบอลไปโดนขาริโอ เฟอร์ดินานด์ เด้งเฉียดเสาไปนิดเดียว ช่วงเวลาที่เหลืออังกฤษทวงประตูตีเสมอไม่ได้ทำให้จบเกม รัสเซีย พลิกมาชนะ 2-1 ได้ลุ้นเข้ารอบต่อไปมี 21 แต้มตามหลังอังกฤษแค่ 2 แต้มแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วนอังกฤษ ต้องไปชนะโครเอเชียในนัดสุดท้ายสถานเดียว รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม รัสเซีย : วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, อเล็กซี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ, อิกอร์ เซมชอฟ, คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ, ยูริ เซียร์คอฟ, อังเดร อาร์ชาวิน, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ สำรอง : เวียเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ, เดนิส โคโลดิน, โรมัน ชิโรคอฟ, ดมิทรี ตอร์บินสกี้, โรมัน พาฟลูเชนโก้, พาเวล โพเกรบเนียค, ดมิทรี ซีเชฟ อังกฤษ : พอล โรบินสัน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โซล แคมป์เบลล์, โจลีออน เลสค็อตต์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, โจ โคล, เวย์น รูนี่ย์, ไม เคิ่ล โอเว่น สำรอง : เดวิด เจมส์, นิคกี้ ชอรี่ย์, ลุค ยัง, ฟิล เนวิลล์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สจ็วร์ต ดาวนิ่ง, ปีเตอร์ เคร้าช์ ผู้ตัดสิน : หลุยส์ เมดิน่า คันตาเลโญ่ (สเปน) ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-001.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สิงโตเขี้ยวหักหมีขาวพลิกตะปบ 2-1 คัดยูโร 2008 “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เขี้ยวหักพลิกกลับมาพ่าย “หมีขาว” รัสเซีย 1-2 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 รอบคัดเลือก กลุ่มอี ที่กรุงมอสโค เมื่อคืนวันพุธที่ 17 ตุลาคม 2550             ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 รอบคัดเลือก กลุ่มอี       รัสเซีย 2-1 อังกฤษ       กุส ฮิดดิงก์ นำพลพรรค “หมีขาว” รัสเซีย เปิดลุซห์นิกี้ สเตเดี้ยม สนามหญ้าเทียมทำศึกยูโร 2008 รอบคัดเลือก นัดชี้ชะตากลุ่มบีกับ อังกฤษ โดยนัดนี้เจ้าบ้านขาด วลาดิเมียร์ บริสตอฟ และอีวาน ซาเอนโก้ สองตัวหลักที่บาดเจ็บ แต่ก็มี อังเดร อาร์ชาวิน และอเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ เป็นความหวังในเกมรุก ด้าน สตีฟ แม็คคลาเรน พาทัพ “สิงโตคำราม” มาเยือนกรุงมอสโค โดยปราศจาก จอห์น เทอร์รี่ และแอชลี่ย์ โคล ที่เจ็บทำให้ต้องหยอด โจลีน เลสค็อตต์ ลงมาช่วยเกมรับ ขณะที่แดนกลางและหน้ายังเป็นผู้เล่นชุดหลักจากเกมถล่ม เอสโตเนีย 3-0 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์       เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มเกมของผู้ตัดสินชาวสเปนดังขึ้น รัสเซีย ไม่พูดพร่ำทำเพลงเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกใส่ อังกฤษ ทันทีเนื่องจากนัดนี้ “หมีขาว” ต้องการเปิดบ้านเก็บสามแต้มเพื่อต่ออายุการลุ้นเข้าสู่รอบสุดท้าย แต่ผ่านไป 15 นาที ทีมเยือนยังขึงเกมรับกันได้ดีและเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดในกรอบโทษแต่บอลไปติดบล็อก อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ ออกหลังไป             ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก รัสเซีย ยังพยายามเดินเกมบุกแต่ยังเจาะไม่เข้า นาทีที่ 25 ทีมเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ คอนสแตนติน ซูริอานอฟ ลากขึ้นมาจากแดนกลางก่อนตัดสินใจสับด้วยขวาจากระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งแรงไปกระแทกเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่อีกสี่นาทีถัดมากลายเป็น อังกฤษ ที่ทะยานนำ 1-0 เมื่อ ไมเคิล โอเว่น โหม่งเช็ดต่อมาให้ รูนี่ย์ พักอกก่อนอัดด้วยขวาในกรอบโทษส่งบอลพุ่งผ่าน วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ เข้าไปอย่างสวยงาม             พอเสียประตูไปลูกทีมของ กุส ฮิดดิงก์ เดินเกมรุกหนักขึ้นเป็นสองเท่าเนื่องจากต้องการถึงสองประตูในการพลิกสถานการณ์ แต่ทั้งลูกโด่งลูกสั้นที่พยายามดันเกมบุกกันขึ้นไปต้องเจอกับกำแพงเกมรับของ อังกฤษ ที่ลงไปตั้งรับกันเกือบทั้งหมด ทำให้จบ 45 นาทีแรก “สิงโตคำราม” รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้       เปิดฉากครึ่งหลัง ฮิดดิงก์ มีการปรับเกมให้เจ้าบ้านด้วยการส่ง ดมิทรี โทร์บินสกี้ ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกลงมาสร้างสรรค์เกมและก็ถอดเอา วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ ที่เป็นกองหลังออกมา แต่เป็น อังกฤษ ที่เกือบได้ประตูนำห่างในนาทีที่ 49 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี่ เปิดฟรีคิกลอยไปถึงเสาสองให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นมายิงโล่งๆ แต่กัปตันทีม “สิงโตคำราม” กลับแปบอลเข้าแค่ข้างตาข่าย จากนั้น รัสเซีย ได้ลุ้นเช่นกันเมื่อ ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ เกือบได้ยิงในกรอบโทษแต่โดน ไมกาห์ ริชาร์ดส แหย่ขามาสกัดเอาไว้ได้หวุดหวิด             หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเมื่อรูปเกมยังไม่ดีขึ้น “หมีขาว” ต้องขยับเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกคนส่ง โรมัน พาฟลูเชนโก้ ลงมาล่าตาข่ายแทน อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 69 ความพยายามกดดันของ รัสเซีย ก็มาสัมฤทธิ์ผล เมื่อ อังเดร อาร์ชาวิน แทงบอลให้ ซูริอานอฟ หลุดเข้าไปแต่โดน รูนี่ย์ ดึงล้มบริเวณเส้นโทษ หลุยส์ เมดิน่า คานเตเลโฮ เชิ้ตดำจากสเปนชี้เป็นลูกโทษและ พาฟลูเชนโก้ ก็รับหน้าที่สังหารไม่พลาด สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1             พอได้ประตูตีเสมอ รัสเซีย ดาหน้าบุกเป็นชุดและก็สามารถพลิกกลับมานำเป็น 2-1 ในนาทีที่ 73 เมื่อ อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ เติมขึ้นมาซัดด้วยขวา พอล โรบินสัน ปัดบอลไม่พ้นอันตราย พาฟลูเชนโก้ ปรี่เข้าไปทิ่มบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆ กว่า 8 หมื่นคนได้ดังกระหึ่มทีเดียว เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สตีฟ แม็คคลาเรน ต้องแก้เกมให้ อังกฤษ ด้วยการเทหน้าตักส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และปีเตอร์ เคร้าช์ ลงไปเล่นแทน เลสค็อตต์, โจ โคล และฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์             เข้าสู่ช่วงท้ายเกม อังกฤษ ต้องเป็นฝ่ายเดินเกมบุกอย่างหนัก รูนี่ย์ ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่โดน กาบูลอฟ ปัดพ้นสาออกมา จากลูกเตะมุมต่อเนื่อง โซล แคมป์เบลล์ เติมขึ้นมาโหนโขกโล่งๆ คนเดียวแต่บอลพุ่งข้ามคานออกไป หมดเวลาการแข่งขัน รัสเซีย พลิกกลับมาสยบ อังกฤษ 2-1 โอกาสเข้ารอบสุดท้ายเปิดกว้างสำหรับ “หมีขาว” ขณะที่ “สิงโตคำราม” ต้องลุ้นหนักจริงๆ ในการไปเล่นที่สวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย             โดยจากชัยชนะนัดนี้ส่งให้ รัสเซีย มีเพิ่มเป็น 21 คะแนนจากการลงสนาม 10 นัด รั้งอันดับ 3 ดังเดิมแต่มีโอกาสเข้ารอบเพิ่มขึ้นสูงทีเดียว โดยสองนัดสุดท้าย “หมีขาว” มีคิวเยือน อิสราเอล วันที่ 17 พฤศจิกายน ก่อนที่นัดสุดท้ายมีคิวไปเยือน อันดอร์รา ในอีกสี่วันให้หลัง ขณะที่ อังกฤษ เหลือเกมสุดท้ายที่จะเปิดนิวเวมบลีย์ชน โครเอเชีย จ่าฝูง ในวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งถ้าหาก “โครแอต” ที่มีอยู่ 26 คะแนนจาก 10 นัดบุกไปชนะ มาซิโดเนีย ในวันที่ 17 พ.ย.จะตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายทันที และ “สิงโตคำราม” ที่มีอยู่ 23 แต้มจาก 11 นัดต้องไปวัดแต้มกับ รัสเซีย ในท้ายที่สุดเอาเอง             รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม       รัสเซีย : วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ , วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ , เซอร์เก อิ๊กนาเซวิช , อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ , อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ , ยูริ เชียร์คอฟ , คอนสแตนติน ซูริอานอฟ , ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ , อีกอร์ เชมชอฟ , อังเดร อาร์ชาวิน , อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ             อังกฤษ : พอล โรบินสัน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , โซล แคมป์เบลล์ , โจลีน เลสค็อตต์ , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , แกเร็ธ แบร์รี่ , โจ โคล , เวย์น รูนี่ย์ , ไมเคิล โอเว่น         ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123444 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 50 16:49:54 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฝอยทองหืด!โด้จิ๋วซัดเฮน.90 โปรตุเกสปลดล็อกชนะสองนัดรวดหลังบุกไปเอาชนะคาซัคสถานชนิดเกือบม้วยหลังมายิงสองประตูในช่วง 8 นาทีสุดท้ายแถมยังเลิ่นล่อปล่อยให้เจ้าถิ่นมาตีไข่แตกช่วงทดเจ็บก่อนชนะไป 2-1 คาซัคสถาน 1-2 โปรตุเกส สนาม: ทีเซลทรัลนี่, อัลมาตี้ ประตู : 0-1 เอริซ่า มาคูคูล่า น.82,0-2 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.90,1-2 ดิมิทรี่ บียาคอฟ น.90+2 ทีมเยือนเรียกว่าทำเกมบุกได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นาที 16 เวโลโซ่ มิดฟิลด์เป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ปั่นฟรีคิก ชนิดที่ โลริย่า ต้องใช้เท้าเซฟออกไป และจากลูกเตะมุมบอมบ์เข้ามา คาร์วัลโญ่ ก็โขกข้ามไปอีก นาที 26 โรนัลโด้ โชว์ความเร็วให้เห็น ก่อนที่จะผ่านบอลเอาชนะสองกองหลัง แต่ทว่าไปติดตัวสุดท้าย ทำให้ไม่ถึงเพื่อนร่วมทีม อีก 4 นาทีต่อมา มานิเช่ ซัดไกลระยะ 30 หลา บอลพุ่งตรงกรอบเล่นเอาลูกนี้ โลริย่า ต้องปัดข้ามคานออกไป ชนิดที่น่าจะเป็นประตู คาซัคสถาน แทบจะหาโอกาสทดสอบ ริคาร์โด้ ไม่เจอเลย นาที 38 ควาเรสม่า กึ่งยิงกึ่งปั่นด้วยข้างเท้าด้านนอกเข้ามา แต่ลูกนี้ โลริย่า รับกินสบายๆ ก่อนเข้าไปพักนาทีเดียว เป็นจังหวะทิ้งทวนของ เจ้าบ้าน เมื่อ คูชาม่า ได้ฟรีคิก ระยะ 40 หลา แต่ปราการหลัง คาซัคสถาน ที่วิ่งใส่เต็มข้อ ลูกดันเหินโด่งออกไปเยอะ จบ 45 นาทีแรก เกมยังเสมอ 0-0 กลับมาครึ่งหลัง ควาเรสม่า ที่คืนนี้โชว์ฟอร์มได้เด่น แต่เหลือเพียงจังหวะสุดท้ายเท่านั้นที่ยังไม่ได้ผล นาที 49 เวโลโซ่ ตักบอกไปให้ คาร์วัลโญ่ ขึ้นโขก แต่ลูกลอยออกหลังไร้ทิศทาง ก่อนหมดเวลา 8 นาทีโปรตุเกส มาคลายความกดดัน ด้วยการได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก จาก มาคูคูล่า ที่รับลูกที่ ควาเรสม่า ผ่านมาให้ ก่อนจะโขกเข้าไปตุงตาข่าย และนาทีสุดท้าย ทีมเยือน มาได้ประตูหนีไปเป็น 2-0 จาก คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ประสานงานกับ นานี่ อย่างสวยงาม ก่อนที่ปีกจอมสับ จะยิงผ่านมือ โลริย่า เข้าไป แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 คาซัคสถาน มาทวงคืนได้จาก ดิมิทรี่ บียาคอฟ ที่ตามเข้าไปโขก หลังจากจังหวะแรก ยิงไปโดน ริคาร์โด้ เซฟเอาไว้ได้ จบเกม โปรตุเกส เฉือนชนะไปแบบหืดจับ 2-1 แต่โปรแกรมนัดสุดท้ายขอชนะหนึ่งเสมอหนึ่งก็จะตบเท้าเข้ารอบสุดท้ายแน่นอน รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม คาซัคสถาน : โลริย่า,สมาคอฟ,คุชม่า,ซัลมาแกมเบตอฟ,ไอริสเมตอฟ,คาร์โปวิช,สคอริคห์,ลาริน,ไซมาสคาลิเอฟ,บียาคอฟ,ออสตาเปนโก้ โปรตุเกส : ริคาร์โด้,มิเกล,ริคาร์โด คาร์วัลโญ่,บรูโน่ อัลเวส,เปาโล แฟร์ไรร่า,เดโก้,มิเกล เวโลโซ่,มานิเช่,ริคาร์โด้ ควาเรสม่า,คริสติอาโน่ โรนัลโด้,ฮูโก้ อัลไมด้า ผู้ตัดสิน :แยน เวเกรีฟ (ฮอลแลนด์) ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62329 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลฟุตบอลยูโร 2008 รอบคัดเลือก ประจำคืนวันพุธ กลุ่มเอ       คาซัคสถาน แพ้ โปรตุเกส 1-2       อาเซอร์ไบจาน แพ้ เซอร์เบีย 1-6       เบลเยียม ชนะ อาร์เมเนีย 3-0             กลุ่มบี       ยูเครน ชนะ หมู่เกาะ แฟร์โร 5-0       จอร์เจีย ชนะ สกอตแลนด์ 2-0       ฝรั่งเศส ชนะ ลิทัวเนีย 2-0             กลุ่มซี       มอลตา แพ้ มอลโดวา 2-3       ตุรกี แพ้ กรีซ 0-1       บอสเนีย แพ้ นอร์เวย์ 0-2             กลุ่มดี       ซาน มารีโน แพ้ เวลส์ 1-2       ไอร์แลนด์ เสมอ ไซปรัส 1-1       เยอรมนี แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-3             กลุ่มอี       รัสเซีย ชนะ อังกฤษ 2-1       มาซิโดเนีย ชนะ อันดอร์รา 3-0             กลุ่มเอฟ       เดนมาร์ก ชนะ ลัตเวีย 3-1       ลิกเทนสไตน์ ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0       สวีเดน เสมอ ไอร์แลนด์เหนือ 1-1             กลุ่มจี       ลักเซมเบิร์ก แพ้ โรมาเนีย 0-2       ฮอลแลนด์ ชนะ สโลวีเนีย 2-0       แอลเบเนีย เสมอ บัลแกเรีย 1-1 ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123444 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รูนี่ย์เผยสุดเศร้าหลังพ่ายหมีขาว เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวสำคัญของทีมชาติอังกฤษ ออกมาเผยว่า พลพรรคผู้เล่นสิงโตคำราม ต่างพากันเศร้าสลด หลังจากพ่ายต่อทีมชาติรัสเซีย อย่างพลิกล็อก 1-2 ทำให้โอกาสเข้ารอบสุดท้ายกลางปีหน้าเลือนรางเต็มที เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมชาติอังกฤษ ออกมายอมรับว่า พลพรรคทีมสิงโตคำราม ต่างตกอยู่ในอาการเศร้าสลด หลังความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติรัสเซีย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2008 รอบคัดเลือก ที่กรุงมอสโก เมื่อวันพุธที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในเกมนั้น ศูนย์หน้าวัย 22 ปี สามารถวอลเลย์ทำประตูสุดสวยให้สิงโตคำราม ออกนำ 1-0 ในช่วงครึ่งแรกของเกม ก่อนที่ โรมัน พาฟลูเชนโก้ กองหน้าตัวสำรองของ รัสเซีย จะลุกจากม้านั่งสำรองมาเหมายิงสองประตู ให้ทีมหมีขาวเก็บชัยชนะไปอย่างน่าตื่นเต้น และจากชัยชนะเกมนี้ ส่งผลให้โอกาสเข้าไปเล่นในศึกยูโร 2008 รอบสุดท้าย ของ รัสเซีย มีมากกว่า อังกฤษ ในทันที "มันเป็นเวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นในช่วงครึ่งเวลาหลัง ที่สมาธิของเราหลุดไป และมันมีราคาแพงมากสำหรับเรา เรากำลังเล่นดี และป้องกันได้ดีแท้ๆ แต่มันเป็นแค่การเสียสมาธิเพียงแค่ 2 จังหวะเท่านั้น" รูนี่ย์ กล่าวผ่าน สกาย สปอร์ตส์ รูนี่ย์ ยังหวังว่า ทีมชาติอิสราเอล จะสามารถช่วยหยุดยั้ง รัสเซีย ได้ ในเกมคัด ยูโร 2008 เกมต่อไป ซึ่งนับเป็นเพียงความหวังเดียวเท่านั้นของทีมสิงโตคำราม ในการผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ ออสเตรีย - สวิตเซอร์แลนด์ ในปีหน้า "ในตอนนี้ เราได้แต่หวังว่า อิสราเอล จะสามารถช่วยเราได้ ทุกๆ คนรู้สึกเสียใจมาก เราทุกคนต่างรู้สึกผิดหวัง และพากันตั้งความหวังว่า อิสราเอล จะช่วยเราบ้าง" ในจังหวะเสียประตูตีเสมอนั้น รูนี่ย์ เป็นผู้ทำพลาดไปทำฟาวล์ คอนสแตนติน ซูเรียนอฟ กองกลางหมีขาว แม้ว่าในจังหวะรีเพลย์ จะแสดงให้เห็นว่า เป็นการฟาวล์จากบริเวณนอกกรอบเขตโทษก็ตาม โดยดาวยิงปีศาจแดง ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ มันก็เป็นแค่จังหวะหนึ่งของเกม ซึ่งเขาวิ่งตัดเข้ามาทางด้านหลังผม ผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นบริเวณนอกกรอบเขตโทษนะ แต่ผู้ตัดสินก็ให้เป็นจุดโทษ" ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-018.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 16:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หมู-หัวขิงสุดเซ็งสิงโตขนร่วง เวย์น รูนี่ย์และสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดสองซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอังกฤษผิดหวังสุดๆหลังทีมกำลังส่อแววตกรอบและต้องยืมจมูกอิสราเอลหายใจแต่ที่ทั้งคู่เซ็งเหมือนกันคือจุดโทษอันน่ากังขานั่นเอง "เสียสมาธิสองครั้งส่งผลเสียหายต่อเกมเราทันที ผมคิดว่าจุดโทษของพวกเขายังไงก็ต้องเป็นนอกเขตแต่ผู้ตัดสินกลับให้เฉยเลย" "เราทุกคนผิดหวังกันมากแต่เราต้องหวังว่าอิสราเอลสามารถช่วยเราได้" ด้านสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดที่พลาดโอกาสทองหลังอังกฤษขึ้นนำ 1-0 ได้กล่าวอย่างผิดหวังว่า"เราวางแผนตามที่ต้องการไว้ เราทำให้พวกเขาไร้ไอเดียแต่อยู่ดีๆพวกเขาก็มาได้จุดโทษและมันทำให้เราหัวหมุนทันที" "เรากำลังเป็นฝ่ายครองเกมและครองบอลซะส่วนใหญ่ เราน่าชนะในเกมนี้จริงๆ" "เราพูดกันช่วงพักครึ่งว่า'รักษาคลีนชีตและเราจะผ่านเข้ารอบแน่'..." "ผมมีโอกาสทองตอนที่นำ 1-0 ซึ่งผมน่าจะทำได้แต่เราปล่อยให้พวกเขากลับสู่เกมและนั่นทำให้พวกเขาได้แรงโมเมนตั้มก่อนจะได้เม็ดสอง" "เรารู้ว่ามันจะเป็นเรื่องลำบากแน่แต่ตอนสกอร์ 1-1 พวกเขามีความมั่นใจจากจุดโทษและเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังคะนองนาและไล่กดดันเราอย่างหนัก" "พอลจะรู้สึกผิดกับประตูที่สองแต่เราคิดว่าลูกจุดโทษยังไงก็นอกเขต" "เวย์นยิงประตูให้เราขึ้นนำอย่างสุดยอดมากแต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้ว เราควบคุมอะไรไม่ได้อีกแล้ว" "อิสราเอลมีศักยภาพที่จะยื้อผลการแข่งขันแต่กับการที่พวกเขาไม่ได้ลุ้นเข้ารอบแล้วมันเลยกลายเป็นงานที่ลำบากไม่น้อย" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62319 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 “สตีวี่จี” ยืดอกรับผิด ทำหมูหกจน “สิงโต” ร่อแร่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางทีมชาติอังกฤษ ขอยืดอกรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะมีโอกาสที่จะยิงประตูให้ทีมนำห่างรัสเซีย 2-0 แต่ทำไม่ได้จนถูกลงโทษแพ้กลับบ้าน อันส่งผลเสียหายมหาศาลอาจจะอดไปโชว์ฝีเท้าในศึก ยูโร 2008 รอบสุดท้ายที่ ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์              เวย์น รูนีย์ ยิงให้ อังกฤษ ออกนำอย่างรวดเร็ว จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง เจอร์ราร์ด ได้โอกาสแปเน้นๆ แต่ว่าบิดข้อเท้ามากไปบอลเลยหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ รัสเซีย จะยิงแซงชนะไปในที่สุด 2-1 ทำให้เพิ่มโอกาสเข้ารอบสุดท้าย ส่วน “สิงโตคำราม” อาจจะตกรอบคัดเลือกแบบสุดช็อก              หลังเกม เจอร์ราร์ด ในฐานะกัปตันทีมแทน จอห์น เทอร์รี ออกมาเผยว่า “ผมมีโอกาสที่จะทำให้ทีมนำห่าง 2-0 ผมพยายามจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่มันก็ไม่และผมรู้สึกผิดหวังมาก แทบไม่อยากจะคิดเลยว่า ยูโร รอบสุดท้ายจะไม่มี อังกฤษ แต่ในฐานะนักเตะเราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน”              อังกฤษ อาจต้องนั่งเชียร์ฟุตบอลยูโร ช่วงกลางปีหน้าอยู่ที่บ้าน เพราะจ่าฝูง โครเอเชีย เก็บไปแล้ว 26 คะแนน จากการลงสนาม 10 นัดขออีกแต้มเดียวในสองนัดที่เหลือ ขณะที่ รัสเซีย แม้จะมีเพียง 21 คะแนน แต่ลงสนามน้อยกว่า อังกฤษ หนึ่งนัด ดังนั้น หาก “หมีขาว” เก็บชัย 2 นัดที่เหลือก็จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123746 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แม็คโบ้ยเปาทำสิงโตเจ๊งหวังแข้งยิวช่วยหยุดหมี "บิ๊กแม็ค" สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ถึงกับควันออกหู หลังถูก รัสเซีย แซงกลับมาชนะ 2-1 และพลิกสถานการณ์มีโอกาสเข้ารอบมากกว่า "สิงโตคำราม" จวกกรรมการเละว่าตัดสินผิดพลาด โดยเฉพาะกรณีให้จุดโทษกับเจ้าบ้าน ทั้งที่ฟาวล์นอกเขตโทษ ขณะเดียวกันไม่โวยใส่ลูกทีม ชมทำหน้าที่กันเต็มที่แล้ว พร้อมมั่นใจ อิสราเอล จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเซฟชีวิต สตีฟ แม็คคลาเรน ผู้จัดการทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไม่รอช้า ออกมาสับเละ หลุยส์ เมดิน่า คานเตเลโฆ กรรมการชาวสเปน ที่ให้จุดโทษน่ากังขากับ รัสเซีย ในเกมที่ อังกฤษ บุกไปแพ้ 1-2 ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" รอบคัดเลือก กลุ่ม อี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชี้เป็นจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ อังกฤษ เป็นฝ่ายแพ้ และผลักไปยืนอยู่ปากเหว ในเวลานี้ อังกฤษ ต้องการชัยชนะนัดนี้ เพื่อการันตีผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมปีหน้า และดูเหมือนทุกอย่างเข้าทาง เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ซัดให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก และเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่านานถึงชั่วโมง กระทั่งจุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นในนาทีที่ 69 เมื่อ รูนี่ย์ ไปทำฟาวล์ คอสแตนติน ซีร์ยานอฟ บริเวณกรอบเขตโทษ แต่กรรมการไม่รอช้า เป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ สังหารเข้าไป ก่อนที่คนเดิมจะซัดประตูที่สอง จากจังหวะเข้าซ้ำในอีก 4 นาทีถัดมา และกลายเป็นประตูชัยของ รัสเซีย ในที่สุด บิ๊กแม็ค ที่ยังอารมณ์ค้างกับการตัดสินของกรรมการ กล่าวหลังเกมว่า "เราเกือบชนะอยู่แล้ว มันเคยอยู่ในอุ้งมือเรา แต่สุดท้ายต้องหลุดมือไป อันเนื่องมาจากการตัดสินที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ของกรรมการที่ให้จุดโทษ มันดูแย่มากๆ เพราะชัดเจนว่าเป็นนอกเขตโทษ ไลน์แมนเองก็ไม่ได้ให้เป็นจุดโทษ มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดล้วนๆของกรรมการในสนาม ทั้งที่ตัวเขาเองอยู่ไกลจากเหตุการณ์ และการตัดสินลักษณะนี้แหละที่เป็นตัวพลิกผันเกม" "เราดูเล่นอย่างสบายใจหลังขึ้นนำ นักเตะทุกคนเล่นดูดีไปหมด แถมเกมรับก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ที่สำคัญนักเตะ รัสเซีย เองดูเหมือนจะหมดไอเดียในการเข้าทำ กระทั่งจุดเปลี่ยนมาเกิดที่ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษ จากนั้นเกมเราก็รวน และเสียขบวนตลอด 4 นาทีเต็ม ซึ่งก็โชคร้ายที่เราต้องเสียประตูที่สอง" นอกจากนี้ กุนซือสิงโตคำราม ยังปกป้องลูกทีม และไม่โทษเรื่องพื้นสนามที่เป็นหญ้าเทียม โดยกล่าวว่า "ผมไม่สามารถกล่าวโทษนักเตะได้เลย เกี่ยวกับการเล่นและความทุ่มเทในเกม ทุกคนมุ่งมั่นและทำหน้าที่ตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว เรารู้ตั้งแต่ก่อนมาว่าต้องเน้นเกมรับให้เหนียวแน่น ซึ่งว่าไปแล้ว เราเองทำได้ดีตามที่ต้องการแล้ว ส่วนเรื่องเกมบุก เราสร้างโอกาสได้มาก และผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะเป็นฝ่ายแพ้นัดนี้" "ผมไม่โทษเรื่องพื้นสนามเลย แม้พวกเขาจะมีโอกาสเตรียมตัวและคุ้นเคยมากกว่า และผมก็ไม่สามารถโทษนักเตะตัวเองเช่นกัน" ความพ่ายแพ้นัดนี้ ทำให้ อังกฤษ เหลือเกมเตะอีกเพียงนัดเดียว ที่จะเล่นในบ้านพบกับ โครเอเชีย ในเดือนหน้า ทว่า รัสเซีย ยังเหลืออีก 2 เกม โดยนัดรองสุดท้ายจะไปเยือน อิสราเอล ในวันที่ 17 พ.ย. ก่อนไปเยือน อันดอร์รา ในนัดสุดท้าย อีก 4 วันให้หลัง ซึ่งหาก รัสเซีย เก็บชัยชนะรวดทั้ง 2 เกม จะทำให้ อังกฤษ พลาดไปเล่นรอบสุดท้ายทันที แม้จะชนะ โครเอเชีย ในบ้านก็ตาม อย่างไรก็ดี บิ๊กแม็ค ไม่ได้ถอดใจ พร้อมเชื่อมั่นว่า ลูกทีมของ กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือรัสเซีย จะสะดุดเช่นกันในเกมนัดหน้า เนื่องจากคู่ต่อกรคือ อิสราเอล ที่เล่นในบ้านได้ดีไม่เป็นรองใคร "เราตกอยู่ในที่นั่งลำบาก มันอยู่นอกเหนืออำนาจในมือตัวเอง แต่จำเป็นต้องยืมมือคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่า เราหวังว่า อิสราเอล จะช่วยทำหน้าที่แทนในเกมที่พบกับ รัสเซีย ในเดือนหน้า จากนั้นเราค่อยมาดูอีกครั้งว่าจะเป็นไง แต่ที่แน่นอนคือ เรายังไม่ยอมแพ้ สปิริตในห้องแต่งตัวยังคงดีเยี่ยม เราจะต่อสู้จนถึงหยดสุดท้าย" "เกมที่บ้าน อิสราเอล ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะชนะออกมา พวกเขามีสถิติที่ดีเยี่ยมในบ้าน และนั่นน่าจะสร้างความหนักใจกับ รัสเซีย พอสมควร เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายที่ต้องการชัยชนะ งานหนักยังรอคอย รัสเซีย จนกว่าจะมีการตัดสินเด็ดขาดในเกมสุดท้าย" บิ๊กแม็ค ทิ้งท้าย ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-019.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ‘บิ๊กแม็ก’ โวยเชิ้ตดำเป่าจุดโทษมรณะทำสิงโตพ่ายหมี สตีฟ แม็กคลาเรน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกโรงโวยผู้ตัดสินชาวสเปนที่เป่าลูกจุดโทษให้ รัสเซีย ซึ่งนั่นทำให้ “หมีขาว” พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ “สิงโตคำราม” 2-1 ในศึกฟุตบอลยุโร 2008 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวาน       อังกฤษอยู่ในสถานการณ์หมิ่นเหม่ต่อการวืดไปลุยฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 รอบสุดท้ายที่สวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย หลังบุกไปพ่าย รัสเซีย 1-2 บนสังเวียนแข้งหญ้าเทียมที่ลุซห์นิกี้ สเตเดี้ยม ในกรุงมอสโค เมื่อคืนวันพุธที่ 17 ตุลาคม 2550              โดยนัดดังกล่าว เวย์น รูนีย์ ยิงให้ “สิงโตคำราม” ออกนำก่อน 1-0 ในครึ่งเวลาแรก แต่นาทีที่ 69 รัสเซียมาได้ลูกจุดโทษปัญหา เนื่องจากรูนีย์เสียบสกัด คอนสแตนติน ซูริอานอฟ จากนอกกรอบโทษแต่มิดฟิลด์ “หมีขาว” พุ่งถลาไปล้มในเขตโทษซึ่ง หลุยส์ เมดินา คานเตเลโฮ เชิ้ตดำในเกมนี้เป่ายกประโยชน์ให้เจ้าถิ่นนำมาซึ่งประตูตีเสมอ ก่อนที่ โรมัน พาฟลูเชนโก จะเบิ้ลชัยในอีกสี่นาทีถัดมาช่วยให้เจ้าบ้านพลิกกลับมาชนะ 2-1              ภายหลังการแข่งขัน สตีฟ แม็กคลาเรน ออกมาเปิดปากจวกการตัดสินใจของ คานเตเลโฮ “เมื่อเราได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งที่เกิดขึ้นเพราะนั่นเป็นการฟาวล์จากนอกกรอบโทษอย่างชัดเจน ที่สำคัญผู้ช่วยผู้ตัดสินควรช่วยผู้ตัดสินที่ยืนอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ”              “เรื่องที่เกิดขึ้นแน่นอนว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนของเกม การตั้งรับที่เหนียวแน่นของเรามาเสียสมาธิไปในทันที และการเสียสองประตูในช่วงสี่นาทีถือเป็นเรื่องที่โชคร้าย ผมไม่โทษผู้เล่นเพราะมันไม่ใช่ความผิดพลาดของพวกเขา อันที่จริงผมไม่เชื่อว่าเราจะแพ้แต่เมื่อจบเกมเรากลับต้องออกจากสนามในฐานะผู้ปราชัย” บิ๊กแม็กกล่าวตบท้าย              ด้าน กุส ฮิดดิงก์ กุนซือชาวดัตช์ของรัสเซีย ออกมาเผยบ้าง “ผมรู้สึกว่าถ้าเรากดดันอังกฤษไปเรื่อยๆ จะได้ประตูตีเสมอก่อนพักครึ่ง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม ลูกทีมของผมทำงานของตัวเองสำเร็จและผมก็ภูมิใจกับพวกเขา แต่งานยังไม่ลุล่วงเสียทีเดียว รัสเซียยังมีเกมสำคัญกับอิสราเอล และอันดอร์รา รออยู่”              ชัยชนะของรัสเซียทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนนจากการลงสนาม 10 นัดตามหลังโครเอเชีย จ่าฝูงอยู่ 5 แต้มโดยแข่งเท่ากัน ขณะที่อังกฤษรั้งรองจ่าฝูงแต่มีอยู่ 23 คะแนนจากการลงเล่น 11 นัด              โดยโปรแกรมที่เหลือของทั้ง 3 ทีมที่มีลุ้นเข้ารอบ โครเอเชีย มีคิวเยือนมาซิโดเนีย วันที่ 17 พฤศจิกายน ก่อนที่อีกสี่วันให้หลังจะไปเยือนอังกฤษ แต่ถ้าสองนัดดังกล่าว “โครแอต” เก็บได้เพียงแต้มเดียวก็จะตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายทันที ขณะที่ รัสเซีย ถ้าเก็บ 6 แต้มเต็มจากอิสราเอล และอันดอร์รา ก็จะติดสอยห้อยตามโครเอเชีย ไปลุยยูโร 2008 รอบสุดท้ายเช่นกัน โดยไม่ต้องดูผลอังกฤษ กับโครเอเชีย ในแมตช์สุดท้ายของกลุ่มอี ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123451 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บิ๊กแม็คจวกจุดโทษ"อัปยศ" สตีฟ แม็คคลาเรนกุนซือเก้าอี้ร้อนจวกหลุยส์ เมดิน่า คาตาเลโฆผู้ตัดสินชาวสเปนที่ปากเบาเป่าจุดโทษให้รัสเซียทั้งๆที่เวย์น รูนี่ย์ทำฟาว์ลนอกเขตโทษส่งผลทำให้สถานการณ์ของอังกฤษส่อแววตกรอบหาก"หมีขาว"เอาชนะในอีกสองเกมที่เหลืออยู่ "หมูพลิ้ว"ซึ่งยิงประตูให้อังกฤษออกนำตั้งแต่ครึ่งแรกได้ช่วยวิ่งไล่ก่อนไปเหนี่ยวคอนสแตนติน ซูเรียนอฟก่อนเข้าเขตโทษแต่ผู้ตัดสินชาวสเปนรีบเป่าชี้เป็นจุดโทษและกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมเยือนต้องพ่ายแพ้อย่างสุดช็อก "ชัยชนะอยู่ในมือเรา เราคว้ามันแน่นหนึบแต่ลงท้ายต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ผมได้ดูภาพช้าจังหวะจุดโทษแล้วและเป็นความอัปยศอย่างที่สุด มันนอกกรอบชัดๆ" "ไลน์แมนไม่ส่งสัญญาณว่าเป็นจุดโทษแต่ผู้ตัดสินที่อยู่ตั้งไกลกลับให้หน้าตาเฉย มันเปลี่ยนเกมการแข่งขันอย่างไม่ต้องสงสัย" "ก่อนหน้านี้เราเล่นสบายๆ พวกเขาหมดไอเดียเข้าทำ แต่หลังจากเสียจุดโทษมันก็เป็นช่วงเวลาสี่นาทีที่ย่ำแย่และโชคไม่ดีที่เราต้องมาโดนเม็ดที่สอง" "เราต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทั้งๆที่หลังผ่านไป 70 นาทีผมไม่คิดว่าเราจะแพ้เลยด้วยซ้ำ" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62315 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 1.25 พันล้านปอนด์ ที่หายไปเพราะ "สิงโตคำราม" หลังจากบุกไปแพ้ รัสเซีย 1-2 ทำให้ อังกฤษ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะตกรอบคัดเลือก ยูโร 2008 อดไปโชว์ฝีเท้าที่ สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ในช่วงกลางปีหน้า ซึ่งแน่นอนจะส่งผลมหาศาลถึงเรื่องธุรกิจที่อาจจะสูญเงินถึง 1.25 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 87,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว              สื่อในเมืองผู้ดีได้ให้ เอียน คิง บรรณาธิการด้านธุรกิจ วิเคราะห์สถานการณ์หาก อังกฤษ ไม่ได้ร่วมโม่แข้งศึก ยูโร 2008 แน่ๆ ที่จะสูญเสียรายได้คือ "อัมโบร" ผลิตภัณฑ์กีฬาผู้สนับสนุนชุดแข่งของ "สิงโตคำราม" จะชวดขายชุดแข่งใหม่ เงินราว 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 700 ล้านบาท) ก็จะหายวับไปกับตา              รวมถึง "เทสโก้" ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการก็คงจะผิดหวังไม่น้อย นอกจากนี้ยังนับรวมถึงบรรดาเงินโบนัส แต่ละรอบที่ทางสมาคมฟุตบอลเมืองผู้ดี จะต้องออกมาอัดฉีดให้กับนักเตะอีกด้วย              นอกจากนี้ยังมีเงินจากบรรดาแฟนบอลทั่วโลกที่จะต้องไปสะพัดอยู่ที่ สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็น ผับ, ร้านอาหาร, เบียร์, การขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางทีวี, สายการบินและการเดินทางในรูปแบบต่างๆ และสุดท้ายก็คือในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123780 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โด้จิ๋วยิ้มร่าฝอยทองเก็บชัยสวย คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ที่วันนี้ได้โอกาสสวมปลอกแขนนำทัพทีมฝอยทองด้วย ก็ออกมายอมรับว่าสามแต้มในเกมไล่เฉือนคาซัคสถาน 2-1 ทำให้โอกาสเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2008 เริ่มสดใสขึ้นมาบ้างแล้ว "เรารู้แต่แรกแล้วว่าเกมนี้จะไม่ง่ายแน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ นักเตะคาซัคสถานวิ่งพล่านตลอดทั้งเกม ซึ่งมันสร้างปัญหาให้กับเรามากๆ" "แต่พวกเราก็ไม่ยอมแพ้ และแสดงให้เห็นว่าพละกำลังเราก็ไม่ได้เป็นรองแต่อย่างใด เราวิ่งสู้ และสุดท้ายก็ได้จังหวะจบสกอร์" "สามแต้มในเกมนี้ มันทำให้เราอยู่ในตำแหน่งดีมากๆที่จะเข้ารอบต่อไป แต่ยังไงเสีย เราก็ห้ามประมาทเด็ดขาด สองเกมข้างหน้าที่จะได้เล่นในบ้านเราต้องเน้นสุดๆ" "นอกจากชัยชนะที่งดงามแล้ว ผมก็ขอแสดงความดีใจกับมาคูคูล่าด้วยนะ เราสองคนเคยเล่นด้วยกันมาก่อนในชุด U-21 ดังนั้นการที่เห็นเขายิงลูกแรกในนามทีมชาติได้ มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ" อนึ่งในเกมนี้ โรนัลโด้ยิงประตูได้ด้วย ซึ่งเป็นประตูที่ 23 แล้วในนามทีมชาติ ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62324 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชี้ใส่ปลอกแขนเพิ่มความมั่นใจ นอกจากนั้นทางดาวเตะแมนฯยูไนเต็ด ยังออกมาเปิดเผยด้วยว่า เขาไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อยที่ถูกยกให้เป็นกัปตันทีมในแมตช์ลงบู๊กับคาซัคสถาน "ผมไม่รู้สึกกดดันเลยนะ ที่ถูกยกให้เป็นกัปตันในเกมนี้ ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกดีมากๆด้วยซ้ำ" "การเก็บชัยชนะได้โดยคุณเป็นกัปตันทีม มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ" อนึ่งเกมแรกที่คริสติอาโน่ โรนัลโด้ลงสนามให้ทีมชาติโปรตุเกสก็คือการลงปะทะกับคาซัคสถาน จากนั้นสี่ปีให้หลังเกมแรกที่ได้เป็นกัปตันทีม ก็ลงเจอกับคาซัคสถานเช่นกัน ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62324 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สรุปสถานการณ์เป็น-ตาย “ยูโร 2008” รอบคัดเลือก สรุปผลการแข่งขัน-สถานการณ์ตารางคะแนน-โปรแกรมการแข่งขันของแต่ละกลุ่ม กลุ่มเอ       คาซัคสถาน แพ้ โปรตุเกส 1-2       อาเซอร์ไบจาน แพ้ เซอร์เบีย 1-6       เบลเยียม ชนะ อาร์เมเนีย 3-0             สถานการณ์กลุ่มนี้คงลุ้นเข้ารอบกันถึงนัดสุดท้าย เนื่องจากยังมีถึง 4 ทีมที่มีสิทธิแย่งชิงตั๋ว 2 ใบในการไปเล่นรอบสุดท้าย โดยผ่านพ้นไป 12 นัด โปแลนด์ นำเป็นจ่าฝูงมีอยู่ 24 คะแนน ตามมาด้วย โปรตุเกส (23 แต้ม) เซอร์เบีย (20 แต้ม) และฟินแลนด์ (20 แต้ม)             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       เซอร์เบีย - คาซัคสถาน       ฟินแลนด์ - อาเซอร์ไบจาน       โปรตุเกส - อาร์เมเนีย       โปแลนด์ - เบลเยียม       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       อาเซอร์ไบจาน - เบลเยียม       เซอร์เบีย - โปแลนด์       โปรตุเกส - ฟินแลนด์       อาร์เมเนีย - คาซัคสถาน กลุ่มบี       ยูเครน ชนะ หมู่เกาะแฟโร 5-0       จอร์เจีย ชนะ สกอตแลนด์ 2-0       ฝรั่งเศส ชนะ ลิทัวเนีย 2-0             ชัยชนะของ ฝรั่งเศส ทำให้ทัพ “ตราไก่” เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนน จากการลงสนาม 11 นัด ก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงแทน สกอตแลนด์ หลังจากที่ “วิสกี้” พ่ายจอร์เจีย และยังคงมี 24 แต้มเท่าเดิมจากการลงเล่น 11 นัด ทำให้ “แชมป์โลก” อิตาลี ที่มีอยู่ 23 คะแนน แต่เหลือโปรแกรมในมืออีก 2 นัดมีลุ้นเข้ารอบสุดท้ายอย่างเต็มตัว             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       ลิทัวเนีย - ยูเครน       สกอตแลนด์ - อิตาลี       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       อิตาลี - หมู่เกาะแฟโร       จอร์เจีย - ลิทัวเนีย       ยูเครน - ฝรั่งเศส กลุ่มซี       มอลตา แพ้ มอลโดวา 2-3       ตุรกี แพ้ กรีซ 0-1       บอสเนีย แพ้ นอร์เวย์ 0-2             การบุกไปคว้าชัยนัดสำคัญเหนือ ตุรกี ทำให้ “แชมป์เก่า” กรีซ ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว หลังจากเก็บไป 25 คะแนน จากการลงสนาม 10 นัด ส่วนอีกหนึ่งโควตาที่เหลือจะเป็นการขับเคี่ยวกันใน 2 นัดสุดท้ายระหว่าง นอร์เวย์ ที่เก็บไปแล้ว 20 แต้ม และตุรกี ที่มีอยู่ 18 คะแนน             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       มอลโดวา - ฮังการี       กรีซ - มอลตา       นอร์เวย์ - ตุรกี       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       ตุรกี - บอสเนีย       ฮังการี - กรีซ       มอลตา - นอร์เวย์ กลุ่มดี       ซาน มารีโน แพ้ เวลส์ 1-2       ไอร์แลนด์ เสมอ ไซปรัส 1-1       เยอรมนี แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-3             สาธารณรัฐเช็ก บุกไปถล่ม เยอรมนี ทำให้ทั้งคู่จูงมือกันเข้าสู่รอบสุดท้ายที่สวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย แน่นอนแล้ว โดยโปรแกรมที่เหลืออีกทีมละ 2 นัด หากทั้งคู่ยังมีแต้มเท่ากันจะเป็น สาธารณรัฐเช็ก ที่คว้าแชมป์กลุ่ม เนื่องจากมีผลงานเฮดทูเฮดที่ดีกว่าเยอรมนี โดยตอนนี้ทั้งคู่มีอยู่ 23 คะแนนเท่ากัน             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       เวลส์ - ไอร์แลนด์       เยอรมนี - ไซปรัส       สาธารณรัฐเช็ก - สโลวาเกีย       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       ไซปรัส - สาธารณรัฐเช็ก       เยอรมนี - เวลส์       ซาน มารีโน - สโลวาเกีย กลุ่มอี       รัสเซีย ชนะ อังกฤษ 2-1       มาซิโดเนีย ชนะ อันดอร์รา 3-0             ความพ่ายแพ้ของ อังกฤษ อาจส่งผลให้ “สิงโตคำราม” ต้องนั่งเชียร์ฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย ช่วงกลางปีหน้าอยู่ที่บ้าน เพราะจ่าฝูงโครเอเชียที่เก็บไปแล้ว 26 คะแนน จากการลงสนาม 10 นัดขออีกแต้มเดียวในสองนัดที่เหลือ ขณะที่รัสเซียแม้จะมีเพียง 21 คะแนน แต่ลงสนามน้อยกว่า อังกฤษ หนึ่งนัด ดังนั้น หาก “หมีขาว” เก็บชัย 2 นัดที่เหลือก็จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       มาซิโดเนีย - โครเอเชีย       อิสราเอล - รัสเซีย       อันดอร์รา - เอสโตเนีย       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       อังกฤษ - โครเอเชีย       อิสราเอล - มาซิโดเนีย       อันดอร์รา - รัสเซีย กลุ่มเอฟ       เดนมาร์ก ชนะ ลัตเวีย 3-1       ลิกเทนสไตน์ ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0       สวีเดน เสมอ ไอร์แลนด์เหนือ 1-1             แม้ สวีเดน จะเก็บได้เพียงแต้มเดียวในนัดล่าสุด แต่ขุนพล “ไวกิงส์” นำเป็นจ่าฝูงมีอยู่ 23 คะแนนจากการลงสนาม 10 นัด ขออีกแต้มเดียวจากสองนัดที่เหลือก็จะเข้ารอบสุดท้ายทันที ขณะที่ สเปน รองจ่าฝูงมีตุนในกระเป๋าอยู่ 22 แต้มจากการลงเล่นเท่ากัน ขณะที่ เดนมาร์ก และไอร์แลนด์เหนือ ที่มีเท่ากันทีมละ 17 คะแนน ต้องลุ้นปาฏิหาริย์หากหวังเข้ารอบสุดท้าย             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       สเปน - สวีเดน       ไอร์แลนด์เหนือ - เดนมาร์ก       ลัตเวีย - ลิกเทนสไตน์       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       สเปน - ไอร์แลนด์เหนือ       เดนมาร์ก - ไอซ์แลนด์       สวีเดน - ลัตเวีย กลุ่มจี       ลักเซมเบิร์ก แพ้ โรมาเนีย 0-2       ฮอลแลนด์ ชนะ สโลวีเนีย 2-0       แอลเบเนีย เสมอ บัลแกเรีย 1-1             การที่ บัลแกเรีย ทำได้เพียงผลเสมอส่งให้ โรมาเนีย ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายแน่นอนแล้วหลังจาก 10 นัดเก็บไป 26 คะแนน ส่วน ฮอลแลนด์ รองจ่าฝูงมีสิทธิได้เฮเช่นกัน เมื่อเก็บได้แล้ว 23 แต้ม ขณะที่ บัลแกเรีย ปัจจุบันมีอยู่ 19 คะแนน ต้องลุ้นคว้าชัยในสองนัดที่เหลือ พร้อมกับแช่งให้ “อัศวินสีส้ม” พลาดได้เพียงสองแต้มจาก 2 นัดสุดท้าย             โดยโปรแกรมในวันคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน       บัลแกเรีย - โรมาเนีย       แอลเบเนีย - เบลารุส       ฮอลแลนด์ - ลักเซมเบิร์ก       ส่วนโปรแกรมนัดสุดท้ายคืนวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน       เบลารุส - ฮอลแลนด์       โรมาเนีย - แอลเบเนีย       สโลวีเนีย - บัลแกเรีย ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000123462 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แฟนผีเฮฮาร์โก้ลั่นฟิตปั๋งพร้อมลงซดวิลล่าเสาร์นี้ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์จอมขยัน ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศ พร้อมแสดงให้เห็นว่า คู่ควรกับการเล่นให้ "ปีศาจแดง" หลังเรียกความฟิตจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า พร้อมกลับมาลงสนามช่วยทีมบุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ในวันเสาร์นี้แล้ว โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ขอ งสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่ง พรีเมียร์ลีก กล่าวอย่างมั่นใจว่า ตอนนี้เรียกความฟิตกลับมาเต็มถังแล้ว และพร้อมจะพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า คู่ควรต่อการสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" หลังถึงตอนนี้ยังไม่ได้ทำผลงานเท่าไหร่ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค อดีตต้นสังกัดยักษ์ใหญ่ในเยอรมัน มิดฟิลด์วัย 26 ปี ย้ายมาจาก "เสือใต้" ด้วยค่าตัวกว่า 17 ล้านปอนด์ (ราว 1,190 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจาก ยูไนเต็ด ตามจีบมาเป็นปีๆ หรือนับตั้งแต่จบ ฟุตบอลโลก 2006 ที่ เยอรมัน และ "ฮาร์โก้" ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อเล่นได้อย่างโดดเด่น เพียงแต่เขาได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น โดยเกมสุดท้ายคือนัดเปิดบ้านทุบ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ล่าสุด ฮาร์กรีฟส์ ซึ่งยืนยันว่าฟิตพอบู๊ แอสตัน วิลล่า วันเสาร์นี้ และจะช่วยทีมบุกไปดวลแข้งกับ ดินาโม เคียฟ สัปดาห์หน้าแน่ กล่าวว่า "ผมหวังว่าผมจะหมดปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บแล้ว ผมพลาดลงสนามพอแล้ว ผมอยู่ในวงการมานาน และรู้ว่าอาการเจ็บมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล แต่ผมพยายามรอบคอบมากขึ้น เพราะผมก็อายุมากขึ้นไปเรื่อยๆ" ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-024.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เตเบซเสียดายยังยิงไม่ได้ คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงหุ่นมะขามข้อเดียวปลาบปลื้มหลัง "ฟ้าขาว" ประเดิมรอบคัดเลือกสุดหรูคว้าชัย 2 เกมรวดพร้อมยอมรับรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่อุตส่าห์ลงเป็นตัวจริงตลอดทั้ง 2 เกมแต่ยังพังประตูไม่ได้ "น่าเสียดายที่นัดนี้ผมยิงประตูไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญเหนือกว่านั้นก็คือชัยชนะของทีมชาตินั่นเองและนี่ถือเป็นขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว" "สำหรับผมตอนนี้ขาดแค่พังประตูเท่านั้น กระนั้นผมเชื่อมั่นมันจะมาถึงในไม่ช้านี้และถึงแม้ผมจะยิงไม่ได้แต่ผมไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย" "ผมดีใจมากว่าตรงที่เราประสบชัยชนะ นี่เป็นผลการแข่งขันที่สำคัญมาก มันเป็นการเริ่มต้นในรอบคัดเลือกที่สวยงาม" "ชัยชนะรวด 2 นัดทำให้เรามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เราทุกคนต่างก็แฮปปี้ที่เรากำลังไปได้สวยเลยทีเดียว " ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=62331 จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วิลล่าอาจชวดใช้งานเมลเบิร์กเกมชนผี โอลอฟ เมลเบิร์ก ปราการหลัง แอสตัน วิลล่า อาจชวดลงสนามให้ต้นสังกัดในเกมฟาดแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ หลังมีปัญหาบาดเจ็บจากเกมรับใช้ทีมชาติสวีเดน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โอลอฟ เมลเบิร์ก กองหลัง "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อาจพลาดลงสนามให้กับต้นสังกัดในเกมนัดฟาดแข้งกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามวิลล่า พาร์ค ในวันเสาร์นี้ เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บหลัง จากการรายงานเมื่อวันพุธที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ดาวเตะสวีเดนมีปัญหาบาดเจ็บหลังจากการลงเล่นให้กับทีมชาติ และน่าจะพลาดลงสนามในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" รอบคัดเลือก กับ ไอร์แลนด์เหนือ ในวันพุธนี้ มาร์ติน โอนีลล์ ผู้จัดการทีม วิลล่า ต้องรอดูว่า เมลเบิร์ก จะได้รับบาดเจ็บหนักแค่ไหน เนื่องจากดาวเตะไวกิ้งเป็นกำลังสำคัญในแนวรับในตำแหน่งแบ๊กขวา หลังจากที่ทีมขาย อารอน ฮิวจ์ส ไปให้กับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม และ มาร์ค เดอลานี่ย์ ประกาศเลิกเล่น หาก เมลเบิร์ก พลาดลงเล่นให้กับ วิลล่า มีการคาดหมายว่า เคร็ก การ์ดเนอร์ ผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ อาจถูกถอยลงมาเล่นเป็นกองหลังแทน ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501017-059.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สิงห์บลูส์,คล้าร์กยอมรับข้อหาป่วนเกมพ่ายผี เชลซี จำใจยอมรับข้อหาทำป่วนจากสมาคมลูกหนังแดนผู้ดี โทษฐานไม่อาจควบคุมความประพฤติของนักเตะ จนเข้าไปประท้วงกรรมการวุ่นวายในนัดพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับ สตีฟ คล้าร์ก ผู้ช่วยกุนซือ ที่ยอมรับข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขัน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับข้อกล่าวหาไม่สามารถควบคุมความประพฤติของนักเตะในระหว่างเกมลีกนัดบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เมื่อวันพุธที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น เกี่ยวพันไปถึงเหตุการณ์ที่บรรดานักเตะ "สิงโตน้ำเงินคราม" กรูเข้าไปประท้วง ไมค์ ดีน ผู้ตัดสิน ที่ชักใบแดงไล่ตะเพิด จอห์น โอบี มิเกล กองกลางชาวไนจีเรีย ทันที หลังจากที่พุ่งเข้าไปย่ำ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้าย "ปีศาจแดง" อย่างน่าเกลียด ในนาทีที่ 32 ของเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ขณะเดียวกัน สตีฟ คล้าร์ก ผู้ช่วยผู้จัดการทีมแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยอมรับข้อกล่าวหาในการใช้วาจาดูหมิ่นและ/หรือสบประมาทเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขัน หลังจากจบเกมดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดย เอฟเอ เปิดเผยผ่าน www.thefa.com เว็บไซต์ของตนเองว่า ทั้ง เชลซี และ คล้าร์ก ได้ร้องขอการพิจารณาคดีป็นการส่วนตัว ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่ชัดแต่อย่างใดในขณะนี้ ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-003.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Papers: Breaking records Giggs deal to break record Ryan Giggs was last night backed to beat Sir Bobby Charlton's record of appearances for Manchester United after signing a new contract until June 2009. Veteran winger Giggs is just 33 games short of breaking Charlton's record of 759 matches and United boss Sir Alex Ferguson believes the 33-year-old will surpass that feat. Giggs has put pen to paper on a one-year contract extension. But Fergie reckons Giggs - who has won nine Premier League titles - is more likely to break Charlton's record next season rather than during this campaign. "We've got 29 league games left, hopefully another 10 or so European ties and the FA Cup, so it's possible this season," said Fergie. "But Ryan won't play every game. He'll be here next season, so this season or next he will do it." David McDonnell, Daily Mirror Round up by Gemma Thompson Vidic sounds warning Nemanja Vidic has warned of the pressures international duty can place on players in the Barclays Premier League. Although concussion sustained in the Reds' victory over Wigan meant Vidic missed Serbia's Euro 2008 qualifiers this week – Saturday's 0-0 draw with Armenia and Wednesday's 6-1 win in Azerbaijan – the defender said many of his United team-mates will be tired after stints representing their countries. Most players away on international duty will have boarded flights back to Manchester in the early hours of Thursday morning, but Friday's training session at Carrignton will be the only full run-out they'll have before Saturday's trip to Villa Park. And Vidic says it's important to remember the effects of long-distance travel on the body. Wayne Rooney and Rio Ferdinand have both returned from Russia, Darren Fletcher from Georgia and Cristiano Ronaldo and Nani from Kazakhstan. Meanwhile, Carlos Tevez has been in South America representing Argentina in World Cup 2010 qualifiers. "There have been a lot of games for the players and we always find the match after an international break is very tough," Vidic told ManUtd.com. Travel is tough "There have been a lot of games for the players and we always find the match after an international break is very tough." – Nemanja Vidic ที่มา : www.manutd.com จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 X - United เบ็คส์เตรียมนั่งสำรองแกแล็กซี่ชนเร้ดบูลส์ เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์คนดัง ของ แอลเอ แกแล็กซี่ มีโอกาสกลับมาลงสนามในเกมเหย้านัดสุดท้ายของฤดูกาล กับ นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ เช้าวันศุกร์นี้ตามเวลาประเทศไทย โดย แฟร้งค์ ยัลล็อป กุนซือ เตรียมจะใส่ชื่อเป็นตัวสำรองไปก่อน หลังจากยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง แฟร้งค์ ยัลล็อป กุนซือคนเก่ง ของ ลอสแอนเจลิส แกแล็กซี่ สโมสรในศึก เอ็มแอลเอส ของแดนมะกัน ออกโรงยืนยันว่า เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ จะมีชื่ออยู่ในทีมชุดเตรียมลงเล่นเกมในบ้านนัดสุดท้าย เปิดศึกฟาดแข้งกับ นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ เช้าวันศุกร์นี้ตามเวลาประเทศไทย แต่จะเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น "หนุ่มเบ็คส์" ลงฝึกซ้อมได้ เมื่อวันอังคาร และ วันพุธที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถฝึกซ้อมร่วมกับทีม 2 วันติดกันนับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม โดย ยัลล็อป กล่าวว่า ถ้าจำเป็น ดาวเตะวัย 32 ปี อาจได้ลงมาเล่นเป็นตัวสำรองในเกมกับ เร้ด บูลส์ เพราะเขายังคงต้องการยึด 11 ตัวจริงตัวเดิมไว้ เบ็คแฮม ไม่ได้ลงสนามมานับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาจากเกม ซูเปอร์ลีกา นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในรายงานนักเตะบาดเจ็บ เขาถูกลงสถานะความฟิตไว้ว่า "ไม่แน่นอน" ซึ่งเป็นระดับที่เหนือกว่า สถานะลงเล่นไม่ได้ของเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501018-032.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สปอร์ตวาไรตี้ สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม นาย weeza กับคอลัมน์สปอร์ต วาไรตี้ แห่งนี้ ซึ่งกว่าจะได้เวลามากระแทกแป้นพิมพ์ ก็ปาเข้าไปเกือบตี 5 แล้ว เพราะเมื่อคืนมีมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป รอบคัดเลือก ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงจะเป็นที่รู้กันว่า มันมีมากมายแค่ไหนสำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา @ โดยเราจะมาเริ่มกันที่คู่ที่มีแฟนบอลให้ความสนใจมากกว่าใครเพื่อน นั่นก็คือ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ที่ถึงตอนนี้เริ่มคำรามได้ไม่เต็มเสียงซะแล้ว หลังจากเมื่อคืนออกไปพลาดโดน "หมีขาว" รัสเซีย ตบตายคาถิ่นมา 2-1 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ต้องบอกว่า แขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะเหลือการแข่งขันอีกเพียงหนึ่งนัดและต้องการสามแต้มเท่านั้น โดยจะต้องลุ้นให้ รัสเซีย ทำแต้มหลุดมือซักนัด ซึ่งโปรแกรมการแข่งขันในนัดสุดท้ายของอังกฤษ จะเปิดบ้านพบกับ โครเอเชีย ทีมแกร่งร่วมกลุ่ม @ หลังเกม "บิ๊กแม็ค" สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ถึงกับควันออกหู จวกกรรมการเละว่าตัดสินผิดพลาด โดยเฉพาะกรณีให้จุดโทษกับเจ้าบ้าน ทั้งที่ฟาวล์นอกเขตโทษ พร้อมชมลูกทีมว่าทำหน้าที่กันเต็มที่แล้ว นอกจากนี้ยังแสดงความมั่นใจว่า อิสราเอล จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเซฟชีวิต ด้วยการเอาชนะ รัสเซีย ฟังดูแล้วก็แปลกแทนที่จะมุ่งมั่นทำทีมให้ดีขึ้น กลับหวังยืมมือคนอื่นซะนี่ เอากับเค้าซิ "บิ๊กแม็ค" @ มากันที่ความเคลื่อนไหวของทีมอื่นๆกันบ้าง กลุ่ม เอ ยังมีลุ้นกันทั้งสิ้น 4 ทีมด้วยกัน โดยประกอบไปด้วย โปแลนด์, โปรตุเกส, เซอร์เบีย และ ฟินแลนด์ ,กลุ่ม บี ซึ่งมองแล้วสูสีกันแบบสุดๆหลังจากที่ สกอตแลนด์ ออกไปพลาดท่าพ่าย จอร์เจีย เมื่อคืนมา 2-0 ทำให้ กลุ่มนี้ ฝรั่งเศส ,สกอตแลนด์ และ อิตาลี ยังต้องขับเคี่ยวกันต่อไป @ กลุ่ม ซี กรีซ ที่นำเป็นจ่าฝูงสามารถการันตีการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว โดยยังคงมีทีมที่แย่งกันเข้ารอบอีกหนึ่งโควตาระหว่าง นอร์เวย์ กับ ตุรกี , กลุ่ม ดี เป็นกลุ่มที่หมดลุ้นไปแล้วเพราะ เยอรมัน และ สาธารณรัฐเช็ก สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้แน่นอนแล้ว @ กลุ่ม อี มีการแย่งชิงโควตากันสามทีมประกอบไปด้วย โครเอเชีย , อังกฤษ และ รัสเซีย @ กลุ่ม เอฟ ที่มี สวีเดน นำเป็นจ่าฝูงมีทีมที่มีลุ้นเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 4 ทีมด้วยกันไล่ตังแต่ สวีเดน จ่าฝูง, สเปน, เดนมาร์ก และ ไอร์แลนด์เหนือ @ กลุ่ม จี ได้แล้วหนึ่งโควตา คือ โรมาเนีย ขณะที่อีกสองทีมยังต้องลุ้นกันระหว่าง ฮอลแลนด์ กับ บัลแกเรีย ซึ่งมองถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ฮอลแลนด์ นั้นมีภาษีดีกว่ามาก โดยถึงตอนนี้มีทีมที่สามารถการันตีการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในกลางปีหน้า ดังนี้ กรีซ , เยอรมัน , สาธารณรัฐเช็ก ,โรมาเนีย และ สวิตเซอร์แลนด์ กับ ออสเตรีย เจ้าภาพร่วม @ แว่บมาที่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกันบ้าง แซมมี่ ลี กุนซือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส อำลาต้นสังกัดแล้ว โดยเป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังนำทีมทำผลงานสุดห่วยจมอยู่ท้ายตาราง ด้าน ฟิล การ์ตไซด์ ประธานสโมสร "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" รับเป็นการตัดสินใจที่ลำบาก แต่คิดว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้ว และตอนนี้กำลังมองหากุนซือคนใหม่ @ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมายืนยันว่า ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้มีไว้ขาย หลัง กองหน้าร่างโย่ง ตกเป็นข่าวว่าอาจจะย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากไม่มีความสุขที่เป็นได้แค่ตัวเลือกอันดับ 4 ในตำแหน่งกองหน้า ถัดจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส อังเดร โวโรนิน และเดิร์ก เคาท์ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ราฟา จะทำอย่างที่พูดหรือป่าว @ ทิ้งท้ายกันที่ผลการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จะบังเกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา บ้านเรา ในวันที่ 6 ธันวาคม ถึง 15 ธันวาคม นี้ โดยผลการแบ่งสายของทีมชายปรากฏว่า สาย เอ ของ ไทย มี อินโดนีเซีย, เมียนมาร์ และ กัมพูชา, ส่วนสาย บี มี เวียดนาม, มาเลเซีย, ลาว และ สิงคโปร์ ขณะที่ทีมหญิงของเราปรากฏว่า อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ เมียนมาร์ และ มาเลเซีย โดยแชมป์เก่า เวียดนาม เป็นทีมวางในกลุ่มเอ ร่วมกับ ลาว และ ฟิลิปปินส์ และอย่าลืม ทำดีเพื่อพ่อ กันทุกคนนะครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ โดย : weeza ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Column_sportvariety316.html จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปิดท้าย ด้วยลูกยิงสุดสวย ของน้องมู๋ เวน รูนีย์ ที่ยิงให้อังกฤษขึ้นนำรัสเซีย ก่อนจะแพ้ไปนะครับ ช่วงนี้ มู๋ ฟอร์มฮอตจิงๆ ยิงติดต่อกัน 4 นัดแล้ว จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ข่าวหมดแล้วครับ วันนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อ กองเชียร์ทีมชาติอังกฤษ ด้วยนะครับ และ อาจจะต้องโบกมือลา บิ๊กแม๊ค ซะที ดูจากสถานการณ์แล้ว โอกาสเข้ารอบริบหรี่เหลือเกิน ดูเมื่อคืนแล้ว น่าเบื่อจิงๆ หลับตานอน แล้วเราจะเจอกันในความฝัน CrazyMc สุดหล่อ หน้าตาดี มีแฟนแล้ว จากคุณ : CrazyMc - [ 18 ต.ค. 50 17:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 18 ต.ค. 50 17:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น้องหมูยิงแหล่มจิงๆ แต่ก้อแพ้อยู่ดี ขอบคุณสำหรับข่าวน่ะค่ะ จากคุณ : Lamporn - [ 18 ต.ค. 50 18:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับข่าวสารค่ะ จากคุณ : ผีแดงแรงฤทธิ์ - [ 18 ต.ค. 50 18:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ฤๅริโอจะอดไปเตะบอลยูโรจริงๆ? เหอๆ ก็ดีจะได้ไม่ต้องเจ็บกลับมา ขอบคุณสำหรับข่าวเน่อ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 18 ต.ค. 50 18:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุนสำหรับข่าวคับ จากคุณ : Striker no.9 - [ 18 ต.ค. 50 18:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สงสารมู๋ ขอบคุณข่าวสารจ้า จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง - [ 18 ต.ค. 50 18:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านะ โปรตุเกสชนะอีกแล้วอ่า อิอิ จากคุณ : indy_idea - [ 18 ต.ค. 50 18:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณจ้า   จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 18 ต.ค. 50 19:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณคุณ CrazyMc มากๆๆ ค่ะ ฮาร์โก้มาแล้ววววววววว ONE UNITED จากคุณ : petrified - [ 18 ต.ค. 50 20:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาแว้ว จากคุณ : syusuke - [ 18 ต.ค. 50 20:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เซ็งอังกฤษ ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : Saint_K - [ 18 ต.ค. 50 20:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับข่าวมากค่ะ ทำไมเวลาน้องหมูมันยิงประตูนัดสำคัญๆ ทีมต้องแพ้ด้วยก็ไม่รู้ อุตส่าห์ยิงซะสวยเชียว # 12 ทำไมรูปนี้ น้องหมูมันดูอ้วนจัง ^_^" # 20 พี่วีพูดถูก เสาร์ (หรืออาทิตย์หว่า) นี้แมนยูลำบากแน่ มีนักเตะเดินทางไกลไปเตะทีมชาติมากมาย แถมน้องหมูกับริโอ ยังมีปัญหาเรื่องจิตใจอีกเพราะเพิ่งแพ้มา มีสิทธิตกรอบ คงใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ปล. หงุดหงิดโค้ชฝรั่งเศส ทำไมไม่ให้พี่ติ๊กของเราเป็นตัวจริงฟระ พี่ติ๊กไม่ดีตรงไหน จากคุณ : Hellen_th - [ 18 ต.ค. 50 20:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับ จากคุณ : sos_num - [ 18 ต.ค. 50 21:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ยังช้ำใจกับอังกฤษไม่หาย แต่ไม่ซีเรียสค่ะ โปรตุเกสสู้ๆ โฮ่ๆๆๆ จากคุณ : Cindecruella - [ 18 ต.ค. 50 22:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ คร๊าบ เซ็งกับ สิงโตคำราม เลย หมูรูน อุตสาห์ยิงซะสวย จากคุณ : Blue Brand - [ 18 ต.ค. 50 23:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สงสารน้องหมูเจงๆ .. ขอให้หายจากเซ็งโดยไว มาปลดปล่อยกับวิลล่าสุดสัปดาห์นี้นะ ขอบคุณท่านเครซี่แม็คอีกเช่นเคย ขอให้หล่อยิ่งขึ้นทุกวัน ถ้ามีแฟนแล้วขอให้มีเพิ่ม จากคุณ : Duckcovery - [ 18 ต.ค. 50 23:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ จากคุณ : อะไรท่าน - [ 18 ต.ค. 50 23:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากครับน้องชาย.. จากคุณ : gongto - [ 19 ต.ค. 50 02:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 19 ต.ค. 50 05:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับข่าวและคลิปครับ ^^ จากคุณ : อัพเวิร์ด - [ 19 ต.ค. 50 08:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 วันนี้ข่าวเยอะดีจริงๆเลย ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : manabi - [ 19 ต.ค. 50 15:36:55 ]