ความคิดเห็นที่ 3
ผีดุหลอนเคียฟ 4-2 ปืนสลุตปราก 7-0 บาร์ซ่าแค่เจ๊า
ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มดุบุกเล่นงาน ดินาโม เคียฟ ถึงยูเครน 4-2 มีโอกาสผ่านเข้ารอบสองเช่นเดียวกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่สลุตชัยเหนือ สลาเวีย ปราก 7-0 ด้าน เจ้าบุญุทุ่ม บาร์เซโลน่า แค่บุกเจ๊า กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สามของกลุ่มเอฟ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 2-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องเปลี่ยนทัพ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการมาเยือน ดินาโม เคียฟ เนื่องจาก พอล สโคลส์ มีอาการเจ็บเข่าระหว่างซ้อม ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จึงได้โอกาสปักหลักในแดนกลาง ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ได้คืนสนามมากระชากลากเลื้อย ด้าน อนาโตลี เดมยาเนนโก้ ขาด เซอร์เก เรบรอฟ หัวหอกตัวเก๋าที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องเติม อิสมาเอล บานกูร่า ลงมาช่วยงาน มัคซิม ชัทสคิกห์ โดยมี ดีเอโก้ รินคอน คอยบงการเกมรุก เริ่มเกมการแข่งขัน ดินาโม เคียฟ ไม่หวั่นเกรงศักดิ์ศรีของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายทักทายก่อนทันทีด้วยลูกยิงไกลของ อิสมาเอล บานกูร่า แต่บอลพุ่งไปตรงตัว เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 10 กลายเป็นทีมเยือนที่ออกนำ 1-0 เมื่อ ไรอัน กิ๊กส์ เปิดฟรีคิกเข้าไปให้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ โถมเข้ามาโหม่งเต็มๆ ส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่าย และนี่ก็เป็นประตูแรกในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของปราการหลังทีมชาติอังกฤษ เกมยังดำเนินไปภายใต้การคุมเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด และถึงนาทีที่ 18 ทีมเยือนก็ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากขึ้นไปทางขวาก่อนแทงต่อให้ เวส บราวน์ เติมขึ้นมาปาดบอลเข้ากลางให้ เวย์น รูนี่ย์ แปบอลนิ่มๆ เข้าประตูไป อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 34 เคียฟ มาได้ลูกเตะมุมและ คาร์ลอส คอร์เรอา ก็เปิดไปให้ ดีเอโก้ รินคอน ขึ้นโหม่งโล่งๆ คนเดียวส่งบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปให้เจ้าถิ่นไล่ตามมาเป็น 1-2 จากนั้นเกมแลกกันอย่างสนุกโอกาสเป็นของ ผีแดง บ้างเมื่อ รูนี่ย์ ลากไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนผ่านให้ จอห์น โอเชีย แปแต่ไปติดเซฟของ โอเล็กซานเดอร์ ชอฟคอฟสกี้ อย่างไรก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต้องรอนาน ไรอัน กิ๊กส์ พาเกมบุกขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดบอลโค้งเข้าหัว โรนัลโด้ สะบัดผ่านมือนายด่านเจ้าบ้านเข้าไปให้ทีมเยือนนำในนาทีที่ 41 และจบครึ่งเวลาแรกก็สามารถรักษาความได้เปรียบนำห่างถึง 3-1 เอาไว้ได้ เปิดฉากครึ่งหลัง ดินาโม เคียฟ ไม่มีอะไรจะเสียจึงลงมาเดินเกมบุกใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด และก็ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ โอเล็ก กูเซฟ ที่พุ่งผ่านเสาไปในนาทีที่ 48 แต่อีกสองนาทีให้หลังทีมเยือนทักทายกลับไป คาร์ลอส เตเบซ ไหลบอลให้ อันแดร์สัน วิ่งเข้ามาแปในเขตโทษแต่ลูกหนังดันพุ่งไปกระแทกเสาออกมาเต็มๆ เกมเปิดอย่างชัดเจน เจ้าบ้านสวนกลับมาด้วยลูกโหม่งเช็ดของ รินคอน แต่บอลก็ยังไม่เข้ากรอบเช่นเดียวกับลูกฟรีคิกของ คอร์เรอา เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 68 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ลูกที่จุดโทษเมื่อ โกรัน กาฟวานซิช ปราการหลังตัวหลักของเคียฟ ไปยกศอกป้องกันลูกเปิดของ เตเบซ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษและ โรนัลโด้ ก็รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ทีมเยือนจากอังกฤษทิ้งไปไกลถึง 4-1 แต่เกมไม่จบง่ายๆ บานกูร่า มาส่องไกลระยะ 20 หลาผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบมุมช่วยให้ เคียฟ ไล่มากระชั้นเหลือ 2-4 ในอีกสิบนาทีถัดมา จากนั้น เฟอร์กี้ ก็แก้เกมด้วยการถอดนายทวารทีมชาติฮอลแลนด์ และกิ๊กส์ ออกมาพักพร้อมส่ง โทมัสซ์ คูสแซ็ค และแดนนี่ ซิมป์สัน ลงมาเล่นแทน หมดเวลาการแข่งขันไม่มีสกอร์เพิ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาคว้าชัยเหนือ ดินาโม เคียฟ อย่างสวยงาม 4-2 เก็บเก้าแต้มเต็มจากการลงสนาม 3 นัดรั้งจ่าฝูงกลุ่มเอฟ ขณะที่ เคียฟ ยังไม่มีแม้แต่แต้มเดียวอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่มตามระเบียบ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม ดินาโม เคียฟ : โอเล็กซานเดอร์ ชอฟคอฟสกี้ , ปาเป้ เดียคาเต้ , โกรัน กาฟวานซิช , อังเดร เนสมาชนี่ย์ , คาร์ลอส คอร์เรอา , ทิเบรู กิโอเน่ , โอเล็ก กูเซฟ , ดีเอโก้ รินคอน , อตานด้า ยูสซุฟ , อิสมาเอล บานกูร่า , มัคซิม ชัทสคิกห์ แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , เวส บราวน์ , เนมันย่า วิดิช , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอห์น โอเชีย , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อันแดร์สัน , ไรอัน กิ๊กส์ , เวย์น รูนี่ย์ , คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำคืนวันอังคาร
กลุ่มอี กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 0-0 บาร์เซโลน่า (สเปน) สตุ๊ดการ์ท (เยอรมนี) 0-2 โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) [0-1 : ฟาบิโอ ซานโต๊ส (น.55) , 0-2 : คาริม เบนเซม่า (น.79)] กลุ่มเอฟ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 2-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) [0-1 : ริโอ เฟอร์ดินานด์ (น.10) , 0-2 : เวย์น รูนี่ย์ (น.18) , 1-2 : ดีเอโก้ รินคอน (น.34) , 1-3 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (น.41) , 1-4 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (จุดโทษ น.68) , 2-4 : อิสมาเอล บานกูร่า (น.78)] โรม่า (อิตาลี) 2-1 สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) [1-0 : ฮวน (น.15) , 1-1 : เลียดสัน (น.18) , 2-1 : เมียร์โก้ วูซินิช (น.70)] กลุ่มจี ซีเอสเคเอ มอสโค (รัสเซีย) 1-2 อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) [1-0 : โจ (น.32) , 1-1 : เฮอร์นัน เครสโป (น.52) , 1-2 : วอลเตอร์ ซามูเอล (น.80)] พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์) 0-0 เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี) กลุ่มเอช อาร์เซนอล (อังกฤษ) 7-0 สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) [1-0 : เชส ฟาเบรกาส (น.5) , 2-0 : เดวิด ฮูบาเช็ค (ทำเข้าประตูตัวเอง น.24) , 3-0 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.41) , 4-0 : อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ (น.51) , 5-0 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.55) , 6-0 : เชส ฟาเบรกาส (น.58) , 7-0 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.89)] เซบีญ่า (สเปน) 2-1 สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) [1-0 : เฟดริก กานูเต้ (น.5) , 2-0 : หลุยส์ ฟาเบียโน่ (น.18) , 2-1 : โอลิวิดู เปเตร (น.63)]
ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000125882
จากคุณ :
CrazyMc
- [
24 ต.ค. 50 13:50:25
]
|
|
|