ความคิดเห็นที่ 14
หงส์รอดตัว!เสมอปืน
"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลโชว์ความเหนือชั้นของฟุตบอลเอนเตอร์เทนอีกครั้งหลังเปิดเกมรุกนวดลิเวอร์พูลจนตีเสมอและน่าจะชนะหากบอลไม่ไปชนเสาสองครั้งสองคราและเบนด์เนอร์ไม่แปโล่งๆข้ามคาน จบเกมควงแขนเสมอ 1-1 รักษาสถิติไร้พ่ายต่อไปทั้งคู่
ลิเวอร์พูล 1-1 อาร์เซนอล
ประตู : 1-0 เจอร์ราร์ด น.7 ,1-1 ฟาเบนกัส น.80
ศึกบิ๊กแมทช์ระหว่างสองทีมที่ยังไม่แพ้ใคร...ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพใหญ่ส่งเฟอร์นานโด ตอร์เรสและชาบี้ อลอนโซ่ลงเล่นหลังหายเจ็บโดยใช้โวโรนินยืนปีกซ้ายในขณะที่ "ปืนใหญ่" จัดอเดบายอร์ยืนหอกเดี่ยวแล้วยัดกลางสู้กับเจ้าถิ่นมีตัวเทพทั้งเชสก์, โรซิคกี้, ฟลามินี่และคเล็บ
ช่วงต้นเกมอลอนโซ่ถลำจับบอลพลาดปล่อยให้เชสก์คาบบอลไปกินจนร้อนถึงเจมี่ คาร์ราเกอร์ต้องเข้ามาเสียบแถมซวยตอนล้มเจอเข่าริเซ่ที่วิ่งมาอัดพอดี นาทีที่ 6 อลอนโซ่เปิดบอลยาวจากแดนกลางให้เคาท์โหม่งแย่งบอลตกเป็นโรซิคกี้ที่เก็บได้แต่เจอร์ราร์ดมาสไลด์ทั้งตัวทำให้ฟินแนนมาเก็บตกและมาไขว้หลอกฟลามินี่แล้วไหลหน้ากรอบให้เจอร์ราร์ดซัดเต็มๆแต่อัลมูเนียปัดได้
จังหวะต่อเนื่องกันมาเป็นเจอร์ราร์ดอีกครั้งที่ยกบอลหนีเชสก์หน้าเขตโทษแต่ถูกแหย่ขาจนล้มผู้ตัดสินชี้ให้เป็นฟรีคิกสองจังหวะและริเซ่เอาหลังเท้าเขี่ยนิ่มๆให้"หัวขิง"กดเต็มตีนเตี่ยบอลทะลุกำแพงเสียบตาข่ายไม่มีเหลือ ลิเวอร์พูลนำเร็วจากโอกาสครั้งแรก
นาทีที่ 10 ฮูเปียทำฟาว์ลเป็นอาร์เซนอลได้ฟรีคิกไกลเชสก์บอมบ์มาหน้าเขตโทษจนผู้เล่น"หงส์แดง"ช่วยกันเคลียร์สองสามทีแต่ริเซ่ดันหวดแป๊บบอลไปตกตรงหน้าคเล็บที่วิ่งมากดนอกเขตโทษยังดีที่บอลบดแป๊กถากข้างเสาออกไปเอง
แม้ว่าจะโดนขึ้นนำไปก่อนแต่อาร์เซนอลยังต่อบอลตามช่องกันเร็วและน่ากลัวเหมือนเดิมในขณะที่ลิเวอร์พูลยังแทบต่อกันไม่ติดและเน้นการวางยาวจากแนวรับขึ้นมามากกว่า
นาที 17 อลอนโซ่ที่ร้างสนามไปนานเข้าพรวดถูกเช็กดังจังหวะหลอกและปาดต่อให้อเดบายอร์หลุดเข้ากรอบทางซ้ายและน่าจะยิงเข้าถ้าเรน่าไม่ออกมาบล็อกเร็ว
ถึงนาที 20 ยังเป็น"ปืนใหญ่"ที่พับสนามขึงเกมอยู่ข้างเดียวโดยแข้งเจ้าถิ่นต้องวิ่งไล่กันหน้าสลอนและคเล็บแทงบอลตัดหลังฟินแนนให้คลิชี่เปิดเข้ากลางให้อเดบายอร์ดีดสวนเรน่าที่ออกมาริมกรอบโทษฝั่งซ้ายยังดีที่ฮูเปียควักออกจากหน้าประตูอย่างใจหายใจคว่ำ
อีก 7 นาทีลิเวอร์พูลน่าจะนำ 2-0 หลังริเซ่เตะมุมเข้ามาเป็นแข้ง "ปืนโต" เคลียร์โด่งเป็นฮูเปียโขกตั้งให้เจอร์ราร์ดพักด้วยหน้าขาแล้วยิงนอกกรอบติดไซด์เต็มข้อแต่อัลมูเนียบินปัดอย่างสุดเทพ
เจ้าถิ่นยังช่วยกันวิ่งสู้ฟัดได้ดีอยู่แม้ว่ารูปเกมจะออกมาเป็นรองชัดเจนโดยอาร์เซนอลยังต่อบอลตามชิ่งและดึงจังหวะกันอย่างสนุกนานขาดแต่จังหวะสุดท้ายเท่านั้นเอง
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีเอบูเอ้ทำฟาว์ลตอร์เรสทางปีกซ้ายเป็นเจอร์ราร์ดรับหน้าที่ปั่นฟรีคิกบอลพุ่งแรงเป็นแนวเลยไปเสาสองโดยที่ไม่มีใครเข้าชาร์จอย่างน่าเสียดาย
ตอร์เรสแทบทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันและแทบไม่มีบทบาทกับเกมเพราะลิเวอร์พูลใช้การสาดยาวทำให้ยังไม่มีโอกาสสำแดงฤทธิ์และดูเหมือนร่างกายยังไม่พร้อม หมดครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นที่ออกนำอยู่ 1-0 จากฟรีคิกสุดสวยของเจอร์ราร์ดแต่รูปเกมยังเป็นรองอาร์เซนอลอยู่ค่อนข้างเยอะ
ครึ่งหลังราฟาทนเห็นตอร์เรสเล่นในสภาพไม่ฟิตไม่ไหวเลยส่งปีเตอร์ เคราช์ลงมาและรูปเกมดูดีขึ้นมานิดนึงโดยหอกเปรตสามารถพักบอลได้และเล่นมา 6 นาทีก็แผลงฤทธิ์หลังดูดบอลลงพื้นตามสไตล์
แต่นาที 54 ลิเวอร์พูลเกือบพังหลังเอบูเอ้เติมเกมขึ้นมาทำชิ่ง 1-2 กับคเล็บก่อนหลุดเข้าไปตะบันเต็มข้อในเขตโทษบอลชนเสาดังสนั่นแล้วกระเด้งมาเข้าทางเชสก์ที่ดันแปสวนจังหวะเดียวโล่งไม่มีโกล์ระยะ 12 หลาแต่บอลเหินข้ามคานออกไปสุดเหลือเชื่อ
ตอนนี้ลิเวอร์พูลใช้การเข้าบอลหนักตัดเกมรุกอาร์เซนอลเหมือนที่ทุกทีมชอบใช้กัน โดยมาสเคราโน่สไลด์เสียบซาญ่าจากด้านหลังอย่างน่าเกลียดและโชคดีที่ได้แค่เหลืองเท่านั้น
นาที 64 "หงส์แดง"ต่อบอลสวยๆครั้งแรกในเกมนี้และได้จบสกอร์โดยเป็นการขึ้นเกมสวนกลับเป็นเจอร์ราร์ดทำชิ่ง 1-2 กับโวโรนินก่อนที่แข้งยูเครนจะแทงให้เคราช์กระชากหนีตีคู่กับกัลลาส์ก่อนสไลด์ยิงบอลผ่านมืออัลมูเนียหลุดเสานิดเดียว เกมของเจ้าถิ่นเริ่มคล้ายครึ่งแรกหลังยิ่งเวลาใกล้หมดก็ลงมารับรอสวนซึ่งการขึ้นมาแต่ละครั้งของ "ปืนใหญ่" ได้เสียวแทบจะทุกครั้งแต่ลิเวอร์พูลยังพอทำเกมกันได้เรื่อยๆเนื่องจากเคราช์เก็บบอลโด่งรอเพื่อนได้ดีกว่าตอร์เรส
นาที 75 เจอร์ราร์ดเปิดบอลจากปีกซ้ายจะให้เคราช์เข้าฮอร์ตโขกแต่กัลลาส์ดักเคลียร์ทิ้งบอลมาตกริเซ่ตรงหน้าเขตโทษเลยยิงด้วยอีซ้ายบอลย้อยพุ่งฮุบหล่นบนเพดานตาข่าวอย่างสุดเสียว
ช่วงท้ายอาร์เซนอลมาเป็นพายุซ้ายทีขวาทีและยังต่อบอลเล็กๆสร้างความปวดหัวและความเสียวให้เดอะค็อปเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามก่อนหมดเวลา 10 นาทีความพยายามของทีมเยือนสำฤทธิ์ผลหลังจังหวะที่คเล็บได้บอลและหาตัวจ่ายอยู่นั้นลิเวอร์พูลดันเช็กออฟไซด์เป็นไลน์และมีอยู่ตัวยืนล้ำแต่กลายเป็นเชสก์ที่วิ่งบึ่งแทรกขึ้นมาจนคเล็บงัดข้ามให้หลุดไปดวลเดี่ยวกับเรน่าก่อนแทงเร็วมุมแคบชนขาเข้าไป ช็อตนี้เรน่ายืนขาตายและเป็นการประสานงานที่สุดเนียนของ"ปืนใหญ่" สกอร์เสมอกัน 1-1 แล้ว
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีอาร์เซนอลน่าจะได้ประตูชัยอย่างที่สุดหลังฟาเบรกัสปั่นไซด์นอกกรอบบอลชนเสาจังโครมแถมบอลตกมาตรงหน้าเบนด์เนอร์แปโล่งๆแย่งกับเอบูเอ้ข้ามคานสุดช็อก
เกมเปิดแลกจนนาที 89 เคราช์พักอกให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาแตะบอลควบเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงติดบล็อกตูเร่อย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาลิเวอร์พูลมาได้บุกทิ้งทวนบอมบ์ใส่หลายครั้งแต่สุดท้ายทำอะไรเพิ่มไม่ได้จบเกมเสมอกัน 1-1 อย่างสุดมันโดยทีมของราฟาตอนนี้มีผลงานในแอนฟิลด์ที่ไม่สู้ดีนักเพิ่งชนะนัดเดียวจาก 5 นัดที่เหลือเสมอรวด ส่วนหนึ่งแต้มของอาร์เซนอลนอกจากจะรักษาสถิติไม่แพ้แล้วก็ทำให้ทวงจ่าฝูงคืนจากแมนฯยูไนเต็ดหลังประตูยิงทำได้มากกว่านั่นเอง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 7, สตีฟ ฟินแนน 7, ซามี่ ฮูเปีย 6, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7, ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ 6, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 7, ชาบี้ อลอนโซ่ 7(อาร์เบลัว น.68,5), สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 8, อังเดร โวโรนิน (เบนายูน น.65,6), เดิร์ค เคาท์ 5, เฟอร์นานโด ตอร์เรส 4(เคราช์ น.46,7)
สำรองไม่ได้ใช้ :[b] อีตองด์เช่, บาเบิ้ล
[b]อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 7, บาคารี่ ซาญ่า 6, โคโล่ ตูเร่ 8, วิลเลี่ยม กัลลาส์ 8, กาเอล คลิชี่ 7(กิลแบร์โต้ น.74,5), เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 6(เบนด์เนอร์ น.74,5), เชสก์ ฟาเบรกัส 9 *, มาติเยอ ฟลามินี่ 7, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ 9, โทมัส โรซิคกี้ 7(วัลค็อตต์ น.66,5), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 6
สำรองไม่ได้ใช้ : เลห์มันน์, ดิยาร์ร่า
ข่าวจาก http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=63702
จากคุณ :
nanny_nan
- [
29 ต.ค. 50 11:15:37
]
|
|
|