ความคิดเห็นที่ 1 ลองไปตั้งกระทู้ถามในห้องสินธร น่าจะพอมีผู้รู้มาช่วยตอบได้ www.pantip.com/cafe/sinthorn จากคุณ : NanoSystem (NanoSystem) - [ 7 พ.ย. 50 23:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนอยู่ต่างประเทศผมซื้อของใน E-bay บ่อย ๆ ครับ หากคุณประมูลได้ก็ต้องจ่ายเงินเขาครับ ในเว็บหน้าที่คุณ Bid จะมี icon ว่า Pay อยู่ให้คุณคลิ๊กที่นั่น แล้วจะเข้าหน้าต่อไปให้เลือกการจ่ายเงิน ซึ่งมีหลายวิธี ที่ผมใช้บ่อยๆ คือ Pay Pal แต่คุณต้องเป็นสมาชิกก่อนแล้ว หากไม่ได้เป็น หากคนขายยอมให้คุณจ่ายโดยบัตรเครดิตได้ และคุณมีบัตรเครดิต คุณก็ต้องบอกว่าจะจ่ายโดยบัตรเครดิต ซึ่งคงต้องติดต่อกันทาง email ซึ่งเขาจะมีอีเมล์ให้ติดต่อ หรือช่องให้สื่อสารกับคนขายอยู่แล้ว ก็บอกเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ และ security Number 3 ตัวท้ายบ้ตร แต่หากเขาไม่รับบัตรเครดิต คุณอาจจ่ายเป็นเช็ค ก็ได้ครับ ต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีเช็คทุกคน ประเทศไทยไม่ค่อยนิยมใช้กันตรงนี้อาจลำบาก หากไม่มีวิธีจ่ายเงินจริงๆ ก็ต้องส่งเมล์ไปคุยกับคนขายครับว่าจะจ่ายเงินอย่างไร ซึ่งหากตกลงจ่ายกันได้แล้ว และเขาได้รับเงินแล้ว เขาจะส่งของมาให้ครับ ต้องคุยกันเรื่องค่าส่งด้วยครับ เพราะเขาคิดต่างหากจากของที่ประมูล ขั้นตอนจ่ายเงิน และรับของ E-bay ไม่เกี่ยวนะครับ เป็นเรื่องที่คนซื้อและคนขายต้องคุยกันเอง ยกเว้นแต่ว่ามีการโกง  E-bay ก็จะมีกลไก แก้ไขปัญหา Dispute ให้ครับ และหากไม่ได้ของจริงๆ E-bay ก็จะชดเชยให้เราครับ แต่ต้องผ่านกลไก Dispute ก่อน แต่เท่าที่ผมซื้อของนับสิบครั้ง ไม่มีการโกงครับ เพราะคนขายเขาต้องรักษาเครดิตเขาด้วย ซึ่งก่อนซื้อหรือประมูลเราควรดู เครดิตของคนขายก่อน ซึ่งจะโชว์อยู่ในหน้าประมูลด้วย ว่าได้ - (มีเครื่องหมายลบสีแดง) หากมีก็ไม่มีใครซื้อครับ และเราคนซื้อก็มีสิทธิเข้าไป Response ตรงนี้ครับ ซึ่งคนขายกล้วมากว่าจะได้เครื่องหมาย - ครับ เขาไม่โกงแน่นอน ผมค่อนข้างมั่นใจ ข้อสำคัญหาทางจ่ายเงินเขาให้ได้ แล้วบอกที่อยู่เขาว่า ให้ส่งของที่ไหน ซึ่งมีช่องให้สื่อสารกันในหน้าต่อไปหลังเราคลิ๊ก Pay อยู่แล้วครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : ลูกชาวนาไทย - [ 8 พ.ย. 50 00:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โทรหาผมเลยครับ089-4557887 ผมเพิ่ง Bid ชนะและได้ของมาแล้ว(เรื่องมันยาว แต่ผมพิมพ์ช้ามากๆ ..คุยกันจะเร็วกว่าครับ) จากคุณ : Up & Down - [ 8 พ.ย. 50 07:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 • หาก bid ได้แล้ว ไม่จ่าย คุณจะถูก Feed back เป็น Negative ที่ทำให้คุณซื้อของใน eBay ยากขึ้นในคราวต่อไป • หากจ่ายผ่านบัตรเครดิตแล้ว สินค้ามีปัญหา ไม่ตรงตาม Description ที่ผู้ขายระบุไว้ (ไม่ใช่ไม่ตรงใจคุณนะครับ แยกให้ออก) เช่น สภาพใหม่ แต่ส่งมา ไม้มีรอยตีไปแล้ว ก็ถือว่าผิด description ซึ่งเรามีสิทธิขอเงินคืนได้ แต่ถ้าคนขาย tricky อาจจะได้เงินคืนยากหน่อย การใช้ paypal ช่วยได้เยอะครับ • เขา charge คุณตามยอดเงินใน bid เท่านั้น เพราะทันทีที่เขา charge คุณ บริษัทบัตรของคุณจะโทรมาสอบถามเรื่องธุรกรรมของคุณทันทีว่าถูกต้องหรือเปล่า ตรงตามยอดเงินไหม เพราะกลัวว่าบัตรคุณจะถูก Hack ไปใช้ที่ต่างประเทศ • เมื่อของมาถึงบ้านคุณ เตรียมสตางด์ไว้จ่ายค่าภาษี ค่าธรรมเนียมอีก น่าจะประมาณ 3000 บาท จากยอดซื้อที่ว่ามาครับ ศึกษาก่อนประมูล จะได้ไม่กลุ้มใจ จากคุณ : FS (fastserve) - [ 8 พ.ย. 50 08:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แนะนำให้ซื้อครับ บิดไปแล้วไม่ซื้อคุณโดน แต่ที่แย่กว่าคือคนขายเพราะเค้าเสียทั้งเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเปิดประมูล ใน ebay ใจเขาใจเราครับ นอกจากนี้อาจมีผลทำให้ผู้ขายเวลาประกาศครั้งต่อไปอาจไม่ยอมให้ผู้ซื้อจากไทยบิดสินค้าเค้าอีกต่อไปเลยด้วย ส่วนเรื่องการจ่ายเงิน ผมแนนำให้ใช้ paypal ครับ ปลอดภัยมาก คุณไม่พอใจสินค้า(ในกรณีที่สินค้าไม่ตรงตามประกาศจริงๆ เช่นเอาของปลอมมาขาย ฯลฯ) คุณสามารขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ จากคุณ : OnlyOly - [ 8 พ.ย. 50 08:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แนะนำว่าถ้าจะเล่นต่อก็ให้จ่ายตังครับ แต่ถ่ายบัตรเครดิตไม่แนะนำ ... คนขายส่วนใหญ่ให้ข้อมูลที่เป็นจริงครับ เพราะถ้าไม่เป็นจริงจะโดนคนซื้อใช้เป็นข้ออ้างในการส่งของคืนและเรียกเงินกลับ ...... เรื่องจ่ายเงินอยากจะแนะนำให้จ่ายผ่าน Paypal จะดีกว่า อย่าให้เลขบัตรเครดิตใครไปง่าย ๆ ครับ ถ้าไม่มี paypal ก็ให้เพื่อนหรือคนรู้จักจ่ายแทนได้ครับ ...... ไม้กอล์ฟ มันท่าจะหนักเอาการ ค่าส่งเท่าไหร่ล่ะเนี่ยะ..... ไม่แน่ใจว่าเสียภาษีด้วยหรือเปล่า เอาใจช่วยครับ จากคุณ : tgclub - [ 8 พ.ย. 50 08:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หากไม่คิดจะซื้อจริงๆ ก็ไม่ควรบิดเล่นๆ ค่ะ เพราะการโพสต์ขายของในอีเบย์มีค่าใช้จ่ายซึ่งคนขายต้องจ่ายค่าแปะขายของให้อีเบย์ การที่คุณไปบิดแล้วไม่เอา คนขายเสียผลประโยชน์ค่ะ ฉะนั้น คุณจะโดน Negative Feedback แน่นอน ทีนี้ก็มีแต่เสียกับเสียสำหรับตัวคุณเอง เครดิตคุณจะไม่ดี เพราะในอีเบย์ เวลาที่จะตกลงซื้อหรือขาย ฟีดแบ็คเป็นเรื่องซีเรียสมากค่ะ ----------------------------------------------------------- สำหรับคำถาม จะขอตอบตามประสบการณ์ตัวเองนะคะ 1.ผมbidชนะแล้วถ้าผมไม่ซื้อต่อไปผมจะเข้าไปbidสินค้าอื่นๆต่อไปอีกได้มั้ยคับ(ผมจะถูกแบนมั้ย) - ตอบเหมือนคุณ FS และหลายๆ คคห. ข้างบนคือ คุณโดน Neg. ฟีดแบ็คแน่ และต่อไปไม่ใช่แค่คุณจะซื้อของยากเท่านั้น (จะไม่มีใครขายให้คุณอีก) ถ้าต่อไปคุณจะเป็นคนขาย Neg. ฟีดแบ็คเหล่านี้ก็จะมีผลทำให้คุณขายของไม่ได้ด้วย --------------------------------------------------------- 2.กรณี ที่ผมตัดสินใจซื้อโดยทำตามขั้นตอนที่แนบมากับe-mailแล้วก็ให้เลขที่บัตรเครดิตไปเนี่ยเงินก็จะถึงมือผู้ขายเลยเหรอครับแล้วผมจะได้รับของจากผู้ขายจิงๆมั้ยครับ(เค้าบอกว่าshipแบบworldwideคือส่งทั่วโลกใช่มั้ยครับ) - คนขายรับการชำระเงินด้วย Paypal หรือเปล่า ถ้ารับ คุณควรสมัคร Paypal ซะก่อน แล้วชำระเงินผ่าน Paypal จะปลอดภัยกว่า และอุ่นใจในการเรียกเงินคืนได้ระดับหนึ่งหากว่าโดนเบี้ยว เมื่อคุณกดยืนยันชำระเงินไม่ว่าจะทางใดก็แล้วแต่ (บัตรเครดิต/เพย์พาล) เงินจะไปถึงผู้ขายทันที (ยกเว้่นการโอนเงินข้ามประเทศ เช่น Western Union อาจจะใช้เวลาในการให้เงินเข้า และเสี่ยง ไม่แนะนำ) ถ้าเค้าบอกว่า ship worldwide ก็แสดงว่าเค้ายินดีส่งทั่วโลก การจะได้รับของที่ซื้อจริงหรือไม่ ตามหลักการแล้วควรจะได้ ถ้าคนขายไม่ตุกติก หรือไม่เกิดความผิดพลาดใดๆ ระหว่างการจัดส่ง เช่น เกิดกรณีของหาย --------------------------------------------------------------- 3.ส่วนใหญ่ผู้ซื้อกับผู้ขายในเว็ปebayนี่เค้าจะให้ข้อมูลที่เป็นจิงมั้ยครับ - คนขายที่ดีจะต้องให้ข้อมูลตามจริง ถ้าของมีตำหนิ ก็จะบอกอย่างละเอียด ถ้าคนขายไม่ดี (เคยเจอกับตัวเองแล้ว ขนาดซื้อกับคนที่มี Positive Feedback 100% ด้วย) ก็จะอำพราง ปกปิดข้อมูลที่แท้จริง ทำให้เราเก๊กซิมทีหลัง ------------------------------------------------------------ 4.ผมจะโดนโกงมั้ยครับ ถ้าจ่ายตังค์แล้วคนขายไม่ยอมส่งของให้ หรือมีการหักเงินจากบัตรเครดิตของเราเกินกว่าที่ตกลง หรือเอาเลขบัตรเราไปแล้วหักเงินเราไปเรื่อยๆเหมือนที่พวกโจรมันทำกันอะครับ - ไม่มีใครที่นี่จะตอบข้อนี้ให้คุณได้อย่างชัดเจนฟันธงว่าคุณจะไม่โดนโกง เพียงแต่อาจจะบอกได้ว่า ให้คุณไปดูประวัติเน็กฯ ฟีดแบ็คของคนขายว่า คนที่ซื้อไปก่อนหน้าเค้าว่ายังไงกันบ้าง ถ้าคุณจ่ายด้วยบัตรเครดิต มีการบอกเบอร์บัตรเครดิตไป คุณก็ต้องยอมเสี่ยงเรื่องที่คุณกำลังกังวลอยู่ แม้่แต่การชำระด้วย Paypal ที่ว่าปลอดภัยแล้ว (เพราะจะไม่โชว์หมายเลขบัตรเครดิต และถ้าคนขายตุกติกก็ฟ้องเรียกเงินคืนได้) ก็ต้องระวังพวก Phising ในภายหลังเหมือนกัน ฉะนั้น คุณควรจะชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียและตัดสินใจด้วยตัวของคุณเองจะดีที่สุดค่ะ ---------------------------------------------------- 5.แล้วถ้าสมมุติผมได้รับของแล้วสภาพมันไม่เป็นดังที่ผู้ขายได้อวดอ้างไว้ผมจะมีสิทธิ์ขอเงินคืนได้มั้ยครับ - คุณควรจะขอเงินคืน และคุณควรจะได้เงินคืนด้วย แต่..................คุณอาจจะได้เฉพาะเงินค่าของคืนเท่านั้น ซึ่งไม่รวมค่าจัดส่ง เช่นคุณจ่ายค่าของราคา 25 เหรียญ + ค่าจัดส่ง 100 เหรียญ คุณอาจจะได้คืนแค่ 25 เหรียญ ไม่ใช่ทั้ง 125 เหรียญที่คุณจ่าย (มันเป็นแท็คติกของคนขาย ซึ่งอีเบย์ก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้) -------------------------------------------- 6.ตอนนี้ผมก็ได้แต่จินตนาการว่าเมื่อถ้าผมจ่ายตังค์ไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปก็จะมีคนมาส่งของที่หน้าบ้านซึ่งเป็นของที่มาจากเมกาซึ่งผม ก็จะรู้สึกตื่นเต้นมากๆ(ซึ่งไม่รู้ความเป็นจิงจะเป็นอย่างนี้มั้ย)ถามผู้มีประสบการณ์ช่วยเปิดโลกกว้างให้ผมด้วยครับ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไปจะเป็นพระคุณอย่างสูง - ถ้าจะให้แนะนำ สิ่งที่คุณควรทำในตอนนี้คือ... 1) ไปร้านซีเอ็ดหรือร้านหนังสือใกล้บ้าน หาหนังสือเกี่ยวกับ eBay มาอ่าน ซึ่งตอนนี้มีหลายคนที่เขียนหนังสือทำนองนี้ ที่ดังๆ และเป็นที่รู้จักคือ "รวยด้วยอีเบย์" เขียนโดน กิต จรรยาประเสริฐ เปิดไปหน้าที่เขียนเกี่ยวกับ Paypal และดำเนินการตามนั้น (ไม่สามารถเขียนอธิบายได้ไหวจริงๆ เพราะมันเยอะและยาว) 2) เมื่อมีบัญชี Paypal เป็นของตัวเอง รีบชำระเงินให้เร็วที่สุด 3) เก็บอีเมลแจ้งใบเสร็จชำระเงินไว้ เผื่อเกิดปัญหา 4) รอของ ถ้าส่งทางอากาศอาจใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ ถ้ามาทาง Surface ก็อาจจะนานกว่านั้น ราวๆ 1-2 เดือน 5) เมื่อของมาถึง คุณอาจต้องชำระภาษี 6) แกะสินค้าตรวจอย่างละเอียด ถ้าพอใจ ก็จบ ไม่พอใจก็แจ้งเคลม (อ่านวิธีการเองในหนังสือ) 7) ในกรณีที่สินค้าไม่มีปัญหา ให้ Positive Feedback กับคนขาย เพื่อที่เค้าจะได้ให้เรากลับมา เป็นเครดิตติดตัวคุณในอนาคต 8) ถ้ามีปัญหาของหาย ไม่ได้รับ คุณต้องแจ้งเคลมภายในเวลาที่กำหนด (ราวๆ 45 วันหรือเปล่าไม่แน่ใจ จำไม่ได้) ฉะนั้น ถ้าคุณทวง คนขายอาจจะถ่วงเวลาคุณ บอกให้คุณรอ คุณอาจจะรอจนเกือบครบกำหนด (เพราะบางทีของมันก็เดินทางนานโอเวอร์จริงๆ) ก่อนจะยืนยันว่าคุณต้องการเงินคืน "เดี๋ยวนี้" มิฉะนั้น หากเกินกำหนด อีเบย์ก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้เหมือนกัน ------------------------------------------ สรุป... ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาคิดว่ามันเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะคุณชนะการบิดแล้ว ตอนนี้สิ่งที่คุณจะเลือกทำได้มีแค่... 1. สิ่งที่ทำ....จ่ายเงิน (อ่านที่เขียนไว้ข้างต้น) รอของ รับของ  ผลที่ได้....ได้ Positive Feedback เป็นพระเอก ไม่ใช่ผู้ร้ายหรือขาเบี้ยวให้มีผลกับการซื้อขายในอนาคต 2. สิ่งที่ทำ....ไม่จ่าย เพราะไม่ได้อยากได้ของจริงๆ ไม่อยากเสี่ยง ไม่มั่นใจ  ผลที่ได้....ได้ Negative Feedback แทนที่จะได้เป็นพระเอก กลับต้องกลายเป็นผู้ร้ายหรือขาเบี้ยว ซึ่งมีผลมหาศาลกับการซื้อขายใน eBay ครั้งต่อๆ ไปของคุณ คราวหน้า ก่อนบิดควรมั่นใจว่า คุณอยากได้ของนั้นจริงๆ คุณสามารถจ่ายเงินได้จริงๆ คุณเชื่อใจคนขายได้จริงๆ (เพราะฟีดแบ็คเค้าก็มีให้อ่านอยู่) ศึกษาข้อมูลของสินค้าและคนขายให้พอซะก่อน แล้วค่อยบิด...นะคะ ขอให้คุณโชคดีค่ะ เอาใจช่วย ***แก้คำผิด*** แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 50 09:22:40 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 50 09:18:17 จากคุณ : แรมโบ้มัม - [ 8 พ.ย. 50 09:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากประสบการ์ณที่ประมูลผ่านอีเบย์มาหลายครั้ง ทั้ง Driver และชุดเหล็ก ข้อแรกที่อยากให้คำนึงถึงก่อนลำดับแรก ก็คือ 1.สินค้าที่คุณประมูล คุณอยากได้จริงๆหรือเปล่า(ถ้าไม่อยากได้จริงๆอย่าได้ไป บิตมาครับ) พิจารณาอย่างถ้วนถี่หรือไม่ หลังจากพิจารณาดูแล้ว มีความสงสัยในสินค้านั้นหรือไม่ ถ้ามี ต้องสอบถามไปยังผู้ขายสินค้าครับ 2. หลังจากที่เราเป็นผู้ชนะการประมูลแล้ว ต้องทำการจ่ายตังครับ โดยผ่าน Paypal  ถ้าไม่รู้จะสมัครยังไงไปที่ paypal.com ครับ โดยที่ Username and Password ต้องไม่เป็นอันเดียวกับ Ebay น่ะครับ เผื่อโดนมิจฉาชีพหลอกถาม 3.ก่อนประมูลควรจะเช็คก่อนว่า คเส่งมาที่ประเทศไทยไหม มี ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ +- แล้ว คุ้มไหม ราคาพอๆกับที่เราซื้อในนี้หรือไม่ 4. ส่วนที่ ตำหนิของสินค้า สอบถามไปเลยครับว่า มีไหม 5. เราสามารถเช็คเรตติ้งของผู้ขายสินค้าโดยดู Possitive feedback ของผู้ขายครับ ยิ่ง% เยอะๆๆ เกิน 98% Paypal จะมีระบบ การันตี จ่ายเงินคืนกรณีโดนโกงให้ครับ ลองดูที่ด้านล่างซ้ายมือจะมี การรับประกันครับ 6. สินค้าจะมาถึงประเทศไทยราวๆ 10 วันทำการครับ แล้วจะมีหนังสือจาก ปรษณีย์ไทย ให้ไปรับสินค้า และเสียภาษีครับ 10+7% 7. ถ้าสินค้าที่รับมาไม่ตรงกับที่ระบุ เราจะมีเวลาราวๆ 45 วันเพื่อที่จะ เคลีย์ปัญหากับคนขายสินค้า โดยผ่านระบบ Paypal ที่ Paypal center ครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : พี่ทอมครับ (Pita) - [ 8 พ.ย. 50 09:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็ได้ไม้เทนนิสมาหลายอันแล้ว จาก e-bay การจ่ายเงินคงต้องผ่าน paypal แหละครับ เฃฟ และเคลมเมื่อมีปัญหาได้ ก่อนสมัคร paypal คงต้องมีบัตรเครดิตก่อนนะครับ แล้วก็สมัคร+กรอกรายละเอียดไป จากคุณ : jek ae - [ 8 พ.ย. 50 09:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คนขายมีค่าธรรมเนียมนะครับ ยิบย่อยหลายรายการเสียด้วย ถ้าคุณประมูลเล่นๆแล้วเขาต้องประกาศใหม่ เขาก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก คุณก็จะถูก Negative Feedback ซื้อขายต่อไปได้ยาก (Feedback Description จะบอกว่าคุณประมูลแล้วไม่ยอมจ่าย deadbeat) เสริม#5 เคยเกิดเหตุแบบนี้มาแล้วครับกับบริการจ่ายเงินของ ebay ก่อนจะไป ซื้อ Paypal มา (Paypal ถูกซื้อโดย ebay แล้วนะครับ ตามนี้ > Located in San Jose, California, PayPal was founded in 1998 and was acquired by eBay in 2002. > จาก https://www.paypal.com/us/cgi-bin/webscr?cmd=p/gen/about-outside ) จำ billpoint ได้ใหมครับสำหรับคนที่เคยใช้ บริการนี้เคย BAN ประเทศไทยมาแล้วเพราะมีการโกงเกิดขึ้นผ่าน billpointซึ่งเป็นของ ebayเอง ทาง ebay เลยแก้โดยการถอดประเทศไทยออกจากลิสต์เสียเลย ผมซึ่งใช้ตัวนี้ประจำเลยซวยไปด้วย ต้องไปใช้ตัวอื่นซึ่งค่าธรรมเนียมแพงกว่า (ตอนนั้น Paypal ไม่รับจ่ายเงินจากไทย) ตอบคำถาม 1.ผมbidชนะแล้วถ้าผมไม่ซื้อต่อไปผมจะเข้าไปbidสินค้าอื่นๆต่อไปอีกได้มั้ยคับ(ผมจะถูกแบนมั้ย) ตอบ ไป bid ได้ แต่ผู้ขายอาจจะไม่ยอมขายให้คุณ เพราะคุณติด negative feedback เนื่องจากไม่ซื่อสัตย์ (คือ bid แล้วไม่จ่าย) แต่ถ้าทำหลายๆครั้ง หรือ โดน ebay ตัดสินว่าเป็น account ที่เปิดมาก่อกวนอาจจะถูก BAN ได้ครับ 2.กรณีที่ผมตัดสินใจซื้อโดยทำตามขั้นตอนที่แนบมากับe-mailแล้วก็ให้เลขที่บัตรเครดิตไปเนี่ย... ตอบ แนะนำให้สมัคร Paypal ดีกว่าครับ สะดวกและปลอดภัยดี เท่าที่ค้าขายมา เกือบ 100% จะได้ของ (มีบางคนจงใจโกง แต่เป็นส่วนน้อย และ ราคาจะ ถูกผิดปกติมากๆ อย่าง Keyboard ตัวหนึ่ง ราคาขาย 2000USD+ พวกโกงจะเอามาลงหลอกๆ ว่า 800 USD ก็ได้ของใหม่แล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แล้วพวกนี้จะหลอกให้เราไปจ่ายที่เว็บที่ทำมาเพื่อโกงโดยเฉพาะ) 3.ส่วนใหญ่ผู้ซื้อกับผู้ขายในเว็ปebayนี่เค้าจะให้ข้อมูลที่เป็นจิงมั้ยครับ ตอบ ข้อมูลจริงครับ หลายๆคนไม่ค้าขายกับพวกที่เช่าตู้ไปรษณีย์เลยด้วยซ้ำ (PO.Box) หรือถ้าส่งโดยพวก UPS/DHL จะไม่ส่งที่ตู้เช่าพวกนี้เลย 4.ผมจะโดนโกงมั้ยครับ ... ตอบ เลือกบริการจ่ายเงินที่เชื่อถือได้จะช่วยเรื่องนี้ได้มากครับ (แนะนำ Paypal) 5.แล้วถ้าสมมุติผมได้รับของแล้วสภาพมันไม่เป็นดังที่ผู้ขายได้อวดอ้างไว้ผมจะมีสิทธิ์ขอเงินคืนได้มั้ยครับ ตอบ เหมือนคุณข้างบน อ้างอิงตาม description ครับ ถ้าไม่ผิดไปจาก description ก็เรียกเงินคืนไม่ได้เพราะถือว่าคุณยอมรับเงื่อนไข ก่อนเริ่มประมูลไปแล้ว ให้ระวังพวกขายตามสภาพ AS-IS ให้ดี ส่วนมากจะเป็นของเสียครับ 6.ตอนนี้ผมก็ได้แต่จินตนาการว่าเมื่อถ้าผมจ่ายตังค์ไปแล้ว... ถ้าส่งโดยไปรษณีย์ธรรมดา มี 3 กรณี - กรณีแรก ส่งโดยไปรษณีย์ธรรมดา USPS Air Mail (ไม่แนะนำ Surface Mail ช้าและของหาย) ของอาจจะมาถึงคุณเลย โดย ไม่เสียถาษี โดยมากจะเป็นของที่มีเล็กๆน้ำหนักเบาและมีจำนวนไม่มาก (จำนวนต่อกล่อง) - กรณีที่สอง อาจจะโดนประเมินภาษีแล้วมีใบเรียกเก็บมาที่คุณ ระบุจำนวนมาเรียบร้อย ให้ไปจ่ายที่ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ระบุในใบเรียกนั้น ตามจำนวน+ค่าธรรมเนียม ของไปรษณีย์น่าจะ20บาท ส่วนมากจะเป็นของใหญ่ๆที่ศุลกากรรู้จักดี (มีในคู่มือ) เช่นเครื่องคอมฯ ฯลฯ *** มีอีกกรณีหนึ่งที่เข้าข่ายนี้คือ กรณีได้รับการประเมินว่าไม่ต้องเสียถาษีเพิ่ม แต่ต้องไปรับเองที่ไปรษณีย์ เพราะของมีน้ำหนักมาก หรือ ขนาดใหญ่ไม่สามารถนำส่งได้ จะมีใบสีชมพูให้ไปรับ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม - กรณีที่สาม ของที่ศุลกากร ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร หรือ เขาคิดว่ามูลค่าไม่น่าจะตรงตามที่ระบุมา เขาจะให้คุณไปประเมินที่ ที่ทำการข้างๆหัวลำโพง (ตึกสีเหลือง จำชื่อหน่วยงานไม่ได้ครับ) กรณีนี้จะเสียเวลามากๆ (ผมเคยครึ่งวัน) เพราะคนเยอะและวุ่นวาย ถ้าโดนให้ไปประเมินด้วยวิธีนี้ ให้พิมพ์รายละเอียดการจ่ายเงิน (ที่จ่ายไปจริง) และรายละเอียดสินค้า (ถ้าหา catalog ได้ยิ่งดี) ไปด้วยครับ อย่าลืมพิมพ์หน้าประมูลไปด้วย จะได้โต้แย้งได้ถ้าเกิดเขาประเมินไม่ตรง หลังจากจ่ายแล้วก็รับของจากที่นั่นเลยครับ ถ้าส่งโดยพวก Freight เช่น UPS/DHL/FedEx หรือ TNT Express ทำใจครับ เสียภาษีชัวร์ๆ ยกเว้นของเล็กจริงๆ หรือ มูลค่าต่ำจริงๆ (ตามความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ราคาที่ระบุมา) ถ้ามี shipping ที่รู้จักหรือไปเดิน เรื่องได้เองก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม แต่ถ้าไม่มีให้เขา(พวก Freight)เอาของออกให้ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก แพงด้วย (หลักพัน) แต่มีข้อดีคือ เร็วและติดตามได้ว่าของมาถึงหรือยังครับ ติดตามได้ข้ามประเทศทีเดียว (ไปรษณีย์ธรรมดาติดตามได้จำกัดกว่ามาก) จากคุณ : Aufklarung - [ 8 พ.ย. 50 10:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ที่ให้ความกระจ่างกับผม ส่วนของที่ผมbid ได้นั้นจิงๆแล้วผมอยากได้มากครับ แต่ตอนbidหนะไม่นึกว่าจะได้พอได้แล้วก็เลยทำอะไรไม่ถูกครับแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าภาษีตอนรับของด้วย(แต่ค่าส่งนั้นรู้อยู่ว่าต้องเสียครับ)ก็เลยรวมๆราคาแล้วมันก็เลยสูงกว่าที่ต้องการนิดนึง แล้วถ้าขอถามต่ออีกหน่อยจะได้มั้ยครับ -คือเราต้องจ่ายเงินผู้ขายภายในกี่วันอะครับ หลังจากเราชนะการbidแล้วอะครับ -ส่วนตัวผมไม่มีบัตรเครดิตอะครับ ถ้าไปยืมคนอื่นที่ชื่อไม่ตรงกับเราจะจ่ายได้มั้ยครับ -ถ้าไปยืมบัตรคนอื่นมาใช้เนี่ยเราเอามาแต่บัตรหรือว่าต้องถามข้อมูลอะไรเจ้าของมามั้ยครับ -หรืออีกกรณีคือผมทำบัตรเครดิตเองจะง่ายกว่ามั้ยครับ(กลัวเสียเวลาแล้วจะไม่ทันอะครับ)แล้วถ้าจะทำบัตรเครดิตจะต้องทำของอะไรครับถึงจะใช้ได้ -คือตอนนี้มีเมล์ส่งมาจาก ebay ว่าอย่างนี้อะครับ Please contact ASAP how you wanna close this deal Thanks แล้วก็มีช่องให้ respond อะครับ ผมต้องทำยังไงอะครับ ถ้าเป็นกรณีที่ผมต้องการของ -แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าคนขายจะส่งของให้เราด้วยวิธีไหนอะครับ(ไม่กล้าส่งmailไปถามอะครับ เพราะภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง -แล้วก็ไม่รู้จะถามไรแล้วอะครับ สรุปก็คือผมก็ต้องจ่ายตังค์เค้าใช่มั้ยคับ ซึ่งเรื่องโดนโกงคงน่าจะมีสิทธิ์เกิดขึ้นน้อยมากใช่มั้ยครับ ผมจะได้สบายใจ ขอบคุณทุกท่านครับ จากคุณ : bonny - [ 8 พ.ย. 50 11:12:20 A:117.47.74.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทุกคนตอบมาเกือบหมดแล้ว   -คือเราต้องจ่ายเงินผู้ขายภายในกี่วันอะครับ หลังจากเราชนะการbidแล้วอะครับ ปกติผู้ขายจะบอกว่าต้องจ่ายเงินให้เขาภายในกี่วันหลังจากบิดหรือสั่งซื้อแล้ว  จะเขียนไว้ในข้อมูลสินค้า  ส่วนมากจะ 5 ถึง 7 วันแล้วแต่ผู้ขาย     Please contact ASAP how you wanna close this deal เขาให้ติดต่อโดยทันทีค่ะ  ตกลงเรื่องการชำระเงิน (ถ้ายังไม่ได้ให้) -แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าคนขายจะส่งของให้เราด้วยวิธีไหนอะครับ เรื่องการส่ง  ผู้ขายจะระบุในข้อมูลสินค้าก่อนเราทำการตกลงซื้อขายใดๆกับเขา  ลองอ่านดูค่ะ จากคุณ : la liga fan - [ 8 พ.ย. 50 11:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ายังไม่มีบัตรเครดิต ให้ลองติดต่อธนาคารกสิกรไทย เขามีบริการบัตรเครดิตออนไลน์ คือ K-Web Shopping Card (ไม่มีตัวบัตรจริง มีแต่เลขบัตร VISA แล้วหักเงินจากบัญชีเงินฝากของเรา) โดยเราต้องมีบัญชีเงินฝากกับธ.กสิกร และสมัครใช้บริการ K-Cyber Banking แล้วจึงสมัครใช้ K-Web Shopping Card (ไม่รู้สมัครพร้อมกันทีเดียวได้เลยหรือเปล่านะครับ) ใช้เวลาตั้งแต่เปิดบัญชีจนได้เลขบัตรเครดิต 16 หลัก พร้อมเลขตรวจสอบบัตรเครดิตอีก 3 หลัก ไม่น่าเกิน 2 วัน และในระหว่างนี้ควรรีบตอบยืนยันกลับไปก่อนว่าเราจะจ่ายเงินให้ โดยให้ถามไปว่ามีทางเลือกให้ส่งแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ เป็นการประวิงเวลา หากภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงก็จงไปหาเพื่อนหรือผู้ใหญ่ให้ช่วย แล้วรีบไปดำเนินการกับธนาคาร เสร็จแล้วรีบมาจ่ายเงินครับ ส่วนการสมัคร PayPal ต้องหลังจากได้เลขบัตรเครดิตแล้ว ซึ่ง PayPal ก็จะใช้เวลาตรวจสอบบัตรเราอีก 3-4 วัน น่าจะไม่ทัน คงต้องจ่ายด้วยเลขบัตรเครดิตไปก่อนในครั้งนี้ (หลังจากนี้ก็สมัคร PayPal ซะ ฟรีสำหรับผู้ซื้อของอย่างเดียว) เอาใจช่วยครับ มีปัญหาแล้วควรเดินหน้าแก้ไข อย่ายอมแพ้ง่ายๆ นะครับ (ตัวอย่างจดหมาย) Dear XXX manager, I need your information about the shipping. Which method have insurance and how much does it cost ? Hope to hear from you soon. Regards, YYY จากคุณ : จุ๊ - [ 8 พ.ย. 50 12:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอาตัวอย่างประโยคที่ใช้ในการประวิงเวลาระหว่างดำเนินการกับธนาคารตามคำแนะนำของพี่จุ๊มาฝากอีกอันหนึ่งค่ะ (ดัดแปลงจากข้อความในหนังสือรวยด้วยอีเบย์แอดวานซ์) อาจจะใช้ประโยคนี้หลังจากที่ททางโน้นแจ้งกลับมาว่ารับด้วย paypal และตอนนั้นคุณยังดำเนินการกับธนาคารไม่เสร็จ หวังว่าอาจจะพอช่วยคุณ จขกท. ได้ค่ะ My paypal account is currently having some problem and is not able to send money to anyone. I'm resolving this problem and will make payment as soon as I can. Sorry for inconvenience. คำแปล...ตอนนี้บัญชีเพย์พาลของผมมีปัญหาบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินได้ ผมกำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่ และจะรีบจ่ายเงินคุณทันทีที่แก้ไขเสร็จ ขออภัยในความไม่สะดวก คือจริงๆ คุณก็ไม่ได้มีปัญหากับเพย์พาลหรอก (เพราะคุณยังไม่มีเพย์พาลนี่นา) แต่ที่บอกไปแบบนั้น ก็เพื่อประวิงเวลาก่อน แล้วรีบไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนของคุณให้เร็วที่สุด อย่างช้าไม่น่าเกิน 4 วัน ปัญหาน่าจะลุล่วง ขอให้คุณโชคดี แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 50 13:02:12 จากคุณ : แรมโบ้มัม - [ 8 พ.ย. 50 12:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับเรื่อง My paypal account is... ที่คุณแรมจุ๊บแนะนำมา ขอให้เตรียมไว้สำหรับเป็นจดหมายฉบับต่อไปนะครับ ในกรณีที่เราได้รับเลขบัตรเครดิตล่าช้านะครับ อย่ารีบใส่ลงในฉบับแรก เอาใจช่วยครับ จากคุณ : จุ๊ - [ 8 พ.ย. 50 13:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกท่านครับ ตอนนี้กระผมได้กระทำการยืมเลขบัตรเครดิตของพี่ชายมาแว้ว แล้วก็สมัคร paypalไปแว้วด้วยครับ แต่ก็ยังงงๆกับไอ้step 1.95usdของpaypalว่ามันคืออะไรเหรอครับ เราต้องเสียเงินค่าอะไรอะครับ งง จากคุณ : bonny - [ 8 พ.ย. 50 15:27:59 A:117.47.73.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 อีกอย่างคืออย่าขาดการติดต่อกับผู้ขายนะคะ  บอกเขาไปว่าเป็นครั้งแรกของเราในการซื้อของในอีเบย์  ให้เข้าใจว่าเราชำระเงินแน่แต่อาจช้ากว่าที่เขากำหนด  และให้ติดต่อผ่านในอีเบย์  ถ้าคุณ bonny สมัครเป็นสมาชิกแล้ว  มันจะมีช่อง message ในหน้า account ของเราให้ติดต่อกับผู้ขายของเราค่ะ จากคุณ : la liga fan - [ 8 พ.ย. 50 16:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ค่า Verfify (รับรอง) มั้งครับ ผมสมัครนานแล้วจำไม่ค่อยได้ เค้าจะลอง ชารจ์บัตรของคุณมา 1.95 ถ้าเค้าชารจ์ผ่าน แสดงว่าคุณให้เลขที่บัตรถูกต้องไม่มั่ว เค้าก็จะถือว่าเค้ารับรองคุณแล้ว ผมก็ให้เค้า Verify ครับ  แล้ว Account ผมจะเป็น Verified account ครับ วันหลังจะทำอะไรคิดถึงผลลัพธ์ที่จะได้รับในอนาคตดี ๆ นะครับ  เป็นห่วงครับ จากคุณ : Joey Sopranos - [ 8 พ.ย. 50 17:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เลข 4 ตัวจะได้จาก ให้พี่ชายโทรไปที่ call center บัตรเครดิตที่ลงทะเบียน แล้วบอกเค้าว่า มี paypal มาเก็บเงินผม 1.95$ แล้วให้ตัวเลข 4 ตัวมา ประมานว่า 1234 paypal                1.95$(~68บาท) ผมขอตัวเลขนั้นครับ แล้ว นำมากรอกในหน้า overview หัวข้อ finish expended use number ครับ ^^! เออ....... ลืมไปอย่าง ไอ้เลข 4 ตัวเนี่ย โทรไปหลังจากสมัครแล้ว 3 4 วันนะครับ ไม่งั้น รายการมันยังไม่มาครับผม แล้วทำไมต้อง verify ถ้าไม่ทำ ใช้เงินโอนเงินได้ไม่เกิน 100$ งับผม แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 50 22:09:34 จากคุณ : หนุ่ม2002 - [ 8 พ.ย. 50 22:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อึมมม ไม่ยากหรอกครับ....ทุกคนพูดไปหมดแล้ว ค่อยๆเรียนรู้ไป หาโปรแกรมดิคชั่นนารีมาประกอบด้วย เดี๋ยวก็เก่งเองครับ... ผมก็กำลังสนุกอยู่กับebayครับ จากคุณ : chonfish - [ 8 พ.ย. 50 22:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 1.95 เหรียญ เป็นตัวเลขที่เพย์พาลจะชาร์จจากบัตรของคุณ เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัตร แต่จะคืนให้ในภายหลังค่ะ หลังจากนี้ไป 3-4 วัน (หรืออาจจะเร็วกว่านี้) ให้ลองโทรไปหาบริษัทเครดิต แล้วถามหาตัวเลข 4 ตัว วิธีการจะรู้ว่าตัวเลข 4 ตัวคืออะไร ก็ตาม คคห.19 เลยค่ะ จากนั้น - เข้าไปที่เว็บ paypal, Log in - คลิกเข้าเมนู Complete Expanded Use Enrollment - ใส่ตัวเลข 4 ตัวที่คุณได้มาลงในช่อง Expanded Use Number - คลิก Submit ถ้าคุณใส่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวถูกต้อง ก็เป็นอันเรียบร้อย และเพย์พาลก็จะคืนเงิน 1.95 เหรียญให้คุณ จากนั้น ก็จัดการส่งเงินให้ใครก็ได้ที่อีเมล์และใช้เพย์พาลเช่นเดียวกับคุณ จากคุณ : แรมโบ้มัม - [ 9 พ.ย. 50 14:35:07 ]