ความคิดเห็นที่ 8
อังกฤษทุบ1-0เซ่นโอเว่น!ตราไก่2-2บอลอุ่นเครื่อง "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ลงอุ่นเครื่องก่อนจะไปลุ้นชี้ชะตาศึกยูโรระหว่าง อิสรเอล และ รัสเซีย ในวันพรุ่งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อจัดการ ทุบ "ขุนพลดานุ้บ" ออสเตรีย หนึ่งในเจ้าภาพร่วมยูโร 2008 1-0 โดยเกมนี้ อังกฤษ ต้องเสีย ไมเคิล โอเว่น ที่ได้รับบาดเจ็บพักยาวถึง 1 เดือน ขณะที่ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ทำได้เพียงเสมอ โมร็อกโก 2-2 ในศึกกระชับมิตร
ฟุตบอลนัดกระชับมิตร (ฤดูกาล 2007/2008) (วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2550)
ออสเตรีย 0 - อังกฤษ 1 สนาม :แอร์นส์ท ฮัปเปล, (เวียนนา, ออสเตรีย)
"ขุนพลดานุ้บ" ทีมชาติออสเตรีย หนึ่งในเจ้าภาพร่วมยูโร 2008 เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติอังกฤษ โดยเกมนี้เจ้าบ้านใช้สูตรหัวหอกตัวเดียววาง ซาเนล คูลยิช ยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมได้ เรเน่ เอาฟ์เฮาเซอร์ เป็นตัวคุมเกม
ทางด้าน "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ได้ตัว เดวิด เบ็คแฮม ลงเล่นเป็นนัดที่ 98 ในนามทีมชาติ แต่ไม่มี ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่ และ เวย์น รูนี่ย์ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมดเลยต้องให้ โซล แคมป์เบลล์ ยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โจลีออน เลสค็อตต์ พร้อมส่ง สกอตต์ คาร์สัน นายทวารจากลิเวอร์พูล ลงมาเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก
ส่วนคู่หน้าเป็น ปีเตอร์ เคร้าช์ หัวหอกร่างโย่งลงล่าสกอร์คู่กับ ไมเคิล โอเว่น
ออกสตาร์ทครึ่งแรกทีมเยือนเล่นได้ดีกว่าเล็กน้อย มีลุ้นก่อนในนาทีที่ 14 ไมเคิล โอเว่น ถูกดึงล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อไป ก่อนบอลมาที่ แฟร็งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ส ซัดทันทีบอลไปติดบล็อคของ ฟร้านซ์ ไชเมอร์ กองหลังเจ้าบ้าน เล่นเอา ไชเมอร์ ล้มลงไปกองกับพื้นต้องปฐมพยาบาลครู่หนึ่งก่อนเล่นต่อได้
ถัดมา 4 นาที ทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสอีกครั้ง เมื่อ เดวิด เบ็คแฮม ครอสมาให้กับ ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ โหม่งออกข้างไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าอังกฤษ เข้าปะทะกับ เจอร์เก้น มาโช นายทวารของทีมชาติออสเตรีย เล่นเอา มาโช ลงไปกองกับพื้น มีอาการบาดเจ็บขา แล้วเล่นต่อไม่ไหวต้องให้ อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ นายทวารจากสโมสร เซียน่า ลงมาเฝ้าเสาให้กับ ออสเตรีย แทนในนาทีที่ 24
อังกฤษ น่าจะได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 32 เมื่อ แฟร็งค์ แลมพาร์ด ไหลให้กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ แทงต่อให้กับ ไมเคิล โอเว่น หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาในระยะหวังผลภายในกรอบเขตโทษ แต่ อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ นายทวารทีมชาติออสเตรีย ลอยตัวปัดมือเดียวพ้นคานไปได้
สองนาทีต่อมา ทีมเยือนต้องเปลี่ยนเอา ไมเคิล โอเว่น ที่มีอาการบาดเจ็บต้นขา ออกแล้วให้ เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าจากสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ลงมาเล่นแทน และอาการของ โอเว่น ดูแล้วไม่น่าจะเล่นนัดเจอ โครเอเชีย ในยูโร 2008 กลางสัปดาห์หน้าได้
กระเถิบมาถึงนาทีที่ 43 อังกฤษ บดหนัก โจ โคล กองกลางตัวเก่งหลุดเข้าไปในเขต แต่แตะบอลยาวไปเลยโดน อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ ออกมาบล็อคไว้ได้บอลกระดอนมาถึง ปีเตอร์ เคร้าช์ ซ้ำทันทีแต่ เรเน่ เอาฟ์เฮาเซอร์ ทิ้งตัวบล็อคบอลออกหลังไป
จากลูกเตะมุมนาทีต่อมา เดวิด เบ็คแฮม เปิดโค้งเข้ามาให้กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ เทคตัวโหม่งสูงกว่าใครเพื่อนก่อนโขกเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ ทีมชาติอังกฤษ นำก่อน 1-0 เมื่อหมดครึ่งแรก และเป็นประตูที่ 13 ของ เคร้าช์ ในทีมชาติอังกฤษแล้ว
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ทัพสิงโต มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นรวดเดียวถึงสามรายให้ แกเร็ธ แบร์รี่, เวส บราวน์ และ แอชลี่ย์ ยัง ลงมาเล่นแทน เจอร์ราร์ด, แคมป์เบลล์ และ โจ โคล
สามนาทีของครึ่งหลัง ออสเตรีย เปลี่ยนตัวรวดเดียวสองรายให้ คริสตอฟ ไลท์เก็บ กับ โรมัน ไคนาสต์ ลงมาเล่นแทน มาร์คุส ไวส์เซนแบร์เกอร์ และ ซาเนล คูลยิช
ผ่านมาถึงนาทีที่ 52 โอกาสของออสเตรีย อีกครั้ง ยุคเซล ซาริยาร์ ยิงไกลจากระยะ 30 หลา บอลไปแฉลบนิดหนึ่งก่อนเข้าซอง สกอตต์ คาร์สัน นายทวารของทีมชาติอังกฤษ
สองนาทีต่อมา ทีมเยือนขึ้นเกมรุกมาอีกครั้ง แอชลี่ย์ ยัง ตัวสำรองลากตัดเข้าในแล้วตะบันเต็มเท้าบอลบานออกข้างไป
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 57 สิงโตคำราม น่าจะได้ประตูที่สองเมื่อ ปีเตอร์ เคร้าช์ สะบัดหัวโหม่งไปที่เสาสอง แต่ แมนนิงเกอร์ นายทวารสำรองเจ้าบ้านพุ่งปัดด้วยมือซ้ายออกไปได้อย่างน่าชื่นชม
4 นาทีต่อมา อังกฤษ เปลี่ยนเอา เดวิด เบ็คแฮม ออกมาพักให้โอกาสกับ เดวิด เบนท์ลี่ย์ ลงมาเล่นทางปีกขวาแทน
เขยิบมาถึงนาทีที่ 66 แลมพาร์ด กองกลางของอังกฤษ ดันขึ้นมายิงจากแถวสองบอลพุ่งข้ามคานออกไป
ขยับมาถึงนาทีที่ 72 คริสตอฟ ไลท์เก็บ ของออสเตรีย ลากเข้ามาแต่จังหวะสุดท้ายดันยิงเลี้ยวออกหลังไป นาทีต่อมาทีมเยือนถอด ปีเตอร์ เคร้าช์ ออกแล้วให้ อลัน สมิธ ลงมาเล่นแทน
ท้ายเกมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม อังกฤษ บุกมาเอาชนะ ออสเตรีย ได้ 1-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม ออสเตรีย : เจอร์เก้น มาโช - โจอาคิม สตานด์เฟสต์, ฟร้านซ์ ไชเมอร์, โรนัลด์ เยอร์คาลิอู, มาร์ติน สตรานเซิล - ยุคเซล ซาริยาร์, เรเน่ เอาฟ์เฮาเซอร์, อันเดรียส์ อิวานส์ชิตซ์, กียอร์กีย์ การิคส์, มาร์คุส ไวส์เซนแบร์เกอร์ - ซาเนล คูลยิช สำรอง: อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ (ผู้รักษาประตู) - โรมัน ไคนาสต์, โยฮันเนส แอร์เทิล, คริสเตียน ฟุคส์, มาร์ติน ไฮเด้น, เวลี่ คาฟลัค, คริสตอฟ ไลท์เก็บ, เซาเมล, มาร์ติน ฮาร์นิค, เจอร์เก้น พาต็อคก้า อังกฤษ: สกอตต์ คาร์สัน - ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โซล แคมป์เบลล์, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์ - เดวิด เบ็คแฮม, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร็งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ส, โจ โคล - ปีเตอร์ เคร้าช์, ไมเคิล โอเว่น สำรอง: เดวิด เจมส์ (ผู้รักษาประตู) - แอชลี่ย์ โคล, นิคกี้ ชอรี่ย์, เวส บราวน์, แกเร็ธ แบร์รี่, ฟิล เนวิลล์, เดวิด เบนท์ลี่ย์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, แอชลี่ย์ ยัง, อลัน สมิธ, พอล โรบินสัน (ผู้รักษาประตู), ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, เจอร์เมน เดโฟ
http://www.siamsport.co.th
จากคุณ :
tiggerabb
- [
17 พ.ย. 50 20:34:21
]
|
|
|