Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "บอล" ไม่สนโดนส.บันเทิงแบน ตอก"ผมนักกีฬา" ไม่ใช่ดารา ขอโทษถ้าไม่พอใจ

    http://www.siamdara.com/hotnews/00007271.html
    ''เจ้าบอล'' ภราดร ศรีชาพันธุ์ ยอดนักเทนนิสไทย ไม่สนนักข่าวบันเทิงบางกลุ่มจะคว่ำบาตรแบนไม่ทำข่าวอีกต่อไป ย้ำชัดตนเกิดจากวงการกีฬาเป็นนักเทนนิสทีมชาติสร้างชื่อให้ประเทศมาตลอด เผยข่าวที่ถูกนำเสนอตลอดหลายวันไม่แฟร์กับตัวเองอย่างมาก ยืนยันไม่เคยกีดกันสื่อเข้าร่วมงานแต่งงาน แต่ได้พยายามบอกก่อนหน้างานแต่งแล้วว่าช่วงพิธีการขอเป็นส่วนตัว แต่ก็ได้ให้เวลาสื่อมวลชนสัมภาษณ์และเปิดห้องแต่งงานให้ดูกันเต็มที่ก่อนหน้าพิธีการจะเริ่มแล้ว พร้อมชี้ไม่ได้เป็นคนสั่งออร์กาไนซ์ ไล่สื่อบันเทิงออกจากโรงแรม แต่เมื่อมีคนบางกลุ่มไม่พอใจก็พร้อมยืดอกขอโทษอย่างลูกผู้ชาย ย้ำทำดีที่สุดแล้ว


    หลังจากที่มีกรณีผู้สื่อข่าวสายบันเทิงแสดงความไม่พอใจกรณีที่ถูกไล่ออกจากโรงแรมโอเรียนเต็ลในวันแต่งงานระหว่าง ''เจ้าบอล'' ภราดร ศรีชาพันธุ์ ยอดนักเทนนิสไทย กับ นาตาลี เกลโบว่า อดีตนางงามจักรวาล เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตและแผ่วงกว้างกระทั่งร้อนถึงสมาคมนักข่าวบันเทิงที่ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการและมีสื่อบันเทิงหลายฉบับไม่พอใจถึงกับขั้นลงมติจะคว่ำบาตรแบนข่าวภราดร-นาตาลี ตลอดไป


    จากกรณีดังกล่าว ''เจ้าบอล'' ภราดร ศรีชาพันธุ์ เจ้าบ่าวหมาดๆ ที่ยังอยู่ระหว่างพักผ่อนอยู่กับครอบครัวของภรรยาสาว นาตาลี เกลโบว่า ที่พัทยา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสยามกีฬาผ่านทางโทรศัพท์ว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และเจตนาของคนที่จุดประเด็นนี้ขึ้นมาต้องการอะไร อันที่จริงตนก็ได้บอกล่วงหน้าแล้วว่าช่วงของพิธีแต่งงานนั้นตนขอความเป็นส่วนตัว ซึ่งตนกับฟ้าต้องให้การต้องรับแขกที่เชิญเข้าร่วมงานซึ่งก็เป็นแขกส่วนตัวเพื่อนสนิทและผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ ส่วนสื่อมวลชนนั้นตนก็ได้บอกแล้วว่าจะมีการจัดเวลาก่อนพิธีงานแต่งงานจะเริ่มเพื่อเปิดโอกาสให้พี่ๆ นักข่าวได้สัมภาษณ์ และ เก็บรายละเอียดงานแต่งงานกันก่อน จากนั้นก็จะขอเป็นส่วนตัวในช่วงพิธีการ


    ''ในช่วงพิธีแต่งงานผมกับฟ้าก็ต้องรับแขกที่เริ่มทยอยร่วมงาน เราไม่รู้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นภายนอกงานบ้าง และผมขอยืนยันอย่างลูกผู้ชายว่าเจตนาของเราไม่เคยกีดกันสื่อมวลชน เพราะงานแต่งงานเราประกาศจัดงานอย่างเปิดเผย และมีการเชิญสื่อมวลชนมาร่วมในงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ว่าในช่วงพิธีการนั้นผมกับฟ้าก็ต้องรับแขกผู้ใหญ่ และอยู่ในงานซึ่งแขกที่เราเชิญมาค่อนข้างเยอะ เราจึงขอเป็นช่วงเวลาส่วนตัวที่ผมก็บอกพี่ๆ นักข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่าจะขอเป็นเวลาส่วนตัวจริงๆ และพี่ๆ นักข่าวอาจจะเข้าไปไม่ได้''


    ''ถ้าผมจะปิดกั้นนักข่าวผมคงจะไม่เชิญสื่อมวลชนมาร่วมงานแน่ และก่อนหน้างานแต่งจะเริ่มผมก็ได้ประชุมทีมงานซึ่งให้ทุกคนดูแลสื่ออย่างดีที่สุด ห้องแถลงข่าวผมก็เปิดห้องที่จะใช้จัดงานแต่งให้พี่ๆสื่อมวลชนได้เห็นภาพกันเต็มที่ ห้องพักนักข่าวก็จัดอาหารเลี้ยงอย่างเต็มที่เช่นกัน ซึ่งผมก็อยากจะให้ทุกอย่างออกมาดีถูกใจพี่ๆ นักข่าวให้มากที่สุด แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นมาได้''


    ภราดร ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องของการไล่นักข่าวให้ออกไปนั่งตบยุงอยู่ภายนอกโรงแรมนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเลย และ ตนก็ไม่ได้สั่งให้ออร์กาไนซ์ที่จ้างมาจัดงานทำอย่างนั้นแน่นอน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และทุกคนก็ต้องเข้าใจด้วยว่า เหตุที่เจ้าหน้าที่ รร.โอเรียนเต็ล ต้องเชิญสื่อมวลชนออกไปนอกโรงแรมนั้นก็เพราะว่า บริเวณล็อบบี้ของโรมแรมนั้นเล็กและไม่ได้มีเฉพาะแขกที่มาร่วมงานตนเท่านั้น ยังมีแขกของทางโรงแรมซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งสิ้น


    ''เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าผมจะรู้หรือไม่รู้กับการกระทำดังกล่าว แต่ในขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงงานแต่งงานของผม ผมเองก็ขอโทษพี่ๆ นักข่าวสายบันเทิงที่อาจจะไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าวด้วยครับ''


    นอกจากนี้ ภราดร ยังได้กล่าวว่า เนื่องจากในงานแต่งงานวันนั้นแขกที่มาร่วมงานค่อนข้างเยอะทีเดียวเรียกว่า ในห้องแกรนด์บอลรูมของ รร.โอเรียนเต็ล นั้นแคบไปเลย ซึ่งก็ทำให้ช่วงของพิธีการนั้นเกิดความล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางกันไว้ ซึ่งก็ทำให้ภาพบรรยากาศในงานแต่งซึ่งตนได้แจ้งนักข่าวว่าจะได้ในเวลา 21.30 น.นั้นล่วงเลยไปกว่า 5 ทุ่มถึงจะได้ซีดีและภาพถ่ายในงาน ซึ่งเรื่องนี้ ภราดร ก็ได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชนทุกคนอีกครั้ง


    ส่วนในกรณีที่มีนักข่าวสายบันเทิงบางกลุ่มถึงกับออกมาประกาศว่าจะแบนและไม่เสนอข่าวของ ภราดร กับ นาตาลี อีกต่อไปนั้น เรื่องนี้ยอดนักเทนนิสไทย กล่าวว่า ตนนั้นมีชื่อเสียงและเกิดขึ้นมาได้เพราะเป็นนักกีฬา เป็นนักเทนนิส ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติมากมาย เพราะฉะนั้นการที่นักข่าวสายบันเทิงบางคนจะไม่พอใจในเรื่องดังกล่าวแล้วจะมาแบนไม่เสนอข่าวตนนั้น ตนก็ถือว่าเป็นเรื่องของบุคคลคนนั้น แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับตนเลยก็ตาม และในฐานะที่ตนเป็นนักกีฬาตนก็จะทำหน้าที่นักกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติต่อไป


    ''ผมเกิดจากกีฬา ผมเป็นนักเทนนิส ทุกคนรู้จักผมในนามนักเทนนิส ผมไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นผมคิดว่าพี่นักข่าวบันเทิงบางคนจะแบนผมๆ ก็ไม่สนใจ แต่ผมก็อยากให้ทุกคนคิดถึงหัวอกผมบ้าง หากวันนั้นผมจะไม่เชิญสื่อบันเทิงมาร่วมงานก็ได้ แต่ผมก็ให้เกียรติพี่ๆ ทุกคนเท่าเทียมกัน อย่างข่าวที่บอกว่าผมเอาใจสื่อต่างชาติ ผมพูดได้เต็มปากว่าวันนั้นผมไม่ได้เชิญสื่อต่างชาติมาร่วมงานเลย มีแต่สื่อไทยล้วนๆ และชาวต่างชาติที่เห็นก็คือเพื่อนๆ ของผมทั้งนั้น ผมคิดว่าเหตุการณ์และข่าวที่เกิดขึ้นไม่แฟร์กับผมเลย และผมขอยืนยันว่า ผมกับฟ้าได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว'' ภราดร กล่าวทิ้งท้าย

    จากคุณ : PAULPAWISS - [ วันพ่อแห่งชาติ 09:52:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom