| Franz Beckenbauer (21 คน) |
| Paolo Maldini (17 คน) |
| Lothar Matthaus (6 คน) |
| Franco Baresi (2 คน) |
| Marcos Cafu (2 คน) |
| Fabio Cannavaro (1 คน) |
| Jurgen Kohler (0 คน) |
| Matthias Sammer (2 คน) |
| Roberto Carlos (1 คน) |
| Lilian Thuram (0 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 52 คน |
นอกเหนือจากการหานักเตะที่ดีที่สุดใน 11 ตำแหน่งของทีมรวมดาราแล้ว ผมยังได้จัดผลการโหวตนักเตะดีเด่นในแต่ละบทบาทคือ ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง กองหน้า
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการโหวตที่มากเกินไป ผมจึงตั้งกระทู้เพื่อโหวตในบทบาทกองหลังและกองหน้า เนื่องจากผู้รักษาประตูมีแค่ตำแหน่งเดียวและได้จัดให้โหวตไปแล้ว ส่วนกองกลางคงต้องยกผลประโยชน์ให้กับดีเอโก้ มาราโดน่าไป
สำหรับบทบาทกองหลังที่ได้จัดให้โหวตนี้ได้ครอบคลุมถึง สวิปเปอร์หรือลิเบอโร่ สต็อปเปอร์ ฟูลแบ็ก และวิงแบ็ก ถึงจะมีตำแหน่งการเล่นที่ต่างกันแต่ก็จัดอยู่ในนักเตะประเภทกองหลังเหมือนกัน ซึ่งมีหน้าที่หลักในการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้าม โดยผมได้นำนักเตะที่ได้คะแนนโหวตในอันดับต้นๆของแต่ละตำแหน่งในกองหลังมารวมกันในกระทู้นี้แล้วนะครับ
1.ฟร๊านซ์ เบ็คเค่นบราวน์เออร์
เจ้าของฉายาแดร์ไกเซอร์ลูกหนังอันเลื่องชื่อของทัพอินทรีเหล็ก เล่นให้ทีมชาติเยอรมันตะวันตกทั้งหมด 103 นัด เล่นในฟุตบอลโลก 3 สมัย และสามารถนำเยอรมันขึ้นครองแชมป์โลกในปี 1974 และรวมไปถึงแชมป์ยูโร 1972 ในระดับสโมสร เขาปักหลักเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค 13 ปีถึง 427 นัด ได้แชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย ยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย เบ็คเค่นบราวน์ เป็นลิเบอโร่ที่มีวิสัยทัศน์การอ่านเกมได้อย่างดีเยี่ยมไปพร้อมๆกับการเข้าสกัดบอล และมีบุคลิกแห่งผู้นำสูงมาก ทำให้เขาเป็นศูนย์กลางที่ควบคุมสมดุลของทีมทั้งในเกมรุกและเกมรับ
2.เปาโล มัลดินี่
ปราการหลังอมตะระดับตำนานของเอซีมิลานและทีมชาติอิตาลี เขาสามารถเล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์แบ็กและแบ็กซ้าย ลงเล่นให้กับเอซีมิลานมาตั้งแต่อายุ 16 ปีจนถึงปัจจุบันกว่า 600 นัด ได้แชมป์เซเรียอา 7 สมัย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 5 สมัยและเล่นให้กับอัซซูรี่ 126 นัด ได้ที่ 3 ฟุตบอลโลกปี 1990รองแชมป์โลกปี 1990 มัลดินี่โดยธรรมชาติเป็นนักเตะเกมรับ แต่ก็สามารถเติมเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นนักเตะที่มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง รวมถึงเทคนิคการเล่นที่ดี เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นฟูลแบ๊กที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่ง
3.โลธาร์ มัทเธอุส
สุดยอดนักเตะข้ามทศวรรษ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยียมแห่งปีของฟีฟ่าในปี 1991 เจ้าซุปเปอร์แมนโลธาร์ มัทเธอุสนั้นมีพละกำลังอันเหลือล้น ยากที่จะหาใครมาทาบได้ เขารับบทบาทเป็นลิเบอโร่ในทีมชาติเยอรมัน สามารถวิ่งขึ้นลงในสนามได้ตลอดเกม และมีลูกยิงไกลที่เฉียบขาด เขาเป็นศูนย์กลางของทีมมาหลายยุคหลายสมัยนานถึง 20 ปี สามารถยืนระยะเล่นให้ทีมชาติเยอรมันเป็นสถิติสูงสุดที่ 150 นัด และยังสร้างสถิติลงเล่นมากที่สุดทั้งจำนวนนัดและสมัยที่ลงเล่น โดยเล่นไปถึง 22 นัด จากฟุตบอลโลกถึง 5 สมัยในปี ได้รองแชมปืโลก 2 ครั้งและแชมป์ 1 ครั้ง และก่อนหน้านั้นยังได้แชมป์ยูโรในปี 1980 ที่ มัทเธอุสเล่นให้กับกลัคบัค ก่อนจะย้ายมาช่วยให้บาเยิร์น กวาดแชมป์บุนเดสลีกา 7 สมัยใน 12 ฤดูกาล นอกจากนี้ เขายังได้แชมป์เซเรียอา 1 สมัยกับอินเตอร์ มิลาน
4.ฟรังโก้ บาเรซี่
อดีตลิเบอโร่ระดับตำนานของทีมชาติอิตาลีและเอซี มิลาน เล่นให้อิตาลี 82 นัด ได้ที่ 3 ฟุตบอลโลกปี 1990 และรองแชมป์โลกในปี 1994 ลงเล่นกับเอซี มิลานเป็นเวลาถึง 20 ปีรวม 532 นัด ได้แชมป์เซเรียอา 4 สมัยและยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย บาเรซี่เป็นสวิปเปอร์ที่ปักหลังอยู่ในแดนหลัง เขาเป็นกองหลังที่มีความสูงแค่ 176 cm แต่นั่นแทบไม่ได้เป็นปัญหากับเขาเลย เพราะมีการเทคตัวกระโดดที่สูง มีการเข้าสกัดที่รวดเร็วและตัดสินใจได้เด็ดขาด เรียกว่าอ่านเกมได้ขาดเกือบจะทุกจังหวะการเล่น
5.มาร์กอส คาฟู
เป็นหนึ่งในนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ได้เล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย จากการเล่นในรายการนี้ทั้งหมด 4 สมัย เขาติดทีมชาติบราซิลถึง 156 นัด ได้แชมป์โลก 2 สมัยในปี 1994 และ 2002 รองแชมป์โลกปี 1998 เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับเซาเปาโล และได้แชมป์ลิเบอร์ลาโดเรสคัพ 2 สมัย ได้แชมป์เซเรียอากับโรม่าและมิลานอย่างละ 1 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกกับมิลาน 2 สมัย รวมการเล่นในระดับสโมสรทั้งหมดถึงปัจจุบัน 473 นัด คาฟูเป็นนักเตะที่มีพร้อมทั้งความเร็ว พละกำลัง เทคนิค และเซ็นส์ทางฟุตบอล ทำให้เขาเติมเกมรุกได้น่ากลัว แต่ยังไม่เด่นมากนักทางด้านเกมรับ
6.ฟาบิโอ คันนาวาโร่
เขานักเตะกองหลังแท้ๆผู้เดียวที่ได้รางวัลบัลลงดอร์และนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า เป็นตัวหลักพาอิตาลีคว้าแชมป์โลกในปี 2006 ปัจจุบันติดทีมชาติไปแล้ว 113 นัด ค้าแข้งให้กับหลายสโมสรทั้ง นาโปลี ปาร์ม่า อินเตอร์ ยุเวนตุส และรีล มาดริด ได้แชมป์ยูฟ่าคัพกับปาร์ม่า 1 สมัย แชมป์เซเรียอา 2 สมัย แต่ถูกริบแชมป์ แชมป์ลาลีกา 1 สมัย คันนาวาโร่เป็นสต็อปเปอร์ที่เหนียวแน่นมากที่สุดคนหนึ่ง มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และจังหวะเข้าสกัดที่แม่นยำที่ไม่ค่อยพลาดให้เห็น แต่ด้วยความสูงเพียง 176 ซม.ทำให้ในบางครั้งเสียเปรียบในลูกกลางอากาศ
7.เจอร์เก้น โคห์เลอร์
ฟอร์สสต็อปเปอร์ม่านเหล็ก ของทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1990 และแชมป์ยูโรปี 1996 เล่นให้ทีมชาติ 105 นัด และเคยเล่นกับสโมสร บาเยิร์น ดอร์ทมุนต์และยุเวนตุส ได้แชมป์ลีกสูงสุดกับทั้ง 3 สโมสร ได้แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 1 สมัยกับดอร์ทมุนต์ และยูฟ่าคัพ 1 สมัยกับยุเวนตุส มีจุดเด่นในการประกบตัวต่อตัว เรียกได้ว่าประกบจนกองหน้าระดับซุปเปอร์สตาร์เล่นไม่ออกมาหลายคน มีลูกปะทะที่หนักหน่วง ถือเป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งที่สูงมาก และจังหวะการเข้าสกัดที่เด็ดขาด แต่เทคนิคยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
8.มัทธีอัส ซามเมอร์
เจ้าชายผมทองแห่งเมืองเบียร์ ถือเป็นกองหลังอีกคนหนึ่งที่ได้รับรางวัลเกียรติยศบัลลงดอร์ในปี 1996 ซึ่งเป็นปีที่เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เยอรมันคว้าแชมป์ยูโร 96 เขาโดดเด่นมาจากการเล่นในตำแหน่งลิเบอโร่ในระบบ 3-5-2 ที่เขาได้รับบทบาทให้เติมเกมรุกได้อย่างอิสระ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาสามารถเค้นศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างสูงสุดหลังจากที่เคยโชว์ฟอร์มได้ดีในระดับหนึ่งในการเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาเคยเล่นให้ทีมชาติเยอรมันตะวันออกก่อนที่เยอรมันจะรวมประเทศ รวมติดทีมชาติทั้งหมด 74 นัด นอกจากนั้น เขายังพาทีมดอร์ทมุนต์คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และได้แชมป์บุนเดสลีกาสองสมัย
9.โรแบร์โต้ คาร์ลอส
สุดยอดนักเตะพลังม้าทางกราบซ้ายของทีมแซมบ้า ลงเล่นฟุตบอลโลกให้บราซิลถึง 3 สมัยจากการติดทีมชาติ 125 นัด ได้แชมป์โลก 1 ครั้งและรองแชมป์ 1 ครั้ง ลงเล่นใหเกบรีล มาดริด 370 นัด ได้แชมป์ลาลีกา 4 สมัย และยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 3 สมัย คาร์ลอสเป็นกองหลังที่มีจุดเด่นในการเติมเกมรุก จากสปีดที่เร็วจัด และพละกำลังอันเหลือเฟือ นอกจากนั้นยังมีลูกยิงไกลและฟรีคิกที่รุนแรง ทำให้ตลอดการค้าแข้งยิงไปถึง 86 ประตู อย่างไรก็ดี หลายครั้งเขาเติมเกมรุกมากจนกลับมาประจำในเกมรับไม่ทัน
10.ลิลิยง ตูราม
แบ็กขวาทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 1998 และแชมป์ยูโรปี 2000 จากการเล่นทีมชาติถึง 136 นัด ได้แชมป์ยูฟ่าคัพกับปาร์ม่า 1 สมัย แชมป์เซเรียอากับยุเวนตุส 4 สมัย(2 สมัยสุดท้านถูกริปแชมป์)ลงเล่นในระดับสโมสรมาแล้ว 488 นัด
ตูรามเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบในตำแหน่งแบ็กขวา เขามีทั้งความเร็ว พละกำลัง ความแข็งแกร่ง ทางบอล และการเข้าสกัดที่ดี ทำให้เป็นการยากของฝ่ายตรงข้ามที่จะขึ้นเกมรุกทางกราบซ้าย นอกจากนั้น เทคนิคที่ดีทำให้หลายๆครั้งเขายังมีส่วนในเกมรุกทั้งการเปิดบอล และการยิงประตูสำคัญๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 50 12:57:20
แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 50 23:23:23
แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 50 21:08:40
แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 50 21:07:10
จากคุณ :
Dearman
- [
8 ธ.ค. 50 21:06:27
]