ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้แนะนำ รูปที่มีทุกบ้าน โดย คุณ กัมม์ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6062710/K6062710.html ManU Game ***Man U Game*** คะแนน + ทายผลนัดเตะกับ Derby County วันเสาร์นี้ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6102732/S6102732.html ไดอารี่ปิศาจแดง โดย คุณ maezono_no7 ไดอารี่ป๊ะป๋า ตอน เก่งจริงๆ คริสติอาโน่ลูกพ่อ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6093976/S6093976.html ไดอารี่น้องโด้ ตอน เรียกผมว่าเจ้าพ่อฟรีคิก http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6076220/S6076220.html ไดอารี่พี่ติ๊ก ตอน มอบกุหลาบแดงให้น้องหมูหายไวไว http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6012944/S6012944.html ไดอารี่น้องหมู ตอน เข้ารอบเร็วไป วัยรุ่นเซ็ง!!! http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5999613/S5999613.html ไดอารี่น้องโด้ ตอน ชวดสามแต้มในนาทีสุดท้ายที่รังปืนโต http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5986546/S5986546.html เกาะขอบสนาม Old Trafford .:::[Theater of Dreams]:::. พาดูบอล Man Utd V Sporting Lisbon + ทัวร์ Old Trafford กันครับ... โดย คุณ suansiam http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6078674/S6078674.html นิดๆหน่อยๆสำหรับแฟนแมนยูค่ะ โดย คุณ รีโหมดไม่มีถ่าน http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6077316/S6077316.html พาไปชม Manchester United พบ Blackburn Rovers กันถึงขอบสนาม (จริงๆ) ครับ  โดย คุณ TASoccer http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6011172/S6011172.html ****วันสบาย ๆ ณ Megastore Old Trafford**** โดย คุณ PinManchester http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5971722/S5971722.html The Legend ++ RYAN GIGGS : MR. UNITED ++  : โดย + น้องพลอยสดใส + http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6036491/S6036491.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 11:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผีขบแกะ 4-1 เตฟเบิ้ล,เชลซี 2-0,นิวฯเฮนาที 90 ไรอัน กิ๊กส์ และ คาร์ลอส เตเบซ ช่วยกันยิงประตูพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ บ๊วยของตารางไปอย่างไม่ยากเย็น 4-1 ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วน เชลซี ก็ไม่น้อยหน้าอัด ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ด้าน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยิงนาที 90 พลิกชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1             ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2550       แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 ดาร์บี้ เคาน์ตี้             รองจ่าฝูง แมนฯยู เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับบ๊วยของตาราง ดาร์บี้ เจ้าถิ่นขาด โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่เจ็บในช่วงวอร์ม ส่วนทีมเยือนแม้ว่าจะมีนักเตะตัวหลักๆ ลงเล่นขาดเพียงกองหลังตัวเก๋า แอนดี้ ท็อดด์ แค่คนเดียว แต่ว่าผลงานย่ำแย่ยิงประตูไม่ได้มา 7 นัดติดต่อกันแล้ว             12 นาทีผ่านท่ามกลางเม็ดฝนที่โปรยปรายมิดฟิลด์ แมนฯยู ยังเก็บบอลไม่ได้ ผิดกับทาง ดาร์บี้ ที่มุ่งมั่นมากเป็นพิเศษ เพราะ จิลส์ บาร์นส์ และ เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์ ลองยิงไกลคนละครั้ง แต่ว่ายังไม่ผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์             พอเจ้าถิ่นเริ่มจังหวะได้ก็เกือบขึ้นนำในนาที 24 เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จี้ขึ้นมาด้านซ้ายก่อนผ่านเรียดเข้ากลาง แต่ แม็คอีฟลี่ย์ แหย่ขาสกัดจากด้านหลัง ก่อนที่ รูนี่ย์ จะปิดสกอร์เพียงแค่เสี้ยวนาที             แมนฯยู เริ่มบดอย่างหนักนวด ดาร์บี้ ทั้งซ้ายและขวาจนมาถึงนาที 40 ปาทริช เอวน่า ลุยขึ้นไปทางซ้ายเปิดติดมาเข้าทาง โรนัลโด้ ที่เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ากลางก่อนยิงไกลเต็มเหนี่ยว สตีเฟ่น บายวอเตอร์ ปัดออกมา ไรอัน กิ๊กส์ ซ้ำไม่เหลือส่งทีมขึ้นนำ 1-0 พร้อมเป็นประตูที่ 100 ของตัวเองในลีกด้วย             นาที 43 กิ๊กส์ เปิดให้ รูนี่ย์ หลุดเดี่ยวแต่ว่าดีดไปชนเสา อย่างไรก็ตามนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯยู นำห่าง 2-0 จากฟรีคิกกองหลัง ดาร์บี้ สกัดไม่ขาดปล่อยให้ คาร์ลอส เตเบซ ได้ยิงคนเดียวเน้นๆ ไม่เหลือทั้งที่จั่วลมวืดไปด้วย ก่อนที่จะครบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้             ครึ่งหลัง ดาร์บี้ เปลี่ยนตัวสองคนรวดส่ง ไทโรน เมียร์ส และ สตีฟ โฮเวิร์ด ลงมาแทน เคร็ก เฟแกน และ แม็คอีฟลี่ย์ แมนฯยู จะเฉื่อยไม่ได้เพราะ ดาร์บี้ มีลุ้นประตูในนาทีที่ 54 จากการยิงไกลของ บาร์นส์ แม้ว่าบอลจะไม่แรงแต่ว่าพื้นสนามลื่น ฟาน เดอร์ ซาร์ กะจังหวะบอลพลาดต้องปัดออกหลัง             ดาร์บี้ เหมือนจะถอดใจแล้ว เพราะปล่อยให้ แมนฯยู เล่นง่ายมากนาที 58 เวส บราวน์ เปิดจากขวาไปเสาสองให้กับ กิ๊กส์ วอลเลย์ย้อนศรแบบไม่จับแต่ว่าบอลชนเสา อย่างไรก็ตามนาที 60 แมนฯยู ฉีกไปเป็น 3-0 เมื่อกองหลัง ดาร์บี้ ประกบห่าง เตเบซ วางเท้ายิงเสียบเสาสองเข้าไป             แมนฯยู เริ่มเก็บตัวหลักๆ โดยส่ง ดาร์เรน เฟลตเชอร์ และ หลุยส์ ซาฮา ลงมาแทน อันแดร์สัน และ กิ๊กส์ ตามลำดับ เจ้าถิ่นถอด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกและให้ จอห์น โอเชีย ลงมานาที 76 ก็เสียประตูเมื่อ ไทโรน เมียร์ส วิ่งแซง เอวร่า ขึ้นไปทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางบอลชนอก โฮเวิร์ด เด้งเข้าประตู ดาร์บี้ ไล่มา 1-3             ทดเจ็บ โรนัลโด้ ขาอ่อนโดนแตะนิดเดียวก็ล้มกรรมการให้จุดโทษและเป็นตัวเขาเองที่ลุกขึ้นมาซัดเข้าไป หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯยู สอนบอล ดาร์บี้ 4-1 ยังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป แต่ว่าขยับจี้ติด อาร์เซนอล เหลือแค่คะแนนเดียว อย่างไรก็ตามแข่งมากกว่า 1 นัด             รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม       แมนฯยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริช เอวร่า, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเบซ       ดาร์บี้ - สตีเฟ่น บายวอเตอร์, โคล้ด เดวิส, แอนดี้ กริฟฟิน, ดีน ลีค็อค, เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์, ดาร์เรน มัวร์, จิลส์ บาร์นส์, แม็ตต์ โอ๊คลี่ย์, สตีเฟ่น เพียร์สัน, เคร็ก เฟแกน, เคนนี่ มิลเลอร์       ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145575 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 11:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผีอัดแกะ4-1ไล่ปืนเหลือแต้มเดียว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ปล่อยให้สามแต้มเห็นๆในเกมนี้หลุดลอยหลังเปิดบ้านไล่กระซวกดาร์บี้สบายๆ 4-1 โดยเตเบซเหมาสองและโรนัลโด้ยิงจุดโทษทดเจ็บส่วนไรอัน กิกส์คนเปิดซีงลูกเปิดบริสุทธิ์ทำลูกที่ 100 ให้สโมสรก่อนไล่บี้อาร์เซนอลเหลือแต้มเดียวแล้ว แมนฯยูฯ 4-1 ดาร์บี้ ประตู : 1-0 กิกส์ น.40,2-0 เตเบซ น.45,3-0 เตเบซ น.58,3-1 ฮาเวิร์ด น.76,4-1 โรนัลโด้(จุดโทษ) น.90 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพแบบเต็มสูบเหมือนที่ผ่านๆมาโดยแดนหน้ายังเป็นคู่หูมองตาก็รู้ใจอย่างเตเบซและรูนี่ย์เช่นเดิมส่วนไรอัน กิกซ์ก็ได้พลิ้วทางปีกซ้ายทำให้นานี่ต้องนั่งสำรองดูอันแดร์สันแข้งใหม่มาด้วยกันลงเล่นไป ดาร์บี้ของพอล จิวล์มาแบบไม่กลัว"ปิศาจแดง"และได้ทำเกมขึงอยู่ 1-2 นาทีตั้งแต่ช่วงต้นๆท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจซักเท่าไหร่เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก เจ้าถิ่นเหมือนจะกลับมาได้แต่ยังต่อกันไม่ติดแถมกลับมาถูก"แกะเขาเหล็ก"ต่อบอลกันสุดเนียนจน"เร้ดอาร์มี่"ชักนั่งดูด้วยความอึดอัดแล้ว เกมผ่านมา 10 นาทีแมนฯยูฯยังหาโอกาสเหมาะเหม็งไม่ได้เลยแถมยังต้องมาวิ่งไล่บอลจากผู้เล่นดาร์บี้อยู่หลายครั้งอีกต่างหาก หลังจากนั้นดาร์บี้ได้โอกาสส่องไกลสองครั้งติดๆกันแต่ลูกยิงก๋องแก๋งทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์แค่ล่มตัวรับเน้นปลอดภัยทั้งสองลูก แต่นาทีถัดมา"โด้จิ๋ว"ทนไม่ไหวกระชากจากกลางสนามหนีตัวประกบมาได้ก่อนสับไกด้วยอีซ้ายแต่บอลบดค่อยๆกลิ้งออกหลังไป นาที 15 กิกส์ถูกทำฟาว์ลจังหวะจะพลิกหนีเลยรับหน้าที่ปั่นฟรีคิกบอลไซด์ข้ามกำแพงแต่ข้ามคานแบบมีเสียวเล็กน้อย หลังพยายามอยู่นานโอกาสที่ดีที่สุดของเจ้าถิ่นมาจนได้เมื่อในนาที 24 โรนัลโด้กระชากเข้ากรอบถึงเส้นหลังก่อนตบให้เตเบซพุ่งเข้าชาร์จแค่ 2 หลาแต่เจอกองหลังสไลด์ตีคู่เคลียร์ทันแถมบอลเลยหน้าอันแดร์สันออกไปอีก แท็คติกส์ของจิลล์ให้นักเตะเข้าบีบและไม่ให้พื้นที่ยูไนเต็ดได้ผลชะงักและบวกกับสภาพอากาศยิ่งทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นขอแค่ลูกเดียวมีไหลแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่านี่คือทีมบ๊วยเพราะจังหวะต่อบอลกันเรื่อยๆทำได้ดีและเนียนตามาก เห็นเกมนี้แล้วนึกถึงวันที่"ปิศาจแดง"เจอโบลตันที่ตัวเทพอย่างเตเบซและรูนี่ย์เล่นกันไม่ออก ก่อนหมดเวลา 10 นาทีเจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูอย่างที่สุดหลังอันแดร์สันโชว์ลีลากระชากจากซ้ายทั้งๆที่มีตัวตามประกบเป็นเงาจนถึงหน้าเขตโทษก่อนแทงให้กิกส์ในเขตโทษและเป็นปีกขนดกแปะคืนให้น้องแอนวิ่งมายิงติดบล็อกผู้เล่นดาร์บี้และเป็นเตเบซที่ตามกดด้วยอีซ้ายจังหวะสองแต่บายวอเตอร์ล้มตัวรับเอาไว้ได้ ช่วงท้ายเหมือนโมเมนตั้มมาอยู่ฝั่งเจ้าถิ่นหมดเพราะเริ่มพับสนามอย่างหนักและนาที 40 ก็มาเอาจนได้และต้องชมโรนัลโด้ที่มาตามเก็บตกลูกเปิดจากเส้นหลังของเอวร่าที่ติดบล็อกแข้งดาร์บี้แล้วลากจากริมกรอบโทษฝั่งซ้ายเข้าในก่อนตะบันยิงเต็มข้อและแม้บายวอเตอร์จะล้มตัวปัดเอาไว้ได้แต่กิกส์วิ่งมาแปนิ่มๆเข้าไปไม่มีเหลือ "ปิศาจแดง"นำ 1-0 และเป็นลูกที่ร้อยของปีกวัยดึกผู้นี้ด้วย แต่น่าเสียดายสุดที่ยูไนเต็ดน่าจะนำห่าง 2-0 ในอีก 2 นาทีต่อมาจากลูกเปิดยาวจากแดนตัวเองของกิกส์ให้"หมูพลิ้ว"ดูบอลลงแล้วควบกระชากหน้าตั้งหลุดเดี่ยวเข้ามาล่อเป้าในเขตโทษแถมบายวอเตอร์ถูกหลอกจนทิ้งตัวไปแล้วแต่รูนี่ย์จิ้มข้ามตัวบอลค่อยๆไหลกำลังจะเข้าประตูแต่ดันชนเสาและโคล้ด เดวิสมาเคลียร์ทิ้ง เล่นเอาแข้งร่างอ้วนยืนเซ็งเพราะตอนยืนดูบอลไหลกำลังเตรียมวิ่งเฮแล้ว อย่างไรก็ตามอีก 30 วินาทีก่อนหมดเวลาไม่นับทดเจ็บ"ปิศาจแดง"มาเอาลูกสองสมใจอยากจากลูกฟรีคิก 25 หลาเป็น"โด้จิ๋ว"ที่ปั่นหยอดเข้าเขตโทษก่อนมาชุลมุนจังหวะของอันแดร์สันที่มาตกตรงหน้าเตเบซแค่ 6 หลาและแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่ากดเต็มเท้าปรากฏจั่วลมจนเอ็นขาแทบขาดแต่กลายเป็นหลอกลีดบิทเทอร์ที่สไลด์บล็อกทั้งตัวจนถลำจนเตเบซได้ยิงเน้นๆอีกรอบคราวนี้เสียบตาข่ายแทบขาด เจ้าถิ่นนำ 2-0 ปิดสกอร์ในครึ่งแรกสบายๆทั้งๆที่ช่วงต้นนั่งเกร็งกันเป็นแถว ครึ่งหลังเจ้าถิ่นเล่นสบายเพราะไม่ต้องรีบและเล่นเคาะบอลรอให้แกะกระจายฝูงแล้วค่อยหาช่องเจาะเอาลูกสาม นาที 54 ฟาน เดอร์ ซาร์มีเหวอหลังกิลส์ บารน์สได้โอกาสยิงไกลบอลไม่แรงแถมเด้งพื้นเป็นลูกระนาดแต่นายทวารร่างโย่งกลับล้มตัวปัดเสียเตะมุม แถมตอนยืมลุกมาแก้เขินบอกเพื่อนว่าบอลกระดอนรับลำบาก อีก 4 นาทีต่อมายูไนเต็ดมาพลาดได้ลูกสามอย่างน่าเสียดายจากลูกเปิดจากปีกขวาของเวส บราว์นลอยข้ามมาเสาสองเป็นกิกส์ที่ง้างเท้าวอลเลย์จังหวะเดียวตามสไตล์แต่บอลพุ่งอัดเสาอีก อย่างไรก็ตามนาทีเดียวเตเบซมาอัดห่าง 3-0 จากจังหวะง่ายๆโดยเริ่มจากบราว์นที่ก่อนหน้านี้มีข่าวอาจย้ายหลังไม่ยอมต่อสัญญาขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนแยงต่อให้เตเบซดวลกับตัวประกบก่อนแต่งหนึ่งจังหวะแล้วยิงบอลเสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปง่ายๆ นาที 74 "ปิศาจแดง"น่าจะยิงลูกสี่ได้หลังรูนี่ย์บรรจงชิพหยอดจากกรอบโทษฝั่งซ้ายข้ามมาเสาสองให้เตเบซเข้าชาร์จหลาเดียวแต่ไม่ทันบอลออกหลังอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามเจ้าถิ่นมาเสียประตูให้ดาร์บี้ก่อนหมดเวลาแค่ 14 นาทีและต้องบอกว่าไม่น่าเสียหลังไทรอน เมียร์สเปิดบอลจากปีกขวาเข้ามาเป็นเวส บราว์นกับฮาวเวิร์ดตัวสำรองสไลด์เข้าฮอร์ตคู่กันแต่บอลก็ยังกลิ้งเข้าประตูแม้วิดิชจะช่วยเคลียร์แต่บอลข้ามเส้นเข้าไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่านี่คือประตูแรกของดาร์บี้ในรอบ 7 นัดส่วนยูไนเต็ดเสียลูกที่ 8 ในซีซั่นนี้และเป็นลูกที่สองในโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกด้วย ช่วงท้ายเกมยูไนเต็ดพยายามจะเอาเม็ดสี่มาตุนประตูได้เสียและมาได้จุดโทษช่วงทดเจ็บหลังโรนัลโด้เจตนาพุ่งล้มชัดเจนและเจ้าตัวลุกมาสังหารเข้าไปสมใจหมาย 4-1 จบเกม"ปิศาจแดง"กดดันไล่อาร์เซนอลเหลือแค่แต้มเดียวแต่เตะมากกว่าหนึ่งนัดแล้วส่วนดาร์บี้แม้จะแพ้แต่แฟนบอลเหมือนมีความสุขเพราะเล่นได้อย่างน่าภูมิใจและฟอร์มไม่ขี้เหร่ด้วย รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,เวส บราว์น,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 8(โอเชีย น.71,7),เนมันย่า วิดิช 8,ปาทริซ เอวร่า 7,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 9,ไมเคิ่ล คาร์ริค,อันแดร์สัน 7(เฟลทเชอร์ น.62,7),ไรอัน กิกส์ 7(หลุยส์ ซาฮา น.64,7),เวย์น รูนี่ย์ 8,คาร์ลอส เตเบซ 9* ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : โทมัส คูสแซ็ค,นานี่ ดาร์บี้ : สตีเฟ่น บายวอเตอร์ 5,แอนดี้ กริฟฟิน 6,ดาร์เรน มัวร์ 5,โคล้ด เดวิส 7,เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์ 6(ฮาวเวิร์ด น.46,7),ดีน ลีค็อก 6,เคร็ก เฟแกน 5(เมียร์ น.46,7),แมทท์ โอคลี่ย์ 5,สตีเฟ่น เพียร์สัน 5,กิลส์ บาร์นส์ 7(ทีล น.61),เคนนี่ มิลเลอร์ 4 ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : ไพรซ์,เอิร์นชอว์ ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68719 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปผลฟุตบอล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แอสตัน วิลล่า แพ้ พอร์ทสมัธ 1-3 นิวคาสเซิ่ล ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ดาร์บี้ 4-1 เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแล่ม 3-0 เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 เร้ดดิ้ง ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน บาเยิร์น มิวนิค เสมอ ดุ๊ยส์บวร์ก 0-0 แฟร้งเฟิร์ต เสมอ ชาลเก้ 2-2 ฮันโนเวอร์ ชนะ เบรเมน 4-3 โบคุ่ม เสมอ คาร์ลสรูห์ 2-2 ฮัมบูร์ก เสมอ ค็อตบุส 0-0 สตุ๊ตการ์ท ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-1 ฟุตบอลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี ลาซิโอ ชนะ คาตาเนีย 2-0 ปาแลร์โม่ ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0 ฟุตบอลลาลีกา สเปน โอซาซูน่า เสมอ บาเลนเซีย 0-0 แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 ฟุตบอลลีกเอิง ฝรั่งเศส มาร์กเซย ชนะ โมนาโก 2-0 ก็อง ชนะ โอลิมปิก ลียง 1-0 ล็องส์ แพ้ เลอ ม็องส์ 1-3 ลอริยองต์ ชนะ โซโชซ์ 2-1 น็องซี่ เสมอ วาล็องเชียนส์ 0-0 แซงต์ เอเตียน ชนะ เม็ตซ์ 2-0 สตราส์บูร์ก ชนะ แรนส์ 3-0 ตูลูส ชนะ ลีลล์ 1-0 ที่มา : http://www.siamsport.co.th/sportresult_externalsoccer.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เซอร์ปลื้มผีชนะสวยทั้งที่ฝนตกสนามแฉะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดพอใจที่เก็บสามแต้มเหนือ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เพราะว่าสภาพสนามและอากาศไม่เอื้ออำนวย พร้อมกับเผยว่าอาการของ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางตัวรับที่เจ็บขณะซ้อมไม่น่าเป็นห่วงมากนัก              แมนฯยูไนเต็ด เพิ่งเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 4-1 จาก ไรอัน กิ๊กส์, คาร์ลอส เตเบซ สองประตูและจุดโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้บีบจ่าฝูง อาร์เซนอล เหลือตามแค่แต้มเดียว แต่แข่งมากกว่า 1 นัด              หลังเกม เฟอร์กี้ เผยว่า "ทั้งอากาศและสนามทำให้เล่นยากมาก เราพยายามผ่านบอลสั้นอยู่แล้ว ทำให้ไม่ง่ายเลย เราต้องการพาบอลไปข้างหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะกดดัน ดาร์บี้ ได้มาก โดยเฉพาะก่อนจบครึ่งแรกและเราก็ได้ประตูเป็นการตอบแทนจนได้"              "เราเล่นได้ไม่ดีที่สุด เพราะว่าสภาพอากาศ แต่ว่ายิงได้ถึง 4 ประตูและคว้า 3 แต้มในบ้าน ดังนั้นผมพอใจมากสำหรับผลที่ออกมา ซึ่งก็หวังว่าเราจะรักษาจังหวะเช่นนี้เอาไว้ได้ต่อไปเรื่อยๆ" นายใหญ่ที่คุมทัพ "ผีแดง" มาถึง 21 ปีเปิดเผย              ส่วน โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางจอมขยันที่เจ็บตอนวอร์มและถูกถอดออกให้ ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงมาเล่นแทน ท่านเซอร์ เผยว่า "ฮาร์กรีฟส์ ตึงที่น่องเล็กน้อยตอนอบอุ่นร่างกาย แน่นอนว่าในช่วงเดือนธันวาคมถือเป็นโปรแกรมหนัก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจถอดเขาออกและให้ คาร์ริค ลงแทน" ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145583 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เซอร์สดุดีกิ๊กซี่หลังซัลโวครบหลักร้อย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกโรงสดุดี ไรอัน กิ๊กส์ ปีกระดับตำนานของทีม หลังทำประตูในลีกครบหลักร้อยเป็นที่เรียบร้อยในเกมเปิดบ้านถล่มยับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 4-1 เมื่อวันเสาร์ แต่รับแปลกใจไม่น้อยที่กลับไม่มีการประกาศยกย่องออกมาในสนาม พร้อมชม คาร์ลอส เตเวซ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ที่เหมาซัดคนเดียว 2 เม็ด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวยกย่อง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายคนสำคัญเป็นการใหญ่ หลังกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 11 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ทำประตูในลีกได้ครบ 100 ลูกเป็นที่เรียบร้อย ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่มเอาชนะ "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 4-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา "ผมเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีการประกาศออกมา มันอาจจะเป็นเพราะไม่มีใครรู้ แต่แน่ใจกับสถิตินี้ มันเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ไม่มีผู้เล่นมากนักที่ทำได้ 100 ประตูในลีก แต่ ไรอัน ทำได้กับเรา นอกจากประตูแล้วเขายังมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมากด้วย" กุนซือ "เร้ด เดวิลส์" กล่าว นอกจาก "กิ๊กซี่" แล้ว คาร์ลอส เตเวซ หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อทำคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ แถมยังมีโอกาสที่จะซัดแฮตทริกด้วย เมื่อมาได้ลูกที่จุดโทษในช่วงท้ายเกม แต่เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป "คาร์ลอส เตเวซ กำลังทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ คริสเตียโน่ เป็นคนยิงจุดโทษของเรา ดังนั้นผมสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาจึงต้องการรับหน้าที่นั้น แต่มันจะเป็นเรื่องยอดเยี่ยมสำหรับ คาร์ลอส เช่นกันหากเขาทำแฮตทริกได้" ท่านเซอร์ กล่าวตบท้าย ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501209-023.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ป๋างงสนามไม่ประกาศกิกส์ยิง100ลูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือจอมไซโคยอมรับว่าแปลกใจที่โฆษกสนามไม่ยอมประกาศตอนที่ไรอัน กิกส์ยิงประตูในนาทีที่ 40 เพราะนั่นคือประตูในลีกลูกที่ 100 ของปีกจอมเก๋านับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ป๋าเสียเส้นเล็กน้อยที่"ปีกขนดก"สมควรจะได้รับเกียรติแต่เพราะอาจมีคนไม่รู้ทำให้ลืมประกาศซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายเดียวในเกมที่"ปิศาจแดง"ไล่ถล่มดาร์บี้เละเทะ 4-1 คาโอลด์แทรฟฟอร์ด "ผมเซอร์ไพรซ์มากที่ไม่มีประกาศจากทางสนาม" "บางทีอาจไม่มีใครรู้แต่มันต้องรู้สิ มันเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อมาก สุดยอดอลังการงานสร้างสุดๆ" "มีนักเตะไม่มากนักหรอกที่ยิงประตูในลีกครบ 100 ลูกแต่จากการรับใช้ของไรอัน กิกส์ที่ให้เราตลอดมา,ถ้าไม่นับประตูมันเป็นอะไรที่โดดเด่นเอามากๆ" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68739 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บอกเฉยๆโด้จิ๋วทำเตเบซชวดแฮทริค ในขณะเดียวกันเฟอร์กูสันไม่กล่าวโทษคริสติอาโน่ โรนัลโด้ปีกจอมสับที่อุตสาห์ลงทุนพุ่งล้มเอาจุดโทษช่วงทดเจ็บทั้งๆที่คาร์ลอส เคเบซพยายามเข้ามาขอรูดม่านทำแฮทริคในเกมนี้ เฟอร์กี้ชี้ว่า"โด้จิ๋ว"เป็นขาประจำยิงจุดโทษดังนั้นหากจะรับหน้าที่สังหารเองก็คงตำหนิอะไรไม่ได้แต่ก็เสียดายแทนที่หอกทีมชาติอาร์เจนติน่าชวดทำแฮทริคแรกกับ"ปิศาจแดง"อย่างน่าเสียดาย "คาร์ลอส เคเบซกำลังช่วยเหลือทีมในฤดูกาลนี้ได้ยอดเยี่ยมมาก" "คริสติอาโน่เป็นคนรับหน้าที่สังหารจุดโทษขาประจำของเราดังนั้นผมพอเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องการยิงเองแต่มันก็น่าจะวิเศษนะหากคาร์ลอสทำแฮทริคได้ในเกมนี้" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68743 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กิ๊กส์ปลื้มตำนานผีคนที่ 11 ซัดครบ 100 ตุง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดปลื้มกับผลงานซัดครบ 100 ประตูในลีก ในเกม พรีเมียร์ชิป เมื่อวันเสาร์ที่ช่วยทีมเอาชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 4-1 แต่ว่ากุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แปลกใจที่ดูไม่ค่อยมีใครตื่นเต้นกันเลย              กิ๊กส์ ยิงให้ แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำ ดาร์บี้ จากการซ้ำลูกยิงไกลของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้กลายเป็นนักเตะคนที่ 11 ในประวัติศาสตร์ของ "ผีแดง" ที่สามารถยิงได้ครบ 100 ประตูในลีก โดยตามหลังอันดับ 10 ทอมมี่ เทย์เลอร์ เพียงแค่ 12 ประตูเท่านั้น              อดีตกัปตันทีมชาติเวลส์ วัย 34 ปี ที่เล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปี 1990 กล่าวว่า "แน่นอนผมปลื้มมากที่ซัดครบ 100 ประตูในลีก ถือเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก และผมพอใจมากที่ในที่สุดก็ทำจนได้"              ทางด้าน เฟอร์กี้ นายใหญ่ชาวสกอตต์ ที่ปลุกปั้น กิ๊กส์ มากับมือเผยว่า "ผมประหลาดใจมาก เพราะดูเหมือนไม่มีใครทำอะไรกันเลย เราควรที่จะทำให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย เพราะเป็นสุดยอดแห่งความสำเร็จ มีนักเตะไม่มากหรอกที่จะยิงได้ 100 ประตูให้กับทีมนี้" ที่มา : http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145588 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จิลล์เซ็งเด็กยังเสียประตูเลอะเทอะ พอล จิลล์กุนซือร่างอ้วนไม่พอใจที่แนวรับยังเสียประตูง่ายดายทำให้ทีมต้องพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเละเทะ 4-1 ทั้งๆที่เกมนี้เล่นไม่เป็นรองถึงขนาดนั้นเลย "สิ่งเดียวที่ทำให้ผมเส้นขึ้นคือเราเสียประตูอยู่ตลอดเวลาเพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐาน,เราทำพลาดง่ายๆกันเอง" "ลูกแรกของพวกเขาเราก็มีโอกาสเน้นๆสี่ครั้งแต่ทำไม่ได้เลย" จิลล์ยังแนะให้ลูกทีมดูความสำเร็จของนักเตะชั้นนำเป็นตัวอย่างโดยเฉพาะหลังเกมที่พ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 "สิ่งเดียวที่ทำให้พวกนักเตะชั้นนำไม่เหมือนใครคือพวกเขามีพรสวรรค์แต่ก็ยังมีความกระหายอยากเล่นให้ดีๆด้วยเช่นกัน" "ตอนนี้ไรอัน กิกส์ก็ยังกระหายอยู่เหมือนตอนที่เขาเล่นให้ยูไนเต็ดครั้งแรก มันอาจต้องใช้เวลาแต่มันเป็นสิ่งที่ผมอยากพยายามบ่มเพาะให้กับลูกทีมตัวเอง" จิลล์ยังอารมณ์ขันทิ้งท้ายหลังพูดถึงประตูของสตีฟ ฮาเวิร์ดซึ่งเป็นลูกแรกนอกบ้านของดาร์บี้ในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว "เรามีอัตราต่อรองห่างสุดกู่ 25-1 ที่จะชนะในเกมนี้ดังนั้นอะไรก็ตามที่เราได้จากเกมนี้คือโบนัส" "ลูกเตะมุมซักลูกก็คงแจ่มแล้วแต่ยิงประตูได้บางทีสัปดาห์ใหม่นี้อาจเป็นวันหยุดราชการของชาวเมืองดาร์บี้เลยก็ว่าได้นะ" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68744 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แมนยูพร้อมทุ่มพันล้านเพื่อซื้ออเนลก้า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พร้อมทุ่มเงินจำนวนพันกว่าล้านบาท เพื่อ นิโกลาส์ อเนลก้า กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของโบลตันที่เจ้าตัวออกมาเปรยว่า ต้องการจะย้ายไปร่วมกับทีมใหญ่ๆที่มีสิทธิ์ลงเล่นในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ จะออกปากว่าไม่ต้องการซื้อใครเข้ามา เพิ่มในช่วงเปิดตลาดค้าแข้งยุโรป รอบ 2 หลังขึ้นปีใหม่ ทว่า "เดลีเมล" สื่อเมืองผู้ดี อ้างแหล่งข่าววงในว่า "ปีศาจแดง" พร้อมจ่ายเงิน 15 ล้านปอนด์ (1,050 ล้านบาท) ให้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับ 17 พื้นที่ปลอดภัยจากการถูกลดชั้นทีมสุดท้าย เพื่อเป็นค่าตัวของ นิโกลาส์ อเนลก้า หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส และด้วยราคาดังกล่าวทำให้ "เฟอร์กี้" จะหมดคู่ต่อสู้ในการชิงตัว "นิโก้" ทันที เนื่องจาก เชลซี รองแชมป์เก่า ขอหลบไม่ยอมสู้ราคาดังกล่าวด้วย เช่นเดียวกับทีมอื่นๆ ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68746 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หนูโด้ทำเสียวเลี้ยวรถผิดหวิดชนโครม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จอมสับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นหวาดเสียว เลี้ยว ออดี้ คันงามผิดทาง ตกใจรีบหักพวงมาลัยกลับ ทำรถหมุนติ้วกลางวงเวียน เดชะบุญดวงยังแข็งไม่ชนอะไรใคร แหล่งข่าวเม้าท์ถนนลื่นแต่ "หนูโด้" ดันครึ้มอกครึ้มใจหลังซัลโว ฟูแล่ม 2 ตุง เลยซิ่งเต็มสตรีมจนเสียฟอร์ม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นแผลงๆ อีกแล้ว หลังขับรถไปผิดทาง ด้วยความหงุดหงิดเลยจัดการเลี้ยวรถ ออดี้ อาร์ 8 คันงามพรืดเดียว ส่งผลทำให้รถสูญเสียการควบคุมหมุนติ้ว 180 องศา กลางวงเวียนในระหว่างทางกลับบ้าน หลังเกม พรีเมียร์ลีก ที่ยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ "ปีศาจแดง" เปิดรังทุบ ฟูแล่ม ไปเบาะๆ 2-0 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา แหล่งข่าวรายหนึ่ง ระบุว่า "คริสเตียโน่ ทำสิ่งที่น่าหวาดเสียวจริงๆ เขาขับรถเร็วมากๆ ระหว่างทางกลับบ้านหลังเกมนั้น ด้วยความคึกคะนองเต็มที่ หลังจากโชว์ฟอร์มในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม ถนนลื่นนิดหน่อย และในที่สุดเขาก็สูญเสียการควบคุมรถ รถเสียหลักลื่นไถลไปรอบวงเวียน แต่เขาก็ขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย และไม่มีการเฉี่ยวชนใดๆ แต่เขาก็คงจะต้องขวัญผวาบ้างแหละน่า" ทั้งนี้ ปีกโปรตุกีสไม่ใช่นักเตะรายแรกของ "ปีศาจแดง" ที่ขับรถอย่างน่าหวาดเสียว โดยก่อนหน้านี้ เวย์น รูนี่ย์ ก็เคยควบรถสุดหรู แลมบอร์กินี่ กัลลาร์โด้ ตกถนนมาแล้วในตอนที่กำลังปรับตัวให้ชินกับการขับซูเปอร์คาร์คันงาม ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501208-045.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เซอร์หนุนกำหนดโควตาผู้เล่นท้องถิ่น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนุนแนวคิดกำหนดโควตานักเตะท้องถิ่นที่ต้องมีชื่อในเกมแต่ละเกม เพื่อความสมดุลกับจำนวนนักเตะต่างชาติ ที่ย้ายเข้ามาจนล้นลีก พลางถือโอกาสติงกฎห้ามเซ็นสัญญากับดาวรุ่งที่ใช้เวลาเดินทางมาสโมสรเกิน 90 นาที เป็นตัวการทำให้ต้องเล็งตลาดต่างชาติแทน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก สนับสนุนความคิดเรื่องระบบโควตานักเตะเพื่อโอกาสในการแจ้งเกิดของนักเตะดาวรุ่งท้องถิ่น หลังวงการลูกหนังผู้ดีตอนนี้ อุดมไปด้วยพ่อค้าแข้งต่างชาติ ถึงขนาดบางทีมไม่มีนักเตะอังกฤษลงสนามเลยด้วยซ้ำ สื่ออังกฤษระบุว่า ในรายงานที่เล็ดลอดออกมาจาก สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) สนับสนุนแนวคิดนี้ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างนักเตะท้องถิ่นกับนักเตะต่างชาติ และสำหรับ เซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสนับสนุนการปั้นเด็กขึ้นมาเอง และในขณะที่ยอมรับว่า ด้วยการกฎหมายการจ้างงานของยุโรป ทำให้การจำกัดแรงงานค้าแข้งต่างชาติทำได้ยาก แต่ก็คิดว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่อย่างน้อยควรมีการระบุตัวเลขที่แน่ชัดว่า ต้องมีนักเตะในประเทศกี่คนในทีมชุดทำศึกแต่ละนัด "(มิเชล) พลาตินี่ และ (เซปป์) แบล็ตเตอร์ พูดเรื่องโควตานักเตะท้องถิ่น และผมก็เห็นด้วยกับพวกเขาเต็มที่ พวกเขาบอกว่ามันทำไม่ได้เพราะกฎหมายแรงงาน แต่ถ้าคุณมีตัวเลขตายตัวว่าต้องมีผู้เล่นอังกฤษเท่านั้นเท่านี้ในทีม คุณก็ยังส่งนักเตะต่างชาติลงเล่นได้ มันจะได้รับการเห็นชอบจากทุกสโมสรหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมว่าไม่มีอะไรเสียหาย" อย่างไรก็ตาม "เฟอร์กี้" ตำหนิกฎปัจจุบันที่ห้ามเซ็นสัญญากับนักเตะที่ต้องใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาสโมสร เกินกว่า 90 นาที โดยมองว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้สโมสรต่างๆ เลือกเซ็นสัญญากับดาวรุ่งต่างชาติแทน "ระบบนี้มันจำกัด และวงจำกัดก็ค่อนข้างแคบ เพราะเราคาดหวังว่าจะผลิตผู้เล่นคุณภาพออกมาทุกปีๆ ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" "มันเป็นแบบเดียวกันกับสโมสรอื่นๆ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็คือ เราต้องมองไปที่นักเตะต่างประเทศ เราต้องทำแบบนั้น แบบที่เราทำกับ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ กับ เคราร์ด ปิเก้ เหตุผลก็ง่ายๆ เราจำเป็นต้องรักษาระดับมาตรฐานที่สูงส่งของนักเตะดาวรุ่งของสโมสรเรา" ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501208-040.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เซอร์ยันไม่รับหน้าที่ผอ.ผีหากวางมือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ยันหากวางมือไปแล้วจะไม่ขอนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสโมสร เพราะไม่อยากกดดันผู้จัดการทีมคนใหม่ แย้มอยากเป็นทูตลูกหนังเหมือน เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน พร้อมรับทำใจได้ยากเมื่อถึงเวลาที่ต้องก้าวลงจากตำแหน่งจริงๆ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่า จะไม่รับตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างแน่นอน หากก้าวลงจากเก้าอี้กุนซือไปแล้ว เนื่องจาก ไม่ต้องการกดดันคนที่เข้ามาสืบทอดตำแหน่ง กุนซือสกอตต์ ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีก 9 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ตลอดช่วงเวลาคุมทีม 21 ปี กล่าวว่า "เมื่อผมวางมือ ผมจะไม่ขอรับงานเป็นผู้อำนวยการฟุตบอล เพราะผมไม่คิดว่า มันจะยุติธรรมต่อผู้จัดการทีมคนใหม่" "ผมจะยังมีหน้าที่ในสโมสร แต่อาจเป็นทูตเหมือนกับ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน คุณจำเป็นต้องให้การสนับสนุนใครก็ตามที่เข้ามารับงานต่อจากผม เพราะการทำทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับสโมสรนี้คือ ผู้จัดการทีมเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด คนที่เข้ามาทำงานตรงนี้จะตระหนักได้เป็นอย่างดี" "ใครก็ตามที่เข้ามาคุมทีม จะพบว่ามันยากที่จะวางมือ คุณจะประทับใจสโมสร และยิ่งยากขึ้นไปอีกที่คิดว่าจะวางมือ หรือคิดถึงวันที่คุณจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่มันต้องเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่ผมจะต้องเจอ" นายใหญ่ "ผีแดง" กล่าวในที่สุด ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501209-002.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โด้อิจฉาเพื่อนนี่หว่า กลัวเตจังยิงแฮททริคได้ก่อน อิอิอิ "การรุก คือ การรับที่ดีที่สุด เย้" จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 9 ธ.ค. 50 12:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จีเวลล์เชื่อแกะจะกระเตื้องขึ้นแน่นอน พอล จีเวลล์ กุนซือ "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ มั่นใจผลงานของ "เดอะ แรมส์" จะกระเตื้องขึ้นแน่นอน แม้จะโดน แมนฯ ยูไนเต็ด บอมบ์ยับ 4-1 ในการลงสนามนัดล่าสุด ชมเปาะลูกทีมแสดงให้เห็นถึงความห้าวหาญออกมาอย่างน่าชมเชยในการเผชิญหน้ากับพลพรรคอสูรแดง พอล จีเวลล์ ผู้จัดการทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ผลงานของพลพรรค "แกะเขาเหล็ก" จะพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน ถึงแม้จะบุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ไล่ต้อนขาดลอย 4-1 ใน ศึก พรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 4 ประตูจาก ไรอัน กิ๊กส์ คาร์ลอส เตเวซ ซึ่งเหมาคนเดียว 2 ประตู และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งสังหารจุดโทษเข้าไปในนาทีสุดท้าย ขณะที่ ดาร์บี้ ได้ประตูปลอบใจจาก สตีฟ ฮาวเวิร์ด ซึ่งยังนับเป็นประตูแรกที่พวกเขายิงได้ในการออกไปเป็นทีมเยือนในฤดูกาลนี้อีกด้วย จีเวลล์ กล่าวว่า "ประตูที่เราเสียไปเป็นการเล่นเกมรับที่แย่มาก เรามีโอกาสเคลียร์บอลถึง 4 ครั้งในจังหวะที่เสียประตูแรก และเราก็ถูกลงโทษเมื่อไม่สามารถจะเคลียร์มันออกไปได้ คุณไม่มีทางจะชนะในแมตช์ไหนแน่นอน ด้วยการเล่นอย่างนั้น เราแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และความเชื่อมั่น ดังนั้นเราจึงควรมองในแง่บวกจากจุดนั้น" พร้อมกันนั้น บอสใหญ่ "เดอะ แรมส์" ยังยอมรับด้วยว่า เกมนี้ ดาร์บี้ มีผู้เล่นในแนวรุกน้อยเกินไป แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่า เป็นเรื่องลำบากที่จะเสี่ยงอัดกองหน้าลงไปถึง 3 คนเหมือนในครึ่งหลัง ซึ่งพวกเขามีทั้ง ฮาวเวิร์ด จิลส์ บาร์นส์ และเคนนี่ มิลเลอร์ ในการพบกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด "เราพยายามจะดันทั้งคู่ขึ้นไปในแดนหน้า แต่เมื่อคุณเล่นกับทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด มันเป็นเรื่องลำบากมาก พวกเขามีความมุ่งมั่น และความกระหายที่เหลือเชื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรจะมีเช่นกัน มันเป็นเรื่องยากมาก ๆ เมื่อคุณเล่นกับทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด" "หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถมอบบางสิ่งให้กับแฟนบอลได้ในเร็ววันนี้ มันเป็นเรื่องดี ถึงแม้จะยังไม่โดนตาข่าย แต่ก็เป็นจังหวะขึ้นเกมที่ดี มันคงจะเป็นเรื่องดีหากสามารถรักษาผลเสมอ 1-1 ในครึ่งหลังเอาไว้ได้ ผมผิดหวังเพราะครึ่งหลังที่เสมอกัน 1-1 ย่อมเป็นเรื่องดีสำหรับเรา" กุนซือหนุ่มฝีมือดี กล่าวในที่สุด ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501209-017.html เอ่อ .... ที่ขีดเส้นใต้ไว้อ่ะ  จีเวลล์เมา หรือ สยามสปอร์ตแปลผิดหว่ ... เอ๊ะ รึว่าผมมึน!!! จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ราฟายันสุดเซ็งกรรมการลั่นต้องคืนฟอร์มบู๊โอแอม ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สุดเซ็งมาตรฐานการเป่าของเชิ้ตดำ อังเดร มาร์ริเนอร์ หลังจากออกไปถูก "เดอะ รอยัลส์" เรดดิ้ง ไล่ต้อน 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมแก้ตัวถอด เฟร์นานโด ตอร์เรส และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออก เพราะมั่นใจศักยภาพของนักเตะสำรอง รวมทั้งต้องมองไปถึงเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ มาร์กเซย ในวันอังคารนี้ ที่จะต้องชนะสถานเดียว ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความไม่พอใจการตัดสินของ อังเดร มาร์ริเนอร์ หลังจากให้จุดโทษ เรดดิ้ง อย่างน่ากังขาในครึ่งแรก จนทำให้รูปเกมของขุนพล "หงส์แดง" ปั่นป่วน และถูกเจ้าถิ่นไล่ต้อน 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการปราชัยในลีกนัดแรกของฤดูกาล เบนิเตซ พูดถึงจังหวะที่ มาร์ริเนอร์ เป่าให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษ ทั้งที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลัง ลิเวอร์พูล พุ่งเสียบ บรีนยาร์ กุนนาร์สสัน มิดฟิลด์ เรดดิ้ง หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ สตีเฟ่น ฮันท์ จะรับหน้าที่สังหารให้ เดอะ รอยัลส์ ออกนำในนาทีที่ 17 แต่กลับไม่ให้ทีมของเขาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกตัวเก่งเลือดสแปนิช โดน อิบราฮิมา ซงโก้ เสียบล้มในเขตโทษ ช่วงปลายครึ่งแรก "ผมไม่มีความสุขกับการตัดสินหลายๆ ครั้ง ขณะเดียวกัน เรามีโอกาสยิงประตูมากพอสมควร แต่กลับทำไม่ได้ และบางทีนั่นอาจเป็นจุดสำคัญ ความแตกต่างระหว่างเหตุการณ์ที่มีการเป่าให้จุดโทษหนึ่งลูก กับอีกเหตุการณ์ที่ไม่ได้รับจุดโทษ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีโอกาสทำประตูก็จะต้องคว้าเอาไว้ให้ได้ แต่ท้ายที่สุด เรากลับทำไม่สำเร็จ" อดีตเทรนเนอร์ บาเลนเซีย พูดถึงการตัดสินใจเปลี่ยน ตอร์เรส และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ออกจากสนามในช่วงครึ่งหลัง ก็เพื่อจะเก็บไว้ใช้งานสำหรับเกมชี้ชะตา ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอ ที่จะออกไปเยือน โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ สต๊าด เวโลโดรม ในวันอังคารนี้ "เราแพ้ 3-1 และผมก็แค่พยายามปกป้องนักเตะตัวหลักสำหรับเกมต่อไป เรามีผู้เล่นที่มีคุณภาพนั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรอง และเราก็พยายามเปลี่ยนแปลงบางสิ่งด้วยการส่งนักเตะที่มีความเร็วลงไป ช่วงเวลานี้เป็นสัปดาห์ที่สำคัญเราก็มีเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ เราควรเตรียมตัวสำหรับเกมนี้ด้วยความเชื่อมั่น และความพยายามจะชนะ จากนั้นเราค่อยคิดถึงการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.) ทุกคนคงเข้าใจแนวคิดของผมที่จะมองเพียงเกมต่อเกมเท่านั้น เป้าหมายตอนนี้ของเราคือ มาร์กเซย" ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501209-029.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 thank!!! จากคุณ : TMP - [ 9 ธ.ค. 50 12:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รับรู้ว่าแพ้เลยต้องพักตัวหลัก เอลบอสยอมรับเต็มอกว่าตอนถูกเรดดิ้งยิงหนีห่าง 3-1 เขารู้ตัวว่าโอกาสแพ้ค่อนข้างสูงเลยจำเป็นต้องถอดเอาเฟอร์นานโด ตอร์เรสตามติดด้วยสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดก่อนเป็นเจมี่ คาร์ราเกอร์เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บและติดโทษแบนตามลำดับ "เรากำลังแพ้ 3-1 และผมพยายามปกป้องนักเตะตัวหลักสำหรับเกมนัดต่อไป"ราฟาเผย "เรามีนักเตะฝีเท้าดีที่ข้างสนามอีกหลายคนและเราก็พยายามเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรด้วยผู้เล่นที่มีความเร็ว" "ตอนนี้มันเป็นสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับเราเอามากๆและเราก็มีเกมสำคัญในแชมเปี้ยนส์ลีกรออยู่ เราต้องลงเล่นด้วยความมั่นใจและเอาชนะให้ได้" "หลังจากนั้นแล้วเท่านั้นที่เราสามารถคิดถึงเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพราะคุณรู้ว่าการทำทีมของผมคือเกมต่อเกม เป้าหมายตอนนี้คือกับมาร์กเซย์เท่านั้น" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68750 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 12:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เย้ ชนะ ดีใจหนึ่งเด้ง หงษืแพ้ ดีใจอีก 1เด้ง ถ้าบางทีมพ้อีกจะดีใจ3 เด้ง เลย จากคุณ : ยุ่งแฮะ - [ 9 ธ.ค. 50 12:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วันนี้มีความสุขจริงๆเลยฮะ ฮะโหยฮะโหยยยย ป๋ากิ๊กซ์สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : Manchester United FC - [ 9 ธ.ค. 50 13:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Papers: The new trinity Utd trinity law down the law Denis Law believes Cristiano Ronaldo, Wayne Rooney and Carlos Tevez are the new Holy Trinity of football. That was the name given to Law, George Best and Bobby Charlton in the Sixties at Manchester United. Few thought they would ever see their like again but boss Alex Ferguson first suggested he has the men to emulate them. And for the first time Law, known as The King, has given his royal approval. Scot Law said: “I agree with Alex. These three are something special. They are all terrific players, you can’t doubt that.That potential is there in all three of them to emulate our achievements in the 1960s, without a doubt. With some guys you just know something is going to happen when they’re on the ball. Ronaldo’s one of those guys.” Neil Custis, The Sun All the papers feature stories on United's plans to mark the 50th anniversary of the Munich air disaster. The Sun features quotes from Carlos Tevez who says he loves playing alongside Wayne Rooney and predicts their partnership will thrive. The quotes are taken from United Review's exclusive interview with the Argentine for the Fulham programme. Iain Dowie tells the Daily Mirror that Sir Alex Ferguson might be tempted by the England job and urged the FA to approach the United manager. "He would be my choice all day long," said Dowie. "There is no one better at handling people and manmanagement has become a huge part of the game." Round up by Gemma Thompson ที่มา : http://www.manutd.com/default.sps?pagegid=%7BB4CEE8FA%2D9A47%2D47BC%2DB069%2D3F7A2F35DB70%7D&newsid=513629 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 55555เหอๆดีใจด้วยท่านกิ๊กซ์ จากคุณ : เจ้าชายสีน้ำเงิน - [ 9 ธ.ค. 50 13:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Reds: Ronaldo was spot on Cristiano Ronaldo was right to take the penalty against Derby County, even if it prevented Carlos Tevez from claiming a richly deserved hat-trick. That was the opinion of two senior United players and Sir Alex Ferguson after Ronaldo scored from the spot in injury-time. Tevez had scored two goals at that point and with the Reds 3-1 up, there seemed little risk in Cristiano passing him the penalty-taking duty. But Reds captain Ryan Giggs insisted: "Penalty takers should always take penalties, simple as that. If we got an important penalty in the next couple of weeks then Cristiano scoring one today will give him the confidence to do it again." Rio Ferdinand added: "It's professionalism. If the game was 1-1, Ronaldo would have taken the penalty. Sentiment doesn't really come into it. We're a professional team and I'm sure it means nothing to Carlos." Sir Alex agreed: "Cristiano is the regular penalty kick taker and I can understand him wanting to take it. It would have been great for Carlos to get his hat-trick, but it's also important for Ronaldo to keep his goalscoring run going. "When you're on a run like Cristiano is (12 goals in his last nine games) you want him to keep it going. It's the same for any player, it helps to keep your confidence high." Ryan Giggs, Rio Ferdinand and Sir Alex Ferguson were all talking to MUTV. ที่มา : http://www.manutd.com/default.sps?pagegid=%7BB4CEE8FA%2D9A47%2D47BC%2DB069%2D3F7A2F35DB70%7D&newsid=514132 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีจัง นอกจากยิงได้ 100 ลูกแล้ว ยังเป็นคนที่ 11 ของสโมสร (ตรงกับเบอร์ของเฮียแกด้วย) ยินดีด้วยครับ กิกซี่ และขอบคุณน้องแม็คเช่นกัน (^_^) จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 9 ธ.ค. 50 13:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไอ้เจ็ทโด้ กวนทีนจริง ๆ 555+ ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : [- - MafEaRsInG - -] - [ 9 ธ.ค. 50 13:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Ton up for Giggsy Ryan Giggs became only the eleventh player in United's history to score 100 league goals when he struck the Reds' first-half opener against Derby County. The Welshman's neat finish five minutes before half time allowed him to join an elite band of Reds legends who have reached a century of strikes. "Obviously I'm really pleased to have scored 100 league goals," said Ryan. "It's a great achievement and I'm pleased that I eventually got there." Sir Alex Ferguson saluted Ryan's feat in his post-match interview on MUTV. "I'm amazed that there hasn't been more made of it," said the boss. "I think we should be making a big deal of it because it’s a fantastic achievement. Not many players have scored 100 league goals for this club." Giggs joins past goalscoring greats such as Sir Bobby Charlton, Jack Rowley, Denis Law and Dennis Viollet in United's 100 club. And his outing against Derby means he's just 23 games away from equalling Sir Bobby's all-time appearances record. Sir Alex added: "Of course, the service Ryan has given us, aside from the goals, has been outstanding." United Centurions Only 11 men in United's history have reached 100 league goals... 1. Bobby Charlton 199 2. Jack Rowley 182 3. Denis Law 171 4. Dennis Viollet 159 5. Joe Spence 158 6. George Best 137 7. Stan Pearson 127 8. Mark Hughes 120 9. David Herd 114 10. Tommy Taylor 112 11. Ryan Giggs 100 ที่มา : http://www.manutd.com/default.sps?pagegid=%7BB4CEE8FA%2D9A47%2D47BC%2DB069%2D3F7A2F35DB70%7D&newsid=514130 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 X - United เจ๊วิคหลุดปากบอกจรวดเบ็คส์บิ๊กเบิ้ม เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์เท้าชั่งทอง ได้รับการันตีจากเมียรัก วิคตอเรีย ชัดเจน นอกจากจะรูปหล่อกล้ามใหญ่แล้ว ปืนฉีดน้ำประจำกายยังไซส์ยักษ์บิ๊กเบิ้มอีกต่างหาก!!! เท่านั้นยังไม่พอ "เจ๊วิค" ยังเผยเรื่องบนเตียงสุดสยิวกิ้ว ต้องนอนเปลือยกายล่อนจ้อนทุกคืน เพื่อจะได้สัมผัสหนั่นเนื้อกำยำ และมัดกล้ามแข็งแกร่งของผัวเลิฟอย่างเต็มที่ วิคตอเรีย เบ็คแฮม นักร้องสาวสมาชิกวงเกิร์ลแบนด์ชื่อดัง "สไปซ์ เกิร์ลส์" ศรีภรรยาของ เดวิด เบ็คแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษ สังกัด ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ ทีมลูกหนังดัง เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา ออกมาพูดแบบไม่อายผีสางนางไม้ว่าเธอชอบนอนเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เพื่อจะได้สัมผัสผิวหนังอันอ่อนนุ่ม และกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของสามีรูปหล่อได้อย่างถึงอกถึงใจ "เจ๊วิค" แม้จะดูหน้าดุ แต่ก็แอบทะลึ่งไม่เบา เมื่อเคยทำเอา "หนุ่มเบ็คส์" หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกมาแล้ว จากการที่ป้องปากเม้าท์ผัวเลิฟของตัวเองว่าชื่นชอบกับการเอาชุดชั้นในของเธอมาสวมใส่ พอมาครั้งนี้ก็เอาเรื่องในมุ้งมาเล่าให้ "แอล" นิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่ง ฟังหน้าตาเฉยว่าเธอชอบแก้ผ้านอน โดยระบุว่า "ฉันจะนอนแบบเปลือยทั้งตัว และฉันจะเปลือยล่อนจ้อนถ้าฉันนอนกับเขา(เบ็คแฮม) ทุกคืน" เท่านั้นยังไม่พอ นักร้องสาวแม่ลูกสามยังเอา "น้องชายเบ็คส์" มาเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อหน้าต่อตาสามีที่มาร่วมฟังการให้สัมภาษณ์อยู่ด้วย โดย วิคตอเรีย เอ่ยขึ้นมาว่า "คุณอยากให้ฉันบอกพวกเขาด้วยมั้ยล่ะว่าเจ้าโลกของคุณไซส์ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม" ได้ยินแบบนั้น "หนุ่มเบ็คส์" ก็เขินตามฟอร์ม แต่ไม่พูดอะไร ก่อนจะยิ้มแย้ม และหลุดปากออกมาตามประสาคนขี้เกรงใจภรรยาจนได้ว่า "ไม่มีความเห็น! ภรรยาผมว่าไง ผมก็ว่าตามนั้น" ทั้งนี้ เมื่อหลายปีก่อน "เจ๊วิค" ก็เคยออกมาแฉเรื่องบนเตียงกับสามีรูปหล่อมาแล้วว่า เบ็คแฮม นั้น มีบทรักดุดันเหี้ยมหาญเปรียบเสมือน "สัตว์ป่า" บนเตียงนอนเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ยังเคยเรียกสามีสุดที่รักด้วยชื่อเล่นว่า "พ่อ โกลเด้นบอล (ลูกบอลทองคำ) ของฉัน" อีกต่างหาก ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501208-048.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แลมพ์สยกคีโน่เป็นต้นแบบ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ดาวเตะ เชลซี เผยสมัยยังเป็นดาวรุ่งเคยมี รอย คีน อดีตมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นต้นแบบ รับสุดทึ่งฝีเท้าของ "คีโน่" ที่เล่นได้ครบเครื่องต้มยำในแดนกลาง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางทีมชาติอังกฤษของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยอมรับว่า ต้องการเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องเหมือนกับ รอย คีน อดีตจอมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสมัยที่ตนเองยังเป็นดาวรุ่ง กองกลางวัย 29 ปี ซึ่งทำประตูไปแล้วเกินกว่า 20 ลูกจาก 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา กล่าวว่า "รอย เป็นคนที่ผมดูเป็นแบบอย่าง ตอนที่ผมเลื่อนชั้นขึ้นมา ผมได้มีโอกาสเล่นกับเขา ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ ผมอยากเป็นแบบเขา ผมทึ่งในฝีเท้าของเขา ผมจำได้ว่าการเล่นกับเขาตอนสมัยอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับเป็นงานที่หนักมาก" "เขาคอยบงการเกม มันยากที่จะทำได้ดีกว่าเขา เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมจำได้คือฟอร์มการเล่นของเขาในสนาม คุณจะเห็นเลยว่า ตัวเองอยู่ห่างไกลจากผู้เล่นระดับชั้นนำมากแค่ไหน และได้รู้ถึงวิธีการเล่นที่พลิกแพลงในสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" แลมพาร์ด ทิ้งท้าย ที่มา : http://www.siamsport.co.th/25501208-064.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คอปเปลล์มีร้องขอเครดิต"เรดดิ้ง" สตีฟ คอปเปลล์กุนซือฝีมือดีร้องขอเครดิตให้กับนักเตะเรดดิ้งมากกว่าจะมาอ้างสมาธิของลิเวอร์พูลที่มีเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดสำคัญกับโอลิมปิก มาร์กเซย์ในวันอังคารนี้ "สำหรับจุดโทษของเราผมอยากบอกว่ามันน่าจะเป็นจุดโทษมากกว่าไม่ใช่นะ มันไม่ยุติธรรมที่บอกว่าเราเอาชนะในเกมนี้แต่เป็นจุดโทษกังขาหรือบอกว่าพวกเขาเล่นกันไม่ค่อยดีเพราะกำลังมองถึงเกมวันอังคารนี้แล้วก็ปล.เรดดิ้งก็เล่นดีเหมือนกันนะ แบบนี้ผมว่าไม่แฟร์" คอปเปลล์ซึ่งเป็นแฟนบอล"หงส์แดง"ตัวยงยอมรับว่าเห็นใจเบนิเตซไม่น้อย"ในแง่ของลำดับความสำคัญของเกมในสัปดาห์นี้ผมบอกได้เลยว่าเรดดิ้งของเราเป็นอันดับสาม(ลิเวอร์พูลมีสองเกมใหญ่กับมาร์กเซย์และแมนฯยูฯ)" "ผมไม่อยากให้ราฟาเข้าใจคำพูดผมผิดแต่มาร์กเซย์ต้องเป็นเกมสำคัญอันดับหนึ่งนะ" ในขณะเดียวกันคอปเปลล์ยังเตือนลูกทีมว่านี่เป็นแค่หนึ่งในชัยชนะอีกยาวไกลของฤดูกาลนี้เพราะไม่ได้การันตีการอยู่รอดใดๆเลย "การได้ผลการแข่งขันงามๆกับยอดทีมเป็นอะไรที่น่าพอใจนะแต่ฤดูกาลยังอีกยาวไกล ยังเหลืออีกตั้งห้าเดือน" "เราจำเป็นต้องลุยแหลกและผมคิดว่าแฟนๆคงแฮปปี้กัน" "ผลการแข่งขันยามเจอกับทีมหัวบนตาราจะไม่ตัดสินฤดูกาลของเราแต่มันทำให้เกิดความรู้สึกดีๆและหวังว่ามันจะสร้างฐานอันมั่นคงด้วย" ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=68753 จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สปอร์ตวาไรตี้ ล้วงแคะแกะเกามาอีกแล้ว สวัสดีครับแฟนเว็บไซต์สยามสปอร์ตทุท่าน วันนี้เป็นคิว "Jamesdeen" รับหน้าที่คุ้ยเขี่ยติ่งความคืบหน้าหรือข่าวสารวงการกีฬาฟุตบอลให้ทราบกัน @@@วันนี้ภารกิจดูเหมือนว่าจะยุ่งยากกว่าทุกวันเนื่องจากเกิดอาการอัดอั้นตันใจบอกไม่ถูกว่ามันมาจากที่ไหนแต่อยากระบายให้รู้เท่านั้นแหละครับไม่มีอะไรมากมายไปกว่านี้..ฮา @@@เริ่มกันเลยครับ เอาข่าวนี่ดีกว่าการหานายหัวคนใหม่ของทีมชาติอังกฤษ ที่นับจนถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณเหตุว่ามันจะสิ้นสุดในเร็ววันด้วย ที่สำคัญนักข่าวเมืองนอกได้อาศัยเรื่องนี้ตีข่าวให้ฮือฮาตลอด แต่ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนลวง @@@เพราะมีกระแสข่าวออกมาแจ้งว่า โชเซ่ มูรินโญ่ แคนดิเดตหมายเลขหนึ่งที่จะมาขี่สิงโตนั้นถึงกับต้องยกเลิกโปรแกรมเที่ยวเมืองผู้ดี เพื่อหาซื้อของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสไปเลย เพราะกลัวว่าจะตกเป็นข่าวซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่านักข่าวเมืองผู้ดีนั้นเรียกได้ว่าเป็นจอมปั้นน้ำตัวตัวยงเมืองหนึ่งทีเดียว @@@แต่ใช่ว่าจะมีเพียงเท่านั้นสำหรับ มูรินโญ่ เท่อแหล่งข่าวอีกกระแสนั้นแจ้งว่าตอนนี้เอเยนต์ของกุนซือจอมอหังการได้เดินเรื่องเจรจาสัญญากับเอฟเอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ่านสองข่าวนี้แล้วไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเชื่อแหล่งข่าวไหนดีเอาเป็นว่าริให้ชัวร์หน่อยดีกว่าครับ @@@ดูเหมือนว่าจะเรียว่าไม่เจียมหรือว่ากระไรดี สำหรับกองหลังจอมเฟอะในบางวันอย่าง เวสลี่ย์ บราวน์ ที่หมอห้าวขนาดกล้าปฏิเสธที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หน้าตาเฉย ประมาณว่าข้าพเจ้าเก่งว้อย...ค่าเหนื่อยมันต้องระดับ จอห์น เทอร์รี่ หรือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ โน่นเลย ถ้าต่ำกว่านั้นไม่ต้องมาคุยกัน สงสัยน้องน้ำตาลแกจะคิดแบบนี้มั้ง แต่ไม่รู้ว่า เฟอร์กี้ แกจะเอาหรือเปล่า @@@คุยเรื่องสัญยาแล้วแวะไปหาพี่แกหน่อย เมื่อ โคล้ด มาเกเลเล่ ออกมาเผยว่าหลังจากจบศึกยูดร 2008 เจ้าตัวจะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการแล้ว อีกย่างสัญญากับต้นสังกัด เชลซี ที่กำลังจะหมดลงัยงไม่มีวี่แววว่าจะเจรจากันได้ด้วย ไม่ทราบว่ามีทีมไหนจะยินดีรับขิงแก่ไปใช้ต่อบ้างหรือเปล่า @@@หลังจากที่ไม่ประผลสำเร็จมานักในการซื้อตัวผู้ที่เป็นชาวอังกฤษแท้ๆ ล่าสุด อาร์แซน เวนเกอร์ ออกมาประกาศให้รู้โดยทั่วกันว่า ตนคงต้องกลับไปคิดอีกครั้งว่าจะเลือกซื้อนักเตะผู้ดีมาใช้งานหรือไม่ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นแล้วอย่าง ริชาร์ด ไรท์ และ ฟรานซิส เจฟเฟอร์ ว่าการทุ่มเงินจำนวนมากใช่ว่าจะประสบผลเสมอไป @@@เรียกว่าหน้าแตกแบบเล็กๆ สำหรับสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เมื่อ จอห์น บอสต็อค กุนซือวัยรุ่นของคริสตัล พาเลซ จัดการปฏิเสธข้อเสนอจากสโมสรยักษ์กรุงลอนดอน ที่ต้องการให้เจ้าตัวไปทำงานเป็นโค้ช โดยผู้จัดการทีมคนหนุ่มอ้างเหตุผลว่าตนเพิ่งจะจรดปากกาเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ พาเลซ เมื่อไม่นานมานี้เอง จึงอยากจะอยู่ทำหน้าที่นี้ต่อไปก่อนนั่นเอง @@@ส่วนนี่ก็ยังหมอนี่เรียกว่าหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเลยทีเดียว ไม่ใช่ใครที่ไหนครับเขาคือ เคนนี่ ดัลกลิช ที่แหล่งข่าวใกล้ชิดออกมาเผยว่าจริงๆ แล้วหมอนี่ต้องการเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมชาติสกอตแลนด์ เพียงแต่ว่าเขานั้นดันไม่เป็นที่ต้องการของเอฟเอสกอตติชซะงั้น งานนี้เลยต้องแห้วตามระเบียบ @@@เอาเป็นว่าพอสังเขปแล้วกันนะครับ อ้อ เกือบลืมไป นานๆ ครั้ง จะมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ มาจัดในประเทศไทยเราอยากให้ตามเชียร์กีฬาไทยหน่อยเผื่อว่ากำลังใจเล็กๆ ของเรานี้จะมีส่วนช่วยให้นักกีฬาไทยคว้าชัยกลับมาให้เราชื่นชมชื่นใจส่งท้ายปีบ้าง....สวัสดี..... โดย "Jamesdeen" ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Column_sportvariety540.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เจาะข่าวฮอต งัดแงะแกะเกากับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ชื่อของ รุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ ของ เรอัล มาดริด ถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในยอดดาวยิงในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลงานเหมาถล่มประตู 12 ลูก ตั้งแต่สมัยที่เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2002/03 เป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี และสถิติดังกล่าวถือเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงได้มากที่สุดในฤดูกาลเดียวอีกด้วย ซึ่งจนถึง ณ ปัจจุบันยังไม่มีผู้เล่นคนไหนทำลายสถิติที่ว่านี้ได้... นอกจากนี้ ในสมัยที่ "พี่ม้า" ยังค้าแข้งอยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น เจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในห้านักเตะที่กดคนเดียวเน้นๆ 4 ประตูในนัดเดียวในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (เหยื่อคือ สปาร์ต้า ปราก ในฤดูกาล 2004-05) และจำนวน 57 ประตูในการลงเล่นยังศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่สุดนั้น ส่งผลทำให้ นิสเตลรอย ต้องการยิงอีกเม็ดเดียวก็จะเทียบเท่ากับสถิติยิงมากสุดของ ราอูล กอนซาเลซ (58 ประตู) และอีก 5 ลูกจะทำสถิติเทียบเท่า เกิร็ต มุลเลอร์ ตำนานนักเตะทีมชาติเยอรมัน ที่เคยทำไว้ในการแข่งขันทุกรายการของยูฟ่า ด้วยเหตุนี้ ดาวเตะวัย 31 กะรัต จึงไม่รอช้าที่จะออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเคล็ดไม่ลับเรื่องการถล่มประตู ตลอดจนความใฝ่ฝันที่อยากจะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มานอนกอดให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต... ไหนลองเล่าเรื่องที่ยิงประตูในฤดูกาลเดียวได้มากที่สุด (12 ลูก) ให้เราฟังหน่อยซิ? รุด ฟาน นิสเตลรอย - ผมจำได้ดีว่าผมทำประตูได้แทบจะทุกเกม ในฤดูกาลนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเข้าทางผมหมด ทั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพรีเมียร์ลีก ด้วยเช่นกัน มันเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แล้วเกมไหนกันที่นึกถึงทีไรก็ต้องอมยิ้มทุกที... รุด ฟาน นิสเตลรอย - มันเป็นเกมที่ผู้คนส่วนใหญ่คงจะนึกไม่ถึงหรอก มันเป็นเกมที่เล่นให้กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น นัดเยือน เอชเจเค เฮลซิงกิ ในฟินแลนด์ และผมก็ทำแฮตทริกได้ มันเป็นปีแรกที่ผมได้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็เป็นปีแรกกับ พีเอสวี ส่วนเรื่องการทำแฮตทริกในการเล่นฟุตบอลระดับนั้นถือเป็นเรื่องที่สุดยอดสำหรับผมโดยส่วนตัว รู้สึกอย่างไรบ้างที่ทำสถิติยิงแซงหน้าตำนานนักเตะชื่อก้องของโลกอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ และ ยูเซบิโอ? รุด ฟาน นิสเตลรอย - จริงอยู่ที่สถิติของพวกเขายากที่คุณจะทำลายลงได้ แต่คุณย่อมต้องมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ พวกเขาลงเล่นน้อยกว่ามาก แต่ก็ได้รับการยอมรับอย่างสูง เพราะพวกเขาเป็นตำนานนักเตะตลอดกาล แต่ด้วยความเคารพอย่างสูงผมเหนือกว่าพวกเขาแล้ว และมันก็เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ส่วนเรื่องการที่คุณต้องแข่งกับ ราอูล กอนซาเลซ เพื่อที่ว่าจะได้ครองสถิติยิงประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากที่สุดนั้น มันทำให้คุณรู้สึกกระอักกระอ่วนใจบ้างหรือเปล่า? รุด ฟาน นิสเตลรอย - ไม่เลย เราอำเรื่องนี้กันอยู่บ่อยๆ ในระหว่างฝึกซ้อม เราอำกันเรื่องที่ผมยิง 4 ประตูในรอบคัดเลือก หากคุณมีคุณภาพในการเล่นเป็นกองหน้าเหมือนกับ ราอูล ผมพูดได้เลยว่าผมอยากจะลงร่วมกันมากกว่า หากคุณมีนักเตะคุณภาพอยู่ในทีมมันจะง่ายขึ้นเยอะสำหรับทุกคน การที่นักเตะคนหนึ่งมีทั้งคุณภาพ, วิสัยทัศน์, การจ่ายบอล ตลอดจนไปถึงการทำประตูนั้น มันทำให้ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ และเขาก็ได้พิสูจน์มันไปแล้ว ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน เขาเป็นตัวอย่างยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน เขาเป็นคนนำทางให้กับเรา การที่ มาดริด มีนักเตะชาวดัตช์อยู่เต็มทีม ถือเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า? รุด ฟาน นิสเตลรอย - ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ เขาอายุแค่ 23 ปีก็จริง แต่ฝีเท้าเกินอายุ เขามีองค์ประกอบทุกอย่างที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์ของที่นี่ไปอีกนานเท่านาน ส่วน อาร์เยน ร็อบเบน เป็นนักเตะอายุน้อยมากๆ แค่ 23 ปีเท่านั้น และก็เหมือนกับ เวสลี่ย์ ในแง่ของการมีประสบการณ์มากมายด้วยวัยขนาดนี้ พวกเขาผ่านการลงเล่นในศึกยูโร และฟุตบอลโลก มาแล้ว แถมยังได้ลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับทีมใหญ่ๆ อีกต่างหาก พวกเขาเป็นนักเตะอายุน้อยมากก็จริง แต่ประสบการณ์สูง พวกเขาถือเป็นการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญของเรา ขณะที่ รอยสตัน เดรนเธ่ เป็นเพชรที่ยังไม่ได้ผ่านการเจียระไน เขามีทุกอย่างอยู่ในตัวในการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชั้นยอด เขาอายุแค่ 20 ปี และก็ยังไม่ค่อยจะมีประสบการณ์ แต่ที่นี่เขาจะมีโอกาสเติบโต และพัฒนา ผมรู้เลยว่าเขาจะได้รับโอกาสในการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชั้ยยอดต่อไป แล้วเรื่องการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ล่ะ... รุด ฟาน นิสเตลรอย - มันมีความหมายทุกอย่างสำหรับผม มันเป็นเป้าหมายที่ต้องทำงานอย่างหนักทุกวัน, ต้องสู้ถึงจะประสบผลสำเร็จ มันเป็นเป้าหมายสูงสุดของสโมสร ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคว้าแชมป์มาให้ได้ มันเป็นการแข่งขันที่วิเศษ และผมเองก็ต้องการชูถ้วยแชมป์ด้วย ผมหวังว่าในสักวันหนึ่งผมจะก้าวไปจนถึงจุดนั้น มันเป็นบางอย่างที่ทำให้ผมมีสมาธิอยู่กับมัน และเป็นสิ่งที่ผมต้องทำให้ได้ มีความเป็นไปได้ไหมที่คุณจะทำสถิติยิงประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากที่สุด... รุด ฟาน นิสเตลรอย - คุณต้องทำงานอย่างหนักถึงหลายปี เพื่อที่จะยิงประตูให้ได้ และทันใดนั้นคุณจะสังเกตเห็นเองแหละว่า "เฮ้ย! ผมมีชื่อเป็นดาวซัลโวแล้ว" แต่ผมพยายามที่จะลืมมัน และเล่นอย่างที่ผมเคยทำ และเมื่อไหร่ที่อาชีพนักเตะของผมจบลง ผมหวังว่าจะได้ย้อนกลับไปมองผลงานอันน่าภูมิใจได้ และหากมันเกิดขึ้นจริงๆ เวลานั้นมันคงจะยอดเยี่ยมน่าดู มันเป็นบางอย่างที่แสดงให้เด็กรุ่นต่อไปเห็นว่า นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องทำให้ได้ มีอะไรจะฝากเด็กพวกนั้นบ้างไหม? รุด ฟาน นิสเตลรอย - รักฟุตบอล เด็กๆ ทั่วทั้งโลกย่อมรักฟุตบอลอยู่แล้ว พวกเขาต้องอยู่ติดกับบอลเข้าไว้ และต้องเล่นให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ด้วยการเล่นในสนามหญ้าหลังบ้าน, บนท้องถนน และในสวนสาธารณะ ความรักและความมีอารมณ์ร่วมกับเกมฟุตบอลจะช่วยให้คุณได้อยู่กับสโมสรบางแห่งในอนาคต ความเชื่อมั่นด้วยเช่นกันที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ว่าคุณจะมาจากไหน ผมเองก็ยังมาจากหมู่บ้านเล็กใน ฮอลแลนด์ ซึ่งไม่เคยมีใครสักคนที่มีโอกาสได้เล่นกับทีมใหญ่ๆ เลย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะยังมีตัวอย่างดีๆ อีกตั้งมากมายให้กับพวกเด็กๆ ซึ่งคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก และผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนต้องตระหนักเอาไว้ว่า พวกเขาสามารถทำได้ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่สำคัญหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งหมดต้องเริ่มต้นด้วยการมีอารมณ์ร่วมกับเกมฟุตบอล โดย RvN ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Columnhotnews541.html จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ข่าวหมดแล้วครับ สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ  วันนี้แปะข่าวค่อนข้างช้านิสสนึง เนื่องจากเน็ตไม่ค่อยดี อืดมากมาย (หาข้ออ้าง ) ก้อผ่านไปอีกเกมส์กับชัยชนะของปิศาจแดง ซึ่งหลังจบเกมส์ก้อมีประเด็นให้พูดถึงมากมาย แต่เด่นๆคือเรื่อง ที่เจ๊ทโด้ ไม่ยอมให้ เตเวซ ยิงจุดโทษ จนอดได้โอกาสทำแฮตทริก สำหรับเรื่องนี้ ไม่อยากให้นำมาเป็นเรื่องถกเถียงกันและต่อว่าเจ็ทโด้เลยครับ เพราะคิดว่า เตเวซก้อคงจะไม่คิดมากกับเรื่องเพียงแค่นี้ จะเห็นว่าพอโด้ยิงจุดโทษเข้าไปแล้ว เตเวซ ยังวิ่งเข้ามายินดีกับเจ็ทโด้เป็นคนที่สอง(คนแรก เป็นน้องมู๋ วิ่งเข้ามาตบหน้า เพี๊ยะ!!! ) ยังไงพวกเราก้อคือปิศาจแดงเหมือนกันแหล่ะครับ เรื่องที่ขัดใจมากที่สุดก้อคือเรื่องตัวสำรองของเรา คือ เทพเฟรช กับ โอเช เปลี่ยนตัวลงไป แทนที่จะช่วยประคองเกมส์ กับเป็นภาระให้กับคนอื่น พร้อมกับแผ่รัศมีเทพ มายัง เฮียน้ำตาล จนเสียประตูซะงั้น ดีนะครับว่า ดาร์บี้ไม่คมพอ แต่พอคิดถึงทีมใหญ่ๆที่คมกว่านี้ ตัวสำรองเราฝากความหวังไว้ไม่ได้เลยเฮ้อ ..... คืนนี้ ก้อยังมีคู่ที่น่าสนใจนะครับ คือ เดอะโบโร่ จะเปิดบ้านต้อนรับ เจ้าปืนใหญ่ อาร์เซนอล อย่าลืมเอาใจช่วยเดอะโบโร่กันนะครับ หลังจากเมื่อคืน เอาใจช่วยเรดดิ้ง จนได้ดีไปแล้ว พรุ่งนี้ก้อเป็นวันหยุดอีก 1 วัน ขอให้มีความสุขกันมากๆครับ จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ธ.ค. 50 13:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณจ้า   จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 9 ธ.ค. 50 13:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ข่าวหมดหรือยัง กลัวปาด เขียด กบ อึ่งอ่าง ขอบคุณครับ เมื่อคืนนั่งดูสุดท้าย เรดดิ้งเล่นดีมากนะ ดุดันได้ใจ ยอมรับว่ากรรมการก็มีส่วน ราฟาก็มีส่วน แต่ต้องให้เครดิตเรดดิ้งด้วย ก็เหมือนกับที่เราแพ้โบลตัน นัดนั้นเจ้าบ้านอย่างเทพ ป.ล. อาทิตย์หน้าแดงเดือด ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายนึงชนะ ห้องนี้สนุกแน่ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 9 ธ.ค. 50 13:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ข่าวเยอะจริงๆ มาสะดุดตรงข่าวเจ๊วิคนี่แหละ = =" ติดเรทนะเนี่ยกระทู้โรงละครของพวกเราวันนี้ จากคุณ : Cindecruella - [ 9 ธ.ค. 50 13:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากครับ :) จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 9 ธ.ค. 50 14:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณคร๊าบ เรดดิ้งเจ๋ง 555+ จากคุณ : PEANUT_SANDWICH - [ 9 ธ.ค. 50 14:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อคืนไม่ได้ดู อยากรู้จังว่าเสียประตูยังไง นี่ถ้าเรดดิ้งไม่ช่วยไว้ คิดว่าโดนล้อแน่   ให้ตายเหอะ ยังไงก็เซ็งพอชไม่เลิกฟ่ะ เบ็คส์ไม่น่าไปชอบยัยนี่เล้ย ให้ตายดิ ONE UNITED จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 9 ธ.ค. 50 14:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณคร้าบบ จากคุณ : i_arm_reddevil - [ 9 ธ.ค. 50 14:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ จากคุณ : MTY - [ 9 ธ.ค. 50 14:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ คืนนี้รอลุ้น อาเซน่อล...ให้แพ้นัดแรก พึ่งได้มา ตอกครั้งแรก..โป๊กๆๆๆๆ จากคุณ : KanKaLa - [ 9 ธ.ค. 50 15:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับข่าวสารค่ะ จากคุณ : ผีแดงแรงฤทธิ์ - [ 9 ธ.ค. 50 16:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : whutzy - [ 9 ธ.ค. 50 16:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ แสดงว่ารูปนี้ก้อไม่ได้รีทัชดิ มีแหล่งข่าวยืนยันขนาดนี้ จากคุณ : petrified - [ 9 ธ.ค. 50 18:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 วันนี้ น่าจะเป็นกระทู้ "This is Madejski Stadium" ซักวันนะครับ  555 ข่าวเจ๊วิคนี่  เค้าไม่รู้จะใช้วิธีไหนทำให้เบ๊คดังติดตลาดแล้วใช่มั้ยครับ จากคุณ : หนุ่มน้อยน่ารัก มาให้พักใจ - [ 9 ธ.ค. 50 19:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ ^^ จากคุณ : อัพเวิร์ด - [ 9 ธ.ค. 50 19:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ครับ เหนื่อยกับ เฟลทเชอร์ ครับ ผมดูมากว่า 5 ปี นับเกมที่เล่นดี ไม่เกิน 10 % จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 9 ธ.ค. 50 21:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณสำหรับข่าวจ้า และก็ดีใจกับกิ๊กที่ยิงครบ 100 แล้วสุดยอดจริงๆ ^^ จากคุณ : Red Pine - [ 9 ธ.ค. 50 22:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : เลขาลิขิต - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:44:52 ]