ความคิดเห็นที่ 1 เซอร์ประกาศก่อนรีไทร์ทุบสถิติแชมป์ลีกหงส์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อ้อมค้อม บอกก่อนรีไทร์ตัวเองกลับไปช่วยลูกเลี้ยงหลาน หวังพา "ปีศาจแดง" ทำสถิติคว้าแชมป์ผู้ดี แซงหน้าสถิติ 18 สมัยของ ลิเวอร์พูล โดยตอนนี้ต้องการอีก 2 ครั้งเท่านั้น ก็จะตามทัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศลั่น เกมพาขุนพล "ปีศาจแดง" บุกเยือน แอนฟิลด์ ทำศึกพรีเมียร์ลีก นัด "วันแดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้ จะขอบุกไปทุบชนะ เพื่อปูรากฐานไปสู่การคว้าแชมป์ลีกมาครองอีกสมัย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การพังสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยของ "หงส์แดง" ลงให้จงได้ เฟอร์กี้ เพิ่งนำถ้วยแชมป์ลีกสมัยที่ 9 มาให้ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลก่อน ทำให้ตอนนี้ "ปีศาจแดง" มีสถิติการคว้าแชมป์ลีกตามหลัง ลิเวอร์พูล แค่ 2 สมัย โดย กุนซือชาวสกอตต์ กล่าว "เราได้แชมป์เอฟเอ คัพ มากกว่าทุกทีม (11 สมัย) ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณภูมิใจกับมันได้ ดังนั้น ลิเวอร์พูล เองก็เหมือนกัน พวกเขาเป็นแชมป์ลีกมากกว่าใครๆ และพวกเขาย่อมภูมิใจกับสิ่งนี้" "คุณย่อมอยากจะเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศ สำหรับเราแล้วเรามีความคาดหวัง และสำหรับ ลิเวอร์พูล พวกเขาก็มีความคาดหวังเช่นกัน และผมหวังว่า ผมคงจะได้ไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นก่อนจะเกษียณตัวเอง" กุนซือวัย 65 ปี ที่คุม "ปีศาจแดง" ครบ 21 ปีแล้ว กล่าว สถิติการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของ ลิเวอร์พูล หยุดนิ่งอยู่กับที่ตั้งแต่ฤดูกาล 1990 และถึงแม้ ราฟาเอล เบนิเตซ จะพา "หงส์แดง" คว้าแชมป์ยุโรปในฤดูกาล 2005 ได้ แต่ เซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งยอมรับว่า อยากจะได้แชมป์ยุโรปอีกสมัยครั้ง บอกว่า แชมป์ลีกยังเป็นสิ่งที่จะวัดคุณภาพทีม "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการคว้าแชมป์ลีกจะเป็นตัววัดเกมของคุณ" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เฟอร์กี้แฮปปี้เจอหงส์ช่วงฟอร์มขึ้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เผยสุดแฮปปี้ที่ "เร้ด เดวิลส์" จะได้ลงเซิ้งแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่อริตลอดกาลรายนี้ฟอร์มกำลังขึ้น เหตุมองว่า "หงส์แดง" ที่กำลังบาดเจ็บ อาจจะอันตรายกว่าในยามแข็งแรงดีมากนัก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกยินดีที่ "เร้ด เดวิลส์" ได้โคจรมาพบกับอริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ฟอร์มของ "หงส์แดง" กำลังอยู่ในขาขึ้น หลังเพิ่งบุกไปถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย กระจุย 4-0 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา "เฟอร์กี้" ซึ่งมีคิวจะพา แมนฯ ยูไนเต็ด บุกรัง แอนฟิลด์ เพื่อทำศึกพรีเมียร์ลีก นัดสำคัญ กับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม กล่าวว่า "เราสามารถมองเรื่องนี้ได้ 2 แบบ คุณอยากจะพบกับ ลิเวอร์พูล ในขณะที่พวกเขาเป็นเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือพบกับ ลิเวอร์พูล ในยามที่พวกเขาเป็นอย่างวันนี้ โดยมีชัยชนะนัดสำคัญอยู่เบื้องหลังพวกเขา" "บางครั้ง สัตว์ที่บาดเจ็บก็เป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายกว่า แต่ไม่สำคัญว่าทั้ง 2 สโมสรจะอยู่ในสถานะใด นี่เป็นเกมที่ถูกแยกออกจากทุกอย่าง ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะพูดว่า เราทั้งคู่ต่างก็มองกันและกัน ในฐานะปรปักษ์สำคัญในวงการฟุตบอลอังกฤษของตัวเอง" "ผมมองเกมกับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ดีที่สุดสำหรับการรอคอยเสมอ มันครอบคลุมทุกอย่างในวงการฟุตบอลอังกฤษ ทั้งเรื่องอารมณ์ความรู้สึก ความเร่าร้อนของแฟนบอล ความสามารถของผู้เล่น การแข่งขัน และประวัติศาสตร์ที่มีมาระหว่างสโมสร" ยอดกุนซือชาวเมืองขี้เมา กล่าวในที่สุด Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เซอร์ชี้ศึกบิ๊ก4หนนี้ไม่ใช่ตัวตัดสินแชมป์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เชื่อ การโคจรมาชนกันเองของบรรดาบิ๊ก 4 ในช่วงสุดสัปดาห์ จะเป็นตัวตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก เหตุมองว่า ศึกยักษ์ชนยักษ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเร็วเกินกว่าที่จะสามารถบ่งบอกอะไรได้อย่างชัดเจน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่เชื่อว่า ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นจากการโคจรมาปะทะกันเองของ 4 ทีมระดับหัวแถวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2007/2008 ไปครองในบั้นปลาย แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า และรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก มีคิวจะออกไปเยือนถิ่น แอนฟิลด์ ของ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม ก่อนหน้าที่ทีมจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล จะเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือ เชลซี ทีมอันดับ 3 เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม "เฟอร์กี้" มองว่า การโคจรมาพบกันเองของทีมในกลุ่มบิ๊ก 4 ครั้งนี้ เกิดขึ้นเร็วเกินกว่าที่จะสามารถตัดสินได้ว่า ใครจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไปครอง "ถ้าเป็นในช่วงปลายฤดูกาล ผมคิดว่า มันจะมีความสำคัญต่อการเป็นแชมป์ลีกแน่นอน ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร" "แต่ทว่าตอนนี้ เรายังไปไม่ถึงครึ่งทางเลยด้วยซ้ำ และเราก็กำลังพูดถึงมันในฐานะตัวตัดสินตำแหน่งแชมป์ ยังคงมีเวลาสำหรับทีมไหนก็ตามที่ทำแต้มหล่นหายไป และมันก็เป็นไปได้ที่เราทั้ง 4 จะทำคะแนนหล่นหายไปพร้อมๆ กัน โดยผลเสมอทั้ง 2 เกม ซึ่งคุณย่อมคิดว่า มันเป็นสกอร์ที่บริษัทรับพนันทั้งหลายเก็งเอาไว้" "ผมกำลังมองไปที่เกมระหว่าง เชลซี กับ อาร์เซน่อล และหวังว่ามันจะลงเอยด้วยการเสมอ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราน่าจะทำในฐานะผู้จัดการทีม คุณหวังว่า เกมอื่นๆ ซึ่งคู่ต่อสู้โดยตรงของคุณมีส่วนร่วมด้วยนั้น จะทำให้พวกเขาทำแต้มหล่นหายไปบ้าง และเมื่อพวกเขาต้องพบกันเอง คุณก็ย่อมหวังว่า พวกเขาจะทำแต้มหลุดมือไปทั้งคู่" บรมกุนซือเลือดสกอตต์ กล่าวในที่สุด Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผีเซ็งไร้เฟอร์กี้คุมทัพ2นัด เอฟเอสั่งแบนฐานปากดี "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับจืดสนิท เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตต์ เจอ เอฟเอ สั่งลงโทษ ห้ามคุมทีมข้างสนาม 2 นัด และปรับอีกกว่า 3 แสนบาท จากกรณีไประเบิดอารมณ์ใส่สิงห์เชิ้ตดำ ระหว่างช่วงพักครึ่งของเกมพ่าย โบลตัน เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ตัดสินใจลงโทษ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากกรณีเข้าไปแสดงความไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก ระหว่างช่วงพักครึ่งของเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ "ปีศาจแดง" บุกไปพ่าย โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-1 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ด้วยการสั่งห้ามคุมทีมข้างสนามเป็นเวลา 2 นัด และปรับเงินอีก 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 350,000 บาท) แล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แถลงการณ์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ เอฟเอ ระบุว่า "เฟอร์กูสัน ยอมรับข้อหาใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม หรือ ถ้อยคำดูหมิ่นต่อผู้ตัดสิน โดยจากการที่เขาไม่ได้ร้องขอให้มีการพิจารณาเป็นการส่วนตัว เราจึงจัดการกับคดีนี้ตามรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษร และภาพวีดีโอ" สำหรับโทษแบนดังกล่าวนั้น จะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งจะทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ ต้องขึ้นไปคุมทีมบนอัฒจันทร์ ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 29 ธันวาคม และเกมเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในวันขึ้นปีใหม่ Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รูนี่ย์มั่นใจผีบุกหักปีกหงส์เขี่ยหลุดโผลุ้นแชมป์ลีก เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศลั่นยิง ลิเวอร์พูล กระจุยคารัง แอนฟิลด์ ในศึก "วันแดงเดือด" งวดนี้ให้ได้ ชี้แม้ไม่ใช่เกมชี้แชมป์ แต่หากสอย "หงส์แดง" ร่วงลงมาได้ ย่อมสะใจเป็นธรรมดา แถมตัดโอกาสลุ้นของอริสำคัญไปโดยปริยาย พร้อมอ้อน "เร้ด อาร์มี่" ส่งเสียงเชียร์วี้ดบึ้มกระหึ่มโลก เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าเขี่ย ลิเวอร์พูล คู่แข่งตัวฉกาจ ออกจากเส้นทางการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ในการทำศึก "วันแดงเดือด" วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.นี้ ที่สนาม แอนฟิลด์ ให้จงได้ อดีตดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน รู้ดีว่าหาก "ปีศาจแดง" สามารถบุกมาคว้าชัยจากถิ่น แอนฟิลด์ ได้ในเกมนี้ ก็จะสามารถทำคะแนนหนีห่าง "หงส์แดง" ออกไปเป็น 9 แต้มเลยทีเดียว แต่ทีมเจ้าถิ่นก็กำลังอยู่ในช่วงโชว์ฟอร์มดีหลังเพิ่งบุกไปไล่ถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม มาหมาดๆ 4-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รูนี่ย์ กล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าการไปเยือน ลิเวอร์พูล ถือเป็นเกมสำคัญมากๆ และอาจสำคัญที่สุดในฤดูกาลเลยก็ว่าได้ มันไม่ได้เป็นเกมตัดสินแชมป์ก็จริงอยู่ แต่มันก็เป็นโอกาสในการเพิ่มระยะห่างระหว่างทั้งสองทีม พวกเขาได้รับผลการแข่งขันที่ดีในเกมกับ มาร์กเซย สัปดาห์นี้ ผมเองก็ได้ดูเกมนั้นอยู่ด้วย และพวกเขาก็เล่นกันได้ดีทีเดียว แต่พวกเราจะต้องมีสมาธิกับงานของเรามากกว่าที่จะไปมัวแต่สนใจพวกเขา" ดาวยิงวัย 22 ปี ยังหวังด้วยว่ากองเชียร์ "เร้ด อาร์มี่" ที่เดินทางตามไปเชียร์ด้วยในครั้งนี้ จะช่วยกันเป็นแรงใจให้พวกตนนำชัยชนะกลับออกมาได้ในที่สุด โดยระบุว่า "แฟนบอลของเราเหลือเชื่อมากๆ มันมักจะมีบรรยากาศที่ดีๆ อยู่เสมอใน แอนฟิลด์ ยามที่ ยูไนเต็ด ออกไปเยือน เรามีกองเชียร์ในยามเป็นทีมเยือนที่สุดยอดอยู่แล้ว พวกเขาไม่เคยหยุดร้องเพลงกันเลยตลอดทั้งเกม และคอยเชียร์ทีมเราอยู่ตลอด ผมคิดว่าพวกเขาจะช่วยเราได้มากแน่ๆ ในวันอาทิตย์นี้" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หมูลุ้นปืนเสมอไฮโซโวผียิงหงส์ขึ้นจ่าฝูง เวย์น รูนีย์ กองหน้าปิศาจแดง กล่าวตั้งความหวังว่าหลังผ่านวันอาทิตย์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโดดขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงด้วยความมั่นใจที่ว่าผีแดงจะบุกเก็บ 3 แต้มจากแอนฟิลด์สำเร็จ และอาร์เซนอล จะทำแต้มหล่นในบ้าน เมื่อต้อนรับการมาเยือนของเชลซี ซึ่งรูนีย์ มองว่าสุดสัปดาห์นี้สำคัญพอที่จะเป็นสัปดาห์ของการตัดสินแชมป์พรีเมียร์ ลีก เลยทีเดียว "เป็นสุดสัปดาห์ที่สำคัญจริงๆสำหรับท็อป 4 จริงๆแล้วอาร์เโซนอล กับ ลิเวอร์พูล ต่างแพ้มาเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อเราโดยตรง เรารู้ว่าถ้าวันอาทิตย์นี้ได้ 3 คะแนนเต็มๆ เรามีโอกาสสูงที่จะได้เป็นจ่าฝูง" ในฐานะเด็กเก่าเอฟเวอร์ตัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รูนีย์ กระสันนักหนาที่จะเจาะตาข่ายหงส์แดงสุดสัปดาห์นี้ "ความเป็นปรปักษ์ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล มันแรงแค่ใหนใครก็รู้ เมื่อโปรแกรมเตะแต่ละปีเรามักจะมาร์ควันไว้เลยว่าเมื่อไรที่ต้องมาเจอกัน เช่นเดียวกับเกมกับ ซิตี้" ฤดูกาลที่ผ่านมา ยูไนเต็ด ได้ประตูโทนนาทีสุดท้ายคว้า 3 คะแนนจากแอนฟิลด์สำเร็จ แต่รูนีย์ ที่โดนเปลี่ยนออกเพราะอาการบาดเจ็บเกมดังกล่าวยอมรับว่าไม่ทันเห็นประตูของ จอห์น โอเช เกมนั้น "ผมกำลังเจ็บขาอยู่ตอนนั้นนั่งอยู่ในห้องแต่งตัว ได้ยินเสียงโห่ลั่นก่อนที่ พอลสโคลส์ จะเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเพราะโดนใบแดง ทุกคนต่างคิดว่า โอว์ ไม่นะ ..แล้วก็หวังว่าอย่างน้อยเราจะยันเสมอได้" "จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเราก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่า เชียซี่ ทำประตูได้ เราทุกคนกระโดดตัวลอยเลยเช่นเดียวกับผมที่รีบวิ่งกลับเข้าไปในสนาม เป็นหนึ่งในความรู้สึกที่ผมเคยสัมผัสจากเกมนี้ และมันก็สะใจดี" แม้ว่าทริปเยือนแอนฟิลด์ แฟนบอลยูไนเต็ด จะได้โคว์ต้าตั๋วเพียงแค่ 3000 ที่นั่งแต่การเฉลิมฉลองก็เป็นไปอย่างเอิกเริก ซึ่งรูนีย์เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งสุดสัปดาห์นี้ "แฟนบอลของเราสุดยอดอยู่แล้ว" "เกมที่แอนฟิลด์ ทีไรน่าประทับใจทุกครั้ง ซึ่งการมีแฟนๆหนุนหลังแบบนั้นนับว่าน่าปิติจริงๆ ทุกคนไม่เคยหยุดร้องเพลงเชียร์ ตลอดทั้งเกมเพื่อแสดงกำลังใจที่มีให้ทีม ผมเชื่อว่ามันช่วยได้เยอะแน่กับเกมวันอาทิตย์นี้" Credit :: ซอกเกอร์ซัก http://www.soccersuck.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คาร์ริคเชื่อเกมแดงเดือดหนนี้ระอุแน่ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้เกมเยือน ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้ มีความหมายมากสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เหตุทั้งสองทีมต่างมีโอกาสลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวในซีซั่นนี้ พร้อมหวังบุกไปฉกคะแนนจากรัง แอนฟิลด์ ให้จงได้ ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความเห็นว่า เกมพรีเมียร์ลีก นัดบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. นี้ จะเป็นแมตช์ที่มีความสำคัญมากสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจาก "หงส์แดง" ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์แบบเต็มตัวแล้วในฤดูกาลนี้ กองกลางวัย 26 ปี กล่าวว่า "ในฐานะนักเตะ เกมพบ ลิเวอร์พูล นับเป็นเกมที่พิเศษสำหับพวกเราเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลงเล่นที่ แอนฟิลด์ สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมในปีนี้ก็คือ ลิเวอร์พูล มีลุ้นแชมป์ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกมนี้มีความสำคัญมากขึ้น" "ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณจะรู้สึกถึงความตื่นเต้นของเกมนี้ คุณสามารถเห็นมันได้ทั่วเมือง มันดูเหมือนมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งสองสโมสรมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องทางภูมิศาสตร์ที่ทั้งสองเมืองอยู่ใกล้ๆ กันเท่านั้น แต่มันยังมีเรื่องของความสำเร็จที่ทั้ง 2 ทีมต่างต้องการอีกด้วย" "จากการที่ เชลซี และอาร์เซน่อล จะต้องเจอกันเองในวันเดียวกับที่เราพบ ลิเวอร์พูล ทำให้วันอาทิตย์นี้จะเป็นวันที่สำคัญอย่างยิ่ง การได้แต้มจากคู่แข่งสำคัญเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ต้องออกไปเล่นนอกบ้าน" คาร์ริค ทิ้งท้าย Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอเชตั้งเป้าส่องประตูดับหงส์อีกคำรบ จอห์น โอเช นักเตะสารพัดประโยชน์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังสร้างผลงานให้ได้เหมือนเดิม ในเกม "แดงเดือด" นัดบุกเยือน ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้ หลังเคยลงมาเป็นตัวสำรองส่องประตูชัยดับ "หงส์แดง" คารังในช่วงทดเจ็บมาแล้วเมื่อฤดูกาลก่อน พร้อมย้ำอีกรอบ ไม่เคยคิดตีจาก "ปีศาจแดง" แม้แต่น้อย จอห์น โอเช ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาหวังที่จะทำผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัดอีกครั้ง ในเกมแดงเดือดที่จะบุกเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์นี้ หลังจากที่เป็นผู้ซัดประตูชัยให้ทีมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในเกมที่ทั้งคู่พบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมีส่วนสำคัญให้ทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ ดาวเตะไอริช ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บที่โคนขาหนีบและน่าจะมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองหากฟิตสมบูรณ์ กล่าวว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นที่แอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นหนึ่งในช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของผมอย่างแน่นอน ผมมั่นใจว่าในวันอาทิตย์นี้ สิ่งนั้นมันจะอยู่ในใจของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผมถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในช่วงนาทีท้ายๆ ขณะที่สกอร์ยังเสมอกันอยู่" นอกจากนี้ นักเตะวัย 26 ปี ซึ่งเพิ่งต่อสัญญาอยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปจนถึงปี 2012 แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอนักก็ตาม ยังยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยคิดย้ายออกจากทีม "ปีศาจแดง" เลยแม้แต่น้อย โดยกล่าวว่า "ผมไม่เคยคิดย้ายออกจากทีม แน่นอนว่าผมก็อยากลงสนามให้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีส่วนร่วมในทุกเกม และผมรู้ดีว่าผมจะต้องได้โอกาสของผม" "การตัดสินใจอยู่กับทีมต่อเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก และเราก็ตกลงสัญญากันได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว เมื่อคุณมองถึงความสำเร็จที่เราได้รับ รวมถึงนักเตะพรสวรรค์ที่เรามี มันเป็นลางดีสำหรับเราในอนาคต และมันก็เป็นสิ่งที่ผมอยากมีส่วนร่วมด้วย" โอเช กล่าวในที่สุด Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เซอร์เผยข่าวดีสโคลซี่ใกล้คัมแบ็กช่วยผี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผย พอล สโคลส์ กองกลางตัวกลั่น เตรียมลงฝึกซ้อมเบาๆ ในสัปดาห์หน้า หลังอาการบาดเจ็บหัวเข่าดีขึ้นมากแล้ว และคาดว่าน่าจะลงซ้อมแบบเต็มสูบกับเพื่อนร่วมทีมในอีกประมาณเดือนเศษ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ออกมาเผยข่าวดีว่า พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าของทีม ใกล้หายจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าแล้ว และคาดว่าน่าจะกลับมาช่วยต้นสังกัดในเกมลีกที่จะออกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีหน้า อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษวัย 32 ปี ลงเล่นให้ "ปีศาจแดง" แค่ 9 นัดในฤดูกาลนี้ หลังได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าในช่วงฝึกซ้อม ก่อนเกมที่พวกเขาบุกไปชนะ ดินาโม เคียฟ 4-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เซอร์ "เฟอร์กี้" ออกมาเผยว่า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นมากแล้ว ซึ่งน่าจะลงซ้อมเบาๆ ได้ในสัปดาห์หน้า และจะฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่างเต็มที่ในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า "เขาเพิ่งเดินทางไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวเข่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอาการก็ดีขึ้นมาก พอล คงจะเริ่มออกวิ่งเบาๆ ในสัปดาห์หน้า และเราคิดว่าเขาคงจะร่วมฝึกซ้อมกับเราอย่างจริงจังในอีก 6 สัปดาห์อย่างแน่นอน" บรมกุนซือแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กล่าว Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แกรี่หวังคัมแบ็กผีช่วงคริสต์มาส แกรี่ เนวิลล์ แบ็กจอมเก๋า ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด ตั้งเป้าคัมแบ็กช่วย ทีม "ปีศาจแดง" ช่วงคริสต์มาสนี้ หลังอาการเจ็บที่ข้อเท้าดีขึ้นเรื่อยๆ หวัง ตอนนี้จะสามารถซ้อม และเรียกความฟิตได้อย่างราบรื่น โดยไม่เจ็บซ้ำแบบเดิมอีก แกรี่ เนวิลล์ แบ็กขวากัปตันทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยข่าวดีให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" รับทราบว่า เขาหวังจะคัมแบ็ก ฟิตกลบมาช่วยทีมตะลุยศึกหนักส่งท้ายปี ในช่วงคริสต์มาสนี้ หลังเจ็บหนักที่ข้อเท้า และเจ็บซ้ำไปซ้ำมา จนไม่ได้ลงสนามเลยนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ ผ่านมา ฟูลแบ็กวัย 32 ปี เจ็บข้อเท้าในเกมเปิดบ้านถล่ม โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-1 วันที่ 17 มี.ค. ซึ่งเกมนั้นเขาเล่นได้ 11 นาทีเท่านั้น โดยความพยายามที่จะคัมแบ็กของเขาหลังจากนั้น ล้มเหลวเพราะการบาดเจ็บซ้ำหลายครั้ง แต่ล่าสุด แกรี่ แสดงความมั่นใจผ่าน "เอ็มยูทีวี" สถานีทีวีของสโมสร ว่า เขาจะกลับมาช่วยทีมได้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้อย่างแน่นอน เนวิลล์ผู้พี่ ตอบคำถามเรื่องสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ว่า "มันน่าจะดีกว่านี้ และผมน่าจะลงเล่นได้แล้ว ตลอดไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิด แต่หวังว่าตอนนี้ผมจะลงซ้อมได้อย่างเต็มที่ และบางทีสัปดาห์หน้าผมจะได้อยู่ในทีม และกลับมาเล่นในอีก 2-3 สัปดาห์ถัดไป แต่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ เพราะทุกๆ ครั้งที่ผมทำท่าจะกลับมาลงเล่นได้ มันต้องมีอะไรมาขัดจังหวะเรื่อย แต่หวังว่าผมจะไม่มีปัญหาอีกแล้ว และจะได้ลงเล่นเสียที" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เฟอร์กี้เผยเคยยื่นซื้อตอร์เรสหลายครั้ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยเคยพยายามคว้าตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าสเปน หลายครั้ง ก่อนนักเตะจะมาลงเอยกับ ลิเวอร์พูล ชี้ที่ผ่านมาประสบความล้มเหลวเพราะ แอตเลติโก มาดริด ไม่ต้องการปล่อยตัว ขณะที่ "หงส์แดง" สมหวังเนื่องจากกุนซือเป็นชาวสเปนด้วยกัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า เขาเคยพยายามที่จะคว้าตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกทีมชาติสเปน มาร่วมทีมหลายครั้งหลายหน ก่อนที่นักเตะจะมาลงเอยกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ตอร์เรส ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่ดาวเตะวัย 23 ปี จะตัดสินใจย้ายจาก "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด สโมสรแห่งศึกลา ลีกา สเปน มาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจากการยิงไปแล้ว 12 ประตูในฤดูกาลนี้ แต่ เฟอร์กูสัน ก็ไม่ประหลาดใจกับฟอร์มของดาวยิงชาวกระทิงแต่อย่างใด "สำหรับช่วงเวลาหลายปีเราพยายามตกลงสัญญาแต่ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะ แอตเลติโก มาดริด ไม่ต้องการขายหรือนักเตะรู้สึกว่าเขายังอายุน้อยเกินไป หลังจากนั้นเราก็หมดความสนใจ เพราะบางครั้งคุณก็รู้สึกเซ็งกับการกลับไปยังจุดเดิมตลอดเวลา ผมคิดว่าข้อได้เปรียบที่ ราฟา เบนิเตซ มีคือเขาเป็นชาวสเปนและการตกลงกับ แอตเลติโก มาดริด ก็น่าจะง่ายกว่าเราเพราะเขาเป็นชาวสเปน เขาเป็นนักเตะที่ดี เราจะไม่สนใจเขาเลยถ้าเขาไม่ใช่" เฟอร์กูสัน กล่าว Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคยรอชงงเต็กราฟาโดนกดดันได้ยังไง คาร์ลอส เคยรอช มือขวา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด บ่นงงโคตรๆ ผู้จัดการทีมคนเก่งระดับ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องมาโดนกดดันจากเจ้าของทีม "หงส์แดง" ได้ยังไงกัน ยก "ราฟา" ขึ้นหิ้งยอดโค้ช ไปแล้ว แถมผลงานบานตะไท ไม่สมควรต้องมาถูกเลื่อยขาเก้าอี้เลยสักนิด คาร์ลอส เคยรอช ผู้ช่วยผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชาวโปรตุเกส ยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจอย่างแรงที่ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชาวสเปน มีอันต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันมหาศาลจาก จอร์จ ยิลเล็ตต์ และ ทอม ฮิคส์ เจ้าของสโมสรชาวอเมริกัน อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ โดยตนนั้นชื่นชมฝีไม้ลายมือในการทำทีมของ "ราฟา" เป็นอย่างยิ่ง เคยรอช ซึ่งจะนำลูกทีม "ปีศาจแดง" ไปเยือนรัง แอนฟิลด์ ของ "หงส์แดง" ในศึก พรีเมียร์ลีก "วันแดงเดือด" วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.นี้ กล่าวว่า "หลังจากที่ ราฟา ทำผลงานทุกอย่างให้กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว เขาจึงไม่สมควรจะต้องมาโดนกดดันอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ผมรู้จักเขามานานแล้ว และเขาก็เป็นยอดโค้ชคนหนึ่ง และเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว" พร้อมกันนั้น มือขวาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "เร้ด เดวิลส์" ยังหวั่นใจว่าการไล่โค้ชตามใจชอบ โดยไม่ยอมให้เวลาในการทำทีมพิสูจน์ผลงาน ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในยุโรปนั้น อาจจะแพร่ระบาดเข้ามาในเมืองผู้ดีต่อไปในภายหน้าก็เป็นได้ Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยรอชเตือนแข้งผีแดงระวังตอร์เรส คาร์ลอส เคยรอช ผู้ช่วยกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงเตือนลูกทีมต้องระวัง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้า ลิเวอร์พูล ในศึกแดงเดือดสุดสัปดาห์นี้ ชี้ดาวเตะสเปนมีความสามารถในการทะลุทะลวงสูง และสร้างความแตกต่างให้กับ "หงส์แดง" ทว่ามั่นใจจะสามารถรับมือได้แน่นอน คาร์ลอส เคยรอช ผู้ช่วยผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า ลูกทีมของเขาต้องระวัง เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เอาไว้ให้ดี ในการแข่งขันศึกแดงเดือดที่สนามแอนฟิลด์ วันอาทิตย์นี้ หลังจากที่ดาวยิงทีมชาติสเปนทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยมจากการซัดไปแล้ว 12 ประตูในฤดูกาลนี้ "ตอร์เรส เหมือนนกอินทรี เขาสามารถมองเห็นพื้นที่ซึ่งคนอื่นไม่เห็น และเขาก็มีความสามารถในการทะลุทะลวงพื้นที่ทั้งขณะมีหรือไม่มีบอล ตอร์เรส ทำได้ดีมากและผมก็ประทับใจเขา เขาสร้างความแตกต่างให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ผมคิดว่าเขาเป็นตัวจบสกอร์ที่ดีและเป็นนักเตะที่ทำให้ ลิเวอร์พูล แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง" "แน่นอนว่าเราจะต้องระวังเขาให้ดี เพราะเขาอันตราย เรามั่นใจในสิ่งที่เราสามารถทำได้และเราจะไม่กังวลมากนัก แต่เราก็ไม่ลืมถึงคุณภาพของเขา ผมอยู่ในอังกฤษมา 5 ปีและผมไม่เคยเห็น ลิเวอร์พูล มีผลงานที่ดีในลีกในช่วงนี้ของฤดูกาลมาก่อน" โค้ชชาวโปรตุกีส กล่าว Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ราฟามุ่งมั่นเกมแดงเดือดไม่สนเคลียร์เจ้าของหงส์ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยันตอนนี้ทุ่มสมาธิให้กับเกมต้อนรับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่าไปคิดถึงเรื่องต้องตั้งโต๊ะเคลียร์กับ 2 เจ้าของสโมสรชาวอเมริกัน เผยทุกฝ่ายอยากเก็บชัยชนะให้ได้เหมือนกัน พร้อมชม สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม หลังทำสถิติซัดไปแล้ว 23 ประตูในเกมยุโรป ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า เวลานี้กำลังให้ความสนใจกับเกมที่จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับสำคัญ ในศึกแดงเดือดวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. นี้ มากกว่าเรื่องที่จะเข้าไปพูดคุยเรื่องอนาคตของตนเองกับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ และทอม ฮิคส์ 2 มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เจ้าของทีม หลังจบเกมดังกล่าว กุนซือชาวสเปน ซึ่งมีข่าวขัดแย้งกับบิ๊กบอสสโมสรในเรื่องนโยบายซื้อขายนักเตะช่วงเดือนม.ค.นี้ เผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "พวกเขา (ยิลเล็ตต์ และฮิคส์) ต้องการชัยชนะเช่นเดียวกับผม ซึ่งหมายความว่าเรามีความคิดไม่แตกต่างกัน" "แม้ว่าตอนนี้จะมีโอกาสสะสางปัญหาคาใจระหว่างเราก็ตาม แต่ผมบอกได้ว่าผมไม่มีปัญหาเป็นการส่วนตัวกับพวกเขาเลย ส่วนเรื่องการนัดหมายเพื่อพูดคุยกันบางทีอาจจะเป็นช่วงสุดสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าก็ได้ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เวลานี้เราสนใจการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่า มันจะเป็นเกมที่ยากลำบากมาก เราต้องคิดถึงเกมนี้ก่อนเรื่องอื่น" เบนิเตซ กล่าว พร้อมกันนี้ "เอล ราฟา" ยังแสดงความดีใจที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม ทำสถิติให้สโมสรด้วยการซัดไปแล้ว 23 ประตูในเกมยุโรป หลังจากทำได้อีก 1 ลูกในเกมบุกไปถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย 4-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย ที่สนาม สต๊าด เวโลโดรม เมืองมาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา "การทำประตูได้มากมายขนาดนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การทำได้ในฐานะกองกลางยิ่งยากขึ้นไปอีก มันแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวาและคุณภาพของเขา เขาทำได้เยี่ยมทั้งในช่วงฝึกซ้อมและลงสนาม" นายใหญ่ถิ่น แอนฟิลด์ กล่าว Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th ราฟาย้ำชัยชนะเหนือผีส่งผลต่อกำลังใจ ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รับผลการแข่งขันกับ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้จะส่งผลต่อความมั่นใจของนักเตะอย่างมหาศาล ทำให้จำเป็นต้องคว้าชัยชนะมาให้ได้เพื่อเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยอมรับผลการแข่งขันในเกมที่จะเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคมนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อความมั่นใจของนักเตะ "หงส์แดง" หลังจากในวันเดียวกันอีก 2 ทีมกลุ่มบิ๊กโฟร์ อาร์เซน่อล จะเปิดบ้านรับมาเยือนของ เชลซี กุนซือเลือดกระทิงดุ เพิ่งจะพบความปราชัยนัดแรกในลีกฤดูกาลนี้จากการออกไปแพ้ เร้ดดิ้ง 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้รั้งอยู่อันดับ 4 ไล่ตาม อาร์เซน่อล จ่าฝูง 7 คะแนน "สิ่งสำคัญมากกว่าคะแนนคือความมั่นใจที่คุณจะได้รับจากชัยชนะ ถ้าคุณชนะ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล ความมั่นใจที่ทีมได้รับจะมีมากเป็นพิเศษ" เบนิเตซ ยังพูดถึงการพบกันที่ แอนฟิลด์ ครั้งล่าสุด เมื่อซีซั่นก่อนที่ถูก จอห์น โอเช กองหลังร่างยักษ์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองยิงประตูชัยในนาทีสุดท้าย "ตลอดเกมนั้นเราทำได้เหนือกว่า ถ้าผลออกมาเสมอคุณก็คงจะแค่รู้สึกเสียดาย แต่การเสียประตูในนาทีสุดท้ายถือเป็นเรื่องเลวร้าย มันถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายอย่างมากสำหรับเรา" ในขณะที่แผนการรับมือแนวรุกของทัพ "ปีศาจแดง" ที่นอกเหนือ เวย์น รูนี่ย์ ฟิตเต็มถังลงมายืนเป็นหัวหอกคู่กับ คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินาอีกครั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับเลือดโปรตุเกสกำลังฟอร์มฮอตสุดๆ โดย อดีตกุนซือบาเลนเซีย ให้ความเห็นว่า "เป็นเรื่องลำบากที่จะคุมผู้เล่นที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมในเกมสำคัญ คุณควรจะต้องให้เครดิตกับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพราะเขาดูแลผู้เล่นระดับหัวแถวมาเป็นเวลายาวนาน นักเตะเหล่านี้มีความเก่งกาจ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาทางรับมือพวกเขา แต่เมื่อนักเตะของคุณลงไปสู่สนามพวกเขาก็รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร" โดย เบนิเตซ เตรียมฝากความหวังไว้กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าทีมชาติสเปนที่เคยผ่านประสบการณ์ดาร์บี้แมตช์กรุงมาดริด สมัยลงเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด "ผมเชื่อว่าเขาได้รับประสบการณ์มากมายจากการเล่นให้ แอตเลติโกเจอ เรอัล มาดริด มันเป็นเกมที่ยากลำบากจริงๆ และกองเชียร์ของทั้ง 2 ทีมเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ดุเดือดพอๆ กับเกมนี้" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 50 18:23:06 จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คาร์ร่าชี้เกมแดงเดือดมีค่ากว่า3แต้ม เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลัง ลิเวอร์พูล ชี้เกมแดงเดือดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีค่ามากกว่า 3 คะแนน เนื่องจากจะช่วยให้ทีมมั่นใจยิ่งขึ้นในการลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ รับเกมเจ๊า เชลซี และ อาร์เซน่อล ที่ผ่านมาเหมือนกับแพ้ เนื่องจากเป็นฝ่ายนำก่อนทั้ง 2 แมตช์ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ปราการหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาคิดว่าเกมแดงเดือดกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคมนี้ มีความหมายมากกว่า 3 คะแนน เนื่องจากจะช่วยให้ทีมมีความมั่นใจยิ่งขึ้นในการลุ้นคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้ "เราไม่ชนะในการเจอกับคู่แข่งสำคัญในฤดูกาลนี้และเราก็ต้องเปลี่ยนแปลง ผลเสมอกับ อาร์เซน่อล และ เชลซี เหมือนกับความพ่ายแพ้ เพราะในทั้ง 2 เกมนั้นเราเป็นฝ่ายขึ้นนำ การเอาชนะ ยูไนเต็ด จะมีความหมายมากกว่า 3 คะแนน ในทางจิตวิทยาเราจะเริ่มเชื่อมั่นอย่างแท้จริง" กองหลังชาวอังกฤษ กล่าว ในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล เล่นได้ดีในการเจอกับ แมนยูฯ ยูไนเต็ด แต่ก็มาถูก จอห์น โอเชีย ยิงประตูในนาทีสุดท้ายทำให้แพ้ไป 0-1 คาร์ราเกอร์ ได้กล่าวถึงเกมนั้นว่า "ผมโมโหมากหลังจบเกม ผมเดินออกจากสนามทันที ผมไม่ได้ดูเกมนั้นเลยจนกระทั่งมาดูในตอนหลัง" "คุณไม่สามารถว่าพวกเขาได้ ถ้าเราชนะในเกมสำคัญที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เราก็คงจะดีใจอย่างสุดเหวี่ยงเหมือนกัน เราเล่นได้ดีมากในวันนั้น สร้างโอกาสได้หลายครั้ง และ พอล สโคลส์ ก็โดนไล่ออก ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาสเคมั่นใจลงบู๊ผีแดงได้แน่นอน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์เลือดฟ้า-ขาว "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มั่นใจจะสามารถลงบู๊ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดวันแดงเดือด กับ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน แม้จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากเกมบุกถล่ม มาร์กเซย ช่วงกลางสัปดาห์ก็ตาม ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่องชาวอาร์เจนไตน์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ตัวเขาจะสามารถลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีก นัดวันแดงเดือด กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริตลอดกาล ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคมนี้ ได้อย่างแน่นอน มาสเคราโน่ ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มาจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดบุกถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย 4-0 เมื่อวันพุธ อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ยืนยันว่า อาการบาดเจ็บของเขาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และน่าจะสามารถลงทำศึกใหญ่ที่ แอนฟิลด์ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยระบุว่า "ผมถูกเตะ แต่ผมคิดว่า มันไม่มีอะไร และผมก็น่าจะฟิตสำหรับการพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด" พร้อมกันนั้น อดีตมิดฟิลด์ โครินเธียนส์ ยังยอมรับด้วยว่า รู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้ลงปะทะแข้งกับทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน "เราอยู่ใกล้กับตำแหน่งจ่าฝูง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องชนะในวันอาทิตย์ เพื่อขยับเข้าไปให้ใกล้ยิ่งขึ้น บวกกับการที่เก็บชัยชนะในเกมนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับแฟนบอลของเรา" "ลิเวอร์พูล พบกับ ยูไนเต็ด เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ บางทีอาจจะเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มต้นเตรียมความพร้อมสำหรับเกมนี้ เรารู้ว่า เราสามารถจะคว้าชัยชนะมาได้ และแน่นอนว่า ความมั่นใจของเราก็มีสูงด้วยเช่นกัน เมื่อคุณชนะในเกมเยือน 4-0 มันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับทีม และตอนนี้ เราจำเป็นต้องโชว์ฟอร์มให้ได้อย่างนั้นอีกครั้งในวันอาทิตย์" กองกลางจอมขยัน กล่าวในที่สุด Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ราฟายัน “อลอนโซ” ฟิตบู๊วันแดงเดือด       สาวก “เดอะ ค็อป” ยิ้มรับข่าวดีเมื่อ ชาบี อลอนโซ กองกลางเชิงสูงของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หายเจ็บพร้อมคืนทัพในเกม “วันแดงเดือด” ภายใต้ศึก พรีเมียร์ชิป ที่จะเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2550 นี้              อลอนโซ ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในเกม พรีเมียร์ชิป ที่เสมอกับ ปอร์ทสมัธ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะต้องพักนานถึง 6 สัปดาห์ แต่ทว่ามาฝืนลงเล่นทำให้เจ็บซ้ำในเกมที่เสมอ อาร์เซนอล 1-1 อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กองกลางทีมชาติสเปน กลับมาฝึกซ้อมได้แล้วจากการยืนยันของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ผ่านสำนักข่าว “สกาย สปอร์ตส์”              ราฟา กล่าวว่า “วันศุกร์นี้ อลอนโซ ลงซ้อมได้แล้ว ซึ่งก็หวังว่าเขาจะพร้อมในสุดสัปดาห์นี้ มีปัญหาเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้ซ้อมกับทีมนานมาก แต่ว่าร่างกายเขาจะฟิตแน่นอน ส่วน สตีฟ ฟินแนน ยังมีอาการบาดเจ็บ เราต้องตรวจดูอีกทีว่าเขาจะพร้อมในเกมนี้หรือไม่ แต่ว่า แอกเกอร์ ยังต้องพักมากกว่านี้อีกหน่อย”              สำหรับ สตีฟ ฟินแนน แบ็กขวาชาวไอริช บาดเจ็บไม่ได้เล่นในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ที่ถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย์ 4-0 เมื่อวันอังคารที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเป็น อัลบาโร อาร์เบลัว ที่จะทำหน้าที่แทนต่อไป              ส่วนทางด้าน ดาเนียล แอกเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟเลือดเดนส์ ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าในการทำศึก ยูโร 2008 รอบคัดเลือก ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ อลอนโซ แต่ดูจะมีปัญหามากกว่า เพราะจนป่านนี้ยังไม่ได้กลับมาลงสนาม ทำให้ ซามี ฮูเปีย จะได้จับคู่กับ เจมี คาร์ราเกอร์ ต่อไป Credit :: ผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/Sport จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Hargreaves fit for Anfield test Owen Hargreaves is fit and ready to face Liverpool at Anfield on Sunday after overcoming a slight calf strain. The 26-year-old midfielder was withdrawn from last weekend's 4-1 win over Derby County at Old Trafford after pulling up in the warm-up. He didn't travel to Italy in midweek for the 1-1 draw with AS Roma at the Stadio Olimpico, but he will be available for the crunch clash with Rafael Benitez's men. Hargreaves' energy, defensive qualities and passing ability could be crucial on Sunday, and one of his main tasks could be to stifle Liverpool captain Steven Gerrard. Sir Alex Ferguson will also have John O'Shea fit for the match after injuring his groin against Roma in midweek. "Everyone is fit," said Sir Alex. "John O'Shea is ok after a couple of days' rest." Credit :: MANUTD.COM http://www.manutd.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 X - United เซบาเปลี่ยนใจปัดดีซีอยู่เอสตูเดียนเตสต่อ ดีซี ยูไนเต็ด เจอข่าวช็อกกะทันหัน วันเดียวหลังมีข่าวว่าจะได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวจอมทัพคนใหม่ ฮวน เซบา เวรอน วันพุธหน้า ล่าสุดเจ้าตัวเปลี่ยนใจ โดยบอกว่าทำใจย้ายทีมไม่ลง หลังเพื่อนร่วมทีม และแฟนบอลขอร้องให้อยู่ต่อ เผยถ้าย้ายไปรับรองรวยเละเทะ แต่ตอนนี้ขอเลือกใช้ชีวิตแบบมีความสุขดีที่สุด ฮวน เซบาสเตียน เวรอน กองกลางจอมเก๋าชาวอาร์เจนไตน์ของสโมสร เอสตูเดียนเตส ปฏิเสธโอกาสย้ายมา ดวลแข้งกับ เดวิด เบ็คแฮม สตาร์ดังของ ลอสแอนเจลิส แกแล็กซี่ อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกลูกหนัง เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ (เอ็มแอลเอส) แล้ว หลังเพิ่งมีข่าวว่าเจ้าตัวจะบินมาเปิดตัวแข้งใหม่ของ ดีซี ยูไนเต็ด วันพุธหน้า ตามข่าวก่อนนี้ ในวันศุกร์ที่ 14 ธ.ค. ระบุว่า เซบา วัย 32 ปี ซึ่งจะหมดสัญญากับ เอสตูเดียนเตส ต้นสังกัดปัจจุบัน ที่เขามีส่วนช่วยให้คว้าแชมป์ลีกอาเปร์ตูร่า ปี 2006 ในวันเสาร์ที่ 15 ธ.ค. นี้ตามเวลาท้องถิ่น มีกำหนดออกเดินทางมางานแถลงข่าว และเปิดตัวเป็นแข้ง ดีซี อย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าววันพุธที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม วันถัดมากลับมีข่าวว่า เจ้าตัวเปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะคิดว่าในช่วงนี้ของเส้นทางค้าแข้ง ขอเลือกเล่นฟุตบอลเพื่อความสุขเป็นอันดับหนึ่ง เลยเลือกอยู่กับทีมรักที่เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลด้วยอย่าง เอสตูเดียนเตส ต่อไป "คำขอร้องจากเพื่อนร่วมทีม ที่อยากให้ผมอยู่กับทีมต่อไปมีความหมายกับผมมาก และผมก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความรักของแฟนบอลของเราได้ด้วย" เซบา กล่าว "แน่นอนว่าที่นั่นผมจะได้เงินมหาศาล บางทีผมอาจแนะนำให้เด็กๆ ไปเล่นที่นั่น แต่ในสถานถารณ์อย่างผมแล้ว ผมว่ามันน่าจะดีกว่าหากผมจะใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ผมทำแล้วมีความสุข" สำหรับ "พ่อมดน้อย" เซบา ถือเป็นนักเตะที่มีเส้นทางค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการคว้า สคูเด็ตโต้ (2000) และ ยูฟ่า คัพ (1999) ร่วมกับ "เบียงโคเชเลสเต้" ลาซิโอ ยุคของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน นอกจากนี้ยังอยู่ในทีม "ปีศาจแดง" ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2003 ไปจนถึงร่วมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย กับ อินเตอร์ มิลาน ปี 2005, 2006 Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Hot News ตามโผ!คาเปลโล่คุมผู้ดีเอฟเอจับเซ็นยาว4ปีครึ่ง ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือหน้าบึ้งชาวอิตาเลียน กลายเป็นผู้จัดการทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ คนใหม่ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังบรรลุข้อตกลงรายละเอียดปลีกย่อย และลงนามสัญญาร่วมงานกันนานถึง 4 ปีครึ่ง ด้วยกัน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ออกมาแถลงข่าวใหญ่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ได้ตัดสินใจยกตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ให้กับ ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชชาวอิตาเลียน เป็นผู้ดูแลคนใหม่ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังการเจรจาขั้นตอนสุดท้ายผ่านฉลุย และมีการลงนามในสัญญาร่วมงานกัน 4 ปีครึ่ง เรียบร้อย คาเปลโล่ วัย 61 ปี เข้ามารับตำแหน่งแทน สตีฟ แม็คคลาเรน ที่โดนปลด เมื่อเดือนที่แล้ว หลังพาทีมพ่าย โครเอเชีย จนอดไปเล่นศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" รอบสุดท้าย ในกลางปีหน้า ส่วนงานแรกที่จะโชว์ฝีมือ คือการนำนักเตะสิงโตคำราม ลงเตะอุ่นเครื่องกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนเกมอย่างเป็นทางการ ต้องรอไปถึงช่วงปลายปีหน้า ซึ่ง อังกฤษ จะทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เพื่อลุ้นโควตาไปเล่นรอบสุดท้าย ที่แอฟริกาใต้ ในปี 2010 สำหรับประวัติ คาเปลโล่ เคยผ่านงานคุมสโมสรยักษ์ใหญ่มาแล้วหลายทีม ไม่ว่าเป็น เอซี มิลาน, โรม่า และ ยูเวนตุส ในลีกบ้านเกิด ซึ่งเขาสามารถพาทุกทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้หมด รวมถึงเคยคุม เรอัล มาดริด ในสเปน คว้าแชมป์ลีกได้อีก 2 สมัย รวมฤดูกาลที่แล้ว ทำเนียบผู้จัดการทีมชาติอังกฤษตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เซอร์ วอลเตอร์ วินเตอร์บ็อตทัม (1946-62) • คุมทีม 139 นัด, ชนะ 78, เสมอ 33, แพ้ 28 นัด • ฟุตบอลโลก 1950 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1954 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลโลก 1958 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1962 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ (1963-74) • คุมทีม 113 นัด, ชนะ 69, เสมอ 27, แพ้ 17 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1964 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1966 - แชมป์ • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1968 - อันดับ 3 • ฟุตบอลโลก 1970 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1972 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลโลก 1974 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก โจ เมอร์เซอร์ (1974) • คุมทีม 7 นัด, ชนะ 3, เสมอ 3, แพ้ 1 นัด ดอน เรวี่ (1974-77) • คุมทีม 29 นัด, ชนะ 14, เสมอ 8, แพ้ 7 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก รอน กรีนวู้ด (1977-82) • คุมทีม 55 นัด, ชนะ 33, เสมอ 12, แพ้ 10 นัด • ฟุตบอลโลก 1978 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1980 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1982 - รอบ 2 เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน (1982-90) • คุมทีม 95 นัด, ชนะ 47, เสมอ 30, แพ้ 18 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1984 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก • ฟุตบอลโลก 1986 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1990 - อันดับ 4 เกรแฮม เทย์เลอร์ (1990-93) • คุมทีม 38 นัด, ชนะ 18, เสมอ 13, แพ้ 7 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1992 - รอบแรก • ฟุตบอลโลก 1994 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ (1994-96) • คุมทีม 23 นัด, ชนะ 11, เสมอ 11, แพ้ 1 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 - รอบรองชนะเลิศ เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล (1996-1999) • คุมทีม 28 นัด, ชนะ 17, เสมอ 6, แพ้ 5 นัด • ฟุตบอลโลก 1998 - รอบ 2 โฮเวิร์ด วิลกินสัน (1999 and 2000) • คุมทีม 2 นัด, ชนะ 0, เสมอ 1, แพ้ 1 นัด เควิน คีแกน (1999-2000) • คุมทีม 18 นัด, ชนะ 7, เสมอ 7, แพ้ 4 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2000 - รอบแรก ปีเตอร์ เทย์เลอร์ (2000) • คุมทีม 1 นัด, ชนะ 0, เสมอ 0, แพ้ 1 นัด สเวน-โกรัน อีริคส์สัน (2001-2006) • คุมทีม 67 นัด, ชนะ 40, เสมอ 17, แพ้ 10 นัด • ฟุตบอลโลก 2002 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย • ฟุตบอลโลก 2006 - รอบ 8 ทีมสุดท้าย สตีฟ แม็คลาเรน (2006-2007) • คุมทีม 18 นัด, ชนะ 9, เสมอ 4, แพ้ 5 นัด • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ฟาบิโอ คาเปลโล่ (2007) ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมชาติอังกฤษเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2007 Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th น้าเน็คซ่าด่าผู้ดีไร้กุนซือจนต้องตั้งคาเปลโล่คุม เรย์มงด์ โดเมเน็ค โค้ชทีม "ตราไก่" ฝรั่งเศส เบนเข็มจากทีมชาติอิตาลี หันมาวิจารณ์ เอฟเอ แทน หลังยืนยัน รับรองการแต่งตั้ง ฟาบิโอ คาเปลโล่ เป็นกุนซือทีมชาติคนใหม่ ชี้ทำแบบนี้เหมือนดูถูกผู้จัดการทีมชาติตัวเอง ว่ามีตั้งเยอะแยะหลายคน แต่ไม่ได้ความสักคน หลังแสดงความเห็นส่วนตัว จนมีเรื่องบาดหมางคลางแคลงใจกับทีมชาติอิตาลี เรย์มงด์ โดเมเน็ค โค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ก็ออกมาล้วงลูก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) บ้าง ด้วยการแสดงความเหนื่อยหน่ายใจแทน หลังยืนยันแล้วว่า ทีม "สิงโตคำราม" น่าจะมีผู้จัดการทีมคนใหม่เป็นชาวอิตาเลียนชื่อ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ยอดโค้ชที่การันตีแชมป์ ในทุกทีมที่คุม เอฟเอ ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้อนุมัติการแต่งตั้ง คาเปลโล่ มาทำหน้าที่คุมทีมชาติอังกฤษ แทน สตีฟ แม็คคลาเรน ที่ทำงามหน้า คุมทีมตกรอบคัดเลือก ยูโร 2008 แล้ว โดยตอนนี้เหลือการเจรจาตกลงรายละเอียดขั้นสุดท้ายเท่านั้นก็จะเป็นอันเสร็จพิธี และ "น้าเน็ค" วัย 55 ปี ที่ก่อนนี้บอกว่า จะเลิกพูดถึงทีม "อัซซูรี่" แล้ว หันมาวิจารณ์การตัดสินใจของ เอฟเอ แทน "ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรง และน่าละอายใจสำหรับผู้จัดการทีมชาวอังกฤษทุกคน มันน่าละอายมากที่คุณมองหาคนสวีเดน หรือ อิตาลี มันเหมือนกับคุณกำลังพูดกับโค้ชชาวอังกฤษว่า - คุณอยู่ใน อังกฤษ พวกคุณไม่ได้เรื่อง และเราจะมองหาตัวเลือกที่อื่นแทน" โดเนเม็ค กล่าว Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เช็กประกาศพาสิงห์บลูส์บุกอัดปืนใหญ่คว้า3แต้ม ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมหนึบของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ประกาศขอบุกไปเก็บ 3 คะแนนในการออกไปทำศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์กับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์นี้ เพื่อทำคะแนนขึ้นมาเท่ากัน แต่เชื่อว่าไม่ง่าย เพราะต้องขาดแข้งสำคัญหลายคนไป แถมคู่แข่งก็โชว์ฟอร์มได้ดีในบ้าน ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูทีมชาติสาธารณรัฐเช็กของ เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาแสดงความมั่นใจว่าพลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" จะบุกเก็บ 3 คะแนนในการออกไปเยือน อาร์เซน่อล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. นี้ เช็ก เพิ่งหายบาดเจ็บน่องกลับมาลงเฝ้าเสาในเกมเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอกับ บาเลนเซีย 0-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กล่าวว่า "มันเป็นช่วงเวลาที่มีเกมยากลำบากมากมายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ปีแรกที่ผมย้ายมาอยู่กับ เชลซี ผมจำได้ว่าในช่วงคริสต์มาสตามหลัง อาร์เซนอล อยู่ 5 คะแนน แต่จากนั้นเราก็ออกไปยันเสมอ 2-2 ที่ไฮบิวรี่ แต่เมื่อสิ้นสุดช่วงคริสต์มาส เรานำพวกเขาอยู่ 5 คะแนน" "เราจะต้องรับมือโดยปราศจากนักเตะตัวหลัก อย่าง จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ไม่สามารถลงสนามได้ ตอนนี้ ดร็อกบา ลงเล่นไม่ได้อีกคน แต่เรายังคงเก็บคะแนนได้ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดี แต่ผมคิดว่าเราสามารถไล่พวกเขาทัน เราตามหลังพวกเขาแค่ 3 แต้ม และไม่แพ้ทีมใดเลย 16 นัด" ขณะที่ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวสำคัญของเชลซี พูดถึงความสำคัญในเกมกับ "เดอะ กันเนอร์ส" และถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกไปเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม "มันเป็นเกมสำคัญสำหรับเราในวันอาทิตย์ อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มได้น่าทึ่งในฤดูกาลนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพลาดไปบ้างในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้กับทุกทีมในฤดูกาลนี้ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราที่จะไปเยือนที่นั่น และขยับคะแนนเข้าไปใกล้พวกเขาอีก" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th อเล็กซ์มั่นเชลซีกลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัว อเล็กซ์ กองหลังเลือดบราซิลของสโมสรเชลซี กล่าวก่อนเกมที่จะฟาดฟันกับอาร์เซนอลในวันอาทิตย์นี้ ด้วยเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าต้นสังกัดกลับมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิพอย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากกลับมาโกยชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องจนขึ้นมารั้งอยู่อันดับ 3 บนตารางลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี อยู่ ณ เวลานี้ ถึงแม้ว่าโจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมอหังการจะแยกทางกับสโมสรไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ทว่าอัฟรัม แกรนต์ เทรนเนอร์เลือดยิวก็สามารถปรับโฉมทีม"สิงโตพันล้าน"ได้อย่างลงล็อกพอสมควร จนทำให้อเล็กซ์นั้นเชื่อมั่นว่าทีมยังมีโอกาสซิวแชมป์ลีก "ทีมของเราสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้แล้ว" "ในตอนที่โจเซ่ มูรินโญ่อำลาทีมไปนั้น ถือได้ว่านักเตะทุกคนงงไปกันหมดเลย เพราะมูรินโญ่ก็ทำงานร่วมกับนักเตะได้ดี อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ดึงตัวผมมาร่วมทีมอีกด้วย" "ถึงแม้ตอนนั้น ฟอร์มของทีมจะลุ่มๆดอนๆ ทำแต้มหล่นหายไปเยอะเพราะเสมอเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ทีมของเราก็ค่อยๆฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ก็ขึ้นมาอยู่กลุ่มบนของกัวคารางแล้วซึ่งตรงจุดนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ"อเล็กซ์กล่าว Credit :: ซอกเกอร์ซัก http://www.soccersuck.com “แกรนท์” ยึดกุนซือเชลซีเซ็นคุมถาวร 4 ปี       อัฟราม แกรนท์ ได้รับหลักประกันในหน้าที่การงานแล้ว หลังจากเซ็นสัญญาคุม เชลซี อย่างถาวรเป็นเวลา 4 ปีเป็นที่เรียบร้อย              โค้ชชาวอิสราเอล วัย 52 ปี ก้าวเข้ามาสืบทอดเก้าอี้นายใหญ่ของถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อจาก โฮเซ มูรินโญ จอมทระนงชาวโปรตุเกส ที่พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ทว่ายังไม่ได้รับสัญญาระยะยาวในช่วงที่โยกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสรมาเป็นกุนซือ              ทว่าล่าสุด ทางสิงห์บลูส์ก็ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสรเมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคมว่า แกรนท์ จรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทีมอย่างถาวรเป็นเวลา 4 ปี หลังจากมีผลงานเป็นที่น่าพอใจของผู้บริหารทั้งในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก              โดยเวลานี้ เชลซี กำลังรั้งอันดับ 3 ของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีจากการลงเล่น 16 นัด มี 34 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล อยู่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น ขณะที่ศึกชิงจ้าวยุโรปก็สามารถลอยลำเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่มบี Credit :: ผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/Sport จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฟีฟ่าเข็นกฎจำกัดแข้งนอกบังคับใช้ปีหน้า ประธาน ฟีฟ่า เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ รับบท "เฮียดัน" อย่างจริงจังแล้ว เผยปีหน้าเตรียมเข็นกฎจำกัดแข้งนอกในแต่ละสโมสรออกมาบังคับใช้ให้สะใจพระเดชพระคุณแน่นอน ชี้เกมลูกหนังจำเป็นต้องมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทีมฟุตบอลจากชาติไหนก็ต้องมีสไตล์ของชาตินั้นๆ ถึงจะถูกต้องชอบธรรมอย่างที่สุด เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยว่าองค์กรของตนเตรียมพิจารณาว่าจะเริ่มออกกฎจำกัดจำนวนผู้เล่นต่างชาติของแต่ละสโมสรหรือไม่ในระหว่างการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปในปี 2008 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แบล็ตเตอร์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดินทางมาชมศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก "คลับ เวิลด์ คัพ" ที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า "การโต้แย้งในเรื่องการจำกัดโควตาเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพราะหากเรารักษาเอกลักษณ์ความเป็นท้องถิ่นของสโมสรไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะรักษาเอกลักษณ์ความเป็นชาติของสโมสรเอาไว้ให้จงได้" "เราเปิดกว้างให้กับนักเตะต่างชาติได้ก็จริง แต่ไม่ควรจะมากเกินไปจนกระทั่งคุณต้องสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเอง คณะกรรมการฝ่ายยุทธศาสตร์ของ ฟีฟ่า ได้ศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว และเราจะเสนอแนวทางนี้ต่อที่ประชุมใหญ่ครั้งต่อไปของ ฟีฟ่า ที่นครซิดนีย์ ปลายเดือนพฤษภาคม โดยผมเชื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากที่ประชุมใหญ่" ประธาน ฟีฟ่า กล่าวด้วยว่าตำนานแข้งอย่าง ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์, โยฮัน ครัฟฟ์ และ มิเชล พลาตินี่ ซึ่งรายหลังเป็นถึงประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ต่างก็กำลังทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพราะทุกคนต่างก็ชื่นชอบฟุตบอล และฟุตบอลก็ควรจะต้องรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองด้วย Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ท็อปโฟร์เปิดศึก “ผี-เชลซี” มีทีเด็ด / เซียนไก๋       สุดสัปดาห์นี้หัวตาราง พรีเมียร์ชิป อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคมนี้ มีเกม ดับเบิลบิ๊กแมตช์ ที่ทีมระดับท็อปโฟร์ต้องมาห้ำหั่นกันเอง เริ่มด้วยคู่แรกในเวลา 2 ทุ่มครึ่ง “วันแดงเดือด” ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามด้วย 5 ทุ่ม “ดาร์บี้แมตช์ลอนดอน” อาร์เซนอล กับ เชลซี             การที่จ่าฝูง อาร์เซนอล เก็บได้แต้มเดียวใน 2 นัดหลังสุด การขับเคี่ยวลุ้นแชมป์จึงสนุกขึ้นเป็นกอง แม้อันดับ 4 ลิเวอร์พูล จะมีแค่ 30 คะแนน แต่ก็มีเกมตุนอยู่ในมืออีก 1 นัด หลายคนอาจจะบอกว่าจะตื่นเต้นอะไรนักหนาการต่อสู้แย่งแชมป์หัวมงกุฎยังดำเนินไปไม่ถึงครึ่งทาง แต่ว่าลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีทุกวันนี้ ยกระดับขึ้นมามาก ทำให้ทุกทีมทราบดีว่าช่วงห่างเพียงไม่กี่คะแนนถือว่าเอาการ ในวันอาทิตย์นี้จึงไม่มีใครที่อยากจะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้             คู่แรก ลิเวอร์พูล เพิ่งเกี่ยวก้อยอีก 3 ทีมสัญชาติเดียวกันผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ว่าบรรดานักเตะจะล้ามากกว่าทุกทีม แต่ในเรื่องของกำลังใจนั้นหายห่วง เพราะกด โอลิมปิก มาร์กเซย์ มาถึง 4 ลูก แถมยังได้เล่นต่อหน้าสาวก “เดอะ ค็อป” ในถิ่น แอนฟิลด์ อีก อย่างไรก็ตาม แมนฯยู ไม่แพ้ที่นี่ 5 ปีติดต่อกันแถมบุกมาชนะถึง 4 นัดเลยทีเดียว ปีที่แล้วก็ทำแสบจากลูกยิงของ จอห์น โอเชีย ในนาทีที่ 90             เกมนี้ต้องจับตาดู ราฟาเอล เบนิเตซ ว่า จะโรเตชันนักเตะ ลิเวอร์พูล ให้โฉมหน้าออกมาเป็นเช่นไรอีก ซึ่งก็ได้แต่หวังกันว่าอย่าคิดมากเลย แต่ที่แน่ๆ คือ จะต้องมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส นำทัพในแผงกองหน้า เพราะฟอร์มกำลังเปรี้ยงปร้างโดยเฉพาะประตูที่ลากผ่านนักเตะ มาร์กเซย์ 2-3 คน เข้าไปยิงนั้นเนียนตาดีเหลือเกิน ส่วนแนวรับ ดาเนียล แอกเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟเลือดเดนส์ ที่ร่ำๆ ว่าจะคัมแบ็กหลายนัดก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นเงาสักที ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเกมนี้จะลงสนามได้หรือไม่             ทางด้านอาคันตุกะ แมนฯยูไนเต็ด สภาพนักเตะฟิตปั๋ง เพราะบรรดาตัวจริงไม่ได้เหินฟ้าไปอิตาลี ในเกมยุโรปนัดสุดท้ายที่เสมอกับ โรมา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีเพียง เวย์น รูนีย์ คนเดียวเท่านั้นที่ได้สวมปลอกแขนนำทัพลงสนาม ซึ่งเจ้า “หมูพลิ้ว” ออกมาบอกว่าพลาดมาหลายเกมแล้วในฤดูกาลนี้เพราะอาการบาดเจ็บ จึงไม่อยากจะพักอีก             เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด ได้ทีมที่ลงตัวแล้ว รูนีย์ จะจับคู่กับ คาร์ลอส เตเบซ ที่ยิงรวมกันไปแล้ว 10 ลูก แนวรับ เวส บราวน์ จะปักหลักตำแหน่งแบ็กขวาต่อไปเพราะว่า แกรี่ เนวิลล์ นั้นยังไม่ฟิตเต็มร้อย ด้านมิดฟิลด์คู่กลาง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ตัวตัดเกมจอมขยันหายเจ็บแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะฟิตแค่ไหน น่าจะได้จับคู่กับ อันแดร์สัน โดยมี ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นตัวสอดแทรก ส่วน คริสเตียโน โรนัลโด ปีกตัวทะลุทะลวงนั้นไม่ต้องห่วงเพราะกำลังกระหายประตู ขนาดจุดโทษเพื่อนจะทำแฮตทริกยังไม่ให้ยิงเลย             พักหายใจหายคอดื่มน้ำครึ่งชั่วโมงก็เตรียมมันกันต่อในคู่ที่ 2 อาร์เซนอล จะเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบกับ เชลซี เจ้าถิ่นทำ 5 คะแนนหลุดมือใน 2 นัดหลังสุด ซึ่งก็เป็นเพราะว่านักเตะกองกลาง 3 ตัวหลักนัดกันเดี้ยงหมดไม่ว่าจะเป็น เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ และ มาติเยอ ฟลามินี เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมาดละเมียด บอกแล้วว่าอาจจะได้ ฟลามินี คืนสนามแค่คนเดียวเท่านั้น             ส่วนอีกสองคนที่หายเจ็บคืนทัพในเกมยุโรปที่ อาร์เซนอล เฉือน สเตอัว บูคาเรสต์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็คือ อาบู ดิอาบี กองกลางชาวฝรั่งเศส แถมยิงประตูได้ด้วย อีกคนก็คือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กองหน้าซ้ายพระกาฬ ที่เจ็บไปตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม จึงน่าจะได้จับคู่ล่าตาข่ายกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์             ทางฝั่ง เชลซี ในยุคของ อัฟราม แกรนท์ ลดสีสันไปเยอะ แต่เคยบอกไปแล้วว่าจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าค่อยๆ ย่องมาแบบเงียบๆ หลังจากแพ้ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็ไร้พ่าย 9 นัดติดต่อกันโดยเป็นการชนะถึง 7 นัดเลยทีเดียว ทำให้ตอนนี้ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล แค่ 3 แต้มเท่านั้น             เชลซี ลดความอันตรายในแดนหน้าไปมาก เพราะไม่มี ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าเบอร์ 1 ที่เข้ารับการผ่าเข่าต้องพักนานถึง 3 สัปดาห์ ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ อังเดร เชฟเชนโก, เคลาดิโอ ปิซาร์โร และ ซาโลมอน คาลู มิหนำซ้ำในแผงมิดฟิลด์ก็จะไม่มี มิคาเอล เอสเซียง แข้งพันธุ์อึดที่จะชดใช้โทษแบน 3 นัดเป็นเกมสุดท้าย แต่สถิติที่ผ่านมา 3 ฤดูกาลหลังสุดยอดเยี่ยมไม่เคยแพ้ที่รัง “ปืนโต” ซึ่งดูแล้วเกมนี้ทั้งสองทีมนัดกันขาดนักเตะตัวสำคัญ ทำให้โอกาสออกเสมอมีสูงมาก             โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ในช่วงสุดสัปดาห์นี้             วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2550       เบอร์มิงแฮม พบ เรดดิง เวลา 22.00 น.       ดาร์บี พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 22.00 น.       แมนฯซิตี พบ โบลตัน เวลา 22.00 น.       ปอร์ทสมัธ พบ สเปอร์ส เวลา 22.00 น.       ซันเดอร์แลนด์ พบ วิลลา เวลา 22.00 น.       เวสต์แฮม พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 22.00 น.       วีแกน พบ แบล็กเบิร์น เวลา 22.00 น.       ฟูแลม พบ นิวคาสเซิล เวลา 00.15 น.             วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2550       ลิเวอร์พูล พบ แมนฯยู เวลา 20.30 น.       อาร์เซนอล พบ เชลซี เวลา 23.00 น. จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 <<<ก่อนเกมส์ กับ แจ็คกี้ ""ซุปเปอร์ แดงเดือด" ลิเวอร์พูล-แมนฯยูฯ ">>> http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6132403/S6132403.html ซุปเปอร์ แดงเดือด" ลิเวอร์พูล-แมนฯยูฯ พรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ ต้องถือว่าเป็น ซุปเปอร์ ซันเดย์ ของวงการฟุตบอลทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อจังหวะบังเอิญเหลือเกินที่ 4 ทีมดังหรือ บิ๊กโฟร์ ของพรีเมียร์ลีกมีโปรแกรมมาพบและตัดแต้มกันเอง คู่แรกช่วง 20.30 น. ลิเวอร์พูล ต้อนรับการมาเยือนของ “แชมป์เก่า” และคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สถิติในลีกสูงสุด ลิเวอร์พูลชนะ 49 เสมอ 43 แพ้ 56 ที่สำคัญ “หงส์แดง” ไม่ชนะแมนฯยูไนเต็ดมาตั้งแต่ปี 2003 เป็นเวลาเกือบ 5 ปีเต็ม อีกหนึ่งคู่ ซุเปอร์ซันเดย์ เป็นดาร์บี้ แมตช์ของชาวลอนดอนที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ หลังจากอาร์เซนอลสะดุดในสองเกมล่าสุดของพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้ช่องว่างของพวกเขากับทีมตามลดลงจนทำให้การลุ้นแชมป์ปีนี้ สนุก เข้มข้น ยิ่งขึ้น ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่สามารถเอาชนะเชลซีได้เลย ดีที่สุดคือผลเสมอเท่านั้น นี่จึงเป็นเกมที่แฟนบอล ปืนใหญ่ ลำบากใจไม่น้อย โดยเฉพาะกับผลงาน 3 เกมล่าสุดที่เก็บได้เพียงแค่ 4 จาก 9 คะแนน แถมยังมีฟอร์มการเล่นที่ ติดๆขัดๆ ไม่ไหลลื่นเหมือนช่วงก่อน ขณะที่เชลซี ปรับตัวเองได้ดีขึ้นหลังจาก โชเซ มูรินโญ ลาออกไป พวกเขาเริ่มกลับมาเป็นทีมที่แพ้ยาก เสียประตูยาก แถมยังชนะด้วยผลการแข่งขันที่แตกต่างจากยุค มูรินโญ ด้วยช่องว่าง 3 คะแนนที่ห่างจากอาร์เซนอล ย่อมทำให้ เชลซี มีโอกาสสร้างความกดดันได้มาก แม้กระทั่งผลเสมอก็ไม่ถึงกับเสียหายอะไรมากมาย แต่สำหรับอาร์เซนอลนั้น ผลเสมออาจทำให้พวกเขาตกอยู่ในช่วงฟอร์มตก และอาจมีผลต่อการแสดงความสามารถช่วงเดือนธันวาคม ไม่ว่าปัญหาของอาร์เซนอลจะมาจาก เชสก์ ฟาเบรกาส หรือจากจุดไหนก็ตาม อาร์เซนอล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ทันเกมนี้ หาไม่แล้ว พวกเขาจะพบกับความยากลำบากในการรักษาตำแหน่งจ่าฝูงก่อนสิ้นปี มาว่ากันถึงคู่วันแดงเดือดระหว่าง ลิเวอร์พูล-แมนฯยูไนเต็ด ที่กำลังลงทำศึก “ซุปเปอร์ แดงเดือด” ในครั้งล่าสุดนี้ สถิติ ลิเวอร์พูล- แมนฯยูไนเต็ด (ทุกรายการ)             Liverpool wins       draws       Man United wins League         49                      43                   56 FA Cup          3                        4                     8 Other            2                        3                     1 Total            50                      57                  66 สถิติ 10 ปีล่าสุด (ที่แอนฟิลด์) 2006/2007 Liverpool 0-1 Manchester United   03-03-2007 2005/2006 Liverpool 0-0 Manchester United   18-09-2005 2004/2005 Liverpool 0-1 Manchester United   15-01-2005 2003/2004 Liverpool 1-2 Manchester United   09-11-2003 2001/2002 Liverpool 3-1 Manchester United   04-11-2001 2000/2001 Liverpool 2-0 Manchester United   31-03-2001 1999/2000 Liverpool 2-3 Manchester United   11-09-1999 1998/1999 Liverpool 2-2 Manchester United   05-05-1999 1997/1998 Liverpool 1-3 Manchester United   06-12-1997 นี่คือเกมแดงเดือดที่แฟนหงส์และผีต่างรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ซึ่งไล่ยิงประตูคู่แข่งขันถล่มทลาย 7 นัดล่าสุดยิงไป 26 ลูก ขณะที่ “ปีศาจแดง” พกพาศักดิ์ศรีของแชมป์พรีเมียร์ลีก 9 สมัย มาเยือนแอนฟิลด์ นั่นก็รวมทั้งผลงานที่มักจะทำให้ “เด็กหงส์” หนาวๆร้อนๆ ในทุกครั้งที่ ลิเวอร์พูลต้องเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากเกมระหว่างสองทีมนี้แล้ว ยังมีคู่ใหญ่คู่สำคัญอีกคู่หนึ่ง  อาร์เซนอล พบกับ เชลซี จนทำให้วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. นี้เป็นวัน “ซุปเปอร์ ซันเดย์” ที่มีความอย่างยิ่ง  อาจไม่ใช่นัดตัดสินแชมป์ถ้าหากจะมีทีมหนึ่งทีมใดชนะ แต่สำหรับผู้แพ้ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในฤดูกาลนี้ ซุปเปอร์ ซันเดย์ คู่แรกเริ่มแข่งขันเวลา 20.30 น. ลิเวอร์พูล ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล โดยสถิติแมนฯยูไนเต็ด ชนะมากกว่า ยิ่งกว่านั้นนับตั้งแต่ ราฟา เบนิเตซ คุมทีมลิเวอร์พูลเมื่อ 3 ปีก่อน เขายังเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกไม่ได้สักเกม ขณะที่ผลงานล่าสุดนั้น แมนฯยูฯ นำลิเวอร์พูล 6 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลพึ่งพลาดท่าแพ้ต่อเรดดิ้ง ในพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกันกับสภาพทีมของ “ปีศาจแดง” นั้นดูพร้อมกว่าเนื่องจากเกมนัดพบโรมา ในแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาแทบไม่เสียเหงื่อเปลืองแรงอะไรเลย ส่วน “หงส์แดง” นั้นกรำศึกหนักมาตลอด ล่าสุดออกแรงถล่มมาร์กเซย เรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาก่อนรับมือ “ปีศาจแดง” ได้พอสมควร อย่างไรก็ตามเงื่อนไขสำคัญที่สุดสำหรับเกมนี้ หรือเดิมพันเกมนี้ต้องบอกว่า ทางฝั่งลิเวอร์พูลมีมามากเหลือเกิน หากพวกเขาพลาดท่าแพ้ต่อ “ปีศาจแดง” ผลเสียที่เกิดขึ้นคงไม่เพียงแต่เป็นการทำลายความมั่นใจอย่างเดียว หากแต่เก้าอี้ ผู้จัดการทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ยังสั่นคลอนอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นถ้าแพ้ช่องว่างจะโดนทิ้งกระจุยกระจายจาก 6 เป็น 9 แต้ม เชื่อว่าเดิมพันเกมนี้ ความกดดันเกมนี้ จึงตกอยู่กับทางฝั่งลิเวอร์พูลมากกว่าแมนฯยูไนเต็ด อย่างไม่ต้องสงสัย สภาพทีม “ผีปึ้กกว่า” แม้ ราฟาเอล เบนิเตซ นำการหมุนเวียนนักเตะมาใช้งานแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแกนหลักหัวใจสำคัญหลายคนลงสนามแบบนันสตอป ไม่ว่าจะเป็น สตีเวน เจอร์ราร์ด, เจมี คาร์ราเกอร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงเล่นเกมมา 3 นัดล่าสุดในรอบ 7 วัน คาดว่ารับมือกับ “ปีศาจแดง” นัดนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ น่าจะหมุนนักเตะใช้งานอีกครั้ง มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งตัวจริงอย่างน้อยอีก 4-5 คน เพื่อนำนักเตะที่สดและพร้อมมาเล่น ใครที่พลาดเกมนัดล่าสุดกับมาร์กเซย น่าได้โอกาสตัวจริง การจัดตัวเกมนี้ของ ราฟา ขึ้นอยู่กับแทกติกที่ใช้ด้วย หากเน้นการเดินเกมรุก ครอบครองบอลเอาไว้แต่ฝ่ายเดียวน่าจะใช้ระบบ  4-3-3  คือนอกจากจะเน้นการครองบอลเพื่อปิดเกมรุกแมนฯยูฯ ตัด เวย์น รูนีย์, เตเวซ และ โรนัลโด ออกจากเกมแล้ว ลิเวอร์พูลยังต้องการกดดันแมนฯยูฯในเกมรุกอย่างต่อเนื่อง นัดนี้จึงไม่เน้นเกมริมเส้นที่ขึ้นบอลจากปีก แต่จะเป็นฟูลแบ๊กสองข้างขึ้นมาเติมเกมแทน ขณะที่ตรงกลางจะบีบเข้ามาอัด ช่วงชิงพื้นที่กับแมนฯยูไนเต็ด ดังนั้นหมากเกมนี้อาจเป็นไปได้ที่ ราฟา จะใช้ มาสเชราโน เล่นกับ ซิสโซโก โดยให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นตัวฟรีคอยเน้นเกมรุกหนุนหลัง ตอร์เรส กับ เคราช์ ขณะที่อีกคนหนึ่งคือ แฮร์รี่ คีวล์ น่าจะได้โอกาสลงเล่นอีกคน เพราะสามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งซ้ายและขวา แถมยังเข้าขากับ ตอร์เรส อีกด้วย 11 คนแรกของ หงส์แดง น่าจะเป็นไปตามระบบ 4-3-3 โดยขยับ เจอร์ราร์ด จากกองกลางเพื่อรับบทตัวหนุนเกมรุกทั้ง ตอร์เรส และ เคราช์ ผู้รักษาประตู – โฆเซ เรนา กองหลัง – สตีฟ ฟินแนน, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ กองกลาง- สตีเวน เจอร์ราร์ด ,ฮาเวียร์ มาสเชราโน, โมโม ซิสโซโก, แฮร์รี คิวล์ กองหน้า – เฟร์นานโด ตอร์เรส, ปีเตอร์ เคราช์ ทางฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด พักตัวหลักตัวจริงเอาไว้ในเกมที่พบกับโรมา นัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ตัวหลักหลายคนพักอยู่ที่อังกฤษไม่ต้องเดินทางลงใต้ไปอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์, คาร์เลอส เตเวซ, ไรอัน กิ๊กส์, และ คริสเตียโน โรนัลโด ขณะที่นักเตะชุดสองส่วนใหญ่คงไม่มีโอกาสได้เล่นในเกมแดงเดือดนี้เกือบยกทีม โดยกลุ่มนักเตะที่พร้อมสอดแทรกลงสนามนัดเยือนลิเวอร์พูล คงมีอยู่คนหรือสองคน อย่าง นานี ซึ่งคาดว่า เซอร์ อเล็กซ์ น่าจะเก็บเอาไว้เป็นตัวทีเด็ด เช่นเดียวกันกับ หลุยส์ ซาฮา เกมนี้แมนฯยูฯ จะเล่นคล้ายกับลิเวอร์พูล คือระบบ 4-3-3 เหมือนกัน ทั้ง โรนัลโด, เตเวซ, รูนีย์ จะได้ประสานงานกันในแนวรุก ส่วนตรงกลางมี ไรอัน กิ๊กส์, อันแดร์สัน, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์  เพื่อลุยกับลิเวอร์พูล 11 คนแรกของปีศาจแดงมีดังนี้ ผู้รักษาประตู – เอดวิน ฟาน เดอ ซาร์ กองหลัง – เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วีดิช, ปาทริซ เอวรา กองกลาง – โอเวน ฮาร์กรีฟส์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์ กองหน้า – เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเวซ, คริสเตียโน โรนัลโด ราฟาเน้นปิดเกม ผีได้เก๋าช่วย คาดว่า ราฟาเอล เบนิเตซ คงวางแผนการเล่นด้วยการปิดเกมไม่ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มีโอกาสเล่นเกมรุก โดยเกมแพลนของ ราฟา คือการดันขึ้นไปบีบกดดันทั้งพื้นที่และคนถึงแดนหลังของแมนฯยูไนเต็ด เน้นการช่วงชิงพื้นที่ในแดนกลาง แย่งบอลและครองบอลเพื่อคุมสถานการณ์ทั้งหมด นอกจากคุมสถานการณ์แล้วยังเป็นการตัด โรนัลโด, รูนีย์, เตเวซ ออกจากเกมรุกอีกด้วย นี่เป็นเกมที่ในลักษณะเดียวกันกับที่พวกเขาแพ้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ปีนี้ความแตกต่างคงมีเกิดขึ้นเนื่องจากลิเวอร์พูล ได้ความมั่นใจจากการมีกองหน้าตัวเป้าที่ฟอร์มกำลังฮอต และเป็นนักเตะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตามล่าตัวมาตลอด 3 ปีล่าสุด แต่ติดขัดตรงที่สโมสรไม่กล้าทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวมา เขาคือ เฟร์นานโด ตอร์เรส นั่นเอง การมีตอร์เรสในแนวรุกช่วยทำให้การปิดเกมของลิเวอร์พูลดูมั่นใจและมีความเฉียบขาดมากขึ้น ดังนั้นเชื่อว่า ราฟา จะวางแผนเพื่อไม่ให้แมนฯยูฯได้เล่นเกมรุก จากนั้นลุ้นว่า หน้าจะคมเหมือนนัดที่ผ่านๆมาหรือไม่ ขณะเดียวกัน แมนฯยูไนเต็ด น่าจะโดนบีบให้เล่นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ ซึ่งเป็นทีเด็ดของ ผีแดงเลยก็ว่าได้ ไม่จำเป็นต้องไปทำเกมรุกสู้ รอจังหวะอย่างใจเย็น รับให้แน่น แดนกลางลิเวอร์พูลพลาด พวกเขาขอโอกาสทีเดียวสวนกลัว อาศัยหน้าเร็ว เกมรุกทะลุทะลวง ขณะที่กองหลังหงส์แดงช้า ทั้ง คาร์ราเกอร์ และ ฮูเปีย ประกบ รูนีย์ กับ โรนัลโด ไม่อยู่แน่ เกมนี้เราจึงได้เห็นแผนการที่แตกต่างของทั้งสองทีม ซึ่งเชื่อว่า ทั้งสองแผนที่แตกต่างนี้นักเตะน่าจะทำได้ตามแผน แต่การตัดสินอยู่ที่ความเฉียบขาดในการยิงประตู จังหวะสุดท้าย ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่า “ปีศาจแดง” เหนือกว่าเล็กน้อย ผลที่คาด ผีแดงอาศัยความเก๋า ความเคี่ยว น่าเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้นัดนี้ได้ ผลเสมอ 1-1 น่าจะเกิดขึ้นด้วยเปอร์เซ็นต์สูงถึง 60 ส่วนแพ้ชนะมีโอกาสไม่แตกต่างกัน Credit :: MSN Football http://football.msnth2.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้แนะนำ ไดอารี่ปิศาจแดง โดย คุณ maezono_no7 ไดอารี่น้องหมู ตอน สดุดีฟอร์มเต้บของเพนกวิ้นเพื่อนเลิฟ โมชิโมชิ จุ๊บจุ๊บ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6110841/S6110841.html ไดอารี่ป๊ะป๋า ตอน เก่งจริงๆ คริสติอาโน่ลูกพ่อ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6093976/S6093976.html ไดอารี่น้องโด้ ตอน เรียกผมว่าเจ้าพ่อฟรีคิก http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6076220/S6076220.html ไดอารี่พี่ติ๊ก ตอน มอบกุหลาบแดงให้น้องหมูหายไวไว http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6012944/S6012944.html ไดอารี่น้องหมู ตอน เข้ารอบเร็วไป วัยรุ่นเซ็ง!!! http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5999613/S5999613.html ManU Game ***Man U Game*** คะแนน + ทายผลนัดเตะกับ LIVERPOOL วันอาทิตย์นี้ โดย คุณ PinManchester http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6132127/S6132127.html สงบใจ...วิพากษ์ ^^^^สงบใจ...วิพากษ์^^^^ The Return of GERARD PIQUE http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6125177/S6125177.html#30 ^^^^สงบใจ...วิพากษ์^^^^ ยังคงอยู่ในเส้นทาง ที่ดูเหมือนเรียบขึ้นมาอีกนิด http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6116965/S6116965.html เกาะขอบสนาม Old Trafford .:::[Theater of Dreams]:::. พาดูบอล Man Utd V Sporting Lisbon + ทัวร์ Old Trafford กันครับ... โดย คุณ suansiam http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6078674/S6078674.html นิดๆหน่อยๆสำหรับแฟนแมนยูค่ะ โดย คุณ รีโหมดไม่มีถ่าน http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6077316/S6077316.html พาไปชม Manchester United พบ Blackburn Rovers กันถึงขอบสนาม (จริงๆ) ครับ  โดย คุณ TASoccer http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6011172/S6011172.html ****วันสบาย ๆ ณ Megastore Old Trafford**** โดย คุณ PinManchester http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5971722/S5971722.html The Legend *** เอาบทสัมภาษณ์ของจอห์น โอเชีย มาฝากชาวปีศาจแดงค่ะ**** โดย คุณ  Crazy Victoria http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6116921/S6116921.html <<แอนเดอร์สัน หนุ่มน้อยที่เข้ามาในใจแฟนผีอย่างรวดเร็ว>> โดย  คุณ ManRed http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6111603/S6111603.html ++ RYAN GIGGS : MR. UNITED ++  : โดย + น้องพลอยสดใส + http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6036491/S6036491.html ***I'm Nemanja ViDiC*** บทสัมภาษณ์...จากจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก โดย คุณ PinManchester http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6128309/S6128309.html ++ MOMENTOS : CRISTIANO RONALDO ++ ลึกแต่ไม่ลับกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ : โดย + น้องพลอยสดใส + http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6130059/S6130059.html ONE UNITED จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Manchester United Fixtures December 2007 Sun Dec 16 Liverpool (A)                  English Premierleague Sat Dec 22 Everton (H)                     English Premierleague Wed Dec 26 Sunderland (A)              English Premierleague Sat Dec 29 West Ham (A)                 English Premierleague January 2008 Tue Jan 1 Birmingham City (H)         English Premierleague Sat Jan 5 Aston Villa (A)                  FA Cup Third Round Sat Jan 12 Newcastle (H)                 English Premierleague Sat Jan 19 Reading (A)                    English Premierleague Sat Jan 26                                     FA Cup Fourth Round Wed Jan 30 Portsmouth (H)             English Premierleague February 2008 Sat Feb 2 Tottenham Hotspur (A)      English Premierleague Sat Feb 9 Manchester City (H)           English Premierleague Sat Feb 16                                      FA Cup Fifth Round Tue Feb 19/Wed Feb 20                   Uefa Champions League First Knockout Stage Sat Feb 23 Newcastle (A)                 English Premierleague จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Injuries Players   Player                Condition                        Expected Return J O'Shea             Groin Strain                       16th Dec 07   G Neville             Ankle/Foot Injury               no return date P Scholes            Knee Injury                       2nd Feb 08 M Silvestre          ACL Knee Injury                 Mar 08 B Foster              ACL Knee Injury                 Feb 08 P Ji-Sung            Knee Injury                       1st Jan 08 จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข่าวหมดแล้วคร้าบบบ ~* ขออภัยด้วยนะครับ วันนี้มาช้า เนื่องจากน้องแม็คติดภารกิจ ช่วงนี้ก็จะเป็นผมมาอัพเดทข่าวแทน บางทีก็มาตีห้า บางทีก็ห้าโมงเย็น บางวันก็อาจจะไม่มา ยังไงก็อย่าว่ากันนะคร้าบบบ ช่วงนี้ข่าวก็มีมากมายมหาศาล ตมปกติเวลามีเกมใหญ่ ๆ ยังไงก็บริหารหัวใจกันล่วงหน้านะครับ แล้ววันพรุ่งนี้เจอกัน ONE UNITED จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 ธ.ค. 50 18:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณค่า~ อยากฝากบอกแฟนผีทุกคนเลยว่าฝากเชียร์ด้วย ที่หอพักไม่มี UBC และ อินเตอร์เนท T^T แง้ววววว~ ทำไมต้องมาอดดูแมตช์สำคัญด้วย ฮือๆ~ จากคุณ : Cindecruella - [ 15 ธ.ค. 50 18:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ้าว ไอเรา้ก้อนั่งรวบรวมข่าวอยู่กะลังมาแปะ คุณ AT ทำเสร็จแล้ว ^^" ยังไงขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : petrified - [ 15 ธ.ค. 50 18:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 thank!!! จากคุณ : TMP - [ 15 ธ.ค. 50 18:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ จากคุณ : Double-Oh-Se7en - [ 15 ธ.ค. 50 19:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบใจมากครับ AT  สำหรับข่าว เพ็ตจังก็ไม่ต้องน้อยใจนะจ๊ะ  มีข่าวไรก็เสริมๆ มาโลด รออ่านอยู่เสมอ พรุ่งนี้มาร่วมกันเชียร์ผีขยี้หงส์ด้วยกันจ้า จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 15 ธ.ค. 50 19:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ จากคุณ : ผีแดงเบอร์20 - [ 15 ธ.ค. 50 19:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับ ^^ จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 15 ธ.ค. 50 20:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่า  =^^= จากคุณ : fatcupid - [ 15 ธ.ค. 50 20:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากคร้าบ....เดี๋ยวพรุ่งนี้ มาช่วยกัน เชียร์ๆ น่ะ ^-^ จากคุณ : P_Pond_P - [ 15 ธ.ค. 50 20:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่ะ ^^  Glory Glory Man United จากคุณ : Red Pine - [ 15 ธ.ค. 50 20:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มีข่าวในหนังสือพิมพ์มิเรอร์ของอังกฤษ ว่าแบ๊คซ้ายของทีมเรดดิ้ง นิกกี้ ชอรี่ อยากออกจากทีมเรดดิ้งและมาอยู่กับแมนยูแทน ได้ก็ดีนะครับ จากคุณ : นายชัย - [ 15 ธ.ค. 50 20:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาอ่าน และ ขอบคุณ ครับ จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 15 ธ.ค. 50 21:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : KanKaLa - [ 15 ธ.ค. 50 21:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณพี่ AT งับ ซวยจริงป๋า เอฟเอ กลั่นแกล้งป่ะนี่ ทำไมต้องไปแบนช่วงบ็อกซิ่งเดย์พอดีด้วยล่ะนั่น ดันเป็นช่วงสำคัญหัวเลี้ยวหัวต่อซะอีก แง่งงง เอฟเอ นี่มันทำกันลงคอ จากคุณ : Skyline_CII - [ 15 ธ.ค. 50 22:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ข่าววันแดงเดือดเยอะจิงๆ พรุ่งนี้อย่าลืม ช่วยกันเชียร์แมนยู นะครับ ไม่แพ้ออกมาก้อดีใจแร๊ะ ขอบคุณ พี่ AT และ เพตจังนะครับ ผมลายาวถึงปีใหม่ จากคุณ : CrazyMc - [ 15 ธ.ค. 50 22:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณครับคิดว่าไม่มีแล้ว จากคุณ : SoDaDring - [ 15 ธ.ค. 50 22:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับคุณ AT พรุ่งนี้ผีแดงสู้ๆๆๆ จากคุณ : อะไรท่าน - [ 16 ธ.ค. 50 00:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 thx kub AT จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง - [ 16 ธ.ค. 50 00:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณด้วยครับ จากคุณ : Title-PANTIP - [ 16 ธ.ค. 50 00:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 วู้ๆ แมนยูสู้ๆ เป็นแชมป์แซงเป็ดให้ได้นะป๋า มันจะได้ตื่นซะที 555+ กิ๊วๆ จากคุณ : PEANUT_SANDWICH - [ 16 ธ.ค. 50 00:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ จากคุณ : sos_num - [ 16 ธ.ค. 50 01:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตื่นเต้นมั่กๆ จะไม่ไหวแล้ววววววว จากคุณ : Lucy in the sky with diamonds - [ 16 ธ.ค. 50 02:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ ^^ จากคุณ : อัพเวิร์ด - [ 16 ธ.ค. 50 03:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ป๋าโดนแบนนี่ ยังโทรมือถือคุยกับเครอชได้ใช่ไหม ตั้ง 2 นัดแน่ะ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 16 ธ.ค. 50 06:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 53 "การรุก คือ การรับที่ดีที่สุด เย้" จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 16 ธ.ค. 50 10:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ คุณ AT จากคุณ : buranart - [ 16 ธ.ค. 50 11:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณฮะท่าน AT ป๋าแพนด้าแอนด์เดอะแก๊งค์ วันนี้เต็มที่ไปเล้ยยยยย จากคุณ : Manchester United FC - [ 16 ธ.ค. 50 12:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับ จากคุณ : pong&golf - [ 16 ธ.ค. 50 15:10:40 ]