ความคิดเห็นที่ 5
หงส์หวิดเน่าไล่เจ๊าโบโร่ ปืนแผ่วลูกโลกบุกยัน1-1
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หวิดปราชัย หลังบุกไปไล่ตีเจ๊า "เดอะ โบโร่" มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-1 ขณะที่ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล พลาดท่าอย่างแรง หลังทำได้แค่เสมอกับ เบอร์มิงแฮม 1-1 ส่งผลให้ตกบัลลังก์จ่าฝูงเรียบร้อยแล้ว ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2551
มิดเดิ้ลสโบรช์ 1 - ลิเวอร์พูล 1
"เดอะ โบโร่" มิดเดิ้ลสโบรช์ ลงเล่นในบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล โดยเจ้าบ้านมี เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์ กับ ตุนกาย ซานลี่ ลงเล่นคู่หน้า ส่วนราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" ได้ ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ ที่หายเจ็บมาเป็นตัวสำรอง ส่วนคู่หน้าเป็น อังเดร โวโรนิน กับเฟร์นานโด ตอร์เรส
เริ่มเกมมาแค่นาทีแรกแกรี่ โอนีล ดาวเตะเจ้าบ้านไปทำแฮนด์บอลนอกกรอบเขตโทษ แต่ว่าในลูกฟรีคิกสตีเว่น เจอร์ราด เปิดมาก็โดนกองหลังเจ้าถิ่นสกัดไปได้
จากนั้นนาทีที่ 4 สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดลูกเตะมุมให้เดวิด วีเธอร์ กองหลังดาวรุ่งเติมมาโหม่งข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 11 สตีเว่น เจอร์ราด ได้โอกาสสับไกยิงจากระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ว่ามาร์ค ชวาร์เซอร์ ยังบินปัดออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุมซามี่ ฮูเปีย ได้โหม่งแต่ว่าก็ข้ามคานไปอีก
นาทีที่ 26 เป็นมิดเดิ้ลสโบรช์ ที่มาได้ประตูนำไปก่อน จากจังหวะที่บอลเปิดมาหน้าประตูแล้วกองหลังลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ขาด ลูกมาเข้าทางเฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์ ได้โหม่งตั้งเข้ามาหน้าประตูถึง จอร์จ บัวเต็ง ล้มตัวยิงจ่อๆ หน้าประตูได้ก่อนซามี่ ฮูเปียจะสกัดถึง ทำให้ "เดอะ โบโร่" นำ 1-0
นาทีที่ 30 สตีฟ ฟินแนน ได้โอกาสส่องลูกฟรีคิกระยะกว่า 30 หลา แต่บอลก็ตรงตัวชวาร์เซอร์ อีกครั้ง
ลิเวอร์พูล ยังเดินเกมบุกต่อหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ อีก 7 นาทีต่อมาฮาเวียร์ มาสเชราโน่ เปิดบอลจากริมเส้นมาให้ ยอสซี่ เบนนายูน ตั้งป้อมวอลเลย์จากระยะ 12 หลา แต่ว่ามาร์ค ชวาร์เซอร์ ยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูล ยังไล่ยิงประตูทวงคืนจากเจ้าบ้านไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกมิดเดิ้ลสโบรช์ นำ 1-0
ครึ่งหลังเริ่มมาถึงนาทีที่ 53 ลิเวอร์พูลเกือบเสียประตูที่ 2 เมื่อโฆเซ่ มานูเอล เรน่า ออกมาตัดบอลพลาด ก่อนโดนอาลิยาดิแยร์ ยิงสวนกลับไป แต่ว่าบอลไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 55 แกรี่ โอนีล ได้เปิดบอลมาให้ตุนกาย ซานลี่ ขึ้นโหม่งหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น
จากนั้นโบโร่ เกือบได้อีก เมื่อ ฟาบิโอ โรเชมบัค ลองยิงไกลระยะ 25 หลา แต่คราวนี้เรน่าเซฟไว้ได้
นาทีที่ 67 เดอะ โบโร่พลาดโอกาสได้ประตูที่ 2 อย่างที่สุด เมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ได้โอกาสตั้งป้อมยิงด้วยซ้ายเน้นๆ จากนอกกรอบโทษ แต่บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ ก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่ตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 71 จากจังหวะที่เฟร์นานโด ตอร์เรส กระชากขึ้นมาจนถึงระยะ 20 หลา ก่อนซัดด้วยขวาเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้เสมอกัน 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมมีโอกาสได้ประตูพอๆ กัน แต่ก็ทำไม่ได้ จบเกมมิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอลิเวอร์พูล 1-1 แบ่งไปทีมละคะแนน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
มิดเดิ้ลสโบรช์ : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลุค ยัง, เดวิด วีเธอร์, โรเบิร์ต ฮูธ, โจนาธาน กราวนด์ส, แกรี่ โอนีล, จอร์จ บัวเต็ง, ฟาบิโอ โรเชมบัค, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์, ตุนกาย ซานลี่ สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ (ผู้รักษาประตู), คริส ริกก็อตต์, เบน ฮัทชินสัน, อดัม จอห์นสัน, อี ดอง-กุ๊ก
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, สตีเว่น เจอร์ราด, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ยอสซี่ เบนนายูน, อังเดร โวโรนิน, เฟร์นานโด ตอร์เรส สำรอง : ชาร์ลส ดิต็องด์เย่ (ผู้รักษาประตู), ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, ซาบี้ อล็องโซ่, ไรอัน บาเบล, เดิร์ค เค้าท์
อาร์เซน่อล 1 - เบอร์มิงแฮม 1
ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมอาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือของเจ้าถิ่นอาร์เซน่อลจัดการส่งตัวจริงลงมากขึ้นกว่าเกมนัดก่อนในศึกคาร์ลิ่ง คัพโดยมีฟรานเชสก์ ฟาเบรกาส, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส กลับมาเป็นตัวจริง แต่ไม่มีโทมัส โรซิคกี้ที่เจ็บ ส่วนทีมเยือนเบอร์มิงแฮมได้ อได้ โอลิวิเยร์ กาโป หายเจ็บกลับมาเป็นจอมทัพ
ครึ่งแรกเกมของอาร์เซน่อลเจ้าบ้านยังต่อกันไม่ติดและเกือบโดนเบอร์มิงแฮมทำแสบก่อนจากจังหวะที่ คาเมร่อน เจอโรม วิ่งแซงกองหลัง อาร์เซน่อล 2 คนแล้วยิงไปถูก มานูเอล อัลมูเนีย ล้มตัวปัดออกหลังได้ทัน
นาทีที่ 16 น.16 อาร์เซน่อลมาได้โอกาสยิงประตูบ้างจากจังหวะที่อเล็กซานเดอร์ คเล็บ โยนบอลมาให้ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ฃเทกตัวโหม่งแต่บอลไปตรงตัว ไมค์ เทย์เลอร์ รับไว้ได้พอดี
อย่างไรก็แล้วแต่อีกห้านาทีต่อมา อาร์เซน่อล มาได้จุดโทษเมื่อ สตีเฟ่น เคลลี่ ไปเสียบใส่ เอดูอาร์โด้ จากด้านหลัง และเป็น เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ รับหน้าที่แปเสียบเสาขวาไม่พลาด แม้ว่าไมค์ เทย์เลอร์โกล์ทีมเยือนจะพุ่งถูกทางแต่ก็ไม่ถึง เจ้าถิ่นออกนำ 1-0
หลังจากนั้นปืนใหญที่ได้เปรียบเรื่องสกอร์และเสียงเชียร์ครองเกมได้เหนือกว่าแต่ก็ยังไม่มีประตูที่ 2 จังหวะนี้ ฟรานเชสก์ ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมมาให้ มาติเยอ ฟลามินี่ โหม่งข้ามคาน
จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำ เบอร์มิงแฮม 1-0
เปิดฉากครึ่งหลังได้แค่สองนาที เบอร์มิงแฮมแก้เกมมาดีแล้วตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกคอนเนอร์ฝั่งขวา เซบาสเตียน ลาร์สัน โยนโด่งเข้ามากลางประตู แกร์รี่ โอคอนเนอร์ โผนโหม่งลงพื้นระยะ 6 หลา มานูเอล อัลมูเนีย หมดสิทธิ์รับเพราะมันจ่อเหลือเกิน สกอร์เปลี่ยนเป็น 1-1 เท่ากันแล้ว
หลังโดนยิงตีเสมออาร์เซน่อลโหมบุกทันที นาทีที่ 51 ได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล เชส ฟาเบรกาส เปิดบอลให้ ฟิลิป เซนเดอรอส เติมเกมขึ้นมาโขกเต็มหัว แต่ไมค์ เทย์เลอร์ยังช่วยเซฟให้เบอร์มิงแฮม
อีกสิบนาทีต่อมา สตีฟ บรูซ เปลี่ยนแท็กติกของทีมด้วยการส่งเอา สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ ลงมาเล่นแทน ฟร้องค์ เกอดรู แบ๊กซ้ายเฟร้นช์แมน
นาทีที่ 74 เจ้าถิ่นน่าได้ลูกนำ จากที่ เชส ฟาเบรกาส เลี้ยงตะลุยขึ้นมาแล้วจ่ายทะลุช่องให้ นิคลาส เบนท์เนอร์สตัวสำรองที่ลงมาแทน ธีโอ วัลค็อตต์ ยิงในกรอบเขตโทษโล่งๆ แต่บอลผ่านเสาสองออกไป
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกม 90 นาท อาร์เซน่อล ทำได้แค่เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1และเก็บได้แค่คะแนนเดียวเท่านั้น
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, มาติเยอ ฟลามินี่, ฟรานเชสก์ ฟาเบรกาส, ธีโอ วัลค็อตต์, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์, จัสติน ฮอยต์, จิลแบร์โต้ ซิลวา, วาสซิริกี้ ดิยาบี้, นิคคลาส เบนด์ทเนอร์
เบอร์มิงแฮม : ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, ราฟาแอล ชมิตซ์, เลียม ริดจ์เวลล์, ฟร้องค์ เกอดรู, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เดเมี่ยน จอห์นสัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, โอลิวิเยร์ กาโป, คาเมร่อน เจอโรม, แกร์รี่ โอคอนเนอร์ สำรอง : โคลิน ดอยล์, สจ๊วร์ต พาร์นาบี้, มาร์ติน เทย์เลอร์, แกรี่ แม็คเชฟฟรี่ย์, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์
สรุปผลการแข่งขันของทุกคู่มีดังนี้
อาร์เซน่อล เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 แอสตัน วิลล่า ชนะ เรดดิ้ง 3-1 ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แพ้ วีแกน 0-1 เอฟเวอร์ตัน ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 เชลซี ชนะ สเปอร์ส 2-0 มิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 เวสต์แฮม ชนะ ฟูแล่ม 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ นิวคาสเซิ่ล 6-0
Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th
จากคุณ :
:: AdvanceTactics ::
- [
13 ม.ค. 51 06:54:36
]
|
|
|