สวัสดีครับทุกๆท่าน(รบกวนทนอ่านกันหน่อยนะครับ)
เริ่มกันจากจุดกำเนิด Nike Shox ได้ถูกพัฒนามาจาก Air Max ถ้าดูกันผ่านๆจะดูไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่แต่ถ้าดูดีๆมันคล้ายกันมาก Air Max คือระบบรองรับแรงงกระแทกของรองเท้าที่ตอบโจทย์ของการออกกำลังกายๆด้ค่อนค่างดีแต่ยังไม่ดีพอสำหรับ Nike ที่ต้องการจะตอบโจทย์ให้กับกีฬาบาสเก็ตบอล ก็เลยเป็นที่มาของ Nike Shox ที่เกิดจากการเฝ้าดูทั้งข้อดีข้อเสียของ Air Max แล้วก็นำประเด็นทั้งหลายเหล่านั้นมาพัฒนาและปู้ปู้ยำจดเกิดระบบรองรับแรงกระแทกระบบใหม่ให้กับวงการกีฬา(ดีจนกระทั่งบางค่ายนำไปเลียนแบบ) ต่อมาก็เป็นตัว LOGO ของ Shox ก็ประกอบไปด้วย เส้นตรงๆ 2 เส้นอยู่ที่ด้านบนและล่างของตัว S หัวแหลมๆ เอาตัว S ก่อนนะครับแรกเริ่มทีเดียวนั้นทาง Nike ไม่ได้ออกแบบตัวนี้เป็นตัว S หรอกนะครับแรกๆนั้นออกแบบเป็นแท่งตรงๆอยู่ระหว่างเส้นแล้วมีตัว S ตรงกลางและต่อมาก็ทำอีกอันเป็นรูปคล้ายกับที่เห็นกันอยู่ปัจจุบันแต่ตรงกลางแทนที่จะเป็นตัว S แบบที่เห็นก็เป็นขดสปริงที่เหมือนตัว S หัวแหลมหลายๆชั้นขึ้นที่อยู่ระหว่างเส้นตรงๆ 2 เส้น และก็อีกหลายๆแบบแต่ทั้งหมดแล้วนั้นมันก็ยังไม่ตรงใจกับตัวสินค้านี้ที่ต้องการสื่อถึง ชื่อของระบบและหน้าที่ของมันทำไปทำมาก็เลยออกมาเป็นแบบที่เห็น ณ ปัจจุบันนี้ ส่วนความหมายนั้น ตัว S หัวแหลมๆทั้ง 2 มุมนั้นหมายถึงคำว่า Shox (ในเรื่องของรองเท้าแล้วนี่คือระบบกันกระแทกแต่จริงๆแล้วคำว่า Shox นี้มาจากตัวกันสะเทือนที่อยู่ในรถ มอเตอร์ไซค์และจักรยานที่อยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่เรียกว่า Shox นั่นเองเป้าหมายของ Nike อยากให้ระบบนี้เป็นกันสะเทือนมากกว่ากันกระแทกอย่างที่พวกเราเรียกกัน) ที่จริงๆแล้วก็คือปริงที่ทำหน้าที่รับแรงกดจากน้ำหนักที่อยู่ด้านบน(เส้นตรงด้านบน)โดยสื่อผ่านตัว S นั่นเอง เส้นตรงด้านบนนั้นก็อย่างที่พูดถึงไปก็คือน้ำหนักที่กดลงบนตัว S (สปริง)ที่บ่งบอกว่าระบบนี้ทำหน้าที่ยังไง ส่วนเส้นล่างนั้นก็คือพื้นที่ที่ระบบนี้ถูกวางอยู่นั่นเองไม่ว่าจะเป็น Indoor หรือ Outdoor ที่นี้ก็มาถึงตัวระบบกัน ตัว Shox นั้นแรกเริ่มเลยนั้น(สังเกตจากรุ่น BB4)ถูกผลิตจากยางที่ชื่อว่า MCU (ไมโครเซลลูล่ายูริเทนไม่กล้าเขียนภาษาอังกฤษเดี๋ยวผิด)เป็นยางที่ใช้อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ เช่น เป็นยางกันกระแทกที่อยู่ในตัว Shox หน้าและหลังของจักรยานบางรุ่นและก็เป็นยางกันกระแทกที่อยุ่ในห้องโดยสารของรถ Formular 1 (โอ้แม่เจ้า)และก็อีกหลายๆอย่างเป็นยางที่มีคุณสมบัติมีรูพรุนเล็กๆเป็นจำนวนมากรับน้ำหนักได้ดีนิ่มนวลในระดับหนึ่งแต่ว่ายังยืดหยุ่นไม่ค่อยดีซึ่งในรุ่นแรกๆนั้นยังตอบโจทย์ในกีฬาประเภทวิ่งและ Crosstraining ไม่ค่อยดีนักแต่ว่าใน Basketball นั้นทำงานได้ค่อนค่างดี(ท่านที่เคยใส่คงรู้ดี)สามารถรับแรงได้นิ่มนวลและก็คล่องตัวพอใช้ได้แต่ว่าการที่มันยืดหยุ่นไม่ดีนั้นพอเป็นกีฬาประเถทอื่นที่ต้องเคลื่อนที่ไปในหลายทิศทางที่ไม่ได้ใช้แค่ปลายเท้านั้นผลกลับไม่ค่อยดีนักเพราะมันจะแข็งและจะรั้งข้อเท้าไว้และข้อเสียอีกอย่างของยางนี้ก็คือเรื่องของอายุที่ไม่ค่อยยืนเท่าไหร่เมื่อใช้ไปนานๆหรือเก็ไว้นานๆยางมันจะแตกหรือว่าหักแล้วสังเกตุว่าข้างในนั้นจะเป็นฝุ่นๆเม็ดเล็กๆซึ่งก็หมายถึงในการนำยางนี้เข้ามาผลิตเป็นครั้งแรกๆนั้นไม่ได้ผสมวัสดุอย่างอื่นด้วยแต่จริงๆแล้วมันสามารถรักษาสภาพได้ด้วยการนำจารบี(ไขพืช)มาทาครับ อีกอย่างที่อยากพูดถึงก็คือ ทุกท่านคงจะสังเกตุเห็นได้ว่าใน Shox ที่เป็นรองเท้าบาสนั้นจะมียางเส้นๆกลมๆรัดอยู่ที่ Shox ที่อยู่ทางด้านหลังทุกแท่งแต่ในรองเท้าวิ่งจะไม่มีแต่จะทำเป็นยางบวมๆเป็นข้อๆออกมาแทน พูดกันในรองเท้าบาสก่อนนะครับ  นึกถึงแท่ง Shox กันก่อนนะครับจะเห็นว่าตรงที่ยางรัดนั้นมันจะเป็นร่องเข้าไปแล้วก้เอายางมารัดตรงร่องนั้นพอดีก็เพราะว่าในบาสนั้นเน้นที่การรับแรงกระแทกซะเป็นส่วนใหญ่เพราะในการเล่นบาสส่วนใหญ่นั้นรองเท้าจะต้องรับแรงกระแทกตลอดทั้งเวลาขึ้น เลอัพ รีบาว หรือว่า DUNK (ไม่เคยมีบุญซะที)เมื่อขณะแท่ง Shox รับแรงนั้นทางคนออกแบบรุ้ดีว่าในยาง Shox นั้นถ้าไม่ถูกจับใส่อยู่ในพื้นที่ที่จำกัดนั้นเมื่อเวลามันยุบตัวเพื่อซับแรงกระแทกนั้นมันอาจจะยุบไปทางด้านข้างๆหรือทางอื่นแต่เป้าหมายของผู้ผลิตนั้นต้องการให้มันทำงานในแนวดิ่งแบบ 100% เพื่อที่ข้อเท้าของนักกีฬาจะได้ไม่พลิกเขาก็เลยคิดแก้ไขในเรื่องนี้ด้วยการทำให้แท่ง Shox แข็งแรงขึ้นเมื่อเวลารับแรงและต้องยุบและคืนตัวในแนวดิ่งเท่านั้น(ถ้าเป็นไปได้)ก็เลยเสริมความแข้งแรงด้วยการเอายางแข็งๆมารัดที่กลางของแท่ง Shox เพื่อเป็นการรวมมวลของแท่ง Shox ไว้นั่นเอง แต่ทั้งหมดนี้มันมีที่มานะครับมันก็มาจากการสังเกตุนักกีฬาหลายๆคนที่เอาผ้ายืดๆหรือจะอะไรก็แล้วแต่มาพันไว้ตรงส่วนที่ต้องใช้งานหนักๆไม่ว่าจะเป็น เข่า นิ้ว ขา ข้อมือ นั่นเองเป็นหลักการเดียวกันครับ(ร้องอ๋อกันแล้วใช่ม้า)  ทีนี้มาดูกันที่ส่วนด้านหน้ากันบ้างในรองเท้าบาสนั้นในส่วนหน้าจะมีทั้งเป็น Zoom และ Shox ใช่ไหมครับแต่จะเป็นอะไรนั้นไม่สำคัญแล้วแต่เขาจะออกแบและอยู่ที่ความชอบและความถนัดของแต่ละท่าน แต่ทั้งหมดนั้นถ้าเป็น Shox ที่ไม่ใช่ Zoom นั้นจะใช้ได้ดีก็ต่อเมื่อส่วนของพื้นจะต้องเป็นลายแบบฟันฉลามนะครับหรือไม่ก็ต้องเป็นลายอะไรก็ได้ที่ต้องขวางๆทั้งนี้ก็เพื่อเวลาเราเคลื่อนที่นั้น(พูดถึงในสนามที่ไม่ลื่นนะครับ)พื้นรองเท้าซึ่งจะทำหน้าที่เกาะกับพื้นสนามนั้น(ลายนี้จะเป็นลายที่หยุดไดดีที่สุด ถ้า เป็นลายอื่นก็ต้องเปลี่ยนวัสดุให้เกาะมากขึ้นเช่นในรุ่น Air Kidd)พอรองเท้าถูกหยุดแล้วส่วนที่จะทำงานต่อมาก็คือระบบรับแรงกระแทกนั่นเองซึ่งถ้าเป็นพื้นลายอื่นถ้าถูกนำมาใช้มาใช้กับรองเท้าที่เป็น Shox ทั้งพื้นนั้นถ้าหยุดแล้วไม่สนิท Shox จะไม่ทำงานหรือไม่ก็ทำงานไม่ค่อยดีนัก แต่ทั้งหมดนั้นก้ได้ออกแบบจากตัวนักกีฬาที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของรุ่นนั้นๆทั้งนั้น คนที่เหมาะกับ Shox ทั้งพื้นนั้นน่าจะเป็นคนที่แข็งแรงเคลื่อนไหวค่อนค่างเร็วและหนักกระโดดสูงเมื่อกระโดดสูงก็จะต้องเทคตัวหนักๆ จะเห็นว่าในรองเท้าที่เป็น Shox ทั้งพื้นนั้นถ้าเราๆท่านๆเอามาใช้กันจะรู้สึกว่ามันจะแข็งๆขยับเขยื่อนก็ไม่คล่องเท่าไหร่ ก็น่านแหละครับมันเป็นไปด้วยประการฉะนี้  
ขออนุญาตทุกๆท่านแค่นี้ก่อนนะครับเพราะพิมพ์ไปก็มึนๆนึกอะไรไม่ค่อยออกแล้ว เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาพูดถึงระบบพื้นหลายๆแบบทั้งที่เสริมคาร์บอนไฟเบอร์เสริมพลาสติกทั้งหลายแหล่
สำหรับข้อความที่ลงไปครั้งนี้นั้นถ้าท่านใดเห็นว่าส่วนไหนไม่ถูกต้องก็ว่ากล่าวหรือว่าแนะนำกันมานะครับน้อมรับฟังด้วยความเคารพข้อความทั้งหมดนั้นไม่ได้แปลจากไหนหรือเอามาจากไหนทั้งนั้นทั้งหมดเกิดจากประสบการณ์และการศึกษาของตัวกระผมเองทั้งสิ้นเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรไม่ถูกไม่ควรหรือไม่เหมาะสมอย่างไรก็รบกวนทุกๆท่านแนะนำหรือชี้แนะด้วยนะครับ
สุดท้ายท่านใดสงสัยอะไรยังไงตรงไหนโพสถามมาได้เลยนะครับ เพราะมันยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได่พูดถึงทั้งพลาสติกที่เสริมในพื้นและอื่นๆอีก
ขอบรพะคุณทุกๆท่านมากๆครับที่ทนอ่านกัน