ความคิดเห็นที่ 1
ศึกชิงอันดับสี่ร้อนระอุ / ปอมปีย์ประเดิมสังเวยแข้งเทพ
ทะลุ 22 นัดไปแล้วสำหรับพรีเมียร์ลีก...เวลาเดินไวนะครับแป๊บๆเหลือแค่ 16 เกมฟังดูเหมือนเยอะแต่ในความรู้สึกของการไล่ล่าแชมป์และหนีตกชั้นมันเป็นช่วงกอบโกยของแต่ละทีมอย่างแท้จริง
"ปิศาจแดง"ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่"ล่าเหยื่อ"ได้ดีที่สุดในประเทศแต่ในอีกทางหนึ่งลูกทีมเซอร์เฟอร์กี้เมื่อใดนั่งบังลังก์จ่าฝูงแล้วมักติดลมเหมือนเด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ยูไนเต็ดอาจแพ้มากกว่า"ปืนใหญ่"และลิเวอร์พูลแต่เสนอน้อยและไปเน้น"สามแต้ม"โดยบาลานซ์สำคัญอยู่ที่ปีนี้แนวรับเสียประตูยากในขณะที่เกมรุกมาได้หลายทางทั้งปีกขวา,ซ้ายหรือมิดฟิลด์เจาะเข้ามาตรงๆรวมทั้งการสร้างสรรค์โอกาสเองจากสองกองหน้าที่คาร์ลอส เตเบซและเวย์น รูนี่ย์สลับกันล้วงบอลต่ำประสานงานร่วมกันสุดเนียน ความกระหายของนักเตะ"ปิศาจแดง"ส่งกลิ่นทะลุจอทีวีชัดเจนครับ ครึ่งแรกว่าบุกนิวคาสเซิ่ลหนักแล้วครึ่งหลังมาโหดมาก พอลูกแรกซึ่งมาจากฟรีคิกของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ที่ประเดิมประตูแรกหลังเล่นไป 4 นาทีโซนตั้งรับสองสามชั้นของ"สาลิกา"เละเทะทันที
และคนที่สมควรเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างเชย์ กิฟเว่นดันโชว์เหวอผิดที่ผิดเวลาส่งสกอร์เป็น 2-0 ทุกอย่างจบลงพร้อมๆกับหายนะของ"เดอะทูน"ที่แพ้รวด 4 นัดอยู่เหนือโซนตกชั้นอย่างซันเดอร์แลนด์แค่ 6 แต้มเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามการประกาศตัวของไมค์ แอชลี่ย์ต่อการเปลี่ยนแปลงนิวคาสเซิ่ลเมื่อวันก่อนทำให้ทูนอาร์มี่รู้สึกมีความหวัง(ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้)ขึ้นมาอีกครั้งเพราะดูท่า"เฮียตือ"คนนี้วิชั่นไกลและมีสมองมากกว่าเฟร็ดดี้ เชพเพิร์ดที่ทำงานคล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้าเหมือน"น้องแป้ง"ตามโฆษณาทางโทรทัศน์ช่วงดึกๆบ้านเรา
สิ่งแรกที่"เฮียตือ"ให้สัญญาคือการนำเอาการเล่นเอนเตอร์เทนสมัยเควิน คีแกนกลับมาสู่เซนต์ เจมส์ พาร์คอีกครั้งดังนั้นการคัดเลือกผู้จัดการทีมก็ควรอยู่ในพื้นฐานทัศนะคติของผู้นำคนนั้นๆด้วยนะครับ
แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ปฏิเสธไปแล้วส่วนคีแกนก็ปฏิเสธเหมือนกันแต่เป็นปฏิเสธที่จะไม่ปิดกั้นตัวเองสู่ทีมรักเป็นสมัยที่สอง
สำหรับผมยังเชื่อในฝีมือ"เคฟ"แต่ในแง่การเอนเตอร์เทนเท่านั้นที่เหลือยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะแท็คติกส์,การแก้เกมและเกมรับดังนั้นการมีสต๊าฟโค้ชหรือมือขวาที่เจนจัดจึงสำคัญไม่แพ้กัน
ถือว่าหมดเวรหมดกรรมของเชพเพิร์ดที่ตัดสินใจไม่ว่าเรื่องไหนผิดพลาดมาตลอดแต่ถ้าในอนาคตนิวคาสเซิ่ลตั้งตัวได้และมีผู้นำแจ่มๆผมว่าอีกหน่อยแค่บิ๊กโฟว์อาจไม่พอครับเพราะอย่าลืมว่ายังมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มีเงินถุงเงินถังและผู้จัดการทีมอย่างสเวน โกรัน เอริคส์สันอีกทั้งคน
พวกบิ๊กโฟว์ยุคปัจจุบันก็ระวังหลังกันให้ดีหน่อยนะครับ ใครไร้พัฒนาและออกแนวถอยหลังลงคลองเตะไปวันๆอาจกระเด็นไปเตะยูฟ่า คัพแทน ไหนๆก็พาดพิงถึง"เรือใบ"แล้วก็เอาซักนิดเพราะช่วงหลังผลงานชักแผ่วร่วงมาอยู่ที่ 7 สาเหตุเป็นเพราะเกมในบ้านที่เคยพึ่งพากอบโกยชัยชนะ 100 % ดัน"งานเข้า"เสมอรวดกับลิเวอร์พูลและแบล็คเบิร์น
พอออกนอกบ้านที่ผลงานไม่ค่อยดีทุกอย่างเลยเป๋อย่างที่เห็น ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกไปแพ้เอฟเวอร์ตันหวุดหวิด 1-0 ด้วยสไตล์รับแล้วสวนกลับเหมือนเดิมซึ่งเด็กสเวนเป็นประเภทยิงน้อยนอกถิ่นด้วยแล้วการเสียประตูให้เลสค็อตต์ตั้งแต่นาทีที่ 31 จึงจบเห่อย่างง่ายดาย
สเวนจะเอาแต้มช่วงนี้ก็ต้องรีบๆนะครับเพราะอีกสองนัดกับเวสต์แฮม(เหย้า)และดาร์บี้(เยือน)ยังไงก็ต้องเน้นหนักสถานเดียวเพราะหลังจากนี้แล้วจะต้องเจอกับอาร์เซนอลและแมนฯยูฯที่นับวันรอล้างแค้นที่โอลด์แทรฟฟอรฺ์ด
ลองเหลือบตารางดูตอนนี้ต้องบอกว่าการขับเคี่ยวแย่งที่สี่เข้มข้นสุดๆหลังลิเวอร์พูลกลัวฤดูกาลนี้ไม่มีเสียวเลยเสมอสามนัดรวดทำให้เอฟเวอร์ตัน,แอสตัน วิลล่าและแมนฯซิตี้ตามจี้มี 39 แต้มเท่ากันหมดและต้องระวังแบล็คเบิร์นที่ล่าสุดบุกชนะโบลตันในนาทีสุดท้ายทำให้รอมาร่วมแจมอย่างเต็มตัวด้วยอีกทีม
ดูทีมอย่างเอฟเวอร์ตัน,วิลล่า,แบล็คเบิร์น พวกนี้ใช้เงินไม่เยอะเท่าบิ๊กโฟว์แต่ได้ผู้จัดการทีมที่เก่งเรื่องเค้นศักยภาพนักเตะทำให้ผลงานดูดีเกินคาด พวกยอห์น คาริว,มาร์ติน เลาร์เซ่น,อักบอนลาฮอร์,ลุค ยังที่เคยเป็นนักเตะดาดๆกลายเป็นตัวหลักให้วิลล่า,เลสค็อตต์,ออสมัน,อาร์เตต้า พวกนี้ก็เคยเป็นพวกแข้งเกรดสองมาก่อนทั้งนั้น
ไม่จำเป็นต้องไปเน้นซื้อนักเตะระดับ 10-20 ล้านปอนด์เพื่อสร้างความสำเร็จ ถ้ามีนโยบายแบบนี้ให้เท่าไหร่ก็ไม่พอแน่นอนครับ
ไม่ได้ต่อเนื่องจากลิเวอร์พูลนะครับแต่กำลังจะบอกว่าสุดสัปดาห์นี้จะรับมือกับแอสตัน วิลล่าที่แอนฟิลด์ซึ่งสนุกตรงที่ผู้ชนะจะฉีกหนีไปกลับ 6 แต้มสำหรับการตามล่าตำแหน่งแชมเปี้ยนส์ลีกและเดอะค็อปต้องพึงสงวรกันไว้หน่อยที่โอกาสวืดสามแต้มอีกนัดมีสูงมาก
ไม่ได้ถอดใจล่วงหน้าแต่ถ้าไม่มีทีเด็ดจากเฟอร์นานโด ตอร์เรสหรือสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดโอกาสชนะมีไม่เยอะเหมือนเก่าจริงๆครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากฟอร์มและการทำทีมของมาร์ติน โอนีล
ในขณะที่ช่องทางทำมาหากินของวิลล่าคือลูกเซ็ตพีซที่โซ้ยประตูนับไม่ถ้วนโดยเฉพาะมาร์ติน เลาร์เซ่นเป็นเซนเตอร์แท้ๆแต่ยิงไปแล้ว 6 เป็นรองดาวซัลโวของสโมสรตอนนี้!! ยิงเท่ากับเดิร์ก เคาท์และโวโรนินรวมกันอีกเนอะเออ ฮา
"สิงห์ผงาด"ไม่แพ้ใครมา 6 นัดและที่สำคัญคือแนวรับทั้งเมลเบิร์กและเลาร์เซ่นเล่นดีมากและยิ่งมีตัวเร็วๆอย่างพวกลุค มัวร์,อักบอนลาฮอร์และใช้ยอห์น คาริวไว้พักบอลทำให้เกมรับและสวนกลับมีประสิทธิภาพสูงมาก
นี่คือสาเหตุที่ทำให้วิลล่าเพิ่งแพ้นอกบ้านไปแค่นัดเดียวและต้องบอกว่าไม่แปลกเลยเพราะแพ้เทพในบ้านอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ซะด้วยแต่ราฟาเอล เบนิเตซคงไม่มีทางเลือกเพราะเก้าอี้กำลังสั่นคลอนหลังเสมอมาสามนัดรวดและที่สำคัญผลงานในแอนฟิลด์ซีซั่นนี้ดูไม่จืดเพิ่งชนะแค่ 4 จาก 10 นัดทั้งๆที่หลายทีมกำลังขึ้นหลักเลขสองตัวกันไปเกือบหมดแล้ว
มีแฟนปอร์ทสมัธอยู่แถวนี้บ้างไหมครับ? จากที่ไม่แพ้ใครมาเกือบ 10 นัดตอนนี้สาละวันเตี้ยลงแพ้ 4 จาก 6 นัดหลังโดยเฉพาะผลงานนอกบ้านที่เคยช่วยทำแต้มเป็นกอบเป็นกำเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
ที่โหดสุดๆก็คือการที่ปอมปีย์ต้องเสียนักเตะตัวเทพให้แอฟริกัน เนชั่น คัพทั้งพวกคานู,อูทาก้า,ปาป้า ดิยอฟ,มุนทารี่และลอเร็นจนประเดิมนัดแรกบุกไปพ่ายซันเดอร์แลนด์ 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลกเพราะมีคิวต้องเจอตอทั้งยูไนเต็ดและเชลซี!!
นี่แหละครับการซื้อนักเตะที่วางแผนแค่สั้นๆเพราะอย่างที่อาร์แซน เวนเกอร์ว่าเอาไว้หากเสียแค่คนสองคนยังพอถูๆไถๆหาตัวแทนได้อยู่แต่เล่นเกือบครึ่งทีมคงไม่ไหว ก็ต้องอาศัยฝีมือของแฮร์รี่ เร้ดแนปป์เอาตัวรอดช่วงนี้ไปก่อนส่วนทางออกสำหรับนักเตะใหม่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแต่ไม่มีหลักประกันว่าจะ"immediately impact"ในทันทีหรือไม่และอย่าลืมว่าหากตัวเก่ากลับมาแล้วจะจัดทีมอย่างไรด้วยนะครับ
"ปืนใหญ่"คงต้องรีบแก้ตัวให้เร็วๆเลยครับหลังเสียสองแต้มให้เบอร์มิงแฮมทั้งๆที่ก่อนเกมยังไงก็ต้องชนะเห็นๆ แม้ว่าดูโปรแกรมแล้วเจอ"รองบ๊วย"ฟูแล่มเหมือนไม่หนักหนาแต่พลิกดูสถิติเวลาเล่นในคราเวน คอทเทจชวนทะเลาะไม่เลิกจริงๆ ยันเสมอเก่งและเคยแพ้เชลซีแค่ 2-1 แต่ปัญหาคือเกมรุกของ"เจ้าสัวน้อย"ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ซึ่งเจอกับอาร์เซนอลไม่มีแท็คติกส์อื่นครับนอกจากรับเต็มตัว,เข้าบอลหนักและรอทำประตูจากเซ็ตพีซเหมือนอย่างที่เบอร์มิงแฮมบุกไปฉกแต้มสุดเทห์เป็นทีมที่สองต่อจาก"ปิศาจแดง" แต่เบอร์มิงแฮมจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งอย่างรวดเร็วเนื่องจากเสาร์นี้ต้องเจอกระดูกอย่างเชลซีในบ้านตัวเอง งานนี้หนึ่งแต้มก็เหมือนชนะแล้วครับซึ่งถ้ารอดตัวไปได้สัปดาห์ต่อๆไปจะเป็นการกุมชะตาชีวิตให้ตัวเองครั้งสำคัญเนื่องจากจะได้ห้ำหั่นกับทีมท้ายตารางติดๆกันทั้งซันเดอร์แลนด์และดาร์บี้
การบุกไปฉกแต้มจากอาร์เซนอลถึงบ้านไม่สามารถมาตีบรรทัดเป็นสมการได้เลยครับเพราะ"ลูกโลก"ของอเล็กซ์ แม็คลีชจะต้องเล่นอีกแบบเมื่อเจอทีมระดับเดียวกัน บอลสามหน้ามีโอกาสแพ้ชนะเท่ากันครับ
เคยบอกให้ดาร์บี้จองโลงวัดตัวล่วงหน้าเมื่อปลายปีก่อนแต่ถึงตอนนี้ผมว่าเผาเลยดีกว่าครับเพราะขนาดวีแกนยังแพ้คาบ้านมันให้ความรู้สึกกลายๆว่าแล้วกูจะเอาชนะใครดี!?
โอกาสแทบเป็นศูนย์ที่จะมีโอกาสรอดเพราะ"แกะเขาเหล็ก"ยิงน้อยมากแค่ 10 ลูกและชิงแพ้ถึง 17 จาก 22 นัด เตะมาขี้เปรี้ยวเยี่ยวราดข้ามปีเพิ่งมีแค่ 7 แต้ม น่าสงสารจัง
ปิดท้ายด้วยสถิติเล็กๆน้อยตอนนี้ทีมที่ไร้พ่ายในบ้านมีอยู่สี่ครับเป็นยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,เชลซีและอาร์เซนอลส่วนที่ชนะนอกบ้านมากที่สุดเป็นเชลซีกับปอร์ทสมัธที่ครองแชมป์ร่ววมกันที่ 7 นัด
"ปิศาจแดง"แซงหน้าอาร์เซนอลเป็นทีมที่ยิงมากที่สุดในลีกไปแล้ว(44 ประตู)ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเต้ยเสียน้อยที่สุดแค่ 11 ลูกเท่านั้น
หมดเนื้อที่แล้วไปก่อนครับ สวัสดีจ้า...
โปรแกรมนัดต่อไป
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2551
เบอร์มิงแฮม พบ เชลซี (22.00น)
แบล็คเบิรน พบ มิดเดิลสโบรห์ (22.00น)
ฟูแล่ม พบ อาร์เซนอล (22.00น)
สเปอร์ส พบ ซันเดอร์อแลนด์ (22.00น)
ปอร์ทสมัธ พบ ดาร์บี้ (22.00น)
เรดดิ้ง พบ แมนฯยูฯ (22.00น)
นิวคาสเซิ่ล พบ โบลตัน (00.15น)
วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2551
วีแกน พบ เอฟเวอร์ตัน(20.30 น.)
แมนฯซิตี้ พบ เวสต์แฮม(23.00 น.)
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2551
ลิเวอร์พูล พบ วิลล่า (03.00 น.) http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=73541
จากคุณ :
tiggerabb
- [
15 ม.ค. 51 20:03:26
]
|
|
|