ความคิดเห็นที่ 6
ปืนใหญ่บอมบ์3-0,สิงห์เถือ1-0,ปอมปีย์แซง3-1
"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มสุดแจ๋ว หลังบุกไปอัด "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม เละเทะ 3-0 ส่วน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี คว้าชัยเหนือ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ หวุดหวิด จากประตูชัยของ คาร์ดิโอ ปิซาโร่ ในฟุตศึกบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2551
ฟูแล่ม 0 - อาร์เซน่อล 3
"เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม เปิด คราเว่น ค็อตเทจ ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้ โดยยังไม่มีตัวใหม่อย่าง เบรเด้ ฮังเกแลนด์ ที่ย้ายไม่ทัน ขณะที่ จิมมี่ บุลลาร์ด กองกลางจอมลุย มีชื่อเป็นแค่สำรอง หลังเพิ่งหายเจ็บหัวเข่ากลับมา
ด้าน เดอะ กันเนอร์ส ที่กำลังไล่ล่าบัลลังก์จ่าฝูงคืน ได้ตัว โทมัส โรซิคกี้ ปีกทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก หายป่วยกลับมา ในขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ยังหน้าเดิมๆ จากชุดที่เสมอ เบอร์มิงแฮม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อาร์เซน่อล ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ เริ่มต้นอย่างคึกคัก และได้เสียวในนาทีที่ 9 เมื่อ เชส ฟาเบรกาส กองกลางดาวรุ่งตะบันหลุดกรอบไปนิดเดียว
ยิ่งเล่นยิ่งเหนือกว่าสำหรับ เดอะ กันเนอร์ส โดยนาทีที่ 14 ฟาเบรกาส ชิ่งกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวสแปนิช จะส่องจากหน้ากรอบเขตโทษข้ามคานไป
กระทั่งนาทีที่ 19 ความพยายามของ อาร์เซน่อล ก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อ กาแอล กลิชี่ เติมขึ้นทางซ้ายก่อนตักเข้ากลางให้ อเดบายอร์ เทกตัวโขกจมตาข่ายให้ ปืนใหญ่ นำ 1-0
ฟูแล่ม ไม่มีโอกาสลุ้นเลย ก่อนที่จะสังเวยประตูที่สองในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ วางจากกราบขวาให้ อเดบายอร์ โหม่งผ่านมือ อันต์ติ นิมี่ เข้าไปอีกเม็ด ทำให้ อาร์เซน่อล หนีเป็น 2-0
จังหวะลุ้นครั้งเดียวในครึ่งแรกของ เจ้าสัวน้อย เกิดขึ้นในอีกสามนาทีจะจบครึ่งแรก เมื่อ แดนนี่ เมอร์ฟี่ วิ่งมาแปด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ข้ามคานไป จบครึ่งแรก ฟูแล่ม ตามหลัง อาร์เซน่อล 0-2
ครึ่งหลัง รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ ฟูแล่ม ส่ง จิมมี่ บุลลาร์ด ลงเล่นแทน สตีเฟ่น เดวิส แต่เกมยังสู้ทีมเยือนไม่ได้เลย นาทีที่ 47 จากลูกเตะมุมทางซ้าย ฟาเบรกาส ตักให้ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา โหม่งหลุดเสาไปนิดเดียว
อีกสองนาทีต่อมา ดา ซิลวา ทำได้สวยเมื่อลากเลาะเข้าไปในกรอบเขตโทษเจ้าถิ่นก่อนเปิดเข้ากลางให้ โรซิคกี้ กระแทกบอลไปติดเซฟ นิมี่ อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 52 ฟิลิปป์ เซนเดอรอส กองหลัง อาร์เซน่อล ปะทะกับ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ กลางอากาศจนเลือดกำเดาไหลโชก แต่หลังเข้ารับการปฐมพยาบาลแล้ว ก็สามารถกลับมาเล่นต่อได้
ถึงหนึ่งชั่วโมง ฮอดจ์สัน เปลี่ยนเอา เดวิด ฮีลี่ ลงมาเสริมเกมรุกแทน โซล คี เฮือน ที่เล่นไม่ออก ก่อนที่กองเชียร์เจ้าบ้านจะเฮเก้อในนาทีที่ 70 เมื่อ เดมพ์ซี่ย์ โขกตุงตาข่ายในจังหวะที่ได้ฟรีคิก ทว่าไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปแล้ว
ท้ายเกม อาร์เซน่อล มาได้ประตูที่ 3 เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา เปิดบอลจากเส้นหลังมาให้ โทมัส โรซิคกี้ เติมขึ้นมาหวดด้วยขวา ตุงตาข่าย
จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาชนะ3-0 เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋า รักษาความหวังในการลุ้นแชมป์เอาไว้ต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟูแล่ม : อันต์ติ นิมี่, โมริทซ์ โฟลซ์, คาร์ลอส โบคาเนกรา, เดยัน สเตฟาโนวิช, อารอน ฮิวจ์ส, อเล็กเซ สเมอร์ติน, สตีฟ เดวิส, โซล คี เฮือน, ไซม่อน เดวิส, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ สำรอง : โทนี่ วอร์เนอร์, เดวิด ฮีลี่, เชฟกี้ คูกี้, จิมมี่ บุลลาร์ด, คริส แบร์ด
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาคารี่ ซานญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, มาติเยอ ฟลามินี่, เชส ฟาเบรกาส, โทมัส โรซิคกี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, เอ็มมานูเอล อเดบยอร์ สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์, อาบู ดิยาบี้, จิลแบร์โต้ ซิลวา, นิคลาส เบนด์ทเนอร์
ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน
เบอร์มิงแฮม 0 - เชลซี1
เกมที่สนามเซนต์ แอนดรูวส์ เบอร์มิ่งแฮมยังใช้บริการผู้เล่นชุดเดิมทุกตำแหน่งจากนัดก่อนที่เจ๊ากับอาร์เซน่อล เจมส์ แม็คฟาดเด้นกองกลางตัวใหม่จึงต้องนั่งอยู่ข้างสนามเป็นตัวสำรองไปก่อน
ด้านเชลซีปรับโผแค่รายเดียวเท่านั้นโดยส่งนิโกล่าส์ อเนลก้าลงบู๊เป็นตัวจริงตามคาดทำให้เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ต้องหล่นไปเป็นตัวสำรอง แต่ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏชื่อของบรานิสลาฟ อิวาโนวิชปราการหลังตัวใหม่
การดวลเกือกเริ่มต้นท่ามกลางห่าฝนที่เทลงมา และแค่นาทีที่ 11 ฟาบริซ มูอัมบ้าก็รับใบเหลืองตั้งแต่ไก่โห่ในจังหวะเสียบใส่ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสินทั้งๆที่สองนาทีก่อนหน้านี้เพิ่งหวดใส่มิชาเอล บัลลัคกัปตันสิงห์บลูส์จากด้านหลังจนถูกเตือนมาหมาดๆ
แม้จะเป็นทีมเยือน แต่เชลซีคุมจังหวะของเกมได้เหนือกว่า ขาดก็แต่เพียงโอกาสทำเสียวที่จะแจ้ง และแล้วในนาทีที่ 30 ทีมเงินถังก็ต้องเปลี่ยนฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ที่มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าซ้ายตั้งแต่ต้นเกมออกพร้อมทั้งส่งปิซาร์โร่ลงไปรับช่วงแทน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 36 ฟลอร็องต์ มาลูด้าปีกผิวสีของเชลซีก็เลื้อยหนีเลียม ริดจ์เวลล์ขึ้นกราบขวาแล้วหาช่องสาดบอลไปหน้าปากประตูได้ แต่อเล็กซ์ถูกประกบแน่นจึงโดดโขกจากระยะ 8 หลาไม่ถนัดส่งบอลทะลักหลุดเสาไกลออกไป
อย่างไรก็ดี ถัดมาอีกแค่สองนาที เดอะ บลูส์ก็เกือบมีเฮงนำไปก่อนเมื่ออเล็กซ์ส่งบอลคืนให้ปีเตอร์ เช็ค แต่นายทวารชาวเช็คหวดขึ้นหน้าแย่ไปกระทบใส่คาเมร่อน เจอโรมที่ยืนอยู่หน้าเขตโทษแล้วกระดอนกลับมาชนเสาหลุดออกเส้นหลังไปอย่างน่าใจหายใจคว่ำ
ทำไปทำมาเจ้าบ้านเริ่มบุกใส่อาคันตุกะได้อย่างน่าดูชมแล้ว และในนาทีที่ 42 แกร์รี่ โอคอนเนอร์ก็ผ่านบอลจากด้านขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เจอโรมกระทุ้งจากระยะ 15 หลาถูกแอชลีย์ โคลบล็อคได้ในจังหวะแรก และจังหวะเข้าซ้ำดาบสองบอลก็พุ่งไปกระทบใส่อเล็กซ์อีกทำให้สิงโตน้ำเงินครามรอดตัวไปในครึ่งแรกโดยที่ผลลัพธ์ยังคงเป็น 0-0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง เชลซีพยายามเดินหน้ากดดันทีมตราลูกโลก แต่ฟอร์มยังหนืดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมเป็นเบอร์มิ่งแฮมด้วยซ้ำที่มีเสียวมากกว่าโดยในนาทีที่ 58 โอลิวิเยร์ กาโปลากลูกเข้าไปถึงสุดเส้นหลังด้านขวาได้จึงป้ายเข้าหาเสาแรก แต่เซบาสเตียน ลาร์สสันเข้าฮอสเผาขนเฉี่ยวออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
สิงห์ บลูส์กัดฟันฮึดตั้งลำกันใหม่ และเกือบได้เฮในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่บัลลัคโยนบอลขึ้นหน้าแล้วมาลูด้าเคาะต่อให้อเนลก้าแปหวังเอาชัวร์จากระยะ 12 หลา ทว่าไมค์ เทย์เลอร์ทิ้งตัวบล็อคได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นในนาทีที่ 73 เบอร์มิ่งแฮมก็ปล่อยแม็คฟาดเด้นกับมิคาเอล ฟอร์สเซลล์อดีตเด็กเก่าทีมเยือนลงไปแทนเจอโรมกับโอคอนเนอร์ แถมแค่สองนาทีอดีตดาวเตะเอฟเวอร์ตันเกือบซัดประตูได้อย่างทันควันซะด้วยเมื่อฟอร์สเซลล์ถูกชูเลียโน่ เบลเล็ตติทำฟาล์ว ฌูเลียง เอสกูเด้จึงทิ่มบอลยาวเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้สมาชิกใหม่วิ่งเข้ากระทุ้งยัดไปที่เสาแรก ดีที่ว่าเช็คหุบขาเซฟได้ทัน
ถัดมาในนาทีที่ 77 ปิซาร์โร่ก็โดนจดชื่อข้อหาพุ่งล้มในเขตโทษน่าเกลียด แต่ในที่สุดเชลซีก็ขึ้นนำจนได้จากลูกเตะมุมด้านขวาของเบลเล็ตติในนาทีที่ 79 ซึ่งปิซาร์โร่โถมเข้าโขกระยะ 8 หลาตุงตาข่ายพาทีมเยือนออกนำ 1-0
เป็นอย่างนี้ ทีมจากเมืองกรุงจึงปิดเกมทันทีไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นทวงสกอร์คืน กระทั่งครบ 90 นาทีจึงกำชัยกลับรังไปอย่างเฉียดฉิว 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม : ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, ราฟาเอล ชมิตซ์, เลียม ริดจ์เวลล์, ฟร้องค์ เกอดรู, เดเมี่ยน จอห์นสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, โอลิวิเย่ร์ กาโป, แกร์รี่ โอคอนเนอร์, คาเมร่อน เจอโรม สำรอง : โคลิน ดอยล์, สจ็วร์ต พาร์นาบี้, เจมส์ แม็คฟาดเด้น, แกรี่ แม็คเชฟฟรี่ย์, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ชูเลียโน่ เบลเลตติ, อเล็กซ์, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, แอชลี่ย์ โคล, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โคล้ด มาเกเลเล่, มิชาเอล บัลลัค, โจ โคล, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, เวย์น บริดจ์, ทาล เบน-ฮาอิม, สตีฟ ซิดเวลล์, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่
ผู้ตัดสิน : ร็อบ สไตล์ส
สรุปผลการแข่งขันของทุกคู่มีดังนี้
เบอร์มิงแฮม แพ้ เชลซี 0-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ มิดเดิ้ลสโบร์ช 1-1 ฟูแล่ม แพ้ อาร์เซน่อล 0-3 เรดดิ้ง แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 สเปอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 พอร์ทสมัธ ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-1 นิวคาสเซิล เสมอ โบลตัน 0-0
Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th
จากคุณ :
:: AdvanceTactics ::
- [
20 ม.ค. 51 05:55:23
]
|
|
|