PANTIP.COM : S6316996 .::<<< + + + This is Anfield [ 9 February 2008 ] ราฟาหนุนเคาท์ทดแทนตอร์เรสได้ + + + >

ความคิดเห็นที่ 6

Before Kick off “ เชลซี - ลิเวอร์พูล ”

เกมหนักอีกแล้วสำหรับหงส์แดง “ลิเวอร์พูล” ในการไปเยือนแสตมฟอร์ด บริดจ์ ของทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในวันอาทิตย์นี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งชนะซันเดอร์แลนด์มาได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นเกมที่ชนะนัดแรกในรอบ 5 นัด นับตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่มาก็ตาม แต่กับแกมนี้ต้องบอกว่าเป็นงานโคตรหินของราฟาเอล เบนิเตซ และลูกทีมแน่นอน เพราะเชลซีนั้นจัดเป็นทีมที่แพ้ยากอีกทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลยทีเดียว อีกทั้งการออกไปเยือนลอนดอนของลิเวอร์พูลแต่ละครั้ง รู้กันดีว่าเหมือนเป็นยาขมของพวกเขาทุกครั้ง แทบจะจำไม่ได้เลยว่าลิเวอร์พูลเคยบุกมาชนะในถิ่นของเชลซีนับตั้งแต่ฤดูกาลไหน แต่ที่แน่ๆ 3 ฤดูกาลหลังหงส์แดงไม่เคยชนะที่สนามแห่งนี้เลย แถมยังยิงประตูเชลซีไม่ได้อีกต่างหากด้วย เพราะฉะนั้นการได้แต้มกลับไปจึงยากเย็นไม่น้อย ซึ่งเอลราฟาน่าจะรู้ดี และก็น่าจะเคี่ยวเข็ญลูกทีมหนักขึ้นด้วย

เป็นเรื่องเศร้าและถือเป็นข่าวร้าย เมื่อการไปเยือนแสตมฟอร์ดบริดจ์ เกมนี้ไม่มีเฟอร์นันโด ตอร์เรส ค่อนข้างแน่นอนแล้ว หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาจากเกมอุ่นเครื่องทีมชาติ ขณะที่นักเตะอีกหลายคนก็ยังเจ็บอยู่ทั้ง อัลเบรัว โวโรนิน แอ็กเกอร์ แม้ราฟาจะมีตัวเลืกเหลืออยู่อีกมาก แต่กลับเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติเมื่อกลางสัปดาห์ก็ส่งผลให้นักเตะหลักๆ หลายคนกรอบไม่ใช่เล่นเหมือนกัน อีกทั้งเกมนี้เอลราฟาอาจจะปรับทีมมาเล่นแบบ 4-5-1 ด้วยซ้ำไป โดยดันเจอร์ราร์ด ขึ้นสูงเป็นหน้าต่ำ ซึ่ง 11 นักเตะเกมนี้นั้น เรน่า ยังเป็นตัวจริงในตำแหน่งผู้รักษาประตูเช่นเดิม กองหลัง 4 คน คาร์ราเกอร์ น่าจะจับคู่กับ ฮูเปียในตำแหน่งเซ็นเตอร์ มากกว่าเป็นสเคอร์เทล ที่น่าจะเป็นสำรองข้างสนามไปก่อน ส่วนแบ็คขวาเป็น ฟินแนน และซ้าย อาจจะให้รีเซ่ กลับมาลงเล่นอีกครั้งหนึ่ง หากไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรเพราะเกมกับเชลซีนั้นรีเซ่น่าจะเหมาะกว่าออเรลิโอ สำหรับกองกลาง 4 คน เบนายูน น่าจะเป็นตัวหลักทางขวา มีคีลล์ ทางฝั่งซ้าย มาสเชราโน และลูคัส เลว่า หรืออลองโซ่ เล่นตรงกลาง และดันเจอราร์ด เป็นหน้าต่ำ ส่วนหน้าเป้านั้น ราฟา น่าจะเลือกเคราช์ เพราะดูแล้วนาทีนี้ เคราช์น่าจะมีประโยชน์กับทีมมากกว่าเค้าท์ แต่หากเอลราฟา เลือกระบบ 4-4-2 คู่ศูยน์หน้า ก็คงไปใครไม่ได้นอกจาก เคราช์ กับ เค้าท์ และกองกลาง เจอราร์ด ลงคู่กับมาสเชราโน ตรงกลางแทน ส่วนปีกซ้ายและขวาก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร

อย่างที่บอกตอนแรกว่าฟอร์มของเชลซีฤดูกาลนี้นั้นค่อนข้างดุดัน และน่ากลัวไม่ใช่น้อยแม้ว่าจะไม่มีโจเซ่ มูริญโญ่ แต่การเข้ามาทำแทนของอาฟราม แกรนท์ ก็ไม่ได้ทำให้ฟอร์มของพวกน่ากลัวน้อยลง หนำซ้ำยังดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเชลซียิ่งเล่นยิ่งดี ทั้งความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น และการเล่นเป็นทีมที่ดูเข้าขารู้ใจกันเหลือเกิน แม้ว่าอาจจะมีนักเตะเข้ามาเสริมทีมบ้าง แต่นักเตะใหม่ที่เข้ามาก็ปรับตัวเข้ากับระบบของทีมได้เร็ว ในขณะที่นักเตะเก่าที่มีอยู่ก็ยิ่งเล่นยิ่งดี ทั้งบัลลัค ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา โจ โคล ไรท์ ฟิลลิป มาเคเลเล และมาลูด้า ที่น่ากลัวทุกตัว ขณะที่ศูนย์หน้า โดยเฉพาะตัวใหม่อย่างอเนลก้านั้น รู้กันดีว่าอันตรายทุกฝีก้าว ซึ่งลิเวอร์พูลต้องระวังให้ดีที่สุด อีกทั้งเชลซียังมีเกมรับที่เหนียวแน่นอีกต่างหาก อเล็กซ์ เบนอาฮิม เบลเลตติ แอชลีย์ โคล เล่นเกมรับกันเหนียวทุกตัวแม้จะไม่มีจอห์น เทอร์รี่ก็ตาม ดังนั้นเอลราฟา ต้องทำการบ้านหนักแน่นอนว่าจะทำอย่างไรในการเจาะเกมรับของเชลซี ต้องยอมรับว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลเองนั้นมีปัญหาไม่น้อยเลยทีเดียวกับการทำเกมรุก นัดนี้การประสานงานของพวกเขาต้องแม่นยำ การเข้าทำต้องเร็ว ไม่ใช้โอกาสเปลือง เหมือนเกมก่อนหน้านี้หลายๆนัด ยิ่งถ้ามาเจอเกมรับแน่นๆด้วยแล้ว ลิเวอร์พูลยิ่งมีปัญหาในการเข้าทำมากกว่าเดิมอีก เกมนี้แม้ว่าพวกเขาอาจไม่เจอการตั้งรับของเชลซี เพราะเชื่อว่าแกรนท์ คงเปิดเกมรุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลในฐานะทีมเยือนมากกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเน้นรัดกุมแทน ตั้งรับแล้วรอฉวยโอกาสหาจังหวะเหมาะเข้าโจมตีเชลซีแทน โดยใช้จังหวะทะลุทะลวงของเจอร์ราร์ดเข้าทำ นัดนี้ถ้าเอลราฟาให้เขาลงเล่นเป็นหน้าต่ำจริงๆ ก็น่าจะทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดีขึ้น โดยปีเตอร์ เคราช์ จะเป็นตัวชงบอล และพักบอลในแดนหน้า และคอยค้ำกับกองหลังร่างยักษ์ของเชลซีได้ดีกว่า เค้าท์ ที่ตอนนี้ฟอร์มตกไปมาก มีแค่ลูกขยันเท่านั้นที่เห็นในตอนนี้ เล่นกับทีมแบบเชลซี และออกมาเล่นนอกบ้านนั้น ต้องวางแผนเน้นรัดกุมไว้ก่อนดีกว่า ผลีผลามเข้าทำอาจจะเจ็บตัวได้เหมือนกัน เพราะเกมรุกของเชลซีนั้น ความเร็วจัด เทคนิคดีอยู่แล้ว ปั่นป่วนฮูเปีย ที่ค่อนข้างช้าได้แน่ เพราะฉะนั้นคู่เซ็นเตอร์ทั้ง 2 คนของลิเวอร์พูลคงไม่ขึ้นสูงมากนักในเกมนี้ อย่างน้อยเกมรับของลิเวอร์พูลต้องเหนียวแน่นไว้ก่อน เพราะถ้าพลาดกับเชลซีแล้ว บอกตามตรงว่าโอกาสเอาคืนก็ยากเช่นเดียวกัน ตอนต้นฤดูกาลที่เสมอกัน 1-1 ที่แอนฟิลด์นั้นลิเวอร์พูลทำได้ดีทีเดียวกับเชลซี กดดันจนพวกเขาขึ้นเกมไม่ได้ ซึ่งนัดนี้ก็เช่นกัน ลิเวอร์พูลต้องตัดเกมตรงกลางของเชลซีให้ได้ บีบไม่ให้บัลลัค มาเคเลเล ครองเกมได้สะดวก ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามไม่ให้เสียฟรีคิก หรือเซทพืทด้วยเช่นกัน ลิเวอร์พูลมักจะมีปัญหากับลูกเซทพีท ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังแก้กันไม่ได้ โดนการเปิดบอลโด่งอัดเข้าใส่ พวกเขามักจะรวนแทบทุกครั้ง ดังนั้นเอลราฟาต้องกำชับลูกทีมในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริงของลิเวอร์พูล
ประตู – เรน่า
กองหลัง- ฟินแนน-คาร์ราเกอร์-ฮูเปีย–รีเซ่ (ออเรลิโอ)
กองกลาง- เบนายูน-เจอราร์ด – มาสเชราโน- ลูคัส ( อลอลงโซ่) – คีลล์
กองหน้า – เคราช์

เกมนี้ถ้าเล่นกันได้ตามแผนและแทคติกที่วางไว้ก็คงไม่น่าหนักใจ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการวางแผนของ 2 กุนซือด้วยเช่นกัน ลิเวอร์พูลไปในฐานะทีมเยือน และเป็นรอง ซึ่งเกมนี้อาจจะไม่สร้างความกดดันให้กับพวกเขาก็ได้ ความคาดหวังอาจจะน้อย เพราะฉะนั้นหากเล่นกันได้ดี นักเตะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้มากขึ้นเรื่อยๆ 3 แต้มในเกมนี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน และเชื่อลึกๆ ว่านัดนี้ลูกทีมของเอลราฟา อาจไปสร้างเซอร์ไพรส์ที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เหมือนกัน

คาดการณ์ผลการแข่งขันชนะ 1-2

สกอร์และบทวิเคราะห์นี้ เป็นการคาดการณ์ โดย ผู้เขียนเท่านั้น LTF ไม่ส่งเสริมการเล่นการพนันทุกรูปแบบ

By: Fandidi

http://www.liverpoolthailand.com/new/index.php

จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 9 ก.พ. 51 14:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ปรีวิวบุนเดสลีกา

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551

เลเวอร์คูเซ่น(3) – ฮัมบวร์ก (4)

กอนซาโล่ คาสโตร แบ็กขวาตัวลุยหมดสิทธิ์รับใช้ "นายห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น นัดเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์เหนือ" ฮัมบวร์ก อย่างแน่นอน หลังสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ

นับเป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าต่อ มิชาเอล สคิบเบ้ เทรนเนอร์เลเวอร์คูเซ่นยิ่งนัก เพราะก่อนหน้านี้ ฮันส์ ซาร์ไป ฟูลแบ็กอีกคนติดภาระกิจรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

ดังนั้น สคิบเบ้ ใช้แผนสองเปิดโอกาส อาร์ตูโร่ วิดาล เสียบแทน คาสโตร รวมถึงจะปรับแท็กติกส์ให้ เพียร์มิน ชเว็กเลอร์ บัญชาเกมแดนกลางอีกทั้งผลักดัน สเตฟาน คีสลิงก์ ยืนหอกตัวเป้าปล่อยให้ ธีโอฟานิส เกคาส นั่งสำรอง

ฮูบ สตีเฟ่น บิ๊กบอส "สิงห์เหนือ" ยอมรับค่อนข้างหนักใจกับสภาพทีมไม่พร้อมเท่าที่ควรเนื่องจากนักเตะหลายคนเพิ่งกลับมารับใช้ชาติ แถมฟอร์มเริ่มออกทะเลไม่ชนะใครเลยตลอด 4 เกมหลังสุด

"หากนักเตะ 13-14 คนต้องเดินทางไปรับใช้ชาติ มันย่อมส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมของเรา เกมวันเสาร์เป็นแมตช์ที่สำคัญสำหรับเรา แต่โชคร้ายที่เราไม่สามารถทำแผนที่เราต้องการได้" สตีเฟ่นบ่นอุบ

ฮวน พาโบล โซริน ดาวเตะสารพัดประโยชน์ยังอยู่ระหว่างพักฟื้นหลังผ่าตัด ส่วน โรเมโอ คาสเตเล่น เจ็บเข่าไม่หาย ขณะที่ ธิโมเธ่ อตูบ้า กับ โมฮัมเหม็ด ซีดาน ติดภาระกิจในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

สตุ๊ตการ์ต (9) – แฮร์ธ่า (7)

อาร์มิน เฟห์ เทรนเนอร์ "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ตประกาศพร้อมดร็อปตัวหลักๆบางคนกระเด็นหลุดไปนั่งสำรองในนัดเผชิญหน้า "หญิงชรา" แฮร์ธ่า เบอร์ลิน หลังเกมล่าสุดโชว์ฟอร์มผิดหวังแพ้ยับต่อ ชาลเก้ 04 1-4

"ผมไม่ชอบกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ของเราเลย เราต้องคุยกันถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้ ผมคาดหวังอะไรหลายๆอย่างจากผู้เล่นที่มีดีกรีติดทีมชาติ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา" เฟห์เปิดใจ

ทั้งนี้เชื่อกันว่า เฟห์ ไม่แฮปปี้ฟอร์มของ ราฟาเอล เชเฟอร์ นายทวารมือหนึ่งที่ช่วงหลังฟอร์มแกว่งเหลือเกินเสียถึง 4 ประตูในเกมล่าสุด ดังนั้นโอกาสอาจตกเป็นของ สเวน อูลริช ประตูดาวรุ่งยืนเฝ้าระหว่างสองเสา

ขณะเดียวกัน ลูโดวิช มายิน ปราการหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้วพร้อมทวงตำแหน่งตัวจริงคืนมา ส่วน อาร์เทอร์ โบก้า ติดภาระกิจรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ขณะที่ ริคาร์โด โอซอริโอ ติดโทษแบน

ลูเซียน ฟาฟร์ บิ๊กบอสแฮร์ธ่ายังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ อาร์เน่ ฟรีดริช ปราการหลังตัวกลางพร้อมกลับมายืนคุมหลังได้หรือไม่ ส่วน ลูซิโอ และ สตีเฟ่น ฟอน แบร์เก้น (เข่าทั้งคู่) ยังไม่พร้อม

ฮันโนเวอร์(7) – คาร์ลสรูห์ (6)

วาเลเรียง อิสมาแอล อดีตศิษย์เก่าบาเยิร์น มิวนิคพร้อมประเดิมสนามในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟภายใต้สังกัดฮันโนเวอร์ 96 นัดรับมือ คาร์ลสรูห์ หลังสามารถสลัดอาการบาดเจ็บได้สำเร็จ

นอกจากนี้ ดีเตอร์ เฮคกิ้ง นายใหญ่ประจำทีมยังจะได้ มิชาเอล ทาร์นาท อดีตฟูลแบ็กเสือใต้เช่นเดียวกันกลับมายืนแบ็กซ้ายทำให้ คริสเตียน ชูลซ์ ขยับสถานะคอนโทรลเกมแดนกลางแทน

ส่วนผู้เล่นที่หมดสิทธิ์สัมผัสยอดหญ้าอย่างแน่นอนก็คือ โธมัส เบอร์ดาริช และ ชาฟดาร์ ยานคอฟ(เข่าทั้งคู่) ขณะที่ แซร์จิโอ ปินโต้ ติดโทษแบนหลังถูกใบแดงไล่ออกในเกมสุดสัปดาห์ก่อน

เอ็ดมุนด์ เบ็คเกอร์ เฮดโค้ชคาร์ลสรูห์ตั้งเป้าบุกกระชาก 3 คะแนนเต็มออกจากรังอาเวเด-อารีน่า ของ ฮันโนเวอร์ ให้ได้ เพื่อเป้าหมายไปเล่นยูฟ่า คัพ ซีซั่นหน้า แม้ตกเป็นรองในเรื่องเสียงเชียร์

"เราจำเป็นต้องฉีกหนีคู่แข่งออกไปอีก 9 คะแนนเพื่อที่เราบรรลุถึงเป้าหมายตามต้องการ แต่เราต้องยอมรับการมาเยือนถึง ฮันโนเวอร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะพวกเขาทำได้ดีมากในนัดเสมอฮัมบวร์ก 1-1" เบ็คเกอร์วิเคราะห์

โจชัว เคนเนดี้ ต้องรอเช็กสภาพความฟิตอีกครั้งหลังโชคร้ายข้อเท้าพลิกในเกมรับใช้ชาติออสเตรเลียลงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ขณะที่ แบรดลี่ย์ คาร์เนลล์(ข้อเท้า) และ คริสโตเฟอร์ ไรน์ฮาร์ด(เท้า) อดลงสนาม

เนิร์นแบร์ก (16) – รอสต๊อก (15)

ฮันส์ ไมเยอร์ เทรนเนอร์ "แดร์คลูบ" เนิร์นแบร์กกระตุ้นลูกน้องจำเป็นต้องเอาชนะ "ผักสด" ฮันซ่า รอสต๊อก ให้ได้ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงฤดูกาลหน้า

"หากเราพลาดท่าพ่ายแพ้ต่อ รอสต๊อก และ ค็อตบุส แล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงที่เราจะกระเด็นตกชั้น เรารู้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าสิ่วหน้าขวาน ดังนั้นจำเป็นแล้วที่ผู้เล่นต้องเค้นฟอร์มออกมา" ไมเยอร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม อันเดรส โวล์ฟ เซนเตอร์แบ็กจอมอุดติดโทษแบนอดยืนคุมหลังอย่างแน่นอน ดังนั้นโอกาสตกเป็นของ มิชาเอล บิวชอมป์ ส่วน ซเวจดาน มิซิโมวิช น่าจะสลัดปัญหาบริเวณต้นขากลับมาปั้นเกมริมเส้น

ฟรังค์ พาเกลสดอร์ฟ เทรนเนอร์รอสต๊อกต้องเผชิญเรื่องปวดหัวก่อนบุกไปเยือนถิ่นอีซี่เครดิต-สตาดิโอน ของเนิร์นแบร์ก เนื่องจากขาดกำลังหลักอย่าง เกล็ดสัน เซนเตอร์แบ็กดันป่วนเสียก่อน ส่วน วิคเตอร์ อกาลี ดารากองหน้าติดโทษแบน

นอกจากนั้น เอ็นริโก้ แคร์น หอกตัวเก่งอีกคนต้องรอเช็กสภาพความฟิตก่อนลงสนามด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของ เรจิส ดอร์น ร่างกายเต็มร้อยแล้วพร้อมออกสตาร์ตตั้งแต่วินาทีแรก

โบคุ่ม (11) – ค็อตบุส (17)

มาร์เซล โคลเลอร์ เทรนเนอร์ "เจ้าหนูสีเทา" โบคุ่ม ออกโรงเปรยอาจจะเปิดโอกาส ชินจิ โอโนะ มิดฟิลด์ห้องเครื่องเลือดบูชิโดพิสูจน์ฝีเท้าในเกมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เอ็นเนอร์กี้ ค็อตบุส

กองกลางทีมชาติญี่ปุ่นซึ่งย้ายร่วมทีมก่อนตลาดซื้อ-ขายนักเตะปิดทำการมีปัญหาบริเวณข้อเท้ารบกวน แต่ล่าสุดใกล้คืนสู่สภาพปกติและได้ลงเล่นในฐานะตัวสำรองนัดบุกไปเอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

"ผมเชื่อมั่นในตัวชินจิ โอโนะเขาสามารถลงเล่นได้สบายตลอด 90 นาทีหลังผ่านบททดสอบครั้งล่าสุด"

"แต่ผมอยากให้แน่ใจว่า เขาไม่มีอาการบาดเจ็บหลงเหลืออีกแล้วอีกย่าไม่ว่าคุณจะฝึกซ้อมได้เต็มที่ก็ต้องรอการอนุญาตจากคณะแพทย์เสียก่อน"

นอกจาก โอโนะ แล้ว โคลเลอร์ ยังต้องเช็กสภาพความฟิตของทั้ง มัทธีอัส คอนชา ปราการหลังทีมชาติสวีเดน และ สตานิสลาฟ เซคตัก ดารากองหน้าชาวสโลวัก ส่วน โจเอล เอพัลเล่ ติดภาระกิจรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

ส่วนความเคลื่อนไหวของทีมเยือนนั้น โบยัน พราสนิการ์ นายใหญ่ค็อตบุสต้องรอดูความพร้อมของ ดาเนียล ซีบิ๊ก แบ็กขวาตัวเก่งจะหายทันวันเสาร์นี้หรือไม่ หากฟิตไม่ทันจะเป็นหน้าที่ของ สตานิสลาฟ อังเกลอฟ ถอยจากแดนกลางมายืนคุมหลังแทน แล้วให้ สตีเฟ่น ริวิช เสียบตำแหน่งมิดฟิลด์

โวล์ฟสบวร์ก (10) – ดุ๊ยส์บวร์ก (18)

เฟลิกซ์ มากัธ กุนซือจอมขมังเวทย์ทีม "หมาป่า" โวล์ฟสบวร์ก เตือนลูกน้องห้ามสบประมาท "ม้าลาย" ดุ๊ยส์บวร์ก เป็นอันขาด แม้ยังอมบ๊วยอยู่ก้นตาราง

"เราไม่อาจมองข้าม ดุ๊ยบวร์ก ได้ พวกเขาอาจจะแพ้บ่อยแต่น่าจะโชคร้ายมากกว่าเพราะเท่าที่ดูแล้วส่วนใหญ่เล่นดีมาก ดังนั้นเราจึงต้องเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาเพื่อเก็บชัยชนะให้ได้" อดีตเทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค กระตุ้น

โจนาธาน ซานตาน่า ห้องเครื่องทีมชาติปารากวัยเพิ่งกลับมาจากเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังใช้เวลาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลทำให้อาจจะไม่ทันออกสตาร์ตก็เป็นได้ ดังนั้น มากัธ ใส่ชื่อ มาร์เซล เชเฟอร์ คอยสแตนด์บาย

รูดี้ บอมเมอร์ เทรนเนอร์ดุ๊ยส์บวร์กสุดเซ็งที่ต้องปราศจาก 2 เซนเตอร์ทั้ง ยูเลี่ยน ฟิลิเปสคู และ เฟอร์นานโด โฮราซิโอ อวาลอส เนื่องจากดันนัดบาดเจ็บพร้อมกัน

"เราโชคร้ายมาก เพราะตอนนี้เหลือเพียงแค่ บียอร์น ชลิคเค่ เป็นผู้เล่นเซนเตอร์คนเดียวเท่านั้นที่ฟิต หากบาดเจ็บพร้อมกันหมดผมคงเป็นบ้าไปแล้ว แต่บ่นไปก็คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น" บอมเมอร์ กล่าว

ทั้งนี้นายหัว "ม้าลาย" บอกเพิ่มเติมว่าจะถอย มิชาเอล ลามี่ย์ ยืนปราการหลังตัวกลางเคียงข้าง ชลิคเค่ ส่วน อเล็กซานเดอร์ ไมเยอร์,เฟอร์นานโด, โรเก้ จูเนียร์ และ ทอม สตาร์เค่ ผู้รักษาประตูยังอยู่ระหว่างพักฟื้น

http://www.soccersuck.com/2008/index.php

จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 9 ก.พ. 51 14:07:04 ]