ทั้งที่วันนี้เป็นวันที่มีแมทช์เตะอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีโศกนาฏกรรมที่มิวนิคอย่างเป็นทางการ...
ทั้งที่พิธีการรำลึกตอนเริ่มต้นเกมส์เป็นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และควรจะหลอมรวมใจนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทุกคนให้ฮึดสู้และมีกำลังใจมากกว่าทุกเกมส์ที่ผ่านมา
ทั้งที่เกมส์ที่แล้ว เราควักปาฏิหาริย์จากแรงใจที่เปี่ยมล้นออกมาใช้ได้อีกครั้ง ในเกมส์ที่ไม่สมควรจะได้แต้มด้วยประการทั้งปวง...
ทั้งที่เกมส์ขับเคี่ยวไล่ล่าแชมป์กับพลพรรคปืนโตอาร์เซน่อลกำลังเข้มข้นที่สุด...
ทั้งที่คู่ต่อสู้ตรงหน้าชื่อ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้"... เป็นอริร่วมเมืองที่คู่ควรและเหมาะสมต่อพิธีกรรมรำลึกในวันนี้มากที่สุด... และไม่เพียงที่พวกเขาชนะมาในนัดแรกที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม หากแต่พวกเขายังสูญเสียอดีตผู้รักษาประตูนาม "แฟรงค์ สวิฟท์" ไปในเหตุการณ์เดียวกัน...
...ทั้งที่เกมส์นี้ เราควรจะคว้าชัยชนะในบ้านเป็นนัดที่ 13 ของฤดูกาล เพื่อเซ่นสรวงแก่ดวงวิญญาณของนักเตะและสต๊าฟฟ์ 11 ชีวิตที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในสีเสื้อปีศาจแดงอย่างสมเกียรติแท้ๆ
...แต่ถึงกระนั้น...
...พวกเราก็แพ้...
แพ้อย่างยับเยิน...
อย่างหมดรูป...
และน่าผิดหวังที่สุด...
เมื่อคลื่นการบุกที่ถาโถมลูกแล้วลูกเล่าช่างอ่อนกำลังเกินกว่าจะทลายกำแพงเกมส์รับอันหนาแน่นของซิตี้ไหว เมื่อนักเตะของยูไนเต็ดหลายคนเล่นอย่างขาดชีวิตชีวา ไร้ความสร้างสรรค์และจินตนาการ และอีกหลายคนเล่นอย่างไร้ซึ่งแรงกระตุ้น และความกระหายชัยชนะทั้งที่แมทช์นี้เป็นเกมส์ที่มีความสำคัญมากถึงเพียงนั้นแท้ๆ...
...
...
...
Blue Moon,
You saw me standing alone
Without a dream in my heart
Without a love of my own
โอ้ ดวงจันทร์สีฟ้าเอย
เจ้าเห็นข้ายืนอยู่อย่างเดียวดาย
ไร้ความฝันในดวงใจอันแตกสลาย
ไร้คนรักเคียงข้างกาย... และในหัวใจ...
Blue Moon,
You know just what I was there for
You heard me saying a prayer for
Someone I really could care for
โอ้ ดวงจันทร์สีฟ้าเอย...
เจ้าคงรู้ ที่ข้ายังอยู่ตรงนี้เพราะอะไร
ที่ข้าพร่ำร้องพรรณนา เจ้ารู้ใช่ไหม...
ข้าเพียงหวังใคร... สักคนรักและห่วง... สักวัน...
...
...
...
แต่ ณ วินาทีนี้...
ความเจ็บช้ำและปวดร้าวได้กลายเป็นเพียงอดีตแล้ว... แม้จะยังไม่ผ่านไปเนิ่นนานนักก็ตาม...
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้... ก็เป็นเพียงความพ่ายแพ้ธรรมดาๆอีกครั้งเท่านั้น... แม้จะต่อผู้ที่เราไม่อยากพ่ายแพ้ให้ที่สุดก็ตาม...
ผองเราต่างจำได้ ว่าต่อให้เราเคยพ่ายแพ้มากี่สิบครั้ง ผิดพลั้งมากี่ร้อยหน... แต่ทุกครั้งหลังจากนั้น พวกเราก็ยังจะลุกขึ้นใหม่... อย่างช้าๆทว่ามั่นคง...
กร้าวแกร่งกว่าเดิม... เข้มแข็งกว่าเดิม...
...และกระหายในชัยชนะมากขึ้นกว่าเดิม...
...
...
...
And then there suddenly appeared before me
The only one my arms will hold
I heard somebody whisper please adore me
And when I looked to the Moon it turned to gold
และแล้ว ใครคนหนึ่งก็ปรากฎกายขึ้นเบื้องหน้า...
โถมถลา... สู่อ้อมแขนที่อ่อนล้าของฉัน...
และพร่ำเสียงกระซิบ... บอกเบาๆว่ารักกัน...
โอ้ เมื่อฉันมองจันทร์... แสงของเจ้านั้นพลันเปลี่ยนเป็นสีทอง...
Blue Moon,
Now I'm no longer alone
Without a dream in my heart
Without a love of my own
โอ้ ดวงจันทร์สีฟ้าเอย...
บัดนี้... ข้ามิได้อยู่เดียวดายและเศร้าหมอง...
มิสิ้นไร้ความฝันอันหมายปอง...
และไม่ต้อง... ทนไร้รัก... ตราบนิรันดร์...
...
...
...
...เพราะถึงแม้แมทช์นี้จะเป็นแมทช์ที่ถูกกำหนดให้เป็นแมทช์ระลึกถึงโศกนาฏกรรมเมื่อ 50 ปีก่อนก็ตาม... แต่ความพ่ายแพ้นัดนี้ก็เป็นเพียงการสะดุดก้าวใหญ่ๆก้าวนึง บนเส้นทางที่เรามุ่งหมายจะไปให้ถึงเท่านั้น หากเรามัวแต่ท้อหรือนึกถึง ความรู้สึกเสียดายหรือผิดหวังนี้ก็จะคอยฉุดและเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ให้เรามุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่เราวาดหวังไว้ได้เสียที... ทางเดียวที่เราควรทำ คือจดจำความพ่ายแพ้และทุกสิ่งที่ทำให้เราพ่ายแพ้ในวันนี้ไว้เป็นบทเรียน... แล้วนำมันมาแก้ไขปรับปรุงเพื่อที่จะก้าวต่อไปในวันพรุ่งนี้ซะ...
เพราะใช่ว่าการแพ้เพียงนัดเดียวจะทำให้เส้นทางฝันของพวกเราต้องหยุดลง... ไม่มีทีมใดไม่เคยแพ้...
แต่ช่วงเวลาหลังจากแพ้นี่ต่างหากที่สำคัญ... เพราะมันจะทำให้รู้ว่าเราไม่ได้กำลังสู้อยู่ลำพัง... หากแต่ยังมีพวกเราปวงสาวกปีศาจแดงทุกคนที่พร้อมร่วมปลอบประโลม ร่วมสู้ ร่วมเชียร์ และรวมถึงร่วมส่งกำลังใจไปต่อสู้กับคู่แข่งขันเบื้องหน้าต่อไปด้วยกัน...
เพราะพวกเราไม่ทอดทิ้งกัน เพียงเพราะพานพบความปราชัยแค่เพียงนัดเดียวหรอก...
...
...
...
And then there suddenly appeared before me
The only one my arms will ever hold
I heard somebody whisper please adore me
And when I looked the Moon had turned to gold
Blue moon,
Now I'm no longer alone
Without a dream in my heart
Without a love of my own
Blue moon,
Now I'm no longer alone
Without a dream in my heart
Without a love of my own
...และแล้ว ใครคนหนึ่งก็ปรากฎกายขึ้นเบื้องหน้า...
โถมถลา... สู่อ้อมแขนที่อ่อนล้าของฉัน...
และพร่ำเสียงกระซิบ... บอกเบาๆว่ารักกัน...
โอ้ เมื่อฉันมองจันทร์... แสงของเจ้านั้นพลันเปลี่ยนเป็นสีทอง...
โอ้ ดวงจันทร์สีฟ้าเอย...
บัดนี้... ข้ามิได้อยู่เดียวดายและเศร้าหมอง...
มิสิ้นไร้ความฝันอันหมายปอง...
และไม่ต้อง... ทนไร้รัก... ตราบนิรันดร์...
...
...
...
โอ้ ดวงจันทร์สีฟ้าเอย...
บัดนี้... ข้ามิได้อยู่เดียวดายและเศร้าหมอง...
มิสิ้นไร้ความฝันอันหมายปอง...
และไม่ต้อง... ทนไร้รัก... ตราบกาลนิรันดร์...
...
...
...
...พวกเราจะร่วมกันสู้ต่อไป...
Manchester United, Forever...
... ป.ล. เผื่อใครสนใจเพลงนี้... เพลงนี้มีชื่อว่า "Blue Moon" ขับร้องโดย Frank Sinatra และ... ใช่แล้วครับ... ถ้าใครเคยได้ยิน... มันเป็นเพลงประจำสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั่นเอง...
จากคุณ :
patyawi
- [
10 ก.พ. 51 23:29:47
]