ความคิดเห็นที่ 1 รอถึงวันที่ 21 นี้มีงานกอล์ฟที่เดอะมอญ งามวงศ์วานครับ น่าจะมีมาลดราคาพวกที่ตกรุ่น ลองไปตีดู มีที่ให้ลองตีครับ จากคุณ : กลัวที่หนาย - [ 15 ก.พ. 51 19:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ระยะเหล็ก 7 กี่หลาครับ แล้ว U ตัวนี้กะไว้ใช้สำหรับระยะเท่าไหร่ครับ ??? จากคุณ : Sergio Garfield - [ 15 ก.พ. 51 20:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รอถึงวันที่ 21 นี้มีงานกอล์ฟที่เดอะมอญ....... มอญแถวพระประแดงหรือปทุมละครับ แอร้ยยยยยยยย จากคุณ : มอญ แถวมีนบุรี (ดำซ้าย) - [ 15 ก.พ. 51 21:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เหล็ก 7 ประมาณ 140-150 หลา ครับ ตอนแรกว่าจะซื้อ หัวไม้ 5 มาใว้ใช้ แต่เพื่อนๆและคนที่ขาย เค้าแนะนำให้ใช้ ไม้ U จะดีกว่า บอกว่าใช้ได้หลายสถานะการ์ณ ถ้าจะให้แทน ไม้ 5 หรือ เหล็กยาวนี้ ควรใช้องศาเท่าไรดีครับ จากคุณ : Bogy Man - [ 15 ก.พ. 51 21:16:57 A:125.24.232.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 หากจะเอาไว้แทนไม้ 5 ให้ลือกองศาประมาณ 16-18 ครับ - น่าจะได้ระยะประมาณ 200 หลา หากแทนเหล็ก 3 ก็ประมาณ 22-24 องศา ระยะประมาณ 190 แทนเหล็ก 4 ก็ 26-28 องศา ระยะประมาณ 180 170 ก็เหล็ก5 160 ใช้เหล็ก 6 ทั้งนี้ต้องลองตีเช็คระยะดูครับ สำหรับ flex โดยยึดระยะเหล็ก 7 เป็นเกณฑ์ใช้ Regular ก็พอครับ ไม่ควรเกิน SR (Stiff Regular) แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 51 00:13:03 จากคุณ : Sergio Garfield - [ 15 ก.พ. 51 23:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองอ่านบทความ ที่ผมเคยเขียนลงคอลัมน์ Golf Freshy ในหนังสือ Golfer Online ประกอบการตัดสินใจครับ ------------------------------------------------------------------------ กะเทย … ช่วยด้วย …. เปล่านะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมเองจะเกิดความสับสนอะไรนะครับ เพียงแต่เรื่องที่ผมจะนำเสนอในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกะเทยครับ ไม่ใช่กะเทยที่เป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อเชื้อไขแต่ประการใด แต่เป็นไม้กอล์ฟครับ ที่เรามักจะเรียกกันว่า “หัวไม้กะเทย”  ซึ่งชื่อเป็นทางการของไม้ชนิดนี้ นิยมเรียกกันว่า “Utility Club” หรือ “Hybrid Club”  หรือในสมัยที่แรกๆมีเจ้าไม้ชนิดนี้ “Driving Iron” ก็ใช่ครับ ส่วนชื่อภาษาไทยนั้น ก็เรียกกันไปตามจินตนาการของผู้เรียก บางท่านก็เรียกว่า “หัวไม้กะเทย” เพราะรูปร่างหน้าตาของมันนั้น จะเป็นเหล็กก็ไม่ใช่ หัวไม้ก็ไม่เชิง ก็เลยโดนยัดเยียดความเป็น “กะเทย” เข้าให้ด้วยสาเหตุนี้ บางท่านก็เรียกว่า “หัวถั่วงอก” ก็เพราะหน้าตาของเจ้าไม้อันนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับถั่วงอกซะเหลือเกิน สำหรับคุณผู้อ่านจะเรียกอะไรก็เชิญแล้วแต่ถนัดเลยนะครับ สำหรับผมขอเรียกว่า “ไม้กะเทย” แล้วกันนะครับ   เหตุที่เจ้าหัวไม้กะเทยได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ระดับมืออาชีพก็มีติดถุงกอล์ฟไว้ ก็เพราะเจ้าไม้อันนี้เป็นที่ยอมรับว่า “ตีง่าย” เนื่องด้วยการออกแบบของเจ้าไม้อันนี้หลายๆอย่างเอื้อให้เกิดข้อดีหลายๆอย่าง เช่น - หากเทียบกับเหล็ก หัวไม้กะเทยจะมีการออกแบบให้มีมวลส่วนหนึ่ง อยู่ห่างจาก Sweet spot มากกว่าเหล็ก ทำให้ Sweet spot กว้างกว่าเหล็ก เจ้า Sweet spot ที่กล่าวถึงนี้ก็คือจุดบนหน้าไม้หรือหน้าเหล็ก ที่กระทบกับลูกกอล์ฟแล้วทำให้ได้ระยะและทิศทางที่ดีที่สุด เมื่อมี Sweet Spot ที่กว้างกว่า หากเราตีพลาดจาก Sweet spot ไปบ้างก็ไม่ทำให้ระยะและทิศทางเสียหายไปมากนัก   - หัวไม้กะเทย มี CG (Center of Gravity : จุดศูนย์ถ่วง) ที่ต่ำ ทำให้สามารถตีลูกให้ลอยได้ง่ายกว่าเหล็ก - หากเทียบกับ Fairway wood ในองศาของหน้าไม้เท่าๆกัน ความยาวของไม้กะเทยจะน้อยกว่า Fairway wood เล็กน้อย ทำให้ท่านนักกอล์ฟ สามารถที่จะตีให้โดน Sweet spot ได้ง่ายกว่า Fairway wood - ท้องที่เรียบแบน มีความนูนของท้องที่พอเหมาะ  และมีความกว้างไม่มากนัก จึงสามารถใช้ได้ในการตีจากทำเล (Lie) ที่ไม่ปกติ เช่น Fairway ที่หญ้าเกรียนๆ หรือจาก Fairway bunker - Leading Edge หรือขอบหน้าด้านล่างที่จะสัมผัสพื้นเวลาเราจรดไม้ มีความโค้งมน ทำให้สามารถตีแหวกผ่านหญ้าในทำเลที่หญ้ายาวกว่าปกติ เช่น Rough ได้ง่าย หรือแม้กระทั่งจะนำมาประยุกต์ใช้แทน Chipper ในการเล่นลูกสั้นรอบๆกรีนได้เป็นอย่างดี - บริเวณส่วนท้ายของไม้กะเทย จะสั้นกว่า Fairway wood ซึ่งจะช่วยให้ท่านนักกอล์ฟที่มีปัญหามีวงสวิงที่ชันเกินไป ทำให้ตี Fairway wood ได้ไม่ดี สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเลือกใช้ไม้กะเทยแทน Fairway wood ครับ สำหรับท่านนักกอล์ฟมือใหม่หรือมือเก่าที่มีปัญหาในการตีเหล็กยาว เช่น ตีเหล็ก 3 เหล็ก 4 ได้ระยะเท่าๆ กับเหล็ก 5 บ้าง บังคับทิศทางของลูกจากการตีเหล็กยาวไม่ค่อยได้บ้าง หรือแม้กระทั่งตีลูกไม่ค่อยลอย พอลูกตกแล้วมักจะวิ่งเยอะเกินไปบ้าง มีปัญหาในการตีชอท Approach หรือเล่นหลุมพาร์ 3 ที่มีระยะเกิน 170 หลาบ้าง ปัญหาเหล่านี้จะทุเลาเบาบางด้วยการหาไม้กะเทยมาใช้แทนครับ การที่ไม้กะเทยมี Sweet spot ที่กว้างกว่าเหล็ก จึงทำให้ความผิดพลาดในด้านระยะและทิศทางเมื่อตีพลาดจาก Sweet spot ลดน้อยลง การที่ CG ต่ำทำให้ลูกลอยง่าย และสูงกว่าการตีด้วยเดหล็ก เมื่อลูกลอยสูงขึ้น เมื่อลูกตกก็จะหยุดได้เร็วกว่าจากการตีด้วยเหล็ก ในสถานการณ์ที่ต้องตีจาก Fairway Bunker โดยที่ระยะถึงกรีนมากกว่า 150 หลา หากลูกลอย ไม่จมทราย เราสามารถใช้ไม้กะเทยหวดไปได้เลย แต่มีข้อแม้เล็กน้อยว่า ขอบบังเกอร์จะต้องไม่สูงมากจนลูกจากการตีด้วยไม้กะเทยไม่สามารถลอยข้ามได้นะครับ ท้องที่แบนของไม้กะเทยจะช่วยในกรณีที่เราตีหลังลูกไปบ้างสักเล็กน้อยก็จะยังพอที่จะถไลไปโดนลูกได้ง่ายกว่าเหล็ก ทำให้ไม่เสียระยะไปมากนัก เช่นเดียวกันในการตีจาก Fairway ที่หญ้าเกรียนๆ โล้นๆ ท้องของไม้กะเทยก็จะให้ประโยชน์ที่คล้ายๆกันครับ ในกรณีตีจากทำเลหญ้ายาวๆ เจ้าไม้กะเทยก็จะมีความสามารถพิเศษในการแหวกหญ้าเข้าไปปะทะลูกได้ง่ายเนื่องจากท้องที่แบน และขอบหน้าที่โค้งมน หากใช้เหล็กก็จะตีผ่านไปได้ลำบาก หากเป็น Fairway wood ก็จะมีขนาดหัวที่โตกว่า ก็จะทำให้ตีให้ผ่านไปได้ยากกว่าไม้กะเทยครับ ในการเล่นลูกข้างกรีน กรณีลูกจม Rough ข้างกรีน สำหรับมือใหม่ๆแล้ว การใช้วิธีการพัตต์ออกมาด้วยไม้กะเทย จะเป็นวิธีที่เล่นได้ง่าย และให้ผลงานที่ดีกว่าการเล่นด้วยวิธีอื่นครับ การเลือกไม้กะเทยมาใช้แทนเหล็ก หรือ Fairway wood นั้น จะต้องเลือกองศาให้เหมาะสมนะครับ หากจะเลือกมาใช้แทนเหล็ก ให้เลือกที่มีองศาของไม้กะเทยให้มากกว่าเหล็กเล็กน้อย เช่น หากเหล็ก 3 มีองศา 21 องศา ก็ให้ลองไม้กะเทย 22-23 องศาเนื่องจาก ในองศาเท่าๆกัน ไม้กะเทยจะยาวกว่าเหล็กนิดหน่อย จะทำให้ตีได้ไกลกว่าครับ แต่หากจะเลือกมาใช้งานแทน Fairway wood ก็น่าจะเลือกที่มีองศาน้อยกว่า Fairway wood เล็กน้อย เช่น หากหัวไม้ 5 มีองศาหน้าไม้ 18 องศา ก็น่าจะลองไม้กะเทยประมาณ 16 องศามาแทน เพื่อชดเชยในเรื่องของความยาว ที่ไม้กะเทยมักจะสั้นกว่า Fairway wood ที่มีองศาเท่ากัน ทั้งนี้หากได้ลองตีทดสอบระยะ แล้วอย่างนี้ จะไม่ลองหาไม้กะเทยไว้ติดถุงซักอันสองอันหรือครับ ……พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 51 00:18:41 จากคุณ : Sergio Garfield - [ 16 ก.พ. 51 00:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับพี่ จากคุณ : electone - [ 16 ก.พ. 51 03:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลองก่อนครับ... บางคนชอบกระเทย บางคนเกลียดกระเทย...บางคนใช้หัวไม้ 5 ได้ดีกว่ากระเทยครับ... จากคุณ : ผมชื่อต้น - [ 16 ก.พ. 51 08:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนอื่นคงต้องทราบระยะที่แน่นอนของเหล็กยาวของเราแต่ละอันก่อนครับ แล้วก็ไปลองตีไม้ U แต่ละองศาดูว่าระยะเท่าเหล็กเราอันไหน ก็แทนอันนั้น ไม่ลอง กะลำบากครับ ปกติไม้ U ก็น่าจะตีง่ายทุกยี่ห้อนะครับ สำหรับผม ผมใช้ HALO ของ Cleveland ก็ตรงดีครับ จากคุณ : papamint - [ 16 ก.พ. 51 12:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณโปรระครับ ที่ทำให้ผมรู้ว่าพี่เชี่ยวชาญเรื่องกะเทย อิอิ จากคุณ : ลีโอ (leowood) - [ 16 ก.พ. 51 13:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมมีความสงสัยอยู่ครับ คือ.... 1. Utility ก้านเหล็ก เช่น NS Pro 950 หรือ Dynamic Gold จะมีข้อดี ข้อเสีย เทียบกับก้านกราไฟท์ที่สเป็คใกล้เคียงกัน อย่างไรบ้าง? เช่น NS Pro 950 GH เทียบกับ Aldila NV Hybrid 85 หรือ Dynamic Gold เทียบกับก้านพวก V2 105 กรัม เป็นต้น 2. แล้วสเป็คที่คนไทย ความแข็งแรงปกติ (พวกเราคงไม่เกี่ยว นะพี่นะ) ควรจะใช้ เป็นอย่างไรบ้างครับ? 3. ปัจจุบัน ใช้ชุดเหล็ก TS-201 ก้าน DG-S200 หากจะหากระเทยมาใช้แทนเหล็ก 3 ควรจะหาที่ loft ขนาดเท่าใหร่? และก้านอะไร? ดีครับ จากคุณ : Espresso ไม่ใส่น้ำตาล - [ 17 ก.พ. 51 02:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เกลียดกระเทย ( ตีไม่ได้ ) จากคุณ : อ๋ำ เดลี่ - [ 18 ก.พ. 51 13:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบ น้องต้น 1. ก้านเหล็กก็จะเด่นเรื่องความแม่นยำ การควบคุม ส่วนก้าน graphite ก็จะเด่นเรื่องนุ่มนวลกว่า และระยะครับ จากก้านตัวอย่างที่ยกมา Dispersion ของลูกที่เกิดจากก้านเหล็กตามที่ยกมา ดีกว่าก้านกราไฟท์ที่ยกมาครับ 2.สเป็คที่คนไทย ความแข็งแรงปกติ (รวมทั้งพี่ด้วย อิ อิ) เอาเป็น ให้อยู่ในพิสัยเดียวกับเหล็กยาวและแฟร์เวย์วูดครับ ซึ่งคำตอบก็จะกลายเป็นการทำ Specification Matching ของทั้งชุด ไล่ตั้งแต่หัวไม้ ยันเวดจ์ ครับ ให้ไล่กันตั้งแต่เรื่อง Lenght, CPM, Weight, Torque, Kick Point ครับ .... ทั้งหมดต้องไม่โดดไปโดดมาครับ ตอนนี้ชุด Wood ของพี่เข้าที่แล้ว ชุดเหล็กกำลังรอ PX5.5 ครับ 3.ก็เอา S200 นั่นเเหละครับ มาใส่หัวกะเทย ไม่แน่ใจว่าเจ้า 201 องศาเหล็ก 3 เท่ากับ 21 องศาหรือเปล่านะ หากใช่ ก็เอากะเทยสัก 22-23 องศามาบวกกับ S200 ทำความยาวที่ 39.25 - 39.5 ประมาณนี้ครับ ปูลู. --- พี่มี Perry Gear 23 องศา ก้านไม่แน่ใจว่า S300 หนือ X100 อยู่ 1 แท่ง วันศุกร์จะติดไปด้วย หากเจอกันจะได้ลองครับ จากคุณ : Sergio Garfield - [ 19 ก.พ. 51 23:59:02 ]