Road to Moscow? ... โอกาสของทีมจากเกาะอังกฤษ ในถ้วยฟุตบอลใบใหญ่ของยุโรป (Uefa Champions League)
ใครจะว่าลีก Series A ของอิตาลี คือลีกที่เคี่ยวที่สุดในโลก
ใครจะว่าลีกกระทิงอย่าง Spanish La Liga คือลีกที่ดีที่สุดในโลก
แต่สำหรับผม ลีกผู้ดีอังกฤษอย่าง Premiership มีความตื่นเต้นและคุณภาพ ไม่ด้อยไปกว่าสองลีกที่ว่ามาแน่นอน ( เเต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่า premiership คือลีกที่ดีที่สุดในโลก หรือดีไปกว่าสีกสเปน หรืออิตาลี นะครับ ... )
โดยผลงานที่พอจะพิสูจน์ได้ในช่วง 3-4 ปีหลัง ... นั่นก็คือผลงานในเวทียุโรปอย่างแชมป์เปี้ยนส์ลีก ที่ทีมจากอังกฤษได้หลุดเข้าไปในรอบลึกๆ ตลอด
ลองมาไล่เรียงกันดู
ฤดูกาลที่แล้ว (2006/2007) ทีมผีแดงอย่าง Manchester United ก็เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
ในขณะที่หงส์แดงอย่าง Liverpool ก็เข้าถึงรอบชิงฯ แม้ว่าจะแพ้ต่อ AC Milan ไป
ฤดูกาล 2005/2006 ก็เป็นทีมปืนใหญ่ Arsenal ที่ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้ว่าจะต้องพ่ายต่อ Barcelona ไป (Jens Lehman ประตูทีมชาติเยอรมันของ Arsenal ถูกไล่ออกตั้งแต่ต้นเกมส์)
ฤดูกาล 2004/2005
นี่ก็เป็นอีกปี ที่หงส์แดงเป็นตัวแทนจากเกาะอังกฤษ ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ
และที่สำคัญ สามารถปราบ AC Milan จากการดวลจุดโทษ และคว้าแชมป์ Champions League ไปอย่างน่าอัศจรรย์
มาถึงฤดูกาลปัจจุบัน 2007/2008
ทีมจากเกาะอังกฤษ สามารถผ่านจากรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม เข้าไปรอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายถึง 4 ทีมด้วยกัน
ไม่ว่าจะ Arsenal, Man United, Liverpool และ Chelsea
ในขณะที่ลีกกระทิงดุสเปน และลีกมักกะโรนีอิตาลี
มีตัวแทนเพียงลีกละ 3 ทีมเท่านั้น
และผลงานของทั้งสี่ จากเกาะอังกฤษ ในรอบน๊อกเอาท์รอบแรก (16 ทีมสุดท้าย) นัดแรกที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ต้องถือว่าไม่ขี้เหร่เลย ยังมีโอกาสเข้ารอบต่อไปทุกทีม
เริ่มจากหงส์แดงก่อนที่โอกาสดูจะสดใสกว่าเพื่อน เพราะชนะ Inter Milan ในรังของตัวเอง 2-0
เรียกว่านัดที่จะต้องกลับไปเล่นที่บ้านอินเตอร์ฯ ถ้าหงส์แดงไม่ประมาท บวกกับกุนซือราฟา ที่เป็นเจ้าพ่อบอลถ้วยยุโรป หงส์แดงโอกาสเข้า 75%
มาถึง Chelsea
แม้ว่าจะทำได้เพียงเสมอ 0-0 ในการไปเยือนทีมจากกรีซ Olympiacos
แต่ดูแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาในการเล่นนัดที่สองในรังของตัวเองที่ Stamford Bridge
Manchester United
โอกาสในการผ่านเข้ารอบ ก็ดูไม่น่ามีปัญหา เพราะการไล่ตีเสมอ Lyon ทีมแกร่งจากลีกเอิงฝรั่งเศส 1-1 ในบ้านของลียง
ย่อมทำให้ผีแดง มีแต้มต่อพอสมควร ในเรื่องกฎ away goal หรือการยิงประตูได้ในการเล่นเป็นทีมเยือน
และอีกอย่าง การที่ผีแดงได้กลับมาเล่นนัดที่สองในรังของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้งานของผีแดงง่ายเข้าไปใหญ่
มาถึง Arsenal ทีมที่หลายๆ คนบอกว่า โอกาสดูจะน้อยกว่าเพื่อน เพราะเล่นในบ้านของตัวเอง Emirates Stadium ทำได้เพียงเสมอ 0-0 กับ AC Milan ทีมแกร่งจากอิตาลี
ทั้งๆ ที่ เล่นดีมากๆ แต่ก็ไม่ฉวยโอกาสที่สร้างสรรค์ขึ้นมา เปลี่ยนให้เป็นประตู โดยเฉพาะลูกโหม่งจ่อๆ ของ Adebayor ในนาทีสุดท้าย
หลายคนมองว่า การกลับไปเล่นที่ San siro บ้านของมิลานในนัดตัดสิน
ปืนใหญ่ ไม่น่ารอด เพราะ AC Milan นั้นทั้งเก๋า ทั้งเคี่ยว และเมื่อถึงนัดนั้น นักเตะหลักๆ ที่ไม่สมบูรณ์คงฟิตเต็มที่ด้วย
ยิ่งสถิติในช่วงห้าปีหลังของมิลาน ในรอบนี้ (16 ทีมสุดท้าย)
มิลานไม่เคยพลาดในการเล่นนัดที่สองในรังของตัวเองเลย มิลานชนะทุกครั้ง และเข้ารอบตลอด
แต่ก็อย่าลืมว่า ในบอลยุโรปถ้วยนี้ปี 2003
Arsenal ก็เคยไล่ถล่ม Inter Milan ที่สนามซานซิโร่นี่แหล่ะ มาแล้ว 5-1
วิเคราะห์ต่อ
การที่ปืนได้เล่นในบ้านตัวเองก่อน โดยที่ยิงไม่ได้ ... เเต่ก็ไม่เสีย 'away goal' ... ผมว่าอันนี้สำคัญ เพราะนัดหน้า Milan ก็จะไม่สามารถผลีผลามบุกปืนได้ เพราะกลัวโดนสวน 'away goal'
ปืนเองก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเร่งเกมส์บุก เล่นเเบบระมัดระวังได้ ... เพราะตราบใดยัง 0-0 ผมว่าปืนไม่เสียเปรียบ ... Milan เองถ้าพลาดโดน 'away goal' เอาเเค่ 1 ประตูก็พอ จากปืน ... ผมว่าทีมที่เหนื่อยเป็นสองเท่าคือ มิลาน ... เพราะเสมอ 1-1 ปืนก็เข้ารอบ
เเละเพียงเเค่ 1 ประตู ... ถ้าจังหวะดีๆ สวนกลับจากนักเตะหนุ่มที่มีความเร็ว เเละสด ... ผมคิดว่าปืนมีโอกาสครับ
ผมขอให้โอกาส ในการเข้ารอบของปืนไม่ต่ำกว่า 50% ... เพียงเพราะ จุดสำคัญคือการที่ไม่เสีย 'away goal' ในบ้าน
และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมวิเคราะห์มา
จะมีทีมจากอังกฤษผ่านเข้าไปรอบแปดทีมสุดท้ายถึง 4 ทีมด้วยกัน
นั่นก็หมายถึงโอกาสที่ทีมจากอังกฤษจะผ่านเข้าไปรอบรองฯ หรือแม้แต่รอบชิงฯ ของแชมป์เปี้ยนส์ลีก ก็ดูจะมีโอกาสมากๆ ตามไปด้วย
หมายเหตุ : การเตะนัดที่สองของรอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย
จะเตะกันในวันที่ 4 และ 5 มีนาคม 2551 หรืออาทิตย์หน้านี่เอง (ยกเว้นคู่ Inter Milan กับ Liverpool)
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 51 10:33:20
จากคุณ :
hi-so gunner
- [
23 ก.พ. 51 02:13:07
]