ความคิดเห็นที่ 3
หงส์ได้คาร์ร่ารับโบลตันทอฟฟี่รอฉะพอร์ทสมัธ
คืนวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2551 ยังมีฟุตบอลพรีเมียร์ลีกให้ได้ลุ้นกันอีก 2 คู่ โดยเป็นเกมระหว่างโบลตัน-ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน-พอร์ทสมัธ ส่วนความพร้อมของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยครับ
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (ฤดูกาล 2007/08) (วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2551)
โบลตัน(16) - ลิเวอร์พูล(5)
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์ สนาม:รีบ๊อกซ์ สเตเดี้ยม เวลาเตะ : 20.30 น. สภาพอากาศ : แจ่มใส
สภาพทีมโดยทั่วไป โบลตัน แกรี่ เม็กสัน กุนซือโบลตัน จะชวดใช้งานแดนนี่ กัทธรี กองกลางดาวรุ่ง ตามสัญญาที่ระบุไว้ในสัญญายืมตัวมาจากทีมหงส์แดงเพียงรายเดียว ทำให้อันดรานิค เตย์มูเรียน จะได้โอกาสลงโชว์ฝีเท้าแทน รวมไปถึงโจอี้ โอไบรอันที่น่าจะได้เล่นแทนอีบัน กัมโป้ ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นยุสซี่ ยาสเคไลเน่น, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, เควิน โนแลน, แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ เควิน เดวิส ต่างพร้อมช่วยทีมได้ตามปกติ ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # โบลตัน : ไม่มี ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # โบลตัน : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม โบลตัน (4-1-4-1) : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น - เกรตาร์ สไตน์สสัน, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ - โจอี้ โอไบรอัน - เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, เควิน โนแลน, อันดรานิค เตย์มูเรียน, แม็ทธิว เทย์เลอร์ - เควิน เดวิส ผู้จัดการทีม : แกรี่ เม็กสัน
ลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูล จะได้เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาและพร้อมลงสนามในลีกเป็นนัดที่ 350 ให้ทีมด้วย ส่วนดาเนียล อั๊กเกอร์ แนวรับอีกรายที่แม้จะหายจากอาการกระดูกเท้าแตกและลงเล่นในทีมสำรองได้แล้ว แต่ยังไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ เพราะยังต้องอาศัยเวลาในการเรียกความฟิตอีกสักระยะ เช่นเดียวกับอังเดร โวโรนิน ที่กลับมาซ้อมได้แล้ว หลังหายเจ็บข้อเท้า ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆยังพร้อมช่วยทีมได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโฆเซ่ มานูเอล เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ไรอัน บาเบล, เดิร์ค เค้าท์ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # ลิเวอร์พูล : ไม่มี ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # ลิเวอร์พูล : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - ลูกัส เลว่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ไรอัน บาเบล - เฟร์นานโด ตอร์เรส, ปีเตอร์ เคร้าช์ ผู้จัดการทีม : ราฟาเอล เบนิเตซ
ข้อมูลที่น่าสนใจ โบลตัน # ชนะ 2 จาก 9 เกมหลังสุด # เคยแพ้เกมลีก 3 นัดติดต่อกันในช่วง 11-18 ส.ค. ปีก่อน # ชนะ 5 จาก 17 เกมภายใต้การคุมทีมของ แกรี่ เม็กสัน # ใช้ผู้เล่นมากสุดอันดับ 3 ของลีก (30) รองจาก ดาร์บี้ (34) และฟูแล่ม (33) # ยังไม่ชนะใน 14 เกมลีกที่ถูกยิงประตูขึ้นนำไปก่อน # ชนะแค่นัดเดียวใน 9 เกมหลังสุดที่พบกับทีมในกลุ่มบิ๊กโฟร์คือ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อ 24 พ.ย. ปีก่อน # ไม่เสมอเกมลีกแบบมีสกอร์มาแล้ว 15 นัดติดต่อกัน # ยิงประตูในเกมลีกในบ้านไม่ได้มา 227 นาที ตั้งแต่ที่ เควิน โนแลน ยิงได้ในเกมแพ้ แบล็คเบิร์น 1-2 เมื่อ 13 ม.ค. # เกมนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ก่อนจะออกไปเยือน วีแกน ในเกมลีกต่อไป
ลิเวอร์พูล # ชนะ 2 จาก 3 เกมหลังสุดและแพ้เพียงนัดเดียวใน 10 นัดล่าสุด # เสมอ 5 จาก 8 เกมหลังสุด # เป็นทีมที่แพ้เกมลีกน้อยนัดสุดอันดับ 2 ของลีก (3) เป็นรองเพียง อาร์เซน่อล (1) # เสียประตูน้อยสุดอันดับ 3 ของลีกคือ 19 ประตูจาก 26 นัดหรือเสียประตูเฉลี่ยทุกๆ 123 นาที # ถูกยิงประตูขึ้นนำไปก่อนในเกมลีกเพียง 6 นัด เป็นรองเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด (5) # เป็นทีมที่มีผู้เล่นถูกจดชื่อน้อยสุดอันดับ 2 ของลีกคือ 35 ใบเหลือง เป็นรองเพียง เอฟเวอร์ตัน ที่เสีย 28 เหลือง 3 แดง # เป็นทีมที่เสมอแบบโนสกอร์มากนัดสุดร่วมกับ พอร์ทสมัธ (5) # ยิงประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายมากสุดอันดับ 2 ของลีก (8) เป็นรองเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด (10) # เก็บได้เพียง 3 คะแนนจาก 4 เกมลีกนอกบ้านหลังสุด และยังไม่ชนะอีกเลยตั้งแต่เกมชนะ ดาร์บี้ 2-1 เมื่อ 26 ธ.ค. ปีก่อน # ยิงประตูเกมลีกนอกบ้านไม่ได้ 199 นาทีตั้งแต่ที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตีเสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-1 เมื่อ 12 ม.ค. # เกมลีกนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ เวสต์แฮม ตามด้วย นิวคาสเซิ่ล ก่อนจะบุกไปเยือน อินเตอร์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
เฮด ทู เฮด # พบกันทั้งหมดในลีก โบลตัน ชนะ 35 ลิเวอร์พูล ชนะ 45 เสมอ 29 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ โบลตัน ชนะ 3 ลิเวอร์พูล ชนะ 10 เสมอ 4 # พบกันทั้งหมดในลีกที่ โบลตัน ชนะ 25 ลิเวอร์พูล ชนะ 16 เสมอ 13 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ที่ โบลตัน ชนะ 3 ลิเวอร์พูล ชนะ 2 เสมอ 3
สถิติที่พบกัน # ลิเวอร์พูล ไม่เคยบุกมาชนะ โบลตัน ในเกมพรีเมียร์ลีกได้อีกเลย ตั้งแต่ เอมิล เฮสกี้ เป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 88 ช่วยให้หงส์แดง เฉือนชนะหวุดหวิด 3-2 เมื่อ 14 ก.ย. 2002 และ 6 จาก 7 เกมหลังสุดที่พบกันทีมเจ้าบ้านจะมีสถิติไม่เสียประตู
เอฟเวอร์ตัน(4) - พอร์ทสมัธ(7)
ผู้ตัดสิน :อังเดร มาร์ริเนอร์ สนาม:กูดิสัน ปาร์ค เวลาเตะ : 23.00 น. สภาพอากาศ : แจ่มใส
สภาพทีมโดยทั่วไป เอฟเวอร์ตัน เดวิด มอยส์ กุนซือเอฟเวอร์ตัน ยังคงไม่มีมิเกล อาร์เตต้า ที่มีอาการเจ็บโคนขาหนีบรบกวน ส่วนลี คาร์สลี่ย์ ยังลงช่วยทีมได้ แม้จะสะสมใบเหลืองครบตามโควตาแล้วก็ตาม เนื่องจากโทษแบนจะมีผลในวันจันทร์นั่นเอง แต่ในรายของแอนดี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด้, แอนโธนี่ การ์ดเนอร์, โธมัส กราเวอเซ่น และ เอียน เทอร์เนอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนยังคงชวดทั้งหมด ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทิม ฮาวเวิร์ด, โจเซฟ โยโบ, ฟิล เจกีลก้า, ลีออน ออสแมน, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์ และ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ยังพร้อมช่วยทีมได้ตามปกติ ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # เอฟเวอร์ตัน : มิเกล อาร์เตต้า (โคนขาหนีบ), แอนดี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด้ (น่อง), แอนโธนี่ การ์ดเนอร์ (เข่า), โธมัส กราเวอเซ่น (เข่า), เอียน เทอร์เนอร์ (สะโพก / ต้นขา) ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # เอฟเวอร์ตัน : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เอฟเวอร์ตัน (4-4-1-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, ฟิล เจกีลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์ - ลีออน ออสแมน, ฟิล เนวิลล์, ลี คาร์สลี่ย์, สตีเว่น ปีนาร์ - ทิม เคฮิลล์ - ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์
พอร์ทสมัธ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือพอร์ทสมัธ จะไม่มีทั้งโนเอ้ ปามาโร่ต์, เดวิด นูเจนท์, มิเกล เปโดร เมนเดส, ลินวอย ไพรมัส และ มาร์ติน เครนี่ย์ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด แต่ในส่วนของแกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเดวิด เจมส์, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, ป๊าป บูบา ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซัลลี่ย์ อาลี มุนตารี่, นิโก้ ครานจ์คาร์ และ เจอร์เมน เดโฟ ยังพร้อมช่วยทีมได้ตามปกติ ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # พอร์ทสมัธ : โนเอ้ ปามาโร่ต์ (เข่า), เดวิด นูเจนท์ (ไส้เลื่อน), มิเกล เปโดร เมนเดส (เท้า), ลินวอย ไพรมัส (เข่า), มาร์ติน เครนี่ย์ (ขา) ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # พอร์ทสมัธ : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม พอร์ทสมัธ (4-1-4-1) : เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน - ป๊าป บูบา ดิย็อป - จอห์น อูตาก้า, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซัลลี่ย์ อาลี มุนตารี่, นิโก้ ครานจ์คาร์ - เจอร์เมน เดโฟ ผู้จัดการทีม : แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์
ข้อมูลที่น่าสนใจ เอฟเวอร์ตัน # ชนะ 5 เสมอ 2 และยังไม่แพ้ใคร ตั้งแต่แพ้อาร์เซน่อล 14 เมื่อ 29 ธ.ค. ปีก่อน ซึ่งเป็นการแพ้นัดเดียวใน 9 เกมหลังสุดด้วย # เก็บแต้มไปแล้ว 50 คะแนนจาก 27 นัดมากกว่าเมื่อครั้งที่จบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2004/05 อยู่ 2 คะแนน # เพิ่งเสียประตูแค่ลูกเดียวใน 7 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ # ไม่เสียประตูในเกมลีกมา 397 นาทีตั้งแต่ ฟิล จากีลก้า สกัดเข้าประตูตัวเองในเกมชนะ วีแกน 2-1 เมื่อ 20 ม.ค. # เป็นทีมที่มีผู้เล่นถูกจดชื่อน้อยสุดในลีกคือ 28 ใบเหลือง 3 ใบแดง # เกมนัดต่อไปจะออกไปเยือน ฟิออเรนติน่า ในยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแก ก่อนจะออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในเกมลีกต่อไป
พอร์ทสมัธ # แพ้เพียงนัดเดียวใน 7 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ # ชนะ 3 จาก 6 เกมหลังสุด # กำลังลุ้นชนะเกมลีก 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 17 นัดตั้งแต่เคยชนะ 4 นัดรวดเริ่ม 23 ก.ย. - 20 ต.ค. ปีก่อน # ชนะรวดทั้ง 10 เกมลีกที่ยิงประตูขึ้นนำคู่แข่งไปก่อน # ไม่ชนะเกมลีกเพียงนัดเดียวจากเกมที่มีโอกาสชนะ ในเกมที่เสมอกับ ดาร์บี้ 2-2 ในนัดเปิดฤดูกาล # ชนะเกมลีกนัดเยือนไปแล้ว 8 นัดในฤดูกาลนี้มากสุดของลีกเท่ากับ เชลซี # ชนะเกมลีกนัดเยือนมากกว่านัดเหย้า 4 เกมและเก็บแต้มได้มากกว่า 6 คะแนน # เกมนัดต่อไปจะออกไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะเปิดบ้านพบ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ในเกมลีกต่อไป
เฮด ทู เฮด # พบกันทั้งหมดในลีก เอฟเวอร์ตัน ชนะ 22 พอร์ทสมัธ ชนะ 22 เสมอ 9 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ เอฟเวอร์ตัน ชนะ 6 พอร์ทสมัธ ชนะ 2 เสมอ 1 # พบกันทั้งหมดในลีกที่ เอฟเวอร์ตัน ชนะ 13 พอร์ทสมัธ ชนะ 8 เสมอ 5 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ที่ เอฟเวอร์ตัน ชนะ 3 พอร์ทสมัธ ชนะ 1 เสมอ 0
สถิติที่พบกัน # เกมแรกที่ทั้งคู่พบกันในฤดูกาลนี้ช่วงเดือน ธ.ค. ปีก่อน และเกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เกมพรีเมียร์ลีกที่ไม่มีการทำสกอร์กันเกิดขึ้น
http://www.siamsport.co.th/25510302-023.html
จากคุณ :
solo one
- [
2 มี.ค. 51 13:41:37
]
|
|
|