ความคิดเห็นที่ 3
ล็อกถล่ม!ผีบุกเพลินถูกน็อกคาบ้าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปูพรมใส่ปอร์ทสมัธอย่างหนักหน่วงหมายปิดฉากแต่สุดท้ายเจอลูกสวนพรวดเดียวสามจังหวะเสียจุดโทษแถมโทมัส คูสแซ็คถูกไล่ออกกลายเป็นประตูชัยจากจุดโทษของมุนทารี่ก่อนหมดเวลา 15 นาทีตกรอบเอฟเอ คัพอย่างพลิกล็อกและช็อกแฟนบอลทั่วโลก
แมนฯยูฯ 0 - 1 ปอร์ทสมัธ
ประตู : 0-1 มุนทารี่ น.75(จุดโทษ)
"ปิศาจแดง"เจอปอมปีย์ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกมาทั้งหมดไล่จากแอสตัน วิลล่า,สเปอร์สและอาร์เซนอลโดยเฟอร์กูสันไม่มีความจำเป็นต้องพักตัวเพราะไม่มีเกมอื่นให้ห่วงอีกแล้วและต้องการเช็กบิลในเกมนี้ไปเลยโดยโรนัลโด้และเวย์น รูนีย์สองตัวหลักควงแขนลงเล่นพร้อมกันโดยคู่นี้เคยเจอกันในพรีเมียร์ลีกที่สนามแห่งนี้เป็น"ปิศาจแดง"ซิวไป 2-0
เริ่มเกมมาเป็นทีมเยือนที่พาบอลมาลุยก่อนและแค่ 50 วินาทีดิยาร์ร่าวิ่งชน"โด้จิ๋ว"ที่กำลังติดเครื่องตรงริมเส้นล้มหงายทั้งยืน
นาทีที่ 4 นานี่ถูกทำฟาว์ลตรงริมเส้นฝั่งซ้ายและเล่นเร็วเป็นเอวร่าที่ควบึ้นมาตรงกลางก่อนทำชิ่ง 1-2 กับเตเบซแต่แข้งทีมชาติอาร์เจนติน่าไหลบอลเข้าเขตโทษลั่นไปนิดทำให้แบ็คตาโปนวิ่งไปเอาไม่ทัน ถ้าเบากว่านี้ได้หลุดไปดวลเดี่ยวกับเจมส์แน่นอน
โอกาสแรกของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 5 หลัง"โด้จิ๋ว"ถูกทำฟาว์ลเส้นหลังใกล้ๆกรอบโทษเป็นนานี่ปั่นฟรีคิกเข้ามาเป็นสโคล์สอดหัวมาโขกที่เสาแรกแต่บิดไม่ได้เลยออกหลังไปเอง อีก 2 นาทีต่อมายูไนเต็ดน่าจะได้จุดโทษหลังรูนีย์เปิดบอลข้ามฝากให้โรนัลโด้แตะพรวดเดียวหลุดจากปีกขวาเข้าเขตโทษแต่ดิสแต็งดักทางชนปีกจอมสับล้มลมเห็นๆแต่กรรมการโบกมือให้เล่นต่อเฉย เล่นเอาป๋าลุกออกมาด่าโล้งเล้ง
ปอมปีย์ทำฟาว์ลบ่อยมากและนาทีที่ 9 สโคลส์โดนสะกิดล้มลงหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาเป็น"โด้จิ๋ว"ที่รับอาสาและนานี่คราวนี้ไม่กล้ามาแย่งเหมือนที่เคยทำไว้กับฮาร์กรีฟส์ แต่เก๊กยืนหล่อตั้งนานยิงไปติดกำแพงเอง
ดิยอฟโดนเหลืองเป็นคนแรกหลังไปทำฟาว์ลขวางทางวิ่งของโด้จิ๋วจนได้ตอนนี้ยูไนเต็ดพับสนามบุกอยู่ข้างเดียวและถ้าเป็นแบบนี้ประตูแรกน่าจะมาในไม่ช้านี้แน่
นาที 16 ครันชาร์เกือบทำแสบหลังหลอกจะยิงจนบราว์นวิ่งมาบล็อกลมก่อนสับไกจังหวะสองระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงแต่ตรงตัวฟาน เดอร์ ซาร์ที่รับจังหวะแรกไม่อยู่นิดหน่อย
อีก 3 นาทีจังหวะสวนของยูไนเต็ดหลังปอมปีย์ได้เตะมุมก็น่าจะเป็นประตูสุดๆหลังเจ้าถิ่นหลุดสองรุมหนึ่งเหลือจอห์นสันคนเดียวก่อนที่เตเบซจะแทงให้รูนีย์หลุดไปดวลเดี่ยวกับเจมส์แต่ดันไปเลือกล็อกหลบเลยถูกกองหลังมาแย่งไว้จนบอลทะลักมาถึงเตเบซที่อัดเต็มๆแต่จอห์นสันยืนบนเส้นโหม่งเคลียร์ปากประตูโล่งๆได้อย่างเหลือเชื่อ
นาที 21 ปอมปีย์ได้ฟรีคิกไกลเป็นแคมป์เบลล์วางยาวมาหน้าประตูลูกมาตกที่บราว์นแต่อูทาก้าชาร์จไม่ทันถูกฮาร์กรีฟส์เคลียร์เอาไว้ได้
เกมรุกของยูไนเต็ดไม่จัดจ้านเหมือนช่วงต้นโดยที่โรนัลโด้และรูนีย์เริ่มหายไปจากเกมส่วนทีมเยือนดักจังหวะและช่วยกันได้ดีขึ้นเป็นกอง
ยูไนเต็ดยิ่งเล่นยิ่งหาทางเจาะเข้าลำบากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักโดยเกมรับของปอมปีย์เหนียวแน่นและแดนกลางเก็บบอลเก่งเกือบทุกตัวเลย
ลูกเปิดจากริมเส้นของ"ปิศาจแดง"สร้างความหวาดเสียวได้หลายครั้งแต่กองหลังปอมปีย์ก็เคลียร์ได้ทุกครั้งเช่นกัน
ช่วงทดเจ็บยูไนเต็ดได้เตะมุมเป็นจมส์ที่ออกมาชกไม่เจอบอลหลังสโคล์สโหม่งเช็ดได้ก่อนจนร้อนถึงเพื่อนร่วมทีมต้องช่วยกันเคลียร์จุพลุก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าหมดครึ่งแรก สกอร์ยันกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังพักกัน 15 นาทีมาลุยใหม่เป็นเจ้าถิ่นที่ชวนทะเลาะตามธรรมชาติทันทีแต่แนวรับของปอร์ทสมัธยังไม่พลาดเช่นเดิม
นาที 51 นานี่ฝากบอลให้รูนีย์ที่หันหลังบังบอลหน้าเขตโทษก่อนแตะคืนให้ปีกโปรตุเกสวิ่งมายิงตะแคงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งสุดแรงแต่ตรงตัวเดวิด เจมส์ที่ยืนรับเข้าซองแบบไม่มีปัญหา
ยิ่งปอมปีย์หาโอกาสบุกมากเท่าไหร่จังหวะสวนของยูไนเต็ดก็น่ากลัวมากขึ้นเท่านั้นและการทำเกมของนานี่,โรนัลโด้ลงท้ายด้วยรูนีย์ได้จบสกอร์แต่ยิงข้ามคานออกไปเอง
เร้ดแนปป์ส่งบารอสลงมาป่วนแทนคานูทำให้ริโอซึ่งตอนแรกตามจับคานูต้องเหนื่อยหนักขึ้นไปอีกแต่เกมช่วงนี้ปอมปีย์ยังเล่นเป็นระเบียบอาจมีเสียบอลบ้างแต่แดนกลางและกองหลังตามมาช่วยกันทันเสมอ
นาที 58 ยูไนเต็ดพลาดโอกาสได้ประตูอย่างที่สุดจากลูกเตะมุมของนานี่บอลโย้อยมาเสาสองเป็นวิดิชที่โก่งคอโขกเน้นๆแต่ไปติดเตเบซที่หันหลังยืนบังเจมส์ก่อนล้มลุกคลุกคลานจะมาซ้ำแต่เจอรุมสกรัมจากแข้งปอมปีย์เคลียร์ทิ้งบอลไปเข้าทาง"โด้จิ๋ว"ที่ดึงจังหวะก่อนยิงเบนเส้นบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ยิ่งบุกยิ่งมันสำหรับเจ้าถิ่นเพราะปล่อยไว้แบบนี้อาจมีถึงรีเพลย์แน่แต่การเข้าเจาะตรงลำบากสุดๆดังนั้นการเปิดจากริมเส้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดเสียอย่างเดียวคือยูไนเต็ดมีบราว์นซึ่งได้เปิดหลายครั้งแต่ยังไม่แม่นยำนัก
นาที 63 ดิยาร์ร่าติดเครื่องห้อจากแดนกลางมาถึงหน้าเขตโทษก่อนแทงยาวให้บารอสหลุดเข้าเขตโทษแต่เจอกองหลังยูไนเต็ดรุมเลยไปต่อไม่ได้และต้องแทงให้เพื่อนวิ่งเข้ามายิงนอกเขตติดบล็อกเสียจังหวะไปเอง
อีก 2 นาทีโรนัลโด้เล่นเหนือไขว้ทำชิ่ง 1-2 กับรูนีย์จนได้จังหวะวิ่งมายิงเลยเส้นเขตโทษเข้าไปข้างในนิดหน่อยตอนแรกทำท่าจะเอี้ยวตัวปั่นไซด์แต่เปลี่ยนใจยิงเสาแรกบอลเลยบดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 67 เจ้าถิ่นต่อบอลกันสวยอีกแล้วเริ่มจากโรนัลโด้แทงให้รูนีย์ตรงหน้าเขตโทษเยื้องฝั่งซ้ายก่อนที่หมูพลิ้วจะเหลือบเห็นเอวร่าวิ่งทำท่างเลยแทงสั้นๆและเร็วหลุดเข้าถึงเขตโทษแต่แบ็คตาโปนดันแตะเข้ากลางยืนหลังเตเบซที่วิ่งเลยไปทำให้พลาดโอกาสทองอย่างที่สุดไปหน้าตาเฉย
นาที 70 ช็อตเหลือเชื่อของเกมนีมาถึงเมื่อคาร์ริคที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาทำชิ่ง 1-2 กับโรนัลโด้ที่ถูกตัวประกบคุมอยู่เลยตอกส้นให้มิดฟิลด์จอมจ่ายหลุดไปแตะหนีเดวิด เจมส์อย่างเหนือแต่บอลไปพันแข้งพันขาทำให้จังหวะยิงปากประตูโล่งๆต้องล้มตัวกวาดไปติดบล็อกดิสแต็งแถมชุลมุนอยู่จนบอลไปอยู่บนเส้นแต่ดิสแต็งก็ยัอุตสาห์หวดทิ้งไปได้อีก
ยูไนเต็ดมาเป็นชุดอีกและอีก 2 นาทีไม่รู้บอลไม่เข้าได้อย่างไรหลังลูกโหม่งเคลียร์หน้าประตูที่กองหลังปอมปีย์ยืนอยู่กันเต็มไปหมดไปเข้าทางเอวร่าที่วิ่งมายิงเต็มข้อด้วยอีซ้ายบอลพุ่งติดปลายมือเจมส์จูบเสากระเด้งไม่เข้าสุดช็อก
นาที 74 ยูไนเต็ดใช้นานี่เปิดบอลจากฝั่งขวาแทนและบอลจากปลายตีนแข้งโชว์โบทเป็นแคมป์เบลล์สไลด์เคลียร์หน้าประตูผ่านออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่ออีก แต่อีกนาทีเดียวยูไนเต็ดพลาดท่าเจอปอมปีย์สวยกลับเจมส์เตะจุดพลุเร็วเป็นบารอสโขกชิงจังหวะก่อนรูนีย์และเตเบซที่เป็นสองตัวรับสุดท้ายให้ครันชาร์ทางขวาก่อนแข้งโครเอเชียฉลาดแตะปาดเข้ากลางให้บารอสหลุดไปล็อกหลบคูสแซ็คที่ตัดสินใจรวบขาจนกรรมการให้จุดโทษและให้ใบแดงจอมหนึบตัวสำรองที่เปลี่ยนมาแทนฟาน เดอร์ ซาร์ทำให้ริโอต้องรับหน้าที่นายนทวารจำเป็นแทนแต่ตอนนี้ยูไนเต็ดต้องเล่น 10 ตัวแล้ว
และมุนทารี่อัดเต็มข้อเสียบมุมซ้ายมือของริโอที่ดักทางถูกพุ่งสุดมือแต่ไม่ทัน ปอมปีย์พลิกล็อกนำ 1- 0 ทั้งๆที่น่าจะเสียไปหลายลูกแล้ว
ผีแดงโหมบุกหนักเหมือนคนบ้าแต่เกมรับของปอมปีย์แกร่งตั้งแต่ไหนแต่ไรทำให้หากไร้ความมหัศจรรย์ของแข้งเจ้าถิ่นโอกาสตกรอบมีสูงมาก
ช่วงท้ายเกมด้วยเกมรับที่แน่นขนัดของปอร์ทสมัธทำให้โรนัลโด้และนานี่ที่ดื้อพยายามเจาะเข้าเองต้องทำเสียบอลจนเจอสวนและถูกเผาเวลาไปหลายครั้งจนกระทั่งครบเวลาทดเจ็บ 4 นาทีปอมปีย์บุกมาเอาชนะยูไนเต็ดอย่างพลิกล็อกเข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพอย่างสุดอลังการ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม(คะแนนความสามารถแบบ Real time )
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6(คูสแซ็ค น.46,4 ),เวส บราว์น 5,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,เนมันย่า วิดิช 6,ปาทริซ เอวร่า 6,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 7,พอล สโคลส์ 6,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 7(คาร์ริค น.69),นานี่ 7,เวย์น รูนีย์ 6 ,คาร์ลอส เตเบซ 7(อันแดร์สัน น.68)
สำรอง : ซาฮา,โอเชีย
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ 7,เกล็น จอห์นสัน 8,โซล แคมป์เบลล์ 7,ซิลแวง ดิสแต็ง 8,เฮอร์มาน ไฮร์ดาร์สสัน 76,จอห์น อูทาก้า 6(อูทาก้า น.74),ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 9*,ปาป้า บูบ้า ดิยอฟ 7 ,นิโก้ ครันชาร์ 7(ฮิวจส์ น.81),ซุลลีย์ มุนตารี่ 7,เอ็นวานโก้ คานู 6(บารอส น.54,7)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : แอชดาว์น,เอ็มวูเอ็มบ้า
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=80260
จากคุณ :
CrazyMc
- [
9 มี.ค. 51 09:54:34
]
|
|
|