ความคิดเห็นที่ 1 เกมนัดนี้ เราได้แข่งก่อนอาร์เซนอลนะครับ แม็ตช์ชนแม็ตช์ นั่นก็คือ อาร์เซนอลที่พลาดท่าทำได้แค่เสมอมาจากนัดสัปดาห์ก่อนหน้านั้น มีแต้มนำหน้ายูไนเต็ดเพียงแค่สองแต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ทำให้ยูไนเต็ด หมายมั่นปั้นมือมาเก็บสามแต้มที่ไพรด์ ปาร์คอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันอาร์เซนอลที่จะลงแข่งตามหลังให้มากที่สุด แต่... ท่านเซอร์ก็ทำให้หัวใจแฟนๆเต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง เมื่อส่งแข้งสำรองลงมาพอสมควรในเกมนี้ และกว่าจะเก็บชัยชนะไปได้ ก็ทำให้แฟนๆได้เสียวหัวใจไปหลายรอบเหลือเกิน ผู้รักษาประตูนั้น น้าซาร์ยังคงเจ็บโคนขา และคุสแซ็คก็ติดโทษแบนจากใบแดงนัดก่อนหน้า ทำให้โอกาสตกมาอยู่กับเบน ฟอสเตอร์ นายทวารดีกรีทีมชาติอังกฤษอายุเพียง 24 เท่านั้น ส่วนแผงหลัง คู่เซ็นเตอร์ฮาลฟ์ เลือกดร็อป ริโอ เฟอร์ดินานด์ ใช้บริการเวส บราวน์ และ เนมานย่า วิดิช ยืนคู่กัน ฟูลแบ๊คด้านขวาเป็น จอห์น โอเช ด้านซ้ายเป็น ปาทริซ เอวร่า คู่กองกลางเลือกใช้ พอล สโคลส์ และ อันแดร์สัน ทางด้านกว้างมี ไรอัน กิ๊กส์ และ ปาร์ค ชี ซอง คู่กองหน้าให้ความไว้วางใจ เวยน์ รูนี่ย์ และ โรนัลโด้ ยืนคู่กัน โดย ไลน์อัพ ออกมาเป็นดังนี้               รูนี่ย์     โรนัลโด้ กิ๊กส์    อันแดร์สัน  สโคลส์  ปาร์ค เอวร่า      วิดิช        บราวน์   โอเช                   ฟอสเตอร์ ทั้งนี้ ทั้งนั้น ทางฝั่งดาร์บี้เอง ตัวผู้เล่นบาดเจ็บเยอะมาก จนไม่ค่อยมีทางเลือกในการจัดทีมมากนัก แต่ยังส่งตัวหลักอย่าง โรเบิร์ต เอิร์นชอว์, ร็อบบี้ ซาเวจ และเคนนี่ มิลเลอร์ ลงมาได้ และมี รอย คาร์โรลล์ อดีตเด็กผีแดง ยืนเฝ้าเสาอยู่ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การที่ทีมต้องการสามแต้มเป็นอย่างมาก เพื่อกดดันอาร์เซนอลต่อไป แต่ต้องมาเจอกิมบ๊วยอย่างดาร์บี้ ที่ตัวหลักเจ็บมากมายเช่นนี้ ผมก็คาดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ท่านเซอร์ต้องโรเตชั่นแน่ๆ และมันก็เป็นจริง ตำแหน่งผู้รักษาประตูคงว่าอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีทางเลือก แต่กับตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนั้น ขัดใจผมมาก เพราะบราวน์ และวิดิช ไม่ใช่ตัวบุ๋นทั้งคู่ แต่เป็นตัวบู๊ ซึ่งถือเป็นตัวชน ตัวกวาดตัวแรกมากกว่าที่จะเป็นตัวอ่านทางบอล และเก็บตกบอลจากการชนของเซ็นเตอร์ตัวแรก ทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจค่เซ็นเตอร์คู่นี้เท่าไหร่ และผมกลับนึกถึงปิเก้ เกมนี้ท่านเซอร์น่าจะให้โอกาสปิเก้มากกว่าที่จะเลือกตัวชนทั้งสองตัวมายืนคู่กันครับ ส่วนกองกลางนั้น น่าจะเคลียร์ได้แล้วว่าโอกาสที่สโคลส์ กับ กิ๊กส์จะเล่นคู่กันนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นในเกมใหญ่แบบเต็มๆเกมอีกต่อไปแน่นอน เพราะเท่าที่ดู ขนาดเล่นกับดาร์บี้ ทั้งคู่ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่เหนือกว่าคู่แข่งให้เห็นแบบเด่นชัดเท่าไหร่ กลับถูกแย่ง ถูกล้วงบอลบ่อยๆด้วยซ้ำ และการที่ตัวผู้เล่นเป็นชุดผสมตั้งแต่หลังยันหน้าเช่นนี้ มันทำให้การต่อบอลที่เคยลงตัวกว่านี้ เกิดความสับสนและผิดพลาดขึ้นบ่อยๆ บอลไปได้ไม่สุด โอกาสจบสกอร์จากการต่อบอลสวยๆมีน้อย เพราะโอกาสส่วนมากมาจากจังหวะฉาบฉวยและโต้กลับซะมากกว่า อีกทั้ง สปีดเกมที่เร็วจัดๆ ยังส่งผลให้ทั้งคู่มีเวลาน้อยในการเล่นกับบอล และเสียบอลง่าย เกมของดาร์บี้ในวันนี้ มาน่ากลัวจริงๆ นักเตะทุกๆคนวิ่งไล่บอลอย่างบ้าคลั่ง และไล่เพรสซิ่งแย่งบอลยูไนเต็ดตั้งแต่แดนกลางสนาม ถึงแม้จะครองบอลต่อเกม เดินเกมบุกได้ไม่กดดันเท่าไหร่นักในครึ่งแรก แต่การเล่นเกมโต้กลับของดาร์บี้ กลับสร้างปัญหาหนักหน่วงต่อแมนฯยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ร็อบบี้ ซาเวจ และเดวิด โจนส์ ขยันมากจริงๆ วิ่งไล่บอลตั้งแต่หลังยันหน้า และสามารถเปิดป้อนบอลโต้กลับสวยๆให้ มิลเลอร์ และ เอิร์นชอว์ได้จบสกอร์หลายต่อหลายลูก แต่นัดนี้ เหมือนฟ้าเปิดโอกาสให้ฟอสเตอร์ได้โชว์ เขาสามารถงัดซูเปอร์เซฟสวยๆ มาช่วยชีวิตทีมได้ทุกๆครั้ง ถึงแม้สภาพสนามและอาการตื่นๆ จะทำให้เขามีปัญหากับการเตะบอลจากลูกส่งกลับหลังอยู่หลายๆจังหวะก็ตามที่ทำให้เราเสียวหัวใจตลอดเกม จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เกมนัดนี้ ทั้งคู่ใส่กันเต็มที่ เปิดเกมบุกซดกันอย่างไม่หายใจจริงๆ แมนฯยูไนเต็ด ครองบอลเปิดเกมรุกกดดันอยู่ตลอดเวลา แต่กลับขาดๆเกินๆในจังหวะสุดท้ายตลอด และโอกาสจบสกอร์ก็ทำได้ไม่ดี แถมยังมีด่านสุดท้ายอย่างคาร์โรลล์ ที่ออกจะผีเข้าอยู่เช่นกันในนัดนี้ ช่วยให้เกมรับของดาร์บี้ ยังยันผู้มาเยือนได้อยู่หมัด เกมของเจ้าบ้านนั้นในวันนี้ไม่ใช่เกมอุด แต่เป็นเกมรับแบบเพรสซิ่งผสมคุมโซนที่ไม่ค่อยเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งได้เล่นง่ายๆ นัลโด้, กิ๊กส์, รูนี่ย์ และปาร์ค ไม่มีโอกาสพลิกบอลมากเท่าไหร่ มักจะถูกเบียด ถูกแซะตลอดเกม นอกจากจังหวะสวนกลับเท่านั้น ที่ดูจะทำกันได้ดีขึ้น และเร็วขึ้น แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่ลง สปีดของเกมในนัดนี้ถือว่าเร็วมาก ดาร์บี้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้รวดเร็วจริงๆ และเมื่อไม่มีตัวตัดเกมหน้าแผงหลังค้ำให้ ทำให้บอลทะลักไปถึงฟูลแบ๊คเร็วมาก เอวร่าลงไม่ทันตลอดในเกมโต้กลับของดาร์บี้ ส่วนโอเช ก็ปิดเกมทางกราบไม่ค่อยอยู่ ทำให้เกมนี้ ดาร์บี้มีโอกาสโยนเข้ากลางบ่อยมาก และหวุดหวิดจะเป็นประตูก็หลายครั้ง แต่ยังดีที่ฟอสเตอร์ช่วยชีวิตยูไนเต็ดได้ตลอดส่วนคู่เซ็นเตอร์ที่เป็นตัวชนทั้งคู่ ก็โอนเอนมา เสียท่าให้มิลเลอร์ กับ สเตอร์ยอฟสกี้ และเอิร์นชอว์ก็หลายครั้ง จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อล่วงเข้าสู้ครึ่งหลัง ดาร์บี้ที่ดูน่าจะหมดแล้ว เพราะไล่บอลเยอะมากกันทุกคน กลับดูเหมือนมีแรงมากขึ้นอีกด้วยซ้ำ การเพรสซิ่งทำได้ดีขึ้น ถึงตัวเร็วขึ้น เกมจากรับเป็นรุกทำได้รวดเร็วขึ้น และถ่ายบอลเท้าสู่เท้าแม่นยำ รวดเร็วมากขึ้นกว่าครึ่งแรกเสียอีก ทำให้หลายๆจังหวะในครึ่งหลัง เกมกลายเป็นการครองบอลรุกเข้าใส่ของดาร์บี้มากกว่ายูไนเต็ดเสียอีก และจากการครองบอลกดดันยูไนเต็ดนี้เอง ที่ทำให้ดาร์บี้มีโอกาสเปิดป้อนเข้าทำทั้งตรงกลาง ด้านซ้าย ด้านขวา ไม่บอกก็คงไม่เชื่อว่านี่คือดาร์บี้ ที่เพิ่งโดนเชลซียิงกระจายมาไม่กี่วัน เพราะรูปเกมดูดีมากเหลือเกิน กดดันแผงหลังยูไนเต็ดให้ยวบลง ยวบลงได้ตลอด สปีดของเกมที่ว่าเร็วในครึ่งแรก มาครึ่งหลังยิ่งเร็วขึ้นไปอีก และนั่นเริ่มทำให้สโคลส์ กับกิ๊กส์มีปัญหามากขึ้น ดูเหมือนทั้งคู่จะจัดการกับสปีดที่เร็วจัดของเกมในครึ่งหลังไม่ค่อยได้  สโคลส์ทำเกมและขยับช้ามากในครึ่งหลัง ส่วนกิ๊กส์ ก็ไม่สามารถต่อบอลสวยๆเข้าทำได้ถนัดนัก ทำให้เกมรุกในแดนหน้า ต้องพึ่งพารูนี่ย์, โรนัลโด้ และปาร์คเป็นส่วนใหญ่ เอวร่าก็ต้องดันมาช่วยกิ๊กส์บ่อยครั้งมากขึ้น ยิ่งทำให้เกมโต้กลับของดาร์บี้ทางกราบเอวร่า น่ากลัวมากขึ้นอีก คูเซ็นเตอร์ก็หลุดบ่อยขึ้น ดาร์บี้มีโอกาสหลุดไปเดี่ยวๆด้วยซ้ำ เกมของสโคลส์ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งดูเหมือนหายไปจากเกม เมื่อสโคลส์หายไปจากเกม อันแดร์สันก็ดูเหมือนถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น และเสียจังหวะของตัวเองในการคุมเกมแดนกลางในที่สุด จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อเห็นว่าเกมไม่สามารถถูกดึงกลับเข้ามาในคอนโทรลของตัวเองได้ แถมยังเสียการครองบอลตรงกลางสนามไปอีก ท่านเซอร์จึงแก้เกมทันที ด้วยการส่งคาร์ริคลงมาแทนสโคลส์ และเอาซาฮามาแทนปาร์ค ตอนนี้ เกมตรงกลางกลายเป็นคาร์ริคคู่อันแดร์สัน และมีโรนัลโด้เป็นปีก คู่หน้าเป็นซาฮาและรูนี่ย์ เมื่อมีคาร์ริค ที่ตอนนี้เล่นบอลด้วยจังหวะที่เร็วขึ้นกว่าเดิมได้ดีขึ้นมาคุมเกมตรงกลาง ก็ทำให้โมเมนตัมค่อยๆคืนกลับมาสู่ด้านยูไนเต็ด ส่วนอันแดร์สันนั้น ดูจะยังปรับบทบาทของตัวเองไม่ค่อยได้ จากที่เสียจังหวะเกมของตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ตามที่เคยทำได้ดีในช่วงเดือนสองเดือนก่อนหน้านี้ และสุดท้ายก็ต้องถูกถอดออก โดยส่งเฟล็ทเชอร์ลงมาไล่บอลแทน และก็เป็นการเปลี่ยนตัวที่ดูจะเข้าที่เข้าทางสำหรับผู้มาเยือนเสียด้วย เพราะการที่ได้มิดฟิลด์ที่ซื่อตรงต่อหน้าที่ เคร่งครัดในวินัยอย่างเฟล็ทเชอร์มาเป็นลูกหาบคอยไล่เก็บบอลหน้าแผงหลังคืนให้กับคาร์ริค ก็ทำให้งานของคาร์ริคง่ายขึ้น คาร์ริคในวันนี้ สามารถเล่นได้ในสปีดที่เร็วขึ้นเยอะ ออกบอลง่ายขึ้น และจ่ายบอลยาวได้ลุ้นหลายๆครั้ง ในที่สุดยูไนเต็ดก็สบโอกาส จากการที่โอเช เปิดบอลยาวไปให้รูนี่ย์ตรงที่ว่างทางซ้ายสุดเส้นฝั่งดาร์บี้ รูนี่ย์ควบไปเอาบอลก่อนเปิดกลับมากลางประตู และเป็นโรนัลโด้ที่สอดเข้ามาแปเน้นๆ ตุงตาข่าย กลายเป็นลูกที่ 22 ในลีก หนีตอร์เรสไปเป็นสองลูกเท่าเดิม หลังจากนั้น เกมก็กลับมาอยู่ในรูปแบบเดิมๆอีกครั้ง เมื่อยูไนเต็ด พยายามหาประตูที่สองเพื่อการันตีสามแต้ม ในขณะที่ดาร์บี้เองไม่ได้ขวัญเสียกับการเสียประตู ยังคงเซ็ตเกมรับได้เป็นอย่างดี และหาโอกาสสวนกลับสวยๆอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งก็ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิมครับ  แต่สุดท้าย ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกม ยูไนเต็ดบุกมาเอาชนะดาร์บี้ ได้แบบหืดขึ้นคอจริงๆ แต่ก็เป็นสามคะแนนที่ล้ำค่าอย่างมาก ที่ส่งแรงกดดันทั้งปวงข้ามไปยังลอนดอน ให้อาร์เซนอลได้เร่งฟอร์ม เก็บสามแต้มแซงกลับให้ได้ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้เล่นที่เล่นได้ดีมากๆในเกมนี้ ทางฝั่งยูไนเต็ด ผมคงยกให้ฟอสเตอร์อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ถึงแม้โรนัลโด้เป็นผู้ซัดประตูชัย แต่จากโอกาสที่มีเป็นสิบ ทำให้ดูเหมือนทิ้งขว้างโอกาสไปมากกว่า ส่วนเอวร่า เดินเกมบุกได้ดีมาก แต่หลุดตลอดในเกมรับที่โดนจ้องจะสวนทางด้านนี้เป็นประจำ อีกคนที่เล่นได้ดีก็คือ ปาร์ค ที่ดูจะพัฒนาแนวทางการเล่นของตัวเองร่วมกับเพื่อนได้ดีขึ้นมาก สอดประสานกับรูนี่ย์และโรนัลโด้ได้สนุกสนาน แม้จะไม่เกิดประตูก็ตาม ส่วนทางฝั่งดาร์บี้ อยากยกให้รอย คาร์โรลล์เช่นกัน ที่เซฟอุตลุตในเกมนี้ ดาร์เรน มัวร์ และเอ็ดเวอร์ธี่ ก็เล่นได้ดีครับ ที่วิ่งขยันจริงๆทั้งเกมก็ต้องร็อบบี้ ซาเวจ ที่ได้เจอเพื่อนร่วมรุ่นคลาสออฟ 92 อย่างกิ๊กส์ และ สโคลส์ แต่ซาเวจโขมยซีนทั้งคู่ได้หมดจริงๆ อีกคนก็คือเอิร์นชอว์ ก็ปั่นป่วนแผงหลังยูไนเต็ดได้ดีครับ สำหรับเกมนี้ การเปลี่ยนตัวของดาร์บี้ ที่เอา แอนดี้ ทอดด์ลงมาแทน มาร์ค เอ็ดเวอร์ธี่ นั้น ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่ดูแล้วท่าทางน่าจะเจ็บนะครับ  ส่วนการเอาวีย่าลงมาแทนเอิร์นชอว์ และโรแบร์ลงมาแทน สเตอร์ยอฟสกี้ ก็น่าจะเป็นการเพิ่มความสด และความคล่องในเกมโต้กลับนั่นเอง ผมค่อนข้างดีใจ ที่ได้เห็น โลรองต์ โรแบร์อีกครั้งนะครับ โรแบร์คนนี้ เป็นอดีตกำลังสำคัญของสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยุคที่หวังจะกลับมารุ่งเรืองในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งนั่นแหละครับ โรแบร์เล่นดีมากในลูกเซ็ตพีซ ถือเป็นจอมยิงฟรีคิกคนหนึ่ง ถึงแม้ไม่ได้เด่นขนาดเบ๊คแฮมก็เถอะ แต่ถือว่ายิงดี ยิงหนักครับ อีกทั้งลูกชั้นเชิง การอ่านเกมก็ไม่เป็นรองใคร จ่ายบอลแม่น และยิงคม สมัยที่อยู่กับนิวคาสเซิลก็พอพูดได้เต็มปากแหละครับ ว่าเป็นหัวใจของทีมคนหนึ่งก็ว่าได้ แต่ปัจจุบัน ดูโรยราไปเยอะทีเดียวครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 และการที่ท่านเซอร์ออกมาชมหนูโด้ไม่ขาดปาก ก็เพราะว่าหนูโด้ เซฟหน้าแกไว้มากมายทีเดียวที่ยิงประตูเก็บสามแต้มเอาไว้ได้ การที่ท่านเซอร์จัดทีมแบบนี้ แล้วหากทำได้แค่เสมอ หรือแพ้ดาร์บี้ นั่นคงทำให้โมเมนตัมเปลี่ยนกลับมาเข้าทางอาร์เซนอลแน่นอน และอาจส่งผลต่อกำลังใจของทั้งสองทีมในทางตรงข้ามกันแน่ๆ แต่สุดท้ายเมื่อหนูโด้ยิงได้ ทีมได้สามแต้ม ท่านเซอร์คงรอดตัวจากความผิดพลาดที่จัดทีมไม่เต็มสูบ หวังพักตัวหลักๆไว้เช่นนี้ แต่อย่าลืมว่า คนที่มีส่วนที่สุดในสามแต้มของเกมนี้ ก็คือ เบน ฟอสเตอร์ครับ ทั้งบิน ทั้งพุ่ง ทั้งบล๊อค ทำทุกอย่างที่ต้องทำ และทำได้ดีมากจริงๆ (อย่าเพิ่งไปมองการเตะก็แล้วกันครับ ) หากเขาพัฒนาการเตะลูกส่งคืนให้นิ่งกว่านี้ ตื่นน้อยลงกว่านี้ ผมเชื่อว่า เขามีดีพอจะแย่งมือหนึ่งในทีมได้ครับ แต่ไม่ใช่ในปีสองปีนี้แน่ๆ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 และหลังจากเกมของอาร์เซนอลจบลง ก็ปรากฏว่า แรงเหวี่ยงจากเกมกับดาร์บี้ที่ส่งไปถึงลอนดอนนั้น รุนแรงกว่าที่คิด เพราะอาร์เซนอลทำได้แค่เสมออีกแล้ว ถือเป็นนัดที่สี่ติดต่อกัน หลังจากที่แพ้ยูไนเต็ดตกรอบเอฟ เอ คัพไป เมื่อเดือนก่อน ทำให้เก็บได้แค่สี่แต้ม จากสี่นัด หรือหายไปถึงสิบสองแต้มนั่นเอง ตอนนี้ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นจ่าฝูงแบบเต็มตัวอีกครั้ง ด้วยแต้มเท่ากัน ประตูได้-เสียดีกว่าอาร์เซนอลแปดลูก  และแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วนเชลซีที่เก็บชัยชนะจากซันเดอร์แลนด์มาได้ ก็ขยับแต้มมาเป็น 64 ไล่จ่าฝูงยูไนเต็ดเพียงแค่สามเท่านั้น และแข่งเท่ากัน นั่นหมายความว่า หากวันพุธนี้ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับมือโบลตันที่ไม่มีอาเนลก้า และเชลซี ที่จะไปเยือนไวท์ ฮาร์ท เลน เพื่อเล่นในเกมตกค้าง หากทั้งคู่เก็บสามแต้มเต็มได้สำเร็จ เท่ากับยูไนเต็ดจะเป็นจ่าฝูงเดี่ยวด้วยสามแต้มนำ ในขณะที่เชลซีจะมีแต้มเท่าอาร์เซนอลทันที ซึ่งก็จะมาวัดกันในคืนวันอาทิตย์นี้แหละครับ ที่แมนฯยูฯจะเปิดบ้านรับลิเวอร์พูล และ เชลซีจะเปิดบ้านรับอาร์เซนอล รักใครชอบใคร ก็เชียร์ให้เต็มที่นะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 10:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แวะมาอ่านถึงไม่ได้เชียร์ก็เถอะ จากคุณ : kittipat - [ 17 มี.ค. 51 10:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เกมนี้ไม่มีอะไรให้วิจากษ์เพราะไม่ได้ดูครับ  ขออ่านอย่างเดียวแล้วกัน ตอนนี้กำลังคิดถึงโรม่าครับ  ว่าขอให้ป๋าอย่าประมาทแล้วขอให้น้ายีราฟกลับมาไวๆเถิดดดด สาธุ~ จากคุณ : little_pic - [ 17 มี.ค. 51 10:40:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ที่เข้าใจง่ายๆนะครับ วันเสาร์เป็นเกมส์ที่อึดอัดมากๆเลยครับ เห็นหน้าเจ้าโด้ตอนยิงพลาดหลายๆลูกเข้า สงสารจับใจเลยครับ แต่ดีใจที่ท้ายที่สุดก็ยังชนะได้ แต่แอบให้กำลังใจดาร์บี้แฮะ เพราะเป็นมิตรรักแฟนกระทู้คุณเด็กส่งนมด้วยดิเนี่ย นัดนี้เลยไม่ค่อยจะดีใจสุดๆซักเท่าไหร่ จากคุณ : กระแตตาโต - [ 17 มี.ค. 51 10:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณฮะกะข้อเขียน ตอนนี้ฟอร์มแต่ละทีมแกว่งไป น่าจะมาจากแรงกดดันมากกว่ารูปแบบการเล่น เลยยิงนกตกปลา กะ เร่งเกมจนเกินพอดี เห็นกันจะจะจากปีศาจแดง กะ ปืน เชลซีเริ่มมีมาแล้ว หงส์สบายสุด แต่ก็มีบ้าง อาทิตย์นี้น่าจะเห็นกันชัดๆ ถ้าปีศาจแดงพลาดยังแก้มือได้ถ้าชนะโบลตันนัดกลางสัปดาห์ แต่ปืนพลาด มีโอกาสหลุดเลย เปลี่ยนมาเป็นเชลซีแทน และเสีียวแทนปีศาจแดงเลย แต่ถ้าทั้งคู่ไม่พลาด คงลุ้นกันไปถึงนัดสุดท้าย จากคุณ : trebla - [ 17 มี.ค. 51 10:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับคุณ สงบใจ ... ลูกชายแข็งแรงแล้วใช่ไหมครับ  พ่อ+แม่ก็ดูแลสุขภาพด้วยนะ.. ............................................ ดาร์บี้ - แมนฯยู  0-1  ชัยชนะที่แลกมาด้วยรากเป็นเลือดดดดดดดดดดดด... ดาร์บี้เล่นแบบนี้ทุกๆนัด  ก็คงไม่ต้องดิ้นรนหาเรื่องตกชั้นหรอกนะฮะ  นักเตะทุกคนวิ่งกันไม่มีหมด ช่วยกันเล่น เข้าเพรซซิ่งเร็วตั้งแต่แมนฯยูบุกเข้าแดนตัวเอง ..ต้องปรบมือให้จริงๆ สำหรับทีมของคุณ เด็กส่งนม ... ส่วนแมนฯยู จากนี้ไป ผมว่า แมนฯยูจะเจอเกมส์แบบนี้ตลอด เล่นยากขึ้น ถ้าไม่ได้เร็วก็จะเกร็งกันไปเอง  จ่ายผิดๆถูกๆ   ...ซะงั้น เบน ฟอสเตอร์ โดนรับน้อง โดยท่านเซอร์ เพื่อต้องการดูว่ามีฝีมือขนาดไหนโดยให้ บราวน์เล่นเซนเตอร์ & โอเชียเล่นแบ็คขวา (เออ แล้วแกรี่ เนวิลล์ตกลงไม่คิดจะเล่นแล้วใช่มะ บอลฤดูกาลนี้นะ)  ( ฮา) ...ถือว่าทำผลงานได้ดี แต่จะให้ดีกว่านี้การเตะสาดขึ้นมาน่าจะไปฝึกบ่อยๆ ( เพื่อร่วมทีมก็ไม่รู้ว่ามันถนัดเท้าไหน ก็ส่งมันอย่างนั้นหล่ะ) ... กองกลาง  แอนเดอร์สัน + สโคลส์  น้องแอนเล่นได้ขนาดนี้ผมว่าดีแล้วสำหรับ นักเตะในปีแรกของแมนฯยู  โดยส่วนตัวผมว่าโอเคเลยหล่ะ แต่จะฝากบอกน้องแอนหน่อยนะ เวลาเล่นกับพี่สโคลส์คราวหน้า(ถ้ามีโอกาส) น้องไม่ต้องไปเกรงใจพี่สโคลส์นะ น้องมีดีอยู่แล้วหล่ะ แต่รู้สึกว่าน้องจะเกรงบารมีพี่สโคลส์มากไปหน่อย  ออกลูกเกรงใจพี่สโคลส์ซะเยอะเลย .... ...................... ได้ 3 แต้ม มาถือว่าโอเค  ... ต่อจากนี้ไปถ้าทีมไหนดึงแมนฯยู หรือตื้อให้เกมส์ออกมา0-0 ได้นานเท่าไหร่ ทีมนั้นจะเล่นได้ง่ายขึ้น เพราะแมนฯยูออกลูกกดดันตัวเอง... แต่ถ้าทีมนั้นโดนเร็วก็ตัวใครตัวมันละครับ .... จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 17 มี.ค. 51 10:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากครับ วิเคราะห์ได้ดีจริง ๆ ผมไม่ได้ดูครับเพราะร้านที่ผมดูเปิดคู่ หงส์ จากคุณ : red_devil - [ 17 มี.ค. 51 10:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดูการจัดตัวของป๋าในเมื่อคืนวันเสาร์แล้ว ใจผมนี่แทบจะเชียร์ให้ปีเก้ ย้ายออก ตั้งแต่ซัมเมอร์นี้เลยครับ ถ้าผมเป็นปีเก้ คงจะน้อยใจมากๆ ทำไม ป๋าไม่ยอมให้โอกาสซักที ดันเอาเวสบราวน์ ซึ่ง ไม่เคยเล่นเซนเตอร์ได้ดีเลยซักครั้ง มาจับคู่กับ พี่วี แล้วเป็นไง หลังเรานี่รั่วอยู่ตลอด ดีที่หน้า ของดาร์บี้ ไม่คมพอ อีกทั้ง ฟอสเตอร์ โชว์เทพ ได้ ไม่งั้นอาจจะน้ำตาตกกันไปแล้ว  ปีเก้ เป็นนักเตะ อายุน้อย ที่กำลังจะพัฒนาไปได้อีกมาก กับ เวสบราวน์ ที่พัฒนาได้ถึงขีดสุดแล้ว เซงป๋าจิงๆ เบน ฟอสเตอร์ ผมว่า สามารถแทนที่น้าซาร์ได้ไม่ยาก รวมถึง คุสแซก ด้วย แต่ทั้งคู่ ผมว่า ควรพัฒนาในเรื่องการเปิดบอล อีกพอสมควร รวมทั้งการโวยวายแผงหลัง เนื่องจาก ทั้ง ฟอสเตอร์ และ คุสแซก ดูจะเงียบๆไปซักหน่อย ไม่ค่อยกระตุ้นเท่าไหร่ ส่วน สโคลล์ กับ กิกซ์ ผมคิดว่า ป๋าน่าจะยอมรับได้แล้วว่า การส่งทั้งคู่ลงเล่นตั้งแต่แรก ไม่เป็นผลดีเลย ทั้งต่อทีม และ สภาพจิตใจของทั้งคู่ น่าจะจัดลง ในกรณีที่ทีมนำขาดไปแล้ว เพื่อประคองเกมส์ มากกว่า จากคุณ : CrazyMc - [ 17 มี.ค. 51 10:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมส่ายหัวกับ บราวน์ เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนถึงตอนนี้อยากให้ย้ายๆ ไปเสียทีงับ ไม่ไหวจริง ๆ ส่วนกิ๊กส์ นับวันยิ่งดาวน์ลงไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับสโคล เหมือนทั้งคู่จะตามสปีดของ ยูไนเต็ดชุดนี้ไม่ทันหรือไงไม่ทราบ คงจะเป็นได้แค่สำรองล่ะครับ ส่วนฟอสเตอร์ เท่าที่ผมดูจากเทป รีรันทาง ทุย ก็พอจะสังเกตได้ว่าเตะไม่ค่อยดีก็มีอยู่ 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ 1 เป็นเกมแรกของเขากับ ยูไนเต็ด 2 ลูกส่งคืนส่วนใหญ่ เพื่อน ๆ มักจะส่งเข้าเท้าขวา ซึ่งเจ้าตัวถนัดซ้าย เลยออกจะแป้กมากหน่อย แต่หลัก ๆ มาจากการตื่นสนาม พอเจ้าตัวได้เซฟสวย ๆ 2-3 ครั้งก็เริ่มจะมีความมั่นใจมากขึ้นครับ ปล. เป็นห่วงมากงับ จากเกมที่เจอปอร์ตสมัท แล้วคิดว่าเกมนี้น่าจะเรียกความมั่นใจ กลับกลายเป็นหืดจับ แล้วแดงเดือดก็ใกล้เข้ามาแล้ว ยังไงเกมกับโบลตันก็ขอให้เล่นเป็นระบบมากกว่านี้ จะดีใจมากเพราะว่า ลิเวอร์ มาแรงจริง ๆ ในช่วงนี้ ( เชลซีจี้เหลือ 3 แต้มแล้ว ไวมากกกก ) จากคุณ : Jaxx5788 - [ 17 มี.ค. 51 10:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่ะ ลืมสวัสดี อาสงบใจ ฮะ ขอให้น้องภีม(ใช่ป่าวหว่า ถ้าจำไม่ผิด)มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์นะครับ จากคุณ : CrazyMc - [ 17 มี.ค. 51 10:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ คุณสงบใจ เรื่องเบนฟอสเตอร์คงต้องให้เวลาละครับ เรื่องการเปิดบอล หรือการรับบอลต่อจากกองหลัง ของแบบนี้อยู่ที่ประสบการณ์ด้วย (ที่สำคัญเหมือนมีใครสักคนติเรื่องเท้าข้างถนัดของแกด้วย ว่าไม่ตรงกับทางที่บอลเข้ามา) ส่วนเรื่องรูปเกม ผมคิดว่าส่วนนึงที่ทำให้การจ่ายยบอล การขึ้นเกมเร็วเราแย่ลงด้วย สภาพสนามและอากาศก็มีผลอยู่นิดๆ ครับ (^__^) (แค่ส่วนนึง) และเห็นด้วยว่า กิกส์ กับสโคลส์ ไม่เหมาะกับเกมเร็วๆ เช่นเคย ส่วนเรื่องปิเก้ เห็นมีใครสักคนในที่นี้นี่แหละครับ ที่บอกว่าแกไม่สมบูรณ์ เหมือนพึ่งฟื้นสภาพร่างกายจากแมทย์ตัวสำรองพร้อมๆ กับแกรี่อยู่เลย ปล. มีใครสังเกตมั้ยครับว่า ลูกยิงของโรนัลโด้ กับ อาลียาดีแยร์ ของโบโร่ที่ยิงปืนเมื่อคืนก่อน ท่ายิงและมุมยิง เหมือนกันเด๊ะเลย แก้ความถูกต้องของชื่อครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 13:37:14 จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 17 มี.ค. 51 11:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านครับ วันนั้นหลังเรารั่วจริงๆครับ ผมก็แปลกใจทำไมไม่ให้โอกาสปิเก้บ้าง (หรือเพราะประสบการณ์น้อย) แต่น้องน้ำตาลยังไงก็ไม่เหมาะกับเซ็นเตอร์ครับ ส่วนกิ๊กส์กับสโคลส์ ถ้าลงพร้อมกันเกมก็ไม่ค่อยดีเลยครับ คงต้องสลับกันลงน่าจะดีกว่า และคาร์ริคน่าจะเป็นตัวยืนหลักในแดนกลางได้แล้ว เพราะจ่ายบอลเร็วได้ และออกบอลแม่น    ก็หวังว่านัดเจอโบลตัน ป๋าจะไม่ส่งสำรองเยอะแบบนี้นะ แล้วเตเวสกับนานี่หายไปไหนอะ รู้สึกไม่มีชื่อสำรองด้วย จากคุณ : SamuDi Knight - [ 17 มี.ค. 51 11:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ดูเลยมารอน้าหงบวิพากษ์แต่เช้าเรยยยยย ดีใจด้วยนะ ที่น้องภีมกลับมาซนได้เหมือนเดิม ^_________^ ปีนี้นี่ลุ้นเยอะแฮะ เชลซีนี่ก็ไล่จี้มาเลย ลุ้นๆๆๆ อิอิ แมนยู สู้ สู้ จากคุณ : poojo_ke - [ 17 มี.ค. 51 11:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีส่วนไหมครับ ที่สโคลกับมาแล้วแอนเดอสันฟอร์มตก เพราะก่อนที่สโคลกลับมาฟอร์มแจ่มมาก แต่หลังจากโดนดร็อบ เพื่อให้สโคลลง ทำให้ฟอร์มตกไปดื้อๆๆ  ไม่ได้ลงต่อเนื่อง จากคุณ : ซ้ำซ้อน - [ 17 มี.ค. 51 11:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่า...ไม่ได้ข่าวปิเก้เจ็บเลยครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็พอจะเข้าใจครับผม ส่วนฟอสเตอร์กับคุสแซ็ค ถึจะดีกรีทีมชาติตัวเองจริง แต่ถ้านานน๊านนนลงที จะให้เอะอะเอ็ดตะโรใส่บราดพ่อค้าแข้งพันล้านก็คงไม่กล้าอ่ะครับ ต้องให้เวลาสักระยะนั่นแหละ หายตื่น หายเกรงใจกันเมื่อไหร่ น่าดูครับ กิ๊กส์ กับ สโคลส์ เห็นด้วยครับ ว่าไม่เหมาะกับเกมเร็วแน่ๆแล้วในตอนนี้ แต่คงคาดไม่ถึงมากกว่า ที่เกมกับดาร์บี้จะเป็นเกมเร็วไงครับ ป๋าเลยส่งผู้เฒ่าลงมาเล่นแต่แรก คงกะเก็บตัวหลักให้สดด้วยแหละครับ อย่าลืมว่า ช่วงนี้ เป็นดังนี้ 19 Mar Barclays Premier League United Vs Bolton        20:00 H     23 Mar Barclays Premier League United Vs Liverpool    13:30 H     29 Mar Barclays Premier League United Vs Aston Villa  00:00 H 01 Apr UEFA Champions League United Vs Roma         19:45 A     06 Apr Barclays Premier League United Vs Middlsbro    13:30 A     09 Apr UEFA Champions League United Vs Roma         19:45 H     13 Apr Barclays Premier League United Vs Arsenal       16:00 H งานช้างทั้งนั้น ส่วนแอนนี่ ผมว่าหลังๆป๋าคงให้แกเล่นรุกมากขึ้นน่ะครับ ในขณะที่แกเพิ่งจับจังหวะเกมตรงกลางได้ไม่นาน ยังไม่ทันเล่นให้คงที่เลย พอมาเล่นรุกมากขึ้น ก็คงต้องปรับจังหวะใหม่น่ะครับ ก่อนหน้านี้ ที่แกเล่นได้ดีมากๆ ก็เป็นเพราะเล่นตรงกลางจริงๆไงครับ ปรับตัวได้แล้ว เลยเล่นได้ดี เล่นรับแล้วโต้ด้วยคิลเลอร์พาส แต่ตอนนี้ เพิ่มมิติการตะลุยมากยิ่งขึ้น คงต้องให้เวลาสักพัก ยิ่งถ้าคิดว่าเป็นปีแรกที่เพิ่งย้ายมาด้วย ก็คงเข้าใจกันเนาะ ปล.  ลูกยิงของโด้ กับอาลียาดีแยร์ เหมือนกันจริงๆแฮะ ทั้งป้อน ทั้งยิงเลย แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 11:26:16 จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 11:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วเครียด กดดันจริงๆ จากคุณ : ตาสีตาสาทำนาบนหลังคน - [ 17 มี.ค. 51 11:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูครึ่งแรกอึดอัดใจมากมาย คงจากเกมที่ผ่านมา และความกดดันที่เกิดขึ้น หวังว่า กลางสัปดาห์นี้ แมนยูจะคว้า 3 แต้มเพื่อหนีเน๊อะ ครึ่งหลังมะได้ดูง่ะ บางคนบอกว่าป้ามดไม่ควรดู กรุณาทำเพื่อทีม สุดท้าย ดันชนะจริงๆ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : K-modjung - [ 17 มี.ค. 51 11:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ป้ามด ไม่ต้องดูมันจนจบเลยดีไหม  ล้อเล่นนาครับ เอาล่ะ หลังจากเห็นฟอร์มฟอสเตอร์ ก็คงเบาใจได้ระดับนึงครับ ว่าถ้าให้โอกาสเรื่อยๆ และพัฒนาอีกนิด เราน่าจะมีตัวแทนน้าซาร์ที่ไว้ใจได้แล้ว แต่ปัญหาคือ คนนั้นคือใครสิครับ เพราะอายุของฟอสเตอร์ และคุสแซ็คห่างกันปีเดียว คนอายุห่างกันปีเดียว ถ้าจะสำรอง คงต้องสำรองตลอดไปล่ะครับ ถ้าได้โอกาส อีกคนก็นั่งยาวเหมือนกัน ในทางปฏิบัติ คงต้องมีแค่คนเดียว ดีกรีทีมชาติทั้งคู่ คงไม่มีใครยอมนั่งก้นด้านข้างสนามแน่ๆครับ มาถึงกองหน้า หลังจากที่มีข่าวของฟาเบียโน่แพลมออกมา ยูไนเต็ดถูกลากมาโยงทันที ด้วยค่าตัวประมาณแปดล้านปอนด์ และค่าเหนื่อยสามเท่าจากที่รับอยู่หมื่นห้าพันปอนด์ต่อสัปดาห์ ถือว่าน่าลุ้น กับดีกรีแคนดิเดตรองเท้าทองคำที่ลุ้นแย่งกับเจ้าโด้ของเราครับ ผมอยากถามเกจิลา ลีก้า ว่า ฟาเบียโน่ มีดีแค่ไหน น่าลุ้นหรือไม่ครับ ส่วนมานูโช่ คงได้เห็นเต็มๆตัวล่ะมั้งในปีหน้าโน่นครับ พร้อมๆกับคูแฝดแซมบ้า ที่ท่านเซอร์เรียกตัวกลับมาปีหน้า สงสัยบราวน์จะไม่อยู่ค่อนข้างแน่ครับ ส่วนแกรี่ เห็นเรียกฟอร์มจากทีมสำรองหลายนัดเต็มๆแล้วและข่าวบอกว่า ต้องการลงเล่นนัดซดโรม่าครับ ก็คืออีกสองสัปดาห์ครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 11:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม  นัดนี้ท่านเซอร์จัดตัวขัดใจผมอยู่ 2 จุด คือในส่วนของคู่เซนเตอร์กับมิดฟิลด์คู่กลาง คู่เซนเตอร์ผมมองเหมือนคุณสงบใจแหละครับว่าวิดิชและบราวน์เป็นตัวชนทั้งคู่ไม่น่าจับมายืนคู่กัน  แต่ถ้าเป็นอย่างที่มีคนบอกว่าปิเก้เพิ่งหายเจ็บกลับมาก็พอเข้าใจ  ส่วนนึงที่พักริโอคงเพราะช่วงก่อนหน้านี้เห็นมีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วยแหละมั้ง  คงกะพักให้หายขาดอาจจะเข็ดจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วที่กองหลังเจ็บกันยกแผง  ตอนนี้เลยเห็นท่านเซอร์พักกองหลังบ่อยๆ ทั้งริโอ,เอวร่า ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางผมว่าไม่ควรเอาสโคลส์ยืนคู่กับแอนเดอร์สัน  เพราะทั้งคู่ดูจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกมากกว่า  ถึงจะเป็นตัวรุกแบบที่พอจะเล่นเกมส์รับได้  แต่จะให้มายืนคู่กันโดยไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับมายืนด้วยเลย  ดูเกมส์รับมันจะหลวมๆ ไปหน่อยนะ จากคุณ : Kurono - [ 17 มี.ค. 51 11:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอถามค่ะ ณ ตอนนี้แฟนผีอยากได้คู่กลางแบบไหนคะ เราว่าแอนนี่+สโคลส์คงไม่มีใครอยากเห็นแล้ว - -' ถ้าเป็นไปได้เราชอบ คาร์ริค+แอนนี่ แล้วมีเฟลทเชอร์นั่งสำรองค่ะ ^^ จากคุณ : Cindecruella - [ 17 มี.ค. 51 11:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ในส่วนฟอร์มของเวส บราวน์นั้นไม่ต้องพูดถึง ถือว่าไม่ได้ทำให้ฟอสเตอร์อุ่นใจได้เลย แต่อย่ามองความผิดที่เค้าอย่างเดียวครับ วิดิชก็มีจังหวะหลุดให้เห็น เอวร่าไม่ต้องพูดโดนสวนมาแทบตายเหมือนกัน อีกทั้งโอเชนัดนี้เล่นได้แย่มากๆครับ เมื่อดูจากองค์ประกอบผมจึงเห็นว่ามันแย่ไปกันหมด แล้วบราวน์ก็ไม่ใช่นักเตะที่สามารถเล่นดีได้ด้วยตัวของตัวเอง คือเค้าจะดีก็ต่อเมื่อทุกคนเล่นดีด้วย แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่เนวิลล์กลับมา ผมยังรู้สึกว่าถ้าเค้ากลับมาแล้วได้ลงเล่นมันน่าเจ็บปวดสำหรับบราวน์ไม่น้อย แม้เค้าจะไม่ได้เล่นดีมากมาย แต่กับตำแหน่งแบ็คขวาผมมองว่าเค้ายังพอถูไถไปได้ครับ แล้วแกรี่ไม่ได้เล่นมาปีกว่า กลับมาเจอแมทช์ใหญ่ๆท้ายฤดูกาลซึ่งรวมในถ้วย UCL ด้วย จะไหวมั้ยครับคิดดูบราวน์เล่นมา 85 เปอร์เซนต์ของฤดูกาลแกรี่กลับมาเอานัดสำคัญไปหมดน่าเจ็บปวดจริงๆ แต่ทั้งนี้หากแกรี่กลับมาแล้วเล่นเหมือนไม่ได้เจ็บเลย...... อันนี้บราวน์ต้องยอมครับ 555 จากคุณ : rudy - [ 17 มี.ค. 51 11:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมอยากให้เล่น 4-3-3 อ่ะครับคุณ ซินเดอฯ มาถึงตรงนี้ คงต้องยอมรับกลายๆแล้วว่า 4-4-2 ที่ผมชื่นชอบมานาน คงไม่เหมาะกับศักยภาพผู้เล่นชุดนี้เท่าไหร่ และถ้าจะดึงเอาประสิทธิภาพ ออกมาให้เต็มที่ ก็คงต้องมองไปที่ 4-3-3 แล้วล่ะครับ นั่นคือ แผงหลังสี่ตัว แบ๊กโฟร์ชุดเก่ง กองกลางตัวรับหนึ่งตัว ฮาร์กรีฟส์รับไป หรือแม้แต่แอนนี่ ก็พอไหว เฟล็ทเชอร์เอง ถ้าแกร่งขึ้นจริงๆอย่างที่เห็นช่วงหลังก็ยังได้ครับ กองกลางคู่คือ คาร์ริค กับ แอนนี่ เป็นตัวยืน ที่เหลือก็หมุนกันได้กับตัวรับ กองหน้าสามตัว เลือกเอาตามชอบครับ รูน, รอน, เต, บัง ,มานู, ซาฮา ข้อแม้คือ ต้องเล่นสามประสานได้ดีครับ และอาศัยการเปลี่ยนตัวคนเดียว ชุดนี้สามารถเปลี่ยนมาเล่น4-4-2 ได้ทันที โดยถอดมิดฟิลด์ออกหนึ่งคน ใส่กองหน้าหรือปีกเพิ่มเข้าไปก็จบ ที่ผ่านๆมา เรามีปัญหา เพราะปีกเราคือปีกแท้ๆครับ แต่ตอนนี้ ปีกเรา เป็นประเภทกึ่งกองหน้า จึงสามารถเล่นได้หลากหลายมากขึ้น ตอนนี้ ผมมองรูปแบบเป็นอย่างนี้อ่ะครับ ปล. นี่แหละ การรองรับบอลยุโรปที่ผมอ่านใจท่านเซอร์ไว้ครับ ด้วยการตั้งใจซื้อฮาร์กรีฟส์มาเล่นโดยเฉพาะ และการเลือกปีกแบบกึ่งกองหน้า แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 12:04:08 จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 12:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเปลี่ยนมาเป็น 4-3-3 อย่างที่คุณอาหงบว่าจริงๆ กิ๊กซ์กับสโคลส์คงมีโอกาสน้อยลงอีก T.T จากคุณ : Cindecruella - [ 17 มี.ค. 51 12:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับคุณสงบ ขอให้ลูกชายแข็งแรงไวๆนะครับ คนเป็นพ่อแม่ก็อย่างนี้ละ ลูกป่วยก็ต้องคอยดูแลครับ(ผมมีลูกสาวด้วยน้า) พูดถึงเกมส์ ง่ายๆเลยเป็นนัดที่ผมดูบอลแล้วเครียดเหมือนเกมส์เจอปอดชะมัด พอยิงได้ ผมต้องร้องเย้ออกมาเลย(ปกติจะดูเงียบๆ) ปล.ผมว่าถ้าน่อลแพ้เชลซี เราจะต้องมาแย่งแชมป์กับเชลซีเอานะครับเนี่ย เพราะตอนนี้ก็น่ากลัวอยู่แล้ว แถมต้องไปเยือนอีกนัดหนึ่งด้วย แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 12:43:41 จากคุณ : mu@com - [ 17 มี.ค. 51 12:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับคุณสงบใจ ไม่ทราบน่ะเนี่ยว่าอาทิตย์ก่อนไม่มีวิพากษ์ เนื่องจากตัวผมเองไม่ได้ดูแมนยูเพราะติดภาระกิจไปต่างประเทศ ก่อนอื่นเลยต้องบอก เลยว่า รอย แคโรลเอาอีกแล้ว กับซาเวจด้วย ไปอยู่ที่ไหนมักจะเล่นดีเป็นประจำ ขอเสริมคุณrudy  ในประเด็น บราวน์นิดนึงล่ะกัน ที่วิดิชออกลูกเหวอ เพราะบราวน์เนี่ยล่ะครับ ชอบวิ่งหลบ ตัวประกบ สร้างภาระให้ชาวบ้านตลอด ขนาดโดนจี้มาทางแก ยังฉากหลบให้โอเชียเลย แล้วหลายๆต่อหลายครั้ง ที่มีช็อตการยิงการลุ้นของดาร์บี้ เราจะเห็นเลยครับว่าบราวน์มีเอี่ยวตลอดและช้าตลอด ประกบแบบพอเป็นพิธี ผมก็ไม่เข้าใจน่ะ แต่ก่อนมักมีคนบอกบราวน์เก่งลูกโหม่ง วิ่งเร็วมากจาการวัดสถิติในพรีเมียร์ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ สำหรับผมบราวน์ไม่ใช่กองหลังตัวชน ตัวตัดจังหวะสอง แต่เป็นตัวนิ่มมากกว่า แต่ความดีของเขาในเกมนี้ก็มี คือการบล็อคลูกยิงงามๆได้เหมือนกัน ที่นี้กลับมาต่อที่ประเด็นเกมส์  ผมเองช่วง20นาทีแรกทำงานไปด้วยแว้บดูผ่านๆ  สังเกตว่าทำไมผู้เล่นแมนยูดูวิ่งช้าๆว่ะ(หรือว่าบอลมีงาน) พอสักพักค่อยรู้ว่าฝนตก ถ้าใครที่เล่นฟุตบอลสนามแบบนี้มา จะรู้ว่าเล่นยาก ยิ่งสนามแฉะแบบไม่ออกอาการแบบนี้ ทำให้การวิ่งต้องจิกเท้าไปด้วย ดังนั้นแฟนผีจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจังหวะจ่ายบอล ถึงเดินทางช้า ทำให้หลายต่อหลายครั้ง ผู้เล่นของดาร์บี้ตัดไปได้ ผมจึงไม่โทษผู้เล่นเท่าที่ควรในนัดนี้ ส่วนรูปเกมก็เปิดแลกกันเลย ไม่มีอะไรมาก เป็นบอลธรรมชาติเลย บุกกันตามโมเมนตัมของเกม แต่ด้วยสภาพสนามทำให้คุณภาพบอล เรียดออกจะสปีดช้ากว่าที่ควรจะเป็น เลยค่อนข้างเป็นเกมป๋องแป๋งละม้ายคล้ายเกมแชมป์เปี้ยนชิพ และกองกลางตอนนี้ต้องการคาร์ริค อย่างมากครับ เพราะถ้านัดไหนคาร์ริคไม่ลงแล้ว ผมว่าเกมไม่เป็นทรงดูสะเปะสะปะ ผู้เล่นอย่างสโคลส์ดูจะหมดไฟลงไปทุกวัน ฝีเท้าอ่ะไม่ตก แต่หมดจินตนาการหมดแรงจูงใจ เล่นเหมือนฟุตบอล นำขาดแล้วเหมือนแกอิ่มตัวยังไงไม่รู้ ไม่เหมือนก่อน ทั้งๆที่จะบอกว่าแก่แล้วสปีดลดลงก็ใช่ที่เพราะแกไม่ได้ใช้สปีดอยู่แล้ว และผมไม่เข้าใจว่านานี่ฟอร์มกำลังแรงดันไปดร็อปเขา เข้าใจว่าเกมเยือนนป๋าอยากได้ประสบการณ์แต่ไม่น่าไปกั๊กเด็กแบบนั้นเกิดฟอร์มหายมาอีกยุ่ง และช่วงท้ายเกมการเปลี่ยน ซาฮาลงมา แทนที่จะมีตัวนึง ไปพิงกองหลังไว้ เพื่อป้ายบอลให้เพื่อน แบบชิ่ง1-2หลุดไปเลย ดันถอยลงมาล้วงบอลเล่นเองกันหมด มันเลยไม่มีอะไรดีขึ้น นี่ดีน่ะที่เกมรุกดาร์บี้ ไม่ดีไม่งั้นเกมนี้ยาว ถึงแม้ ฟอร์มของ ฟอสเตอร์จะดี แต่ผมก็ไม่คิดว่าแกจะเป็นตัวแทนได้ อย่างที่คุณ boatzie ตั้งกระทู้ถาม แล้วผมเองเห็นแย้งแทบกับทุกท่าน เกมนี้คงพอจะให้คุณboatzieเห็นภาพ โอเค ฟอสเตอร์เป็นShot Stopperที่ดี แต่การเป็นประตู้ให้แมนยูมันต้องมีมากกว่านั้นครับ การอ่านเกมส์ เพื่อออกตัดจังหวะต่างๆ การรับส่งบอลคืนหลัง(ที่เกมส์นี้ออกอาการเดียวกับคสแซ็คตรงนี้ทำประตูแมนยูเสียคนมาหลายคนแล้ว) และไหนจะต้องเจอการบีบของกองห้นาเข้ามาอีก  ยังมีอีกเยอะครับ ประตูแมนยูจึงเป็นแค่Shot Stopperมันไม่พอให้คุณยืนอยู่ในแมนยูเป็นมือหนึ่งได้ อย่าลืม ทิม ฮาเวิร์ดก็Shot Stopperแถมเก่งด้วย ฟอร์มปีศาจชัดๆ แต่สุดท้ายแล้วก็เจอสิ่งที่กดดันประตูแมนยูมากกว่า การต้องเซฟลูกยิง อย่าลืมว่าแมนยูเป็นทีมใหญ่ หลังบ้านยืนกันน้อยดังนั้นประตูแมนยูต้องมีอะไรมากกว่านี้ครับ บาร์เตซก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเก่งแบบเดียวกับ ฟอสเตอร์ จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง - [ 17 มี.ค. 51 12:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขออนุญาตขำกับ กองหลังตัวนิ่ม พออ่านความเห็นคุณกระบี่ ถึงเพิ่งนึกออกครับ ว่านัดที่แล้ว ริโอมีอาการเล็กๆ งานนี้จึงน่าจะมีการเก็บไว้ให้ฟิตจริงๆนั่นแหละครับ ส่วนผู้รักษาประตูก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆที่คุยกันมานานตั้งแต่หมดชไมเคิลไป นั่นคือ เก่งการเซฟอย่างเดียวไม่พอครับ สำหรับโกล์แมนฯยูฯ เพราะชไมเคิลสร้างมาตรฐานไว้สูงมากเลยครับ ผมเคยผ่านตาบทสัมภาษณ์กองหน้าสมัยสิบกว่าปีที่แล้วคนหนึ่ง เขาบอกว่าชไมเคิลเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดแล้ว เพราะเวลาหลุดเดี่ยวไปเนี่ย ชไมเคิลออกเร็วมาก ถึงตัวตลอด เรียกว่าพอหลุดปุ๊บเงยหน้าขึ้นเจอชไมเคิลแล้ว แล้วออกมาตัวใหญ่มาก ทำให้รู้สึกเหมือนถูกชไมเคิลบีบให้ยิงออกไปซะงั้น อีกทั้งการยิงจุดโทษที่มีชไมเคิลเฝ้าเสานั้น มันกดดันมากจริงๆ เพราะแกตัวใหญ่ แค่ยืนก็ปิดโกล์จะมิดอยู่แล้ว แต่ยังบินได้ถึงโคนเสาอีก ทำให้กองหน้าถ้าไม่เยือกเย็นมากจริงๆ เจอชไมเคิลนี่ลำบากครับ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมจำได้ลางๆ จากบทสัมภาษณ์กองหน้าคนหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว และจะเห็นได้ว่า หลังจากนั้น แมนฯยูฯควานหาโคตรนายทวารมาตลอด แต่ก็ไม่เคยเจอแบบชไมเคิลเลย นั่นก็คือ เซฟเยี่ยม ดูน่าเกรงขามเมื่อยืนอยู่ระหว่างเสา ออกมาตัดบอลได้เยี่ยม เปิดเกมเร็วได้ดี เตะลูกส่งคืนไม่พลาด และ...กดดันกองหน้าในสถานการณ์ตัวต่อตัวได้ดีมาก ดังนั้น ในมุมของผม ฟอสเตอร์ และคุสแซ็ค คงเป็นได้แค่ตัวแทนน้าซาร์ครับ แต่จะให้ถึงตัวแทนน้าหมูกแดง คงไม่มีทางเป็นไปได้อ่ะครับ ส่วนเรื่องสภาพสนามที่ฝนตกค่อนข้างหนัก ก็มีผลมากพอดู ขนาดอาตี๋ปาร์คที่เล็กๆ เตี้ยๆ ยังลื่นหัวทิ่มเลยครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 13:22:25 จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 13:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 งืออออออออ....นัดนี้ช้ำใจมากมาย นึกว่าจะเคี้ยวหมู หมูเขี้ยวตันนี่หว่า!! เซงหงส์เลย พอท่านเทพเฟลชลงมาผมก็ชิงถอดใจก่อน ปิดทีวี หลังจากนั้น สองนาทีก็ไปรีเฟรชที่กระทู้ลุงก๊องรายงานแล้วก็ยิงได้ ผมนี่มัน..............เหอๆ ลองสังเกตุดูหลายคนที่เป็นเด็กเก่าแมนยูเนี่ย จะซาเวจทั้งแต่ครั้งอยู่แบล้กเบิร์นหรือสโมสรก่อนหน้าถ้าได้ลงมาเจอแมนยูเนี่ยมักจะฮึดขึ้นเสมอๆ เล่นไม่มีหมดมี 100 ใส่ 120 เลยก็ว่า... เดวิด โจนส์เด็กปั้นของเราเก่าเช่นกัน ถูกปล่อยให้กับดาร์บี้เมื่อปีก่อนเพราะแทรกขึ้นไม่ได้ ก็เล่นดี แคโรลล์ หมอนี่เล่นดีมาตั้งแต่เจอกับเราปีก่อนเจอเวสต์แฮมยิ่งกว่าไอหมึกยักษ์ เลฟ ยาซีน (แค่นัดกับเรา) พอนัดอื่นปุ๊บรั่วเอาๆ จนเวสต์แฮมต้องเปลี่ยนโกลใหม่.... พวกนี้เหมือนจะมีไฟแค้นที่จากกับทีมไม่ดี เลยตั้งใจพิสูจน์คุณค่าให้เฟอร์กี้เห็นเป็นพิเศษเลยมั้ง ราศีเมพนัดเจอแมนยูประจำ (เคืองว้อยยย) -------------------------- เรื่องปีเก้ นี่ผมนึกว่าหายเจ็บแล้วซะอีก ตั้งแต่ปีใหม่แล้วนะเรื่องเจ็บ สงสัยเจ็บซ้ำเจ็บซ้อบ น่าสงสารจริงๆ น้องเก้ตรู คือถ้าไม่เจ็บแล้วนัดนี้ไม่ได้ลง ผมคงเชียร์ให้ย้ายออกซะซัมเมอร์นี้เหมือนกันครับ เสียดายฝีเท้ามากมาย อนาคต worldclass สบายๆ (ถ้าได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องอ่านะ) กิ๊กส์กับสโคลส์ ต้องยอมรับซะทีว่าพวกเขาหมดช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ไปแล้ว จริงๆก็รู้ๆกันอยู่ และน่าจะก้าวลงอย่างสง่าผ่าเผยด้วยการได้แชมป์พรีเมียร์ปีที่แล้ว (สำหรับกิ๊กส์เข้าใจว่าต้องการทำลายสถิติลงเล่นของสโมสร เลยยอมรับข้อนั้นได้) แต่กับสโคลส์ผมรู้ว่าเขาเหมือนแบตใกล้หมดอ่ะ (ขออภัยแฟนคลับถ้าอ่านเจอ) บวกกับอาการบาดเจ็บที่ถามหาก็เลยกลายเป็นแบตที่หมดแล้วหมดเลยไปซะงั้นจริงๆ และด้วยความที่ในแดนมิดฟิลด์ของเรามีการแข่งขันที่สูงมาก ผมมีความเห็นว่าเฟอร์กี้น่าจะยอมปล่อยให้สโคลส์ยุติบทบาทในสนามของตัวเองแล้วไปคอยสอนรุ่นน้องๆพวกอคาเดมี่ในทีมจะยังดีกว่า สำหรับการลงเล่นของกิ๊กส์ประมาณกลางซีซั่นหน้าก็น่าจะทำลายลงได้ไม่ยากเย็นแต่ฟอร์มอันนี้คงไม่มีใครการันตีได้หรอกว่าจะทรง-ทรง หรือ ทรง+ทรุด..... ปล.ไม่ได้ลอกใครน้าแต่เขียนเรื่องเดียวกันอ่านะ อิอิ ใจตรงกันจริงๆแฟนผีแดงหนิ จากคุณ : Skyline_CII - [ 17 มี.ค. 51 13:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับคุณกระบี่มากๆครับ จากคุณ : แบบว่าน่ารักซะไม่มี - [ 17 มี.ค. 51 13:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับคุณกระบี่ครับ สำหรับประเด็นฟอสเตอร์ เพราะส่วนใหญ่โกล์ที่มาตายกับเราส่วนใหญ่มักโดนความกดดัน เล่นงานซะจนไปไม่เป็นซะหลายคน กรณีฟอสเตอร์ใครจำได้ปีที่แล้วที่โดนพอล โรบินสันโกล์สเปอร์ยิงถ้ามันเกิดเมื่อฟอสเตอร์ใส่เสื้อแมนยูจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่เกิดกับฟาน เดอร์ ซา เพราะความเก๋ามีมาก ไล่ดูรายชื่อโกล์เก่าๆของเรานับแต่ชไมเคิ่ลซิครับ หลายคนเก่งแต่ก็อยู่ไม่ได้ และเห็นด้วยกับกรณีฮาวเวิร์ด คนนี้ก็เก่งปฏิกิริยาดีมาก แต่พอพลาดแมทช์เจอปอร์โต้ ตกรอบ UCL ความไว้วางใจก็หายไปด้วย จากคุณ : rudy - [ 17 มี.ค. 51 13:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เฟลชเชอร์ เทพบุตร เสริมดวง..!!!!!!! จากคุณ : Muyan - [ 17 มี.ค. 51 13:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากครับคุณกระบี่เรื่องฟอสเตอร์ ขอบคุณน้าหงบด้วยสำหรับบทวิพากษ์ ชอบสำนวนการเขียนมากครับ อ่านเพลินดี (แต่ถ้าทีมแพ้คงไม่เพลินเท่าไหร่ ^^) ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคาร์ริคต้องเป็นตัวยืนแล้วสินะ ถ้าสามารถทดแทนสโคลส์ได้ในเร็ววัน ทั้งในเรื่องความสามารถและประสบการณ์ ผมจะดีใจมากเลย เพราะตามเชียร์คาร์ริคมาแนานแล้ว เคยมีคนบอกว่าคาร์ริคคือเฟลชเชอร์ที่ล้มยากกว่า แต่ที่ตามดูหลายๆนัด คงไม่ใช่ซะแล้ว ขอบคุณอีกทีครับ สำหรับบทวิพากษ์ และทุกๆคนที่เข้ามาแชร์ความเห็น เขียนดีทุกคนเลย จากคุณ : boatzie - [ 17 มี.ค. 51 14:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่อ ผมมาประกาศลาออกจากชมรมคนรักดุกแล้วน่ะครับ เห็นแล้วไม่ไหว จริงๆคงเลยจุดพีคมาล่ะ จับบอลเก้ๆกังๆ แถมต้องแต่งบอลม้วนไปมากว่าจะติดเครื่องเลี้ยงได้ทำไปทำมาจะพันขาตัวเองอีก แถมลูกจับบอลลั่นที่กระฉอกออกมา จากฟรีคิกของโรนัลโด้ เห็นแล้วหมดอนาคตครับ บอกได้คำเดียว เหมือนคนหมดความมั่นใจไปแล้ว ผมจึงขอมาประกาศลาออกจากชมรมคนรักดุกให้ทราบด้วยทั่วกัน ประกาศมีผลตั้งแต่วันนี้ครับ จากคุณ : คนเคยรักดุก (กระบี่เก้าสําเนียง) - [ 17 มี.ค. 51 14:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เพิ่งเห็นกระทู้ครับ เกมส์โดยรวมก็อย่างที่พูดๆกันนั่นแหล่ะครับ ผมก็อุตส่าห์นึกว่าพิษของความไม่คมในนัดก่อนจะทำให้ทีมฮึดขึ้นมาได้ในนัดนี้ แต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่คมอยู่ดี แต่ก็ต้องเข้าใจครับว่าเรื่องของเรื่องอย่างแรกนี่เรื่องโปรแกรมที่จะเตะต่อๆไปนั่นแหล่ะครับ ทำให้ต้องพักทั้งนานี่ เตเวซ ริโอที่กรำศึกติดต่อกันมาตลอด ใจจริงนัดนี้อยากเห็นเตเวซเล่นคู่กับไอ้โด้หรือรูนี่ย์ดูครับ สุดท้ายก็ไม่สมหวัง แต่ไม่เป็นไรครับการได้ลุ้นเกมส์อย่างนี้ อย่างหนึ่งเลยที่ทำให้รู้คือ ทีมอื่นๆในพรีเมียร์มองว่าแมนยูเป็นทีมที่น่ากลัวมาก ถ้าเล่นด้วยแล้วไม่ฮึดไม่เอาออกมาเกินร้อยมาโชว์ รับรองเละแน่ๆเลยเต็มสูบกันทุกทีมครับ แม้จะเป็นทีมอย่างดาร์บี้ที่ตกชั้นน่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วก็เถอะแต่พอมาเจอผี ไปขุดแรงจูงใจในการเล่นมาจากไหนกันฟระ ทีนัดก่อนให้เชลซีอัดไปหกตุง พอมาเจอผี นัดกันเล่นอย่างกับทีมที่ลุ้นพื้นที่ยุโรปซะงั้น เหอๆ แต่ยังไงก็ตามผลลัพธ์ที่ได้จากนัดนี้ก็สมหวังสำหรับแฟนผีทุกคนครับ แม้ลุ้นเหนื่อยหน่อยก็ตาม แต่นัดต่อๆไป ความคมต้องกลับมาแล้วครับ ต้องมีแล้วไม่งั้นลากเลือดแน่ๆ ป.ล. ทีมผีชุดนี้สิ่งหนึ่งที่ขาดคือ ผู้นำที่สามารถกระตุ้นผู้เล่นในสนามได้ครับ พอคีนจากไปคนที่มีบารมีพอก็ไม่มีบุคลิกอย่างนั้นครับ ทั้งแกรี่ ทั้งสโคลล์ กิ๊กส์ เลยทำให้มองรวมๆแล้วจุดศูนย์กลางที่จะนำทีมไปข้างหน้าหายไปครับ ประเด็นนี้ คุณสงบใจ เห็นว่ายังไงบ้างครับ ส่วนตัวเห็นว่ารูนนี่ย์ในอนาคตน่าจะรับบทบาทตรงนี้ได้เต็มที่แน่ๆครับ แต่ยังไม่ใช่ปีสองปีนี้ครับ จากคุณ : เจ้าชายเท้าเปล่า - [ 17 มี.ค. 51 14:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต้องโปรดฟังอีกครั้งหนึ่งมั้ยครับ คุณกระบี่ฯ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 17 มี.ค. 51 15:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เกือบไป ต้องบอกยังงั้น พูดตามตรง ถ้าพลาดเสมอ ขึ้นมา เฟอร์กี้ ต้องรับผิดชอบ ข้อหาจัดตัว อย่างประมาท ตอนแรก นึกว่าจะถล่ม เล่น ๆ ไป ดาร์บี้มีฮึด เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวลูกแรกมาก็ไหล พอ นาที ที่ 70 เอาวะ 1 ลูก ก็ 3 แต้ม แถมยังเสียวกับลูกที่ดาร์บี้ โต้กลับได้ยิงเป็นระยะ ๆ เห็นด้วย หืด แน่ แมตซ์ ตั้งแต่โบลตันเป็นต้นไป สำหรับเดือนนี้ เจอโบตัน  ลิเวอร์พูล วิลล่า เล่นในบ้านหมด อยากให้เก็บแต้ม เต็ม ๆ ไป 9 แต้ม หรือยัง 7 แต้มก็ยังดี จากคุณ : qul (QUL 2007) - [ 17 มี.ค. 51 15:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องผู้นำในสนาม ผมเห็นด้วยว่าขาดไปครับ และก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มานาน ตัวแทนคาแร็คเตอร์รอย คีน ก็ไม่ได้เจออีกเลย ในทีมชุดปีก่อนๆนะครับ ส่วนตัวผมแล้ว รูนี่ย์ไม่เหมาะครับ โอเคว่าอาจจะดูกล้า บ้าบิ่น คล้ายๆรอย คีน แต่อาการฟาดงวงฟาดงาและเล่นเกเรเกตุงนอกเกมบ่อยๆนี่ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวงครับ ถ้ารูนี่ย์จะเข้ามาทำบทบาทนี้จริงๆ คงต้องปรับพฤติกรรมตัวเองเยอะ โดยเฉพาะลูกตุกติกนอกเกมที่ชอบเล่นอัดคนนี่แหละ ตรงนี้ต้องเพลาๆลงเยอะเลย ส่วนเรื่องการปกป้องลูกทีม หรือ แพสชั่นของทีม อันนี้ผ่านครับ เมื่อผมไม่เห็นว่ารูนี่ย์เหมาะ แล้วผมเห็นว่าใครเหมาะ อันนี้ เป็นแค่มุมมองในระยะสั้นๆที่เขาทำหน้าที่ได้ดีนะครับ นั่นคือ อันแดร์สัน เล่นตรงกลาง ได้ทั้งรุกและรับ จากการเล่น แนวทางการอ่านเกม และใจสู้ที่เห็นมาตลอดทุกๆนัด ทำให้เชื่อได้ว่า เขาสามารถเป็นแพสชั่นของทีมได้แน่นอน ส่วนเรื่องการปกป้องทีม อันนี้จากแดงเดือดยกแรกเขาก็ทำให้เห็นมาแล้ว ดังนั้น หากมองจากตรงนี้ ผมว่า อันแดร์สันน่าจะทำได้ครับ แต่ต้องรอนานหน่อยนั่นแหละ ถ้าจะเอาตอนนี้เลย ผมให้ริโอครับ ด่าได้ สั่งได้ คุมได้ ปกป้องทีมได้ครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 15:27:13 จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 15:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ริโอ ส่วนมากจะสั่งแต่เวลาแผงหลังพลาดอะครับ เพราะตัวเองไม่มีบทบาทในเกมส์บุก แต่บุคลิกผู้นำเนี่ยได้เลย ผมอยากเห็นจริง ๆ เวลา หมูรูน กับ เจ้ดโด้พลาด แล้ว ริโอวิ่งขึ้นไป เบิร์ดกะโหลก สักทีจะเป็นยังไง จากคุณ : Jaxx5788 - [ 17 มี.ค. 51 15:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอยากรู้จริงๆเลยว่า ฝนตกหนักๆอย่างนัดนี้เนี่ย มีผลเยอะมั้ยครับ เพราะเห็นมาหลายนัดแล้วว่าถ้าตกเยอะๆ ตลอดเกมอย่างเน้ย แมนยูมีปัญหาทุกครั้งเลยนะครับ ใจจริงอ่ะจะบอกว่าภาวนาตลอดเลยว่าให้ฝนหยุด พอผมเห็นฝนหยุดตอนกลางๆครึ่งหลังเนี่ย ผมคิดเลยว่าเด๋วก็ยิงได้ แล้วก็ยิงได้จริงๆ จากคุณ : BeRightBack - [ 17 มี.ค. 51 16:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่ามีเยอะมากนะครับ ยิ่งถ้าเล่นบอลคอนโทรลกับพื้นแบบเท้าสู่เท้าด้วยยิ่งมีผลเยอะ สนามแฉะ ย่อมทำให้บอลตกแฉลบง่าย การจ่ายบอลติดแอ่งน้ำก็ทำให้บอลเสียความเร็ว และขาดน้ำหนัก มีผลทั้งนั้นครับ ยิ่งถ้ามาเจอเกมสาดบอลด้วย นั่นยิ่งทำให้มีปัญหา กองหลังปวดหัวมาก ดีที่นัดนี้ ดาร์บี้ไม่เน้นเกมสาดแบบวิมเบิลดันนะครับ ไม่งั้นแย่ครับ เพราะบอลถูกสาดมาลงพื้นเจอน้ำเข้าไปนี่คาดการกระดอนไม่ถูกเลย กองหลังเสียเปรียบมาก เพราะพะวงว่าลูกตกไปทางไหน ตัวเองวิ่งถอยหลังดูบอล ในขณะที่กองหน้าวิ่งไล่กวดบอล พอบอลกระเด้งเปลี่ยนทิศ กองหลังหลังหักแล้ว ในขณะที่กองหน้าแค่วิ่งฉีกไปซ้ายหรือขวาเท่านั้น หากสังเกตจริงๆจะพบว่า อาร์เซนอลลำบากที่สุดครับ เวลาเจอฝนหนักๆ เพราะบอลอาร์เซนอลเซ็ตด้วยเท้าสู่เท้าล้วนๆครับ อาศัยการเคาะบอลขึ้นหน้าเรื่อยๆ หากน้ำหนักเสียไป เกมก็สะดุด เสียบอลทันที จากคุณ : สงบใจ - [ 17 มี.ค. 51 16:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นัดนี้ ผมก็ติดประมาทเหมือนท่านเซอร์ฯ คือ ยอมไม่ดูคู่นี้ กะว่า น่าจะไหลได้ หลีกทางให้พ่อดูหงส์ซะทีหนึ่ง (ทุกที ผมเหมาดูเองหมด แฮ่) ก็สนุกใช้ได้เลยคู่หงส์ ในขณะเดียวกันก็ใจตุ๋มต่อมไปตลอด ไม่เห็นผียิงสักที เสียวเลย กลางสัปดาห์ จะออกด้านไหนเนี่ย ปล. เชลซีตามจี้ติดห่างสามแต้มมาระยะหนึ่งแล้วนะครับ แต่ตอนนั้น ปืนยังไม่สะดุด เลยไม่ได้สนใจเชลซีกัน จากคุณ : proofman - [ 17 มี.ค. 51 16:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อืม..... จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 17 มี.ค. 51 17:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ส่วนตัว ครับ อาจจะ ไม่ตรงใจใครก็  คงไม่ว่ากัน 1  ฟอสเตอร์ ดีครับ  รอประสบการณ์ ผมว่าดีกว่า ครุสแซค ครับ 2  บราวน์  ห้ามมาเล่น เซ็นเตอร์โดยเด็ดขาด   ตอนนี้  ปิเก้ ยังเจ็บ ครับ 3  เอฟร่า  ต้องระวัง บุกแล้ว ลงหลังไม่ทันบ่อย   วิดิซ จะโวยวายบ่อย ครับ   จำ นัดที่เราแพ้พอร์ทสมัธ ไหมครับ   3 คนสุดท้าย คือ รูนีย์ แอนเดอร์สัน และ เอฟร่า (เพิ่งวิ่งตามมา) 4  สโคลล์ กับ กิ๊กส์  หมดเวลาแล้ว ครับ ลง เป็น สำรองดีกว่า ครับ 5  กองหน้าอีกคน  ผมว่า ต้องตั้งใจจริงครับ    ประเภท ซื้อใจกันเลย แบบ ตอนเอารุด   (เจ็บ  ก็ ไม่ท้อ)   ผมว่า  ฮุนเตล่า ก็ โอเค ครับ *********************** ที่ สงสัย คือ ทำไม  โคลเซ่  ไม่มีทีมยักษ์ไหน สนใจเลย ครับ จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 17 มี.ค. 51 20:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมมองว่า ... ถ้าไม่มีโด้  แมนยูคงชนะไม่ยากอย่างนี้ครับ มันเล่นไม่เป็นทีมจริงๆ ตั้งแต่ตั้งเป้าจะทำลายสถิติเนี่ย   เอะอะ มันก็จะยิงอย่างเดียว ... ทำเพื่อตัวเองชัดๆ  เอาไปแลกกับ โรบินโย + คาซิยาส ดีกว่า  เริ่มรำคาญมันละ เรื่อง ซาฮา ... ผมมองว่ามีประโยชน์นะ กับการที่เรามีกองหน้าแท้ๆสักคน ไม่ใช่หน้าต่ำ อย่าง รูนี่ เตเบซ โรนัลโด   ไว้คอยพิง คอยชนกองหลัง อย่างนัดปอดสมัท ผมมองว่า ถ้าเราเอาซาฮาลง แล้วขยับรูนี่ไปทางซ้าย แล้วโด้อยู่ขวา  อย่างน้อยเราน่าจะทำประตูได้  รึไม่ก็พิงให้กองหลังมาทำฟาล์ว ก็ยังได้ฟรีคิกอีก เรื่องกองหลัง ... ไม่เข้าใจป๋าเหมือนกัน ว่าทำไมไม่เอา ซิมป์สัน ลงเล่น แล้วเอาโอเชไปเล่นเซนเตอร์แทน บราวน์ -*-   บราวน์เนี่ย ถ้าเล่นเซนเตอร์ มันคือ บ่อ ชัดๆ  จะให้บราวน์แทคหนักๆแบบตอนเล่นแบคก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียฟาล์ว ทำให้ต้องเล่นแบบกั๊กๆ  แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น -*- กองกลาง อยากให้ป๋าจัด แอนนี่ ไปเล่นแทนกิ๊กส์ แล้วคู่กลางเป็น สโคลล์ - คาร์ริค  ไม่ก็ ฮากรีฟ - สโคลล์ รึ ฮากรีฟ - คาร์ริค ไปเลย  เพราะอย่างน้อย แอนนี่ยังมีสปีด กับลูกยิงไกลที่ดีกว่ากิ๊กซ์   พอนำขาดแล้วค่อยเอา กิ๊กซ์ กับ สโคลล์ ลงมาปิดเกมดีกว่าครับ จากคุณ : o_extreme - [ 17 มี.ค. 51 20:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โคลเซ่ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะครับ  แถมไม่รู้ว่าจะกล้าออกมาเล่นนอกลีค รึเปล่า ผมมองว่าหลังๆนี้ นักเตะเยอรมันเก่งเฉพาะทีมชาติ กับเล่นในลีคตัวเองนะ พอออกมาลีคอื่น ไม่มีพวก ... ก็ไม่เกิด จากคุณ : o_extreme - [ 17 มี.ค. 51 20:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 17 มี.ค. 51 21:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดีๆ เจ๋งๆของน้าหงบนะครับ แล้วก็ดีใจด้วยที่น้องภีม(ใช่รึเปล่า?) หายดีแล้ว.... เด็กๆพอหายป่วยก็กลับมาซ่าส์เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ อิอิ พูดตรงๆเลยว่าเกมกับดาร์บี้เนี่ย...ผมไม่หนักใจเลย จนกระทั่งเห็นรายชื่อตัวจริง โดยเฉพาะเซ็นเตอร์แบคที่ชื่อบราวน์ เฮ้อ..เกือบไป ผมว่าหวังเกมวันพุธคงไม่ต้องลุ้นขนาดนี้นะ เรื่องของเรื่องต้องโทษเกมรุกเราด้วย ที่ไม่คมพอ เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูไม่ได้ รวมถึงหัวจิตหัวใจของเด็กเลี้ยงแกะทั้งหลาย... เชียร์กันต่อไปครับ ตอนนี้โอกาสอยู่ในมือเราแล้ว ... จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 17 มี.ค. 51 21:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อืม...ประเด็นหลักๆ ก็พูดกันหมดแล้ว ขอเก็บตกหน่อยแล้วกัน ผมรู้สึกว่า นัดนี้ที่แผงหลังไม่มีริโอ คนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ทดแทนได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว ในแง่ที่ว่าขยันโยนบอลขึ้นหน้าจริงๆ เลย แต่เสียอยู่อย่างคือจะเป็นการโยนทิ้งซะมากกว่า แต่อาจเป็นได้ว่าด้วยพื้นสนามที่แฉะเลยต้องหันมาโยนมากขึ้น เอฟร่า นัดนี้ก็ตะลุยได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน (เกมรับก็ตามมาตรฐาน) แต่สังเกตมั้ยว่า ไม่ว่าจะลุยขึ้นมาได้เหนือชั้นแค่ไหน จังหวะเปิดเข้ากลางมักจะติดบล็อคอยู่เรื่อย (เห็นหลายครั้งแล้ว) บางทีหลุดมาโล่งๆ แต่ก็จะเลี้ยงเข้าไปจนกองหลังตามมาทัน แล้วก็เปิดติดบล็อคจนได้ (จริงๆ พยายามเลี้ยงจี้เข้าไปให้มากที่สุดแล้วค่อยเปิดก็ถูกแล้วล่ะแต่จังหวะเปิดน่าจะทำได้ดีกว่านั้น) คือ...มันอาจจะเรียกลูกเตะมุมได้ แต่ถ้าเปิดผ่านไปได้น่าจะกดดันกองหลังได้มากกว่า มีลุ้นมากกว่าการเล่นลูกเตะมุม พูดถึงลูกเตะมุม เราไม่ได้ประตูจากลูกเตะมุมมานานเท่าไหร่แล้วหว่า ฤดูกาลก่อนเรามีวิดิชที่กดดันได้มาก มาฤดูกาลนี้กองหลังคงจะระมัดระวังเป็นพิเศษ วิดิชเลยทำประตูได้แค่ลูกเดียว แต่ผมอยากจะคิดว่าเป็นเพราะไม่มีคนเปิดแม่นๆ มากกว่า มีแค่กิ๊กส์ที่พอจะใช้การได้ แล้วไอ่ลูกสูตรที่กิ๊กส์จะชิบนิ่มๆ เข้ามาที่เสาแรก ผมไม่เคยเห็นมันได้ผลซะที ดูมา ๒-๓ ฤดูกาลและ -*- นัดนี้โรนัลโด้ก็เกือบจะทำประตูจากลูกเตะมุมได้ แต่ก็อย่างที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ คือ โหม่งไปตรงตัวผู้รักษาประตู ผมว่าโรนัลโด้เป็นคนที่หาตำแหน่งและเทคตัวขึ้นโหม่งได้ดีนะ แต่เหมือนกับว่ายังบังคับทิศทางไม่ค่อยได้ หลายครั้งเหลือเกินที่ถ้าโด้โหม่งออกซ้ายหรือขวาหน่อย ก็จะทำประตูจากลูกเตะมุมได้แล้ว จากคุณ : มนุษย์หิมพานต์ - [ 17 มี.ค. 51 21:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ 3 แต้ม ได้ดีใจกันไปถ้วนหน้าสำหรับพลพรรคปิศาจแดง เย้ๆ จากคุณ : bevergirl - [ 17 มี.ค. 51 22:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นด้วยครับ ว่าลูกตั้งเตะ ที่ไม่ได้ยิงจังหวะเดียวเนี่ย เราได้ลุ้นน้อยมาก หากเคี่ยวแท็คติคลูกตั้งเตะมากกว่านีี้้ เราจะสบายขึ้นนะ ดูเชลซีสิครับ ลูกตั้งเตะมีลุ้นตลอด อาจจะเป็นเพราะผู้เล่นของเขาด้วย แต่ละตัว เทคเก่งๆทั้งนั้น เอาล่ะครับ พรุ่งนี้ เราก็มาลุ้นกันต่อ ว่าจะเสียวหัวใจอีกรึไม่ จากคุณ : สงบใจ - [ 18 มี.ค. 51 09:15:26 ]