ความคิดเห็นที่ 3
วันไหนที่ผมตั้ง TOD แมนยูชนะตลอดเฟ้ย...ทำใจไว้ซะเป็ดน้อย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปรีวิวพรีเมียร์แกรนด์สแลม
วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2551
เชลซี(3) - อาร์เซนอล(2)
ปีเตอร์ เช็ก เป็นปัญหาบาดเจ็บเดียวที่เชลซียังต้องกังวลอยู่ โดยขณะนี้มือกาวคนดังต้องรอเช็ความฟิต อีกครั้งว่าจะลงสนามเล่นเกมสำคัญนี้ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ทันคาร์โล คูดิชินี่ จะแทนที่ต่อไป นอกจากนี้อัฟรัม แกรนต์เตรียม ดึงนิโกล่าส์ อเนลก้า กลับมาลงสนามอีกครั้ง เช่นเดียวกับมิชาเอล บัลลัค และจอห์น มิเกล โอบี
อาร์เซนอล ไม่มีโทมัส โรซิคกี้(ต้นขาด้านหลัง) และอาบู ดิยาบี้(น่อง) แต่จะได้ธีโอ วัลคอตต์ ออกสตาร์ตเป็น ตัวจริง โยฮัน ฌูรู(โคนขาหนีบ) ลงเล่นเกมทีมสำรองเมื่อกลางสัปดาห์ นัดนี้จึงมีลุ้นมีชื่ออยู่ในทีม
แมนฯยูไนเต็ด(1) - ลิเวอร์พูล(4) (ตัวเลขในวงเล็บหมายถึงอันดับในตารางเด้อ..อิอิ)
ริโอ เฟอร์ดินานด์ เจ็บหลังยังไม่แน่ว่าจะฟิตทันหรือไม่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์(โคนขาหนีบ) น่าจะกลับมาเฝ้า เสาได้อีกครั้ง หลุยส์ ซาฮา ก็คาดว่าจะกลับมาได้เช่นกันหลังเจ็บมาจากเกมพบโบลตันเมื่อกลางสัปดาห์
ลิเวอร์พูลไม่มีอาการเจ็บให้ต้องกังวลใจใจ โดยปัญหาเดียวของทีมก็แดเนี่ยล แอกเกอร์ ปราการหลังที่เจ็บ ยาวทั้งฤดูกาล
credit : soccersuck
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แดงเดือดปะทุ!ผีชนหงส์สนั่นลอนดอนสิงห์รับปืน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาลงสนามกันอีกครั้ง สำหรับวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2551 มีลงสนามทั้งหมด 2 คู่ และเป็น "บิ๊กแมตช์" ทั้งหมดอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ "ศึกแดงเดือด" ครั้งที่ 150 ระหว่างแมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล ส่วนอีกเกมเป็น "สงครามแห่งกรุงลอนดอน" ระหว่าง เชลซี - อาร์เซน่อล ส่วนความพร้อมเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยครับ
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (ฤดูกาล 2007/08) (วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2551)
แมนฯ ยูไนเต็ด (1) - ลิเวอร์พูล (4)
เวลาเตะ :20.30 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (61), SS3/SSM, P2P, Setanta Sports Canada, Setanta Sports USA, Setanta-Broadband (ดาวเทียม) สภาพอากาศ : ฝน / หิมะ อุณหภูมิเฉลี่ย : 2 องศาเซลเซียส ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์ สนาม:โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
สภาพทีมโดยทั่วไป
แมนฯ ยูไนเต็ด เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารมือ 1 หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาเสริมทีมอีกครั้ง แต่ในรายของริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวหลักที่ยังมีอาการเจ็บหลังรบกวน ต้องรอทดสอบความฟิต ส่วนหลุยส์ ซาฮา กองหน้าที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อยมาจากเกมล่าสุดที่ชนะโบลตัน 2-0 แต่น่าจะฟิตพร้อมช่วยทีมได้ตามปกติ สำหรับแกรี่ เนวิลล์ แบ๊กขวาตัวเก๋าที่หายไปเกือบปี จากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ และ ข้อเท้า ก็ใกล้ที่จะกลับมาช่วยทีมได้ในเร็วๆนี้ หลังลงเรียกความฟิตในเกมสำรองได้อีกเกมแล้ว ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # แมนฯ ยูไนเต็ด : ริโอ เฟอร์ดินานด์ (หลัง, ทดสอบความฟิต), มิกกาแอล ซิลแวสตร์ (เข่า) ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # แมนฯ ยูไนเต็ด : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ ผู้จัดการทีม : เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูล ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บของลูกทีมคนสำคัญเพิ่มเติม โดยขาดเพียงดาเนียล อั๊กเกอร์ กองหลังเดนมาร์กที่เข้ารับการผ่าตัดกระดูกเท้าเป็นครั้งที่ 3 และจะกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งในฤดูกาลหน้า ส่วนตำแหน่งปีกซ้าย คาดว่า "เอล ราฟา" อาจปรับทัพด้วยการให้ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่าได้ลงเป็นตัวจริงแทนไรอัน บาเบลก็เป็นได้ ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ # ลิเวอร์พูล : ดาเนียล อั๊กเกอร์ (กระดูกเท้า) ผู้เล่นที่ติดโทษแบน # ลิเวอร์พูล : ไม่มี รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เตล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาเบียร์ อลอนโซ่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (ไรอัน บาเบล) - เฟร์นานโด ตอร์เรส ผู้จัดการทีม : ราฟาเอล เบนิเตซ
ผลงาน 5 นัดหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด # 19/03/08 โบลตัน (เหย้า) # 15/03/08 ชนะ ดาร์บี้ (เยือน) 1-0 # 08/03/08 แพ้ พอร์ทสมัธ (เหย้า) 0-1 (เอฟเอ คัพ) # 04/03/08 ชนะ โอลิมปิก ลียง (เหย้า) 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) # 01/03/08 ชนะ ฟูแล่ม (เยือน) 3-0 ลิเวอร์พูล # 15/03/08 ชนะ เร้ดดิ้ง (เหย้า) 2-1 # 11/03/08 ชนะ อินเตอร์ มิลาน (เยือน) 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) # 08/03/08 ชนะ นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) 3-0 # 05/03/08 ชนะ เวสต์แฮม (เหย้า) 4-0 # 02/03/08 ชนะ โบลตัน (เยือน) 3-1
เฮด ทู เฮด # พบกันทั้งหมดในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 57 ลิเวอร์พูล ชนะ 49 เสมอ 43 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ลิเวอร์พูล ชนะ 7 เสมอ 7 # พบกันทั้งหมดในลีกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 35 ลิเวอร์พูล ชนะ 14 เสมอ 25 # พบกันทั้งหมดในพรีเมียร์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 8 ลิเวอร์พูล ชนะ 3 เสมอ 4
สถิติที่พบกัน # แมนฯ ยูไนเต็ด หวังเอาชนะ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในพรีเมียร์ # ลิเวอร์พูล ยิงประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลยในเกมลีก 6 นัดหลังสุด และยิงได้แค่ลูกเดียวในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ คือเกมที่แพ้ 1-2 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ 20 ก.ย. 2004 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ จอห์น โอเช
ข้อมูลที่น่าสนใจ แมนฯ ยูไนเต็ด # แพ้ พอร์ทสมัธ 0-1 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 6 เพียงนัดเดียวใน 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ # ชนะ 8 จาก 10 เกมลีกหลังสุด รวมทั้ง 4 นัดล่าสุดด้วย # ชนะมากนัดสุดในลีก (22) # ยิงประตูมากสุดในลีก 61 ประตูหรือยิงประตูเฉลี่ยทุกๆ 44 นาที # เสียประตูน้อยสุดในลีก 15 ประตูหรือเสียประตูเฉลี่ยทุกๆ 180 นาที # เป็นทีมที่เสมอน้อยนัดสุดในลีกเท่ากับ เรดดิ้ง (4) # ไม่เสียประตูในเกมลีกมากนัดสุดในลีก (18ป ดีกว่าซีซั่นก่อนไปแล้ว 2 นัด # ชนะ 21 เสมอ 2 แพ้ 1 ใน 24 เกมลีกที่ยิงประตูขึ้นนำไปก่อน # ถูกยิงประตูขึ้นนำไปก่อนเพียง 5 นัดน้อยกว่าทุกทีมในลีก # รั้งอันดับ 2 ในตารางคะแนน 6 เกมลีกหลังสุดเป็นรอง ลิเวอร์พูล ที่เก็บได้ 16 คะแนนเท่ากันแค่ผลต่างประตูได้เสีย # ยิง 15 ประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้าย หรือ 10 ประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้าย หรือ 7 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บดีกว่าทุกทีมในลีกยกเว้นการยิงประตูในช่วงทดเจ็บที่มี อาร์เซน่อล กับเรดดิ้ง ยิงได้ในจำนวนเท่ากัน # แพ้เพียง 2 จาก 31 เกมลีกในบ้านหลังสุด # เกมลีกนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบ แอสตัน วิลล่า ก่อนจะออกไปเยือน โรม่า ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ และไปเล่นที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ ลิเวอร์พูล # ชนะรวด 7 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ตั้งแต่ถูก บาร์นสลี่ย์ เขี่ยตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ เมื่อ 16 ก.พ. ซึ่งเป็นการแพ้นัดเดียว ใน 10 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ # ชนะ 6 เสมอ 1 ใน 7 เกมลีกหลังสุดตั้งแต่แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อ 30 ม.ค. ซึ่งเป็นการแพ้นัดเดียวในรอบ 14 เกม # แพ้น้อยเกมสุดอันดับ 2 ในลีกเท่ากับ เชลซี (3) # เสมอเกมลีกมากนัดสุดเท่ากับ ฟูแล่ม (11) # เสมอเกมลีกแบบโนสกอร์มากนัดสุดของลีกเท่ากับ พอร์ทสมัธ (5) # เสียประตูน้อยสุดอันดับ 2 ของลีก คือ 21 ประตูจาก 30 นัดหรือเสียประตูเฉลี่ยทุกๆ 129 นาที # ถูกยิงประตูขึ้นนำไปก่อนน้อยนัดสุดอันดับ 2 ของลีก (7) # เป็นหนึ่งใน 2 ทีมร่วมกับ โบลตัน ที่ยังไม่มีผู้เล่นถูกไล่ออกในฤดูกาลนี้ # มีผู้เล่นถูกกรรมการจดชื่อน้อยสุดอันดับ 2 ของลีกคือ 37 ใบเหลือง # ชนะ 111 แพ้ 111 ในเกมนัดเยือนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และขาดอีก 2 ประตูจะยิงครบ 400 ลูกในการเล่นนัดเยือน # ชนะเพียงนัดเดียวจาก 5 เกมนอกบ้านหลังสุดคือเกมที่ชนะ โบลตัน 3-1 เมื่อ 2 มี.ค. # ไม่แพ้เกมลีกนัดเยือนต่อทีมจากแถบตะวันตกเฉียงเหนือมา 6 นัดติดต่อกัน ตั้งแต่แพ้ แบล็คเบิร์น 0-1 เมื่อ 26 ธ.ค. 2006 # เกมลีกนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะออกไปเยือน อาร์เซน่อล 2 นัดรวดทั้งในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อน รองชนะเลิศ และเกมลีก ก่อนจะกลับมารอรับมือ เดอะ กันเนอร์ส ในเกมยุโรปถ้วยใบใหญ่สุด นัดที่สอง
เกร็ดผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด # คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้เล่นปีกที่ยิงประตูได้มากสุดในประวัติศาสตร์สโมสร (33) และยิงไปแล้ว 24 ประตูจากการลงเล่นเกมลีก 24 นัดนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดในเวลานี้ # เวย์น รูนี่ย์ ต้องการอีก 1 ประตูก็จะทำสกอร์ที่ 50 ในเกมลีกในชุด แมนฯ ยูไนเต็ด และจะลงเล่นเกมลีกเป็นนัดที่ 150 ในชีวิต # หาก แกรี่ เนวิลล์ ได้ลงสนามจะเป้นการลงเล่นเกมลีกนัดที่ 350 ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล # เฟร์นานโด ตอร์เรส พังประตูมากสุดของทีมคือ 27 ประตูและเป็น 20 ลูกในเกมลีก # ตอร์เรส เป็นผู้เล่นลิเวอร์พูลคนที่ 2 และหนที่ 3 ที่ยิงประตูในเกมพรีเมียร์ลีกถึงหลัก 20 ลูก ต่อจากทื่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำไว้ 25 และ 28 ประตูในฤดูกาล 1994/95 และ 1995/96 # โฆเซ่ เรน่า ทำเป็นอันดับ 1 ที่จะคว้ารางวัลถุงมือทองคำ หลังมีสถิติไม่เสียประตู 14 นัดในซีซั่นนี้
credit : siamsport
จากคุณ :
กระแตตาโต
- [
23 มี.ค. 51 07:23:06
]
|
|
|