ความคิดเห็นที่ 1 แม็คลีชเชื่อความโกรธของทีมจะทำให้รอดตกชั้น อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เชื่อความโกรธของทีม จะช่วยให้รอดตกชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีก พร้อมเชื่อสถานการณ์ท้ายตารางอาจพลิกผันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก "ตราลูกโลก" หมายมั่นปั้นมือว่าจะเก็บ 3 แต้มจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาให้ได้ อเล็กซ์ แม็คลีช ผู้จัดการทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมท้ายตารางแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า การที่ลูกทีมของเขากำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีดนั้น จะช่วยทำให้ทีมรอดตกชั้นจากลีกลูกหนังสูงสุดเมืองผู้ดี โดยเวลานี้ "ตราลูกโลก" หมิ่นเหม่ต่อการตกชั้นเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังแพ้ เรดดิ้ง 1-2 ที่สนาม มาเดจ์สกี้ สเตเดี้ยม เมื่อสัปดาห์ก่อน จนมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น แม็คลีช กล่าวว่า "หลังจากผลการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมรู้ว่า ผู้คนบางกลุ่มกำลังคิดอะไรกันอยู่ แต่คุณไม่จำเป็นต้องมาคิดแทนผม, โค้ชของผม หรือแม้กระทั่งนักเตะของผม สถานการณ์ในท้ายตารางอาจจะพลิกผันภายในสัปดาห์นี้ และเรามองโลกในแง่ดีอย่างสุดๆ ในเกมวันเสาร์นี้ ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ที่สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส)" "ในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวหลังจบเกมกับ เรดดิ้ง ผมไม่เห็นกลุ่มนักเตะออกมาโอดครวญว่าขาดโชคกันเลย ผมรู้สึกเสียใจกับพวกเขา และรู้สึกว่ามันคงเป็นเพราะเรื่องนั้นแหละ ในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวหลังจบเกมกับ เรดดิ้ง ผมเห็นแต่กลุ่มนักเตะซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีด นั่นเป็นเพราะว่า พวกเขาไม่ได้รับบางอย่างจากเกม พวกเขาไม่ได้แสดงอาการหดหู่ใจออกมา พวกเขามีแต่อารมณ์โกรธ" "ฤดูกาลนี้มันยังไม่จบไปซะทีเดียว และผมเชื่อว่า เรามีความเชื่อมั่นอยู่ภายในตัวเราเองที่จะประคับประคองสถานภาพในศึกพรีเมียร์ลีกของเราเอาไว้ จิตวิญญาณของทีมมันยังไม่หายไปไหน แต่เราต้องขจัดปัญหาในแง่ลบที่มีอยู่ทั่วๆ ไป และเชื่อมั่นในตัวเราเอง รวมถึงสิ่งที่เรากำลังจะทำ" "แน่นอนว่า เป้าหมายระยะสั้นก็คือ การอยู่รอดในศึกพรีเมียร์ลีก แต่ผมอยู่ที่นี่เพื่อที่จะพยายามทำให้สโมสรแห่งนี้มีความมั่นคงในระยะยาว และผมต้องการซื้อนักเตะหน้าใหม่มาช่วยผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าต่อไป ผมมีความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับสตาฟฟ์โค้ชของผมที่จะทำให้เราไม่เป็นทีมที่กระจอกงอกง่อยที่เกิดขึ้นจากความห่างชั้น แต่จะทำให้เราเป็นทีม พรีเมียร์ลีก ของจริงไปเลยต่างหาก" อดีตกุนซือทีมชาติสกอตแลนด์ ระบุ http://www.siamsport.co.th/25510328-001.html จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สเวนย้ำเอ็มเพ็งซ่ายังอยู่เรือต่อ สเวน โกรัน เอริคส์สัน เทรนเนอร์หัวเถิกของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนกรานชัดเจนว่าเอมิล เอ็มเพ็งซ่า จะอยู่ไล่ล่าตาข่ายให้กับทีมต่อไปอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะมีทีมเลสเตอร์พยายามยื่นสัญญาขอยืมตัวไปโลดแล่นในเวที เดอะแชมเปี้ยนชิพก็ตาม ทั้งนี้ กองหน้าเบลเยียมไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงเล่นช่วยทีม "เรือใบ" อย่างสม่ำเสมอ เพราะเพิ่งจะออกสตาร์ตไปเพียง 8 นัด และเป็นตัวสำรองอีก 6 นัดเท่านั้น นอกจากนี้ เอ็มเพ็งซ่ายังต้องเบียดแย่งตำแหน่งกองหน้ากับเบนจานี่ เอ็มวารูวารี,เนรี่ คาสติโญ่และฟิลิเป้ ไคเซโด้อีกด้วย อย่างไรก็ตามสเวน โกรัน เอริคส์สันก็ได้แสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เอ็มเพ็งซ่าแสดงเจตจำนงต้องการปักหลักอยู่กับทีมต่อไป "ที่จริงแล้ว มันไม่มีอะไรหรอกนะ โอเคเอ็มเพ็งซ่าเป็นที่ต้องการของหลายๆสโมสร แต่เขาก็ยังต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป" "เขายังมีสัญญาอยู่กับทีมของเรานะ และทุกๆอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะต่อสู้ต่อไปมากน้อยแค่ไหนกัน"สเวน โกรัน เอริคส์สันกล่าว ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3172 จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สเวน โกรัน อิริคส์สัน เปลี่ยนใจ เตรียมต่อสัญญาฉบับใหม่กับ "นิว เอียน รัช" สเวน โกรัน อิริคส์สัน กุนซือชาวสวีดิช ของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี กำลังเตรียมพิจารณาต่อสัญญาระยะยาว กับ เชด เอแวนส์ ดาวยิงวัย 19 ปี เจ้าของฉายา "นิว เอียน รัช" ในเร็วๆ นี้ ขณะนี้ เอแวนส์ กำลังอยู่ในระหว่างการถูกทีม นกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี ทีมในลีก แชมเปียนชิพ ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาลนี้ และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมยิงไปแล้ว 6 ประตูในศึกแชมเปียนชิพให้กับนอริช รวมถึงทำได้ 9 ประตูจากการลงสนาม 7 นัด ให้กับทีมชาติเวลส์ ชุดยู-21 จากฟอร์มอันร้อนแรงของศูนย์หน้ารายนี้ ทำให้ สเวน โกรัน อิริคส์สัน เปลี่ยนใจต้องการให้เอแวนส์อยู่ค้าแข้งในถิ่นซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียมต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อิริคส์สันเคยออกมาประกาศว่า เอแวนส์ ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของเขา และเตรียมปล่อยออกจากทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ โดยมีนอริช ซิตี และคาร์ดิฟฟ์ ซิตี แสดงความสนใจอยากได้ตัวเอแวนส์ไปร่วมทีม และมีข่าวออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ว่า ดาวยิงรายนี้ได้บรรลุข้อตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีมคาร์ดิฟฟ์ ซิตี ในฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยช.ไทยคมสักการะพระศพสมเด็จพระพี่นางฯ     โดยทีมข่าว INN News 27   มีนาคม   2551   23:46:31  น.   เยาวชนไทยคมฟุตบอลแคมป์ เข้าสักการะพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่วัดพระแก้ว ก่อนยกทีมทัศนศึกษาวัดโพธิ์ท่าเตียน และตบท้ายด้วยการฝึกฟุตซอลกับขุนพลทีมชาติไทย โครงการ "มูลนิธิไทยคม เปิดประสบการณ์ระดับโลก พาเยาวชนไทยไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้" ที่นำเยาวชนไทย ทั้งชาย-หญิงจากทั่วประเทศ จำนวน 130 คนมาเก็บตัวที่ศูนย์กีฬาเมืองทองธานี ผ่านเข้าสู่วันที่ 4ของการเก็บตัว ซึ่งบรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ โดยช่วงเช้าคณะเยาวชน "ไทยคมฟุตบอลแคมป์" ได้ยกทีมเดินทางไป วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เพื่อสักการะพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์โดยมี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม และ คุณทรงศักดิ์ เปรมสุข ที่ปรึกษามูลนิธิไทยคม นำทีมไปด้วยตัวเอง จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน ซึ่งได้รับการยกย่องจาก องค์การยูเนสโก้ ให้เป็น "มรดกโลก"เพื่อทัศนศึกษา โดยเยาวชนในโครงการได้ให้ความสนใจ ทั้งวิหารพระพุทธไสยาสน์, ฤาษีดัดตน, ศาราราย, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล, พระอุโบสถและมหาวิหารแก้ว,โบราณวัตถุต่างๆ ส่วนช่วงบ่ายได้เดินทางกลับมายังศูนย์กีฬาเมืองทองธานี เพื่อฝึกฟุตซอลกับ คณะนักเตะฟุตซอลทีมชาติไทย ซึ่งนำทีมโดย คุณอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาเทคนิคกีฬาฟุตซอลของสมาคมฟุตบอลฯ, "พ่อมดฟุตซอล" อนุชา มั่นเจริญ และ โฆเช่ มาเรีย กุนซือชาวสเปน โดยคณะนักฟุตซอลทีมชาติไทยได้ฝึกสอนเยาวชนในโครงการอย่างไกล้ชิดเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเด็กๆ ให้ความสนใจอย่างมาก จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตีเล็ง ไก แอสซูลิน เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งบาร์เซโลนา มาเสริมทัพ โดยทีมข่าว INN News 28   มีนาคม   2551   03:54:56   ไก แอสซูลิน กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล เมื่อได้โอกาสลงสนามช่วยชาติด้วยวัยเพียง 16 ปีในเกมที่ อิสราเอล เปิดบ้านเฉือน ชิลี 1-0 จากประตูชัยของ ยอสซี เบนายูน มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ในแมตช์กระชับมิตรเมื่อคืนวาน ซึ่งก็มีรายงานว่าหลายทีมจากพรีเมียร์ชิปหมายกระชากตัว แอสซูลิน ซึ่งปัจจุบันเล่นให้ บาร์เซโลนา ชุดบี มาค้าแข้งในอังกฤษ อย่างไรก็ดี บาร์ซ่า ก็หวังเจรจาขยายสัญญานักเตะอาชีพให้ดาวรุ่งรายนี้ไปอีก 3 ปี ด้าน ปินี ซาฮาวี เอเย่นต์เพื่อนร่วมชาติออกมากล่าวกับ เดลีย์ สตาร์ สื่อเมืองผู้ดีถึงเรื่องของ แอสซูลิน เราไม่เคยปฏิเสธหากมี สโมสรใดสนใจในตัว ไกอย่างไรก็ตาม นักเตะดูยังมีความสุขที่บาร์เซโลนา ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อาร์เซนอล และ สเปอร์ส ก็อยากได้ตัว แอสซูลิน มาร่วมงานในกรุงลอนดอน แต่ปัจจุบันเป็นทางเชลซี และแมนฯ ซิตี ที่อยากได้กองกลางตัวรุกมาช่วย จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก 25 ประตู - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยู) 20 ประตู - เฟอร์นันโด ตอร์เรส (ลิเวอร์พูล) 19 ประตู - เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ (อาร์เซนอล) 14 ประตู - ร็อบบี้ คีน (สเปอร์), โรเก้ ซานตา ครูซ (แบล็กเบิร์น) 13 ประตู - ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ (สเปอร์), อเย็กเบนี่ ยาคูบู (เอฟเวอร์ตั้น), เบนยานี่ เอ็มวารูวารี่ (แมนฯ ซิตี้) 11 ประตู - นิโกลาส์ อเนลก้า (เชลซี), คาร์ลอส เตเบซ (แมนฯ ยู) 10 ประตู - สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล), เจอร์เมน เดโฟ (ปอร์ตสมัธ), แฟรงก์ แลมพาร์ด (เชลซี) วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6329 ข่าวสดรายวัน จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไฮติงกาเซ็น 5 ปีย้ายซบตักตราหมี จอห์นนี ไฮติงกา กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ของอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ตกลงย้ายสังกัดไปซบตัก “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทีมชั้นนำในศึกลาลีกาสเปน หลังจบฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อบแล้ว ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร (500 ล้านบาท) โดยเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่นบิเซนเต กัลเดรอน เป็นเวลา 5 ปี แอตฯมาดริด พยายามเซ็นสัญญาคว้าตัวไฮติงกา ปราการหลังเลือดดัตช์ มาตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว แต่เพิ่งมาประสบความสำเร็จหมาดๆนี่เอง โดยไฮติงกา เป็นผลผลิตจากศูนย์เยาวชนของอาแจกซ์ และเขาเริ่มประเดิมลงสนามให้อาแจกซ์ เมื่อปี 2001 ตอนมีอายุได้เพียง 17 ปี สำหรับผลงานในทีมชาติ ไฮติงกาติดทีมชาติฮอลแลนด์ไปแล้วทั้งสิ้น 32 นัด “ผมตื่นเต้นมาก นี่คือก้าวต่อไปที่วิเศษสุดในชีวิตค้าแข้งของผม และผมคงจะคิดถึงอาแจกซ์ตลอดไป ผมเคยมาที่นี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ นี่คือบ้านหลังที่ 2 ของผม และผมคาดหวังว่าทุกคนจะให้การสนับสนุนผมในการตัดสินใจย้ายทีมครั้งนี้” ไฮติงกากล่าว ขณะที่ มาร์ติน ฟาน กีล ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของอาแจกซ์ กล่าวว่า สโมสรเข้าใจดีว่าทำไมไฮติงกาถึงตัดสินใจย้ายทีม หลังจากลงเล่นให้อาแจกซ์ ทีมยักษ์ ใหญ่แห่งแดนกังหันลมมานานถึง 17 ปี “มันเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ต้องเข้าใจว่าผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งเคยเล่นให้ สโมสรอาแจกซ์นานถึง 17 ปี ก็อยากจะย้ายไปเล่นกับทีมอื่นบ้าง เราพยายามมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่จะรั้งตัวเขาไว้ให้อยู่ค้าแข้งในอัมสเตอร์ดัมต่อไป บ่อยครั้งที่นักเตะที่เคยอยู่กับสโมสรมายาวนานได้ย้ายออกจากอาแจกซ์ในช่วงที่เขากำลังสุดยอด เหมือนกับเวสลีย์ ชไนเดอร์ ที่ย้ายไปอยู่กับเรอัล มาดริด เมื่อปีที่แล้ว” ฟาน กีลกล่าว • วีแกนยวบ“เอ็ดมัน” เอ็นเข่าฉีกพักยาวครึ่งปี “เดอะลาติกส์” วีแกน แอธเลติก ทีมอันดับ 14 ในศึกพรีเมียร์ลีก เจอปัญหาในแนวรับเข้าให้แล้ว เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้งานเอริก เอ็ดมัน แบ็กซ้ายทีมชาติสวีเดน เป็นเวลาอย่างน้อยถึง 6 เดือนเลยทีเดียว หลังจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บเอ็นฉีกที่หัวเข่าซ้ายอย่างรุนแรง ทั้งนี้ เอ็ดมันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บเอ็นฉีกที่ หัวเข่าข้างซ้าย ระหว่างลงเล่นให้ต้นสังกัด วีแกน ในเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกไปพ่าย แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ขาดลอย 1-3 ที่อีวูดพาร์ก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้าน สตีฟ บรูซ กุนซือ“เดอะลาติกส์” วีแกน กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าสำหรับเราอย่างแท้จริง เพราะว่าเอ็ดมันเป็นผู้เล่นตัวหลัก เราคงจะคิดถึงเขาอย่างแน่นอน เขาเป็นผู้เล่นที่น่ารัก และมีความเป็นมือ อาชีพสูง ผมมั่นใจว่าทุกคนในสโมสรต่างอวยพรให้เขาหายเจ็บและกลับคืนทีมโดยเร็ว” การต้องขาดเอ็ดมันนานถึงครึ่งปี ทำให้ตอนนี้ บรูซต้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาด้วยการเอาใครมาเล่นแทนแบ็กซ้ายชาวสวีดิชวัย 29 ปีรายนี้ ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่าต้องเอาเควิน คิลบาน มาเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายแทน สำหรับเอริก เอ็ดมัน แบ็กซ้ายทีมชาติสวีเดน เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายจากแรนส์ สโมสรในลีกเอิงฝรั่งเศส มาอยู่กับวีแกน เมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมานี้เอง. • “ลุนเดความ” ดาวเตะนักบุญแขวนสตั๊ดแล้ว เคลาส์ ลุนเดความ กองกลางกัปตันทีม“นักบุญ” เซาแธมป์ตัน สโมสรในระดับลีกแชมเปียนชิพของอังกฤษ ประกาศแขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังที่ข้อเท้า ลุนเดความ ดาวเตะตัวเก๋าวัย 35 ปี หวังที่จะกลับมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมอีกครั้งภายในเดือนนี้ แต่ความหวังของเขามีอันต้องพังทลายลง เมื่ออาการเจ็บของเขากลับมากำเริบอีกครั้ง “มันจบสิ้นลงแล้วสำหรับผม มันเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง” จอมเก๋าทีมชาตินอร์เวย์กล่าว ทั้งนี้ ลุนเดความ ลงเล่นให้ทีม“นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ไปแล้วกว่า 400 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากบรานน์ เบอร์เกน ด้วยค่าตัว 3.5 แสนปอนด์ เมื่อปี 1996. • ขุนค้อนเล็งคว้าประตูโคลเชสเตอร์ ขุนค้อน” เวสต์แฮม ทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 5 แสนปอนด์ (35 ล้านบาท) เพื่อขอซื้อตัวดีน เกอร์เคน ผู้รักษาประตู ทีมโคลเชสเตอร์ ในศึกลีกแชมเปียนชิพ มาเสริมทัพในช่วงปิดฤดูกาลนี้ โดยเวสต์แฮมต้องการคว้าตัวเกอร์เคน นายทวาร วัย 22 ปีของทีมโคลเชสเตอร์ มาแก้ปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีม หลังจากริชาร์ด ไรท์ และจิมมี วอล์กเกอร์ ไม่สามารถท้าชิงตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมจากโรเบิร์ต กรีน ได้ ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวของทีม“เรือใบสีฟ้า”แมนฯซิตี้ ว่า “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในลีกแชมเปียนชิพ ได้ยื่นข้อเสนอที่จะยืมตัวเอมิล เอ็มเพงซา กองหน้าทีมชาติเบลเยียมซึ่งไม่มีตำแหน่งตัวจริงในทีมแมนฯซิตี้ มาเสริมแนวรุก เอเย่นต์ของหัวหอกทีมชาติเบลเยียม ยืนยันว่า เลสเตอร์ได้ยื่นข้อเสนอยืมตัวเอ็มเพงซาจริง และดาวยิงวัย 29 ปีกำลังพิจารณาเงื่อนไขอยู่ “ผมได้รับโทรศัพท์ หลายครั้งจากเจ้าหน้าที่สโมสรเลสเตอร์ แต่เรากำลังพิจารณาในทุกทางเลือก” • กุหลาบจ้องซิวกองหลังวาลองเซียนส์ เผย“กุหลาบไฟ” แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส มีแผนจะคว้าตัวรูดี้ แมตเตอร์ ปราการหลังของทีมวาลองเซียนส์ ในลีกเอิงฝรั่งเศส มาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ แมตเตอร์โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในศึกลีกเอิงฤดูกาลนี้ ซึ่งแหล่งข่าวเมืองน้ำหอมระบุว่า แบล็กเบิร์นได้ส่งแมวมองของทีมมาซุ่มดูฟอร์มแบ็กขวาของทีมวาลองเซียนส์รายนี้มาแล้วหลายครั้ง สำหรับแมตเตอร์ กองหลังวัย 27 ปี ยังคงเหลือสัญญากับทีมต้นสังกัดวาลองเซียนส์อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น และเชื่อกันว่ามาร์ก ฮิวจ์ส ผจก.ทีมกุหลาบไฟ เตรียมจะยื่นข้อเสนอซื้อตัวแมตเตอร์มาร่วมทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ หลังจากได้รับอนุมัติงบประมาณช็อปปิ้งนักเตะ “ผมหวังจะคว้านักเตะมาเสริมทัพอีกหลายคน ผม จะมีงบประมาณช็อปปิ้งนักเตะในปีนี้ เพื่อกระโจนเข้าตลาดซื้อขายนักเตะ และหวังจะคว้านักเตะเสริมทัพสัก 2-3 คน พวกเขาคงมีค่าตัวไม่ถูกมากนัก แต่แน่นอนว่าต้องทำงานร่วมกับผมได้ และจะสามารถช่วยทีมได้” ฮิวจ์สระบุ. http://www.thairath.co.th/news.php?section=sports06&content=83954 จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เบน ฟรีคิก <benfreekick@hotmail.com> หมายเหตุ : ถอดบทความจากเวบไซต์ต่างประเทศ ประโยชน์ของ Director อยู่ที่ไหน? เหมือนความสำเร็จต่อระบบขนส่งสาธารณะและการอยู่รวมกันอย่างประชาธิปไตย มีบางสิ่งซึ่งยุโรปจับฉวยเต็มไม้เต็มมือแต่อังกฤษไม่สามารถหยั่งเห็นคุณค่าของมัน นั่นคือตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลที่ภาคพื้นยุโรปให้การยอมรับและไม่เป็นประเด็นโต้เถียงใดๆแต่ในอังกฤษบ่อเกิดแห่งความสับสนยังฝังแน่นคงทนเมื่อผลลัพท์ที่ออกมาดูแย่ซะเป็นส่วนใหญ่ สัปดาห์ก่อนเวสต์แฮมเปิดตัวชายชาวอิตาเลี่ยนนามกรจิอันลูก้า นานี่ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสโมสรโดยเขาผู้นี้พูดได้ถึง 4 ภาษาและเคยมีส่วนรับผิดชอบต่อการดึงแข้งชื่อดังอย่างโรแบร์โต้ บัจโจ้และอังเดร ปิร์โล่มาเล่นให้เบรสชา เครดิตต่อประวัติการทำงานของเขาไร้ที่ติแต่ก็ยังมีข้อสงสัยถึงเรื่องหน้าที่ของเขา ยกตัวอย่างเช่นใครจะเป็นคนฟันธงตัดสินใจหรือ Final say? อลัน เคอร์บิชลีย์อาจจะอ้างว่าเป็นอำนาจของเขาส่วนสาลิกาลิ้นทองอย่างนานี่อาจลดราวาศอกไม่ก้าวก่ายเคิร์บซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเต้ยในเรื่องของการดึงนักเตะมาร่วมทีมตลอด 10 ปีที่ผ่านมาและรวมถึงสมัยคุมชาร์ลตันอีกด้วย แล้วแบบนี้"ขุนค้อน"จะจ้างนานี่มาทำแมวน้ำอะไร? บางทีอาจเป็นเพราะเริ่มเป็นที่รู้กันดีมากขึ้นเรื่อยๆว่าระบบแบบอังกฤษมักล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ น่าจะเข้ามาพยายามเพิ่มโอกาสทางเลือกมากกว่า ผู้จัดการทีมสมัยก่อนทำหน้าที่สากกะเบือยันเรือรบ รับผิดชอบแทบทุกอย่าง เคยมีช่วงเวลาที่ต้องกุลีกุจอไปซุ่มดูฟอร์มนักเตะดาวรุ่งที่โอลด์แฮมหรือไม่ก็อันเดอร์ช็อตไม่ใช่แอฟริกัน เนชั่น คัพ,ฟุตบอลโลกยู-19,ลีกระดับรองลงมาในยุโรปเหมือนในสมัยนี้ คำถามก็คือจุดรับผิดชอบต้องตกไปอยู่ที่ใคร ทั้งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคหรือผู้อำนวยการฟุตบอลดูเหมือนช่ำชองกันเหลือเกินกับการมีพาวเวอร์เต็มสูบแต่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น หลักฐานมีเห็นๆคือดาเมี่ยน คอมอลลี่ผู้อำนวยการของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ที่มีแต่ผลงานซื้อตัวเมื่อซัมเมอร์สุดห่วยไม่ว่าจะเป็นยูเนส คาบูล,เควิน ปรินซ์ บัวเต็งและดาร์เรน เบนท์ สุดท้ายคนที่ต้องรับกรรมกลายเป็นมาร์ติน โยล...... นิวคาสเซิ่ลต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ก่อนหน้าเวสต์แฮมเพราะเดนนิส ไวส์เข้ามารับตำแหน่งนี้ก่อนด้วยซ้ำเพียงแต่ว่าเควิน คีแกนไม่สามารถซื้อนักเตะคนไหนมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมเลยยังอยู่ในระดับ"เฝ้าระวัง"จากผู้คนอยู่ แม้คิงเคฟประกาศเสียงดังว่าสุดท้ายเขานี่แหละจะเป็นคนเซย์"เยส"หรือ"โน" เมื่อปี 2004 แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ก็เคยออกอาการหงุดหงิดเมื่ออยู่ดีๆปอร์ทสมัธแต่งตั้งเวลิเมียร์ ซาเย็ชจนรู้สึกว่าอำนาจของเขาถูกบั่นทอนลง ปอมปีย์แตกสะบั้นเมื่อเร้ดแนปป์ลาออกในเดือนพฤศจิกายนและซาเย็ชคุมทีมชั่วคราวในเดือนต่อมาจากนั้น 5 เดือนให้หลังอดีตนักเตะยูโกสลาเวียผันตัวเองกลับไปรับตำแหน่งผอ.ตามเดิมทันทีที่อแล็ง แปรกแร็งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยปัญหาส่วนตัวหรืออะไรก็แล้วแต่ซาเย็ชลาออกในเดือนตุลาคมทำให้เร้ดแนปป์คัมแบ็คกลับมามีอำนาจที่แฟร็ตตัน พาร์คเหมือนเดิม แต่ที่น่าตลกคือสโมสรก็ยังจ้างอาฟรัม แกรนต์มารับตำแหน่งผู้อำนวยการและคราวนี้สัปปะเหร่อลูกหนังไม่ได้ออกอาการอะไรดังนั้นสรุปได้อย่างเดียวคือเร้ดแนปป์ไม่ชอบขี้หน้าซาเย็ชนั่นเอง กลับมาที่"ไก่เดือยทอง"การเข้ามาวุ่นวายของโคมอลลี่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยและส่งให้ยอดทีมจากลอนดอนหล่นไปอยู่โซนหนีตกชั้นจนได้คนดีมีฝีมืออย่างฆวนเด้ รามอสมาช่วยชีวิตทันเวลา เซาแธมป์ตันต้องตกชั้นหลังรูเพิร์ท โลว์หันมารับบทผู้อำนวยการและแต่งตั้งสตีฟ วิกลีย์ผู้จัดการทีมไร้ฝีมือมานำทัพรวมทั้งไม่ยอมรับฟังคำแนะนำของกอร์ดอน สตรัคคั่นที่เสนอชื่อเอ็มมานูเอล อเดบายอร์กองหน้าฝีเท้าแจ่มของโมนาโก ไม่มีผู้จัดการทีมรุ่นเก่าคนไหนได้ดีกับตำแหน่งบอร์ดบริหารเลยเมื่อได้โอกาสขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล ไม่ว่าเดฟ บาสเซ็ตต์ซึ่งรับตำแหน่งนี้ให้เลสเตอร์ ซิตี้มานานกว่า 20 ปีหรือตอนที่เกรแฮม ริกซ์คุมปอมปีย์แล้วเร้ดแนปป์เป็นผอ.ก็แทบไม่ได้สร้างผลงานอะไรเลย ที่ยังไม่มีใครลืมคือเดวิด พลีทมาป่วนการทำงานของเกล็น ฮ็อดเดิ้ลในถิ่นไวท์ฮาร์ทเลนซึ่งตัวอย่างพวกนี้กลายเป็นที่ขยาดของเหล่าผู้จัดการทีมเมื่อพูดถึง"ผู้อำนวยการสโมสร" จริงๆแล้วการอำลาจากการด้วยดีของผู้จัดการทีมและผอ.แทบหาไม่เจอเลยทีเดียว โยลและแฟร็งค์ อาร์เนเซ่นก็ร่วมงานแค่ช่วงสั้นๆที่สเปอร์ส อันนี้น่าจะเป็นข้อยกเว้นเมื่อหนุ่มใหญ่ชาวเดนมาร์กชิ่งไปรับทรัพท์ที่เชลซี งานทุกแขนงล้วนแล้วแต่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตลอดและเชลซีพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตอนนี้ฟุตบอลก็เอาด้วย ส่งผลทำให้โจเซ่ มูริโญ่ต้องเจอดีกับตัวเองในที่สุด การนำแบบอย่างของธุรกิจเข้ามาเชื่อมงานและสื่อสารดูเหมือนไม่เวิร์คทั้งสองอย่าง ฟอสเตอร์ จิลเล็ตต์าตั้งออฟฟิสอยู่ใกล้ราฟาเอล เบนิเตซที่เมลวู้ดโดยไม่ได้สร้างประโยชน์อันใดให้ทีมเลย แล้วมีอะไรบ้างเนี่ยที่มันประสบความสำเร็จ!? มีสิ หลักฐานเมื่อในเร็วๆนี้ชัดเจนกับสโมสรมากกว่าจะเป็นเรื่องอำนาจของผู้จัดการทีมหรือผู้อำนวยการ ยกตัวเช่นคำพูดของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซึ่งไม่เคยมีใครกล้ามีปัญหาด้วยแน่ นี่คือคนที่มีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง การที่"ปิศาจแดง"ประสบความสำเร็จกับการซื้อนักเตะจากแดนโปรตุเกสในช่วงหลังแน่นอนคาร์ลอส กีรอสมีพาวเวอร์มากกว่าผู้ช่วยผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเลยว่าเฟอร์กี้นี่แหละเป็นคนไฟเขียวให้ซื้อได้ อีกตัวอย่างซึ่งด้วยความเป็นคนกว้างขวางและมีความรอบรู้เกมทั่วโลกมากมายเหลือเกินทำให้อาร์แซน เวนเกอร์ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสโมสรให้อาร์เซนอลด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้โบโร่ พริโมรัค(ชาวบอสเนียหรือยูโกสลาเวียเดิม)คู่หูของ"น้าเหี่ยว"ตั้งแต่สมัยคุมนาโกย่า แกรัมปัสถูกมองว่ามีส่วนสำคัญอยู่เบื้องหลังก็ตาม สเวน โกรัน เอริคส์สันเป็นอีกคนที่สามารถติดต่อประสานงานไปทั่วโลกโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อำนวยการที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เลย เดวิด มอยส์และมาร์ติน โอนีลผู้จัดการทีมหัวโบราณยุคเก่าก็มีอำนาจเดี่ยวๆไร้คนก้าวก่าย ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบอร์ดบริหารมากจนทำให้การซื้อตัวนักเตะง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก ตราบใดที่การตัดสินใจในเรื่องต่างๆของผู้จัดการทีมเฉียบขาดได้ผลเป๊ะมันก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่มันมีเรื่องของเหตุและผลต่อความพยายามที่จะสร้างโครงสร้างที่จะยืนยงอยู่ยาวนานกว่าเรื่องบุคคล มีอยู่หลายสโมสรที่การซื้อตัวนักเตะยังดีเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมแต่ในอังกฤษยังไม่สามารถทำได้เหมือนกับพวกเซบีญ่า,อูดิเนเซ่หรือพีเอสวี อย่างไรก็ตามตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลในอังกฤษดูแนวโน้มแล้วค่อนข้างไร้เสถียรภาพดังนั้น ไม่สำคัญว่าคนที่จะมาทำหน้าที่นี้มีประวัติโด่งดังหรือโชกโชนแค่ไหนแต่มันก็ทำใจเชื่อลำบากว่าความสัมพันธ์ของนานี่และเคอร์บิชลีย์จะยืดยาวคงทน... http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=82998 จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นิโก้ลั่นไม่ชอบอยู่ทีมเกรดต่ำ นิโคลัส อเนลก้า กองหน้าสปีดสูงของเชลซี ออกมาเปิดเผยว่าตัวเขามีความสุขมากๆที่ได้ย้ายมาอยู่ทีมที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์อย่างสิงห์ไฮโซ เชลซี หลังจากต้องจมปลักกับทีมระดับธรรมดาๆ อยู่นานถึง 6 ปี หลังจากย้ายออกจากลิเวอร์พูลเมื่อซีซัน 2001-02 ทางอเนลก้าก็พเนจรย้ายไปอยู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เฟเนอร์บาห์เช่ และโบลตัน วันเดอร์เรอร์ ก่อนในที่สุดจะย้ายมาเล่นให้กับเชลซีด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ "ผมเฝ้ารอการจะได้ลงเล่นให้กับทีมระดับเชลซีมาตลอดเลยนะ รอมาตั้งแต่ผมออกจากลิเวอร์พูลเมื่อ 6 ปีที่แล้วนั่นแหละ" อเนลก้าเผย "การได้เล่นในทีมใหญ่แบบนี้ มันทำให้ผมมีความสุขมากๆ ผมตื่นเช้าขึ้นมา แล้วก็พบว่า ตัวเองยังมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ แชมเปี้ยนส์ลีก แค่นี้มันก็ทำให้ผมสุขใจแล้วล่ะ ไม่ใช่ว่าโบลตันไม่ดีนะ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมาก มีกลุ่มแฟนๆที่สุดยอด แต่ผมชอบความรู้สึกของผู้ชนะมากกว่า" "ถ้าอะไรมันดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงดีสินะ ผมจะหมดสัญญากับเชลซีจนผมอายุ 32 เชื่อได้เลยว่า กว่าจะถึงตอนนั้นผมคงได้แชมป์อะไรติดไม้ติดมือกับเขาบ้างล่ะ" "และผมน่ะไม่ได้ซีเรียสหรอก ถึงจะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักก็ตาม เพราะคิดดูนะ ปกติเชลซีก็เป็นทีมใหญ่ที่มีลุ้นอยู่แทบทุกรายการอยู่แล้ว ดังนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าผมจะโดนดอง ไม่ได้ลงเล่น" "และผมก็ไม่ได้ซีเรียสด้วย ถ้าไม่ได้ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า การที่ผู้จัดการทีมให้ผมเล่นในตำแหน่งอื่นๆเช่นปีกซ้าย หรือปีกขวา ก็แสดงว่าตัวผมมีศักยภาพพอที่จะทำอย่างนั้นได้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจออก" "ตัวผมน่ะ ขอให้ได้อยู่ในทีมระดับลุ้นแชมป์ผมก็สบายใจแล้ว จะเล่นในตำแหน่งไหน ก็แล้วแต่โค้ชจะบัญชาการเลย ผมไม่วอรี่อะไรทั้งนั้น" ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3171 จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาวาสเซลล์ออก  แล้วเอาคาสติญโญ่ลงแทนนะนัดนี้ จากคุณ : pelipe - [ 28 มี.ค. 51 12:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 10975 เมอร์ซี่ไซด์เดือด คอลัมน์ คุยนอกจอ โดย เอกราช เก่งทุกทาง ยาคูบู อเยกเบนี่ การแย่งอันดับ 4 ลุ้นโควต้าสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกกลับมาเป็นประเด็นร้อนหลังจากเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อสัปดาห์ก่อน ลิเวอร์พูล ทำท่าว่าจะค่อยๆ เพิ่มความได้เปรียบและน่าจะคว้าที่ 4 เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปแบบนิ่มๆ จากฟอร์มร้อนแรงชนะมา 7 นัดติด นักเตะยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ตรงข้ามกับท็อฟฟี่เมนซึ่งเริ่มสะดุด แถมออกอาการเกร็งชัดเจน สองนัดหลัง เอฟเวอร์ตันเก็บได้แค่คะแนนเดียว เกมล่าสุดที่เสมอเวสต์แฮมในบ้าน นอกจากเสียแต้มอย่างน่าเจ็บใจ ยังเล่นเละเทะออกทะเลตอนท้ายๆ จน เดวิด มอยส์ กุนซือ ต้องยืนด่าสดๆ ต่อหน้าต่อตาแฟนบอล ท็อฟฟี่เมนสภาพน่าเป็นห่วง แต่อยู่ดีๆ ก็กลับมามีความหวังอีก หลังจากลิเวอร์พูลโดนแมนฯยูไนเต็ดถล่มยับในวันอาทิตย์ หงส์แดงห่างท็อฟฟี่แค่ 2 แต้ม ถ้าจิตใจไม่หนักแน่นพออาจจะแฮงก์คามาจากนัดก่อนได้เหมือนกัน มันไม่ง่ายนะครับ, ลิเวอร์พูลเพิ่งแพ้แมนฯยูแล้วต้องกลับมาลุยดาร์บี้แมตช์กับเอฟเวอร์ตันทันทีในสัปดาห์นี้ เรื่องแทคติค แผนการเล่นอาจจะเตรียมกันได้ แต่ความพร้อมเรื่องจิตใจยังน่าคิดว่าจะมาเต็มร้อยหรือเปล่า เฟร์นานโด ตอร์เรส คะแนนห่างกัน 2 แต้ม เล่นไปเล่นมาถ้ายิงไม่ได้ นำไม่ขาด ลิเวอร์พูลมีสิทธิเกร็งเอาง่ายๆ และนั่นจะเป็นโอกาสของท็อฟฟี่เมนทันที เกมนี้เป็นเกมวัดใจของแท้เลยแหละ มาตรฐานของหงส์แดงครบเครื่องเหนือชั้นกว่าแน่ๆ แต่นัดนี้จะถูกจับตามากเป็นพิเศษ ต้องลงไปเล่นพร้อมกับความคาดหวังว่าต้องกลับมาแก้ตัว ชนะได้สวยๆ ยิ่งเล่นในบ้านด้วย ยิ่งกดดันมากกว่า เพราะโอกาสอยู่ในมือ ถ้าชนะจะทิ้งห่าง 5 แต้ม ซึ่งจะทำให้เอฟเวอร์ตันทรุดฮวบแทบจะหมดลุ้นไปเลย ลิเวอร์พูลถูกตั้งความหวังไว้สูง ส่วนเอฟเวอร์ตันไม่มีอะไรจะเสีย ถึงเงื่อนไขคร่าวๆ จะรู้กันอยู่ว่า ถ้าชนะได้ก็แซงขึ้นที่ 4 ทันที แต่ในความเป็นจริง ท็อฟฟี่ไม่เคยบุกหักปีกหงส์แดงมาหลายปีแล้ว ความคาดหวังจึงไม่น่าจะมากมายอะไร ผมว่าทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชเอฟเวอร์ตันก็คงยอมรับความจริงอยู่ ประมาณว่าถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงซะถ้าจบอันดับ 5 ก็มีโควต้ายูฟ่าคัพเป็นรางวัลปลอบใจซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จพอตัวแล้ว ช่องว่างระหว่างพวกบิ๊กโฟร์กับทีมที่เหลือยังมีอยู่ บางช่วงอาจจะดูสูสีขึ้นมาก็เพราะเป็นจังหวะแผ่วของบางทีม แต่พอตั้งหลักได้ก็จะกลับมาหนีห่างต่อไป ถ้าไม่เจออุบัติเหตุจากนัดพบแมนฯยู ผมเชื่อว่า ลิเวอร์พูลจะคว้าที่ 4 สบายๆ แต่พอสะดุดแรงซะขนาดนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าสภาพจะออกมายังไง ความเสียหายจากเกมแพ้ปีศาจแดงคือ มัสเชราโน่ โดนแบน, เฟร์นานโด ตอร์เรส เจ็บเล็กน้อยและการประสานงานกับ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ขาดหายไป ขณะที่กองหลังก็เผยความจริงว่า ยังไว้ใจไม่ได้ ทุกอย่างที่เสียต้องอุดให้เต็ม ถ้ายังลงไปเล่นเหมือนนัดก่อน หงส์แดงก็มีสิทธิแพ้ได้เหมือนกัน โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ชิพ วันเสาร์ที่ 29 มี.ค. เบอร์มิงแฮม-แมนฯซิตี้, โบลตัน-อาร์เซน่อล, ดาร์บี้-ฟูแล่ม, ปอร์ทสมัธ-วีแกน, เรดดิ้ง-แบล๊คเบิร์น, ซันเดอร์แลนด์-เวสต์แฮม, แมนฯยู-แอสตัน วิลล่า วันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค. เชลซี-มิดเดิ้ลสโบรช์, สเปอร์ส-นิวคาสเซิล, ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์+ฟรีทีวี คืนวันเสาร์ 29 มี.ค. เวลา 22.00 น. เบอร์มิงแฮม-แมนฯซิตี้(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 63), โบลตัน-อาร์เซน่อล (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 61), ดาร์บี้-ฟูแล่ม (ทรูวิชั่นส์ 106), ปอร์ทสมัธ-วีแกน (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 70), เรดดิ้ง-แบล๊คเบิร์น (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 68), ซันเดอร์แลนด์-เวสต์แฮม (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 69) เวลา 00.00 น. กายารี่-โรม่า (ทรูวิชั่นส์ 106) เวลา 00.15 น. แมนฯยู-แอสตัน วิลล่า (ทรูสปอร์ต 3,5 ช่อง 63, 68) เวลา 02.30 น. ลาซิโอ-อินเตอร์ (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 63) เวลา 04.00 น. บียาร์รีล-แอต.มาดริด (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 61) คืนวันอาทิตย์ 30 มี.ค. เวลา 19.30 น. เชลซี-มิดเดิ้ลสโบรช์ (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 61) เวลา 20.00 น. มิลาน-อตาลันต้า (ทรูวิชั่นส์ 106) เวลา 21.00 น. สเปอร์ส-นิวคาสเซิล (ทรูสปอร์ต 3,5 ช่อง 63,68) เวลา 22.00 น. ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 61, ฟรีทีวีช่อง 3) บาเลนเซีย-มายอร์ก้า (ทรูวิชั่นส์ 107), ฮันโนเวอร์-แฟรงก์เฟิร์ต (ทรูวิชั่นส์ 106) จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรือใบสีฟ้า"ขนชุดใหญ่บุกไทยแน่ พ.ค.นี้ สเวนนำทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ เตรียมขนทัพใหญ่ นำโดยกุนซือ สเวน โกรัน อีริคส์สัน รวมถึงดาวดังอย่าง ไมกาห์ ริชาร์ด, เอลาโน บุกเยือนไทย ในการตระเวณทัวร์เอเชีย ช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ พร้อมเปิดคลินิคลูกหนังให้กับเยาวชนไทยอีกด้วย หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ซื้อกิจการสโมสร "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมประกาศว่าจะนำทีมมาเตะนัดพิเศษในเมืองไทย แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาว่าจะเป็นเมื่อใดนั้น ล่าสุด "คม ชัด ลึก" ได้รับการเปิดเผยจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.ฮาวคัม ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกิจกรรมของแมนฯซิตี้ ในเมืองไทยว่า ในช่วงปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก เดือน พ.ค.นี้ ทีมตราเรือใบมีโปรแกรมที่จะเดินทางมาทัวร์เอเชีย ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในคิวเตะดังกล่าว จะต้องมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน "ที่ผ่านมา มีการประสานงานกันตลอดเวลา เพียงแต่ที่เรายังไม่ออกข่าวเนื่องจาก ต้องการรอคำยืนยันจากทางอังกฤษเสียก่อน โดยล่าสุด แมนฯซิตี้ ยืนยันที่จะนำทีมเดินทางมาทัวร์เอเชีย ยังคงเหลือแค่การจัดสรรโปรแกรมว่าจะไปลงที่ประเทศใดบ้าง โดยหลังจากปิดฤดูกาลนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมแล้ว ทีมชุดใหญ่โดยการนำของสเวน โกรัน อีริคส์สัน จะนำทัพมาเยือนประเทศไทยอย่างแน่นอน” ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.ฮาวคัม ยังเผยอีกว่า ตอนนี้กำลังประชุมเพื่อเตรียมงานรอรับ พร้อมกับจัดสรรโปรแกรมว่า เมื่อมาเมืองไทยแล้วจะต้องมีกิจกรรมอะไรบ้าง โดยสิ่งที่เตรียมเสนอเอาไว้มี 3 รูปแบบคือ เตะกับทีมชาติไทย 1 แมทช์ ในกรุงเทพมหานคร, เปิดคลินิกสอนฟุตบอลแก่เยาวชน พบปะแฟนคลับ และสุดท้ายคือการพาทัวร์เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เราต้องการยืนยันจากททางอังกฤษสัยก่อนว่าอยากได้กิจกรรมอะไรบ้าง ขณะที่ นายทวีสุข ศรีสัมฤทธิ์ บอร์ดบริหารของแมนฯซิตี้ กล่าวผ่าน นสพ.สเตรทไทม์ ของสิงคโปร์ว่า การเดินทางมาทัวร์เอเชียของแมนฯซิตี้ในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะร่วมเดินทางมากับทีมแน่นอน พร้อมตั้งความหวังว่าการมาทัวร์ครั้งนี้จะเป็นการสร้างความใกล้ชิดระหว่างทีมเรือใบสีฟ้า กับแฟนบอลในเอเชียมากยิ่งขึ้น นอกจากประเทศไทย ยังมี มาเก๊า, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่อยู่ในข่ายที่แมนฯซิตี้จะเดินทางไปทัวร์ โดยจะมีการยืนยันโปรแกรมอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ส่วนนักเตะที่จะเดินทางร่วมทีมมานั้น จะเป็นชุดใหญ่ทั้งหมด อาทิ ไมกาห์ ริชาร์ด ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ, เอลาโน ดาวเตะทีมชาติบราซิล http://www.komchadluek.net/2008/03/27/x_spo_l001_195951.php?news_id=195951 จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรือใบ"มาแน่ทัวร์เอเชียช่วงปิดซีซั่น แมนฯ ซิตี้ ประกาศแผนการทัวร์เอเชียช่วงพ.ค.นี้ หวังบุกโกยเงินจากแดน "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ก่อนจะไปเตะที่ฮ่องกง, มาเก๊า, อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย โดยงานนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรร่วมเดินทางมาด้วย นายทวีศักดิ์ ศรีสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแมนฯ ซิตี้ ได้ออกมาเปิดเผยกับน.ส.พ. "สเตรท ไทมส์" ของสิงคโปร์ว่า เตรียมที่จะส่งทีมชุดใหญ่เดินทางมาลงแข่งขันตามประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ช่วงพ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยตารางอย่างเป็นทางการในช่วงสัปดาห์นี้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรจะเดินทางร่วมกับสโมสรเพื่อนำผู้เล่นของซิตี้มาทัวร์เอเชียครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเอเชียได้ชื่นชมฝีเท้าของนักเตะของเรา" สำหรับสโมสรแมนฯ ซิตี้ คาดว่าจะเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ในระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. นี้ และยังถือเป็นสโมสรในพรีเมียร์ลีกทีมแรกที่เดินทางมาเยือนสิงคโปร์ในรอบ 7 ปี หลังจากที่แมนฯ ยู และลิเวอร์พูล มาทัวร์เมื่อปี 2001 ขณะเดียวกันยังมีการยืนยันด้วยว่า "เรือใบสีฟ้า" จะเดินทางไปเตะที่ฮ่องกง, มาเก๊า, จาการ์ตาของอินโดนีเซีย และกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียอีกด้วย แต่ไม่มีรายงานแจ้งว่าจะมาเตะที่ประเทศไทย http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROemNHOHdOREkyTURNMU1RPT0=&sectionid=TURNd09BPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB5Tmc9PQ==target=_blank จากคุณ : solo one - [ 28 มี.ค. 51 12:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เบอร์มิงแฮม จะอาศัยความโกรธของทีม...รอดจากการตกชั้น!!   นัดหน้า เจอแมนซิตี้ ไม่รู้จะมาเล่นบอลหรือเล่นคน......       ระวังบาดเจ็บด้วยเน้อ   รอเรียกใบแดงได้เลย            สำคัญอย่าไปเล่นคนตอบนะ............. *************************        สเวนน่าจะหาเพชร ใกล้มือก่อน มีนักเตะเด็กๆที่มีแววรุ่งหลายคนทีเดียวที่อยู่ใกล้ตัวแท้ๆ        ระวังจะเป็น ใกล้เกลือกินด่าง เสียละ. จากคุณ : กลาง. - [ 28 มี.ค. 51 15:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 งานหนักของซิตี้ อาร์เซน่อล เคยเป็นเหยื่อมาแล้ว แต่คิดว่าซิตี้น่าจะผ่านไปได้ อิอิ จากคุณ : จอบศักดิ์ - [ 28 มี.ค. 51 16:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลุ้นเอาใจช่วยด้วยคน จากคุณ : Krieng_MCFC - [ 28 มี.ค. 51 16:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พรุ่งนี้แล้วสิจะได้เชียร์ จากคุณ : yut - [ 28 มี.ค. 51 17:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่น้องครับ เจอทีมหนีตกชั้นนอกบ้านด้วย ผมละเสียวซี้ดดดดด อีกแล้ว ทีมเรามีนิว ๆๆ อีกแล้วเหรอครับ  มีใครแล้วบ้างนะครับที่ผมเคยได้ยินก็ นิวมาเกเลเล่  -  เกลสัน เฟอนองเดส นิวซีแมน -   โจ ฮาร์ท มาใหม่ซิง  นิว เอียนรัช  -  แชดอีเวน จากคุณ : อินจอง - [ 28 มี.ค. 51 17:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ จากคุณ : นายกสมาคมคนน่ารัก - [ 28 มี.ค. 51 19:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เงียบจังวันนี้ จากคุณ : มรณคิด - [ 28 มี.ค. 51 20:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สื่อสเปนเผย ชุดขาว ทุ่มแหลกซิว 6 แข้งดังเสริมซีซันหน้า โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 มีนาคม 2551 18:24 น. "ชูสเตอร์"เตรียมยกเครื่องชุดขาว ?       แบรนด์ ชูสเตอร์ กุนซือรีล มาดริด ส่งบัญชีรายชื่อ 6 นักเตะที่ต้องการตัวมาเสริมในฤดูกาลหน้า ให้กับ รามอน กัลเดรอน ประธานสโมสร เพื่อขออนุมัติงบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าดาวเตะ 6 รายนี้ น่าจะมีค่าตัวรวมกันกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 7,000 ล้านบาท)             มาร์กา สื่อชื่อดังแดนกระทิงดุ เปิดเผยรายชื่อ 6 แข้งดังที่อยู่ในบัญชีความต้องการของแบรนด์ ชูสเตอร์ กุนซือชาวเยอรมัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฤดูกาลหน้า หลังปีนี้ทีมเหลือเพียงแชมป์ลาลีกาให้ลุ้นเพียงรายการเดียวเท่านั้น             โดย 6 นักเตะที่ทีมชุดขาวหมายปอง ประกอบไปด้วย             คาริม เบนเซมา กองหน้าจากลียง, เคลาส์ ยาน ฮุนเตลาร์ ดาวยิงชาวดัตช์ จากอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม , คริสเตียน โพลเซน มิดฟิลด์เชิงรับ ทีมชาติเดนมาร์ก จากเซบีญา ,ริคคาร์โด ควอเรสมา ปีกทีมชาติโปรตุเกส,มาริโอ โกเมซ กองหน้าทีมอินทรีเหล็กจากสตุตการ์ท และดาเนียล อัลเวส แบ็กจอมบุกจากเซบีญา             ขณะที่ เดริโอ สปอร์ต อีกหนึ่งสื่อแดนกระทิงดุ รายงานว่า ยอดทีมแห่งถิ่นเบอร์นาบิว เตรียมที่จะโละนักเตะครั้งสำคัญในช่วงหน้าร้อนนี้ ทั้ง มิเชล ซัลกาโด, มามาดู ดิยาร์รา, โรเบอร์โต โซลดาโด, ฮาเวียร์ ซาบิโอลา, เจอร์ซีย์ ดูเด็ค, คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์, ฮูลิโอ บัปติสตา และ ฟาบิโอ คันนาวาโร ออกจากทีม             สำหรับ รีลมาดริด แม้จะยังรั้งจ่าฝูงในศึกลาลีกา สเปน แต่ถูกบาร์เซโลนา ทีมคู่ปรับไล่หลังมาเหลือเพียง 4 แต้มเท่านั้น ขณะที่ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก ที่ครองแชมป์มาถึง 9 สมัย กลับล้มเหลวตกเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย """"""""""""""""" เห็นนักเตะที่มาดริดจะโละ...แล้วอยากได้สักตัวสองตัว ฮูลิโอ บัปติสตา, มามาดู ดิยาร์รา สองตัวนี้ก็น่าสนใจ.... ผมว่าสองตัวทำให้ซิติ้ดีขึ้นแน่นอนครับ....และราคาไม่แพงเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 21:19:01 จากคุณ : yut - [ 28 มี.ค. 51 21:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ok รายงานตัว ครับ เห็นด้วยกับคุณ yut ครับ สองตัวราคาไม่แพง จากคุณ : CityEagle - [ 28 มี.ค. 51 22:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอ็มเพงซ่า ยังอยู่ต่อ โอ้พระเจ้า จากคุณ : VanHelsing - [ 28 มี.ค. 51 22:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น่าจาส่งพี่เอ็มมาไทยลีก จากคุณ : ธัชกร - [ 29 มี.ค. 51 00:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ,มาตามข่าว ครับผม จากคุณ : eak_berserk - [ 29 มี.ค. 51 00:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รอลุ้นขอ 3 แต้ม ทำบัตรใหม่ติดรูป อิ อิ จำชื่อกันได้หมดแล้ว แต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย จากคุณ : Krieng_MCFC - [ 29 มี.ค. 51 21:51:37 ]