ความคิดเห็นที่ 1 1.เปเล่ ราชันลูกหนังโลก  เอ็ดสัน อรันเตสโด นาสซิเมนโต้ หรือ เปเล่ เจ้าของฉายาไข่มุกดำผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะเก่งกาจที่สุดในรอบศตวรรษเช่นเดียวกับดีเอโก้ มาราโดน่า เขาเป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกถึง 3 สมัยจากการเล่น 4 สมัยติดกัน ลงเล่นให้เล่นทีมแซมบ้า 92 นัดยิงไปถึง 77 ประตู ค้าแข้งในระดับสโมสรกับซานโต๊สยิงไปถึง 589 ประตูจาก 605 นัด ในสถิติอย่างเป็นทางการ แต่ถ้านับรวมการแข่งขันที่ไม่เป็นทางการด้วย เขาทำสถิติอันเหลือเชื่อให้กับวงการลูกหนังโดยยิงไปถึง 1087 ประตูจาก 1120 นัด และพาซานโต๊สเป็นแชมป์ลิเบอร์ราดดเรสคัพได้สองสมัย เปเล่เป็นนักเตะที่ถนัดในการใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกกองหลังเพื่อเข้าไปยิงประตู มีลูกยิงที่เฉียบคมและหนักหน่วงมาก เขาเคยยิงลูกบอลแบบเต็มข้อจากครึ่งสนามถากเสาไปนิดเดียว และยังเป็นกองหน้าที่ถนัดในลูกกลางเวหาไม่ส่าจะเป็นลูกตีลังกาหรือลุกโหม่ง จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2.มาร์โก แวน บาสเท่น "เพชรฆาตพรายกระซิบ" หนึ่งในสามทหารเสือของฮอลแลนด์ชุดแชมป์ยุโรปปี 1988 ซึ่งก็เป็นเขาเองที่ยิงประตูมหัศจรรย์จากด้านข้างเข้าไปอย่างงดงาม และได้รับการยกย่องให้เป็นประตูที่สวยที่สุดตลอดกาลประตูหนึ่งในการแข่งขันระดับนานาชาติ เขาได้รับรางวัลบัลลงดอร์ถึงสามสมัยและได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีก 1 สมัยหลังจากที่ถ้วยรางวัลนี้พึ่งจะถูกตั้งขึ้นได้เพียงปีเดียวเท่านั้น เขามีเกียรติยศจากการเล่นให้มิลานและทีมชาติฮอลแลนด์ไม่ต่างจาก รุด กุลลิทและแฟรงค์ ไรจการ์ด แต่เขาพลาดทัวร์นาเม็นต์สำคัญในฟุตบอลโลกเนื่องจากการบาดเจ็บเรื้อรังและต้องแขวนสตั๊คไปเมื่อมีอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น  เขาเล่นให้อาแจ้กซ์ยิงไปถึง 128 ประตูจาก 133 นัด และสามารถยิงให้มิลาน 90 ลูกจาก 147 นัดทั้งๆที่เซเรียอาในสมัยนั้นมีค่าเฉลี่ยประตูต่อนัดต่ำมากเพราะหลายทีมเน้นเกมรับ แวนบาสเท่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่ง เขามีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เทคนิค การเลี้ยงบอล พละกำลัง ยิงได้คมกริบทั้งสองเท้าและยังเด่นในลูกกลางอากาศ รวมถึงการวิ่งหาตำแหน่งและสัญชาติญานดาวยิง ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3.โรนัลโด้ โล้นทองคำ สุดยอดซุปเปอร์สตาร์แห่งยุค 2000 ด้วยลีลาการเล่นที่เร้าใจบวกกับความเฉียบคมในการยิงประตูทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดแห่งยุคเทียบเท่ากับซีเนอดีน ซีดาน เขาเป็นนักเตะที่คว้ารางวัลเกียรติยศส่วนบุคคลมาได้มากที่สุดในปัจจุบัน โดยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า 3 สมัยและบัลลงดอร์อีก 2 สมัย โรนัลโด้ได้แชมป์โลกกับบราซิลสองสมัยและรองแชมปืหนึ่งสมัย ติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้งและอาจจะสร้างประวัติศาสตร์เล่นเป็นสมัยที่ 5 เท่ากับมัทเธอุสและคาร์บานาล นายทวารของเม็กซิโก เขาได้รางวัลลูกบอลทองคำในฟุตบอลโลกปี 1998 และยังได้รางวัลดาวซัลโวในฟุตบอลโลกปี 2002 โดยยิงไปถึง 8 ประตูทำให้ขึ้นเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ซึ่งเขายิงไปถึง 15 ประตู และเขาก็ไม่พลาดถ้วยแชมป์โคปาอเมริกากับบราซิลโดยได้แชมป์มาสองสมัย เขาลงเล่นให้กับสโมสรชั้นนำในยุโรปทั้ง บาร์เซโลน่า รีล มาดริด อินเตอร์ มิลานและในปัจจุบันเล่นให้กับเอซี มิลาน แต่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นกับมาดริดและได้ถ้วยยูฟ่าคัพกับอินเตอร์ โรนัลโด้เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ดุจดังพระเจ้าประทานมาให้ เขาสามารถเลี้ยงลูกบอลหลบกองหลัง 3-5 คนได้จนเป็นเรื่องปกติ และยังมีตำแหน่งในการเข้าฮอสที่ดีอีกด้วย จุดอ่อนของเขาดูจะมีเพียงเรื่องเดียวคือการโหม่ง แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย เมื่อเขาสามารถแสดงจุดเด่นอื่นๆมาทดแทนได้ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 4.เกิร์ด มุลเลอร์ ไอ้ลูกระเบิด เกิร์ด มุลเลอร์ ศูนย์หน้ายอดดาวยิงตลอดกาลของทัพอินทรีเหล็กเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1974 มีสถิติการยิงให้ทีมชาติอันน่าทึ่งเขาสามารถยิงได้มากกว่าจำนวนนัดที่ลง โดยยิงถึง 68 ประตูจาก 62 นัด อย่างไรก็ตามบัลลงดอร์ที่เข้าได้มานั้นอยู่ในปี 1970 ซึ่งเขาเป็นดาวซัลโวประจำการแข่งขันจากการยิงไปถึง 10 ประตู รวมยิงในฟุตบอลโลก 14 ประตูเป็นรองโรนัลโด้เพียงลูกเดียวแต่เขาเล่นฟุตบอลโลกเพียง 2 ครั้งเท่านั้น และยังเป็นดาวซัลโวในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1972 ที่เยอรมันได้แชมป์อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอเขายังได้รางวัลดาวซัลโวของบุนเดสลีกาถึง 7 สมัยซึ่งเป็นสถิติอันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่งและนั่นก็ทำให้บาเยิร์นสามารถครองแชมป์บุนเดสลีกาได้ 4 สมัยและยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัยรวดในช่วงเวลาที่เขาลงเล่น รวมเล่นให้บาเยิร์น 453 เกมยิงสนั่นถึง 398 ประตู มุลเลอร์เป็นกองหน้าที่มีรูปร่างเตี้ยล่ำทำให้เขามีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและสมดุลร่างกายที่ดี เขามีสัญชาติญาณดาวยิงเป็นเลิศ และมีการเคลื่อนไหวหาตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาเป็นยอดดาวซัลโวอย่างแท้จริงในโลกลูกหนัง จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5.กาเบรียล บาติสตูต้า บาติโกล์แห่งทีมฟ้า-ขาว เป็นกองหน้าที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีลูกยิงที่เฉียบคมที่สุดทั้งเรื่องของแรงและทิศทางที่เขาได้ทำมาให้เห็นอยู่เป็นประจำ เล่นในนามทีมชาติอาร์เจนตินา 78 นัดยิงไป 56 ประตู ช่วยให้ทีมฟ้า-ขาว เป้นแชมป์ดคปาอเมริกาสองสมัย และเขาได้เป็นดาวซัลโวของการแข่งขันในปี 1991 ในระดับสโมสรเคยเล่นให้ทั้งฟิออเรนตินาและโรม่า โดยช่วยให้โรม่าคว้าแชมป์เซเรียได้เป็นหนที่สองในประวัติศาสตร์ รวมเล่นในระดับสโมสรทั้งหมด 441 นัดยิงไป 249 ประตู เขาเป็นเจ้าของสถิติทำประตูต่อเนื่องกันมากที่สุดในเซเรียอา โดยยิงต่อเนื่องกันถึง 11 นัด เขาเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสอีกคนที่ขาดรางวัลเกียรติยศส่วนบุคคล แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หลายคนสงสัยในความสามารถของเขา บาติสตูต้าเป็นศูนย์หน้าที่มีความเร็วพอตัว จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความแข็งแกร่งและลูกยิงที่เฉียบคม และยังทำได้ดีในลูกกลางอากาศอีกด้วย จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 6.อังเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อดีตตำนานนักเตะของราชันชุดขาว รีลมาดริดยุคครองทวีปยุโรป ซึ่งเขายิงอย่างระเบิดเถิดเทิงให้มาดริดขึ้นครองความยิ่งใหญ่เป็นเวลานานจากการพิชิตถ้วยแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพมาได้ถึง 5 สมัยติดต่อกันซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของถ้วยรายการนี้ และแน่นอนที่จะได้แชมป์ลาลีกาเป็นจำนวนที่มากกว่าโดยกวาดแชมป์ไปถึง 8 สมัยใน 10 ฤดูกาล รวมเล่นในแมตซ์ที่เป็นทางการทั้งหมด 739 นัด ซัดไปถึง 580 ประตู จากผลงานการยิงประตูของเขาทำให้เขาได้ก้าวขึ้นไปรับรางวัลบัลลงดอร์ได้ถึงสองสมัย ในยุคที่กฎข้อบังคับยังหละหลวมทำให้เขาเล่นในนามทีมชาติถึง 3 ชาติ โดยเล่นให้อาร์เจนตินาและโคลัมเบียเพียงไม่กี่นัดก่อนจะไปปักหลักเล่นให้กับทีมชาติสเปน อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว เกียรติยศระดับชาติที่ได้ติดตัวมาคือเหรียญแชมป์โคปา อเมริกาในปี 1947 เท่านั้น เขายังคงเป็นเจ้าของดาวซัลโวสูงสุดของรีล มาดริดมาถึงทุกวันนี้ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Alfredo Di stefano จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 7.ยูเซบิโอ ไอ้เสือดำแห่งโมซัมบิก เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 1965 กองหน้าแอฟริกันที่โอนสัญชาติมาเป็นโปรตุกีส และจากฟอร์มการเล่นของเขาไม่ได้ทำให้ชาวเมืองฝอยทองผิดหวังแต่อย่างใดเมื่อซัดไปถึง 41 ประตูจากการเล่น 64 นัด และเป็นดาวซัลโวในฟุตบอลโลกปี 1966 โดยยิงไปถึง 9 ประตู เขาเล่นให้กับเบนฟิก้าเป็นช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการค้าแข้งและมีสถิติอันน่าทึ่ง โดยสามารถยิงไปถึง 317 ประตูจาก 301 นัด ยูเซบิโอเป็นนักเตะที่มีพละกำลังและสปีดต้นที่สูง มีเท้าขวาที่ทรงพลังและแม่นยำ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะแอฟริกันคนแรกที่จัดอยู่ในระดับเวิลด์คลาส จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 8.โรมาริโอ อัจฉริยะลูกหนัง ซุปเปอร์สตาร์ในฟุตบอลโลก 1994 ของทีมแซมบ้า จากผลงานที่ช่วยให้บราซิลผงาดขึ้นครองแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 ทำให้เขาได้รับเกียรติยศทั้งการคว้าลูกบอลทองคำหรือรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม็นต์และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าในปีดังกล่าว และยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของอมริกาใต้ในปี 2000 โรมาริโอเป็นนักเตะจอมพเนจรอย่างแท้จริง เขาย้ายสโมสรถึง 15 ครั้งในจำนวน 9 สโมสร ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่โจษขานในขณะที่เขาเล่นให้กับพีเอสวีที่สามารถยิงได้ถึง 98 ประตูจาก 109 นัด ในการเล่นในยุโรปนอกจากพีเอสวีแล้วเขาเคยเล่นให้บาเลนเซียและบาร์เซโลน่าในสเปนรวม 3 ฤดูกาลได้แชมป์ลาลีกากับบาร์ซ่า 1 สมัย ส่วนที่เหลือนั้นเขาได้ตระเวนไปทั่วโลกในเล่นในอมริกา กาาตาร์และออสเตรเลียก่อนจะกลับมาปิดชีวิตการค้าแข้งในบ้านเกิดกับสโมสรแรกในชีวิตการค้าแข้งของเขา นั่นคือวาสโก ดา กามา โรมาริโอเป็นผู้เล่นที่เน้นทางด้านทักษะและเทคนิคล้วนๆ เขามีความเร็วไม่สูงนักแต่มีความฉลาดในการเล่นเป็นอย่างมาก เขารู้วิธีการจัดการกับจุดอ่อนของกองหลังหรือผู้รักษาประตูแต่ละคน และมีทีเด็ดจากการยิงแบบใบไม้ร่วง จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 9.เฟเรนซ์ ปุลกัส เดอะไมท์ตี้ ฮังกาเรียน สุดยอดตำนานลูกหนังของวงการฟุตบอลโลก ในยุค 50 ที่หลงเหลือแต่ภาพขาวดำให้เราได้เห็น และรางวัลบัลลงดอร์ยังไม่เกิดขึ้น เขานำทีมชาติฮังการีได้แชมป์โอลิมปิกในปี 1952และรองแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1954 ลงเล่นให้ชาติ 85 นัดยิวไป 84 ประตู  เขาเป็นตำนานของรีลมาดริดในยุค 50 ร่วมกับอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ โดยช่วยให้ราชันชุดขาวคว้าแชมป์ลีกสเปน 5 ครั้งและยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย สถิติการยิงประตูของเขาไม่แพ้ใครโดยยิงได้ถึง 514 ประตูจาก 529 นัดในระดับสโมสร จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 10.จัสต์ ฟองแตงค์ อดีตศูนย์หน้าดาวยิงของทีมตราไก่ เจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลกครั้งเดียว โดยเขาสามารถยิงไปถึง 13 ประตูในฟุตบอลโลกปี 1958 ที่ฝรั่งเศสคว้าอันดับสามมาครอง ติดทีมชาติรวม 21 นัดยิงไปถึง 30 ประตู ในระดับสโมสรเล่นให้ reims 131 นัด ยิงไปถึง 122 ประตู และช่วยให้ทีมครองความยิ่งใหญ่ของลีกเอิง ด้วยการคว้าแชมป์ถึง 6 สมัยและยังได้รองแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพอีกสองสมัย ฟองแต็งไม่ใช่ศูนย์หน้าที่เด่นในเรื่องความสามารถเฉพาะตัว แต่เมีสัญชาติญาณกองหน้าอยู่เต็มเปี่ยม และพร้อมที่จะล่าตะข่ายให้ทีมเสมอ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับ 5 อันดับรองลงมาได้แก่ 11.ซานดอร์ ค็อคซิซ   บาร์เซโลน่า/ฮังการีชุดรองแชมป์โลกปี 1954 12.อูเว เซเลอร์             ฮัมบูร์ก/เยอรมันตะวันตกชุดฟุตบอลโลกปี 1958 1962 1966 1970 13.กุนนาร์ นอร์ดาล    เอซี มิลาน/สวีเดน 14.ฮูโก้ ซานเชซ        รีล มาดริด/เม็กซิโกชุดฟุตบอลโลกปี 1978 1986 1994 15.จอร์จ เวอาห์          เอซี มิลาน/ไลบีเรีย จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับอันดับ 11-15 อาจจะขาดชื่อซุปเปอร์สตาร์ไปหลายคน แต่เหตุผลที่เลือก ค็อคซิซ นอร์ดาล และซานเชซ คือมีสถิติการยิงประตูที่มากเป็นอันดับต้นๆในลีกชั้นนำรวมถึงยิงได้มากในทีมชาติ นอร์ดาลเป็นนักเตะที่ยิงให้มิลานสูงสุดและมีค่าเฉลี่ยต่อนัดที่สูงสุดด้วย ส่วนซานเชซยิงให้รีล มาดริดคิดเป็น 0.72 ประตูต่อนัด ถือว่าไม่ธรรมดา อูเว เซเลอร์ เป็นนักเตะเยอรมันที่ได้รับการจัดคลาสให้อยู่ในขั้น AA-AAA จากเวปไซด์ที่น่าเชื่อถือของเยอรมันสูงกว่าทั้งรุมเมนิเก้และคลินส์มันน์ จอร์จ เวอาห์ เป็นนักเตะที่อาจยิงประตูไม่มาก ส่วนนึงเพราะเล่นในเซเรียอายุคกองหลังหิน แต่เรื่องความสามารถโดยรวมน่าจะดีกว่าอองรีและสตอยช์คอฟ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมโหวตให้ แวน บาสเท่น ศูนย์หน้าที่ครบเครื่องทุกอย่าง แถมยังมีลูกมหัศจรรย์ให้เห็นบ่อยๆ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 15:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตำแหน่งนี้เลือกยากมาก แค่บราซิลอย่างเดียวก็ไม่รู้จะกดใครแล้ว เปเล่เป็นตำนานก็จริง แต่ตอนพีคผมว่าR9ก็ไม่ด้อยกว่าเลย แถมโรมาริโอ้นี่ก็ของจริงแท้แน่นอน ส่วน ยูเซบิโอ ปุสกัส แวนบาสเท่น ดิสเตฟานโน มุลเลอร์ พวกนี้เข้าขั้นระดับตำนานของแต่ละชาติทั้งนั้น ปล. ผมว่าบาติโกลเก่งมากนะครับ แต่ถ้าจะเทียบกับตัวเลือกที่เหลือ น่าจะยังด้อยกว่า ทั้งรางวัลส่วนตัวและระดับชาติ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม - [ 16 เม.ย. 51 15:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาที่ผมทันได้ดูการเล่นก็ต้อง " มาร์โก " ครับ จากคุณ : SaVor - [ 16 เม.ย. 51 15:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าในความหมายของสไตรเกอร์จริงๆผมให้แกร์ด มุลเลอร์คับ แต่ถ้าเอาที่ทันดู ผมให้โรมาริโอ เฉือน ฟาน บาสเท่นนิดๆ จากคุณ : มิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก - [ 16 เม.ย. 51 15:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัว ให้ บาติโกล หมดหัวใจ จากคุณ : PaHaD - [ 16 เม.ย. 51 16:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ให้ปู่เปเล่ ไม่มีใครที่จะได้แชมป์โลก 3 สมัยอีกแล้ว จากคุณ : เลขาลิขิต - [ 16 เม.ย. 51 17:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยังคิดว่าจะมีโอเล็ก บล็อคกิ้น กับ ดิกซี่ ดีน จากคุณ : นางสเตนเลส - [ 16 เม.ย. 51 17:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บล็อคกิน ยิงได้น้อยมากนะครับ ส่วนดิ๊กซี่ ดีน ยิงได้มากสุดๆ แต่เป็นช่วงบุกเบิกของวงการฟุตบอลไม่เคยพิสูจน์ตัวในทัวร์นาเม็นต์ใหญ่ จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 18:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Pele จากคุณ : ลูกกวาดแสนรัก - [ 16 เม.ย. 51 18:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมอยากเห็น พวก ฟองแตงค์ ปุสกัส ยูเซบิโอ ดิ สเตฟาโน่ เล่นแบบเต็ม ๆ ซักครั้งเอาแบบครบ 90 นาที  ท่านใด มีให้ชมได้ที่ไหน  โปรดชี้แนะด้วยครับ โหวตแบบนี้ รูสึกไม่เป็นธรรมกับพวกเขาเลย จากคุณ : lyonheartz (lyonheartz) - [ 16 เม.ย. 51 19:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 # 23 หาดูได้จาก youtube ครับ ผมดูมาหมดแล้ว แต่เป็นคลืปการยิงประตูนะ หาดู 90 นาทีคงยาก ส่วนเรื่องผลโหวตอย่าซีเรียสนะครับ จุดประสงค์หลักคือการนำเสนอเป็นสกู๊ป แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 51 19:51:38 จากคุณ : Dearman - [ 16 เม.ย. 51 19:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเอาแง่ Striker แบบในกรอบเขตโทษผมยกให้ มุลเลอร์ กับแวน บาสเท่นสูสีกันครับ แต่ผมให้เครดิตกับมุลเลอร์มากกว่าเพราะได้แชมป์โลกมา จากคุณ : @scholly@ - [ 16 เม.ย. 51 20:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถั่วดำ เอ๊ย ไข่มุกดำ จากคุณ : PUEK - [ 16 เม.ย. 51 20:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เปเล่แน่ๆครับ ผมไม่คิดมาก จากคุณ : Krieng_MCFC - [ 17 เม.ย. 51 02:06:24 ]