ความคิดเห็นที่ 1 บิ๊กผีแดงเตือนแฟนไม่มีตั๋วอย่าไปมอสโก เคน แรมส์เด้น เลขาธิการสโมสร "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตือนแฟนบอลของทีมที่ไม่มีตั๋วชมเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ สัปดาห์หน้า อย่าดันทุรังเดินทางไปกรุงมอสโก ให้เสียเวลา หลังจากมีมาตรการมากมายเอาไว้กรองแฟนบอลที่หวังไปตายเอาดาบหน้า เคน แรมส์เด้น เลขาธิการสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 2 สมัยหลังสุด ออกโรงมาเตือนแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วเข้าไปดูเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ กับ เชลซี ที่ ลุซนิกี้ สเตเดี้ยม ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ อย่าพยายามดึงดันเดินทางไปแดนหมีขาว เนื่องจากจะไม่ได้อะไรขึ้นมา แฟนบอล "ปีศาจแดง" และ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้รับการแบ่งสรรตั๋วเข้าชมเกมฝ่ายละ 21,000 ใบ และคาดหมายว่า แฟนบอลอีกมากจะเดินทางไปที่ มอสโก จนทำให้มีความหวั่นวิตกว่าคนจะเยอะมากไป และก่อให้เกิดปัญหา หากแฟนบอลไปที่สนามมากเกินไป แต่ แรมส์เด้น ก็ไม่ห่วงเรื่องนี้มากนัก เพราะเชื่อว่าแฟนที่ไม่มีตั๋วจะไม่สามารถเดินทางไปที่นั่นได้ "พวกเขา (แฟนบอลที่ไม่มีตั๋ว) จะไม่ได้ออกจากสนามบินแมนเชสเตอร์ โดยไม่มีตั๋ว หรือ หนังสือเดินทางที่ถูกต้อง ตรงนั้นจึงจะเป็นจุดแรก มันจึงเป็นปัญหาน้อยลงกว่าที่มันอาจจะเป็น หากเป็นที่ มาดริด หรือ โรม เหมือนอย่างปีหน้า เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหาเท่าไร" "ผมคิดว่ายังไงข้อเท็จจริงที่ มอสโก เดินทางไปแพงมาก และยากลำบากจะช่วยลดจำนวนแฟนบอลพวกนั้นอยู่แล้ว ตอนนี้ ผมจึงไม่คิดว่าเรื่องนี้น่าเป็นมากนัก ไม่มีใครที่ไม่มีตั๋วจะได้เข้าใกล้สนาม สนามแข่งขันอยู่กลางคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ คอมเพล็กซ์ชั้นยอด และการรักษาความปลอดภัย ก็จะเข้มงวดมากๆ อย่างที่ใครคาดคิด คุณจึงจะไม่ได้เข้าใกล้สนามโดยไม่มีตั๋ว แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปในสนามเลย" แรมส์เด้น ยังได้เตือน แฟนบอลยูไนเต็ด ให้ประพฤติตัวที่ มอสโก ให้ดี เพราะคาดว่า ตำรวจแดนหมีขาว จะเข้มงวดกับการประพฤติตัวขวางสังคม "แฟนๆ ควรรู้ไว้ว่า ตำรวจที่นั่นไม่เหมือนที่อื่น ดังนั้นอย่าสร้างปัญหา อย่ามีปัญหากับเจ้าหน้าที่ ประโยคนี้ใช้ได้กับทุกที่" สุดท้าย เขามั่นใจด้วยว่า การแข่งขันทั้งหมดจะผ่านไปด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ "เกมนี้เป็นรายการยุโรป ไม่ใช่เกมนัดชิงของอังกฤษ แม้ว่าจะมี 2 ทีมอังกฤษมาเจอกันเองก็ตาม มอสโก พยายามทำงานอย่างหนักมานาน ผมจึงแน่ใจว่าพวกเขาจะทุ่มทรัพยากรทุกอย่างในโอกาสนี้ และมันก็จะเป็นความสำเร็จอย่างแน่นอน" ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา cresit:manuclub แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 22:59:26 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 16:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แกรนท์ไม่สนเฟอร์กี้อ้างผีแดงเหนือกว่า อัฟราม แกรนท์ กุนซือ เชลซี ยันไม่ใส่ใจกับคำพูด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อ้างว่า "ปีศาจแดง" มีสภาพจิตใจเหนือกว่า ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังเพิ่งซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ชี้ไม่มีทีมไหนได้เปรียบก่อนเริ่มเกม แต่มั่นใจ "สิงห์บลูส์" มีสิทธิ์ชนะ หลังจากเคยคว่ำคู่ปรับรายนี้มาแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน อัฟราม แกรนท์ ผู้จัดการทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาไม่ใส่ใจกับคำพูดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อ้างว่ายอดทีมแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีสภาพจิตใจที่เหนือกว่าลูกทีมของเขาในเกมนัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย วันที่ 21 พฤษภาคมนี้ หลังจากที่เพิ่งซิวแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษมาครองได้สำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ไม่มีทีมไหนได้เปรียบ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็สามารถพูดอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ พวกเขาอยากคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก และเราเองก็เช่นกัน แต่ไม่มีทีมไหนได้เปรียบก่อนเริ่มเกม ผมมั่นใจว่าเราสามารถเอาชนะ ยูไนเต็ด เราเอาชนะพวกเขาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผมไม่คิดว่าพวกเขาเหนือกว่าเรา ในเกมแบบนี้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยทำให้เกิดความแตกต่าง มันน่าตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่สโมสรผมได้เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก" กุนซือชาวอิสราเอล กล่าว ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub ขออภัยค่ะ เนื่องจากคอมเต่ามากเลยหารูปประกอบเหมาะๆไม่ทัน ดูรูปฉลองแชมป์ซ้ำๆไปก่อนละกันนะ^^ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:00:05 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอวร่ามึนตึ๊บมืดแปดด้านต่อสัญญาผีแดงยังไม่คืบ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับยังคงอยู่ในสถานการณ์มืดแปดด้านเกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญากับ "ปีศาจแดง" ที่หลงเหลืออีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่เอเยนต์ส่วนตัวได้เปิดโต๊ะเจรจามารอบหนึ่งแล้ว ปาทริซ เอวร่า ฟูลแบ็กจอมบุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนยังคงไม่ได้รับทราบรายละเอียดความคืบหน้าใดๆ เลยเกี่ยวกับการเจรจาต่อสัญญาค้าแข้งฉบับใหม่ โดยดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ที่ย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 346.5 ล้านบาท) จาก อาแอส โมนาโก เมื่อเดือนมกราคม ปี 2006 มีอายุสัญญาเหลืออยู่อีกเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เอวร่า เปิดเผยต่อไปว่าเอเยนต์ส่วนตัวของตนจัดการเดินเรื่องเข้าไปพบปะกับบอร์ดบริหาร แมนยูฯ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังคงไม่มีสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงเกิดขึ้นมาเลย ในขณะที่แข้งตัวหลักรายอื่นๆอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวส บราวน์ และ ไมเคิ่ล คาร์ริค ต่างก็ได้รับข้อตกลงระยะยาวจากต้นสังกัดกันถ้วนหน้าแล้ว แบ็กซ้ายเฟร้นช์แมน วัย 26 ปี กล่าวผ่าน "เดอะ ซัน" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์แดนผู้ดี ว่า "เอเยนต์ของผมกำลังเจรจากับสโมสร เคยมีการพบปะกันมาแล้วครั้งหนึ่ง และก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นตามมาเลยนับจากนั้นเป็นต้นมา ผมมีสัญญาเหลืออยู่อีก 1 ปี คำตอบทั้งหมดในเวลานี้ขึ้นอยู่กับ ยูไนเต็ด" ข่าวดังกล่าวนี้ถือเป็นการกระตุ้นให้สโมสรชั้นนำมากมายในยุโรปพิจารณายื่นข้อเสนอให้กับ เอวร่า แต่เจ้าตัวก็ยังคงยืนยันว่าเป้าหมายสำคัญในเวลานี้คือการช่วยทัพ "เร้ด เดวิลส์" ผงาดคว้า "ดับเบิ้ลแชมป์" ให้จงได้ หลังจากที่เพิ่งรักษาแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันมาได้หมาดๆ โดย แมนยูฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลุ้นแชมป์รายการที่ 2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการพบกับ เชลซี ในแมตช์ชิงดำ ที่สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย คืนวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ "หน้าที่ของผมคือทุ่มเทสมาธิไปกับการคว้าแชมป์ลีก และผมก็จัดการจนเสร็จสิ้นลงไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนในขณะนี้ ภารกิจของผมก็คือการจดจ่อสมาธิกับการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาติดตามดูกันเถิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมในการคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งไม่ได้เป็นเหตุมาจากเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ของผมแต่อย่างใด แต่มันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จเมื่อซีซั่นก่อนไม่ใช่เรื่องบังเอิญต่างหาก" เอวร่า กล่าวในที่สุด ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub เอ่อ มัวแต่เอาเวลาไปต่อสัญญาน้ำตาลรึเปล่าเนี่ย แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:02:34 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 17:19:44 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เซอร์รับจัดทีมชิงดำชปล.ลำบากใจสุดๆ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมโค้ชชั้นเซียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับการจัดทีมชุดแรกในแมตช์ชิงดำ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เชลซี เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสุดๆ ในอาชีพกุนซือ "ปีศาจแดง" เลยทีเดียว เหตุจำเป็นต้องตัดขุนพลบางคนออกจากโผรายชื่อในสนาม ทั้งที่ใจจริงแล้วไม่อยากจะทำแบบนั้นเลย โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกทีมทุกคนต่างก็ฟิตพร้อมกันถ้วนหน้าอย่างเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า กำลังเผชิญกับหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดในงานคุมทัพ "ปีศาจแดง" เลยทีเดียว เนื่องจากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับให้ตัดตัวผู้เล่นที่ฟิตพร้อมเต็มถังบางรายจากจำนวนทั้งหมด 26 คน เพื่อจัดทีมสำหรับลงสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่จะพบกับ เชลซี อริร่วมลีก ณ สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย คืนวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ แมนยูฯ ยูไนเต็ด มีขุมกำลังที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ในเวลานี้ เนื่องจากไม่มีปัญหาบาดเจ็บคอยรบกวนแม้แต่น้อย แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลให้ เฟอร์กูสัน จำเป็นต้องปิดโอกาสสัมผัสเกมนัดสำคัญในชีวิตพ่อค้าแข้งของลูกทีมจำนวน 8 ราย เพื่อตัดโผทีมชุดแรกให้เหลือเพียงแค่ 18 คนเท่านั้น (11 ตัวจริง 7 ตัวสำรอง) "เฟอร์กี้" กล่าวผ่าน "สกายสปอร์ตส์ นิวส์" สื่อกีฬาแดนผู้ดี ว่า "ผมคิดว่าการเลือกทีมชุดแรกน่าจะเป็นงานที่ง่ายกว่าการเลือกนักเตะตัวสำรองอย่างไม่ต้องสงสัย ผมจะต้องถอดนักเตะฝีเท้าเยี่ยมบางคนออกไปจากทีมในเกมสัปดาห์หน้า ซึ่งผมไม่ได้พึงพอใจที่จะทำเช่นนั้นเลย มันจะต้องได้รับการจัดการให้เสร็จสิ้น และผมก็ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะตัดสินใจในเรื่องนั้นได้" "ผมจำเป็นต้องเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องที่ผมตั้งตาคอยเอาไว้แต่อย่างใด แต่ในทางกลับกันแล้ว มันก็เป็นสถานภาพที่วิเศษสุดๆ สำหรับเราเลยทีเดียว ในการมีผู้เล่นที่ฟิตสมบูรณ์อยู่ในทีมถึง 26 คน" พร้อมกันนี้ บรมกุนซือเลือดสกอตต์แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังมั่นใจว่าพลพรรค "เร้ด เดวิลส์" มีข้อได้เปรียบเหนือ "สิงโตน้ำเงินคราม" ในแง่ของสภาพจิตใจที่กำลังฮึกเหิมอย่างเต็มที่ ภายหลังเพิ่งฉลองแชมป์ลีกมาหมาดๆ ซึ่งตรงกันข้ามจากคู่แข่งจากกรุงลอนดอน ที่จะต้องพยายามฟื้นฟูจิตใจจากความผิดหวังที่จบฤดูกาลเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ให้ได้ แม้ว่าโดยภาพรวมแล้ว ทั้ง 2 ทีมจะมีศักยภาพ และขนาดทีมที่สูสีทัดเทียมกันสุดๆ ก็ตาม "คุณจำเป็นต้องมีทีมที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงในการบรรลุผลสำเร็จทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมมีผู้เล่นถึง 26 คนในเกมเยือน วีแกน และทุกๆ คนก็ฟิตสมบูรณ์กันถ้วนหน้า พวกเขาทุกคนประคองตัวกลับมาจากแมตช์นั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งหมายความว่าผมจะสามารถเดินทางไปกรุงมอสโก ด้วยขุนพลที่พร้อมรบทั้ง 26 ชีวิตเลยทีเดียว นั่นถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนในการคุมทีมของผมที่นี่ และมันก็มอบโอกาสอันสุดมหัศจรรย์ให้กับเราเช่นกัน" "ผมคิดว่า เชลซี คงอยากจะอยู่เหมือนในสถานภาพของเรามากกว่าที่พวกเขาเป็นอยู่ในเวลานี้ การคว้าแชมป์ลีกทำให้เกิดอารมณ์สุขสำราญ แต่ในทางตรงกันข้าม พวกเขากลับต้องกระตุ้นตัวเองขึ้นมาให้ได้ หลังจากที่ผิดหวังกับการเสมอ โบลตัน" เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวปิดท้าย ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub เป็นความลำบากใจที่น่ายินดี แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:04:45 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เฟอร์กี้ข่มเชลซีขวัญหาย,รับปลื้มซิวกุนซือแห่งปี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ข่ม เชลซี ท่าทางคงขวัญเสียน่าดู หลังวืดแชมป์ลีกปีนี้ มั่นใจแชมป์ลีกสมัยที่ 10 ของ "ปีศาจแดง" ช่วยให้ทีมของเขาได้เปรียบด้านจิตวิทยา ก่อนลงเล่นนัดชิงดำ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ มอสโก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สาดน้ำลายใส่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทำสงครามประสาทก่อนจะดวลแข้งทำศึกนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ มอสโก วันพุธที่ 21 พ.ค. นี้ เชื่อการซิวถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ช่วยให้พวกเขาได้เปรียบทางจิตวิทยาก่อนเกมนัดสำคัญ แม้เกมชิงดำเจ้ายุโรปจะฟาดแข้งที่สังเวียนแข้ง ลุซนิกิ สเตเดี้ยม ใน มอสโก ดินแดนของ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช แต่ "เฟอร์กี้" ไม่สนใจ จัดการเล่นสงครามน้ำลายใส่ทันที โดยยกเอาแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 10 มาข่ม และชี้ว่า แชมป์นี้ช่วยให้ ยูไนเต็ด ได้เปรียบด้านจิตวิทยา "ผมคิดว่า เชลซี รู้ว่า เราอยู่ในสถานะของเรา มากกว่าสถานะพวกเขาเอง" "เราได้แชมป์ลีก และมีความสุขกับความสำเร็จ มันคือการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ขณะที่ เชลซี ต้องกระตุ้นตัวเองหลังเสมอกับ โบลตัน และต้องไป มอสโก เพื่อเล่นนัดชิง มันอาจไม่ทำให้เกิดความแตกต่าง แต่มันก็อาจแตกต่างได้ เชลซี เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ พวกเขามีนักเตะมากประสบการณ์มากกว่าเรา แต่ก็อย่างที่ผมบอก ความมั่นใจจากการคว้าแชมป์จะช่วยเรา" เฟอร์กูสัน ฟันธงถึงอนาคตยิ่งใหญ่ที่รอ "ปีศาจแดง" ชุดนี้อยู่ ต่อไปว่า "ทีมๆ นี้จะคว้าแชมป์อีกเยอะ ผมคิดว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ลีกได้อีกแม้ว่าผมจะออกจากสโมสรไปแล้วก็ตาม ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะผมไม่กำหนดวันตายตัวกับเรื่องพวกนี้ ผมคิดว่านี่คือทีมคนหนุ่ม และคิดว่าตอนนี้ทีมมีโครงสร้างที่ดี เราได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่คุณจำเป็นต้องทำเพื่อความเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมว่าเราทำแบบนั้นไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนที่เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ และมันได้ผลออกมาดีเยี่ยม" นอกจากนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ ยังเปิดเผยความรู้สึก หลังจากได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานดินเนอร์แจกรางวัลประจำปีของ สมาคมผู้จัดการทีมลีก (แอลเอ็มเอ) ที่เมืองน็อตติ้งแฮม เมื่อคืนวันจันทร์ผ่านมา รางวัลนี้จะโหวตลงคะแนนโดยสมาชิก แอลเอ็มเอ ทั้งหมด และ พิจารณาจากผลงานของผู้จัดการทีมทุกคนระหว่างฤดูกาล จากทรัพยาการทั้งหมดที่พวกเขามี ซึ่งในปีนี้ เฟอร์กูสัน ในวัย 66 ปี ได้พาขุนพล "ปีศาจแดง" เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 10 จาก 16 ปีหลังสุด และได้ชิงชนะเชิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เชลซี ที่มอสโก ในวันที่ 21 พฤษภาคม เฟอร์กูสัน กล่าวหลังจากได้รับรางวัลจาก ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชทีมชาติอังกฤษ และโฮเวิร์ด วิลกินสัน ประธาน แอลเอ็มเอ เป็นผู้มอบทุกรางวัลในงานนี้ว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผู้จัดการทีมด้วยกัน และ สมาชิกของ แอลเอ็มเอ ลงความเห็นว่าผมคู่ควรกับรางวัลนี้ ผมภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้" อดีตกุนซือ อเบอร์ดีน เคยคว้ารางวัลนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่พา ยูไนเต็ด คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1999 โดยฤดูกาลนี้ เขามาได้รางวัลต่อจาก สตีฟ ค็อปเปลล์ นายใหญ่เร้ดดิ้ง ที่เหมาซิวรางวัลมาทั้ง 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ชนะรางวัล ผู้จัดการทีมแห่งปี ของศึก แชมเปี้ยนชิพ คือ โทนี่ โมว์เบรย์ กุนซือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่พาทีมคว้าแชมป์ ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก ขณะที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมสวอนซี ได้รางวัลของ ลีก วัน และ เกรแฮม เทอร์เนอร์ ซิวของ ลีก ทู ไปนอนกอด หลังจากพา เฮียร์ฟอร์ด เลื่อนชั้นอัตโนมัติ ตั้งแต่ปีแรกที่กลับมาเล่นในฟุตบอลลีก ขณะที่ วิลกินสัน ประธาน เอ็มแอลเอ กล่าวว่า "รางวัลเหล่านี้ยกย่องความสำเร็จ ของผู้จัดการทีมตลอดทั้ง 4 ลีกสูงสุดในอังกฤษ การได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมอาชีพถือเป็นสิทธิ์พิเศษที่น่าเหลือเชื่อ และ ผู้ชนะในปีนี้ก็ควรภูมิใจกับความสำเร็จของพวกเขา แอลเอ็มเอ ขอแสดงความยินดีกับผู้จัดการทีมทุกคนที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งฤดูกาล" ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:05:24 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หนูโด้ลั่นอยู่ผียาวแน่นอนย้ำไร้เหตุต้องลายอดทีม ทีมดังหน้าไหนก็ตามที่อยากได้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกเวิลด์คลาสแมนยูฯ ยูไนเต็ด ไปเสริมทัพ คงจะต้องกินแห้วอย่างไม่ต้องสงสัย หลัง "หนูโด้" ตอกกลับทำไมต้องคิดว่าตัวเองอยากอำลายอดทีมอย่าง "ปีศาจแดง" ด้วย โดยเฉพาะในเวลานี้ที่กำลังโชว์ฟอร์มสุดแจ่ม และมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมถล่มประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งคำถามให้กับสโมสรที่หวังจะเซ็นสัญญาไปร่วมทัพว่า ทำไมตนจะต้องอยากย้ายออกไปจากทัพ "ปีศาจแดง" ที่กำลังทำผลงานได้ดีเยี่ยมสุดๆ ในซีซั่นนี้ แถมยังมีลุ้นทำสถิติดับเบิ้ลแชมป์อีกด้วย หากสามารถโค่น เชลซี ในเกมชิงดำ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย คืนวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ เรอัล มาดริด โคตรทีมแดนกระทิงดุ พยายามอย่างหนักมาตลอดที่จะพรากตัวยอดแข้งโปรตุกีส เจ้าของสถิติถล่มตาข่าย 41 ประตูในฤดูกาลนี้ ออกมาจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้จงได้ แต่การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของ "หนูโด้" ก็น่าจะทำให้แฟนบอล แมนยูฯ ยูไนเต็ด พอจะอุ่นใจขึ้นมาได้ว่าการย้ายทีมไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันใกล้อย่างแน่นอน "ผมได้อยู่กับสโมสรที่ถูกต้อง ลงเล่นร่วมกับนักเตะฝีเท้าดีเยี่ยม และได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ตลอดเวลา นั่นถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการค้าแข้งกับ ยูไนเต็ด ผมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด และผมก็ต้องการปรับปรุงฝีเท้าไปทุกๆ ฤดูกาล ผมคิดว่าผมเป็นนักเตะที่ดีกว่าเมื่อ 5 ปีก่อนอย่างชัดเจน การแข่งขันฤดูกาลนี้นับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม ผมทำสกอร์ได้มากมาย ทีมทำผลงานได้ดีมากๆ และเราก็เป็นแชมป์ในท้ายที่สุด มันช่างเป็นเรื่องที่อัศจรรย์จริงๆ แล้วทำไมผมจะต้องย้ายออกไปจากทีมด้วยล่ะ" โรนัลโด้ กล่าว ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:06:14 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เตเวซสุดทึ่งกิ๊กส์โคตรนิ่งซัดย้ำชัยนำผีงาบแชมป์ คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับสุดทึ่ง ไรอัน กิ๊กส์ นั่งเงียบสนิท ไม่แสดงทีท่าตื่นเต้น ประหม่า ขวัญเสีย ระหว่างเกมสำคัญกับ วีแกน ชี้ "กิ๊กซี่" ช่วยให้นักเตะคนอื่นๆ พลอยนิ่งไปด้วย จนสุดท้ายก็ชนะ และซิวแชมป์สมใจ คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกย่อง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกอาวุโส รุ่นพี่ร่วมทีม "ปีศาจแดง" ว่า ช่วยให้นักเตะรุ่นน้องไม่เสียขวัญในเกมสำคัญที่แสนตึงเครียดกับ วีแกน แอธเลติก ด้วยการนั่งเงียบได้ตลอดในซุ้มสำรอง เตเวซ กล่าวว่า "กิ๊กส์ อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง และไม่พูดอะไรเลย ! เขานิ่งมาก มันช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้ทีม มันน่าประทับใจ และผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ผมไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมายกย่องเขาดี ทั้งเขา และ พอล สโคลส์ เลย ผมอยากเป็นแบบพวกเขาบ้าง พวกเขาสุขุมนุ่มลึก และกับ สโคลส์ แล้ว คุณจะไม่อยากอยู่ผิดฝั่งกับเขา เขาฆ่าคุณได้ นักเตะคนอื่นๆ เคารพเขามาก" อดีตนักเตะโบคา จูเนียร์ส และ โครินเธียนส์ บอกอีกว่า ถึงตอนนี้เขามีเส้นทางค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยมมาก "ผมได้แชมป์ลีกที่ อาร์เจนตินา, บราซิล และตอนนี้ใน อังกฤษ ผมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ไม่เหมือนใคร ที่ผมสามารถเล่าให้ลูกให้หลานฟังได้ มันเป็นประสบการณ์ที่หาอะไรเทียบไม่ได้ ผมสู้อย่างหนัก ผมไม่ได้อยู่ในทีมเพราะชื่อเสียง มันมาจากความทุ่มเท เสียสละ" "การไม่ได้รับอะไรเป็นของขวัญนั่นแหละคือสิ่งสวยงาม การต่อสู้เอาชนะความยากลำบากคือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด ผมไม่ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆ ผมไม่รู้จักสิ่งง่ายๆ ยิ่งลำบากเท่าไหร่ผมยิ่งเล่นดีเท่านั้น ผมทำได้ดีสุดในความกดดัน และผมพิสูจน์มันแล้วกับ ยูไนเต็ด ผมเล่นให้กับทีมที่คุณต้องเล่นให้ดีทุกนัด ผมอยู่กับทีมอันดับ 1 ของโลก การเป็นแชมป์ที่นี่มันหาอะไรมาเปรียบไม่ได้จริงๆ" "ตอนนี้ผมจดจ่อรอวันที่ 21 พ.ค. และนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ทั้งทีมก็คงคิดแบบผม ฤดูกาลของเรายังไม่จบ เรามีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่รออยู่ ผมยิงประตูแรกกับ ยูไนเต็ด ได้ในเกมกับ เชลซี ตอนนี้ผมอยากยิงพวกเขาอีกสักลูกที่ มอสโก" ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แกรนท์เชื่อเจที-ดร็อกฟิตพร้อมลงฉะผีนัดชิงชปล. อัฟราม แกรนท์ นายใหญ่ เชลซี ออกอาการมั่นใจสุดฤทธิ์สุดเดช จอห์น เทอร์รี่ และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา 2 กระดูกสันหลังของทีม จะเรียกความฟิตกลับมาทันลงเล่นเกมชิงดำ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ แมนยูฯ ยูไนเต็ด ในช่วงกลางสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ภายหลังทั้งคู่เดี้ยงมาจากเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล อัฟราม แกรนท์ กุนซือ เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า จอห์น เทอร์รี่ และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา 2 แกนหลักของทีม น่าจะเรียกความฟิตกลับมาทันลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม ลุชนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในวันพุธที่ 21 พฤษภาคมนี้ เทอร์รี่ และ ดร็อกบา ได้รับบาดเจ็บข้อศอกเคลื่อน และหัวเข่าตามลำดับ มาจากเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่ เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำได้แค่เสมอ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้หลายฝ่ายอดกังวลใจไม่ได้ว่า ทั้งคู่อาจจะเรียกความฟิตกลับมาไม่ทันลงเตะเกมชิงดำกับ แมนยูฯ ยูไนเต็ด ช่วงกลางสัปดาห์หน้านี้ แกรนท์ กล่าวว่า "เราไม่ได้ลงซ้อมในวันนี้ เช่นเดียวกับเมื่อวันก่อน เพราะฉะนั้น เราต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงฝึกซ้อมในวันพรุ่งนี้ เพื่อเช็กอาการของทั้งคู่ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง ในส่วนของ จอห์น เทอร์รี่ ผมคิดว่ามันน่าจะโอเค แต่ในรายของ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหนักหนาสาหัสขนาดไหน แต่ผมคิดว่า เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อกลับมาลงสนามให้ได้ในเกมนัดนี้" นอกจากนี้ "เฮียอึ่ง" ยืนยันว่า เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างสุดๆ ที่กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรก ที่สามารถพา "สิงโตน้ำเงินคราม" ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่สุดได้สำเร็จ พร้อมเสริมว่า "โดยส่วนตัวแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ แต่มันจะตื่นเต้นมากกว่านี้แน่ เพราะมันเป็นครั้งแรกของสโมสร ผมที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" "พวกเขาพยายามกันมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงฯ ได้เลยสักที และเวลานี้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่ต้องการเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ และสโมสรยักษ์หลายทีมต่างก็เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงฯ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มานับครั้งไม่ถ้วน เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ" ขณะเดียวกัน โค้ชชาวยิว มั่นใจ เชลซี สามารถขัดขวางไม่ให้ แมนยูฯ ยูไนเต็ด คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้อย่างแน่นอน โดยระบุว่า "แน่นอนว่า เราสามารถเอาชนะพวกเขาได้ เราเล่นกับพวกเขามา 2 ครั้ง เราชนะ 2 สัปดาห์ และแพ้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมแรกที่ผมคุมทีม หลังจากผู้ตัดสินแจกใบแดง (ไล่ จอห์น โอบี มิเคล ออกจากสนาม), แจกลูกโทษ และประตู แต่นั่นมันไม่ใช่การตัดสินที่ถูกต้องเลยสักครั้งเดียว ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่าเรา และในเกมแบบนี้ อะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น" อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 53 กะรัต ออกอาการไม่ยี่หระกับข่าวที่ว่า จ่อถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงปิดฤดูกาลนี้ ด้วยการยืนยันว่า เขาจะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง "ผมยังมองไม่เห็นอะไรอย่างอื่นเลย ผมพูดมาโดยตลอด และมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมพูดมาโดยตลอด แม้กระทั่งตอนที่ผมเข้ามารับงานคุมทีมในวันแรกว่า ผมจะขอสนใจอยู่กับงานของผม ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นพูด สิ่งที่ผมต้องทำในเวลานี้ก็คือ พุ่งสมาธิอยู่กับในวันพุธหน้า และไม่มองย้อนกลับไปในอดีต หรือแม้กระทั่งมองไปถึงอนาคต" นายใหญ่ประจำถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ กล่าวในที่สุด ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา credit:manuclub ขำๆน่อ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่จบ!แกรนต์จวกเบนเน็ตต์มอบแชมป์ให้ผี อาฟรัม แกรนต์กุนซือหน้าคางคกจวกผู้ตัดสินสตีฟ เบนเน็ตต์ที่ทำหน้าที่ห่วยแตกจนกลายเป็นมอบชัยชนะให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมชี้ชะตานัดสุดท้ายกับวีแกนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เชลซีจบฤดูกาลด้วยการตาม"ปิศาจแดง" 2 แต้มหลังลูกทีมเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบุกทุบวีแกนนิ่มๆ 2-0 แต่เบนเน็ตต์กลับมีส่วนต่อการตัดสินในช่วงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นใจให้"แชมป์"เอามากๆ หลายคนที่ดูอยู่รู้สึกว่าวีแกนสมควรได้จุดโทษหลังริโอ เฟอร์ดินานด์ทำแฮนด์บอลล์ในขณะที่พอล สโคลส์ต้องถูกไล่ออกหลังเสียบใส่วิลสัน พาลาซิออสโดยที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ก่อนแล้ว "ผมสามารถพูดได้เลยว่าหลังจบเกมเราชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อให้แต้มเท่ากัน เรารู้ว่าพวกเขาได้เล่นในบ้านกับเวสต์แฮมและต้องไปเยือนวีแกน นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา" "ผมบอกคุณแล้วว่าผมเชื่อมั่นในวัฒนธรรมของฟุตบอลอังกฤษที่ตรงไปตรงมา ผมจะไม่พูดอะไรที่เป็นแง่ลบแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่ผมคาดไว้แล้ว" "ในอังกฤษ มีผู้ตัดสินฝีมือดีเยอะแต่ก็ไม่น้อยเหมือนกันที่คุณสามารถเข้าไปมีอิทธิพลได้เหมือนอย่างที่คุณเห็นกันไปแล้วนั่นแหละ" "ผมคิดว่าเกมที่เราพบยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ผู้ตัดสิน(ไมค์ ดีน)มีส่วนกับผลการแข่งขันด้วย เรารู้เรื่องนี้ดี" "ผมว่าใบแดงของจอห์น โอบี มิเกลในเกมนั้นไม่ควรเป็นใบแดง ผมคิดว่าพอล สโคลส์น่าจะถูกไล่ออกในเกมเมื่อวันอาทิตย์และวีแกนก็ต้องได้จุดโทษด้วย" "แต่มันจบไปแล้ว ผมแสดงความยินดีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย" credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวนป๋าอย่ามาไซโคลั่นเชลซีไม่มีกลัว แกรนต์เส้นขึ้นไม่เลิกออกโรงสวนเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอีกดอกหลังเจอลูกไซโคว่าตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เปรียบเชลซีตรงที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมานอนกอดอยู่ก่อนแล้ว เฟอร์กี้พยายามโยนความกดดันให้ฝั่งเชลซีถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รองแชมป์สามรายการในฤดูกาลนี้หลังชวดทั้งคาร์ลิ่ง คัพและพรีเมียร์ลีกซึ่งวันที่ 21 พค.นี้เป็นยูไนเต็ดที่ได้เปรียบหลังได้ตุนไปแล้วหนึ่งแชมป์ "ไม่มีทีมไหนได้เปรียบหรอกและเซอร์อเล็กซ์อยากพูดอะไรก็ได้ตามที่เขาอยากจะพูด"แกรนต์ฉุนกึก "พวกเขาอยากได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกและเราเองก็อยากได้แต่ไม่มีทีมไหนได้เปรียบก่อนลงสนามหรอก" "ผมมั่นใจมากว่าเราจะโค่นยูไนเต็ดลงได้ เราเล่นกับพวกเขามาสองครั้งและเราก็เพิ่งอัดพวกเขามาหมาดๆที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน" "เกมที่เราแพ้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดมีทั้งใบแดง,จุดโทษ,ประตู แต่ละอย่างเป็นการตัดสินที่มั่วมากและผมก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะดีเด่อะไรไปกว่าเราหรอก" credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ป๋าอัด30ล้านป.หมายฉกดูโอเซบีญ่า แม้เพิ่งซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองแต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันพยายามอัพเลเวลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหนักขึ้นไปอีกล่าสุดตกเป็นข่าวว่าเตรียมควักคลังสโมสรอีก 30 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของสองแข้งเทพเซบีญ่าทั้งดาเนี่ยล อัลเวสและหลุยส์ ฟาเบียโน่ เดอะซันเผยว่ามาร์ติน เฟอร์กูสันหัวหน้าแมวมองและน้องชายป๋าได้ไปดูฟอร์มสองคนนี้เล่นถึง 10 ครั้งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยอัลเวสวัย 25 ปีเป็นเป้าหมายในตำแหน่งแบ็คขวาเพื่อแทนแกรี่ เนวิลล์มานานแล้วและยิ่งเสียโจเซ่ โบซิงวาให้เชลซีทำให้เฟอร์กี้ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ส่วนฟาเบียโน่วัย 27 ปีก็เป็นข่าวกับ"ปิศาจแดง"หลายครั้งเนื่องจากเป็นกองหน้าที่มีความคล่องตัวและยิงประตูเฉียบขาดโดยฤดูกาลนี้ถล่มไปถึง 33 ประตูใน 38 เกมแต่ติดปัญหาตรงที่มีเจ้าของร่วมซึ่ง 65 % มีกลุ่มนักลงทุนถือสิทธิ์อยู่โดยคล้ายๆกรณีของคาร์ลอส เตเบซนั่นเอง ทั้งคู่เป็นนักเตะตัวหลักของทีมชาติบราซิลโดยในรายของอัลเวสนั้นถูกยกย่องว่าเป็นแบ็คขวาที่เติมเกมรุกได้ดีที่สุดในโลกอีกด้วย credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผีจ่อส่งปิเก้เพิ่มเงินแลกปูโยล แมนฯยูไนเต็ด เตรียมวางแผนสร้างความแข็งแกร่งตั้งแต่ตอนนี้เลยทีเดียว ล่าสุดมีการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในว่า พวกเขาตั้งใจจะคว้าคาร์เลส ปูโยลเข้ามาเสริมทัพ โดยจะนำเคราร์ด ปิเก้ กองหลังดาวรุ่งของทีมบวกเงินจำนวนหนึ่งไปแลก   เอล มุนโด้ เดปอร์ติโบ สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของสเปนรายงานว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาศัยช่องว่างที่บาร์ซ่ากำลังจะผ่าตัดทีมครั้งใหญ่หลังจบฤดูกาลนี้ เร่งคว้าตัวปูโยล แนวรับที่ชื่นชอบมานานแล้ว ไว้ครอบครองให้ได้ โดยมีข้อเสนอที่น่าสนใจคือ เคราร์ด ปิเก้ ที่เป็นเด็กเก่าของบาร์ซ่าเอง บวกกับเงินก้อนหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าอยู่ในช่วงราวๆ 11 ล้านยูโร (ราวๆ 8 ล้านห้าแสนปอนด์) ซึ่งถ้าได้ปูโยลเข้ามาเสริมทัพล่ะก็ จะแก้ปัญหากรณีที่ขาดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และแบ็ก ได้อย่างสมบูรณ์ทีเดียว เพราะปูโยลสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงหลัง รวมถึงเล่นเป็นสวีปเปอร์ได้ดีอีกด้วย credit:soccersuck ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:07:33 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ป๋ารับปวดหัวจัดทีมชิงเจ้ายุโรป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยอมรับว่าเขากำลังเจอกับช่วงเวลาปวดหัวที่สุดเมื่อต้องจัดตัวผู้เล่น 18 คนฟาดแข้งกับเชลซีในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกในวันที่ 21 พค.นี้ ป๋าชี้ว่าปัญหาใหญ่ของเขาคือ ณ เวลานี้มีนักเตะฟิตครบถ้วน 100 % ทั้ง 26 คนทำให้เขาต้องจำใจเลือกแค่ 18 คนเพื่อชิงความเป็นเจ้ายุโรปกับเชลซีที่มอสโกว์ในวันพุธหน้านี้ "ผมกำลังเดินทางไปมอสโกว์ด้วยขุนพลฟิตปั๋งทั้ง 26 คน เป็นอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในยุคการทำทีมของผมนะเนี่ย" "แต่มันก็ทำให้เรามีโอกาสทองอย่างที่สุด" "มันทำให้ผมเกิดความยุ่งยากด้วยนะ ผมคิดว่าจัดทีม 11 ตัวจริงเนี่ยง่ายกว่าเลือกตัวสำรองซะอีก" "ผมกำลังจะต้องจำใจตัดชื่อนักเตะฝีเท้าดีออกจากทีมในสัปดาห์หน้านี้ซึ่งผมไม่ปลื้มเลยแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ" หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองแล้วเฟอร์กูสันยอมรับว่านี่คือช่วงเวลาที่สโมสรต้องประกาศักดาในเวทียุโรปให้ได้ "เมื่อคุณเห็นทีมอย่างเรอัล มาดริดได้ 9 สมีย,เอซี มิลานผมเดาว่า 7-8 สมัย,ลิเวอร์พูล 5 บาเยิร์น มิวนิคและไอแอ็กซ์อย่างละสี่ นั่นเป็นสถิติที่เราควรมีเช่นกัน" "ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดแรงกระตุ้นนะ" credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไม่เอาปูโยลลลลลลลลลลลลลลลล จากคุณ : GIRLCHESTER - [ 15 พ.ค. 51 17:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฟิโก้อิจฉาโด้จิ๋วพรสวรรค์เหลือล้น หลุยส์ ฟิโก้ เพลย์เมกเกอร์ลายครามของอินเตอร์ มิลาน ออกมายอมรับว่าเขาอิจฉาพรสวรรค์ของเพื่อนร่วมชาติอย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้ เหลือเกิน ที่ดูเหมือนจะเป็นนักเตะที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในโลกแล้วขณะนี้ "เขามีคุณภาพสุดๆ แบบที่แทบไม่มีปีกคนไหนทำได้เลยนะ" ฟิโก้เผย "อะไรก็ตามในสนามฟุตบอลเขาสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างเลย" "คุณเคยเห็นมิดฟิลด์คนไหนที่ทำได้ขนาดนี้มั้ยล่ะ ที่ยิงประตูได้ดีมากๆ,มีเทคนิคแพรวพราว,มีความเร็วสูง,จ่ายบอลยอดเยี่ยม,ลูกกลางอากาศก็ทำได้ดี และมีสุขภาพแข็งแรงตลอด ชนิดที่ไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บหนักๆเลย" "จากการที่เล่นตำแหน่งเดียวกัน ทำให้ผมทึ่งในพรสวรรค์ของเขาจริงๆนะ ถ้าเพียงแค่ผมมีพรสวรรค์แบบเขาบ้างล่ะก็ ทุกวันนี้ผมคงไม่ต้องมาฝึกหนักขนาดนี้หรอก!" นอกจากนั้น ทางฟิโก้ ยังออกมาเปิดเผยอีกด้วยว่า แฟนๆผีแดงอย่าได้ประมาทเรอัล มาดริดเด็ดขาด ที่พร้อมจะคว้าตัวโรนัลโด้ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว "ถ้าคิดจากสามัญสำนึกปกติ มันก็เป็นการยากนะที่เขาจะย้ายออกจากแมนฯยูไนเต็ดไป แต่คุณไม่มีทางรู้หรอก" "ผมขอบอกแค่ว่า คุณอย่าประเมินทีมอย่างเรอัล มาดริดต่ำเกินไป เพราะเขามักมีกลยุทธในการล่าตัวผู้เล่นได้อย่างเหลือเชื่ออยู่แล้ว บางทีรู้ตัวอีกทีหนึ่ง โรนัลโด้ อาจจะย้ายไปใส่เสื้อขาวแล้วก็ได้นะ" credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งงอันเนี้ย.... "ผมคิดว่าเกมที่เราพบยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ผู้ตัดสิน(ไมค์ ดีน)มีส่วนกับผลการแข่งขันด้วย เรารู้เรื่องนี้ดี" "ผมว่าใบแดงของจอห์น โอบี มิเกลในเกมนั้นไม่ควรเป็นใบแดง ผมคิดว่าพอล สโคลส์น่าจะถูกไล่ออกในเกมเมื่อวันอาทิตย์และวีแกนก็ต้องได้จุดโทษด้วย" "แต่มันจบไปแล้ว ผมแสดงความยินดีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย" แล้วจะมาพูดทำไมเนี่ย มันจบไปแล้ว จากคุณ : red_devil - [ 15 พ.ค. 51 17:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โด้จิ๋วบอกราชันหลบไปตอนนี้สุขกับผี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ปีกจอมสับปัดโอกาสอันน้อยนิดของเรอัล มาดริดเต็มๆดอกหลังยืนกรานว่าเขาอยู่เล่นกับสโมสรที่คู่ควรกับเขาแล้ว เรอัล มาดริดป่วนแชมป์พรีเมียร์ลีกทุกช่วงของตลาดซื้อขายโดยแหล่งข่าวระบุว่าการแสดงเจตจำนงอยากได้ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสทำให้"โด้จิ๋ว"ชักอ่อนระทวยจนเริ่มคิดหาช่องทางหนีโอลด์แทรฟฟอร์ดหากได้แชมป์ยุโรปซึ่งเท่ากับว่าเขากวาดแชมป์เมเจอร์กับทีมจนหมดแล้ว อย่างไรก็ตามโรนัลโด้ปฏิเสธทันควันโดยย้ำว่าเขาไม่มีแผนจะชิ่งหนียูไนเต็ดไปเล่นให้ทีมไหนเลย "ผมอยู่กับสโมสรที่ถูกต้อง,เล่นกับนักเตะที่คู่ควรและผมกำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา" "นี่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมกับการได้อยู่เล่นที่ยูไนเต็ด ผมพัฒนาฝีเท้าตลอดเวลาและผมอยากเก่งขึ้นทุกๆซีซั่น ผมคิดว่าผมเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นกว่าเมื่อ 5 ปีก่อนนะ" "ฤดูกาลนี้เป็นอะไรที่แหล่มมากสำหรับผม ผมรัวประตูเป็นตับ,ทีมก็เล่นดีและเราก็เป็นแชมป์ลีก มันอเมซิ่งจริงๆ" credit:soccersuck soccersuckแปลข่าวได้มันส์มาก แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:08:38 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ราฟารับกฏฟีฟ่าชะลอขายแข้งผู้ดี ราฟาเอล เบนิเตซกุนซือสมองเพชรยอมรับว่าเขาคงยังไม่ขายนักเตะอังกฤษออกไปไหนจนกว่าแน่ใจกับกฏของฟีฟ่าช่วงสิ้นเดือนเสียก่อน แบล็ตเตอร์ได้ยื่นแผนโควต้าที่ให้แต่ละทีมต้องส่งนักเตะสัญชาติตัวเองลงเล่นเป็นตัวจริง 6 คนในแต่ละโดยกฏนี้จะมีการโหวตในวันที่ 29 และ 30 พฤษภาคมนี้ ถ้าแผนของแบล็ตเตอร์ผ่านทำให้นักเตะอย่างปีเตอร์ เคราช์,เจอร์เมน เพนแนนท์รวมไปถึงเป้าหมายอย่าเดวิด เบนท์ลีย์,แกเรธ แบร์รี่ที่เบนิเตซหมายปองจะยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีก "เรารู้ว่ากฏคืออะไรและเราจะพยายามทำทุกๆอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฟีฟ่า" "เคราช์และเพนแนนท์ยังมีสัญญาอยู่กับเราและพวกเขาก็เป็นนักเตะลิเวอร์พูล ตอนนี้เรากำลังรออยู่ เรารู้ว่าทั้งสองคนเล่นได้ดีและมีหลายสโมสรให้ความสานใจดังนั้นเราคงต้องรอดูกันต่อแต่พวกเขายังมีสัญญาอยู่กับเรานะ" "หงส์แดง"จะเป็นหนึ่งในทีมที่ถูกผลกระทบหนักที่สุดในพรีเมียร์ลีกหากกฏนี้ได้รับการอนุมัติโดยราฟาจัดทีมตัวจริง 42 นัดโดยใช้นักเตะอังกฤษเพียงแค่ 2 คนในฤดูกาลนี้,3 คน 17 นัดและ 4 คนเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น "ผมรู้สึกว่าสิ่งสำคัญต่อแฟนๆคือการได้เห็นนักเตะที่เก่งที่สุดในสนาม มันชัดเจนว่าในอดีตคุณจะพูดถึงนักเตะท้องถิ่นแต่ทุกๆทีมอยากเซ็นสัญญากับนักเตะฝีเท้าดีที่มาจากทั่วโลกนั่นแหละ" credit:soccersuck ได้เวลาดันเด็กแล้ว หุหุ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนวิลล์เชื่อปีหน้าท็อฟฟี่ติดท็อปโฟร์ ฟิล เนวิลล์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ เอฟเวอร์ตัน เชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถติดกลุ่มท็อปโฟร์ ได้ในซีซั่นหน้า เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา ทีมพัฒนาตัวเองได้เป็นลำดับ ในปีนี้ทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ เข้าป้ายด้วยอันดับ 5 พร้อมคว้าโควต้าไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า คัพ ซึ่ง อดีตขุนพล แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่าไม่มีเหตุผลใดที่ทีมจะทำอันดับให้ดีกว่านี้ไม่ได้ในฤดูกาลใหม่ "เรามี 2 ฤดูกาลที่ดีจนถึงตอนนี้ ซึ่งเราก็ได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี ด้วยอันดับ 6 และ 5 และก้าวต่อไปจะเป็นอันดับ 4" "เรื่องเงินไม่ใช่สาเหตุสำหรับผม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สโมสกำลังมองไปข้างหน้า ถ้าผมคิดจริงๆ ผมอาจจะย้ายออกพรุ่งนี้เลยก็ได้" "เราต้องการสิ่งพิเศษอีกเล็กน้อยในตอนนี้ ในเกมใหญ่ๆ หลายๆ เกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับบรรดาบิ๊กโฟร์" "ส่งผลให้เราต้องคิดถึงนักเตะคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งเป็นอะไรที่เราต้องการในช่วงซัมเมอร์" credit:soccersuck เราก็อยากให้ทอฟฟี่ได้ที่สี่นะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:10:00 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:09:23 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 17:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ฝอยทองแบโผโด้จิ๋ว-เดโก้นำทัพ,หั่นมานิช "บิ๊กฟิล"หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือชาวบราซิลของทีมชาติโปรตุเกส ได้ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะของทีมชาติ ชุดที่จะใช้ตะลุยยูโร 2008 โดยซูเปอร์สตาร์อย่างคริสติอาโน โรนัลโด้ ปีกจอมเลื้อยของแมนฯยูไนเต็ด และเดโก้ กองกลางพรสวรรค์สูงจากบาร์เซโลน่าเป็นดารานำทัพ ขณะที่มานิช มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงของสโมสรอินเตอร์ มิลาน กลับถูกตัดออกจากทีมแบบเซอร์ไพรส์ ในอดีตนั้น มานิช เป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ของทีมโปรตุเกส ชุดที่ได้รองแชมป์ยูโร 2004 อีกทั้งยังเคยติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 ด้วย นอกจากนี้ในรอบคัดเลือกยูโร 2008 กองกลางวัย 30 ปีรายนี้ก็มีส่วนสำคัญในทีม แต่ทว่าสุดท้ายแล้วก็ถูกหั่นชื่อออกไป อย่างไรก็ตาม จอร์จ ริเบโร่ น้องชายสายเลือดเดียวกันกับมานิช ซึ่งเป็นกองกลางของสโมสรเบนฟิก้ายังมีชื่อติดทีมชุดนี้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ "บิ๊กฟิล"ยังได้เรียกตัว รุย ปาตริซิโอ นายทวารซึ่งยังไม่เคยติดทีมชาติเลย ของสโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาติดทีมในชุดนี้อีกด้วย โดยรายชื่อ 23 นักเตะของทีมชาติโปรตุเกสมีดังนี้ ผู้รักษาประตู : ริคาร์โด้ (เรอัล เบติส),ควิม(เบนฟิก้า),รุย ปาตริซิโอ(สปอร์ติ้ง ลิสบอน) กองหลัง : เปาโล เฟอร์ไรร่า(เชลซี),ริคาร์โด้ คาร์วัญโญ่(เชลซี),โจเซ่โบซิงวา(เชลซี),บรูโน่ อัลเวส(ปอร์โต้),จอร์จ ริเบโร่(เบาวิสต้า),มิเกล(บาเลนเซีย),เฟอร์นันโด ไมร่า(สตุ๊ตการ์ต),เปเป้(เรอัล มาดริด) กองกลาง :เปอตีต์ (เบนฟิก้า),เดโก้ (บาร์เซโลน่า),ราอูล เมไรเรส(ปอร์โต้),มิเกล โวโลโซ่(สปอร์ติ้ง ลิสบอน),เจา มูตินโญ่(สปอร์ติ้ง ลิสบอน) กองหน้า : นูโน่ โกเมส(เบนฟิก้า),ซิเมา ซาโบรซ่า(แอตเลติโก มาดริด),คริสติอาโน่ โรนัลโด้(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด),นานี่(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด),ฮูโก้ อัลเมด้า(แวร์เดอร์ เบรเมน),ริคาร์โด้ ควาเรสม่า(ปอร์โต้),เฮลเดอร์ ปอสติก้า(พานาธิไนกอส) credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เซอร์ไพรส์!สวีเดนหิ้วลาร์สสันลุยยูโร ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือทีมชาติสวีเดน ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเรียกตัว เฮนริก ลาร์สสัน กองหน้าระดับตำนานให้กลับมาช่วยพยุงทีมทำศึกยูโร 2008 รอบสุดท้าย จากการประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งนี้ สวีเดน มีโปรแกรมทำศึกยูโร 2008 ในกลุ่มดี ร่วมกับ กรีซ, สเปน และรัสเซีย โดยมี ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมในช่วงเดือนมิถุนายนี้ รายชื่อทีมชาติสวีเดนมีดังนี้ ผู้รักษาประตู : อันเดรียส อิซัคส์สัน(แมนเชสเตอร์ ซิตี้), รามี่ ชาบาน(ฮัมมาร์บี้), โยฮัน วิแลนด์(เอล์ฟบอร์ก) กองหลัง : โอลอฟ เมลเบิร์ก(แอสตัน วิลล่า), เพ็ตเตอร์ ฮันส์สัน(สต๊าด แรนส์), มิกาเอล นีลส์สัน(พานาธิไนกอส), นิคลาส อเล็กซานเดอร์สสัน(โกเตนเบิร์ก), อันเดรียส กรานควิสต์(เฮลซิงบอร์ก), แดเนี่ยล มาสโตโรวิช(บาเซิล), เฟรเดริค สตูร์(โรเซนบอร์ก), มิกาเอล ดอร์ซิน(คลู) กองกลาง : โทเบียส ลินเดอร็อธ(กาลาตาซาราย), แดเนี่ยล อันเดอร์สสัน(มัลโม่), อันเดอร์ส สเวนส์สัน(เอล์ฟสบอร์ก), คิม คัลล์สตรอม(โอลิมปิก ลียง), คริสเตียน วิลเฮล์มสสัน(เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า), เฟรเดริก ยุงเบิร์ก(เวสต์แฮม), เซบาสเตียน ลาร์สสัน(เบอร์มิงแฮม ซิตี้) กองหน้า : ซลาทาน อิบราฮิโมวิช(อินเตอร์ มิลาน), โยฮัน เอลมานเดอร์(ตูลูส), มาร์คุส อัลบัค(เอฟซี โคเปนเฮเก้น), มาร์คุส โรเซนเบิร์ก(แวร์เดอร์ เบรเมน), เฮนริก ลาร์สสัน(เฮลซิงบอร์ก) credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 PREMIERECHIP ATTACK เบน ฟรีคิก <benfreekick@hotmail.com> สมัยก่อนพวกกองหน้าจะเป็นตำแหน่งที่แพงที่สุดในกรณีมีการซื้อขายยกเว้นผู้เล่นแอเรียอื่นๆเช่นปีกหรือเพลย์เมคเกอร์จะเทพจริงๆ อย่างเลนตินี่เนี่ยผมจำแม่นเลยว่าเคยเป็นผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดตอนย้ายจากโตริโน่มาเอซี มิลานด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ในปี 1992 ตอนนั้นฮือฮามากเพราะเงินจำนวนนี้ถือว่าแพงโคตรๆแถมเล่นในตำแหน่งปีกด้วย ไรอัน กิกส์ก็เคยถูกเอซี มิลานตามทาบทามอยู่หลายหนเรียกว่าส่งแฟ็กซ์เสนอให้แมนฯยูไนเต็ดถึง 15 ล้านปอนด์แต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกัดฟันไม่ขาย แต่สมัยนี้แบ็คขวาอย่างโจเซ่ โบซิงวาก็ปาเข้าไป 16 ล้านปอนด์แล้ว เรียกว่าทีมอย่างเอฟซี ปอร์โต้พอเห็นชื่อของเชลซีติดต่อเข้ามาก็อัพตัวเลขสูงสองเท่าไว้ล่วงหน้าเลยเพราะรู้ว่าคนมีเงินถ้าอยากได้อะไรแล้วเสียเงินมากกว่าปกติก็แทบไม่เสียดาย นี่แหละครับคือความแตกต่างของทีมเงินถุงเงินถังอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีกับทีมที่เหลือทั้งหมด ทีมเกรด B หรือกลางๆปลาซิวปลาสร้อยไม่ต้องพูดถึงครับขนาดบิ๊กโฟว์ด้วยกันอย่างอาร์เซนอลและลิเวอร์พูลยังมองตากันปริบๆเพราะจะว่าไปแล้วเงินจำนวนนี้อาร์แซน เวนเกอร์และราฟา เบนิเตซเตรียมไว้เพื่อหาซื้อพวกกองหน้าหรือไม่ก็ตัวรุกมากกว่า ผมว่า"ปิศาจแดง"เนี่ยไม่เท่าไหร่เพราะตำแหน่งอื่นๆลงตัวเกือบหมดแล้วเนื่องจากตัวเก่าๆที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซื้อมาก่อนหน้านี้นอกจากอายุน้อยแล้วยังปรับตัวและเป็นกำลังหลักของทีมแทบจะในทันที ทำให้สามารถกล้าทุ่มเงินมหาศาลในตำแหน่งที่คิดว่าจำเป็นต้องซื้อจริงๆอย่างกองหน้าและแบ็คขวาอีกอย่างละหนึ่ง อาร์เซนอลเนี่ยผมมองว่าเป็นพวกทีมจากนอกโลก ต้องยกเว้นเอาไว้ตลอดเพราะด้วยสไตล์ที่เล่นอยู่ต่อให้ซื้อแข้งเกรด C หรือ B (แต่ต้องมีศักยภาพ) อีกไม่เกิน 1-2 ปีก็พัฒนาเป็นเกรด A ได้ไม่ยาก แต่หลังเสียแชมป์ในฤดูกาลนี้แล้วเชื่อว่าเวนเกอร์คงต้องออกมาใช้เงินในระดับ 10 ล้านปอนด์อัพอีกครั้งและตามข่าวแข้งเทพอย่างน้อย 2-3 คนจะตบเท้าเข้ารังเอมิเรสต์ สเตเดียมในซัมเมอร์นี้ คงเหลือลิเวอร์พูลที่ผมเองแอบหวั่นๆอยู่เหมือนกันครับ ผมยังรู้สึกว่ามาตรฐาพรีเมียร์ลีกสูงขึ้นกว่าอดีตเยอะมากแถมเร็วฉิวอีกต่างหากทำให้อดีตแชมป์ 18 สมัยซึ่งร่างกายอ่อนแอวิ่งตามในสปีดที่ช้าเกินไป ครับผมกำลังจะบอกว่าเสียดายตรงที่"หงส์แดง"ต้องสู้กับความผิดพลาดของตัวเองมาตลอดโดยเม็ดเงินที่ควรจะซื้อนักเตะมาใช้งานในระยะยาว 6-7 ปีกลับกลายเป็นว่าแค่ปีสองปีก็จบเห่สุดท้ายก็ต้องควักเงินซื้อซ้ำซากในตำแหน่งเดิมๆ ที่ผมพูดมาเนี่ยไม่ใช่แค่ช่วงหลังนี้เท่านั้นครับแต่เป็นมาหลายยุคหลายสมัยไล่ตั้งแต่แกรม ซูเนสส์และรอย เอฟแวนส์... เรื่อยมาจนถึงเชราร์ อุลลิเยร์ที่แม้จะซิวสามแชมป์อย่างยิ่งใหญ่แต่ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่สโมสรเสียเงินทองจากการซื้อนักเตะที่ล้มเหลวมากที่สุดทำให้หนี้สินพะรุงพะรังก่อนที่ราฟาจะมารับขี้ไปเต็มๆ ผมดูฟุตบอลสไตล์ลิเวอร์พูลแล้วขอย้ำแน่นๆอีกทีนะครับว่าหากจะลุ้นแชมป์อย่างจริงจังต้องมีนักเตะความสามารถเฉพาะตัวที่พึ่งพาได้เกือบทั้งทีมไม่งั้นไปไม่ถึงฝั่งแน่นอนครับ คนที่มีฝีเท้าบ้านๆหรือเอาตัวรอดไม่เก่งจะดับมอดอย่างรวดเร็ว ผมหมายถึงคุณต้องมีเซนส์และศักยภาพมากพอในการเล่นแบบ individual ที่แอนฟิลด์ คือคุณต้องพร้อมรับกับสภาพยามที่ได้บอลแล้วรอบๆตัวระยะ 10 หลาไม่มีเพื่อนมาช่วยรองเลย นอกเสียจากราฟาจะยอมปรับเปลี่ยนการเล่นให้เน้นทีมเวิร์คขึ้นอีก(ไม่)หน่อยซึ่งประโยชน์ที่ตามมาจะมหาศาลมากมายเพราะ"หงส์แดง"อาจจะไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองซื้อนักเตะในราคาแบบตอร์เรสทุกๆปีอีกต่อไป เอาแค่ 10-15 ล้านปอนด์ที่มีแววพัฒนามาร่วมทีมเดี๋ยวทุกอย่างจะไหลไปตามระบบของทีมเอง ณ ปัจจุบันราฟายังไม่เลือกแนวทางนี้หรือในอนาคตอาจจะยอมปรับเปลี่ยนซึ่งในระหว่างนี้เหล่าเดอะค็อปคงต้องทำใจยอมรับสภาพความเป็นอยู่ของตัวเองไปก่อนนะครับ... credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 TRANSFER RUMOURS : ผีทุ่ม 30 ล้านป.แลกดูโอเซบีญ่า * โอเว่นจ่อเผ่นสาลิกา เอาข่าวสร้างความร้าวฉานมาประเดิมก่อนเลยเมื่อเดอะซันจอมแฉเผยว่าที่เชลซีเบียดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซิวโจเซ่ โบซิงวาแบ็คจอมบุกเพราะให้ค่าเหนื่อยมากถึง 80,000 ปอนด์ส่วนป๋าเสนอเต็มที่แค่ 50,000 ปอนด์เท่านั้น (ที่มา The Sun) ส่วนปีเตอร์ เช็กรู้ศักยภาพของตัวเอง ณ เวลานี้ดีเลยขอค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์(ของเก่ารับอยู่ที่ 70,000 ปอนด์)แถมอ้างว่ามีสโมสรพี่เบิ้มพร้อมทุ่มเงินถึง 32 ล้านปอนด์เพื่อดึงเขาไปเฝ้าเสาด้วย เรื่องนี้เล่นเอาอาฟรัม แกรนต์พองตัวนัดคุยกับ"อากู๋"โรมัน อับราโมวิชในสัปดาห์นี้ทันที (ที่มา THE SUN ) เชลซีบอกแค่นี้ยังไม่หนำเพราะกำลังมีแผนจะตัดหน้าทั้งยูเวนตุสและเอซี มิลานเพื่อฉกอเมารีหอกผมกระเซิงของปาแลร์โม่ซึ่งยิง 15 ประตูใน 34 เกมมาร่วมทัพในซีซั่นหน้า ข่าวลือที่ไม่มีทางเป็นไปได้เมื่อเชลซีตั้งท่าจะซิวเฟอร์นานโด ตอร์เรสที่ 40 ล้านปอนด์แต่เงินเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญครับเพราะนี่คือสัมบัติล้ำค่าที่สุดของลิเวอร์พูลเทียบเท่าสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไปแล้ว (ที่มาจากหลายสื่อ) ร้าวฉานต่อเนื่องเพราะเอเยนต์คริสติอาโน่ โรนัลโด้ยุยงให้เรอัล มาดริดกล้าๆเอาจริงเอาจังยื่นข้อเสนอเพื่อเซ็นสัญญากับปีกจอมสับในซัมเมอร์นี้ (ที่มา MIRROR ) จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเบนเป้าไปที่ฟิลิปป์ ลาห์มแบ็คหน้าละอ่อนของบาเยิร์น มิวนิคเหมือนเดิม (The Times) ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนแต่สื่อสเปนลือว่ายูไนเต็ดอยากได้คาร์เลส ปูโยลกัปตันทีมบาร์เซโลน่าและอาจยื่นเคราร์ด ปิเก้กองหลังดาวรุ่ง+เงินเพื่อสลับขั้วข้ามฝากในซัมเมอร์นี้ (ที่มา El Mundo Deportivo) เฟอร์กี้ยังไม่ละสายตาจากมิกูเอล เวโลโซ่แข้งหน้าหล่อของสปอร์ตติ้ง ลิสบอนโดยว่ากันว่ายอดทีมจากโปรตุเกสกำลังหาตัวแทนดาวเตะตัวรับผู้นี้ไว้แล้วด้วย ว่ากันว่านิวคาสเซิ่ลและเชลซีก็หมายปองเวโลโซ่ที่มีค่าตัว 15 ล้านปอนด์เช่นกัน (ที่มา The Independent ) แต่ที่ฮือฮาไปทั่วคือข่าวป๋ากำลังถลุงเงินก้อนโต 30 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับหลุยส์ ฟาเบียโน่และดาเนี่ยล อัลเวสสองแข้งเทพของเซบีญ่า ถ้าได้มาจริงจะยิ่งทำให้ยูไนเต็ดจากที่แกร่งอยู่แล้วจะไร้คู่ต่อกรเข้าไปอีกแน่ (ที่มา The Sun ) ฮือฮาเหมือนกันแต่ออกแนวงงๆเพราะดีน แอชตันกำลังขอนัดคุยกับอลัน เคอร์บิชีลย์ถึงอนาคตในถิ่นอัพทั่น พาร์คโดยแมนฯยูฯเตรียมยื่น 10 ล้านปอนด์เพื่อดึงหอกที่เป็นเร้ดอาร์มี่ทั้งแท่งมาร่วมทัพหลังประทับใจในความใหญ่ยาวบังบอลดีในเกมที่พบกันที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในนัดรองสุดท้าย (ที่มา DAILY STAR ) แม้จะพ่ายเชลซีเสียโบซิงว่าแต่"ปิศาจแดง"กำลังเบียดคู่ปรับตัวฉกาจด้วยการแซงหน้าเซ็นสัญญากับอารอน แรมซีย์เจ้าหนูดาวรุ่งของคาร์ดิฟฟ์ (ที่มา MIRROR ) หลังเตรียมหาตัวแทนของเวโลโซ่แล้วสปอร์ตติ้ง ลิสบอนก็ต้องเผื่อใจเสียเจา มูตินโญ่มิดฟิลด์อีกคนออกไปด้วยเพราะเชลซีเจ้าเก่าและอาร์เซนอลกำลังแย่งตัวกันอยู่โดยแม้เจ้าตัวจะมีเงื่อนไขปล่อยตัวในราคา 18 ล้านปอนด์แค่คาดว่าแค่ 10 ล้านปอนด์ก็เพียงพอแล้ว (ที่มา tribalfooball) สเปอร์สกำลังวุ่นวายกับการหากองหน้าแทนดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่ซัมเมอร์นี้ยังไงก็ต้องย้ายแน่โดยชื่อที่เป็นข่าวบ่อยที่สุดหนีไม่พ้นซามูเอล เอโต้ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนแทบไม่ต้องคิดแต่บาร์เซโลน่ากำลังปฏิวัติทีมครั้งใหญ่และว่ากันว่าตอนนี้ดาเนี่ยล เลวี่ประธานสโมสรไฟเขียวให้เปิดโต๊ะเจรจาคุยเรื่องค่าตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ของ"เจ้าบุญทุ่ม"เพื่อให้สมน้ำสมเนื้อที่สุด (ที่มา AS) ในขณะเดียวกัน"ไก่เดือยทอง"ซึ่งตามล่าหาปีกซ้ายมาสามชาติก็ยังไม่ลงเอยซักทีและซัมเมอร์นี้กำลังจะกลับมาปัดฝุ่นตามตื้อมอร์เท่น แกมสต์ พีเดอร์เซ่นของแบล็คเบิร์นที่หนึ่งปีก่อนเคยยื่นข้อเสนอขอซื้อที่ราคา 4 ล้านปอนด์แต่คราวนี้น่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้านปอนด์แน่นอน (ที่มา The Sun) ไมเคิ่ล โอเว่นเผ่นนิวคาสเซิ่ลแน่นอนหาก"เฮียตือ"ไมค์ แอชลีย์ยังพยายามบีบให้เขาลดค่าเหนื่อยจาก 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เหลือ 80,000 ปอนด์โดยเอฟเวอร์ตันแม้จะทุนน้อยแต่ก็พร้อมอ้าแขนรับเพราะ"เบบี้โกล์"เชียร์ท๊อฟฟี่มาตั้งแต่เด็กแถมคุณพ่อยังเคยค้าแข้งที่นี่อีกด้วย (ที่มา DAILY MAIL ) พอมีข่าวขึ้นมาเจฟ ยูไนเต็ด ชิบ้าของญี่ปุ่นตาโตมีแผนทาบโอเว่นมาเล่นในเจลีทันที (ที่มาAgence France Presse) หลังถูกบาเลนเซียโก่งค่าตัวมานูเอล เฟอร์นานเดซมิดฟิลด์ทรผมเดดล็อกเรต 10 ล้านปอนด์ทำให้เอฟเวอร์ตันจนปัญญาจนทำท่าจะเล่นมุกยืมต่ออีกฤดูกาลแต่ถ้ามีทีมไหนกล้าซื้อเดวิด มอยส์ก็คงต้องทำใจไป (ที่มา BBC Sport ) ราฟาเอล เบนิเตซกำลังเตะถ่วงรอดูผลการโหวตอนุมัติโควต้า 6+5 ในปลายเดือนนี้ถึงจะขายนักเตะอังกฤษอย่างปีเตอร์ เคราช์และเจอร์เมน เพนแนนท์ออกไป (ที่มาจากหลายสื่อ) "หงส์แดง"ยังจับตาเวย์น บริดจ์แบ็คซ้ายตกอับของเชลซีที่ส่อย้ายทีมในซัมเมอร์นี้หลังต้องกินน้ำใต้ศอกแอชลีย์ โคลมาตลอดทั้งฤดูกาล (ที่มา tribalfooball) สถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ส่งกลิ่นเหม็นยิ่งกว่าปากถั่วแระจนสภาพทีมมีแต่เรื่องแย่ๆล่าสุดริชาร์ด ดันน์ที่ถูกไล่ออกในวันสุดท้ายกำลังถูกสเปอร์สและนิวคาสเซิ่ลตามล่าอย่างหนักโดยเฉพาะเควิน คีแกนปลื้มแข้งวัย 28 ปีผู้นี้มานานแล้วด้วย (ที่มา tribalfootball) เวสต์แฮมเตรียมตามทาบนิคกี้ ชอรีย์แบ็คซ้ายเรดดิ้งแต่บอร์ดบริหารบอกงบหมดแล้วทำให้ต้องจำเป็นต้องขายนักตะอย่างเฟร็ดดี้ ยุงเบิร์ก,หลุยส์ บัว มอร์เต้,ลูคัส นีลล์และบ็อบบี้ ซาโมร่าออกไปก่อน (ที่มา MIRROR ) ยังมุ่งมั่นไม่เสื่อมคลายสำหรับทีมฮัลล์ ซิตี้ที่จะยื่นข้อเสนอทาบคริสเตียน โบโบ้ วิเอรี่จากฟิออเรนติน่าแน่นอนหากทีมเลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ (ที่มา MIRROR ) ปอร์ทสมัธเตรียมยื่นเงินให้เบนฟิก้า 12 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของลุยเซากองหลังจอมแกร่ง (ที่มา The Sun) ซันเดอร์แลนด์ร่วมแจมแบล็คเบิร์นรุมแย่งไมเคิ่ล ทังก์แข้งตัวเก่งของเชฟฟิลด์ ยูไนเต้ด (ที่มา DAILY EXPRESS ) แกเรธ เซาธเกทกาหัวสตีฟ ซิดเวลล์มิดฟิลด์จอมอาภัพของเชลซีเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในซัมเมอร์นี้ (ที่มา DAILY MAIL ) เยนส์ เลห์มันน์ซึ่งย้ายทีมได้แบบอิสระในซัมเมอร์นี้ได้รับการติดต่อจากสตุ๊ตการ์ตแต่เจ้าตัวอาจแขวนสตั๊ดเลิกเล่นไปเลย (ที่มา Press Association) แกรี่ เม็กสันกุนซือโบลตันเตรียมผ่าตัดทีมครั้งใหญ่โดยเตรียมโละถึง 12 นักเตะซึ่งมีชื่อของสเตลิออสและไฮดาร์ เฮลกูสันนำทัพถูกถีบออกจากรีบ็อกซ์ สเตเดียม (ที่มา thisislancashire) มิดเดิลสโบรห์กำลังตามล่าอลัน สมิธหอกอาภัพของนิวคาสเซิ่ลหลังเควิน คีแกนไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไหร่โดยกลาส์โกว์ เรนเจอร์สก็แอบด้อมๆมองๆอยู่เช่นกันแต่ติดตรงที่ค่าเหนื่อยสูงระยิบถึง 62,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ที่มา tribalfootball) credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 24 OTHER GOSSIP เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกำลังจะรับโบนัสที่พวกเราๆท่านๆใช้ทั้งชาติถึง 500,000 ปอนด์หรือ 35,000,000 บาทหากพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้รวมไปถึงจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 70,000 ปอนด์เป็น 90,000 ปอนด์อีกด้วย (ที่มา The Sun ) ส่วนแกรี่ เม็กสันฟาดเงินโบนัสไปแล้ว 750,000 ปอนด์หลังพาโบลตันหนีตกชั้นสำเร็จ (ที่มา The Sun ) ยูไนเต็ดกำลังทำเรื่องขอเหรียญแชมป์ลีกให้เคราร์ด ปิเก้และโทมัส คูสแซคสองตัวสำรองซึ่งลงเล่นคนละ 9 นัดในฤดูกาลนี้หลังกฏระบุที่ 10 นัด (ที่มา DAILY MAIL ) จอห์น เทอร์รี่เตรียมฉีดยาระงับปวดเพื่อลงทำศึกรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันพุธที่ 21 พค.นี้และอาจต้องนั่งยาวจนถึงสัปดาห์หน้าก่อนมาตัดสินใจขั้นเด็ดขาดอีกครั้งว่าจะไหวหรือเปล่าจนกว่านักเตะจะเริ่มซ้อมด้วยการเข้าปะทะได้ (ที่มา The Times ) สเวน โกรัน เอริคส์สันโผล่มีชื่อเป็นหนึ่งในตัวเต็งคุมทีมชาติเม็กซิโกต่อจากฮูโก้ ซานเชส (ที่มา football365) เดวิด ซุลลิแวนประธานสโมสรเบอร์มิงแฮมโยนขี้ให้นักเตะใหม่กากๆที่สโมสรซื้อมาคือเหตุผลที่ทำให้ต้องตกชั้นโดยฟร็องก์ เกอดรูคือแข้งที่น่าผิดหวังที่สุด (ที่มาจากหลายสื่อ) เคียราน ริชาร์ดสันพลาดลงสนามในเกมที่พ่ายอาร์เซนอล 1-0 เนื่องจากเขากลายเป็นนักเตะรายที่ห้าซึ่งถูกรอย คีนดร็อปหลังมาไม่ตรงเวลา (ที่มา Times) เอฟเวอร์ตันกำลังจะได้เงินกินเปล่าฟรีๆ 1 ล้านปอนด์หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในวันที่ 21 พค.นี้หลังมีเงื่อนไขระบุในสัญญาตั้งแต่ขาย"หมูพลิ้ว"เวย์น รูนีย์ในปี 2004 โดยก่อนหน้านี้ท๊อฟฟี่กดไปแล้ว 500,000 ปอนด์ในวันที่ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ (ที่มา tribalfootball) credit:soccersuck จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 "ริโอ"อยู่แมนฯยูจนแก่       ริโอ เฟอร์ดินาน กองหลังจอมแกร่ง ตกลงฝากอนาคตไว้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปจนถึงปี 2013 หลังเซ็นสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีก 5 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึง 130,000 แสนปอนด์ (ราว 8.45 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์             ปราการหลังทีมชาติอังกฤษจะลงเล่นรับใช้ต้นสังกัดไปจนถึงวัย 34 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยที่สื่อเมืองผู้ดีคาดว่าน่าจะสูงเป็นอันดับต้นๆ ของสโมสรที่ 130,000 แสนปอนด์ (ราว 8.45 ล้านบาท)ต่อสัปดาห์             โดยดาวเตะวัย 29 ปี เผยหลังการต่อสัญญาว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ สโมสรที่ยอดเยี่ยม ผมมีความสุขมากที่การเจรจาผ่านไปด้วยดี และถือเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับความสำเร็จของสโมสร ผมขอขอบคุณผู้จัดการทีม สตาฟโค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอลทุกคนที่คอยหนุนหลังผมมาโดยตลอด”             ขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ “ปิศาจแดง” ออกมาเผยถึงลูกทีมคนโปรดเช่นกัน “ผมรู้สึกยินดีมากที่ริโอตกลงต่อฉบับใหม่ออกไป ผลงานของเขาในฤดูกาลนี้ บ่งบอกถึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมในเกมรับของเราได้เป็นอย่างดี”             เฟอร์ดินาน ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมแมนฯยู ตั้งแต่ปี 2002 โดยมีค่าตัวสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,950 ล้านบาท โดยร่วมคว้าแชมป์ลีกกับทีมผีแดงมาแล้ว 3 สมัย credit:manageronline แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:10:33 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 'ผี-สิงห์' เปิดศึกยกแรก แต่งสูทแบรนด์ดังประชันหล่อ   ก่อนลงสนามฟาดแข้งรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในคืนวันพุธหน้าที่จะถึงนี้ สองยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ อย่าง แมนฯยู และ เชลซี เตรียมเปิดศึกอุ่นเครื่อง ด้วยการสั่งตัดชุดสูทจาก 2 ร้านแบรนด์เนมชื่อดัง มาประชันความหล่อกันอย่างไม่มีใครยอมใคร             หนังสือพิมพ์เดอะซัน รายงานว่า สองทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ แมนฯยู และ เชลซี ซึ่งมีคิวลงดวลฝีเท้าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย ในวันพุธที่ 21 พฤษภาคม เตรียมเปิดศึกนัดแรก หลังต่างฝ่ายต่างเตรียมประชันความหล่อ ด้วยการสั่งตัดชุดสูท ซึ่งจะใช้ในการเดินทางไปชิงเจ้ายุโรปครั้งนี้ จาก 2 ร้านแบรนด์เนมชื่อดัง             โดยขณะที่ทีมปิศาจแดง สั่งตัดจากร้านแบรนด์เนมเก่าแก่แห่งเกาะอังกฤษ อย่าง Paul Smith ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เมื่อใช้บริการการตัดเย็บระดับโลกจากร้านแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี อย่าง Armani             ซึ่งแหล่งข่าววงในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เผยว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เวย์น รูนีย์ สองสตาร์ดังของแมนฯยู ได้เดินทางไปวัดตัวเพื่อตัดเย็บชุดสูทสุดหรู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “หนุ่มๆ รู้สึกดีใจมากที่จะได้สวมสูทของอังกฤษลงฟาดแข้งในนัดชิงระหว่าง 2 ทีมจากเกาะอังกฤษ”             ทั้งนี้ ตามรายงาน นักเตะแมนฯยู จะสวมสูทสีฟ้า ในการเดินทางไปรัสเซีย และจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ก่อนลงสนามในคืนวันพุธ             สำหรับ แมนฯยู พวกเขาเคยสวมสูท ซึ่งตัดเย็บโดย Versace เมื่อครั้งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 1999 credit:manageronline รูปโดยThe Sun ทำไมแลมพ์มันดูดีเชียว แต่นังโด้... แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:11:18 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีครับ ขอให้ แมนยู 2 แชมป์ สาธุ เบื่อ พวกการเมือง อย่างแรง จากคุณ : LaOngFong - [ 15 พ.ค. 51 18:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ของArmani จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สร้างประวัติศาสตร์ เซนิตบดเรนเจอร์2-0 ซิวแชมป์ยูฟ่าคัพ             เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ม้ามืดจากรัสเซีย สร้างประวัติศาสตร์ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ประจำฤดูกาล 2007/08 หลังบดเอาชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ยักษ์ใหญ่ของสกอตแลนด์ 2-0 จากประตูชัยของ อีกอร์ เดนิซอฟ และ คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ       ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบชิงชนะเลิศ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 2-0 กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)        ณ สังเวียนแข้ง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ ศึกฟุตบอลยูฟ่า คัพ เดินทางมาถึงนัดชิงแชมป์ เป็นการพบกันระหว่าง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส โดยฝ่ายภายใต้การคุมทีมของ ดิค แอดโวคาท ขาดดาวซัลโวของทีมอย่าง พาเวล โปเกรบเนียค ที่ติดโทษแบนแต่ก็ได้ อังเดร อาร์ชาวิน กลับมาเป็นความหวังในแดนหน้า ขณะที่ วอลเตอร์ สมิธ ยังเน้นรับให้ฝ่ายหลังตามแท็คติกที่ผ่านมาหลายๆ รอบ โดยใช้ ฌอง โคลด ดาร์กเชอวิลล์ ห้อยเป็นหน้าตัวเป้าและก็อัดแผงมิดฟิลด์ไว้ถึง 5 คน           เริ่มเกมการแข่งขัน เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไม่ผลีผลามเปิดเกมรุกแม้ตามหน้าเสื่อดูได้เปรียบ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส อยู่เล็กๆ และทีมจากรัสเซียก็มีลุ้นก่อนเมื่อตัดบอลในแดนกลางได้ก่อนที่ อังเดร อาร์ชาวิน จะรุกขึ้นไปสับด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย แต่เกมสวนกลับของสโมสรยักษ์ใหญ่จากแดนวิสกี้ก็เกือบเห็นผลเช่นกันเมื่อ ฌอง โคลด ดาร์กเชอวิลล์ หลุดขึ้นไปก่อนปาดเรียดเข้ากลางหวังให้เพื่อนเข้าฮอสแต่ โรมัน ซีโรคอฟ สไลด์บอลพ้นอันตรายมาได้หวุดหวิด              ผ่าน 15 นาทีแรกเป็นทาง เซนิตที่สามารถครองเกมได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่การเจาะเข้าทำก็ยังไม่จะแจ้ง คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ ลองส่องไกลจากนอกกรอบแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ นีล อเล็กซานเดอร์ อีกสิบนาทีถัดมาโอกาสยังเป็นของสโมสรจากแดนหมีขาว อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ เติมเกมบุกขึ้นมาก่อนสับด้วยขวาร้อนถึง อเล็กซานเดอร์ ต้องปัดบอลก่อนตามไปตะปบอีกครั้ง ท้ายครึ่งแรก เรนเจอร์ส สวนกลับมาให้แฟนๆ ได้ลุ้นบ้าง เควิน ธอมป์สัน เปิดจากกราบขวาเลยไปเสาสองให้ สตีเวน วิทเทคเกอร์ โหนโหม่งข้ามคาน จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0      ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง เรนเจอร์ส ดูเปิดเกมรุกสู้มากขึ้น และก็เกือบจะขึ้นนำในนาทีที่ 52 เมื่อ สตีเวน เดวิส แทงทะลุช่องให้ ดาร์กเชอวิลล์ หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ มาเข้าทางให้ เดวิส ได้ซ้ำไปติดบล็อกนายทวารเซนิตฯ อีกครั้งก่อนที่เพื่อนจะมาช่วยเคลียร์ทิ้งออกหลังไป เกมของทีมจากสกอตแลนด์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บราฮิม ออมดานี แตะต่อให้ วิทเทคเกอร์ ได้หักหนึ่งจังหวะก่อนสับบริเวณหัวกะโหลกบอลแฉลบแผงหลัง เซนิต ออกหลังไปในนาที 63             นาทีถัดมา เซนิต พลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำเมื่อ อาร์ชาวิน รับบอลแทงทะลุจากเพื่อนก่อนหลุดไปแตะหลบ อเล็กซานเดอร์ ที่ออกมานอกกรอบโทษทว่าดาวยิงทีมชาติรัสเซียกลับชิปบอลไม่ดีพอโดน ซาซ่า ปาปัช โขกสกัดออกมาจากเส้นประตู แต่ถึงนาทีที่ 72 แฟนๆ เซนิต ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ อีกอร์ เดนิซอฟ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ อาร์ชาวิน ก่อนหลุดเข้าไปยิงเรียดผ่านมือ อเล็กซานเดอร์ เข้าไปให้ทีมนำ 1-0 จนได้ พอเสียประตูไป เรนเจอร์ส เดินเกมบุกเพื่อทวงคืนแต่เกือบโดนไปอีกประตูแต่ลูกยิงของ ซีเรียนอฟ พุ่งแฉลบเสาออกไป             เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย วอลเตอร์ สมิธ ต้องแก้เกมถอดเอา ปาปัช ออกมาและก็ส่ง นาโช โนโบ กองหน้าชาวสเปนลงไปช่วยงาน ดาร์กเชอวิลล์ ซึ่งค่อนข้างโดดเดี่ยว ไม่นานก็ให้ ลี แม็คคัลลอช ไปช่วยปั้นเกมถอดเอา ออมดานี ซึ่งเป็นตัวตัดเกมออกมา ท้ายเกม โนโบ ได้โอกาสซัดจ่อๆ แต่ดันซัดเหินข้ามคานไปอีก และช่วงทดเจ็บ เซนิตฯ มาย้ำชัย 2-0 จากลูกชาร์จจ่อๆ ของ ซีเรียนอฟ หมดเวลาการแข่งขัน “เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” ขึ้นไปคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ประจำฤดูกาล 2007/08 และก็เป็นแชมป์ระดับยุโรปครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย             รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม       เซนิตฯ : วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, อิวิกา กรีซานาช, โรมัน ซีโรคอฟ, ราเด็ค เซิร์ล, อีกอร์ เดนิซอฟ, อนาโตลี ติมอสชุค, คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ, วิคเตอร์ ฟายท์ซูลิน, ฟาติห์ เทคเค, อังเดร อาร์ชาวิน             เรนเจอร์ส : นีล อเล็กซานเดอร์, เคิร์ค บรอตฟุต, คาร์ลอส กูเอยาร์, เดวิด เวียร์, ซาซ่า ปาปาปัช, บราฮิม ออมดานี, สตีเวน วิทเทคเกอร์, สตีเวน เดวิส, แบร์รี เฟอร์กูสัน, เควิน ธอมป์สัน, ฌอง โคลด ดาร์กเชอวิลล์ credit:manageronline ขอแสดงความเสียใจกับป๋าด้วย จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Ole: Dawn of a new era          The Reds are on the cusp of European dominance, according to Ole Gunnar Solskjaer, who is calling on United’s players to believe in their potential. The Norwegian, who fired the Reds to Champions League and Treble glory in the Nou Camp in 1999, reckons victory in Moscow next week could spark one of United’s most successful ever eras. Solskjaer is enjoying his role coaching the current crop of United players since retiring last August, but he wants this team to win at the Luzhniki Stadium and do what the ’99 team couldn’t: repeatedly rule. "This will hopefully be the start of something more than we achieved," he says. "The 1999 team achieved it once. It was a fantastic feeling. The memories of that night stick with you forever. I wanted to experience more of them and believed we could. Now nine years have passed before the club could get back to a final. "This side can win it and hopefully start something bigger,” he told the Manchester Evening News. “You want the players to get the feeling that this is where we want to be every year. Hopefully it will inspire them and motivate them to believe what they really can achieve because I believe this team and these players can achieve a lot more.” Solskjaer wants the team’s younger set of players, led by Cristiano Ronaldo and Wayne Rooney, to experience European glory, which will then inspire them to remain at the top level for years to come. “If you give Cristiano and Wayne, for instance, the taste of what it's like to win the Champions League, they will have the impetus to win it again and again. "I think this team could go on to win more Champions Leagues than us in 1999 because of the talent and the age of the players.” credit:manutd สรุปก็คือ โอเล่เชื่อว่าทีมชุดนี้กำลังจะครองความยิ่งใหญ่ในยุโรปโดยทำในสิ่งที่ทีมชุดเทรเบิ้ลแชมห์ทำไม่ได้ นั่นคือ “ป้องกันแชมป์” “ผมหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่กว่าที่เราเคยทำได้ ทีมปี’99เคยทำได้ครั้งนึง มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมาก ความทรงจำในค่ำคืนนั้นจะติดตัวคุณไปตลอดชีวิต  ผมเคยอยากที่จะชนะอีกซักครั้งและเชื่อว่าทีมเราทำได้ ถึงตอนนี้เก้าปีผ่านไปกว่าที่สโมสรของเราจะได้ผ่านเข้าไปรองชิงอีกครั้ง” “ทีมชุดนี้สามารถเอาชนะได้และหวังว่านั่นจะนำไปสู่ก้าวที่ใหญ่กว่า” “คุณอยากให้ผู้เล่นเหล่านั้นได้ซึมซับความรู้สึกที่ว่า นี่แหละคือที่ๆเราอยากมาให้ถึงในทุกๆปี หวังว่ามันจะเป็นแรงขับดันให้พวกเค้าเชื่อว่าตัวเองทำได้ เพราะตัวผมเองมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในทีมชุดนี้ และพวกเค้ายังจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีก” “ถ้าคุณลองให้พวกผู้เล่นเด็กๆอย่างโรนัลโด้หรือรูนีย์ได้รับรู้ซักครั้งว่าการชนะเลิศถ้วยแชมเปี้ยนสลีกมันเป็นยังไง รับรองว่าพวกเค้าจะอยากชนะซ้ำแล้วซ้ำอีกแน่ๆ” “ผมคิดว่าทีมนี้จะครองเจ้าหูโตได้มากกว่าที่พวกเราเคยทำได้เมื่อปี’99 เพราะพวกเค้ามีความสามารถมากและอายุก็ยังน้อยด้วย” แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 21:24:43 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 Make your own history          Sir Bobby Charlton insists the players should focus on winning the European Cup for themselves, rather than those that died in Munich fifty years ago. Charlton was a survivor of the 1958 air crash which killed 23 people and admits victory in Moscow next Wednesday would be the perfect way to honour those who died. But the United legend does not want the squad to feel any extra pressure ahead of the clash with Chelsea, believing it's just as important for them to make their own history. "I would never put pressure on these players," Charlton told MUTV. "They have their own careers and Munich is a long time ago. "It wouldn't be fair to put total responsibility on them to win the Champions League to help commemorate the 50th anniversary of the tragedy. "They will make their own mark. They know they will make their own history if they win the European Cup. That's what it should be about for them. "But there's no doubt that if they can beat Chelsea in the final, there will be a lot of satisfaction among anyone who was connected with Munich. "It would be perfect, as it was Sir Matt Busby who pioneered the idea of English clubs competing in Europe - and the Babes who would have done so well in it but for the tragedy. "That history is not lost on these players. All of them who come here sometimes get a little puzzled by the effect that what happened in Munich has had on United. They appreciate and are aware what it's all about. "This team deserves to add the European Cup to the title. Ask any of our fans and they would say this has been a great season, no matter what happens." credit:manutd ว่างๆจะมาแปลให้นะคะ หรือใครว่างๆแปลเลยก็ได้ ว่างแล้ว แหะๆ สร้างประวัติศาสตร์ของคุณเอง(แปลตรงไปมั้ยเนี่ย--")            เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตันอยากให้นักเตะทุกคนตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ยุโรปเพื่อตัวเอง มากกว่าเพื่อผู้ที่จากไปเมื่อ50ปีก่อน            เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตันเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่มิวนิคเมื่อปี1958ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารไป23คน โดยยอมรับว่าชัยชนะในวันพุธหน้ากลางกรุงมอสโคว์นั้น จะเป็นการยกย่องที่สมบูรณ์แบบแก่เหล่าผู้จากไป            อย่างไรก็ตาม ตำนานของยูไนเต็ดไม่ได้ต้องการให้ทีมรู้สึกกดดันมากไปมากกว่านี้ในการพบกับเชลซี โดยเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือการสร้างประวัติศาสตร์ของพวกเค้าเอง            “ผมจะไม่มีวันสร้างความกดดันให้แก่นักเตะพวกนี้” ชาร์ตันกล่าวกับ MUTV “พวกเค้ามีเส้นทางของตัวเอง และเหตุการณ์ที่มิวนิคก็ผ่านไปนานแล้ว”            “มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะให้พวกเค้ารับผิดชอบต่อการสดุดีเหตุกาณ์เมื่อ50ปีก่อน ด้วยการเอาชนะให้ได้สถานเดียว”           “พวกเค้าจะสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเอง พวกเค้ารู้ว่าจะทำมันได้ก็ต่อเมื่อเอาชนะในถ้วยยุโรป ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว”          “แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากพวกเค้าเอาชนะเชลซีได้จริงๆ มันจะสร้างความพอใจให้แก่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่มิวนิค”          “มันจะวิเศษมาก เพราะเซอร์แมทท์ บัสบี้เป็นคนแรกที่นำสโมสรจากอังกฤษเข้าสู่เวทียุโรป และเหล่าบัสบี้ เบบส์ก็น่าจะทำได้สำเร็จ ถ้าไม่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นเสียก่อน”          “ประวัติศาสตร์ช่วงนั้นไม่ได้หายไปจากนักเตะยุคนี้ พวกเขาทุกคนที่มาที่นี่บางครั้งก็สงสัยถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ที่มิวนิคต่อยูไนเต็ด”          ผู้เล่นทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น          “ผู้เล่นชุดนี้สมควรชนะถ้วยยุโรป ถามแฟนๆของเราสิ แล้วพวกเค้าจะตอบว่าไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร นี่เป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของพวกเรา” แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 21:57:45 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 21:56:19 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โอย เอาแค่นี้ก่อนละกัน ใครมีข่าวอะไรก็ช่วยๆกันแปะเพิ่มเลยนะคะ ขออภัยสำหรับข้อผิดพลาดทุกอย่างในการตั้งTODครั้งแรก ยังทำตัวเอียงตัวหนาไม่เป็นเลยT_T พอดีไม่เห็นมีคนตั้งมาสองวันเลยรู้สึกเปลี่ยวใจ Count Down to Moscow แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 18:47:04 จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 15 พ.ค. 51 18:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอวร่า  ทำไมไม่ได้ต่อสัญญาเนี่ยยยยยยยย ปูโยลไม่อยากได้อะ จากคุณ : น้องโด้หมูสับ - [ 15 พ.ค. 51 19:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เฟอร์กี้มีลุ้นคุมทีมโอลิมปิกสหราชอาณาจักร ลอร์ดเซบาสเตียน โค ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอนจะเป็นเจ้าภาพ เผยว่า เขากำลังหารือกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์ กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วัย 66 ปี ให้มาช่วยคุมทีมบอลโอลิมปิกของสหราชอาณาจักรในโอลิมปิกอีก 4 ปีข้างหน้า สหราชอาณาจักรไม่ได้ส่งทีมบอลเข้าร่วมโอลิมปิกมานานแล้ว ครั้งสุดท้ายในปี 1972 ซึ่งเป็นทีมสมัครเล่น และไอเดียการส่งทีมสหราชอาณาจักรในโอลิมปิก 2012 ยังมีอุปสรรค เมื่อสมาคมฟุตบอลสกอตแลนด์และเวลส์ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และอาจไม่ส่งนักเตะเข้าร่วมทีมเกรท บริเทน ดังกล่าว โคเคยกล่าวถึงการทาบทามเฟอร์กี้เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่เฟอร์กี้ยังวิตกว่าการเป็นโค้ชทีมโอลิมปิกอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในทีมแมนฯยู อย่างไรก็ดี โคเผยว่าเขาสนิทสนมกับเฟอร์กี้เป็น อย่างดี ไม่มีใครเหมาะสมกับการคุมทีมสหราชอาณาจักรเท่าเขาอีกแล้ว ที่ผ่านมาก็มีการคุยกันในเบื้องต้น และจะหารือกันต่อไป ที่มา ไทยรัฐ จากคุณ : ดาวเหิน - [ 15 พ.ค. 51 19:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ  มาตั้งบ่อยๆๆนะครับ  ตามอ่านตลอด จากคุณ : ซ้ำซ้อน - [ 15 พ.ค. 51 19:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณจ้า จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 15 พ.ค. 51 19:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาอ่านแบบ ปลื้มข่าว โด้  ไม่ย้าย ครับ จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 15 พ.ค. 51 19:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณคร่า ไม่อยากให้ขายปิเก้เลยอ่ะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 19:59:10 จากคุณ : KanKaLa - [ 15 พ.ค. 51 19:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค่า จากคุณ : poojo_ke - [ 15 พ.ค. 51 21:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แจ๋วมากน้องก็มองหาอยู่เหมือนกัน จากคุณ : ก๊องโต้กะอองรี - [ 15 พ.ค. 51 21:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรัวข่าวครับ จากคุณ : Armani Man - [ 15 พ.ค. 51 21:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณ ครีบ เก็บข่าวมาเยอะเลย ชอบ เจ้าโด้ไม่ย้าย.....เฮียเต่า อยู่จนเป็นปู่ เลย  ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : Blue Brand - [ 15 พ.ค. 51 21:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อยากได้ ฟิลิป ลาป์ม อ่ะ (เขียนไงหว่า) แต่แมนยู ไม่เคยมีผู้เล่นชุดใหญ่เป็นคนเยอรนันเลยนิ อืม..... จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 16 พ.ค. 51 09:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รูปใส่สูท #26, #28 มันตัดหัวมาแปะตัวครับ .... ทำไม่เนียนด้วย จากคุณ : <> Giggs <> - [ 16 พ.ค. 51 13:02:06 ]