ความคิดเห็นที่ 1 เอ้า หัวข้อโหวต ผิดไปนิดหน่อยจะถามว่า ถ้าจบบอลโลกรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายแล้ว โค้ชหรั่ง จะ............ จากคุณ : ploy16 - [ 3 มิ.ย. 51 14:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 "หน้าด้าน" จะตอบข้อนี้ ไม่รู้ว่าตรงกับตัวเลือกไหน? ขอบคุณครับ.... ไม่แปลกใจเลยที่คำๆ นี้ใช้ได้ทั่วไปในวงกว้าง ในระยะ 2-3 ปีมานี้ | | | v แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 15:58:14 จากคุณ : Grand Gunner - [ 3 มิ.ย. 51 14:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ถ้าเลือกหน้าด้านก็ข้อ 1 เลยครับ จากคุณ : ploy16 - [ 3 มิ.ย. 51 14:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่รุ้ลึกถึงแก่นในว่าเป็นมายังงัย ไม่ขอโหวต เพราะไม่คิดว่า โค้งหรั่งจะผิดอยู่แค่คนเดียว จากคุณ : danya - [ 3 มิ.ย. 51 14:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยังไงเค้าก็ยังทำงานให้ประเทศ เราได้แต่วิจารณ์ ...ก็ขอให้จากกันด้วยดีครับโค้ชหรั่ง... สมาคมหาโค้ชคนใหม่รอไว้ล่วงหน้าได้แล้วนะครับ แบบมืออาชีพเค้าทำกันอะครับ มีตัวเลือก แล้วก็คัดมาดีๆ ไม่ต้องแพงมากก็ได้ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ขอให้ทำทีมมาดีๆ ไม่มีเด็กเส้นก็พอ จากคุณ : ZeroA - [ 3 มิ.ย. 51 14:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าก็จะมีข้ออ้างจากท่านนายกฯ ว่าให้โอกาสโค้ชหรั่งอีกในรายการชิงแชมป์อาเซียน โค้ชหรั่งก็จะบอกว่าขอเอาแชมป์อาเซียน (ที่เคยแพ้สิงคโปร) มาให้คนไทยให้ได้ เพื่อเป็นการแก้ตัว และจะบอกว่าเหตุผลที่ไม่ออกตามที่บอกไว้ เพราะผู้ใหญ่ขอ และต้องการทำงานเพื่อประเทศชาติ "อย่าเรียกร้องหาสปิริต เพราะเรื่องของประเทศชาติต้องมาก่อน ฟุตบอลไทยต้องมาก่อน ขอให้ทุกคนร่วมแรงใจเชียร์ทีมชาติในการชิงแชมป์อาเซียน ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" ชาญวิทย์ ผลชีวิต กล่าวไว้ในอนาคต จากคุณ : potojae - [ 3 มิ.ย. 51 14:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่น ควรจ้างโค๊ช ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ระดับโลกซักคนนะครับ ตอนนี้ผมห่วงเรื่องความฟิตนักเตะมากๆ เล่นเหมือนไม่อยากชนะ(แต่ก็ดูเหมือนว่าพยายามเต็มที่แล้ว) เอื่อยเฉื่อยๆ จากรับเป็นรุก รุกเป็นรับ ช้ามากๆ กว่าจะลำเลียงบอลที คู่แข่งที่เค้าตัวใหญ่ๆก็ลงมารับกันแทบทั้งทีมแล้ว ถึงไทยจะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างแต่เรื่องสรีระที่คล่องตัว น่าจะวิ่งได้เร็วและได้เปรียบคู่แข่งมากกว่านี้ ถ้ามีเทรนเนอร์ดีๆ... แล้วก็นักจิตวิทยาประจำทีมควรมีนะครับ ถ้าเด็กมันคิดว่าเล่นไปยังไงก็แพ้ หรือคิดว่า ไทยเนี่ยนะจะไปบอลโลก.. ต่อให้เอาโรนัลโด้มาเตะให้ไทยก็แพ้ครับ.. อย่างลูก 3-2 เนี่ยเห็นได้ชัดเลยว่ากำลังใจหดหายไปเยอะจริงๆ... จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 3 มิ.ย. 51 14:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยคห.  5 กับ 7  แล้วกันครับ...ตามนั่นละครับ จากคุณ : yut - [ 3 มิ.ย. 51 14:28:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โค้ชดูแความฟิตเรา และ นักกายภาพบำบัด เป็นชาวเยอรมันครับ รุด ไมเนอร์ครับ ซึ่งมืออาชีพพอสมควร คอลัมน์ คนกับเกมส์ แม้ว่าผลงานของนักเตะทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2007 จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่ทุกฝ่ายคาดหมายไว้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจุดเด่นของนักเตะไทย คือสภาพร่างกายอันแข็งแกร่งอย่างผิดหูผิดตาด้วยการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาสมัยใหม่มาใช้ในการเตรียมทีม รุด ไมเนอร์ เจ้าของฉายา "หมอเทวดา" นักกายภาพบำบัดประจำทีมชาวเยอรมันวัย 59 คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายนักเตะไทย แม้แต่ "บังยี" นายวรวีร์ มะ(กระผม)ดี นายกสมาคมฟุตบอลฯยังยกย่องว่า ไมเนอร์ ถือเป็นนักกายภาพระดับเซียน เป็นที่ยอมรับของโค้ชและนักเตะไทย มีมนุษยสัมพันธ์ดี เรามาทำความรู้จักกับ "หมอเทวดา" ซึ่งนักเตะทีมชาติไทยจะต้องใช้บริการต่อเนื่องไปอีกยาวนานกันดีกว่า หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ เมืองเบอร์ลิน สาขากายภาพบำบัด ในปี ค.ศ.1966 ด้วยความที่ต้องสานฝันก้าวไปเป็นนักกายภาพบำบัดเพื่อช่วยเหลือนักกีฬาที่เกิดอาการบาดเจ็บ ไมเนอร์ต้องใช้เวลากว่า 10 ปีในการเดินทางไปอบรมหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรเลีย และสวีเดน "ผมใฝ่ฝันตั้งแต่สมัยเรียนต้องใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือวงการกีฬา ด้วยวิธีการบำบัดสมัยใหม่ แบบพิเศษ โดยจะเน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพอาการบาดเจ็บ" ไมเนอร์กล่าว ระหว่างที่ออกเดินทางไปหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรปเพื่อเข้าคอร์สอบรมกายภาพบำบัดสมัยใหม่ในวงการกีฬา ไมเนอร์ หลงใหลการเล่นสกีเป็นชีวิตจิตใจ ยามว่างต้องหมั่นฝึกปรือฝีมือเป็นประจำ ปี 1972 ไมเนอร์มีโอกาสช่วยงานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ ของเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ด้วยการเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ดูแลอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่และลาน ปี 1982 ไมเนอร์ประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาอย่างยิ่งใหญ่หลังจากคว้าแชมป์โลกสกีครอสคันทรี 50 กิโลเมตร ถัดจากนั้นแค่ปีเดียวความใฝ่ฝันของไมเนอร์ เป็นความจริงขึ้นเป็นครั้งแรกหลังได้รับโอกาสจากสโมสรไกเซอร์ สเลาเทิร์น ยอดทีมฟุตบอลในบุนเดสลีก้า เยอรมนี ติดต่อให้ทำหน้าที่นักกายภาพบำบัดประจำทีม ไมเนอร์เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นนักกายภาพบำบัดสมัยใหม่กับไกเซอร์ฯระยะหนึ่งรวมถึงการย้ายไปสู่ทีมไอร์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และปิดท้ายด้วยการก้าวไปเป็นนักกายภาพบำบัดประจำทีมชาติเยอรมนี ไมเนอร์เล่าว่า ปี 2001 มีโอกาสมาช่วยทีมฟุตบอลไทยเป็นครั้งแรก ในสมัยที่ ปีเตอร์ วิธ เป็นหัวหน้าโค้ชโดยได้รับการติดต่อจาก กุทเธอร์ รังเกอร์ เพื่อนซี้สมัยอยู่ที่เยอรมนีที่มาช่วยงานสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯด้วยประกอบกับ "บังยี" นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯคนปัจจุบันที่ในสมัยนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมาคม ติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่เยอรมนีด้วย จึงตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับทีมฟุตบอลไทย ไมเนอร์แสดงทรรศนะต่อวงการฟุตบอลไทยหลังจากคลุกคลีมาตลอด 6 ปีเต็มว่า น่ายินดีว่าฟุตบอลไทยกำลังจะพัฒนาไปสู่อาชีพ แต่จุดด้อยคือ นักเตะไทยมักจะพยายามคิดว่ากลายเป็นนักเตะอาชีพแล้วทั้งที่ความเป็นจริงยังเป็นเพียงแค่มือสมัครเล่นในหลายๆ เรื่อง ยังมีปัจจัยหลายอย่างกว่าจะก้าวเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัว ไมเนอร์กล่าวถึงโอกาสของทีมฟุตบอลไทยที่จะประสบความสำเร็จในเอเชียและโลกในอนาคตว่า หากได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการ การเตรียมทีมชาติไทยทุกชุด และการพัฒนาฟุตบอลลีกให้มีความแข็งแกร่งยั่งยืน เหมือนเช่นรัฐบาลเยอรมนีเคยทุ่มเมื่อหลายสิบปีก่อน รับประกันว่าบอลไทยมีโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลกแน่นอน ไมเนอร์ เดินทางกลับประเทศเยอรมนีตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจบศึกเอเชี่ยนคัพ 2007 โดยไมเนอร์บอกว่า จะกลับไปดูแลบริหารงานคลีนิคแพทย์สมัยใหม่ที่เปิดไว้ที่เมืองฟลูด้า ประเทศเยอรมนี และหากมีโอกาสจะกลับมาร่วมงานกับทีมฟุตบอลไทยอีกครั้ง เพราะคิดว่าเมืองไทยคือบ้านหลังที่ 2 และมีความรักประเทศไทยอย่างมาก นี่คือ "หมอเทวดา" ของวงการฟุตบอลไทย..!!! ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01spo27220750&day=2007/07/22&sectionid=0114 จากคุณ : solo one - [ 3 มิ.ย. 51 14:40:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วน ที่ไทย เล่นไม่อยากชนะ นี่เป็นปรัชญาการเล่นของทีมครับ  ซึ่งต้องถามโค้ชที่ปลูกฝังปรัชญาอย่างนี้ สมัยวิธ เล่นสวยสู้หรั่งไม่ได้ แต่บอลน้อยจังหวะ ประสิทธิภาพสูงกว่า แถมนักเตะถ้าเล่นบ้าน แทบจะวิ่งสู้ฟัดเลย ซึ่งตรงนี้โค้ชต้องรับผิดชอบเต็มๆๆ ไม่สามารถกระตุ้นทีม ให้สู้ตลอด ทั้งที่เล่นในบ้าน นักเตะที่หมดแรงข้าวต้ม ต้องมาดูเป็นกรณี อย่าง ดัสกร นี่ไม่ได้ซ้อมเก็บตัวทีมชาติไทยนะครับ ที่เก็บตัวมาเป็นเดือน พึ่งกลับมาจากเวียดนาม วันพุธ วันพฤหัส ถ้าความฟิตไม่ได้ นี่ต้องไปถาม ต้นสังกัดเวียดนาม อย่างตะวัน นี่ 37 -38 ปี ความฟิตไปหมดแล้ว เล่นเต็มๆ ได้ครึ่งเดียว นอกนั้นเหลือแต่ใจ สรุปบางทีต้องแยกหน้าที่ และ ดูรายละเอียดปลีกย่อยด้วย โค้ชหรั่งเก่งครับ แต่กาลเวลา และ ยุคสมัยอาจเปลี่ยนไปแล้ว ปรัชญาการเล่นก็เปลี่ยนไป จากคุณ : solo one - [ 3 มิ.ย. 51 14:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าอีกสามนัดชนะรวด ผมขอแสดงสปิริตด้วยการคุมทีมต่อครับ จากคุณ : melodic - [ 3 มิ.ย. 51 16:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากโหวตข้อนี้อ่าครับ โค้ชหรั่งแสดงสปิริต ขอลากิจต่อ ๗ วัน ไปแระ ฟิ้ว.... จากคุณ : พี่เข้ม ณ.หัวหมาก - [ 3 มิ.ย. 51 18:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซักแต้มก็คงไม่ได้ จากคุณ : CycleMan - [ 4 มิ.ย. 51 01:07:00 ]