PANTIP.COM : S6805355 ปลาทูคะนอง - ขอถามความรู้ครับ [ฟุตบอลไทย]

ความคิดเห็นที่ 1

เรื่องการ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่ง่ายๆครับ ต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างต่ำเป็นจำนวนหนึ่ง แล้วต้องมี potential สำหรับนักลงทุนด้วยครับ ในแง่นี้คือกำไรนั่นเอง แถมยังมีข้อกำหนดเยอะแยะมากมาย ทั้งในเรื่องการบริหารงานที่ชัดเจน บัญชีทางการเงินต่างๆ ฯลฯอีกมากมาย ระเบียบเยอะมากๆครับ

การเข้าตลาดหุ้นไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องของทีมปลาทูคะนองครับ ผมกล้าพูดเลยว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย (หรือแม้แต่ในเอเชีย แอฟริกา โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และยุโรปกับคอนคาเคฟส่วนใหญ่) สโมสรใดที่มีความสามารถพอที่จะเข้าตลาดหุ้นได้ ที่เราเห็นสโมสรใหญ่ๆในยุโรปเป็นบริษัทมหาชนกันนั้นน่ะส่วนน้อยครับ

เอาง่ายๆเลยนะครับ สมมติว่าไม่ต้องไปคิดถึงกฏระเบียบข้อบังคับบริษัทจดทะเบียนมหาชนใดๆทั้งสิ้น ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าบริษัทที่ไม่มีผลกำไรที่แน่นอนมาเข้าตลาดหุ้น จะมีนักลงทุนคนไหนมาซื้อหุ้นหรือมาลงทุนในบริษัทนั้นๆไหม

สำหรับผม ทางออกของทีมปลาทูคะนอง คือ
1. ลองส่งตัวแทนไปเจรจากับทาง "ผู้ใหญ่" ของจังหวัดอีกครั้ง แล้วพยายามหาทางรอมชอมกันให้ได้ (ซึ่งผมคิดว่าคงทำกันแล้วแต่ไม่ได้ผลครับ)
2. ถ้าไม่งั้นลองนัดกันไปประท้วงดูมั้ยล่ะครับ เป็นทางหนึ่ง ส่วนอีกทางคือ ยื่นเรื่องให้ส่วนกลางพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นศาล หรือหน่วยงานราชการต้นสังกัดของ "ผู้ใหญ่" คนนั้น
3. ทำแผนประกอบการ บัญชีรายรับรายจ่ายทั้งฤดูกาล และผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ นำเสนอให้นักธุรกิจหรือบริษัทใหญ่ๆมาสนับสนุนตรงนี้ครับ แต่ต้องมีตัวตั้งตัวตีก่อน จะเป็นเฮดโค้ช หรือผช.ผจก.ทีมก็ได้ ขอย้ำว่า นอกจากเรื่องของท้องถิ่นนิยมแล้ว ต้องทำให้เค้าเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับถ้าเข้ามาลงทุนหรือสนับสนุนทีมสมุทรสงครามด้วยครับ จะเป็นในรูปแบบของผลกำไร หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้าเค้าเข้ามามีแต่เสีย เค้าก็คงไม่มาครับ เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความรักและทุ่มเทในทีมเหมือนท่าน ผจก.ทีมคนเก่าที่ลาออกไป

โดยทางทีมเองอาจจะต้องปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการให้เป็นระบบมากขึ้น และคิดถึงเรื่องรายรับรายจ่ายมากขึ้นด้วย เพราะนั่นหมายถึงความอยู่รอดของทีมครับ บางทีอาจจะต้องเก็บค่าเข้าชมเพิ่มขึ้น (โดยอาจจะทำระบบตั๋วปี ระบบสมาชิก ควบคู่ไปด้วย) ขายของที่ระลึกแพงขึ้น หาสปอนเซอร์ให้มากขึ้น เพราะสปอนเซอร์สำหรับทีมฟุตบอลไทยส่วนใหญ่มาจากการ "ขอกันมาในระบบคนรู้จัก" มากกว่าการ "เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ" ฉะนั้นทางปลาทูต้องทำแผนให้ชัดเจนครับว่าสปอนเซอร์จะได้อะไรบ้าง สิ่งที่อาจจะทำได้ก็ อาทิเช่น เอารายชื่อปลาทูแฟนคลับให้เค้าดูว่าเรามีกันอยู่กี่คน (แนะนำว่าควรมีเยอะๆครับ 2000 - 5000 คนไปเลย) แล้วอนุญาตให้ทางสปอนเซอร์จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับชาวปลาทูได้ อะไรประมาณนี้ ก็เป็นทางหนึ่ง ส่วนอีกทางหนึ่งก็ต้องหาคนรู้จักเหมือนเดิมนั่นแหละครับ

เป็นกำลังใจให้ทีมสมุทรสงครามผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีครับ

จากคุณ : TASoccer - [ 17 ก.ค. 51 06:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งพร้อมไอเดียเรื่องการหารายได้เข้าสโมสรบางประการนอกจากที่จะขอสปอนเซอร์และระดมทุนขายหุ้นส่วนครับ คิดเล่นๆขึ้นมา

1. เรื่องบัตรเข้าชม ก่อนอื่นต้องดูครับว่าสนามจุได้เท่าใด แล้วมีคนต้องการเข้าชมมากแค่ไหน จากนั้นลองคำนวณรายได้ดูครับว่าถ้าขึ้นราคาตั๋วแล้วจะเป็นอย่างไร แล้วก็เสียงตอบรับจะเป็นอย่างไร สามารถทำได้โดยการทำแบบสอบถามครับ ตัวอย่างราคาตั๋วก็อาจจะทำเป็นระดับชั้น เช่น ที่นั่งมีหลังคาฝั่งประธาน 100 บาท ที่นั่งไม่มีหลังคาฝั่งตรงข้าม 70 บาท ที่นั่งหลังโกล์ 50 บาท เป็นต้น

2. เรื่องโปรโมชั่นการเข้าชม เพราะแน่นอนว่าถ้าเราขึ้นราคาตั๋ว คนดูบางส่วนที่เป็นขาจรอาจจะหายไป รวมไปถึงประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะดูหรือไม่ดูดีด้วยครับ

2.1เรื่องแรกเลยอยากจะแนะนำเรื่อง "การทำตั๋วปี" เพราะจะเป็นรายได้ที่เก็บได้แน่นอนไม่ต้องมานั่งลุ้นนัดต่อนัดครับ เนื่องจากจ่ายทีเดียวต้นฤดูกาลไปเลย เป็นการการันตีรายได้ส่วนหนึ่ง สมมติว่าแข่งในบ้าน 15 นัด ปกตินัดละ 100 บาท รวมเป็น 1500 บาท ถ้าใครซื้อตั๋วปี เราอาจจะลดเป็น 1200 บาท อะไรประมาณนี้ครับ ขายตั๋วปีได้ 1,000 คนก็ 1,200,000 บาทแล้ว

2.2 ตามมาด้วยเรื่อง "บัตรสะสมแต้ม" สำหรับคนที่ไม่ใช่สมาชิกตั๋วปีครับ ทำง่ายๆเป็นสติ๊กเกอร์หรือตราปั้มเหมือนพวกร้านกาแฟครับ เช่น มาดูครบ 10 นัด ฟรี 1 นัด เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้คนที่ไม่ได้ซื้อตั๋วปีมาดูบอลกันเรื่อยๆ อย่างน้อยก็มาดู 11 นัดก็ยังดี สมมติตรงนี้ได้ 500 คน นัดละ 100 บาท 10 นัด ก็ 500,000 ครับ

2.3 โปรโมชั่น มา 4 คน จ่าย 3 คน หรือ มาเป็นครอบครัว ลูกๆที่ยังไม่ถึงวัยมัธยมปลายเสียครึ่งราคา เด็กในท้องเข้าฟรี เป็นความพยายามที่จะทำให้คนดูมาเยอะ คือให้ดึงกันมา เปิดโอกาสให้พ่อแม่จูงลูกหลานไปดูบอลครับ ส่งเสริมให้เยาวชนได้มาสัมผัสกับกีฬา และพวกเขาเหล่านี้โตขึ้นไปอาจจะเป็นนักบอลระดับโลก หรือกองเชียร์ตัวยงก็ได้ โปรโมชั่นนี้อาจจะเพิ่มเป็น "ตั๋วปีสำหรับครอบครัว" ก็ได้ครับ เช่น ปกติครอบครัวมาตรฐาน พ่อแม่ 2 ลูก 2 ปกติจะจ่ายนัดละ 300 บาท 15 นัด 4,500 บาท แต่พิเศษ ถ้าซื้อตั๋วปีก็เหลือแค่ 4,000 - 4,200 บาท ครับ

2.4 อันนี้อย่าลืมลดราคาค่าตั๋วสำหรับเด็กนักเรียนนิสิตนักศึกษาในเครื่องแบบหรือแสดงบัตรนักเรียนที่ยังไม่หมดอายุด้วยด้วยนะครับ จะกี่เปอร์เซนต์หรือจะเข้าฟรีก็ว่ากันไป

2.5 หรือจะทำเป็นดีลกับบริษัทห้างร้านห้างสรรพสินค้าในเมืองครับ (ที่ผมไม่รู้ว่ามีเจ้าไหนบ้าง) สมมติละกันนะครับ โปรโมชั่น มาดู 5 นัด รับส่วนลดโรบินสัน(หรือที่อื่น) 5% มา 10 ก็ 10% มา 15 นัด 15% ถ้ามาครบทุกนัดในบ้าน รับไปเลย คูปองส่วนลด 25%

3. ก็เป็นเรื่องของสินค้าและของที่ระทึก เอ้ย ระลึกล่ะครับ ในระยะยาวคือต้องสร้างแบรนด์ของสมุทรสงครามเอง เช่น Pla2 Platu ปลาทู หรือ KLONG กลอง ก็ว่ากันไป (แต่ห้ามใช้ K-Long เพราะดูทะเล้นๆ) เพื่อจะทำธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมเลย โดยเอากำไรจากตรงนี้มาอุดหนุนทีมด้วยครับ

3.1 ที่ทำแน่ๆและทำอยู่แล้วคือของที่ระลึกเกี่ยวกับฟุตบอล อาทิเช่น เสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ธง เป็นต้น

3.2 แล้วลองขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆครับ เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้าน ในครัวเรือน จำพวก พรม กระติกน้ำ นาฬิกาแขวน ปฏิทิน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน กรอบรูป ก็ว่าไปแต่ต้องออกแบบสวยๆนะครับ อาจจะไม่เน้นที่ฟุตบอลอย่างเดียว แต่เราจะเปลี่ยนไปเน้นที่ตัว Brand

3.3 ตามมาด้วยสินค้าในชีวิตประจำวัน ซื้อขายได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอเฉพาะวันที่มีแข่ง เช่น น้ำแร่ตราPla2 ผลิตภัณฑ์โอท็อปมาตรฐานอย่างปลาทูตากแห้ง ของทะเลตากแห้ง ผลไม้ตากแห้ง ขนมนมเนย แต่ติดตรา Pla2 หรือ KLONG ด้วยครับ อาศัยพื้นที่ขายในตลาดหรือร้านขายของๆสโมสรนั่นแหละครับ โดยกำไรส่วนหนึ่งหลังหักต้นทุนและเงินเดือนพนักงานขายแล้วก็ส่งต่อไปยังตัวสโมสรเลย

3.4 ทำเป็น community มีร้านกาแฟหรือร้านอาหารสำหรับเป็นที่รวมตัวหรือสังสรรค์กันของชาว แม่กลองอหังการ์ ปลาทูคะนองศึก กำไรจากร้านก็ไม่ไปไหน ส่งเข้าไปสโมสรครับ

4. แต่ถ้าทำเป็นธุรกิจแล้วสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ บรรดาสมาชิกชาวปลาทูทั้งหลาย เราต้องมีปฎิสัมพันธ์กันเรื่อยๆครับ ให้รู้สึกเหมือนประหนึ่งว่าทุกคนคือเจ้าของทีมร่วมกัน มีการสังสรรค์ มีการจัดกิจกรรมนู่นนี่ นอกจากดูบอลอาจจะไปนัดกันไปทำบุญ ไปกวาดลานวัด ไปบริจาคของ หรือไปปลูกป่าด้วยก็ดีครับ ถ้ามีข่าวคราวอะไรก็ส่งต่อๆกันไปทาง จดหมาย หรือ email หรือ sms ก็ได้ อาจจะมีจัดไปเที่ยวด้วยกัน จะเก็บตังค์เพื่อเป็นการหาทุนให้สโมสรหรือคลับสมาชิก หรือจะไปฟรีเพื่อเป็นการคืนกำไรให้กองเชียร์ โดยมีนักเตะที่ชื่นชอบร่วมเดินทางไปด้วย ก็ดีไม่น้อยครับ

เอาแค่นี้ก่อนละกัน ชักจะไปกันใหญ่แล้ว 555

ปล. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
ปล.2 เห็นด้วยกับคุณ Grand Gunner และเกียรตินำ ตรงที่ว่าอาจจะมีการติดพันธะสัญญาอะไรรึเปล่า และถ้าจดทะเบียนใหม่ในกรณีที่ทางจังหวัดเองก็ไม่ยอม อาจจะต้องไปเริ่มที่ถ้วย ง. หรือโปรลีกรอบคัดเลือกเลยรึเปล่า
ปล.3 เห็นด้วยกับพี่พัฒน์เรื่องการขยายฐานไปยังจังหวัดอื่นๆครับ
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 51 18:41:10

จากคุณ : TASoccer - [ วันอาสาฬหบูชา 18:15:27 ]