ความคิดเห็นที่ 1 นักเตะเริ่มกลับมาฝึกซ้อมกันแล้ว แต่ผมคิดว่างานของคุณหมอไม่เคยหยุดนิ่งเลย คุณได้พักผ่อนมากมั้ยในช่วงหน้าร้อนนี้ หน้าร้อนปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดครับ เพราะปกติผมจะมีงานกับเกมทีมชาติ(England U-21) แต่ปีนี้ผมได้พัก 12 วัน ซึ่งเป็นวันหยุดยาวหนแรกในรอบ 3 ปี ผมได้หยุดราว 2 สัปดาห์ จากนั้นก็เข้าๆออกๆสโมสรตลอดเพราะเรามีนักเตะคนสองคนที่ต้องดูแล ปกติในช่วงหน้าร้อนเราจะมี Physio  covering ถึงแม้เราจะไม่มีนักเตะที่บาดเจ็บเรื้อรัง แต่คุณจะไม่มี ทางรู้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเกมทีมชาติ อย่างปีนี้... เราก็มี Ryan Babel ที่บาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมก่อนลุยยูโร Ryan กลับมาที่ Melwood หลังจากบาดเจ็บใช่มั้ยครับ เขากลับมาให้เราตรวจร่างกายอีกครั้ง เราหารือกันว่าจะทำยังไงต่อไปดี และมี Staff ของทางฮอลแลนด์ร่วมหารือด้วย มีการโต้เถียงกันอยู่บ่อยๆกรณีนักเตะบาดเจ็บจากการไปเล่นทีมชาติ คุณอยู่ในทั้งสโมสรและทีมชาติ  เห็นมุมมองทั้งสองฝ่าย เป็นอย่างไรบ้าง กับทีมชาติอังกฤษ (U-21) เราติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับสโมสร เพราะโดยความจริงแล้ว นักเตะเป็นสมบัติของสโมสร พวกเขามีสัญญา มีการจ่ายค่าจ้างให้นักเตะ ผมคุยกับแพทย์ประจำสโมสรและทีมกายภาพก็คุยกับทีมกายภาพของสโมสร การสนทนาเป็นไปด้วยดี ถ้านักเตะตกลงเล่นให้ทีมชาติ เราต้องมั่นใจว่าสัญญานั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง โชคร้ายที่ทีมชาติหลายทีมไม่ได้เป็นแบบนั้น บางทีเรื่องจบลงที่ตัวนักเตะเองมาบอกกับเรา(สโมสร)ถึงอาการบาดเจ็บ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจนะ ในมุมมองของผม.. ทีมชาติบางทีมก็ดีมาก แต่บางทีมไม่ สำหรับพวกเรา(ทีมบรรณาธิการ) ช่วง Pre-season นี่ก็เหมือนช่วงลมสงบก่อนจะมีพายุ งานของคุณเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ไม่เลย.. ช่วงนี้แหละครับคือพายุแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมากๆสำหรับพวกเรา เพราะเราต้องดูแลนักเตะว่าฟิตในระดับไหน เราต้องประเมินนักเตะเมื่อเขากลับมาและต้องมั่นใจว่าพวกนักเตะไม่ได้พกปัญหากลับมาด้วยระหว่างที่หยุดพัก เราต้องทำการเช็คน้ำหนัก ระดับไขมัน เจาะเลือดตรวจอะไรต่อมิอะไรมากมาย นั่นทำให้เรามีข้อมูลพื้นฐานที่ดี และทำให้เราตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับผลการตรวจร่างกายนั้น ผมคิดว่านักเตะแต่ละคนคงกลับมาด้วยสภาพร่างกายต่างๆกัน เดี๋ยวนี้ทีมเปลี่ยนแปลงไปมากกว่า 16 ปีก่อนมาก คุณดูนักเตะที่เรามีอยู่ตอนนี้สิ (น่าจะหมายถึงจำนวนที่มากขึ้น – ผู้แปล) พวกเขาต้องดูแลตัวเองอย่างที่สุดเลยระหว่างหน้าร้อน ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมี European meantality มากขึ้นนะ คุณเห็นด้วยมั้ย ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็น European mentality หรือเป็น Sensible mentality โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าสิ่งที่เราทำคือความเป็นมืออาชีพและใช้เหตุผล เราพยายามจะสร้างสมดุลระหว่างวิทยาศาสตร์กับฟุตบอล ความสามารถในการเล่นฟุตบอลของคุณไม่ได้หมายถึงความสามารถในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่เกี่ยวกับพรสวรรค์และคนที่อยู่เบื้องหลังคุณ ผู้ซึ่งจะช่วยให้คุณมีศักยภาพสูงสุด และนั่นไม่ใช่งานของผมคนเดียว เรามีนักกายภาพ นักโภชนาการและอื่นๆ เราได้รับคำแนะนำจากบุคคลหลายแผนกในมหาวิทยาลัย โดยเราพยายามหาคนที่ดีที่สุดเพื่อมาช่วยนักเตะของเรา จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเคยคิดว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไปจะทำให้งานของคุณง่ายขึ้น แต่ฟังดูแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะ ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เกม แต่ถ้าคุณได้เห็นเกมฟุตบอลในทุกวันนี้เทียบกับ 20 ปีที่แล้ว คุณจะเห็นว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น นักเตะต้องวิ่งเต็มฝีเท้ามากขึ้นและเร็วขึ้น พวกนักเตะเดี๋ยวนี้วิ่งเยอะกว่าเมื่อ 30 ปีก่อน ดังนั้น...นักเตะต้องดูแลตัวเองมากกว่าเก่า หากเล่นอยู่ในสโมสรระดับเรา ซึ่งมีโปรแกรมเตะมากมาย.. ปีนี้เราก็ต้องไปเตะ UCL อีก ผมมีคำถามนิดหน่อยเรื่อง Xabi Alonso กับ Daniel Agger สองคนนี้กระดูกฝ่าเท้าบาดเจ็บเหมือนกัน แต่ทำไมระยะเวลาการรักษาถึงต่างกันมากเหลือเกิน มันเหมือนกับที่คุณมีนักเตะสองคนที่ขาหักนั่นแหละครับ  มันอาจเป็นการบาดเจ็บที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ได้ คนหนึ่งอาจพัก 3 เดือน อีกคนอาจต้องพักเป็นปี กรณีกระดูกเท้าก็เหมือนกัน Gerrard เคยกระดูกเท้าแตกและต้องพัก 53 วัน , Alonso นั้นกลับมาได้เร็ว แต่ก็กลับมีอาการขึ้นอีก , Agger ก็มีอาการที่ต่างออกไป ถ้าเรามีนักเตะที่กล้ามเนื้อหรือเอ็นบาดเจ็บ เราบอกได้ว่าพวกเขาต้องพักประมาณ 2 สัปดาห์ การที่อาการจะกำเริบนั้นอยู่ในอัตราแค่ 2.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับสโมสรระดับเดียวกัน แต่ถ้าเรามีนักเตะที่บาดเจ็บในส่วนสำคัญอย่างกระดูกเท้า เราจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญในการจัดการ บางครั้งเราต้องการหลายๆความเห็น หากเหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดไว้ และกรณีของ Agger และ Alonso ก็เป็นตัวอย่าง Dan กลับมาฝึกซ้อมแล้ว.. เขาเป็นอย่างไรบ้างครับ โอ้.. เขาดูดีมากนะ ผมไม่ได้ต้องการจะพูดถึงแค่นักเตะคนเดียวหรอกนะ แต่โดยทั่วไป บางครั้งที่คุณมีอาการบาดเจ็บที่ยุ่งยากซับซ้อน มันคงดีกว่าถ้ามีหลายทางเลือกในการรักษา ถ้าวิธีนี้ใช้แล้วไม่ดี เราก็ลองวิธีอื่น ผมเดาว่าไม่ใช่แค่ทางร่างกายมิติเดียวเท่านั้น.. มันยังมีเรื่องจิตใจและด้านอื่นๆของนักเตะที่คุณต้องดูแลด้วยใช่มั้ยครับ ใช่ครับ... นั่นคือการแพทย์ ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอลอย่างเดียว แต่นั่นเป็นสิ่งที่หมอทุกคนได้รับการอบรม เราเรียกสิ่งนี้ว่า “การดูแลแบบองค์รวม” เราไม่ได้ดูแค่... ตัวอย่างนะครับ เราไม่ได้ดูกระดูกขาที่หักของ Cisse แต่เราดูแลตัวของ Cisse ซึ่งมีปัญหาขาหัก จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Okay, looking at your role – are you the players' GP as well or do you simply deal with injuries relevant to football?   No, not in the traditional sense. But my background is quite wide – I came from a background of A&E. I worked at Alder Hey for six years before I came here. I've also been in general practise and have taught it. As far as the GP type problems like coughs, colds, skin problems and that kind of thin, I am qualified to do that.   (ง่า...  คำถามนี้ อ่านแล้วงงๆค่ะ.. ตรงคำว่า GP น่าจะย่อมาจาก General Practise หรือแพทย์รักษาโรคทั่วไป ไม่แน่ใจว่าคนถามถามอะไร แต่คุณหมอตอบประมาณว่า ถึงเป็นปัญหาด้านอื่นๆที่ไม่ใช่การบาดเจ็บจากกีฬาอย่างอาการไอ หวัด หรือโรคผิวหนัง คุณหมอก็รักษาได้เหมือนกัน) เห็นได้ชัดเจนเลยว่าการที่คุณมีหน้าที่รักษานักเตะระหว่างเกม พอเห็นนักเตะล้มลงไปปุ๊บ คุณรู้ทันทีเลยมั้ยครับว่าพวกเขาบาดเจ็บ คนที่เป็นหมอเนี่ย พอเห็นคนคนหนึ่งล้มลงไปโดยไม่ขยับเขยื้อน นั่นล่ะจะทำให้คุณกังวล แต่ ถ้านักเตะล้มลงไปแล้วยังกลิ้งไปกลิ้งมาได้อยู่เนี่ย มักไม่ใช่ปัญหาหนักนะ(ฮา) แต่ไม่เสมอไปนะ มองย้อนไปกรณีของ Cisse ตอนขาหัก เขายังคงพยายามจะยืนขึ้น คุณจะคิดว่านั่นคงไม่มีอะไรผิดปกติไม่ได้ ผู้คนมักคิดว่าหมอจะรอจนกว่ากรรมการจะเป่าเรียก จึงเข้าไปในสนาม แต่กรณีอย่าง Cisse เมื่อนักเตะส่งสัญญาณมาทางคุณ คุณต้องเข้าไปทันที... บางอาการอย่างของ Aurelio ที่เอ็นร้อยหวายฉีก พอผมเห็นปุ๊บ.. ผมก็ลุกขึ้นทันทีและบอกทีมกายภาพว่า “เอ็นร้อยหวายของเขาฉีก” มันเป็นอาการที่พบได้บ่อยเลยเวลาเห็นนักเตะที่วิ่งๆอยู่แล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่าใครเตะข้อเท้าตูฟะ ทั้งที่หันมาไม่เจอใคร(ฮา) ทุกวันนี้ คุณจะได้ยินคนพูดกันว่า เวลาเอ็นร้อยหวายฉีกนั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนโดนยิง แต่ในตำราศัลยศาสตร์เก่าๆอธิบายไว้ว่าความรู้สึกจะเหมือนโดนก้อนหินขว้างใส่ การบาดเจ็บของ Cisse นี่เป็นการบาดเจ็บที่เลวร้ายที่สุดที่คุณเคยเจอหรือเปล่า.. คุณต้องบอกว่าการบาดเจ็บที่เลวร้ายที่สุดคือการบาดเจ็บที่ทำให้นักฟุตบอลต้องเลิกอาชีพของเขาไป ผมเคยเจอมาแล้ว 2 คนนะ.. นอกนั้นก็เป็นอาการบาดเจ็บที่หนักหน่อยอย่าง Alan Smith, Cisse หรือ Baros ซึ่งเป็นการบาดเจ็บบริเวณข้อต่อซึ่งยุ่งยากและต้องการการดูแลที่เร่งด่วน มันมหัศจรรย์และรู้สึกดีมากๆ ถ้าพวกเขากลับมาหายดีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลับมาเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิม สิ่งที่เราทำในตอนนี้คือแน่ใจว่าเราได้ทันต่อความรู้เรื่องวิธีการรักษาใหม่ๆ และดูแลนักเตะของเราที่ Melwood ในขณะเดียวกันเราต้องมีอุปกรณ์ที่จะจัดการกับสถานการณ์ต่างๆได้ เรามีเครื่องปั๊มหัวใจ 2 เครื่อง กระดานรองกรณีที่มีการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง และอื่นๆทุกอย่างที่จำเป็น ทำไมคุณยังดูสงบและมีสติตอนที่เกิดเหตุการณ์อย่างกรณี Cisse ขาหักแบบนั้น ทั้งที่มีคนจ้องมองอยู่ 35,000 คน ผมสามารถบอกได้เลยว่า ฝูงคนจำนวนมากและกล้องทีวี ไม่ได้ทำให้เหตุการณ์มันต่างออกไปหรอกครับ คุณอาจมีคนเป็นล้านกำลังมองคุณอยู่ แต่ถ้าคุณไปคิดถึงจุดนั้น คุณก็จะทำอะไรไม่ถูก ผมไม่สนว่าผมจะอยู่ที่ไหนในตอนนั้น.. Melwoood หรือกลางสนาม Anfield คุณก็ต้องตัดความรู้สึกตื่นเต้นนั้นออกไป ============================================ ที่มาhttp://www.liverpoolfc.tv/news/features/this_season/FN13211080715-1314.htm แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 23:25:20 จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บทสรุปส่งท้ายค่ะ..  คุณหมอ Mark Waller มีผลงานที่โดดเด่นกับลิเวอร์พูล 3 เหตุการณ์ที่คุณหมอถือเป็นฮีโร่เลยก็ว่าได้ เหตุการณ์แรกคือสมัยที่เฮียโปนคุมทีมอยู่เมื่อปี 2001 ในเกมกับ Leeds อูลลิเยร์เกิดอาการเจ็บหน้าอกขึ้นมากระทันหัน ขณะที่คุณหมอวอลเลอร์กำลังดูอาการของเฮสกีอยู่ เฮียโปนก็ตะโกนขึ้นมาว่า"Don't worry. He (Heskey) is worth more money than me, but I am more urgent." คุณหมอรีบวัดความดันเลือดของอูลลิเยร์ทันที และสามารถวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดฉียบพลัน จำเป็นต้องรับการผ่าตัดเร่งด่วนทันที และเฮียโปนก็ถูกส่งผ่าตัดได้ทันท่วงที.. นี่ถือเป็นความสามารถคุณสมบัติที่โดดเด่นของแพทย์ผู้ซึ่งเคยฝึกด้าน Emergency Medicine อย่างคุณหมอค่ะ... เหตุการณ์ที่ 2  คือเหตุการณ์ที่คุณหมอได้ยกตัวอย่างบ่อยๆ กรณีที่ Cisse ขาหัก ในเกมกับ Blackburn เมื่อปี 2004 ค่ะ...  หลายคนคงพอจำได้ว่ามันหวาดเสียวและน่ากลัวมาก คุณหมอนั้นจัดการกับขาของซิสเซ่ได้อย่างเยี่ยมยอด แทนที่จะเสียเวลารอเกือบชั่วโมงที่จะไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอจัดการยึดกระดูกที่หักจากภายนอกและจัดมุมของกระดูกได้อย่างเหมาะสม ก่อนจะไปทำการผ่าตัด.. ซึ่งไม่ใช่งานที่แพทย์ทั่วไปจะทำได้ง่ายๆ มันจำเป็นต้องอาศัยความระมัดระวังและการตัดสินใจที่ดีเยี่ยม ทุกวันนี้...ซิสเซ่กลับมาวิ่งได้เป็นปกติ(แม้จะขาหักไปอีกรอบก็ตาม –“-) คงเป็นความภาคภูมิใจมากๆเลยของคุณหมอ น่ากลัวมากเลย....ภาพนี้ จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เหตุการณ์ล่าสุด เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจ จขกท. มากที่สุดค่ะ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Momo Sissoko ในเกมที่ลิเวอร์พูลพบกับเบนฟิก้าในเวที UCL ปี 2006 ที่โมโม่โดนเตะเข้าที่ตาอย่างจัง.. ในตอนนั้น แพทย์ที่โปรตุเกสให้ความเห็นว่าตาข้างนั้นโมโม่คงไม่สามารถมองเห็นได้อีก และแน่นอนว่าต้องเป็นปัญหาในอาชีพนักเตะแน่นอน โมโม่นั้นร้องไห้หนักด้วยความเสียใจ ..แต่คุณหมอวอลเลอร์นั้นปฏิเสธที่จะยอมรับผลการวินิจฉัยดังกล่าว คุณหมอบอกว่า ตาขวาของโมโม่จะมองไม่เห็นไป 36 ชั่วโมง.. แต่มีโอกาสจะไม่บอดอย่างถาวร คุณหมอได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ทีหลังว่า “คุณต้องให้กำลังใจกับคนไข้ แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็โกหกคนไข้ไม่ได้” คุณหมอไม่ยอมรอให้เวลาและโอกาสการกลับมามองเห็นของโมโม่ช้าไปแม้วินาทีเดียว เมื่อทางโปรตุเกสไม่พร้อมด้านการรักษา คุณหมอก็พาโมโม่กลับมารักษาที่อังกฤษทันที(ถ้า จขกท จำไม่ผิด.. การเดินทางในโปรตุเกส คุณหมอเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟแทนเครื่องบิน เพราะกลัวว่าการขึ้นเครื่องจะทำให้มีผลต่อความดันในลูกตาและเกิดการกระทบกระเทือนกับจอตาที่หลุดลอกของโมโม่ เป็นสิ่งเล็กน้อยที่ตอนนั้นอ่านแล้วก็นับถือคุณหมอจริงๆค่ะที่ใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย) สุดท้าย.... ลิเวอร์พูล(และยูเวนตุสตอนนี้) ก็ได้ SuperMomo ซึ่งมองเห็นได้แทบจะเหมือนคนปกติ และกลับมาเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิม จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จบแล้วค่ะ... อาจไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเท่าไหร่ ถือว่าอ่านเพลินๆละกันนะคะ ที่จริงสนใจงานของคุณหมอของสโมสรอื่นด้วย แต่ข้อมูลไม่มีค่ะ... T_T โดยเฉพาะแพทย์ประจำทีมปืนใหญ่ แหม... อะไรมันจะมีการสูญเสียทรัพยากรบุคคลเยอะแยะจริงๆทีมนี้ เพราะได้ข่าวคาเปลโล่กำลังจะฉกคุณหมอประจำทีมไปเป็นแพทย์ประจำทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แหม่... ไม่รู้ว่าแอบปลื้มคุณหมอจากการดูแลอาการบาดเจ็บแสนล้านอาการของนักเตะปืนหรือเปล่า หรือแอบไปทราบมาว่าคุณหมอกำลังว่างงานเพราะนักเตะมี The Hospital Band ตั้งเป็นของตัวเอง เสริมอีกนิด.. จากการที่ชอบอ่านบมสัมภาษณ์ก่อนหน้าของคุณหมอ รู้สึกว่าคุณหมอจะพูดถึง Alan Smith บ่อยเหมือนกัน.. คุณหมอนั้นใส่ใจกับอาการบาดเจ็บของมิตตี้มากเลยค่ะ โชคดีที่เขายังกลับมาเล่นฟุตบอลได้ คุณหมอกับทีมชาติค่ะ... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 23:47:17 จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ....ขอให้คุณหมอดูแลนักตะของเราแบบนี้ไปนานๆนะคะ อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วย จากคุณ : Abandoned Star - [ 23 ก.ค. 51 23:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อะไรมันจะรุนแรงขนาดนี้.... เตะจนขาหัก กระดูกโผล่เลยทีเดียว อึ๋ยยยย จากคุณ : daffygirl - [ 23 ก.ค. 51 23:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปรบมือให้คุณหมอด้วย และขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยที่เอาเรื่องดีๆ มาให้อ่าน แถมแปลให้อีก =^-^= จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง (สุริยาแก้มป่อง) - [ 24 ก.ค. 51 00:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : ตัวจริงเสียงจริง... (ในทรรศนะของข้าพเจ้า) - [ 24 ก.ค. 51 00:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมคับ ได้อรรถรสอีกแบบ นี่ซิ เค้าถึงเรียกปิดทองหลังพระจริงๆ จากคุณ : Red Phoenix - [ 24 ก.ค. 51 07:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 ก.ค. 51 08:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 24 ก.ค. 51 09:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่า คุณดาว ที่เสียสละเวลาแปลสิ่งดีๆมาให้พวกเราอ่านกัน ^^ จากคุณ : wanvisa - [ 24 ก.ค. 51 10:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย ผลงานแปลเยี่ยมครับ อ่านเพลินจริงๆ จากคุณ : GunError - [ 24 ก.ค. 51 11:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 24 ก.ค. 51 11:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17                                               จากคุณ : สตีวี่G - [ 24 ก.ค. 51 12:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาไม่ทันตัวจริง อ่านก่อนๆ จากคุณ : ในทรรศนะของนู๋ (rudd_luv) - [ 24 ก.ค. 51 14:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ว้าวววววว คุณหมอนี่ก็แหล่มใช้ได้เลยนะเนี่ยยยยยยยยย ขอบคุณ น้องดาว สกาวใจ ด้วยจ้า จากคุณ : Batty_Bounce - [ 24 ก.ค. 51 14:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณที่เคยดูแลอลัน สมิธครับ จากคุณ : Torres - [ 24 ก.ค. 51 18:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กรี๊ดดดดดดดดดดด ไม่ได้เข้าพันทิพ 2 วัน เกือบไม่ได้อ่านกระทู้ดีๆแบบนี้ซะแล้ว แอบปลื้มคุณหมอวอลเลอร์เหมือนกาน ตอนที่พี่เจิดมีปัญหาบาดเจ็บหลายครั้งก็ได่คุณหมอนี่แหละ คอยแนะนำ มีครั้งนึง เกือบต้องผ่าตัด 4 ครั้ง แต่หมอวอลเลอร์บอกว่า ไม่ ผมไม่เชื่อว่าจะต้องผ่ามากขนาดนั้น พี่เจิดเชื่อหมอ และสุดท้ายก็ไม่ต้องขึ้นเตียงผ่าตัดจริงๆ สุดยอดคุณหมอ อยู่กะเราไปนานๆนะคะ จากคุณ : howk_ky - [ 24 ก.ค. 51 20:11:35 ]