ความคิดเห็นที่ 4
คาเปลโล่ชี้แข้งไทยไซส์เล็กใช่ปัญหาเน้นเทคนิค
โค้ชไทยร่วมร้อยแห่ฟังบรรยาย กลยุทธ์การจัดการทีมฟุตบอลอาชีพจาก ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ รับฟังประสบการณ์คุมทีมจากยอดโค้ชชาวอิตาลี ที่แนะบอลอาชีพไทยต้องดำเนินการพร้อมกันทุกส่วน ย้ำแข้งไทยรูปร่างเล็กไม่ใช่ปัญหา ให้พัฒนาเทคนิค, แท็กติก และฟิตเนส ฝีเท้าจะมาเอง รับคุมทีมชาติอังกฤษสุเท้าทาย แต่มั่นใจอังกฤษเป็นแชมป์โลกได้ 26 ก.ค.นี้ เปิดคลินิกลูกหนังให้เยาวชนไทยและทีม 19 ปี ที่ราชมังคลาฯ
ความคืบหน้าการเดินทางมาเยือนเมือง ไทยของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ ตามคำเชิญของทาง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 51 ที่ผ่านมา นับเป็นการเริ่มงานวันแรก โดย ฟาบิโอ คาเปลโล่ เดินทางมาร่วม การบรรยายพิเศษแก่บรรดาตัวแทนสโมสรต่างๆ ที่เดินทางมาเข้ารับฟังกันแน่น ห้องปาริชาติ รร.เรดิสัน ในหัวข้อ "กลยุทธ์การจัดการทีมฟุตบอลอาชีพ" โดยความร่วมมือของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ มูลนิธิไทยคม
นอกจากนี้ ยังมี ไซม่อน จอห์นสัน ผอ.ฝ่ายต่างประเทศ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, อันดีน คูเปอร์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของ ส.ฟุตบอลอังกฤษ เข้าร่วมด้วย พร้อม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ, ตัวแทนสโมสรจากไทยลีก, ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2, โปรลีก และฟุตบอลถ้วยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
"บังยี"เชื่อสโมสรได้ประโยชน์เต็มๆ
ก่อนการบรรยาย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ขึ้นกล่าวว่า "ต้องขอบคุณทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่ได้จัดส่ง คาเปลโล่ ที่ถือเป็นยอดกุนซือระดับโลกมาให้ความรู้ในด้านต่างๆ แก่ตัวแทนสโมสรของไทย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านการคุมทีมใหญ่ๆ มามากมาย และมีกลเม็ดเคล็ดลับที่แต่ละทีมน่าจะนำไปศึกษาเพื่อบริหารทีมต่อไป ทั้งนี้ในช่วงฟุตบอลบ้านเรากำลังมีการปรับโครงสร้างเข้าสู่อาชีพเต็มตัว ตามที่เอเอฟซีกำหนดมา เพื่อยกระดับมาตรฐานเหมือนอย่างยุโรป จำต้องเตรียมตัวของเราเอง ไม่ว่าการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลจะมาจากตัวแทนของทุกสโมสร รวมถึงการปรับโครงสร้างทีมให้เป็นอาชีพด้วย วันนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน และวงการฟุตบอลไทยต่อไป"
คาเปลโล่แนะโค้ชที่ดีต้องเริ่มจากทีมยช.
ด้าน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ที่เข้ามารับงานคุมทีมชาติอังกฤษ ผ่านการคุมทีมใหญ่ๆ มาแล้วไม่ว่า เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด, โรม่า และ ยูเวนตุส แต่ละทีมที่คุมต่างประสบความสำเร็จด้วยดี กล่าวว่า "ดีใจที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวันนี้ สิ่งต่อไปนี้ถือเป็นประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา โดยส่วนตัวมองว่าการที่จะก้าวไปสู่การเป็นโค้ชที่ดีควรจะเริ่มงานจากการคุม ทีมระดับเยาวชนก่อน แล้วค่อยขึ้นมาเป็นผู้ช่วย และขึ้นเป็นโค้ชเต็มตัวต่อไป โดยการทำงานแต่ละที่จะแตกต่างกันไปคุณต้องเข้าใจวิธีคิดและวัฒนธรรมของ ประเทศนั้นๆ หรือทีมนั้นๆ ก่อนที่จะเข้าไปทำงาน ซึ่งแต่ละทีมจะมีปัญหาแตกต่างกันไป"
แนะทีมมีสตาร์ดังต้องดึงให้ติดดิน
นอกจากนี้กุนซือทีมชาติอังกฤษ กล่าวยกตัวอย่างว่า "ในทีมตัวผู้เล่นดีแต่ไม่มีทีมเวิร์ก ต้องเข้าไปแก้ไขให้มีทีมเวิร์กมีความสัมพันธ์ที่ดีในทีมก่อน หรือบางทีมมีแต่นักเตะซูเปอร์สตาร์ อันดับแรกจะดึงซูเปอร์สตาร์เหล่านั้นให้ลงมาติดดินก่อนมายืนเท่ากันและทำงาน ไปข้างหน้าด้วยกัน โดยไม่มีการแบ่งชั้นนักเตะ ทีมสามารถประสบความสำเร็จได้ โดยการบริหารต้องมีการเตรียมทีมก่อนการเปิดฤดูกาล 40 วัน และ 15 วันแรกจะเน้นฟื้นฟูสภาพร่างกาย และมีแท็กติกเสริมบ้างเล็กน้อย จากนั้นจะมีการเกมอุ่นเครื่อง อย่างน้อย 10 นัด ก่อนที่จะเปิดลีกแข่งขันจะได้รับรู้ข้อมูลของทีมอย่างเต็มที่ว่าจะต้องแก้ไข อะไรเพื่อให้พร้อมในนัดแรกของฤดูกาล ส่วนทีมงานจำเป็นต้องมีทีมงานของเราเองที่แน่ๆ จะมีผู้ช่วย, โค้ชประตู และโค้ชที่ดูแลฟิตเนสโดยตรง ที่เหลืออาจจะต้องมีคนท้องถิ่นเข้ามาช่วยประสานในฐานะผู้ช่วยอีกคนได้ มีทีมแพทย์ มีทีมโภชนาการ ทีมจิตวิทยา"
"ส่วนโปรแกรมการแข่งขันยกตัวอย่างในลีกอิตาลีที่แข่งทุกวันอาทิตย์ จะจัดออกมาดังนี้ วันอังคาร จะซ้อมเช้าเบาๆ วันพุธ ซ้อมเช้า และบ่าย วันพฤหัสบดี ซ้อมบ่าย วันศุกร์ ซ้อมเช้า วันเสาร์ ซ้อมเช้าเบาๆ โดยจะเน้นการศึกษาเทปคู่แข่งไปด้วย รวมถึงปัญหาของทีมจากเกมที่แล้ว นอกจากนี้โค้ชต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อ ก่อนแข่งจะมีการแถลงข่าวทางสื่อทีวีทุกครั้ง ส่วนหนังสือพิมพ์จะให้สัมภาษณ์พิเศษฉบับละ 1 สัปดาห์สลับกันไป" อดีตกุนซือ เรอัล มาดริด เผย
ความมั่นใจคือปรัชญาความสำเร็จ
ในการบรรยายมีการสอบถาม คาเปลโล่ เป็นระยะ สิ่งที่หลายคนอยากทราบ คือ มีปรัชญาทำทีมใหญ่ๆ ที่มีซูเปอร์สตาร์หลายคนให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร เรื่องนี้ยอดกุนซือ กล่าวว่า "ที่ผ่านมาต้องบอกว่าตนเองโชคดีด้วยที่ได้คุมทีมที่มีความพร้อมและกระหายใน ชัยชนะ แต่มีปัญหาบ้างที่ต้องจัดการ และอุดรอยรั่วในทีมให้ได้ อย่างเช่นทีมเก่งเรื่องเกมรุก แต่อ่อนในเกมรับ ต้องเข้าไปแก้ไขให้ทัน และปรับให้ทีมสมดุล รวมทั้งต้องรู้ว่าในทีมนักเตะคนไหนเป็นอย่างไร เล่นอะไรได้บ้าง จะได้ใช้งานนักเตะแต่ละคนอย่างไร รวมทั้งจะหาเสริมมาจากที่ไหนต้องเร่งทำ" "ส่วนปรัชญาจริงๆ คือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของทีม ไม่มีซูเปอร์สตาร์ทีมพร้อมเดินหน้าด้วยกัน และเราต้องสร้างแรงกระตุ้นให้กับนักเตะถึงความมั่นใจต้องมาก่อนๆ ลงสนามถ้านักเตะมั่นใจประสบชัยชนะได้หลายครั้ง นักเตะบางคนซ้อมดีมาก แต่ลงเล่นไม่ได้ ขณะที่บางคนซ้อมไม่ดีเหยาะแหยะแต่กลับลงเล่นได้ดี นั้นมาจากความมั่นใจที่จะแสดงฝีเท้าออกมา ถ้าคุณทำให้นักเตะเชื่อได้ทีมประสบความสำเร็จ" คาเปลโล่ กล่าว
ความฟิตนักเตะต้องมีทีมงานดูแล
ขณะที่อีกหลายคนสอบถามในเรื่องของฟิตเนส และการดูแลว่ามีการจัดการอย่างไร คาเปลโล่ เผยว่า "สโมสรที่ดีจะต้องมีหน่วยแพทย์ที่แยกออกไป แต่จะทำงานร่วมกันตลอด โดยมีโค้ชฟิตเนสที่จะใกล้ชิดกับเราตลอดทั้งการดูแลอาการบาดเจ็บ การลงไปในสนามเวลานักเตะเจ็บ การฟื้นฟู แต่ทีมแพทย์จะมีทั้งนักโภชนาการ มีนักจิตวิทยา จะต้องมาประสานกัน ส่วนการทดสอบความฟิตจะทำเรื่อยๆ ส่วนตัวประมาณ 3 เดือนต่อครั้งจะมีการทดสอบที นอกนั้นจะเป็นเรื่องของการรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่า โดยความฟิตจะต้องเก็บเป็นสถิติเพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการของแต่ละคน ส่วนช่วงอายุนักเตะมีผลต่อความฟิต 17-22 ปี จะเป็นช่วงที่พุ่งสุดๆ ทั้งฝีเท้า และฟิตเนส อายุ 24-28 ปีถือเป็นช่วงที่เอาประสบการณ์ออกมาใช้เต็มที่ อายุ 28-32 ปี จะคงที่ และ 34-35 ปีจะเริ่มดาวน์ อายุแต่ละช่วงจะมีการบริหารจัดการต่างกันไปรูปร่างเล็กไม่ใช่ปัญหา"
คาเปลโล่ยันสรีระนักเตะเล็กไม่ใช่ข้ออ้าง
นอกจากนี้ คาเปลโล่ ได้ตอบคำถามที่ว่า รูปร่างนักเตะของเอเชียและของไทยเล็กมาก เมื่อเทียบกับยุโรปจะมีวิธีการอย่างไรที่จะให้ทีมประสบความสำเร็จได้ เรื่องนี้กุนซือสิงโตคำราม กล่าวว่า "ต้องเอาเรื่องนี้ออกไปจากหัวสมองและอย่าไปคิดถึงมันอีก ผมรู้จักนักเตะเอเชีย อย่าง นากาตะ และ นากามูระ 2 แข้งญี่ปุ่นที่ดีมากๆ มีระบบจัดการกับตัวเองได้ดี ทั้งเรื่องความฟิต และฝีเท้า หรือทีมชาติอิหร่าน ถือว่าไม่สูงใหญ่แต่เล่นได้ดี ตรงนี้ผมอาจจะมาเปรียบเทียบกับนักเตะไทยไม่ได้เพราะไม่รู้จัก แต่ขอให้ลืมอย่าไปคิดถึงมัน สมัยหนึ่งแข้งอิตาลีเล็กมากในยุโรปแต่ก้าวไปสู่ทีมชั้นนำได้ สิ่งสำคัญที่เราต้องทำคือ เทคนิค, แท็กติก และความฟิต ของนักเตะแต่ละคนจะต้องสมบูรณ์แบบแล้วการเล่นจะดีเอง"
โครงสร้างบอลอาชีพต้องพร้อมทุกด้าน
ส่วนข้อแนะนำที่ทำให้ฟุตบอลไปสู่อาชีพเต็มตัวนั้น คาเปลโล่ บอกว่า "เป็นงานที่ใหญ่มากเพราะทุกองค์ประกอบจะต้องดำเนินไปพร้อมกัน เริ่มจากระบบการแข่งขัน ควรต้องมีแม่แบบที่ชัดเจนว่าจะเราเลือกแบบไหนมาประยุกต์จะเลือกอังกฤษ, อิตาลี หรือเยอรมัน ควรต้องมี จากนั้นต้องมีสโมสรที่ดี, มีเวลาการแข่งขันที่แน่นอน, มีการถ่ายทอดทางสื่อ และมีสปอนเซอร์ ส่วนสโมสรก็ต้องมีระบบที่ชัดเจนมีประธานบริหารทีม, มีโค้ชที่ดี, มีเงินทุน ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปพร้อมกันและครบถ้วนจึงจะเกิดลีกที่ดีได้"
ชี้สุดท้าทายรับคุมทีมชาติอังกฤษ
จากนั้นได้เปิดให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยเฉพาะประเด็นที่เข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษ มีความกดดันหรือไม่ เรื่องนี้ ยอดกุนซือผูดี กล่าวว่า "คงจะรับประกันไม่ได้ว่าการเข้ามาคุมอังกฤษแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสบอกเลยว่านักเตะอังกฤษเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ และมีฝีเท้าที่ดีชาติหนึ่งในโลก ทุกคนมีศักยภาพ แล้วทำไมจึงจะฝันเป็นแชมป์ไม่ได้ เชื่อว่าอังกฤษมีดีพอที่จะเป็นแชมป์โลกได้ ส่วนการทำงานไม่มีปัญหาและเข้ากันได้กับผจก.ทีมของทุกสโมสร"
"โดยการเข้ามารับงานบอกเลยว่า ท้าทายมาก เราเป็นโค้ชต่างชาติที่เข้าไปรู้สึกเป็นเกียรติ แต่อีกอย่างทางเราต้องเอาใจใส่ในการทำงาน และระมัดระวังในการทำงานมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า ปัญหาที่มีคือในพรีเมียร์ลีกมีนักเตะที่เป็นอังกฤษแท้ๆ ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นมาจากต่างชาติ เรามีบ่อตกปลาเพียงเท่านี้ต้องเลือกเฟ้นที่ดีที่สุด แต่ทั้ง 35 เปอร์เซ็นต์ ที่มีอยู่ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพทั้งสิ้น"
ส่วนจะตั้งใครเป็นกัปตันทีม คาเปลโล่ กล่าวว่า "อีก 2 สัปดาห์จะได้รู้กัน ส่วน 11 ตัวจริงจะใช้เกมอุ่นเครื่องในการวัดศักยภาพทีมและดูจุดอ่อน จุดแข็งให้มากที่สุดเพื่อเลือกตัวที่ดีที่สุด"
เชื่อมั่นตัวเองไม่เชื่อไสยศาสตร์
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เชื่อเรื่องไสยศาสตร์เวทมนต์หรือไม่ คาเปลโล่ เผยว่า "ไม่เชื่อเด็ดขาด แต่เชื่อในการทำงาน ความจริงใจ และความเป็นมนุษย์ โดยได้ย้ำเสมอๆ ว่า การที่เราจะก้าวไปเป็นแชมป์นั้นมาจากการที่เราฝึกฝนทำงานกันอย่างหนัก และเมื่อทำได้ต้องปล่อยทิ้งเพื่อทำงานให้หนักขึ้นในการรักษาแชมป์เอาไว้ นอกจากนี้ยังแนะถึงโค้ชด้วยว่า ต้องมั่นใจในตัวเอง เพราะโค้ชจะต้องต่อสู้กับความรู้สึกของนักเตะในทีมทั้งทีม ทุกวันนักเตะจะมีการวัดคุณภาพของเรา เราต้องเป็นกลางยุติธรรมกับนักเตะในทีมทุกคน ไม่มีการแบ่งชั้น และทำงานที่เราตั้งใจ ถ้าเราอยากจะให้เยาวชนขึ้นมาและเราเห็นแววว่าเก่งเราต้องให้เวลา และเชื่อมั่นกับมัน เพราะการทำทีมเราเป็นผู้รับผิดชอบ ทีมล้มเหลว คนที่จะไปก่อนคือตัวเราไม่ใช่นักเตะ"
"โค้ชหรั่ง"บอกได้แตกความคิดอีกเยอะ
ภายหลังการบรรยายถึง 2 ชม.เต็มๆ ด้าน "โค้ชหรั่ง" อ.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย กล่าวถึงสิ่งที่เพิ่งได้รับฟังว่า "มีข้อคิดหลายอย่างทำให้เราไปแตกองค์ความรู้ได้ อย่างเช่น การคุมทีมต่างชาติ เราต้องรู้วัฒนธรรมของทีมนั้นๆ และรู้ด้วยว่าเราจะต้องระวังตัวเองในการทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า สิ่งเหล่านี้เรานำไปแตกยอดความคิดของเราได้เพื่อประยุกต์ในการทำงาน"
26ก.ค.เปิดติวเข้มเยาวชนไทย
สำหรับโปรแกรมในวันที่ 26 ก.ค. ของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ ในเมืองไทยนั้นช่วงเช้าเวลา 10.00 น. จะเดินทางไปสอนทักษะลูกหนังขั้นพื้นฐานกับเยาวชนไทยที่สนามราชมังคลาฯ พร้อมกันนั้นจะร่วมติวเข้มทีมเยาวชน 19 ปีของไทยด้วย ก่อนที่ช่วงเย็นจะพักผ่อน
http://www.siamsport.co.th/25510725-083.html
จากคุณ :
yut
- [
26 ก.ค. 51 13:04:47
]
|
|
|