ความคิดเห็นที่ 4
ดอนคาสเตอร์ 1-0 นิวคาสเซิล สนาม : คีพโมท สเตเดียม ประตู : 1-0 สจ๊วร์ต เอลเลียต น.87 นิวคาสเซิลมาเจ๊งชัยในช่วงท้ายเกมเมื่อโดนทีเด็ดของดอนคาสเตอร์เชือดจนพ่ายไป 0-1 เกมนี้เควิน คีแกนลองส่งผู้เล่นหน้าใหม่อย่างเซบาสเตียน เบสซองลงมาประเดิมสนามเป็นเกมแรก ในขณะที่เฌเรมี่ ไนจ์แทปรับบทบาทเป็นกัปตันทีมแทนไมเคิล โอเว่น ที่ยังไม่ตามมาเข้าแคมป์กับเพื่อนร่วมทีม ในขณะที่โจนาส กูเตียร์เรียซ ดาวเตะสไปเดอร์แมนก็ยังไม่มีชื่อเช่นกัน นัดนี้ แฟนๆของดอนคาสเตอร์ทำป้ายยกย่องเควิน คีแกนด้วย สาเหตุเพราะคีแกนนั้นเกิดที่ดอนคาสเตอร์ และเป็นฮีโร่ของคนท้องถิ่น ตัดไปสู่รูปเกม ซึ่งนิวคาสเซิลดีกว่าตามฟอร์ม นาทีที่ 16 เฌเรมี่ได้โอกาสปั่นฟรีคิกจากระยะ 25 หลา และก็ยิงได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ริชี่ เวลเลนส์สกัดจากเส้นได้แบบฉิวเฉียดที่สุด ดอน คาสเตอร์ที่ปีนี้จะได้เลื่อนชั้นมาเล่นในแชมเปี้ยนชิพ นับว่าทำเกมวูบวาบใช้ได้ นาทีที่ 28 แกเร็ธ เทย์เลอร์ กระชากบอลหลุดไปดวลตัวต่อตัวกับฮาร์เปอร์แต่ดันยิงหลุดกรอบไปอย่างน่า เสียดาย อีกไม่กี่นาทีต่อจากนั้นดอนคาสเตอร์ได้เสียวอีก จากจังหวะที่เจมส์ คอปปิงเกอร์ แทงเร็วให้ลูอิส กาย ซัดเน้นๆ แต่ก็ชนเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกไป แต่ก่อนหมดครึ่งแรกเล็กน้อย แดนนี่ กัธรี่ ได้ยิงบ้างเมื่อเลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนยิงเต็มข้อกะให้เสียบเสาไกล แต่ซุลลิแวนทะยานปัดออกหลังไปได้เยี่ยม เข้าสู่ครึ่งหลังชาร์ล เอ็นซ็อกเบียทำเกมทางฝั่งซ้ายได้สวย ก่อนลักไก่ยิงไกลทันที แต่เบน สมิธที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ปัดออกไปได้อีก ช่วงนาทีที่ 66-70 นิวคาสเซิลได้ยิงติดๆกันสามครั้ง จากเฌเรมี่,เอ็นซ็อกเบีย และอเมโอบี้ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่ยิงตรงกรอบเลย หลุดข้างไปหมด เกมด้านข้างของทีมแม็กไพส์ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แบ็กซ้ายขวา ทั้งเบสซอง และเอ็นริเก้ เติมเกมได้อย่างดุดันน่ากลัว แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม ที่ยังคงไม่เฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย และแล้วเกมที่ทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ กลับปิดฉากลงด้วยชัยชนะอันน่าเซอร์ไพรส์ของเจ้าถิ่น เมื่อสจ๊วร์ต เอลเลียตต์ ดาวเตะทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเป็นฮีโร่ของทีม จากจังหวะที่ปรี่เข้ายิงจากลูกขลุกขลิกตุงตาข่ายไปแบบเต็มๆข้อ สุดท้ายจึงเป็นดอนคาสเตอร์ ที่ชนะนิวคาสเซิลไป 1-0 ทั้งๆที่รูปเกมนั้นทีมแม็กไพส์ดีกว่าเยอะเลยทีเดียว รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ดอนคาสเตอร์ : นีล ซุลลิแวน(เบน สมิธ น.46),ร็อบบี้ ฮอลล์,แกเร็ธ โรเบิร์ตส์(เครก เนลธอร์ป น.67),เจมส์ คอปปิงเกอร์,ริชี่ เวลเลนส์(เวด แฟร์เฮิร์สต์ น.67),เจมส์ เฮเตอร์,มาร์ตินส์ วูดส์,แกเร็ธ เทย์เลอร์(สจ๊วร์ต เอลเลียต น.46),ลูอิส กาย,พอล เฮฟเฟอร์นัน,จอห์น สไปเซอร์ นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์(ทิม ครูล น.57),สตีเว่น เทย์เลอร์,เคลาดิโอ กาซาป้า(ดาวิด เอ็ดการ์ น.64),เซบาสเตียน เบสซอง,โจเซ่ เอ็นริเก้,แดเมียน ดัฟฟ์,แดนนี่ กัธรี่,เฌเรมี่(เบน โทเซอร์ น.78),ชาร์ล เอ็นซ็อกเบีย,โชล่า อเมโอบี้,อลัน สมิธ ผู้ตัดสิน : ร็อบ โชบริดจ์ (เดอร์บี้เชียร์) อิปสวิช 2-1 เวสต์บรอมวิช สนาม : ปอร์ทแมน โร้ด ประตู : 0-1 อิสมาเอล มิลเลอร์ น.40,1-1 ทอมมี่ มิลเลอร์ น.43 (จุดโทษ),2-1 เควิน ลิสบี้ น.90 เควิน ลิสบี้ ลงมาเป็นทีเด็ด ยิงประตูชัยในนาทีสุดท้าย ช่วยให้ "ม้าขาว"อิปสวิช เปิดบ้านเฉือนชนะ "เดอะ แบ๊กกี้ส์"เวสต์บรอมวิช น้องใหม่หน้าเก่าพรีเมียร์ชิพ ไป 2-1 ทั้งๆ ที่เกมนี้ทีมเยือนเป็นฝ่ายนำก่อน และมีโอกาสมากกว่า จิม มาจิลตัน นายใหญ่ อิปสวิช เกมนี้ส่ง ริชาร์ด ไรท์ ลงเฝ้าเสา และถือเป็นการคัมแบ๊กกลับสู่รัง ปอร์ทแมน โร้ด เป็นครั้งแรก หลังย้ายไปอยู่กับ อาร์เซนอล ตั้งแต่ปี 2001 ในแนวรุกใช้ ปาโบล คูนาโก้ ซึ่งจับคู่ตลอดซีซั่นที่ผ่านมากับ อลัน ลี เป็นตัวยืน ทางฝั่ง เวสต์บรอมวิช โทนี่ โมว์เบรย์ มาในระบบ 4-5-1 โดยใช้ มาเร็ค เช็ก นักเตะหน้าใหม่ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง และทิ้ง อิสมาเอล มิลเลอร์ ยืนค้ำ ส่วน สกอตต์ คาร์สัน มือกาวที่เพิ่งได้มาจาก ลิเวอร์พูล เปิดทางให้ ดีน ไคลี่ รุ่นพี่ได้ลงบรรเลงก่อน เริ่มมาเจ้าบ้าน ทำเกมได้ดีกว่า และก็เกือบได้ประตูขึ้นนำ แต่ลูกโขกระยะ 10 หลาของ อลัน ลี ยังไม่เข้าเป้า แต่หลังจากนั้น ทีมเยือน ก็เริ่มหาจังหวะโต้กลับบ้าง ริชาร์ด ไรท์ ต้องมาออกแรงเซฟจากเท้า ลูกที่ อิสมาเอล มิลเลอร์ จะส่งเข้าประตูจากจังหวะที่ คริส บรันท์ กับ กรีนนิ่ง ทำทางมาให้ ยังไม่ถึง 10 นาที มือกาว อิปสวิช ต้องมาออกแรงป้องกันอีกครั้ง หลังจาก โด ฮอน ไปขโมยบอลมาจาก แกเร็ธ แม็คอูลีย์ ก่อนผ่านไปให้ มิลเลอร์ ที่ไร้ตัวประกบ แต่อดีตหอก แมนฯ ซิตี้ ถอยย้อยมาซัดไปติดบล็อก ริชาร์ด ไรท์ ซึ่งป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่าน 20 นาทีเกมเป็นของ เจ้าถิ่นบ้าน และ ปาโบล คูนาโก้ กับ แดนนี่ เฮยเนส ต่างมีโอกาสคนละครั้งแต่ก็นัดกันซัดหลุดกรอบ อีก 5 นาทีถัดมา อิสมาเอล มิลเลอร์ ที่วันนี้โอกาสมากมาย แต่ก็ยิงหลุดกรอบไปแบบไม่น่าให้อภัย จากนั้น เจมส์ มอร์ริสัน น่าจะทำให้ เวสต์บรอมวิช ออกนำ เมื่อหลุดไปดวลเดี่ยวกับ ริชาร์ด ไรท์ แต่อดีตนายประตูทีมชาติอังกฤษ ยังออกมาไวบล็อกไว้ได้ นาที 33 พอล โรบินสัน แบ๊กซ้ายร่างใหญ่ มาเซฟไม่ให้ ผู้มาเยือนต้องตามหลัง เมื่อปิดโอกาสของ อลัน ลี ในระยะ 12 หลา กลายเป็น เวสต์บรอมวิช ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 40 คราวนี้ อิสมาเอล มิลเลอร์ ไม่พลาด เมื่อเข้าชาร์จในจังหวะที่ เจมส์ มอร์ริสัน กึ่งยิงกึ่งผ่านระยะ 20 หลา เข้าไปตุงตาข่าย ก่อนหมดเวลา 2 นาที อิปสวิช ตามตีเสมอได้อย่างทันควัน เมื่อ โจนาธาน กรีนนิ่ง กัปตันทีม "แบ๊กกี้ส์"ไปทำแฮนด์บอลในกรอบ และ ไมค์ ธอร์ป ชี้ให้เป็นจุดโทษ ทอมมี่ มิลเลอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด จบครึ่งแรกเกมเท่ากัน 1-1 ลงมาในครึ่งหลังเพียง 2 นาที "ม้าขาว"น่าจะพลิกขึ้นนำ แต่ ปาโบล คูนาโก้ ได้กดระยะ 15 หลา หลุดกรอบไปนิดเดียว นาที 51 เป็นทีของ อิปสวิช บ้างเมื่อ เจมส์ บรันท์ ได้ยิงฟรีคิก แต่อดีตกองกลางเชฟฯ เว้นส์เดย์ กลับปั่นข้ามคาน ผ่านหนึ่งชั่วโมง เวสต์บรอมวิช แม้จะครองเกมได้มากกว่าเหมือนในครึ่งแรก แต่ก็ยังไม่ดีพอในจังหวะสุดท้าย รวมทั้ง ริชาร์ด ไรท์ ก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นาที 75 สกอตต์ คาร์สัน เพิ่งได้ออกแรงเซฟแบบเน้นๆ และก็ทำได้ดี ปัดป้องลูกที่ คูนาโก้ ส่งจากเท้าระยะ 12 หลาเอาไว้ได้ เกมทำท่าว่าจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วนาทีสุดท้าย เควิน ลิสบี้ ที่เพิ่งย้ายมาจาก โคลเชสเตอร์ ก็กลายเป็นซูเปอร์ซับ เอี้ยวตัวหนี คาร์ล โฮฟเก้นส์ และตะบันระยะ 15 หลา เข้าไป จบเกม อิปสวิช ชนะไปหวุดหวิด 2-1 รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม อิปสวิช (4-4-2) : ริชาร์ด ไรท์,เดวิด ไรท์ (อเล็กซ์ บรู๊ซ น.77),แกเร็ธ แม็คอูลี่ย์,ทอมมี่ สมิธ,พิม บัลเคสตีน (แดน ฮาร์ดิ้ง น.68),แดนนี่ เฮยเนส (ไจเม่ ปีเตอร์ส น.77),เวลิซ ซูมูลิโคสกี้,ทอมมี่ มิลเลอร์ (เควิน ลิสบี้ น.64),อลัน ควินน์ (เลียม ทร็อตเตอร์ น.74),ปาโบล คูนาโก้ (ดีน โบว์ดิตช์),อลัน ลี (โอเว่น กราแวน น.64) เวสต์บรอมวิช (4-5-1): ดีน ไคลี่ (สกอตต์ คาร์สัน น.46),คาร์ล โฮฟเก้นส์,ลีออน บาร์เน็ตต์,นีล คลีเมนซ์,พอล โรบินสัน,เจมส์ มอร์ริสัน,คิม โด ฮอน (โรมัน เบดนาร์ น.77),โจนาธาน กรีนนิ่ง,มาเร็ค เช็ก (เชอร์ยิล แม็คโดนัลด์ น.61),คริส บรันท์ (เดวิด วอร์รอลล์ น.68),อิสมาเอล มิลเลอร์ (ลุค มัวร์ น.46) ผู้ตัดสิน : ไมค์ ธอร์ป ครูว์ 4-0 ฮัลล์ สนาม : เดอะ อเล็กซานดร้า สเตเดี้ยม ประตู : 1-0 คัลวิน โซล่า น.2,2-0 คัลวิน โซล่า น.5,3-0 นิกกี้ เมย์นาร์ด น.40 (จุดโทษ), 4-0 คัลวิน โซล่า น.42 (จุดโทษ) "ตราเสือดาว"ฮัลล์ น้องใหม่ในพรีเมียร์ชิพ พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในโปรแกรมอุ่นเครื่อง หลังบุกไปโดน ครูว์ ถล่มไปแบบหมดรูป 4-0 ซึ่งเกมนี้ คัลวิน โซล่า หัวหอกเจ้าถิ่นสลักชื่อกดแฮตทริกตั้งแต่ครึ่งแรกไปด้วย ดาริโอ กราดี้ กุนซือครูว์ ที่คุมทีมยาวนานที่สุดบนเกาะอังกฤษ เกมนี้ส่ง เจมส์ ไบลี่ย์ ลงทำหน้าที่ในแดนกลาง ส่วนคู่หน้าใช้งาน คัลวิน โซล่า และ โจเอล แกรนท์ ทางฝั่ง ฟิล บราวน์ ส่ง 11 คนแรก โดยใช้งานนักเตะที่ขึ้นชั้นจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นหลัก โดยมี ,แบร์กนาร์ด แมนดี้ ปีเตอร์ ฮัลโมซี่ และ จอร์จ บัวเต็ง 3 ตัวใหม่สอดแทรก ขณะที่ โจวานนี่ นั่งดูเพื่อนก่อนเท่านั้น เปิดเกมมาได้แค่ 2 นาทีแฟนๆ เจ้าถิ่นก็มาได้เฮ เมื่อทีมของตัวเองขยับนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากความผิดพลาดของ แบร์กนาร์ด แมนดี้ ที่เสียบอล และปล่อยให้ คัลวิน โซล่า สังหารไม่เหลือ ทีมเยือนจากพรีเมียร์ชิพ ถือว่าออกสตาร์ตได้อย่างแย่ทีเดียว อีก 3 นาทีต่อมา ก็ปล่อยให้ ครูว์ หนีไปเป็น 2-0 จากผลงานของ คัลวิน โซล่า คนเดิมที่ได้บอลจากระยะ 25 หลา ก่อนจะกดผ่านมือ โบซ์ มายฮิลล์ เข้าไป นาที 15 ฮัลล์ น่าจะได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ นิก บาร์มบี้ ไปถูก ฌูเลียง บูเด็ต เกี่ยวล้มลงในกรอบ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ แต่ แบร์กนาร์ด แมนดี้ กลับยิงไปถูก สตีฟ โคลซิส เซฟเอาไว้ได้ เกมผ่านมาถึงนาที 26 นาธาน ดอยล์ ครอสส์บอลมาให้ ซาเล็บ โฟลัน ได้โขกแต่ลูกหลุดมุมกว้างออกไป ทีมเยือนยังไม่สามารถกลับมาได้ อีกไม่กี่นาทีให้หลัง เอียน แอชบี้ มาพลาดปล่อยให้ นิกกี้ เมย์นาร์ด ขโมยบอลไปได้ แต่จังหวะยิงนั้นข้ามตัว โบซ มายฮิลล์ ยังไม่เป็นประตูเพิ่ม นาที 40 ครูว์ หนีไปเป็น 3-0 แบร์กนาร์ด แมนดี้ ที่วันนี้ผิดพลาดอย่างมาก ไปทำฟาวล์ อูเก้น บ้อบบ์ ล้มลงในกรอบเป็นจุดโทษ และ นิกกี้ เมย์นาร์ด รับหน้าที่เพชรฆาตไม่พลาด ก่อนเข้าไปพัก 3 นาที คัลวิน โซล่า มาทำแฮตทริกให้ตัวเอง ด้วยการสังหารจุดโทษบ้าง และเป็น แบร์กนาร์ด แมนดี้ ที่ผิดพลาดอีกหน ประกบ เมย์นาร์ด ไม่อยู่ จำเป็นต้องดึงล้มลง หมดครึ่งแรก ครูว์ นำแบบหายห่วง 4-0 กลับมาในครึ่งหลัง ฟิล บราวน์ เป็นทีมทั้ง 11 คน ขณะที่ทีมจาก ลีก วัน ปรับแค่จุดเดียว โดยถอดแฮตทริก ฮีโร่ คัลวิน โซล่า ไปนั่งดู นาที 51 ฮัลล์ ยังตีไข่แตกไม่ได้ เมื่อ สตีฟ โคลิส ยังไม่พลาด เซฟลูกยิงของ ดีน วินดาสส์ อย่างไร้ปัญหา ถัดมาอีก 10 นาที ทีมเยือนทิ้งโอกาสไปอีกครั้งแม้ โจวานนี่ จะโชว์ทักษะได้อย่างร้ายเหลือได้จังหวะสุดท้ายกลับพลาดไป ช่วงท้ายเกมแม้ ฮัลล์ จะพยามลุยอย่างหนัก แต่ทั้ง ไมเคิล เทอร์เนอร์ และ เคร็ก ฟาแกน ไม่สามารถช่วยให้ทีมได้ประตูปลอบใจกลับไปได้ จบ 90 นาที ครูว์ ถล่มไปยับเยิน 4-0 รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม ครูว์ : สตีฟ โคลิส,แดนนี่ วูดาร์ดส์ (จอร์จ แอ็บบี้ น.68) ,บิลลี่ โจนส์,คริส แม็คครีดี้,ฌูเลียง บูเด็ต (ดาเนี่ยล โอดอนเนลล์ น.68),เจมส์ ไบลี่ย์ (เบน ริกซ์ น.68),อูเกน บ็อบบ์ (ไบรอน มัวร์ น.61),ไมเคิล โอคอนเนอร์ (มาร์ค คาร์ริงตัน น.77),นิกกี้ เมย์นาร์ด,คัลวิน โซล่า (เอ็ดดี้ จอห์นสัน น.45),โจเอล แกรนท์ (คริส คลีเมนท์ส น.68) ฮัลล์ ครึ่งแรก :โบซ์ มายฮิลล์,นาธาน ดอยล์,เอียน แอชบี้,เวย์น บราวน์,ริชาร์ด การ์เซีย,แบร์กนาร์ด แมนดี้,ปีเตอร์ ฮัลโมซี่,ซาเล็บ โฟลัน,จอร์จ บัวเต็ง,เลียม คูเปอร์,นิก บาร์มบี้ ครึ่งหลัง : แม็ตต์ ดุ๊ก,ไรอัน ฟรานซ์,แม็ตต์ พลัมเมอร์,ไมเคิล เทอร์เนอร์,แซม ริกเก็ตต์ส,เคร็ก ฟาแกน,ดีน มาร์นี่ย์,ไบรอัน ฮิวจ์ส,นิกกี้ ฟีเธอร์สโตน,โจวานนี่,ดีน วินดาสส์
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ
จากคุณ :
yut
- [
27 ก.ค. 51 13:34:58
]
|
|
|