ความคิดเห็นที่ 1 Calcio Mercato ความเปลี่ยนแปลงในทีมหมาป่า หลังจากยุคเศรษฐกิจฟองสบู่แตกในอิตาลี อย่างที่เราทราบกันดีว่า โรม่า เป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับผลกระทบไปค่อนข้างมากพอสมควร จากในอดีต 4-5 ปีก่อน ทีมหมาป่าสามารถทุ่มเงินปีละ 60-70 ล้านยูโรได้สบายๆ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะได้แพงระยับ แต่มาปัจจุบันในยุคของกุนซือ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ งบประมาณในการซื้อลดลง การใช้จ่ายทุกอย่างต้องมาพร้อมกับความคุ้มค่าในระยะยาว ดำเนินธุรกิจแบบไม่เสี่ยงเสียรายได้ มีระบบเพดานเงินเดือน ดังนั้นเราจึงได้เห็นนักเตะอย่าง อันโตนิโอ คาสซาโน่, คริสเตียน คิวู และล่าสุด มานซินี่ อำลาไปแบบที่ทีมไม่มีทางเลือก แม้ว่าทีมใหม่จะเป็นทีมคู่แข่งแย่ง สคูเด็ตโต้ กันโดยตรงเลยก็ตาม นี่แหล่ะครับปัญหาจากเรื่องเงินๆทองๆล้วนๆ สำหรับปีนี้แม้จะเสีย มานซินี่ ไป แต่ สปัลเล็ตติ ก็ดึงนักเตะใหม่มาเสริมหลายคนเช่นกัน เอาล่ะ ไปดูภาพรวมของทีมชุดใหญ่ก่อนเลย แล้วค่อยไปลงลึกถึงรายละเอียดย่อยๆครับ ผู้รักษาประตู เริ่มจากการปล่อยตัว จานลูก้า คูร์ชี่ นายทวารมือสองของทีมให้ เซียน่า เซ็นสัญญาร่วมดึงไปใช้งาน ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ตำแหน่งมือสองของทีมจะเปลี่ยนมือ ส่วนคนที่จะก้าวมาเสริมมือ 1 อย่าง โดนี่ แทน คูร์ชี่ ก็คือ อาร์เธอร์ นายทวารเลือดแซมบ้า ที่เฝ้าเสาให้ทีมมาตลอดในช่วงพรีซีซั่นนั่นเอง น่าจะเป็นตัวเลือกที่มาก่อน ชูลิโอ แซร์โจ้ ครับ ส่วนตำแหน่งมือ 4 ก็คือ ปิเอโตร ปิโปโล่ นายทวารมือ 1 ทีมเยาวชน ปีนี้กลับมามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่อีกครั้ง ปีนี้แซมบ้ามา 3 เลยครับ ก็ไม่รู้ติดใจอะไรหนักหนา ทั้งๆที่จริงผมว่าควรให้โอกาสประตูอิตาเลียนมากกว่านะ ตำแหน่งนี้โดยรวมแล้วขอแค่ โดนี่ ไม่เจ็บ ก็สบายใจไปได้ทั้งฤดูกาลครับ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กองหลัง ปีนี้ผมถือว่า โรม่า แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยครับ ที่เสียไปมี มัตเตโอ แฟร์รารี่ ที่หมดสัญญาและย้ายไปอยู่กับ เจนัว แต่รายนั้นก็เป็นตัวสำรองอยู่แล้ว ที่ได้มาแทนคือ ซิโมเน่ ลอเรีย กองหลังจาก เซียน่า ที่เล่นได้ดีทั้งเกมรุกและรับ แถมมีทีเด็ดตรงที่ขึ้นมาช่วยทำประตูได้บ่อยครั้ง จะมาคอยสแตนด์บาย คู่กองหลังตัวจริงอย่าง ฮวน และ เม็กแซส ขณะที่วิงแบ็กฝั่งซ้าย มีการเสริม ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เข้ามากดดัน โตเน็ตโต้ เจ้าของตำแหน่งเดิมที่เริ่มอายุมากขึ้น ย่าง 33-34 ปีแล้ว แต่แบ็กขวามีตัวเลือกเยอะทั้ง ปานุชชี่, คาสเซ็ตติ และ ซิซินโญ่ เลยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติม ผมคิดว่า รีเซ่ กับ คาสเซ็ตติ อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ โดยที่ โตเน็ตโต้ เองจะได้ขยับขึ้นมาเล่นสูงบ่อยขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพความฟิตด้วย สรุปคือโดยรวมไม่ด้อยไปกว่าเดิม ดูแกร่งขึ้นครับ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กองกลาง เป็นตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดเลย เริ่มจากการปล่อยตัว 3 นักเตะริมเส้นอย่าง อเลสซานโดร มานซินี่, ลูโดวิช ชูลี่ และ เมาโร เอสโปซิโต้ ออกจากทีมไป สองรายหลังนั้นเสียไปไม่กระทบอะไรมาก เพราะปกติเป็นตัวสำรองอยู่แล้ว แต่รายแรกนั้นเคยเป็นตัวจริงให้ทีมมานานหลายปี แม้ฟอร์มช่วงหลังๆจะผีเข้าผีออกก็ตาม ขาดเขาไปถือว่าสำคัญครับ ตัวแทนที่ สปัลเล็ตติ ได้มาแบบสดๆร้อนๆคือ เฌเรมี่ เมเนซ ดาวรุ่งอนาคตไกลจาก โมนาโก สามารถสวมบทปีกซ้ายแทนได้ทันที หรือไม่ก็ถอยเอา วูชินิช หรือดัน โตเน็ตโต้ ขึ้นมาเล่นแทนก็ยังได้ ส่วนปีกขวามี ตาดเด เป็นตัวจริงอยู่แล้ว หรืออาจดัน คาสเซ็ตติ หรือ ซิซินโญ่ ขึ้นมาทดแทนได้เช่นกัน ส่วนมิดฟิลด์ตรงกลางในส่วนของตัวรับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หัวใจสำคัญมี เด รอสซี่ ส่วนคู่ขาด้านข้างจะมี อากวิลานี่ กับ ปิซาร์โร่ สลับกันลงเล่น โดยมี มัตเตโอ บริกี้ คอยเป็นตัวสอดแทรก ขณะที่มิดฟิลด์ตัวรุก การซื้อ ชูลิโอ บาปติสต้า เข้ามา ทำให้ทีมมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น เสริมจากเดิมที่มี แปร์ร็อตต้า เป็นตัวหลัก หรือจะดันเอา อากวิลานี่ ขึ้นมาเล่นก็ยังได้ ตามตำแหน่งของ บาปติสต้า ที่ระบุใน โรม่า เป็นกองหน้าก็จริง แต่ผมเชื่อว่าเขาน่าจะได้ลงกองกลางเป็นส่วนใหญ่ เพราะเล่นได้ทั้งตรงกลางและริมเส้น น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆของ สปัลเล็ตติ เลยด้วย โดยรวมแดนกลางดูพอๆกับปีก่อน แม้จะเสียปีกไป 2-3 คน แต่นักเตะที่เหลือก็เล่นได้หลายตำแหน่ง แทนกันได้ อาจใช้คำว่าโรเตชั่น มากกว่าชี้ชัดว่าใครเป็นตัวจริง หรือตัวสำรอง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กองหน้า ในระบบ 4-2-3-1 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าก็คือ ต๊อตติ เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา โดยมี วูชินิช เป็นตัวตายตัวแทน ขณะที่ตัวเสริมรองลงมา สปัลเล็ตติ เรียกตัวทั้ง วินเชนโซ่ มอนเตลล่า และ สเตฟาโน่ โอกาก้า กลับมาจากยืมตัว อีกทั้งนักเตะใหม่อย่าง บาปติสต้า หรือ เมเนซ เองก็ลงมายืนเป็นกองหน้าได้หมด ผมถือว่าเหลือเฟือเลยกับระบบศูนย์หน้าคนเดียว ถ้าใช้ 2 คน ก็ยังมีตัวทดแทนที่เพียงพอ ข้อดีของกองหน้า โรม่า คือทุกคนสามารถเล่นถอยลงต่ำได้หมด ต๊อตติ ลงมาปั้นเกมได้ ส่วนคนอื่นๆก็เล่นริมเส้นได้เช่นกัน หาก ต๊อตติ ฟิตสมบูรณ์ ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากฤดูกาลที่แล้ว แค่ตัวสำรองขยับเล็กน้อย คนที่ถูกปล่อยตัวออกไปก็มีแต่พวกตัวเยาวชนเท่านั้น จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สรุปการซื้อขายนักเตะทั้งหมดของ โรม่า ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2008/09 นักเตะที่ย้ายเข้ามาร่วมทีม (พร้อมใช้งาน) 1. ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 5 ล้านยูโร 2. ซิโมเน่ ลอเรีย (เซียน่า) 3. อาร์เธอร์ มอเรส (เซียน่า) 4. ชูลิโอ บาปติสต้า (เรอัล มาดริด-สเปน) 9 ล้านยูโร 5. เฌเรมี่ เมเนซ (โมนาโก-ฝรั่งเศส) 10.5 ล้านยูโร นักเตะที่กลับมาจากการยืมตัว (พร้อมใช้งาน) 1. สเตฟาโน่ โอกาก้า ชูก้า (โมเดน่า) 2. วาเลริโอ วีร์ก้า (กรอสเซโต้) 3. วินเชนโซ่ มอนเตลล่า (ซามพ์โดเรีย) นักเตะที่ทีมซื้อสัญญาขาดแบบถาวร (พร้อมใช้งาน) 1. เมียร์โก วูชินิช (เลชเช่) จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นักเตะที่ย้ายออก หรือขายสัญญาออกจากทีม 1. จานลูก้า คูร์ชี่ (เซียน่า) (ขายสัญญาร่วม) 2. ดาเนียเล่ กัลลอปปา (เซียน่า) (ขายขาดสัญญาร่วมที่เหลือ) 3. ดาเนียเล่ มายอคเค็ตติ (กายารี่) (ขายสัญญาร่วม) 4. มัตเตโอ แฟร์รารี่ (เจนัว) (หมดสัญญา-ฟรีเอเยนต์) 5. จานลูก้า เฟรดดี้ (กรอสเซโต้) (ขายขาดสัญญาร่วมที่เหลือ) 6. อเลสซานโดร อมานติโน่ มานซินี่ (อินเตอร์) 13 ล้านยูโร 7. ลูโดวิช ชูลี่ (ปารีส แซงต์แชร์กแมง-ฝรั่งเศส) 2.5 ล้านยูโร 8. ซิโมเน่ ปาแลร์โม่ (เตรวิโซ่) (ขายสัญญาร่วม) นักเตะที่ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว 1. อเลสซิโอ แชร์ชี่ (อตาลันต้า) 2. อาห์เหม็ด บารุสโซ่ (เซียน่า) 3. อเลอันโดร โรซี่ (ลิวอร์โน่) 4. วิโตริโน่ อันตูเนส (เลชเช่) 5. อาเดรียน พิต (ปิซ่า) 6. เลอันโดร เกรโก้ (ปิซ่า) 7. เคลาดิโอ เดลลา เปนนา (ปิสโตเยเซ่) 8. มาร์โก อันเดรโอลลี่ (ซัสซูโอโล่) 9. เมาโร เอสโปซิโต้ (คิเอโว่) 10. เอ็ดการ์ อัลบาเรซ (ปิซ่า) จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จัดทัพหมาป่า 11 คนแรก ที่คาดว่าจะใช้ในฤดูกาล 2008/09 โรม่า (4-2-3-1) .....................................ต๊อตติ...................................... วูชินิช...........................บาปติสต้า...........................ตาดเด ................อากวิลานี่.......................เด รอสซี่.................... รีเซ่...................ฮวน...................เม็กแซส...........คาสเซ็ตติ ......................................โดนี่....................................... ตัวสำรอง 7 คน : อาร์เธอร์, ปานุชชี่, โตเน็ตโต้, ปิซาร์โร่, แปร์ร็อตต้า, เมเนซ, โอกาก้า โรม่า ชุดบี (4-2-3-1) ...................................โอกาก้า.................................... เมเนซ.........................แปร์ร็อตต้า...........................วีร์ก้า ..................ปิซาร์โร่........................บริกี้........................ โตเน็ตโต้............ปานุชชี่..............ลอเรีย...............ซิซินโญ่ ...................................อาร์เธอร์.................................... หมายเหตุ : ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของผมเท่านั้นครับ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำนักเตะหมาป่ารายตัว ประจำฤดูกาล 2008/09 ในส่วนของข้อมูลนักฟุตบอล จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว ประวัติการค้าแข้ง สถิติการลงสนาม สถิติติดทีมชาติ รวมไปถึงเกียรติยศที่เคยได้รับกับสโมสร หรือทีมชาติ และเกียรติยศส่วนบุคคล โดยมีบทบรรยายเกี่ยวกับนักเตะแต่ละคนให้แฟนๆได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นครับ รายชื่อนักเตะ โรม่า พร้อมเบอร์เสื้อ สำหรับฤดูกาล 2008/09 (ตำแหน่งจากเว็บไซต์ asroma.it) ผู้รักษาประตู 12   ปิเอโตร ปิโปโล่ 25  อาร์เธอร์ มอเรส (บราซิล) 27  ชูลิโอ แซร์โจ้ (บราซิล) 32  อเล็กซานเดอร์ โดนี่ (บราซิล) กองหลัง 2   คริสเตียน ปานุชชี่ 3   ซิเซโร่ ซิซินโญ่ (บราซิล) 4   ฮวน ซิลเวร่า โดส ซานโตส (บราซิล) 5   ฟิลิปป์ เม็กแซส (ฝรั่งเศส) 15  ซิโมเน่ ลอเรีย 17 ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (นอร์เวย์) 22  มักซ์ โตเน็ตโต้ 77  มาร์โก คาสเซ็ตติ กองกลาง 7   ดาวิด ปิซาร์โร่ (ชิลี) 8   อัลแบร์โต้ อากวิลานี่ 11  โรดริโก้ ตาดเด (บราซิล) 16  ดาเนียเล่ เด รอสซี่ 20  ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า 33  มัตเตโอ บริกี้ 34  วาเลริโอ วีร์ก้า กองหน้า 9   เมียร์โก วูชินิช (มอนเตเนโกร) 10  ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ 19  ชูลิโอ บาปติสต้า (บราซิล) 23  วินเชนโซ่ มอนเตลล่า 24  เฌเรมี่ เมเนซ (ฝรั่งเศส) 89  สเตฟาโน่ โอกาก้า ชูก้า เทรนเนอร์ : ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 32   อเล็กซานเดอร์ โดนี่ (Donieber “DONI” Alexander Marangon) สถานที่เกิด : ชุนดิไอ (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 22 ต.ค. 1979 (อายุ 29 ปี) ส่วนสูง : 194 ซม. น้ำหนัก : 91 กก. สัญชาติ : บราซิล (พาสปอร์ตอิตาเลียน) ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : โรม่า 1-1 ลาซิโอ (23 ต.ค. 2005) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 97 นัด เสีย 87 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โครินเธียนส์ (บราซิล), ซานโตส (บราซิล), ครูไซโร่ (บราซิล), ชูเวนตูเด้ (บราซิล) ทีมชาติ : บราซิล ลงเล่น 11 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์โคปา อเมริกา (บราซิล) 2007 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์ริโอ-เซา เปาโล ทัวร์นาเมนต์ (โครินเธียนส์-บราซิล) 2002 แชมป์ศึกชิงแชมป์รัฐเซา เปาโล (โครินเธียนส์-บราซิล) 2003 แชมป์โคปา โด บราซิเลีย (โครินเธียนส์-บราซิล) 2002 ข้อมูลเบื้องต้น : โดนี่ เป็นนายทวารร่างยักษ์จากบราซิล ที่ย้ายมาร่วมทีม โรม่า ในช่วงวันสุดท้ายของการปิดตลาดเมื่อต้นฤดูกาล 2005/06 ด้วยสัญญาระยะสั้นเพียงปีเดียว ซึ่งในตอนนั้นตำแหน่งมือ 1 ในทีมเป็นของ จานลูก้า คูร์ชี่ แต่เขาก็พยายามโชว์ฟอร์มให้ สปัลเล็ตติ เห็นถึงความสามารถ และประสบการณ์ที่มีมากกว่า คูร์ชี่ อย่างชัดเจน ทำให้ สปัลเล็ตติ ตัดสินใจเลื่อนให้ โดนี่ เป็นมือ 1 ในคัมปิโอนาโต้แทน โดยส่งเจ้าตัวลงสนามเกมแรกในนัดดาร์บี้แมตช์กับ ลาซิโอ ทันที และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยเสียตำแหน่งมือ 1 ในทีมหมาป่าให้ใครอีกเลย ยิ่งเล่นให้ทีมหมาป่าไปเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งพัฒนาฝีมือตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูชั้นนำของ เซเรีย อา ด้วยลีลาการป้องกันประตูที่เหนียวหนึบ ปฏิกิริยาว่องไวนี้เอง ทำให้เขาถูก ดุงก้า เทรนเนอร์ทีมชาติบราซิล เรียกตัวไปติดทีมชาติชุดลุย โคปา อเมริกา 2007 โดยได้เป็นมือ 1 ของทีม เขาเล่นได้ยอดเยี่ยม ช่วยเซฟลูกจุดโทษ 2 ครั้งในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ทีมจะคว้าแชมป์ได้ในที่สุด และเขาได้เป็นนายทวารยอดเยี่ยมของรายการนี้ด้วย ทุกวันนี้ โดนี่ ได้รับการยกย่องจากแฟนบอล โรม่า ให้เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีม ล่าสุดเขาเพิ่งได้รับการต่อสัญญาใหม่ออกไปถึงปี 2012 เลยทีเดียว จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 25   อาร์เธอร์ มอเรส  (ARTHUR Guilherme Moraes Gusmao) สถานที่เกิด : เลเม่ (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 25 ม.ค. 1981 (อายุ 27 ปี) ส่วนสูง : 192 ซม. น้ำหนัก : 90 กก. สัญชาติ : บราซิล ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ครูไซโร่ (บราซิล), คอริติบา (บราซิล), เซียน่า, เชเซน่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : แชมป์บราซิเลียโร่ เซเรีย อา (ครูไซโร่-บราซิล) 2003 แชมป์โคปา โด บราซิเลีย (ครูไซโร่-บราซิล) 2003 แชมป์ศึกชิงแชมป์รัฐไมนาส-เกเรส 2 สมัย (ครูไซโร่-บราซิล) 2003, 2004 ข้อมูลเบื้องต้น : อาร์เธอร์ นายทวารมือ 2 ของ โรม่า คนปัจจุบัน เริ่มเส้นทางนักเตะมาตั้งแต่ปี 2001 กับทีมเยาวชน ครูไซโร่ ก่อนจะเลื่อนชั้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ในปี 2003 และได้เป็นมือ 1 ของทีมด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น น้อยคนจะรู้ว่าเขาเคยอยู่ทีมเดียวกับ โดนี่ มาก่อน เพราะ โดนี่ ย้ายจาก ซานโตส มาที่ ครูไซโร่ ในปี 2004 แต่กลายเป็นว่าทั้งคู่ได้เจอกันไม่นานก็ต้องมีอันแยกย้ายออกไปคนละทิศละทาง เพราะไม่อาจเบียดแย่งตำแหน่งจาก ฟาบิโอ นายทวารหน้าใหม่อีกคนได้ โดนี่ เลือกย้ายไป ชูเวนตูเด้ ขณะที่ อาร์เธอร์ ถูกปล่อยตัวไปเล่นในระดับ เซเรีย บี ของบราซิล กับ คอริติบา ซึ่งเขาได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง หลังสิ้นสุดการยืมตัว อาร์เธอร์ กำลังจะหมดสัญญากับ ครูไซโร่ พอดี และเมื่อคิดว่ายังไงก็ชิงมือ 1 มาจาก ฟาบิโอ ลำบาก เจ้าตัวจึงตัดสินใจหาประสบการณ์ต่างแดนดีกว่า โดยย้ายมาอยู่กับ เซียน่า ในฤดูกาล 2007/08 เป็นมือ 2 ต่อจาก อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ เจ้าตัวได้ลงเล่น 4 นัด ก่อนจะถูกปล่อยให้ เชเซน่า ยืมตัวไปเล่นใน เซเรีย บี จนจบฤดูกาล ด้วยรูปร่าง และลีลาการป้องกันประตูที่คล้าย โดนี่ มาก และด้วยคำแนะนำจาก โดนี่ เองด้วย ทำให้ สปัลเล็ตติ เซ็นสัญญากับเขาเพื่อมาเป็นมือ 2 ของทีม จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 27   ชูลิโอ แซร์โจ้  (JULIO SERGIO Bertagnoli) สถานที่เกิด : ริเบเรา เปรโต้ (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 8 พ.ย. 1978 (อายุ 30 ปี) ส่วนสูง : 187 ซม. น้ำหนัก : 80 กก. สัญชาติ : บราซิล (พาสปอร์ตอิตาเลียน) ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2009 (ต่อแบบปีต่อปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โบตาโฟโก้ (บราซิล), อินเตอร์นาซิอองนาล เดอ เบเบเดาโร่ (บราซิล), แซร์เตาซินโญ่ (บราซิล), ฟรานซาน่า (บราซิล), มาลูเชลลี่ (บราซิล), โคแมร์เชี่ยล ริเบเรา เปรโต้ (บราซิล), ซานโตส (บราซิล), ชูเวนตูเด้ (บราซิล), อเมริกา (บราซิล) ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : แชมป์บราซิเลียโร่ เซเรีย อา 2 สมัย (ซานโตส-บราซิล) 2002, 2004 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : ชูลิโอ แซร์โจ้ ย้ายจากสโมสร อเมริกา ทีมในระดับเซเรีย ชี ของลีกบราซิล แบบไม่มีค่าตัว ในปี 2006 ก่อนหน้านี้เขาเคยพเนจรมาแล้วถึง 9 ทีมในลีกบ้านเกิด โดยลงเล่นมากที่สุดกับ ซานโตส เคยสัมผัสแชมป์ลีกของ บราซิล มาแล้ว จนกระทั่งชีพจรลงเท้ามา อิตาลี ปัจจุบันเป็นมือ 3 ของทีม โอกาสลงสนามค่อนข้างน้อยครับ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ โรม่า ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเลย แนวโน้มอาจจะเป็นตัวสำรอง หรือได้ลงสนามใน โคปปา อิตาเลีย เท่านั้น ซึ่งก็ต้องรอให้มือ 2 อย่าง อาร์เธอร์ ลงสนามไม่ได้ด้วย จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 12   ปิเอโตร ปิโปโล่  (Pietro PIPOLO) สถานที่เกิด : มาริโน่ (จังหวัดโรม, แคว้นลาซิโอ) วันเกิด : 27 ก.พ. 1986 (อายุ 22 ปี) ส่วนสูง : 186 ซม. น้ำหนัก : 85 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : ไม่เปิดเผย สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โปเตนซ่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : - ข้อมูลเบื้องต้น : ปิโปโล่ เป็นนายทวารดาวรุ่งที่น่าจับตามองในอนาคต เขาได้รับฉายาว่า “เปรุซซี่น้อย” จากรูปร่างและลีลาการป้องกันประตูที่คล้ายคลึงกับ อันเจโล่ เปรุซซี่ นั่นเอง เจ้าตัวเข้ามาร่วมทีมเยาวชนของ โรม่า ในปี 2004 ด้วยวัย 18 ปี ปัจจุบันเขาเป็นมือ 1 ในทีมเยาวชน เคยถูกปล่อยตัวให้ โปเตนซ่า ทีมใน เซเรีย ชี 1 ยืมตัวไปใช้งานเมื่อปีที่แล้ว โอกาสได้ลงเล่นน้อยมาก ต้องมารอลุ้นกันว่าจะได้มีชื่อในทีมชุดใหญ่นัดแรกตอนไหน จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 2   คริสเตียน ปานุชชี่  (Christian PANUCCI) สถานที่เกิด : ซาโวน่า (แคว้นลิกูเรีย) วันเกิด : 12 เม.ย. 1973 (อายุ 35 ปี) ส่วนสูง : 184 ซม. น้ำหนัก : 73 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : แบ็กขวา, เซนเตอร์ฮาล์ฟ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : นาโปลี 1-0 เจนัว (24 พ.ค. 1992) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 207 นัด ยิงได้ 17 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2009 (เหลืออีก 1 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : เจนัว, มิลาน, เรอัล มาดริด (สเปน), อินเตอร์, เชลซี (อังกฤษ), โมนาโก (ฝรั่งเศส) ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 57 นัด ยิงได้ 4 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์ UEFA Champions League 2 สมัย (มิลาน) 1993/94 (เรอัล มาดริด-สเปน) 1996/97 แชมป์สโมสรโลก (เรอัล มาดริด-สเปน) 1998 แชมป์ UEFA Super Cup (มิลาน) 1994 แชมป์สคูเด็ตโต้ (มิลาน) 1995/96 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 3 สมัย (มิลาน) 1993, 1994 (โรม่า) 2007 แชมป์ลา ลีก้า (เรอัล มาดริด-สเปน) 1996/97 แชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า (เรอัล มาดริด-สเปน) 1997 ข้อมูลเบื้องต้น : ปานุชชี่ คือนักเตะ โรม่า ที่มีเกียรติประวัติในระดับสโมสรมากเป็นลำดับต้นๆของทีม เขาเคยสัมผัสถ้วยแชมป์ยุโรปมาแล้วถึง 2 ครั้งกับ มิลาน และ เรอัล มาดริด และยังมีประสบการณ์ค้าแข้งในพรีเมียร์ชิพกับ เชลซี และ ลีกเอิง กับ โมนาโก มาแล้ว อดีตแบ็กขวาทีมชาติอิตาลีคนนี้ เข้ามาร่วมทีมหมาป่าตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2001/02 และได้กลายมาเป็นแกนหลักที่สำคัญของทีมตลอดมาจนถึงปัจจุบัน เขาเคยติดทีมชาติอิตาลี ไปร่วมทำศึกฟุตบอลโลก 2002 และฟุตบอลยูโร 2004 โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาตลอดทั้งสองรายการ ฟอร์มระดับสโมสรในช่วงปี 2004-2006 ไม่มีข้อสงสัยว่าเขาคือแบ็กขวาที่เก่งที่สุดของ อิตาลี น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์อันไม่ลงรอยกับ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ สมัยร่วมงานกันที่ อินเตอร์ ทำให้เขาไม่มีสิทธิ์ติดทีมชาติในฟุตบอลโลก 2006 ไปอย่างน่าเศร้า กระทั่ง ลิปปี้ อำลาทีมไป และถูกแทนด้วย โดนาโดนี่ อดีตเพื่อนเก่าสมัยเล่นด้วยกันที่ มิลาน เขาไม่ลังเลเลยที่จะเรียก ปานุชชี่ กลับสู่รั้วทีมชาติ ต่อมา ปานุชชี่ กลายเป็นฮีโร่โหม่งประตูชัยให้ทีมบุกไปชนะ สกอตแลนด์ จนได้ไปลุย ยูโร 2008 และได้เล่นเป็นตัวจริงในรอบสุดท้าย แถมยังทำประตูได้ในเกมกับ โรมาเนีย อีกด้วย ปัจจุบันเขาเป็นรองกัปตันทีม โรม่า แต่ด้วยอายุที่มากถึง 35 ปี ทำให้ ปานุชชี่ น่าจะออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นตัวสำรองไปก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็น่าจะยอมรับการตัดสินใจของ สปัลเล็ตติ โดยดี แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 51 16:04:35 จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 4   ฮวน ซิลเวร่า โดส ซานโตส  (JUAN Silveira dos Santos) สถานที่เกิด : ริโอ เดอ จาเนโร (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 1 ก.พ. 1979 (อายุ 29 ปี) ส่วนสูง : 182 ซม. น้ำหนัก : 74 กก. สัญชาติ : บราซิล ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : โรม่า 3-0 เซียน่า (2 ก.ย. 2007) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 22 นัด ยิงได้ 2 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2011 (เหลืออีก 3 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ฟลาเมงโก้ (บราซิล), เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี) ทีมชาติ : บราซิล ลงเล่น 68 นัด ยิงได้ 5 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์โคปา อเมริกา 2 สมัย (บราซิล) 2004, 2007 แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ (บราซิล) 2005 แชมป์โคปปา อิตาเลีย (โรม่า) 2007 แชมป์โคปา แมร์โคซูร์ (ฟลาเมงโก้-บราซิล) 1999 แชมป์ศึกชิงแชมป์รัฐริโอ 3 สมัย (ฟลาเมงโก้-บราซิล) 1999, 2000, 2001 แชมป์บราซิเลียน แชมเปี้ยนส์คัพ  (ฟลาเมงโก้-บราซิล) 2001 ข้อมูลเบื้องต้น : ฮวน คือกองหลังที่ อัลดาเอียร์ ตำนานแนวรับของทีมหมาป่าเคยออกปากไว้ในฤดูกาลสุดท้ายที่ค้าแข้งกับทีมว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของเขา และไม่น่าเชื่อว่าในปัจจุบันนอกจาก ฮวน จะยืนเป็นกองหลังตัวหลักให้ทีมชาติบราซิลแล้ว ยังได้ย้ายมาอยู่ โรม่า เหมือนตำนานรุ่นพี่อีกด้วย เขาเคยคว้าแชมป์หลายรายการในสมัยค้าแข้งในบ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก้ ก่อนที่ในปี 2002 จะย้ายมาเล่นในยุโรปกับ เลเวอร์คูเซ่น และก็ได้เป็นตัวหลักของทีม รวมทั้งขวัญใจของแฟนบอลด้วย โดยเขาได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษของสโมสรเมื่อปี 2004 ในส่วนของทีมชาติบราซิล ฮวน ลงสนามมาแล้วถึง 68 นัด เคยเป็นกัปตันทีม ชุดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ในปี 2004 และเขายังทำหน้าที่กัปตันทีมแทน จิลแบร์โต้ ซิลวา ที่ติดโทษแบนในเกมนัดชิง โคปา อเมริกา ที่ทีมคว้าแชมป์ในปี 2007 ด้วย แน่นอนว่าเขามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของรายการ หลังจบทัวร์นาเมนต์ ฮวน อำลา เลเวอร์คูเซ่น เข้ามาร่วมทีม โรม่า เพื่อทดแทนการจากไปของ คริสเตียน คิวู และเพิ่มฐานนักเตะบราซิเลียนในทีมให้กลับมาอีกครั้ง เขามีจุดเด่นที่การสไลด์บอล เข้าบอลที่แม่นยำ ต่างกับกองหลังคนอื่นๆในทีมที่จะเน้นการปะทะ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 5   ฟิลิปป์ เม็กแซส  (Philippe Mexes) สถานที่เกิด : ตูลูส (ประเทศฝรั่งเศส) วันเกิด : 30 มี.ค. 1982 (อายุ 26 ปี) ส่วนสูง : 187 ซม. น้ำหนัก : 82 กก. สัญชาติ : ฝรั่งเศส ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : โรม่า 1-0 ฟิออเรนติน่า (12 ก.ย. 2004) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 82 นัด ยิงได้ 6 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2011 (เหลืออีก 3 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โอแซร์ (ฝรั่งเศส) ทีมชาติ : ฝรั่งเศส ลงเล่น 10 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ (ฝรั่งเศส) 2003 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์ยูโร (ฝรั่งเศส ยู-18) 2000 แชมป์กู๊ป เดอ ฟร้องซ์ (โอแซร์-ฝรั่งเศส) 2003 ข้อมูลเบื้องต้น : เม็กแซส กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส เคยได้รับการจับตามองว่าจะเป็น โรล็องต์ บล็องก์ คนใหม่ มาตั้งแต่สมัยค้าแข้งอยู่กับ โอแซร์ โดยที่เหล่าบรรดาทีมดังทั่วยุโรปรุมจ้องแย่งตัวมากมาย แต่ก็ถูกต้นสังกัดที่หวงยิ่งกว่าไข่ในหินคอยกันท่าตลอด เขาเคยติดทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดแชมป์คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ เมื่อปี 2003 แต่หลังจากย้ายมาเล่นให้ โรม่า ในปี 2004 และฟอร์มกับทีมหมาป่าตกต่ำในฤดูกาลแรก ทำให้โอกาสในทีมชาติแทบจะปิดตายทันที ซึ่ง เม็กแซส เอง ย้ายมาอยู่กับ โรม่า แบบผิดกฎด้วย มีส่วนทำให้ทีมหมาป่าติดโทษแบนจาก FIFA ห้ามซื้อขายนักเตะ 1 ปีเต็ม จนกระทั่งเมื่อฤดูกาล 2005/06 เม็กแซส กลับมาคืนฟอร์มเก่งที่ดีที่สุดออกมา ช่วยทำให้เขาได้กลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง แต่ก็เหมือนไร้วาสนากับ เลอเบลอส์ อยู่ร่ำไป เพราะหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของเซเรีย อา อย่างเขา โดน เรมงด์ โดเมอเน็ค ตัดตัวออกจาก 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทั้งฟุตบอลโลก 2006 และ ยูโร 2008 ในนาทีสุดท้ายแบบน่ากังขา เป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักมาก โดยเฉพาะการส่งนักเตะที่ฝีเท้าและชื่อชั้นด้อยกว่าเขาไปแทน แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ถอดใจขอกัดฟันสู้ต่อ ปัจจุบัน เม็กแซส เล่นกับ โรม่า ได้ดีจนเป็นขวัญใจแฟนบอลหมาป่า เขาเคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่าตัวเองเป็นชาวฝรั่งเศสก็จริง แต่รู้สึกผูกพันกับทีมจนเหมือนเป็นคนโรมันไปแล้ว จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 15   ซิโมเน่ ลอเรีย  (Simone LORIA) สถานที่เกิด : โตริโน่ (แคว้นเปียมอนเต้) วันเกิด : 28 ต.ค. 1976 (อายุ 32 ปี) ส่วนสูง : 186 ซม. น้ำหนัก : 78 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : กายารี่ 2-0 เซียน่า (22 ก.ย. 2004) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2011 (เหลืออีก 3 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โอลเบีย, บัตติปาเยียเซ่, โนเชริน่า, เลคโค่, กายารี่, อตาลันต้า, เซียน่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : - ข้อมูลเบื้องต้น : ลอเรีย ปราการหลังร่างใหญ่รายนี้เริ่มต้นชีวิตนักเตะในรั้วทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ทีมในบ้านเกิด แต่ไม่อาจก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ เลยต้องไปค้าแข้งในระดับ เซเรีย ชี 2 กับ โอลเบีย ในฤดูกาล 1996/97 ก่อนที่ปีถัดมาจะย้ายไปอยู่กับ บัตติปาเยียเซ่ ใน เซเรีย ชี 1 จนถึงปี 1999 จึงย้ายต่อไป โนเชริน่า กับ เลคโค่ ตามลำดับ ขณะที่เขาเล่นให้ เลคโค่ นี้เอง ฟอร์มของเขาไปสะดุดตา จามปิเอโร่ เวนตูร่า เทรนเนอร์ กายารี่ ในขณะนั้น เลยซื้อตัวเขามาเล่นในระดับ เซเรีย บี ในฤดูกาล 2002/03 เขามีส่วนช่วยให้ กายารี่ ได้เลื่อนชั้นมาเล่นใน เซเรีย อา ในปีต่อมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ชีวิตใน เซเรีย อา ของ ลอเรีย ที่ กายารี่ มีอันต้องสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาล 2004/05 หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ เขาถูกปล่อยตัวให้ อตาลันต้า ในเซเรีย บี ซึ่งที่ แบร์กาโม่ ถือว่าเขาแจ้งเกิดได้เต็มๆ หลังจากช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ เซเรีย อา ได้ ลอเรีย กลายเป็นจุดสนใจของแฟนบอลทั่วประเทศ จากการเติมเกมรุกขึ้นมายิงประตูสวยๆหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกตีลังกายิงประตู คิเอโว่ ในฤดูกาล 2006/07 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสุดยอดการทำประตูของ เซเรีย อา ประจำปีเลย จบฤดูกาล เขาตัดสินใจย้ายไป เซียน่า และอยู่ที่นั่น 1 ปี ก่อนจะมีโอกาสย้ายมาร่วมทีม โรม่า ในฤดูกาล 2008/09 แทนการจากไปของ มัตเตโอ แฟร์รารี่ นั่นเอง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 17   ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่  (John Arne RIISE) สถานที่เกิด : อาเลซุนด์ (ประเทศนอร์เวย์) วันเกิด : 24 ก.ย. 1980 (อายุ 28 ปี) ส่วนสูง : 185 ซม. น้ำหนัก : 77 กก. สัญชาติ : นอร์เวย์ ตำแหน่ง : แบ็กซ้าย ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : อาเลซุนด์ (นอร์เวย์), โมนาโก (ฝรั่งเศส), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) ทีมชาติ : นอร์เวย์ ลงเล่น 71 นัด ยิงได้ 8 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์ UEFA Champions League (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 2004/05 แชมป์ UEFA Super Cup 2 สมัย (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 2001, 2005 แชมป์ เอฟเอ คัพ (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 2005/06 แชมป์ ลีก คัพ (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 2002/03 แชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ 2 สมัย (ลิเวอร์พูล-อังกฤษ) 2001, 2006 แชมป์ ลีก เอิง (โมนาโก-ฝรั่งเศส) 1999/00 แชมป์โตรเฟ่ เดส์ แชมเปี้ยนส์ (โมนาโก-ฝรั่งเศส) 2000/01 ข้อมูลเบื้องต้น : รีเซ่ แบ็กเท้าหนักจาก นอร์เวย์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ อาเลซุนด์ ทีมในบ้านเกิด โดยเข้าร่วมทีมเยาวชนในปี 1994 ด้วยวัยเพียง 14 ปี ก่อนจะเลื่อนสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1997 เพียงแค่ปีแรกเท่านั้น ฟอร์มของ รีเซ่ ไปเข้าตาแมวมองของ โมนาโก เลยถูกดึงตัวไปเล่นใน ลีก เอิง ซึ่งเขาก็เป็นตัวหลักของทีม และช่วยให้ โมนาโก ได้แชมป์ ลีก เอิง ในฤดูกาล 1999/00 หลังจากอยู่ที่ โมนาโก 3 ปีเต็ม ลิเวอร์พูล ก็ซื้อตัวเขามาร่วมทีม ด้วยลีลาการเติมเกมบุกที่ดุดัน ยิงประตูได้หนักหน่วงรุนแรง ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นของทีม กระทั่งมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดประสบความสำเร็จสูงสุด เมื่อได้แชมป์ยุโรปในปี 2005 รีเซ่ ยังคงเป็นตัวหลักที่ ลิเวอร์พูล มาตลอดหลายปี โดยลงเล่นไปมากกว่า 300 นัด และทำประตูไปถึง 30 ลูก กระทั่งถึงในฤดูกาล 2007/08 ที่ฟอร์มของเขาเริ่มตกลงไปจากเดิม ประกอบกับมีคู่แข่งอย่าง ฟาบิโอ ออเลริโอ เข้ามาเบียดแย่งตำแหน่ง จากที่เคยคิดอยากจะแขวนสตั๊ดที่ แอนฟิลด์ เลยเปลี่ยนใจอำลาทีมมาอยู่กับ โรม่า ที่ขอซื้อตัวหลังจบฤดูกาล แม้จะจากทีมมาแบบไม่สวยงามนัก แต่ชื่อของ รีเซ่ ก็ยังเป็นตำนานทั้งกับ ลิเวอร์พูล, โมนาโก และ ทีมชาตินอร์เวย์ จน อาเลซุนด์ สโมสรในบ้านเกิดปั้นหุ่นของเขาตั้งไว้ที่หน้าสนามแข่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทีม จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 22   มักซ์ โตเน็ตโต้  (Max TONETTO) สถานที่เกิด : ตริเอสเต้ (แคว้นฟริอูลี่-เวเนเซีย จูเลีย) วันเกิด : 18 พ.ย. 1974 (อายุ 34 ปี) ส่วนสูง : 174 ซม. น้ำหนัก : 67 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : แบ็กซ้าย-ปีกซ้าย ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : นาโปลี 1-0 เรจจาน่า (15 ก.ย. 1996) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 64 นัด ยิงได้ 1 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ซาน โจวานนี่ (ซาน มาริโน่), เรจจาน่า, ฟาโน่, ราเวนน่า, เอ็มโปลี, มิลาน, โบโลญญ่า, เลชเช่, ซามพ์โดเรีย ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 1 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : โตเน็ตโต้ เป็นวิงแบ็กซ้ายประสบการณ์สูงที่เคยผ่านการเล่นให้กับทีมระดับอาชีพมาแล้วถึง 9 สโมสร ก่อนจะมาอยู่กับทีมหมาป่า เขาเริ่มค้าแข้งกับ ซาน โจวานนี่ ทีมฟุตบอลเล็กๆใน ซาน มาริโน่ อยู่ 2 ปี ก่อนจะย้ายมาเล่นในเซเรีย บี กับ เรจจาน่า ซึ่งในช่วงเวลานั้น ฝีเท้าของเขายังไม่เป็นที่เตะตานัก จึงถูกปล่อยให้ ฟาโน่ และ ราเวนน่า ทีมในระดับเซเรีย ชี 1 และ 2 ยืมตัวไปเล่น ก่อนจะกลับคืนสู่ เรจจาน่า อีกครั้งในฤดูกาล 1995/96 ซึ่งในปีนั้น เขามีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นมาอยู่ในเซเรีย อา ได้สำเร็จ มาถึงฤดูกาล 1997/98 เขาย้ายไป เอ็มโปลี และเล่นอยู่ที่นั่น 2 ปี ก็ถูกซื้อตัวไปยัง โบโลญญ่า ก่อนจะได้ย้ายทีมอีกครั้งในช่วงกลางฤดูกาล 2000/01 ลงใต้ไปยัง เลชเช่ ที่ เลชเช่ นี่เองทำให้ชื่อของเขาเริ่มดังขึ้น ซึ่งแม้ว่าทีมจะต้องตกชั้นในปี 2002 แต่เขาก็ยังยอมอยู่ช่วยทีมเลื่อนชั้นกลับ เซเรีย อา ได้ภายในปีเดียว ถึงฤดูกาล 2004/05 ชีพจรลงเท้าอีกครั้ง เมื่อย้ายมาอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ด้วยสัญญา 2 ปี จนกระทั่งหมดสัญญาเมื่อจบฤดูกาล 2005/06 จึงตัดสินใจย้ายมา โรม่า แบบไม่มีค่าตัว มาอยู่กรุงโรม เขาไม่ทำให้ สปัลเล็ตติ ผิดหวังแม้แต่น้อย 3 ปีที่ผ่านมา เขาเล่นดีสม่ำเสมอ จนถูก โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ เรียกตัวเข้าสู่ทีมชาติเป็นครั้งแรกในวัย 32 ปี อย่างไรก็ตามด้วยอายุที่มาก และตัวเลือกในทีมชาติมีเยอะ ทำให้เขาไม่ได้ติดทีมไปลุย ยูโร 2008 ปี 2008/09 นี้เขาอาจต้องต่อสู้กับตำแหน่งตัวจริงอย่างหนัก แม้ว่าจะทำผลงานได้ดีมาโดยตลอดก็ตาม จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 77   มาร์โก คาสเซ็ตติ  (Marco CASSETTI) สถานที่เกิด : เบรสชา (แคว้นลอมบาร์เดีย) วันเกิด : 29 พ.ค. 1977 (อายุ 31 ปี) ส่วนสูง : 187 ซม. น้ำหนัก : 80 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : แบ็กขวา-ปีกขวา ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : บารี่ 1-1 เวโรน่า (30 ก.ย. 2000) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 55 นัด ยิงได้ 2 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ลูเมซซาเน่, เวโรน่า, เลชเช่ ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 5 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : คาสเซ็ตติ ได้ชื่อว่าเป็นฟูลแบ็กจอมลุยที่มีลีลาการเล่นเร้าใจ เขาเล่นในระดับอาชีพกับทีม ลูเมซซาเน่ ในระดับเซเรีย ชี 1 เป็นสโมสรแรก และหลังจากทำผลงานได้ดี ทำให้ถูก เวโรน่า ซื้อตัวมาเล่นในระดับเซเรีย อา ในฤดูกาล 2000/01 แต่แล้วอีก 2 ปีต่อมา เวโรน่า มีอันต้องตกชั้นสู่เซเรีย บี ซึ่ง คาสเซ็ตติ ก็ตามทีมลงไปเล่นใน บี ด้วย 1 ฤดูกาล ก่อนจะถูก เลชเช่ ซื้อตัวมาเสริมทัพในฤดูกาล 2003/04 และก็เป็นที่ เลชเช่ นี้เอง ที่เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ถึงขั้นเคยถูก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เรียกตัวไปติดทีมชาติมาแล้วในปี 2005 โดยได้ลงเล่นไป 2 นัด จนเข้ามาถึงฤดูกาล 2006/07 เมื่อ เลชเช่ ต้นสังกัดต้องตกชั้น ทำให้เขาใช้เวลาไม่นานในการตอบรับข้อเสนอของ โรม่า ในที่สุด โดยเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเจ้าของร่วม ในปีแรกที่เล่นให้ทีมหมาป่ากรุงโรม แม้จะต้องเป็นตัวจริงสลับกับตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง แต่โดยรวมถือว่าทำหน้าที่ได้ดี ยิ่ง ปานุชชี่ อายุมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีโอกาสลงสนามมากขึ้น และด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ ทำให้ โรม่า ตัดสินใจซื้อสัญญาอีกครึ่งที่เหลือจาก เลชเช่ เพื่อเป็นเจ้าของ คาสเซ็ตติ แบบถาวรในปี 2007 มาถึงฤดูกาล 2008/09 เขาได้รับการคาดหมายว่าจะได้เป็นแบ็กขวาตัวจริงของ โรม่า และเมื่อ ลิปปี้ กลับมาคุมทีมชาติอิตาลีอีกครั้ง ก็ให้โอกาสเขาคืนสู่รั้วทีมชาติด้วย จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 3   ซิซินโญ่ (“CICINHO” Cicero Joao de Cezare) สถานที่เกิด : ปราโดโปลิส (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 24 มิ.ย. 1980 (อายุ 28 ปี) ส่วนสูง : 172 ซม. น้ำหนัก : 68 กก. สัญชาติ : บราซิล (พาสปอร์ตอิตาเลียน) ตำแหน่ง : แบ็กขวา, ปีกขวา ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : ปาแลร์โม่ 0-2 โรม่า (26 ส.ค. 2007) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 30 นัด ยิงได้ 2 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โบตาโฟโก้ (บราซิล), แอตเลติโก มิเนโร่ (บราซิล), เซา เปาโล (บราซิล), เรอัล มาดริด (สเปน) ทีมชาติ : บราซิล ลงเล่น 17 นัด ยิงได้ 1 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ (บราซิล) 2005 แชมป์สโมสรโลก (เซา เปาโล-บราซิล) 2005 แชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส (เซา เปาโล-บราซิล) 2005 แชมป์ศึกชิงแชมป์รัฐเซา เปาโล (เซา เปาโล-บราซิล) 2005 แชมป์ลาลีกา (เรอัล มาดริด-สเปน) 2007 แชมป์โคปปา อิตาเลีย (โรม่า) 2007/08 ข้อมูลเบื้องต้น : ซิซินโญ่ คือวิงแบ็กฝั่งขวาที่มีความเร็ว และความสามารถเฉพาะตัวสูงของ บราซิล จนเคยได้รับการคาดหมายจากสื่อมวลชนว่าจะเป็น คาฟู คนต่อไป เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชน โบตาโฟโก้ ทีมในบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งเขาอายุได้เพียง 16 ปี จนกระทั่งถึงปี 1999 จึงได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับทีมดังกล่าว แต่ผ่านพ้นไปฤดูกาลเดียว เขาย้ายทีมไปเล่นให้กับ แอตเลติโก มิเนโร่ และอยู่ที่นั่น 2 ฤดูกาล ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ถูก เซา เปาโล ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2004 ที่ เซา เปาโล นี้เอง ทำให้ ซิซินโญ่ ประสบความสำเร็จจนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ โดยคว้าแชมป์ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ในทัวร์นาเมนต์แรกทันที ตามมาด้วยเกียรติประวัติระดับสโมสรจากการคว้าแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส และแชมป์สโมสรโลกที่ญี่ปุ่น ทำให้ เรอัล มาดริด ขอซื้อตัวไปร่วมทีมทันที แต่แล้วชีวิตในสเปนกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เขาหวังไว้ เพราะในช่วงเวลา 2 ปี เจ้าตัวได้ลงเล่นในลาลีกา เพียงแค่ 26 นัดเท่านั้น มาถึงฤดูกาล 2007/08 จึงตัดสินใจย้ายมา โรม่า ซึ่งก็ต้องแย่งตำแหน่งกับทั้ง ปานุชชี่ และ คาสเซ็ตติ ผ่านไป 1 ปี เขาลงเล่นตัวจริงในทุกรายการ 25 นัด และลงเป็นตัวสำรองถึง 19 นัดทีเดียว คาดว่าโอกาสในปีนี้น่าจะมีมากขึ้นกว่าเดิม จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 16   ดาเนียเล่ เด รอสซี่  (Daniele DE ROSSI) สถานที่เกิด : กรุงโรม วันเกิด : 24 ก.ค. 1983 (อายุ 25 ปี) ส่วนสูง : 184 ซม. น้ำหนัก : 83 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : เรจจิน่า 2-3 โรม่า (3 พ.ค. 2003) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 155 นัด ยิงได้ 17 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : - ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 39 นัด ยิงได้ 7 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์ฟุตบอลโลก (อิตาลี) 2006 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์ยูโร (อิตาลี ยู-21) 2004 รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปี เซเรีย อา (โรม่า) 2006 ข้อมูลเบื้องต้น : เด รอสซี่ นักเตะหนุ่มเชื้อสายโรมันคนนี้ ถือเป็นผลผลิตชั้นยอดจากระบบทีมเยาวชนของ โรม่า เขามีโอกาสลงเล่นในเซเรีย อา ครั้งแรก ในช่วงท้ายฤดูกาล 2002/03 และในปีต่อมาก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ลีลาการเข้าสกัดบอลที่เด็ดขาด ดุดัน รวมถึงการมีทีเด็ดจากลูกยิงไกล เป็นจุดเด่นที่ทำให้เขาเป็นดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจจาก ฟาบิโอ คาเปลโล่ มากที่สุด จนกระทั่งในฤดูกาล 2004/05 หลังจาก เอเมอร์สัน ย้ายจากทีมไป ทำให้ เด รอสซี่ กลายมาเป็นตัวจริงของทีมอย่างถาวร ฝีเท้าของเขาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่น่าแปลกใจที่เขาจะถูก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เรียกตัวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในที่สุด แถมยังได้เป็นตัวจริงของทีมทันทีอีกด้วย ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน เด รอสซี่ ก่อเรื่องฉาวหลังจากไปศอกใส่ ไบรอัน แม็คไบรด์ กองหน้าทีมชาติสหรัฐฯ จนทำให้เขาโดนแบนถึง 4 นัด เรียกว่าเกือบโดนเพื่อนสกรัมแล้ว แต่เขาโชคดีมากที่ อิตาลี ยังฝ่าฟันผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส ได้ และ เด รอสซี่ ที่พ้นโทษแบนกลับมาพอดี ได้รับโอกาสให้เป็น 1 ใน 5 คนสังหารจุดโทษอย่างเฉียบขาดช่วยให้ อิตาลี คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ ทุกวันนี้ เด รอสซี่ ยังคงเป็นตัวหลักในทีมชาติอย่างต่อเนื่องในยูโร 2008 มาจนถึงปัจจุบัน เขาได้รับการคาดหมายอย่างสูงว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม โรม่า คนต่อไปหลังจาก ต๊อตติ แขวนสตั๊ด จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 7   ดาวิด ปิซาร์โร่  (David Marcelo Cortes PIZARRO) สถานที่เกิด : วัลปาไรโซ่ (ประเทศชิลี) วันเกิด : 11 ก.ย. 1979 (อายุ 29 ปี) ส่วนสูง : 170 ซม. น้ำหนัก : 65 กก. สัญชาติ : ชิลี (พาสปอร์ตอิตาเลียน) ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ, กองกลางตัวรุก ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : เวเนเซีย 1-1 อูดิเนเซ่ (29 ส.ค. 1999) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 63 นัด ยิงได้ 4 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ซานติอาโก้ วันเดอเรอร์ส (ชิลี), อูดิเนเซ่, ยูนิเวอร์ซิดัด เดอ ชิลี (ชิลี), อินเตอร์ ทีมชาติ : ชิลี ลงเล่น 36 นัด ยิงได้ 2 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์สคูเด็ตโต้ (อินเตอร์) 2005/06 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 3 สมัย (อินเตอร์) 2005/06 (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย (อินเตอร์) 2005 (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : ปิซาร์โร่ คือกองกลางตัวรุกฝีเท้าฉกาจคนหนึ่งในอเมริกาใต้ เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ ซานติอาโก้ วันเดอเรอร์ส ทีมในบ้านเกิด ก่อนจะถูกแมวมองของ อูดิเนเซ่ ดึงตัวไปร่วมทีมด้วยวัยเพียง 20 ปีในขณะนั้น ซึ่งในช่วงปีแรกของเขาใน อิตาลี นั้น ยังเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง เลยปล่อยให้ทีม ยูนิเวอร์ซิดัด เดอ ชิลี ยืมไปใช้งาน ก่อนจะกลับมาที่ อูดิเน่ อีกครั้ง คราวนี้เขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ กลายเป็นตัวหลักของทีมในช่วงปี 2001-2005 และในฤดูกาล 2004/05 เขาระเบิดฟอร์มภายใต้การคุมทีมของ สปัลเล็ตติ พาทีมระดับกลางอย่าง อูดิเนเซ่ ยึดอันดับ 4 ไปเล่น Champions League ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่หลังจากจบฤดูกาลนั้น เขาตัดสินใจย้ายไป อินเตอร์ และต้องกลายสภาพเป็นตัวสำรอง ทำให้ในฤดูกาล 2006/07 เจ้าตัวตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับ สปัลเล็ตติ อีกครั้งที่กรุงโรม และกลายมาเป็นกำลังหลักในแดนกลางที่ลงตัวกับ โรม่า อย่างยิ่ง เขามีจุดเด่นตรงที่ครองบอลดี มีเทคนิคและไหวพริบที่หลักแหลม สำหรับผลงานในทีมชาติชิลีนั้น เขาเคยเป็นดาวเด่นของทีม เคยลงเล่นในฟุตบอลโลก 2006 และฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์ 2000 แต่ปัจจุบันประกาศอำลาทีมชาติไปแล้วเนื่องจากมีปัญหากับคนในสมาคมฟุตบอลขณะนั้น อีกอย่างก็คือต้องการให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นด้วย จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 8   อัลแบร์โต้ อากวิลานี่  (Alberto AQUILANI) สถานที่เกิด : กรุงโรม วันเกิด : 7 ก.ค. 1984 (อายุ 24 ปี) ส่วนสูง : 186 ซม. น้ำหนัก : 77 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ, กองกลางตัวรุก ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : โรม่า 3-1 โตริโน่ (10 พ.ค. 2003) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 88 นัด ยิงได้ 7 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ตริเอสติน่า ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 9 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์ยูโร (อิตาลี ยู-19) 2003 ข้อมูลเบื้องต้น : อากวิลานี่ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะจากทีมเยาวชนของ โรม่า ในรุ่นเดียวกับ เด รอสซี่ มีโอกาสสัมผัสเกมระดับเซเรีย อา เป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี แต่ในช่วงเวลานั้น ในทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ยังไม่มีที่ว่างให้เขา เลยถูกปล่อยให้ ตริเอสติน่า ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนจะกลับมาสู่ทีมในฤดูกาล 2004/05 ซึ่งในทีม โรม่า เต็มไปด้วยความโกลาหลจากวิกฤตเรื่องเทรนเนอร์ ส่งผลกระทบถึงฟอร์มการเล่นของเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ สปัลเล็ตติ เข้ามาคุมทีม อากวิลานี่ ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวจริง และเขามีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาที่ โรม่า สร้างสถิติชนะติดต่อกัน 11 นัดรวด ด้วยการยิงประตู ลาซิโอ ในดาร์บี้แมตช์กรุงโรมอีกด้วย มาถึงฤดูกาล 2006/07 เขายังคงเล่นได้โดดเด่นจนกระทั่งมีชื่อติดทีมชาติอิตาลี ของ โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ จากฟอร์มสุดยอดในนัดที่ โรม่า บุกไปชนะ มิลาน ถึง ซาน ซิโร่ แต่กลับมาโชคร้ายบาดเจ็บหนักและต้องพักยาวถึง 5 เดือน ก่อนจะคืนสนามในช่วงท้ายซีซั่น และมีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ได้สำเร็จ ฤดูกาลต่อมา อากวิลานี่ ยังคงทำผลงานได้ดี ช่วยทีมป้องกันแชมป์โคปปา อิตาเลีย ได้ จนมีชื่อติดไปลุย ยูโร 2008 ด้วย แม้สุดท้ายทีมชาติอิตาลีจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ชื่อของเขาก็อยู่ในสารบบถาวรของทีมชาติเคียงข้าง เด รอสซี่ ไปแล้ว ปัจจุบัน อากวิลานี่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ดีที่สุดของ อิตาลี จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 33   มัตเตโอ บริกี้  (Matteo BRIGHI) สถานที่เกิด : ริมินี่ (แคว้นเอมิเลีย-โรมันญ่า) วันเกิด : 14 ก.พ. 1981 (อายุ 27 ปี) ส่วนสูง : 179 ซม. น้ำหนัก : 78 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : นาโปลี 1-2 ยูเวนตุส (30 ก.ย. 2000) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 24 นัด ยิงได้ 1 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ริมินี่, ยูเวนตุส, โบโลญญ่า, ปาร์ม่า, เบรสชา, คิเอโว่ ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 1 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย (โรม่า) 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย (ยูเวนตุส) 2002 (โรม่า) 2007 รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปี เซเรีย อา (โบโลญญ่า) 2002 ข้อมูลเบื้องต้น : บริกี้ คืออดีตนักเตะดาวรุ่งที่เคยได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของ อิตาลี เขาเคยได้รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีมาแล้วในปี 2002 ด้วยคะแนนโหวตเหนือนักเตะดังอย่าง อันโตนิโอ คาสซาโน่ หรือ มานูเอเล่ บลาซี่ สำหรับชีวิตค้าแข้งของเขาเริ่มต้นกับทีมบ้านเกิด ริมินี่ ตั้งแต่อายุ 17 ปี กระทั่งถึงปี 2000 ก็ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส ซึ่งในเวลานั้น บริกี้ เริ่มจะมีชื่อเสียงบ้างแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นเด็กดาวรุ่ง เบียดรุ่นพี่คนอื่นๆลำบาก เลยถูกปล่อยให้ โบโลญญ่า ยืมตัวไปเล่นในฤดูกาล 2001/02 บริกี้ กลายมาเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการพา โบโลญญ่า จบในอันดับที่ 7 ของตาราง ก่อนจะกลับ ยูเว่ แล้วย้ายทีมต่อไปยัง ปาร์ม่า ในฤดูกาล 2002/03 แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมาเป็นตัวสำรอง ปีต่อมาเลยถูกปล่อยให้ เบรสชา ยืมตัวไปเล่น กระทั่ง โรม่า ขอซื้อตัวมาในฤดูกาล 2004/05 ซึ่งดูยังไงในตอนนั้นเขาก็สำรองแน่ๆ ทีมหมาป่าเลยปล่อยให้ คิเอโว่ ยืมตัวไปเล่นอีกทีเป็นเวลาถึง 3 ฤดูกาลเต็มๆ จนเมื่อ คิเอโว่ ตกชั้น บริกี้ เลยได้กลับมาเล่นให้ โรม่า เป็นครั้งแรกจนได้ ฤดูกาล 2007/08 ผ่านไปโดยที่เขาได้ลงสนามไม่มาก เพราะเจอทั้ง เด รอสซี่, ปิซาร์โร่ และ อากวิลานี่ ขวางอยู่ จนมีข่าวว่าอาจจะย้ายทีม แต่เจ้าตัวก็กลบข่าวด้วยการต่อสัญญา ขอสู้ในทีมหมาป่าต่อไป จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 20   ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า  (Simone PERROTTA) สถานที่เกิด : แอชตัน-อันเดอร์-ไลน์ (สหราชอาณาจักร) วันเกิด : 17 ก.ย. 1977 (อายุ 31 ปี) ส่วนสูง : 178 ซม. น้ำหนัก : 72 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก, กองกลางตัวรับ, ปีกขวา ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : อูดิเนเซ่ 2-2 ยูเวนตุส (8 พ.ย. 1998) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 128 นัด ยิงได้ 21 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : เรจจิน่า, ยูเวนตุส, บารี่, คิเอโว่ ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 45 นัด ยิงได้ 2 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์ฟุตบอลโลก (อิตาลี) 2006 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์ยูโร (อิตาลี ยู-21) 2000 ข้อมูลเบื้องต้น : แปร์ร็อตต้า เป็นเลือดเชื้อไขชาวอิตาเลียนแท้ๆ แต่ไปถือกำเนิดที่ อังกฤษ เพราะครอบครัวเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น จนกระทั่งอายุได้ 6 ปี จึงได้ตามครอบครัวกลับ อิตาลี เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีม เรจจิน่า ทีมในระดับเซเรีย บี ตั้งแต่ปี 1995 โดยได้ลงเล่นเป็นตัวหลักอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งฟอร์มไปเข้าตาทีมใหญ่อย่าง ยูเวนตุส เลยถูกคว้าไปร่วมทีมในปี 1998 แต่ด้วยขณะนั้น ยูเว่ เป็นทีมที่แดนกลางเต็มไปด้วยนักเตะซูเปอร์สตาร์มากมาย ทำให้เขาแทบจะไม่มีโอกาสลงเล่นเลย จนทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับ บารี่ และมาลงเอยกับ คิเอโว่ ในปี 2001 ซึ่งที่ เวโรน่า นี้เอง ที่ช่วยสร้างให้เขาเป็นนักเตะชั้นยอด โดยจุดเด่นคือความฟิตและความขยันที่ไม่มีหมด ฟอร์มของเขาโดดเด่นจนติดทีมชาติในยุคของ ตราปัตโตนี่ อย่างสม่ำเสมอ และได้ไปลุยศึกยูโร 2004 หลังจากจบทัวร์นาเมนต์นั้น เขาย้ายจาก คิเอโว่ มาอยู่กับ โรม่า แต่ผลงานของทีมโดยรวมไม่ดี ทำให้เขาต้องหลุดจากทีมชาติไปนานถึงเกือบ 1 ปีเต็ม ก่อนที่ในฤดูกาล 2005/06 เขาจะกลับมาแจ้งเกิดเต็มตัวอีกครั้งภายใต้การดูแลของ สปัลเล็ตติ ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และได้ติดทีมชาติของ ลิปปี้ ไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 กระทั่งมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์โลกในที่สุด ปัจจุบันเขาก็ยังมีชื่อในทีมชาติมาตลอด ลุย ยูโร 2008 ในยุค โดนาโดนี่ และยังเป็นตัวเลือกของ ลิปปี้ ในฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ โรม่า เขาก็ยังเป็นตัวหลัก ที่ผ่านมาหากเขาไม่เจ็บ ก็ต้องได้เล่นเป็นตัวจริง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 11   โรดริโก้ ตาดเด  (Rodrigo Ferrante TADDEI) สถานที่เกิด : เซา เปาโล (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 6 มี.ค. 1980 (อายุ 28 ปี) ส่วนสูง : 177 ซม. น้ำหนัก : 69 กก. สัญชาติ : บราซิล (พาสปอร์ตอิตาเลียน) ตำแหน่ง : ปีกขวา, ปีกซ้าย ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : เปรูจา 2-2 เซียน่า (31 ส.ค. 2003) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 92 นัด ยิงได้ 19 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : พัลไมรัส (บราซิล), เซียน่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : ตาดเด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีม พัลไมรัส ในบราซิล ตั้งแต่ปี 2000 และก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เป็นหนึ่งในนักเตะแกนหลักของทีม จนกระทั่งถูก เซียน่า ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในเซเรีย บี ดึงตัวมาเล่นในอิตาลี ในช่วงต้นฤดูกาล 2002/03 และเขามีส่วนช่วยให้ เซียน่า ทำผลงานติดลมบนจนได้เลื่อนชั้นสู่เซเรีย อา ในฤดูกาลแรกของเขาทันที ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องนี้เอง ทำให้ โรม่า ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวจาก เซียน่า ในช่วงเปิดตลาดต้นปี 2005 ก่อนที่สัญญาจะหมดลงตอนท้ายฤดูกาล ซึ่งเขาเองคิดว่าทีมจะขายให้ทีมหมาป่า ดีกว่าเสียเขาไปฟรีๆ แต่กลับกลายเป็นว่า เซียน่า ไม่ยอมให้ย้าย และจับดองให้นั่งข้างสนามจนจบฤดูกาล กระทั่งถึงช่วงกลางฤดูกาล 2004/05 ตาดเด จึงได้มาเซ็นสัญญากับ โรม่า แบบฟรีๆ เขาเป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งปีกขวา และซ้าย ในฤดูกาล 2005/06 ยังช่วยขึ้นไปยืนเป็นศูนย์หน้าจำเป็นให้ทีมได้ในยามขาดแคลนกองหน้าอีกด้วย เขาเป็นหนึ่งในแกนหลักที่ช่วยพาทีมชนะ 11 นัดติดต่อกันในลีก จุดเด่นของเขาคือการโชว์ลูกเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายสารพัดที่เขาคิดขึ้นมาเอง ปัจจุบันเขาเป็นปีกขวาตัวหลักของทีมที่ สปัลเล็ตติ ชื่นชอบมาก เพราะเล่นได้ดีคงเส้นคงวา ในส่วนของทีมชาติ เขาเคยถูกสื่อมวลชนชักชวนให้เสนอตัวเข้าทีมชาติอิตาลี แต่เจ้าตัวปฏิเสธโดยฝันอยากติดทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดมากกว่า แม้ว่ามันจะดูมืดมนพอสมควรก็ตาม จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 34   วาเลริโอ วีร์ก้า  (Valerio VIRGA) สถานที่เกิด : กรุงโรม วันเกิด : 29 มิ.ย. 1986 (อายุ 22 ปี) ส่วนสูง : 181 ซม. น้ำหนัก : 75 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : อูดิเนเซ่ 3-3 โรม่า (10 เม.ย. 2005) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 10 นัด วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ปาแลร์โม่, อัสโคลี่ ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : - ข้อมูลเบื้องต้น : วีร์ก้า เป็นอีกหนึ่งนักเตะจากทีมเยาวชนหมาป่า ซึ่งได้เลื่อนขั้นเข้ามาเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2003/04 ซึ่งขณะนั้นยังเป็น ฟาบิโอ คาเปลโล่ คุมทีมอยู่ แต่ยังไม่ได้โอกาสลงสนาม กระทั่งในฤดูกาลต่อมา เขามีโอกาสลงเล่น 6 นัด ก่อนที่ในฤดูกาล 2005/06 จะมีการทำการขายสัญญาครึ่งหนึ่งให้กับ ปาแลร์โม่ เพื่อเป็นเจ้าของร่วม ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว เขาถูกส่งตัวไปยัง อัสโคลี่ ด้วยสัญญายืมตัว ถึงฤดูกาล 2006/07 วีร์ก้า กลับมาที่ โรม่า และมีโอกาสลงเล่นใน เซเรีย อา 4 นัด ทาง สปัลเล็ตติ มองว่าโอกาสของเขายังน้อย เลยปล่อยตัวให้ กรอสเซโต้ ทีมใน เซเรีย บี ยืมตัวไปใช้งาน 1 ปี ก่อนที่จะกลับมายังกรุงโรมอีกครั้งในปีนี้ ต้องตามดูกันต่อไปว่าจะมีโอกาสได้เล่นมากน้อยแค่ไหน จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 24   เฌเรมี่ เมเนซ  (Jeremy MENEZ) สถานที่เกิด : ล็องฌูโม (ประเทศฝรั่งเศส) วันเกิด : 7 พ.ค. 1987 (อายุ 21 ปี) ส่วนสูง : 181 ซม. น้ำหนัก : 77 กก. สัญชาติ : ฝรั่งเศส ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก, ปีกซ้าย, ศูนย์หน้า ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โซโชซ์ (ฝรั่งเศส), โมนาโก (ฝรั่งเศส) ทีมชาติ : ฝรั่งเศส ลงเล่น 1 นัด เกียรติประวัติ : แชมป์ยูโร (ฝรั่งเศส ยู-17) 2004 ข้อมูลเบื้องต้น : เมเนซ ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งของวงการลูกหนังฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ โซโชซ์ ทีมในระดับลีกเอิง ในปี 2003 ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น ก่อนจะได้เล่นทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2004/05 แค่ปีแรกเท่านั้น เมเนซ ก็สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วแล้ว เมื่อทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในลีกเอิง ที่ทำแฮตทริกได้ แถมยังทำในเวลาภายใน 7 นาทีเท่านั้น และยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกได้อีกด้วย จากจุดนี้ทำให้มีหลายทีมใหญ่สนใจเขามากขึ้น หนึ่งในนั้นรวมถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย เมื่อถึงปี 2006 เมเนซ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม โมนาโก เขาปฏิเสธทีมใหญ่กว่านี้เพราะกลัวการนั่งเป็นตัวสำรอง ที่ โมนาโก ดูจะสร้างชื่อให้ เมเนซ ได้ดีทีเดียว เด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี แต่มีบทบาทเป็นถึงเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของทีม ในระยะเวลา 2 ปี เขาลงเล่น 54 เกม และทำไป 14 ประตู แม้จะยังไม่ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่สื่อมวลชนฝรั่งเศสก็เปรียบเทียบสไตล์การเล่นของเขาว่าคล้ายคลึงกับ ซีเนอดีน ซีดาน และ เธียร์รี่ อองรี กระทั่งถึงฤดูกาล 2008/09 โรม่า ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัว และ เมเนซ ก็ใช้เวลาไม่นานในการตอบรับ เขาเลือกเบอร์ 24 ที่ มาร์โก เดลเว็คคิโอ เคยใส่ เพราะมองว่าอดีตศูนย์หน้าหมาป่ารายนี้มักยิงประตู ลาซิโอ ในเกมโรมันดาร์บี้ได้อย่างสม่ำเสมอ และเขาใฝ่ฝันจะทำแบบนั้นให้ได้บ้าง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 19   ชูลิโอ บาปติสต้า  (JULIO Cesar Clement BAPTISTA) สถานที่เกิด : เซา เปาโล (ประเทศบราซิล) วันเกิด : 1 ต.ค. 1981 (อายุ 27 ปี) ส่วนสูง : 187 ซม. น้ำหนัก : 81 กก. สัญชาติ : บราซิล (พาสปอร์ตสแปนิช) ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก, ศูนย์หน้า, ปีกซ้าย ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : - ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : - วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : เซา เปาโล (บราซิล), เซบีย่า (สเปน), เรอัล มาดริด (สเปน), อาร์เซน่อล (อังกฤษ) ทีมชาติ : บราซิล ลงเล่น 43 นัด ยิงได้ 10 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์โคปา อเมริกา 2 สมัย (บราซิล) 2004, 2007 แชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ (บราซิล) 2005 แชมป์ลาลีกา (เรอัล มาดริด-สเปน) 2007/08 แชมป์ศึกชิงแชมป์รัฐเซา เปาโล (เซา เปาโล-บราซิล) 2000 แชมป์ริโอ-เซา เปาโล ทัวร์นาเมนต์ (เซา เปาโล-บราซิล) 2001 แชมป์รัฐเซา เปาโล ซูเปอร์แชมเปี้ยนชิพ (เซา เปาโล-บราซิล) 2002 ข้อมูลเบื้องต้น : บาปติสต้า หนึ่งในขุนพลทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบัน เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ เซา เปาโล สโมสรในบ้านเกิดในปี 2000 ด้วยวัยเพียง 19 ปี เขาเข้าสู่ทีมชุดใหญ่และกลายเป็นตัวหลักของทีมภายในเวลาอันรวดเร็ว คว้าแชมป์กับทีมได้หลายรายการ กระทั่ง เซบีย่า ทีมชั้นนำแห่ง ลาลีกา สเปน ดึงตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2003/04 ซึ่ง บาปติสต้า ก็ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดตั้งแต่ปีแรก โดยยิงไป 20 ประตูในลีก ขณะที่ปีต่อมาก็ยังยิงได้ถึง 18 ประตู ในฐานะดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งในลีกยุโรป ฟอร์มที่น่าจับตามองอย่างมากของเขา ทำให้ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอล ทุ่มเงินซื้อตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2005/06 อย่างไรก็ตามชีวิตที่ มาดริด ไม่ได้โดยด้วยกลีบกุหลาบ การเบียดแย่งตำแหน่งกองหน้าที่เข้มข้นมาก มีผลให้ บาปติสต้า ต้องถอยลงต่ำมายืนเป็นกองกลางบ่อยครั้ง เจ้าตัวเลยเล่นผิดฟอร์มไปจากที่เคยอยู่กับ เซบีย่า พอสมควร ผ่านไป 1 ปี หลังจากการมาของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ บาปติสต้า พบว่าตัวเองไม่มีที่ว่างในทีมเสียแล้ว และถูกปล่อยตัวให้ อาร์เซน่อล ยืมไปใช้งานสลับกับ อันโตนิโอ เรเยส ก่อนจะกลับมาที่ มาดริด อีกครั้งในฤดูกาล 2007/08 ในยุคของ แบรนด์ ชูสเตอร์ แต่ก็ยังไม่อาจแสดงศักยภาพที่เคยทำได้กับ เซบีย่า ได้เสียที เขาลงเล่น 27 นัด และยิงได้เพียง 3 ประตู จบฤดูกาล โรม่า ยื่นข้อเสนอซื้อตัวเขา และ บาปติสต้า ก็ตัดสินใจมุ่งหน้าพิสูจน์ตัวเองที่ อิตาลี ดูบ้าง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 04:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 10   ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ  (Francesco TOTTI) สถานที่เกิด : กรุงโรม วันเกิด : 27 ก.ย. 1976 (อายุ 32 ปี) ส่วนสูง : 180 ซม. น้ำหนัก : 82 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : ศูนย์หน้า, กองกลางตัวรุก ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : เบรสชา 0-2 โรม่า (28 มี.ค. 1993) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 395 นัด ยิงได้ 165 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : - ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 58 นัด ยิงได้ 9 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์ฟุตบอลโลก (อิตาลี) 2006 แชมป์สคูเด็ตโต้ (โรม่า) 2000/01 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย (โรม่า) 2001, 2007 แชมป์ยูโร (อิตาลี ยู-21) 1996 รางวัลนักฟุตบอล เซเรีย อา แห่งปี 2 สมัย (โรม่า) 2000, 2003 รางวัลนักฟุตบอลอิตาเลียนแห่งปี 5 สมัย (โรม่า) 2000, 2001, 2003, 2004, 2007 รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปี เซเรีย อา (โรม่า) 1999 ดาวซัลโวสูงสุด เซเรีย อา (โรม่า) 2006/07 ดาวซัลโวสูงสุดยุโรป (โรม่า) 2006/07 ติดทำเนียบ 1 ใน 125 นักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ จาก FIFA ติดทีมออลสตาร์ ฟุตบอลโลก 2006 (อิตาลี) ติดทีมออลสตาร์ ยูโร 2000 (อิตาลี) ข้อมูลเบื้องต้น : ต๊อตติ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ โรม่า อย่างแท้จริง เขาเป็นชาวโรมันโดยกำเนิด และลงเล่นฟุตบอลอาชีพที่ โรม่า เพียงแห่งเดียวมาตลอด 15 ปีของการค้าแข้ง จากจุดเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลของเขา ด้วยวัยเพียง 8 ปี ก็เข้าสู่ทีมเยาวชน ฟอร์ติตูโต้ เป็นทีมแรก ตามมาด้วย สมิต ตราสเตเวเร่ และ โลดิจานี่ ตามลำดับ ก่อนจะมาเข้าสู่ทีมเยาวชนของ โรม่า ในปี 1989 ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุได้ 13 ปี และเขาก็ไต่เต้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1993 ซึ่งเขาได้โอกาสสัมผัสเกมเซเรีย อา นัดแรก ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น จากพรสวรรค์ความเป็นยอดนักเตะที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัว ต๊อตติ ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของทีมภายในเวลาอันรวดเร็ว ในฤดูกาล 1997/98 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม โรม่า ซึ่งเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ทีม และอีก 3 ปีต่อมา ทีมหมาป่าโดยการคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นแชมป์สคูเด็ตโต้ โดยที่ ต๊อตติ เป็นหัวใจสำคัญในทีมชุดนั้น เขาเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูในเซเรีย อา สูงสุดตลอดกาลของทีม และสูงสุดในบรรดานักเตะทุกคนที่ยังลงเล่นใน เซเรีย อา ในส่วนของทีมชาติอิตาลี เขาเป็นนักเตะ โรม่า ที่ติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาล และมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทั้ง ฟุตบอลโลก 2002 และ 2006 ยูโร 2000 และ 2004 ช่วงกลางฤดูกาล 2005/06 เขาเคยได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นข้อเท้าหักแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงฟอร์มการเล่นแต่อย่างใด เพราะฤดูกาลถัดมา เขายิงไปถึง 26 ประตูในเซเรีย อา ทำให้คว้าดาวซัลโวทั้งของกัลโช่ และทวีปยุโรป ปัจจุบันเขาประกาศอำลาทีมชาติไปแล้ว โดยเจ้าตัวขออุทิศช่วงเวลาที่เหลือให้ โรม่า และครอบครัวของเขา ทุกวันนี้ ต๊อตติ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะ โรม่า ที่ดีที่สุด และเป็นที่รักของแฟนหมาป่ามากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 9   เมียร์โก วูชินิช  (Mirko VUCINIC) สถานที่เกิด : นิกซิช (ประเทศมอนเตเนโกร) วันเกิด : 1 ต.ค. 1983 (อายุ 25 ปี) ส่วนสูง : 186 ซม. น้ำหนัก : 76 กก. สัญชาติ : มอนเตเนโกร ตำแหน่ง : ศูนย์หน้า, กองกลางตัวรุก, ปีกซ้าย ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : โรม่า 1-0 เลชเช่ (18 ก.พ. 2001) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 58 นัด ยิงได้ 11 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2011 (เหลืออีก 3 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : ซุตเจสก้า นิกซิช (มอนเตเนโกร), เลชเช่ ทีมชาติ : เซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร ลงเล่น 2 นัด, มอนเตเนโกร ลงเล่น 9 นัด ยิงได้ 5 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : วูชินิช เริ่มต้นค้าแข้งระดับอาชีพกับทีม ซุตเจสก้า นิกซิช ในบ้านเกิด ก่อนจะถูกแมวมองของ เลชเช่ ดึงตัวมาเล่นใน อิตาลี ซึ่งเขาเติบโตฟูมฟักฝีเท้าในถิ่น เวีย เดล มาเร่ นานถึง 6 ปี กระทั่ง เลชเช่ ต้องตกชั้นในฤดูกาล 2006/07 ต้นสังกัดเลยยอมปล่อยตัวให้ โรม่า ยืมตัวมาใช้งาน วูชินิช ถือเป็นศูนย์หน้าต่างชาติที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของเซเรีย อา ด้วยเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวที่โดดเด่น รูปร่างที่สูงใหญ่ทำให้มีความหลากหลายในการจบสกอร์ สามารถเล่นได้ดีทั้งศูนย์หน้า และปีกซ้ายในระบบของ สปัลเล็ตติ ล่าสุดทีมหมาป่าได้เซ็นสัญญาซื้อขาดถาวรมาจาก เลชเช่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของทีมชาติ เขาเป็นนักเตะยุคใหม่เพียงไม่กี่คนที่เคยลงเล่นให้ 2 ประเทศ อดีตเขาเคยลงเล่นให้ทีมชาติเซอร์เบีย และมอนเตเนโกร จนกระทั่งมีการแยกประเทศเกิดขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ทำให้เกิดเป็นทีมชาติ มอนเตเนโกร ขึ้น ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอันดับ 1 ของทีมชาติไปทันที และได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม นอกจากนี้เขายังได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำประตูแรกในประวัติศาสตร์ของ มอนเตเนโกร อีกด้วย สำหรับเวทีฟุตบอลโลก 2006 ที่จริงแล้วเขามีชื่ออยู่ใน 23 คนสุดท้ายของ เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร แต่ดันมาโชคร้ายบาดเจ็บกะทันหันก่อนทัวร์นาเมนต์เพียงไม่กี่วัน ทำให้ต้องถอนตัวออกไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 23   วินเชนโซ่ มอนเตลล่า  (Vincenzo MONTELLA) สถานที่เกิด : โปมิยาโน่ ดาร์โก้ (จังหวัดนาโปลี, แคว้นกัมปาเนีย) วันเกิด : 18 มิ.ย. 1974 (อายุ 34 ปี) ส่วนสูง : 172 ซม. น้ำหนัก : 71 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : ศูนย์หน้า ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : เปรูจา 1-0 ซามพ์โดเรีย (8 ก.ย. 1996) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 180 นัด ยิงได้ 83 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2010 (เหลืออีก 2 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : เอ็มโปลี, เจนัว, ซามพ์โดเรีย, ฟูแล่ม (อังกฤษ) ทีมชาติ : อิตาลี ลงเล่น 20 นัด ยิงได้ 3 ประตู เกียรติประวัติ : แชมป์สคูเด็ตโต้ (โรม่า) 2000/01 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2001 ข้อมูลเบื้องต้น : มอนเตลล่า เป็นเพียง 1 ใน 2 คนกับ ต๊อตติ เท่านั้น ที่ยังหลงเหลือจากทีมชุดแชมป์สคูเด็ตโต้ ในปี 2000/01 ศูนย์หน้าจอมพังประตูเจ้าของฉายา “เครื่องบินน้อย” รายนี้เริ่มค้าแข้งอาชีพกับ เอ็มโปลี ในปี 1990 ซึ่งขณะนั้นต้นสังกัดเขายังเป็นเพียงทีมในระดับเซเรีย ชี 1 เท่านั้น เขาลงเล่นอยู่ถึง 5 ปีเต็ม จนถึงปี 1995 จึงได้ย้ายมาอยู่กับ เจนัว ในเซเรีย บี ก่อนที่อีก 1 ปีถัดมา จะสร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลด้วยการย้ายข้ามมาอยู่กับทีมคู่แข่งอย่าง ซามพ์โดเรีย เพื่อลงเล่นในเซเรีย อา เป็นครั้งแรก ด้วยวัย 22 ปี ในตอนนั้น มอนเตลล่า ยิงประตูให้ ลา ซามพ์ เป็นว่าเล่น โดยยิงไปถึง 54 ประตู ใน 83 นัดที่ลงเล่นเป็นเวลา 3 ปี แต่แล้วในปีที่ 3 นั้นเอง ลา ซามพ์ ที่คุมทีมโดย สปัลเล็ตติ นี่แหล่ะ กลับร่วงตกชั้นไปเซเรีย บี อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ มอนเตลล่า ถูก โรม่า ซื้อตัวมาร่วมทีมในฤดูกาล 1999/2000 และเขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าสคูเด็ตโต้ ในอีก 1 ปีต่อมาได้สำเร็จ ตามมาด้วยการติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 ในปี 2004/05 โรม่า ทำผลงานในลีกไม่ดี แต่ มอนเตลล่า กลับได้รับคำชมเพราะยิงไปถึง 21 ประตู อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปเขาเริ่มอายุมากขึ้น ประกอบกับ สปัลเล็ตติ ใช้ ต๊อตติ เป็นกองหน้าคนเดียว ทำให้เขาไม่มีที่ว่างในทีมก่อนจะถูกปล่อยตัวให้ ฟูแล่ม กับ ซามพ์โดเรีย ยืมไปใช้งาน ล่าสุดในฤดูกาล 2008/09 นี้ มอนเตลล่า ฮีโร่คนเก่าขอกลับมาหาแฟนๆหมาป่าที่กรุงโรมอีกครั้ง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 89   สเตฟาโน่ โอกาก้า ชูก้า  (Stefano OKAKA Chuka) สถานที่เกิด : คาสติญอน เดล ลาโก้ (จังหวัดเปรูจา, แคว้นอุมเบรีย) วันเกิด : 8 ก.ย. 1989 (อายุ 19 ปี) ส่วนสูง : 186 ซม. น้ำหนัก : 82 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : ศูนย์หน้า ลงสนามในเซเรีย อา นัดแรก : ซามพ์โดเรีย 1-1 โรม่า (18 ธ.ค. 2005) ลงสนามให้ โรม่า ในเซเรีย อา : 14 นัด ยิงได้ 1 ประตู วันสิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย. 2012 (เหลืออีก 4 ปี) สโมสรอาชีพที่เคยสังกัด : โมเดน่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย (โรม่า) 2006/07 ข้อมูลเบื้องต้น : โอกาก้า ถือกำเนิดจากครอบครัวชาวไนจีเรียน ที่เข้ามาอาศัยใน อิตาลี ทำให้เขาได้รับสัญชาติอิตาลี มาตั้งแต่กำเนิด ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ โอกาก้า ก็เริ่มเข้าสู่ทีมฟุตบอลเยาวชนกับ คาสติญอนเนเซ่ ทีมท้องถิ่นแล้ว ก่อนที่จะไปยัง ซานฟาตุคคิโอ และ เชนโตร อิตาเลีย ปาร์ม่า ในปี 2001 จากนั้นอีก 1 ปีต่อมา เขาเดินทางไปร่วมทีมเยาวชนของ ซิตตาเดลล่า อยู่ 2 ปี จนกระทั่งในปี 2004 จึงได้มาร่วมทีมเยาวชนของ โรม่า ในที่สุด ในฤดูกาล 2005/06 โอกาก้า เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก และจากการที่ได้ลงเล่นในเกม UEFA Cup กับ อริส จากกรีซ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอิตาเลียนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเวทีฟุตบอลยุโรป ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น โอกาก้า มาทำประตูแรกในเสื้อ โรม่า ได้เกมโคปปา อิตาเลีย กับ นาโปลี ช่วงปลายปี 2005 ก่อนจะมายิงประตูแรกใน เซเรีย อา ในการเจอกับ เซียน่า ในฤดูกาล 2006/07 อย่างไรก็ตามด้วยความที่อายุยังน้อย และระบบของ โรม่า ในทีมชุดใหญ่มี ต๊อตติ จองตำแหน่งประจำอยู่แล้ว สปัลเล็ตติ จึงปล่อยตัวเขาให้ โมเดน่า ทีมใน เซเรีย บี ยืมตัวไปใช้งาน ที่นี่ โอกาก้า ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และทำผลงานได้ดี ก่อนกลับมายังกรุงโรม ฤดูกาล 2008/09 สปัลเล็ตติ เคยคิดจะปล่อยเขาให้ โบโลญญ่า ยืมตัวต่ออีก แต่เปลี่ยนใจนาทีสุดท้าย เขาเลยมีโอกาสได้อยู่ช่วยทีมอีกครั้ง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ  (Luciano SPALLETTI) สถานที่เกิด : แชร์ตัลโด้ (จังหวัดฟิเรนเซ่, แคว้นตอสกาน่า) วันเกิด : 7 มี.ค. 1959 (อายุ 49 ปี) ส่วนสูง : 180 ซม. น้ำหนัก : 75 กก. สัญชาติ : อิตาลี ตำแหน่ง : เทรนเนอร์ สโมสรอาชีพที่เคยคุม : เอ็มโปลี, ซามพ์โดเรีย, เวเนเซีย, อูดิเนเซ่, อันคอน่า ทีมชาติ : - เกียรติประวัติ : แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (โรม่า) 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า (โรม่า) 2007 แชมป์โคปปา อิตาเลีย เซเรีย ชี (เอ็มโปลี) 1995/96 รางวัลเทรนเนอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี เซเรีย อา 2 สมัย (โรม่า) 2006, 2007 ข้อมูลเบื้องต้น : สปัลเล็ตติ เริ่มต้นคุมทีม เอ็มโปลี ตั้งแต่ปี 1993 ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในเซเรีย ชี 1 เขาสร้างผลงานอันสุดยอดด้วยการพาทีมไต่เต้าขึ้นมาถึงเซเรีย อา ได้ในปี 1997/98 ก่อนที่จะอำลาไปคุมทีม ซามพ์โดเรีย ในฤดูกาล 1998/99 แต่ในปีนั้น สปัลเล็ตติ ประสบความล้มเหลว เมื่อไม่สามารถพาทีม ลา ซามพ์ ที่เต็มไปด้วยสตาร์ดัง อยู่รอดในเซเรีย อา ได้ ปีถัดมา เขาเข้าไปคุมทีม เวเนเซีย ลงเล่นในเซเรีย อา แต่ทีมก็ตกชั้นไปเซเรีย บี อีกครั้ง ถึงกระนั้น สปัลเล็ตติ ก็ยังถูกดึงตัวไปคุม อูดิเนเซ่ ในฤดูกาล 2000/01 ก่อนจะถูกแทนที่โดย ลุยจิ เด คานิโอ ช่วงกลางฤดูกาล ทำให้เขาต้องไปรับงานในระดับเซเรีย บี กับ อันคอน่า ในปีถัดมา กระทั่ง เด คานิโอ ถูก อูดิเนเซ่ ปลด กลายเป็นว่า สปัลเล็ตติ ได้กลับเข้ามาคุม อูดิเนเซ่ อีกครั้ง และเขาไม่พลาดอีก เมื่อพาทีมจาก อูดิเน่ โชว์ผลงานร้อนแรง ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2004/05 เขาพา อูดิเนเซ่ จบอันดับ 4 ในตาราง ได้สิทธิ์ไปเล่น Champions League แต่เจ้าตัวกลับตัดสินใจลาออก เพื่อมาคุมทีม โรม่า ที่ได้สิทธิ์แค่ไป UEFA Cup เท่านั้น เขาช่วยจัดระเบียบจากทีมที่เละไม่มีชิ้นดี ให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาในฤดูกาล 2005/06 คือการพา โรม่า สร้างสถิติประวัติศาสตร์ด้วยการชนะคู่แข่ง 11 นัดติดต่อกันในเซเรีย อา อย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่ผลงานใน 2 ฤดูกาลล่าสุดก็ไม่ธรรมดา เขาพาทีมจบด้วยการเป็นรองแชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ปีติดต่อกัน ได้แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย และพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย Champions League 2 ปีซ้อน จนได้รางวัลเทรนเนอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2 สมัย ปัจจุบัน โรม่า ภายใต้การนำของ สปัลเล็ตติ สามารถกลับมาเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของยุโรปอีกครั้ง และได้ชื่อว่ามีสไตล์การเล่นที่สวยงาม เอนเตอร์เทนแฟนบอล มากที่สุดทีมหนึ่ง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ข้อมูลสโมสร โรม่า สนามแข่ง : สนามกีฬาโอลิมปิก กรุงโรม (สตาดิโอ โอลิมปิโก) สนามซ้อม : ศูนย์กีฬา ฟลูวิโอ แบร์นาดินี่ ถนนตริกอเรีย กรุงโรม ประธานสโมสร : โรเซลล่า เซนซี่ ผู้อำนวยการกีฬา : ดาเนียเล่ ปราเด้ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค : บรูโน่ คอนติ ผู้จัดการทีม : ซัลวาตอเร่ สกาญ่า เทรนเนอร์ : ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ผู้ช่วยเทรนเนอร์ : มาร์โก โดเมนิคินี่ เทรนเนอร์ผู้รักษาประตู : อาเดรียโน่ โบนายูติ โค้ชฟิตเนส : วิโต้ สกาล่า หัวหน้าแพทย์ประจำทีม : มาริโอ บรอซซี่ โค้ชทีมเยาวชน ปรีมาเวร่า : อัลแบร์โต้ เด รอสซี่ เกียรติประวัติสโมสร แชมป์สคูเด็ตโต้ (เซเรีย อา) 3 สมัย : 1941/42, 1982/83, 2000/01 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 9 สมัย : 1963/64, 1968/69, 1979/80, 1980/81, 1983/84, 1985/86, 1990/91, 2006/07, 2007/08 แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย : 2001, 2008 แชมป์เซเรีย บี 1 สมัย : 1951/52 แชมป์แฟร์ส คัพ 1 สมัย : 1960/61 แชมป์แองโกล-อิตาเลียน คัพ 1 สมัย : 1971/72 แชมป์ลีกเยาวชน ปรีมาเวร่า 6 สมัย : 1972/73, 1973/74, 1977/78, 1983/84, 1989/90, 2004/05 แชมป์โคปปา อิตาเลีย เยาวชน 3 สมัย : 1973/74, 1974/75, 1993/94 แชมป์เยาวชนนานาชาติ เวียเรจโจ้ 3 สมัย : 1981, 1983, 1991 หมายเหตุ : โรม่า เป็นทีมที่ลงเล่นใน เซเรีย อา มากถึง 76 ฤดูกาล จากประวัติศาสตร์ลีกที่มีแข่งทั้งสิ้น 77 ฤดูกาล ขาดไปเพียงปีเดียวเท่านั้น คือในฤดูกาล 1951/52 (สถิติเป็นรอง อินเตอร์ ทีมเดียวที่แข่งครบทั้ง 77 ฤดูกาล และเท่ากับ ยูเวนตุส ที่แข่ง 76 ฤดูกาล) เท่ากับว่าในฤดูกาลล่าสุดคือ 2008/09 ทีมหมาป่าจะลงเล่นใน เซเรีย อา เป็นปีที่ 57 ติดต่อกัน จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอลิมปิโก้ – ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม นับตั้งแต่ปี 1955 โรม่า และ ลาซิโอ ย้ายจากสนาม ฟลามินิโอ ซึ่งจุผู้ชมได้เพียง 24,973 คน มายังสนามกีฬาโอลิมปิก กรุงโรม (สตาดิโอ โอลิมปิโก้) ซึ่งจุผู้ชมได้มากถึง 82,000 คน เพื่อรองรับจำนวนแฟนฟุตบอลที่มากขึ้น สนามแห่งนี้ถือว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่ผ่านมาเคยได้รับเลือกให้จัดเกมนัดสำคัญมากมาย ทั้งนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ในปี 1990 ฟุตบอลยูโร นัดชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง ในปี 1968 และ 1980 รวมทั้งเกม European Cup หรือ UEFA Champions League นัดชิงชนะเลิศมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 1977, 1984 และ 1996 และจะได้จัดอีกครั้งในฤดูกาล 2008/09 นี้ รวมแล้วเป็น 4 ครั้งที่ได้รับเกียรติ สนามแห่งนี้เพิ่งทำการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว โดยเพิ่มที่นั่งขนาดใหญ่กว่าของเดิมเข้าไปทดแทนหลายจุด ทำให้ความจุลดลงมาเหลือ 72,698 ที่นั่งในปัจจุบัน UEFA ยกย่องให้ที่นี่เป็นสนามที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เกรด 5 ดาว อีกทั้งบรรยากาศของเกมใน โอลิมปิโก้ นั้นก็ได้รับการกล่าวขานจากแฟนบอลว่าได้อารมณ์ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมดาร์บี้แมตช์กรุงโรม ระหว่าง โรม่า กับ ลาซิโอ จะมีทั้งป้ายผ้าขนาดยักษ์ และพลุไฟสร้างสีสันจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเกม ในส่วนของทีมชาติอิตาลี ก็มักมีผลงานที่ดียามที่ลงแข่งขันที่นี่ ล่าสุดก็ในเกมกับทีมชาติยูเครน ในฟุตบอลยูโร 2008 รอบคัดเลือก บรรยากาศในวันนั้นสุดยอดมากถึงขั้นที่คณะกรรมการของ FIGC บางคนคิดอยากจะเสนอให้ โอลิมปิโก้ เป็นสนามเหย้าถาวรของทีมชาติแบบเดียวกับ เวมบลีย์ ของอังกฤษ หรือ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ของฝรั่งเศส เลยทีเดียว แต่ข้อเสนอดังกล่าวต้องล้มเลิกไปก่อน เพราะเสียงส่วนใหญ่ยังอยากให้เกมระดับชาติกระจายเตะแบบทั่วถึงทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าวิตกไม่น้อย ที่ยอดจำนวนแฟนบอลของทั้ง โรม่า และ ลาซิโอ ใน โอลิมปิโก้ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆอย่างน่าใจหาย เพราะในฤดูกาล 2007/08 ที่ผ่านมา มีแฟนบอลหมาป่าเข้ามาชมเกมโดยเฉลี่ยเพียง 35,982 คนต่อนัดเท่านั้น ขณะที่ ลาซิโอ ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เฉลี่ยแล้วมีผู้ชมแค่ 21,607 คนต่อนัด จากอดีตที่เคยรุ่งเรือง เคยมีแฟนบอลอยู่ในหลักเฉลี่ย 4-5 หมื่นคน อย่าง โรม่า ยอดผู้ชมเคยพุ่งไปสูงถึง 63,370 คนต่อนัด ในปี 2000/01 ที่ทีมคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ ส่วน ลาซิโอ เองก็ไม่ธรรมดา มีแฟนบอลมากถึง 53,184 คนในปี 1998/99 ไม่รู้แฟนบอลเหล่านี้หายหน้าไปไหนหมด เหตุผลด้านความปลอดภัยในสนามอาจเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องดังกล่าว ปัจจัยรองลงมาคือผลงานและสภาพทีมที่ต้องประสบกับภาวะวิกฤตทางการเงินอย่างต่อเนื่อง อย่าง โรม่า เคยมียอดผู้ชมติดระดับท็อป 5 ของยุโรปมาแล้ว ในปีที่ได้สคูเด็ตโต้ คนดูสูงเป็นอันดับ 4 ของยุโรป (63,370) ค่าเฉลี่ยเป็นรองแค่ แมนฯยูไนเต็ด (67,490), เรอัล มาดริด (64,475) และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (63,729) เท่านั้น มาตอนนี้ร่วงไปอยู่ใกล้อันดับ 40 ของยุโรปแล้ว ส่วน ลาซิโอ ที่เคยอยู่สูงถึงที่ 10 ปัจจุบันร่วงไปอันดับเกือบ 80 ไม่น่าเชื่อจริงๆ ในส่วนของ โรม่า ก็ได้แต่หวังว่าแบบเพ้อฝันว่ายอดผู้ชมจะกลับมาอยู่ในระดับ 4 หมื่นคนเป็นอย่างน้อยก็ยังดี อยากเห็นบรรยากาศแบบในเกมดาร์บี้แมตช์ และเกม Champions League ใน เซเรีย อา บ้าง ผมเชื่อว่าพลังแฟนบอลหมาป่ามีเยอะ เวลาได้แชมป์ยังเห็นออกมาฉลองกันเป็นล้านคนแน่นกรุงโรมเลย วกกลับมาพูดถึงเกม Champions League 2009 อีกครั้ง เนื่องจากเป็นสนามเหย้าของ โรม่า ด้วย แฟนบอลหลายคนเลยตั้งเป้าในเวทียุโรปมากกว่า สคูเด็ตโต้ ไปเสียแล้ว หากจับพลัดจับผลูไปถึงรอบชิงฯขึ้นมา อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นกับฟุตบอลลูกกลมๆ บรูโน่ คอนติ ที่ได้รับเลือกจาก UEFA ให้เป็นหน้าเสื่อดูแลเกมดังกล่าวเคยมีประสบการณ์นัดชิงถ้วยยุโรปที่ โอลิมปิโก้ มาแล้วในปี 1984 ซึ่งผลจบลงด้วยความเศร้า เพราะทีมหมาป่าได้เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ แต่เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไม่สำเร็จ ก่อนจะพ่ายการดวลจุดโทษไปอย่างเจ็บแสบ ดังนั้นปีนี้ โรม่า จะเน้นทุ่มสุดตัวกับเวทียุโรปเพื่อกลับไปแก้ไขความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่จะทำได้หรือไม่อย่างไรนั้น อีก 31 ทีมในรอบแบ่งกลุ่มจะให้คำตอบเอง ขอต้อนรับสู่กรุงโรม สังเวียนตัดสินแชมป์ยุโรป 2009 ครับ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผลงานของทีมหมาป่าช่วงพรีซีซั่น 2008/09 นัดที่ 1   สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) 3-1 โรม่า นัดที่ 2   โมนาโก (ฝรั่งเศส) 0-0 โรม่า นัดที่ 3   อัล อาห์ลี (อียิปต์) 0-3 โรม่า นัดที่ 4   ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ) 5-0 โรม่า นัดที่ 5   โฟรซิโนเน่ 0-1 โรม่า ผลงานพรีซีซั่น 2008/09 ถอดแบบฤดูกาล 2007/08 มาเลยครับ นั่นคือแพ้เละหลุดลุ่ยจริงๆ โดยเฉพาะเกมที่บุกไปโดน สเปอร์ส ถล่ม 5-0 ไม่รู้ทำไปได้ไง ก็ต้องยอมรับว่าการที่ กัลโช่ เริ่มเตะช้า สภาพร่างกายของนักเตะเลยสู้กับลีกอื่นๆที่เตะก่อน เริ่มเก็บตัวก่อนลำบาก ยิ่ง โรม่า ดันรวมพลเป็นทีมสุดท้ายของ อิตาลี เลยด้วย ความแตกต่างเลยยิ่งชัดเจน ก็พยายามจะไม่คิดอะไรมากครับ เพราะปีที่แล้วก็แย่แบบนี้แหล่ะ ผ่านเกมทางการ 1-2 นัด ทุกอย่างก็น่าจะเข้าสู่สภาวะปกติไปเอง จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โปรแกรมกัลโช่ เซเรีย อา ของ โรม่า ประจำฤดูกาล 2008/09 นัดที่ 1     31 ส.ค. 2008     โรม่า – นาโปลี นัดที่ 2     13 ก.ย. 2008     ปาแลร์โม่ – โรม่า นัดที่ 3     21 ก.ย. 2008     โรม่า – เรจจิน่า นัดที่ 4     24 ก.ย. 2008     เจนัว – โรม่า นัดที่ 5     28 ก.ย. 2008     โรม่า – อตาลันต้า นัดที่ 6     5 ต.ค. 2008     เซียน่า – โรม่า นัดที่ 7     19 ต.ค. 2008     โรม่า – อินเตอร์ นัดที่ 8     26 ต.ค. 2008     อูดิเนเซ่ – โรม่า นัดที่ 9     29 ต.ค. 2008     โรม่า – ซามพ์โดเรีย นัดที่ 10     2 พ.ย. 2008     ยูเวนตุส – โรม่า นัดที่ 11     9 พ.ย. 2008     โบโลญญ่า – โรม่า นัดที่ 12     16 พ.ย. 2008     โรม่า – ลาซิโอ นัดที่ 13     23 พ.ย. 2008     เลชเช่ – โรม่า นัดที่ 14     30 พ.ย. 2008     โรม่า – ฟิออเรนติน่า นัดที่ 15     7 ธ.ค. 2008     คิเอโว่ – โรม่า นัดที่ 16     14 ธ.ค. 2008     โรม่า – กายารี่ นัดที่ 17     21 ธ.ค. 2008     คาตาเนีย – โรม่า นัดที่ 18     11 ม.ค. 2009     โรม่า – มิลาน นัดที่ 19     18 ม.ค. 2009     โตริโน่ – โรม่า นัดที่ 20     25 ม.ค. 2009     นาโปลี – โรม่า นัดที่ 21     28 ม.ค. 2009     โรม่า – ปาแลร์โม่ นัดที่ 22     1 ก.พ. 2009     เรจจิน่า – โรม่า นัดที่ 23     8 ก.พ. 2009     โรม่า – เจนัว นัดที่ 24     15 ก.พ. 2009     อตาลันต้า – โรม่า นัดที่ 25     22 ก.พ. 2009     โรม่า – เซียน่า นัดที่ 26     1 มี.ค. 2009     อินเตอร์ – โรม่า นัดที่ 27     8 มี.ค. 2009     โรม่า – อูดิเนเซ่ นัดที่ 28     15 มี.ค. 2009     ซามพ์โดเรีย – โรม่า นัดที่ 29     22 มี.ค. 2009     โรม่า – ยูเวนตุส นัดที่ 30     5 เม.ย. 2009     โรม่า – โบโลญญ่า นัดที่ 31     11 เม.ย. 2009     ลาซิโอ – โรม่า นัดที่ 32     19 เม.ย. 2009     โรม่า – เลชเช่ นัดที่ 33     26 เม.ย. 2009     ฟิออเรนติน่า – โรม่า นัดที่ 34     3 พ.ค. 2009     โรม่า – คิเอโว่ นัดที่ 35     10 พ.ค. 2009     กายารี่ – โรม่า นัดที่ 36     17 พ.ค. 2009     โรม่า – คาตาเนีย นัดที่ 37     24 พ.ค. 2009     มิลาน – โรม่า นัดที่ 38     31 พ.ค. 2009     โรม่า – โตริโน่ หมายเหตุ : วันแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์บางนัด อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นวันเสาร์ในภายหลัง สุดท้ายต้องขอบคุณข้อมูลจาก asroma.it สำหรับรูปนักเตะสวยๆ ข้อมูลส่วนสูง-น้ำหนัก และสถิติการลงเล่น Wikipedia ข้อมูลมากมายสารพัดหาได้หมด โดยเฉพาะประวัติทีมที่เคยเล่น สถิติการลงเล่น Transfermarkt.de ข้อมูลเรื่องสัญญาของนักเตะ สถิติการลงเล่นจำแนกเป็นนัดๆ Football Italia ข่าวสารต่างๆ เกียรติประวัติของทีมหมาป่า ช่วงนี้ ต๊อตติ เจ็บออดๆแอดๆ เซ็งครับ ไม่รู้จะหายกลับมาลงสนามอีกทีนัดไหน แต่เกมกับ ปาแลร์โม่ วันเสาร์นี้อดลงแน่นอน ใกล้วันเกิดลูกพี่เราเข้ามาทุกทีแล้วแฮะ 32 แล้ว ขอให้หายไวๆครับ สำหรับบอลคู่ ปาแลร์โม่ – โรม่า เตะคืนวันเสาร์นี้นะครับ ตอน 5 ทุ่ม true ไม่ได้ถ่ายทอดสดเพราะได้โควตาคู่อื่นๆครบ 4 คู่แล้ว แฟนๆหมาป่าทั้งหลายต้องหาดูทางเน็ตกันเอาเอง แล้วเจอกันอีกครั้งในรีวิวหลังเกมครับ Forza Roma ..    Forza Totti .. จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ลงรูป โอลิมปิโก้ อีกแล้วกัน หาจาก google ครับ บรรยากาศยามใช้เป็นสังเวียนของทีมชาติอิตาลี จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปิดท้ายด้วยรูปบรรยากาศก่อนเกม เซเรีย อา ครับ หาใน google นี่แหล่ะ รออยู่ว่าเมื่อไหร่คุณ danielle จะบุกกรุงโรม เก็บภาพสวยๆมาฝากกันอีกครั้ง ถ้าได้เข้ามาอ่าน จะบอกว่าผมรออยู่นะครับ ปล. แฟนๆ โรม่า ยังเหลืออยู่ในนี้กี่คนล่ะเนี่ย ลงชื่อบอกกันด้วยนะ จากคุณ : il giallorossi - [ 13 ก.ย. 51 05:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาอ่านแล้วครับ แต่ต้องบอกคุณ il giallorossi ก่อนว่าในนัดเปิดนั้นโรมแตกครับ โรมแตก... สยองจนต้องหนีพรรคพวกบอกมาครับ กำลังจะกลับไปยุโรปอีกครั้งวันจันทร์นี้ เดี๋ยวจะแว๊บไปเอาภาพมาให้น่ะครับ ถ้าทันได้ดูยูฟ่าจะเอาภาพมาฝากครับ แต่ล่าสุดพรรคพวกบอกว่า นัดแรกที่เปิดสนาม แฟนบอลจากถิ่นเวซูเวียส นาโปลีก่อการจราจลเล็กๆ ที่แตมินี่สถานีที่โรม เพราะตั๋วไม่มี (ก็น่าแปลก) สนามโรมมันใหญ่มากๆ ให้ยังไงก็ต้องมีตั๋ว แต่กลับไม่มีไม่น่าเชื่อเลย ไม่เชื่อถามตามาร์คดูครับ ตานี่เขารีวิวบอลฟีฟ่า จากคุณ : danielle - [ 13 ก.ย. 51 06:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ข้อมูลปื้กมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : ปลายธันวา - [ 13 ก.ย. 51 07:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สุดยอดครับ ข้อมูลแน่นมาก จากคุณ : TongKenTian - [ 13 ก.ย. 51 08:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สุดยอดครับ forza romanista! จากคุณ : torlufc` - [ 13 ก.ย. 51 11:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สุดยอดข้อมูลอีกแล้วค่ะท่าน จะคอยดูผลงานทีมหมาป่านะฮะ ปล. เพิ่งรู้ว่า Menez อายุ 21 ตอนแรกนึกว่า 30 >_< จากคุณ : ha-meow - [ 13 ก.ย. 51 12:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สุดยอดไม่มีเปลี่ยนครับ จากคุณ : Chevalier_ZII - [ 13 ก.ย. 51 13:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สุดยอดนะครับ  สุดยอดจริงๆจากใจ จากคุณ : anya (rafaelo) - [ 13 ก.ย. 51 13:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่นำมาให้อ่านครับ จากคุณ : Bamzter (Faith Fury) - [ 13 ก.ย. 51 14:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่า สุดยอดครับ ดูๆแล้ว ทีมตัวหลักยืนด้วยอายุ 24-34 ได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ เสียดาย ยังอยากได้กองหน้าคมๆ เหมือนบาติโกล์ สมัยนู้น ต้องรอดูกันไปว่า ปีนี้จะขับเคี่ยวกับ inter ได้แค่ไหน สู้ๆๆสปัลเล็ตติ  หมาป่ากรุงโรม เย้วๆๆ จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ - [ 13 ก.ย. 51 15:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาอ่านเหมือนเดิมครับ ข้อมูลยังแน่นปึ๊กเช่นเคยนะครับ (จริงๆ อ่านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ไม่ได้โพสข้อความ เพราะไม่กล้าโพสแทรกรอให้คุณต้นโพสเสร็จทีเดียวก่อน แต่รอไม่ไหว ตาปิดซะก่อน 555) ... จากคุณ : pinturicchio boy - [ 13 ก.ย. 51 19:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยังไม่ได้อ่านครับ ลงชื่อไว้ก่อน แต่ดูผ่านๆแล้ว ข้อมูลเยี่ยมมากครับ จากคุณ : anugal - [ 18 ก.ย. 51 01:37:38 ]