ความคิดเห็นที่ 5

ข่าวประจำวันที่ 14/09/2008
*-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
รายงานการแข่งขัน: แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0 - 4 อาร์เซนอล
อาร์เซนอลเริ่มต้นสัปดาห์ของการเดินทางที่ยาวนานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยการบุกไปถล่มแบล็คเบิร์นอย่างสบายๆ 4-0
ธีโอ วอลค็อตต์ ฮีโร่ของอังกฤษ เปิดบอลให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ทำประตูแรกในนาทีที่ 8 แต่หลังจากนั้นเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ก็กลายเป็นจุดศูนย์รวมของทุกอย่าง เขาเริ่มต้นจากการโหม่งประตูแรกได้ก่อนจะจบครึ่งแรก ตามด้วยการยิงจุดโทษในนาทีที่ 81 และทำแฮตทริกได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
แบล็คเบิร์นสู้ได้ในช่วง 45 นาทีแรกแต่ก็แผ่วลงไปมากในครึ่งหลัง อาร์เซนอลเล่นได้มีประสิทธิภาพมากกว่าจะเน้นความสวยงาม แต่นั่นคือคุณสมบัติที่จำเป็นในเกมนี้ ตอนนี้พวกเขาลงเล่นไปแล้ว 6 นัดในฤดูกาลใหม่ โดยชนะถึง 5 นัดและเสียไปแค่ประตูเดียว
มันเป็นสถิติที่น่าภูมิใจแต่เป็นสถิติที่จะถูกทดสอบอย่างหนักหน่วงในสัปดาห์นี้ เมื่ออาร์เซนอลต้องเจอกับเกมนอกบ้านนัดต่อไปด้วยการไปเยือนดินาโม เคียฟและโบลตัน ซึ่งมีระยะทางรวมกันถึง 3,400 ไมล์
เมื่อพูดถึงการเดินทางแล้ว แจ๊ค วิลเชียร์ได้เริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จกับอาร์เซนอลในเกมนี้ เขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกมและทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในลีกให้กับสโมสรด้วยวัยเพียง 16 ปี 256 วัน
ในระหว่างการเตรียมความพร้อมก่อนเกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์กล่าวว่านักเตะดาวรุ่งอีกคนอย่างวอลค็อตต์อาจจะถูกพักไว้เป็นตัวสำรองหลังโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นเมื่อกลางสัปดาห์ที่ซาเกร็บ แต่สุดท้ายแล้วเขาแค่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น โดยเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ยังได้ลงเล่นทางกราบขวา และนักเตะวัย 19 ปีก็ถูกโยกไปเล่นทางฝั่งซ้าย
จริงๆแล้ววอลค็อตต์เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงตำแหน่งเดียวจากทีมชุดที่ถล่มนิวคาสเซิ่ลเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆบนม้านั่งข้างสนามเมื่อคีแรน กิ๊บส์, อารอน แรมซี่ย์ และวิลเชียร์ต่างมีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย
แบล็คเบิร์นเริ่มต้นเกมอย่างมีชีวิตชีวาโดยส่วนใหญ่มาจากการทำเกมของเบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ลูกโยนเข้ากลางจากฝั่งขวาของมิดฟิลด์ชาวออสเตรเลียดูจะอันตรายตลอดในช่วงต้นเกม แต่กลับเป็นอาร์เซนอลที่คว้าโอกาสของตัวเองเอาไว้ได้
พวกเขาคว้าโอกาสแรกได้ในนาทีที่ 8 เมื่อวอลค็อตต์ได้บอลทางฝั่งซ้ายและเลี้ยงจี้เข้ากลางหลบการเข้าสกัดไปได้สองจังหวะ ก่อนเปิดไปให้ฟาน เพอร์ซี่ที่ริมกรอบเขตโทษด้านใน หัวหอกชาวดัตช์ปล่อยบอลให้ไหลผ่านตัวไปอย่างฉลาดก่อนจะตามไปยิงผ่านมือพอล โรบินสันเข้าไปมุมเสาไกล
แบล็คเบิร์นเกือบจะตอบโต้ได้ในทันทีเมื่ออาร์เซนอลเคลียร์บอลจากเส้นประตูพลาดจนลูกหลุดเข้าที่กรอบเขตโทษ โรเก้ ซานตา ครูซเป็นคนแรกที่เข้าถึงบอลและซัดข้ามคานออกไปจากการไปแฉลบหัวโคโล ตูเร่นิดๆ ถือเป็นจังหวะสำคัญของเกมจังหวะหนึ่ง
อาร์เซนอลเกือบจะทำให้แบล็คเบิร์นต้องชดใช้กับการพลาดไปของตัวเอง เมื่ออเดบายอร์พาบอลทำเกมสวนกลับไปพร้อมกับนักเตะอาร์เซนอลถึงสามคนโดยมีวอลค็อตต์อยู่ทางซ้าย อดีตดาวรุ่งของเซาแธมป์ตันพาตัวเองไปอยู่ในจังหวะที่ได้ปั่นไซด์ด้วยข้างเท้าหวังจะให้เสียบเสาสองแต่ลูกหลุดกรอบไปไกล
แต่โดยรวมแล้วแบล็คเบิร์นก็ตอบโต้ได้ดี อาร์เซนอลดูเหมือนจะพอใจกับประตูที่นำอยู่และปล่อยให้เจ้าบ้านมีพื้นที่ในการทำเกมรุกมากขึ้น ทีมของเวนเกอร์แค่พอใจที่จะใช้จังหวะในการเล่นสวนกลับเท่านั้น
นโยบายดังกล่าวรน่าจะนำประตูที่สองมาสู่พวกเขาได้เมื่อเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เมื่อฟาน เพอร์ซี่ที่ยืนอยู่โล่งๆได้ซัดไปเข้าหน้าต่างจากการได้บอลที่ระยะ 6 หลาหน้าประตู
อย่างไรก็ตามแบล็คเบิร์นก็ยังทำเกมของพวกเขาได้ต่อไปและอาจจะสมควรได้ประตูตีเสมอก่อนจะจบครึ่งแรก โดยจังหวะแรกซานตา ครูซได้ซัดเฉี่ยวเสา หลังจากนั้นสตีเว่น รีดก็มีโอกาสใกล้เคียงอีกครั้ง ตามด้วยคีธ แอนดรูว์ส์ที่ไม่สามารถเข้าชาร์จลูกเปิดเรียดจากทางฝั่งขวาได้ทัน ในนาทีสุดท้ายครึ่งแรกหัวหอกชาวปารากวัยก็ได้ขึ้นโหม่งที่เสาไกลข้ามคานไปอีก
แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับหมัดสวนแบบไม่คาดคิดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก เดนิลสันโยนบอลเข้ากลางไปที่เสาไกลให้อเดบายอร์ขึ้นโขก หัวหอกชาวโตโกไม่ได้มีงานที่ยากอะไรในการโหม่งบอลให้เข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขา
แบล็คเบิร์นพยายามเดินเกมบุกในนาทีแรกๆของครึ่งหลัง แต่ก็ค่อยๆแผ่วไปอย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาคืออาร์เซนอลเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์โอกาสที่จะแจ้งได้อีกหลายครั้ง
วอลค็อตต์เกือบจะก๊อปปี้ประตูแรกที่เขายิงให้อังกฤษเมื่อวันพุธได้, เอบูเอ้ได้ซัดไปถูกโรบินสันปัดข้ามคาน และตูเร่ก็พลาดการขึ้นโหม่งลูกเตะมุมจากระยะแค่ 4 หลาให้เข้าประตู
แบล็คเบิร์นยังพยายามสู้แต่ดูเหมือนพวกเขาจะหมดไอเดียในการทำเกมแล้ว ก่อนหมดเวลา 9 นาทีอาร์เซนอลก็ทำให้เกมจบเมื่อเอบูเอ้ถูกสตีเฟ่น วอร์น็อคเข้าสกัดจนล้มกลิ้ง และอเดบายอร์ก็ซัดจุดโทษเข้าไป
วิลเชียร์ลงไปเล่นในช่วงท้ายเกมและสร้างสถิติใหม่ขึ้น และอเดบายอร์ก็ทำประตูที่สามของเขา ซึ่งเป็นประตูที่ 4 ของอาร์เซนอล ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มันเป็นประตูที่ 50 ของเขากับสโมสร
เมื่อเกมจบลงนักเตะทีมเยือนรีบขอบคุณแฟนบอลและกลับเข้าสู่ห้องแต่งตัวไปทันที พวกเขาต้องรีบเดินทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด มันเป็นสัปดาห์ที่สำคัญ แต่พวกเขาก็เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม อาร์เซนอล:บฝิล มานูเอล อัลมูเนีย, วิลเลี่ยม กัลลาส, โคโล ตูเร่, กาแอล กลิชี่, บาการี ซานญ่า, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (อารอน แรมซี่ย์ 79), เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ธีโอ วอลค็อตต์ (อเล็กซานเดอร์ ซง 63), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (แจ๊ค วิลเชียร์ 81) [b]แบล็คเบิร์น: พอล โรบินสัน, แดนนี่ ซิมป์สัน (แมตต์ ดาร์บี้เชียร์ 72), คริสโตเฟอร์ แซมบา, ไรอัน เนลเซ่น, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, สตีเว่น รีด, คีธ แอนดรูว์ส, มอร์เทน กัมสท์ พีเดอร์เซ่น (คีธ เทรซี่ 67), เจสัน โรเบิร์ตส์ (เบเนดิค แม็คาร์ธี่ 67), โรเก้ ซานตา ครูซ
ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com
จากคุณ :
YesterdayOnceMore
- [
14 ก.ย. 51 10:58:16
]
|
|
|