ความคิดเห็นที่ 4

สิงห์เจ๋ง10ตัวบุกจมเรือ,ปืนยิงสลุต 13/09/2008 23:29:29
" สิงบลูส์" เชลซี โชว์พลังฮึดเหลือ 10 คนแต่ยังไล่ส่อง "เรือใบ" พังเละ 3-1 ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ขโมยซีนเจ้าหนูธีโอด้วยการกระหน่ำแฮตทริกนำทัพปืนบุกยำใหญ่แบล็คเบิร์น 4-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนฯ ซิตี้ 1 - เชลซี 3
คู่ สุดท้ายของวันซึ่งเป็นเกมบิ๊กแมตช์ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้ปล่อยโรบินโญ่สตาร์ตัวใหม่ประเดิมสนามเป็นตัวจริงทันทีเช่นเดียวกับฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ที่ย้ายกลับมาจากเชลซีรวมถึงปาโบล ซาบาเลต้าอีกราย แต่ไมเคิ่ล จอห์นสันกับมาร์ติน เปตรอฟเดี้ยง ขณะที่เอลาโน่มีชื่อเป็นตัวสำรอง
ด้านสิงห์บลูส์ได้โจ โคลที่ศีรษะแตกจากเกมรับใช้ทีมชาติอังกฤษลงบู๊ได้แม้จะต้องโพกหัว อีกทั้งดิดิเยร์ ดร็อกบาก็หายเจ็บกลับมานั่งรออยู่ที่ข้างสนาม ทว่ามิชาเอล บัลลัคยังบาดเจ็บ ขณะที่มิชาแอล เอสเซียงต้องพักยาว
เรือใบสีฟ้าเริ่มเกมได้อย่างวูบวาบ และแค่ 13 นาทีริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ก็ไปทำฟาวล์โชระยะอันตรายทำให้แมนฯ ซิตี้ได้ลูกฟรีคิก 25 หลากลางประตู โรบินโญ่จึงขอรับหน้าที่วิ่งเข้าปั่นบอลข้ามกำแพงตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาดชนิด ปีเตอร์ เช็กไม่ทันกระดิกทำให้เจ้าบ้านนำหน้า 1-0 โดยจอห์น เทอร์รี่มีปากมีเสียงกับเช็กอย่างเผ็ดร้อนด้วย
กระนั้นก็ดี สิงโตน้ำเงินครามลุยแหลกทันควัน และใช้เวลาแค่สามนาทีก็ทวงคืนได้จากลูกเตะมุมด้านขวาที่เทอร์รี่ขึ้นโขกไป ติดโจ โคลพวกเดียวกันกระดอนกลับออกมาจากหน้าปากประตู แต่กลายเป็นดีเข้าทางปืนให้คาร์วัลโญ่ได้กดเต็มข้อจากระยะ 10 หลาเป็นสกอร์ 1-1 ของทีมเยือน
เกมออกรสเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อต่างก็ เปิดเกมรุกสู้กันสุดฤทธิ์ และเป็นแมนฯ ซิตี้ที่ได้เสียวในนาทีที่ 24 จากจังหวะพาบอลตัดจากกราบซ้ายเข้ามาของสตีเฟ่น ไอร์แลนด์แล้วทำชิ่งกับโชก่อนจะแตะหลบเทอร์รี่ได้กระหน่ำอย่างถนัดถนี่จาก หน้าเขตโทษแต่บอลพุ่งโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
ด้านทีมเยือนมาตอบโต้ได้ทันควันในนาทีที่ 28 จากลูกโยนทางฝั่งขวาของโจ โคลที่เปิดทางให้ฟลอร็องต์ มาลูด้าได้โขกเหน่งๆระยะ 6 หลาไม่มีใครคุม ดีที่ว่าโจ ฮาร์ทผวาออกมารบกวนเร็วจึงบีบให้บอลลอยไปกระทบคาน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 34 ก็เป็นทีของทีมเรือใบบ้างจากจังหวะไหลบอลทะลุช่องของโรบินโญ่ที่โชได้ลาก เข้าเขตโทษด้านขวาแล้วตัดสินใจยิงโค้งหวังให้เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลแต่พลาด เป้าไปแบบน่าเสียวไส้
จากนั้นในนาทีที่ 41 นิโกล่าส์ อเนลก้าหัวหอกเชลซีก็ฉีกตัวไปโยนลูกยาวจากปีกขวาให้มาลูด้าโถมโหม่ง แต่ไม่ดีพอบอลหลุดกรอบไป กระนั้นอีกนาทีเดียวโจ โคลก็ได้เปิดลูกเรียดจากเส้นหลังด้านขวาเข้ามา แม้ไม่มีอันตรายแต่ซาบาเลต้าออกลูกลนลานแตะสกัดผิดเหลี่ยมย้อนไปทางเก่าเข้า ทางให้เอนลก้าซัดสวนเข้าใส่มุมแคบ แต่ฮาร์ทล้มตัวเซฟได้หวุดหวิด
เกมยังดำเนินไปอย่างสูสีสุดๆ แต่นาทีที่ 45 จอห์น โอบี มิเกลก็ได้ใบเหลืองจากการเข้าปะทะใส่ไรท์ ฟิลลิปส์เพื่อนเก่า ก่อนที่แอชลีย์ โคลจะพาบอลขึ้นกราบซ้ายแล้วลองส่องไกลข้ามคานไปแบบพอได้ลุ้น จบครึ่งแรกทั้งคู่จึงเจ๊ากันไปอย่างสนุก 1-1
เริ่มครึ่งหลังเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายขยับเข้าหา แต่เป็นสิงโตน้ำเงินครามที่ได้เสียวก่อนในนาทีที่ 50 จากลูกยิงหน้าเขตโทษของโจ โคลที่แฉลบไปให้แฟร้งค์ แลมพาร์ดตวัดวอลเลย์ตามน้ำระยะ 14 หลาโด่งข้ามคาน
อย่างไรก็ดี สามนาทีต่อมาเชลซีก็แซงนำจนได้เมื่อแลมพาร์ดพาบอลบุกขึ้นไปป้ายออกฝั่งซ้าย แล้วมาลูด้ากระแทกคืนให้แลมพ์สบรรจงล็อคหลบริชาร์ด ดันน์ในเขตโทษก่อนจะสับไกด้วยเท้าซ้ายหักข้อเสียบเสาไกลอย่างงดงามพา อาคันตุกะขึ้นนำ 2-1
เท่านั้นเองขุนพลเรือใบก็เดินเกมรุกอย่าง บ้าคลั่ง แต่ถึงนาทีที่ 61 เชลซีก็มาได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายแล้วอเนลก้าโขกสะบัดเฉี่ยวเสาสองออกไปไม่เยอะ ทำเอาแมนฯ ซิตี้ต้องเปลี่ยนดีทมาร์ ฮามันน์ออกให้เกลสัน แฟร์นานเดสลงไปแทน
และแค่สามนาทีเจ้าบ้านก็เกือบตีเสมอได้ จากลีลากระชากบอลขึ้นฝั่งขวาของไรท์ ฟิลลิปส์ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษให้ไอร์แลนด์ได้ตะบันเหน่งๆ 15 หลาทว่ามีมารผจญคาร์วัลโญ่ปรี่เข้ามาสกัดช่วยเซฟให้ทีมเมืองกรุงได้ทันเวลา
โดนเข้าแบบนี้สิงห์บลูส์จึงขู่เรือใบทันทีด้วยลูกยิงหน้าเขตโทษของแลมพ์สในนาทีที่ 66 แต่บอลพุ่งเข้าซองฮาร์ทพอดี
กระนั้นในนาทีที่ 70 เชลซีก็เพิ่มสกอร์จนได้จากจังหวะแทงบอลตัดแนวรับเจ้าบ้านของโจ โคลที่เปิดทางสะดวกให้อเนลก้าหลุดเดี่ยวหนีดันน์เข้าแปสวนทางฮาร์ทตุงตาข่าย จากระยะ 15 หลาพาทีมเมืองหลวงนำหน้า 3-1
เป็นอย่างนี้สิงโตน้ำเงินครามจึงเปลี่ยนชู เลียโน่ เบลเล็ตติกับดร็อกบาลงไปสัมผัสเกมบ้างแทนที่โจ โคลกับมาลูด้า แต่เรือใบสีฟ้ายังไม่ถอดใจพยายามบุกสู้ และถึงนาทีที่ 77 เจทีกัปตันทีมเยือนก็เข้าขวางโชที่กำลังจะหลุดเดี่ยวไปคนเดียวไปจึงได้ใบแดง ทันที
ช่วงที่เหลือแมนฯ ซิตี้อาศัยกำลังพลที่เหนือกว่าโหมบุกเป็นพายุ แต่ไม่อาจเอาชนะเกมรับของผู้มาเยือนได้ หมดเวลาเชลซีจึงบุกมาเก็บสามแต้มอย่างเลิศหรูด้วยการคว้าชัย 3-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, ไมกาห์ ริชาร์ด, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิ่ล บอลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปท์, ดีทมาร์ ฮามันน์, แวงซ็องต์ ก็องปานี, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, โรบินโญ่, โช สำรอง : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, เอลาโน่, ฮาเวียร์ การ์ริโด้, เกลสัน แฟร์นองเดส, เชด อีแวนส์, ทาล เบน-ฮาอิม, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, จอห์น เทอร์รี่, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดโก้, โจ โคล, นิโคล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า
สำรอง : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, เวย์น บริดจ์, โซโลมง กาลู, อเล็กซ์, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ
ที่มา..สยามกีฬา
จากคุณ :
yut
- [
14 ก.ย. 51 18:13:57
]
|
|
|