ความคิดเห็นที่ 1 Dominant & Influential person . . .  Steven Gerrard ดวงอาทิตย์คู่กับแสงแดดฉันใด หงส์แดงย่อมคู่กับเจอร์ราดฉันนั้น ต้องเข้าใจนะครับ สตี่วี่จี กัปตันของเรา เป็นคนที่มีอิทธิพล สูงมาก ๆ ในรั้วแอนฟิลด์ เรียกได้ว่าเด็ก ๆ แถบเมอร์ซี่ไซด์ได้ยินชื่อ ก็ต้องหยุดร้องไห้ ด้วยความที่ว่า สตีวี่ เป็นเสก๊าเซอร์แท้ ๆ ที่เติบโตมาตั้งแต่เล็กกับลิเวอร์พูล กอปรกับฝีเท้าที่จัดจ้าน พึ่งพาได้ทุกสถานการณ์ เลยทำให้ สตีวี่ กลายเป็นสัญลักษณ์ของหงส์แดงอย่างไม่รู้ตัว การมี สตีวี่ ทำให้หงส์แดงมีที่พึ่งได้ยามยาก และสตีวี่ ก็ได้แสดงให้เห็นถึงหลายต่อหลายครั้ง เช่น ลูกยิงโอลิมเปียกอส ลูกยิงเวสต์แฮม ฯลฯ ทำให้บรรดานักเตะทั้งหลาย ต่างก็ยอมรับ และเกรงในบารมีของกัปตันคนนี้ และแน่นอน เมื่ออยู่ในสนาม ไม่ว่าจะเป็นนักเตะหน้าใหม่ หรือหน้าเก่า ๆ เมื่อได้บอลแล้วเงยหน้าต้องการที่จะส่งต่อ ทันทีที่เขาเห็นหน้าสตีวี่ เขาก็จะส่งบอลกันไปให้กัปตันโดยความคิดที่ว่า  "เขาคือสตีวี่จี" และยิ่งยามลำบาก เมื่อทีมต้องการประตู โมเมนตัมของบอล ก็จะยิ่งโถมเข้าไปหา สตีวี่ แน่นอน ราฟาเอล เบนิเตซ เข้าใจในจุดนี้ และพยายามกำชับลูกทีมให้ถ่ายบอลออกไปทั่วสนาม แต่นักเตะที่อยู่ในสนามกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น  เมื่อคุณเป็นนักเตะ คุณต้องการประตู คุณต้องการที่พึ่งพา คุณต้องการใครสักคนมาช่วย ...   เมื่อคุณเงยหน้าแล้วเห็น สตีวี่ นั่นแทบปฏิเสธไม่ได้เลย ที่จะส่งบอลไปให้เขา ทำให้บอลของลิเวอร์พูลส่วนใหญ่ เป็นการเปิดเกมโดยสตีวี่ที่อยู่ตรงกลางสนาม บอลจะถูกถ่ายไปยังตำแหน่งต่าง ๆ โดย สตีวี่ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนรึเปล่า เรามองเห็นได้ชัดเจน ในนัดที่สู้กับยูไนเต็ด เราเป็นทีมที่เหนือกว่า เราต่อบอล เราจ่ายบอลกันอย่างสวยงาม อาจจะเป็นเพราะความเป็นยูไนเต็ด ทำให้เราเล่นได้เช่นนั้น และอีกเหตุผลที่ผมมองว่าจะเกี่ยวข้องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการไม่มี สตีวี่ เมื่อไม่มีสตีวี่ รองกัปตันที่มีอิทธิพลเช่นกัน คือ คาร่า ก็ต้องมาสวมปลอกแขนอันยิ่งใหญ่ แต่คาร่าไม่ใช่มิดฟิลด์ คาร่าไม่ใช่คนที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ คาร่าไม่ใช่สตีวี่ ... โมเมนตัมของเกมส์ไม่ได้โฟกัสที่ใครคนหนึ่ง บอลถูกถ่ายไปทั่วสนาม นักเตะทุกคน เมื่อรู้ว่า เขาไม่มีสตีวี่ให้พึ่ง ต่างก็กล้าเล่นในความสามารถของตัวเอง ทุกคนไม่จำเป็นต้องมองหาใครคนใดคนหนึ่ง หากเพียงแค่ชำเลือง เห็นใครสักคน ก็สามารถที่จะจ่ายบอลออกไปอย่างไม่ลังเล แต่เมื่อมีสตีวี่ มันไม่ใช่ .. นักเตะหลายคนต่างไม่กล้าโชว์ความสามารถของตัวเอง เมื่อเห็นกัปตันขอบอล บอลก็ถูกส่งไปที่เท้ากัปตันโดยอัตโนมัติ .. ลูกบอลจึงไม่ได้อยู่ที่สนาม แต่อยู่ที่เจอร์ราด ... สตีวี่เองก็ใช่ว่าจะสบาย ยิ่งบอลอยู่ที่เขามากเท่าไร เขายิ่งกดดันมากเท่านั้น ยิ่งทีมต้องการประตู สตีวี่จะต้องยิ่งเครียด โมเมนตัมอยู่ที่เขา เขาต้องทำอะไรสักอย่าง เหตุการณ์เช่นนี้ ในบางที ทำให้สตีวี่ไม่อาจแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอาเสียเลย การที่สตีวี่เป็นทุกสิ่งของหงส์แดง นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องไม่ดี หากแต่มันก็คือดาบสองคมดี ๆ นี่เอง ยิ่งสตีวี่เก่งเท่าไร คมดาบอีกข้างก็ยิ่งแหลมเท่านั้น ยิ่งสตีวี่เก่ง ทุกคนต่างเชื่อใจ พร้อมใจกันถ่ายบอลให้ และนี่เอง คือจุดอ่อนในจุดแข็งของลิเวอร์พูล สตีวี่พึ่งพาได้จริง แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา ไม่ใช่ตอนที่หงส์แดงต้องการประตู หากเพียงแต่ สตีวี่คือคนที่หงส์แดงต้องการเพื่อสร้างปาฏิหาริย์เท่านั้น ! เอล บอส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้จิตวิทยา ปรับเปลี่ยนทัศนคติของนักเตะ (player's attitude) ให้เร็วที่สุด สตีวี่ไม่ใช่หงส์แดง ทุก ๆ คนต่างหากคือหงส์แดง เราทุกคนสร้างสรรค์ประตูและการต่อบอลได้ ไม่ใช่แต่สตีวี่เท่านั้น พึงระลึกไว้ว่า สตีวี่ คือคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้ และคำว่าปาฏิหาริย์ ไม่ได้มีบ่อย ๆ ! จากคุณ : - แมวน้อยหน้าขาว - - [ 21 ก.ย. 51 01:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเจาะไม่ได้ ก็มีสองวิธี หนึ่งคือบุกด้านข้าง สองคือยิงไกล .. เมื่อหงส์แดง ทำเกมส์ไม่ได้อย่างที่เคยแล้ว ก็ต้องใช้ หนึ่งในสองวิธีนี้ และแน่นอน เอล บอส ชื่นชอบที่จะบุกจากด้านข้างมากกว่า การยิงไกลที่โอกาสสำเร็จยากยิ่ง เอลบอส นิยมให้ปีกทั้งสองข้าง (เค้าท์  บาเบิล/ริเอร่า ) หุบเข้ากลาง หรือลากตัดเข้ามาอยู่บ่อย ๆ แล้วใช้บริการจากแบ็คทั้งสองข้าง เดินเกมส์ริมเส้นเมื่อทีมต้องการ แต่แล้ว เกมส์ริมเส้นของหงส์แดง กลับเป็นหลุมพรางฆ่าตัวเองชัด ๆ เมื่อปัจจัยของหงส์แดงนั้นไม่พร้อมทั้งสองปัจจัยคือ หนึ่ง หงส์แดงไม่มีตัวเปิดที่แม่น ๆ สักคน (ยกเว้นออเรลิโอ้ ที่เจ็บบ่อย) สอง หงส์แดงไม่มีอาวุธหนักที่จะเล่นลูกกลางอากาศได้ เมื่อหงส์แดงจำเป็นต้องเล่นริมเส้น เอล บอส นิยมที่จะใช้แบค นั้น ครอสบอลเข้ากลางมากกว่า ซึ่งจากลูกครอสของ อาเบลัว หรือ ดอสเซน่า จนกระทั่งปัจจุบันนี้ 10 ลูกจะเข้าตาสัก 1 ลูกได้ ซึ่งนี่มันนรกชัด ๆ กองหลังพรีเมียร์ แม้กระทั่งทีมระดับไม่เก่งมาก สามารถที่จะรับมือกับลูกครอสของสองฟูลแบ็คหงส์แดงนี้ได้อย่างไม่ลำบากมาก ในขณะเดียวกัน เมื่อครอสเข้ามาได้แล้ว หงส์แดงก็ไม่มีอาวุธหนักที่จะจบสกอร์ได้ นับตั้งแต่ขายเคร้าช์ชี่ไป จริง ๆ เคร้าช์เองก็ไม่ใช่อาวุธหนักมาก เพียงแต่ความสูงโย่งของเขา ได้เปรียบมาก ๆ เมื่อเล่นลูกกลางอากาศ ทั้งนี้เมื่อหงส์แดง มีแค่ ตอเรส คีน ซึ่งต่างไม่ใช่กองหน้าสไตล์นี้ทั้งคู่ ทำให้เกมส์ริมเส้นของหงส์ บอดสนิทอย่างที่เห็นกัน เมื่อเกมส์ริมเส้นใช้ไม่ได้ผล เอล - บอส ก็ต้องสั่งให้ลูกทีมลองยิงไกลบ้าง ซึ่ง ลูกยิงไกล ของอลอนโซ่ เจอร์ราด หรือคนอื่น ๆ ก็ยังไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก อันที่จริง เราน่าจะลองฝึกลูกยิงไกลมากกว่า ที่จะมาลุ้นริมเส้นมากกว่าเสียอีก ปัญหาเกมส์ริมเส้นของหงส์แดงนี้ อาจเสริมประสิทธิภาพโดย ดึงอาวุธหนัก ๆ มาสักตัวหนึ่ง(อาจจะเป็นเฮสกีย์ หรือไม่ก็ปั้นน้องก็อก) หรือไม่ก็หาฟูลแบ็คที่แจ๋มจรัส ไปเลย ครอสแม่น ๆ อาจจะทำให้หงส์แดง มีเกมส์รุกที่หลากมิติมากขึ้น จากคุณ : - แมวน้อยหน้าขาว - - [ 21 ก.ย. 51 01:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สุดท้ายนี้ แผนบอด ไม่ได้ตั้งใจ เมื่อทั้งนักเตะอิทธิพลอย่าง สตีวี่ (อีกไม่นาน ตอเรสก็คงจะเทียบเท่า) และยังมีปัจจัยที่ไม่สามารถทำให้เล่นเกมส์ริมเส้นหรือการยิงไกลได้อีก หงส์แดง จึงหมดมุขอย่างที่เห็นในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม หวังว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน ราฟา ไม่ใช่คนโง่ เขามองเห็น มากกว่าที่ผม หรือหลาย ๆ คนมองเห็น ราฟารู้ดีที่สุดว่าควรทำอะไร ควรปรับอะไร สิ่งที่แฟนบอลอย่างเราทำไ้ด้ ก็แค่ยืนนิ่ง ๆ ร้องเพลง  you'll never walk alone  เป็นกำลังใจให้นักเตะก่อนลงสนามทุกนัด จะโทษใครไม่ได้ ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษกรรมการที่ไม่ยอมเป่าให้ประตูฟรีคิกสตีวี่เอง (แอบหักมุมเล็กน้อย อย่าว่ากันเน้อ) จากคุณ : - แมวน้อยหน้าขาว - - [ 21 ก.ย. 51 01:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบครับ กระทู้แฟนหงส์ใช้สมองแบบนี้ ไม่เหมือนด้านล่าง .. จะไล่คนนู้น คนนี้ .. ทำยังกะเล่น FM ทั้งที่ไม่รู้ Tactic อะไรมากมาย ดูอยู่แค่หน้าจอ จากคุณ : FloW-eMoTioN - [ 21 ก.ย. 51 01:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นนะซิ กรรมการ นี่น่าโดน น่าโดนปรับโทษนะครับ จากคุณ : OleBirdy - [ 21 ก.ย. 51 01:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบกระทู้นี้ฮะ เขียนได้ดี ผมเองก็เซ็งกับเกมส์รุกจริงๆ เรียกอ่อนหัดเลยก็ว่าได้ จากคุณ : Reina Uguu~ - [ 21 ก.ย. 51 05:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าใครทันยุคปีกมหา(นิล)กาฬ อย่าง จอห์น บาร์นส์ จะเห็นว่า วิธีการลากเลี้ยงไปสุดเส้นหลัง แล้วตบกลับเข้ามากลางประตู ให้กองหน้า (มักจะเป็น เอียน รัช) ชาร์จทำประตู เป็นยุทธวิธีที่ดูพื้น ๆ และเชยมาก แต่ก็ได้ผล เป็นประตู เกือบทุกครั้ง เพราะเป็นจังหวะการส่งที่แม่น ได้เปรียบ บวกกับตัวเข้าทำ จะชาร์จเข้ามา จากตำแหน่งที่กองหลังไม่ทันระวัง ยุทธวิธีแบบนี้ สมัย แมคก้าเป็นปีก ก็เดินรอยตาม แต่ไม่ถึงกับประสบความสำเร็จเท่าจอห์น บาร์นส์ เพราะ แมคก้า ลากเลี้ยงดีอย่างเดียว แต่เปิดบอลไม่แม่นเท่า * * * แต่ลิเวอร์พูล ยุคนี้ เราไม่มีตัวลากเลี้ยง ดึงให้กองหลังวิ่งตาม ที่เก่ง ๆ เลย และ ราฟา ก็เหมือนจะไม่นิยมให้ปีกลากเลื้อย ตะลุยไปเอง เน้น ให้จับจังหวะ แล้วเปิดเข้าไป มากกว่า แล้วก็ดูสิครับ การยืนตำแหน่งของ คีน หรือ ตอเรส แบบยืนรอให้เห็นทนโท่อยู่กลางประตูแบบนั้น คงยากที่จะได้ยิง กองหลังเขาเห็นหมด ปกติ ตอเรส หรือ คีน ก็ถนัดลูกแบบจ่ายทะลุจากกลางมากกว่า รอรับจากปีก จากคุณ : CameronRevenge - [ 21 ก.ย. 51 06:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เล่นแบบนี้ ป๋าคงคิดว่า คีน สูงเท่า เคร้าช นะเนี่ย  เสียดายความหลากหลายของ กองหน้าหงส์    ไม่มีสไตล์เข้า ฮอรส์  ไม่มีการได้เปรียบลูกโหม่งกลางอากาศ    เหลือแค่  1ใน 3 จากคุณ : ThePitcher - [ 21 ก.ย. 51 06:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเห็นคล้ายๆเดิมน่ะ กลางตัดเกมได้   เน้นการขึ้นเกมทางขวา  ที่เค้าท์ แต่ตัน ส่งคืนกองหลัง  ตูมม สาดยาวเสี่ยงดวงไปให้หน้า บางทีก็ปีก รูปแบบการบุกของเราเหมือนเดิมมานานแล้ว จากคุณ : Kato_nd - [ 21 ก.ย. 51 07:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงที่สุด เราคงต้องเชื่อแล้วว่า ราฟา เป็นโค้ชที่ไม่ถนัดเกมบุก แต่เด่นเรื่องเกมสวนกลับ ดูจากความสำเร็จของ ตอเรส ฤดูกาลก่อน ที่ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนใหญ่ มาจากการเล่นสวนกลับ จ่ายจังหวะเดียวของเจอราร์ด หรือคนอื่น ๆ ให้ตอเรส ไปยืนรออยู่ในเขตโทษ ไม่เห็นทำอะไรได้เลย จากคุณ : CameronRevenge - [ 21 ก.ย. 51 07:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เขียนได้ดี จากคุณ : mooagiko - [ 21 ก.ย. 51 07:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าสิ่งที่ราฟาขาด และต่างจากยอดกุนซืออย่างอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, อาร์เซน เวนเกอร์, โฮเซ่ มูรินโญ่ และตำนานอย่างบิลล์ แชงคลีย์คือ..... จิตวิทยากับลูกทีมครับ!!!!! แทบนับจำนวนนัดได้เลยที่หงส์ต้องการชัยชนะแล้วลูกทีมมีฮึดกลับมาเล่นอย่างดุดัน ในจำนวนน้อยนัดนั้น มักจะเห็นแต่กับนัดสำคัญหรือทีมใหญ่ๆ ซึ่งนั่น ทำให้หงส์มักแสดงผลงานได้ดีใน UCL เสมอ เพราะแต่ละนัดค่อนข้างมีความหมาย แต่พอมาบอลลีก สงสัยเวลามันยาวไป เลยไม่มีแรงกระตุ้น อย่างกุนซือที่กล่าวมาข้างบน สิ่งหนึ่งในทีมที่เห็นได้ชัดคือ ทีมไม่มีใครเป็นศูนย์กลาง ทั้งแมนฯยู, อาร์เซน่อล, เชลซี และลิเวอร์พูลยุครุ่งเรือง นักเตะทุกคนในสนามไม่หวังพึ่งใครเป็นพิเศษ ซึ่งแม้จะมีคนที่หวังพึ่งได้ในทีมก็จริง แต่จิตวิทยาของกุนซือทำให้นักเตะทุกคนเชื่อมั่นในตัวเอง เราจะเห็นแมนฯยู พอรุกทีรุกเป็นแผงและน่ากลัวอย่างยิ่ง เพราะทุกคนดาหน้ากันขึ้นมาหมด อาร์เซน่อลก็เช่นกัน คนโน้นยิงไม่ได้ คนนั้นก็มา หรือลิเวอร์พูลยุครุ่งเรือง ถามว่าเราจำชื่อนักเตะคนไหนได้เป็นพิเศษหรือไม่ ตอบได้ว่าไม่มีเลย เพราะไม่มีใครเป็นศูนย์กลาง แต่ทุกคนสำคัญหมด อีกสิบอีกร้อยปีผ่านไป ถ้าคนจะพูดถึงลิเวอร์พูลยุคนี้ ทุกคนจะจดจำเจอร์ราร์ดได้มากที่สุด เหมือนกับยุคหนึ่งที่แมนฯยูคนจำร็อบโบ้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ร็อบโบ้แทบไม่เคยได้คือ แชมป์และความสำเร็จ และดูเหมือนว่าเจอร์ราร์ดก็กำลังอาจจะเป็นอย่างนั้น ถ้าราฟายังไม่มีจิตวิทยาทีมที่ดี เจอร์ราร์ดยังคงสำคัญต่อทีมมาก แต่ถ้าต้องการจะเข็นลิเวอร์พูลให้เป็นแชมป์ลีก ราฟาจะต้องเปลี่ยนทัศนคติลูกทีมให้เป็นอย่างนัดแมนฯยู ซึ่งนัดนั้น บอลไม่ได้ถูกขึ้นที่ใครคนใดคนหนึ่ง วิธีเล่นมันไม่ได้จับทางได้เหมือนนัดสโต๊ก ทุกคนวิ่งพล่านไปทั้งสนาม ทำให้แมนฯยูปั่นป่วนหมด และอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า เมื่อไม่มีกัปตันไดนาโม ทุกคนเริ่มเล่นอย่างอิสระ และความสามารถของทุกคนก็เริ่มออก นั่นแหละที่ทีมๆหนึ่งต้องการ เพราะทุกอย่าง ลิเวอร์พูลมีหมดแล้ว ขาดแต่จิตวิทยาในวันที่นักเตะอย่างเจอร์ราร์ดและตอร์เรสลงสนามเท่านั้นแหละ ถ้าราฟาสามารถทำให้นักเตะหงส์ลดความคิดในการมองศูนย์กลางที่เจอร์ราร์ดได้แม้เพียงครึ่งหนึ่ง หงส์จะน่ากลัวกว่านี้เยอะ จากคุณ : อายานุ - [ 21 ก.ย. 51 08:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วิเคราะห์ได้เยี่ยมครับ จากคุณ : MAD MAN_TO - [ 21 ก.ย. 51 10:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้เราพึ่งเจอร์ราร์ดมากไปจริงๆ จากคุณ : bigwores - [ 21 ก.ย. 51 10:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มองได้อย่างมีเหตุผลครับ จากคุณ : whutzy - [ 21 ก.ย. 51 10:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เขียนดีค่ะ ชอบอ่าน เขียนบ่อย ๆ ทุกนัดเลยนะ จากคุณ : ชิวเทียน - [ 21 ก.ย. 51 11:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า ราฟาไม่ได้ไม่ถนัดเกมบุกนะครับ มีหลาย ๆ นัด ที่เรานั้นบุกคู่ต่อสู้กันจนคู่ต่อสู้โงหัวไม่ขึ้น (ส่วนใหญ่จะเห็นในเกมส์ใหญ่ ๆ) แต่ปัจจัยการบุกของราฟามันถูกจำกัดหลายอย่าง ดังนี้ - ฟูลแบ็ค - ขาดอาวุธหนัก - ไม่มีผู้เล่นยิงไกลได้ดีเท่าที่ควร ทำให้เกมส์บุกมันเลยดูตื้่อ ๆ จะโทษราฟาอย่างเดียวก็ไม่ถูกครับ เอล บอส ไม่ได้อยากที่จะขาย เคร้าช์ ออกไป แต่จำต้องขาย เพราะต้องการเงินมาซื้อรอบบี้คีน ซึี่่่งผมมองว่า ถ้าจอร์จ หรือ ทอม เหนียวน้อยกว่านี้สักหน่อยนึงแล้วยอมควัก แบร์รี่เอย เคร้าช์เอย อาจจะได้สวมเสื้อสีแดงที่มีสปอนเซอร์ชื่อ Carlsberg ก็เป็นได้ครับ จากคุณ : - แมวน้อยหน้าขาว - - [ 21 ก.ย. 51 11:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ปัจจัยหลักที่ น่าสงสัยสำหรับ หงส์ชุดนี้ ผมว่าอยู่ที่แนวรุกที่เล่นเหมือนไม่ได้ซ้อมด้วยกันเลย ไม่มีการวิ่งทำทาง ไม่มีการเคลื่อนที่รอบอล  ว่าง่าย ๆ ในแนวรุกเราขาดมูฟเมนส์ ช่วยเหลือกัน อาจจะอย่างที่ จขกท ว่าส่วนหนึ่ง พอมองหน้าหา เจิด ทำให้เพื่อนหลาย ๆ คนวิ่งแล้วรู้สึกว่า มันไม่ส่งกู แล้วกูจะวิ่งทำไมก็ได้  ทั้งที่มันไม่เกี่ยวเลยคุณควรจะวิ่งเพื่อช่วยเปิดพื้นที่ให้เพื่อคนอื่นด้วย ซึ่งเห็นได้น้อยครั้งมากที่จะมีเกตุการณ์แบบนั้น ตอเรสเป็นกองหน้าที่เข้าฮอสได้ครับ  การเปิดจากด้านข้าง ถ้าเปิดเป็นมันไม่จำเป็นต้อง ตัวสูงหรอก  แต่ปัญหาหลักคือ เราไม่มีตัวเปิดที่เปิดแม่น ๆ  ถ้าเปิดแม่น ตอเรส คีน หรือแม้แต่เค้าท์ ก็ทำสกอร์ได้   จุดหลัก ๆ ที่ราฟาต้องแก้ไข ก็น่าจะอย่างที่ จขกท และหลายๆ  คห ว่าไว้ ควรจะทำให้ทุกคน รู้สึกว่าในเกมรุก เราต้องพยายาม พาบอลไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดเพื่อทำสกอร์ ไม่ใช่ เงยหน้ามา มองหา เจิด ตอเรส จากคุณ : et009 - [ 21 ก.ย. 51 12:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 วิเคระห์วิจารณ์ได้ตรงใจดี หากบทวิเคราะห์ดีดีนี้ ถึงอังกฤษบ้าง คงจะเยี่ยมมาก จากคุณ : ดงตาล - [ 21 ก.ย. 51 12:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบครับเห็นด้วย  และไม่เบื่อเลยที่อ่านกระทู้หงส์แบบ ก็น่าเห็นใจประมาณว่าวิ่งไปวิ่งมาทำอะไรไม่ได้  เจอเจิดพอดี "เฮ้ย มรึงเอาไปหน่อยซิ  ช่วยหน่อย  ทีมต้องการมรึง"  (อาจเป็นความคิดนักแตะตอนเงยหน้ามาเจอลูกพี่) จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 21 ก.ย. 51 13:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วิเคราห์ได้ดีมากครับ เป็นปัญหาที่เหมือนจะพื้นๆ แต่แก้ไขยากมาก เพราะบารมีเจิดมันคับแน่นทีมจริงๆ และมันฝังอยู่ในหัวนักเตะคนอื่นๆเกือบหมดแล้ว ยิ่งเจิดยิงลูกมหัศจรรย์ได้บ่อยเท่าไหร่ ปัญหานี้จะยิ่งเพิ่มพูน ทางแก้ที่ง่ายที่สุด ก็คือซื้อนักเตะระดับโลกเข้ามาเพิ่มครับ นักเตะในระดับบิ๊กเนมนั่นแหละ เพราะนักเตะเหล่านี้จะมีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่คิดหวังพึ่งเจิดคนเดียวแน่นอน อย่างที่ตอร์เรสทำให้เห็นมาแล้วว่าทีมก็พึ่งพาเขาได้เช่นกัน ตัวเขาก็เป็นที่พึ่งของทีมได้ไม่น้อยหน้าเจอร์ราร์ด ในทีมตอนนี้ เกมรุกมีเพียงเจิดกับตอร์เรสเท่านั้น ที่กล้าเล่นอย่างเต็มประสิทธิภาพของตัวเอง แต่ทำไงได้ ในเมื่อราฟาเป็นโค้ชที่ไม่ค่อยชอบซื้อบิ๊กเนม แต่ชอบจะซื้อนักเตะเกรดรองๆลงไปมารวมกันหลายๆคนมากกว่า ตั้งแต่เขามาทำทีม เขาซื้อนักเตะที่ได้ชื่อว่าบิ๊กเนมจริงๆไปแค่ตอเรสคนเดียวเอง ทั้งที่เงินลงทุนแต่ละปีก็ไม่มีต่ำกว่า 20-30ล้านปอนด์ซักปี (ปีนี้ควักไป40ล้านแต่ไม่ได้บิ๊กเนมซักตัว) ดังนั้นบารมีของเจิดก็จะยังคงคับทีมอยู่อย่างนี้แหละครับ เพราะนักเตะคนอื่นๆถ้าไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากพอ ยังไงก็ต้องหวังพึ่งแต่เจิดวันยันค่ำ หลายๆครั้งผมเห็นเจิดโบกไม้โบกมือชี้ให้นักเตะคนอื่นพยายามเล่นเอง หรือชี้ให้ออกบอลไปทางอื่น แต่บอลก็ยังจะโดนยัดมาให้บักเจิดเสมอๆ เหมือนเพื่อนร่วมทีมไม่มีความมั่นใจที่จะเล่นเอง ยิ่งในช่วงคับขันยิ่งไปกันใหญ่ ผมว่าเจอราร์ดก็คงรู้สึกในจุดนี้ได้ หลายครั้งที่เจิดออกมาเชียร์ให้ทีมซื้อนักเตะบิ๊กเนมเข้ามาเสริมอีก เคยบอกว่าอยากให้ทีมซื้อโอเว่นกลับมาด้วยซ้ำ แต่ราฟาก็ไม่ค่อยจะกล้าทุ่มเงินซื้อนักเตะซักเท่าไหร่ ยังคงยึดมั่นซื้อนักเตะเกรดบีมาตามปกติ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 14:11:31 จากคุณ : ซาโนสุเกะ - [ 21 ก.ย. 51 14:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ราฟาเองก็คงอยากได้นะครับ แต่เจ้าของทีมอาจจะไม่อยากพัก จากคุณ : - แมวน้อยหน้าขาว - - [ 21 ก.ย. 51 14:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เขียนดีค่ะ เห็นด้วย จากคุณ : Everything_Is_Illuminated - [ 21 ก.ย. 51 14:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราเป็นแฟนแมนยู แต่อ่านความเห็นจขกท.แล้วชอบมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเจอร์ราด...โดนนนนน จากคุณ : หนึ่งKo-Chan - [ 21 ก.ย. 51 15:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยคิดเหมือนผมไม๊ครับ  ว่าพอต้องการบุกแต่เมื่อเจิดกำลังพาบอลเข้ากรอบเขตโทษ  เมื่อถึงเวลานั้นบ่อยๆ  นักเตะทุกคนก็ยืน งงๆ แล้วครับว่า ควรจะทำยังไงเนี่ย  วิ่งไปทางไหนดีเนี่ย  เหมือนยืนสะเปะสะปะกันหมด ทางที่ดีควรหานักเตะครอสบอลสวยๆ  และต้องทำความเข้าใจกันทั้งทีม   อีกอย่างที่เจ้าของกระทู้ได้กล่าวไปจะไปโทษเพื่อนร่วมทีมไม่ได้หรอกครับ ที่จ่ายบอลให้เจิดอย่างเดียว   แต่มุมมองผมกลับมองว่าพี่เจิดชอบไปขอบอลเพื่อน  หรือวิ่งผ่านไปเอาบอลเองเสมอๆ  เสียที่ราฟาเนี่ยแหละครับถูกที่สุด แย่สุดๆ ถ้าราฟาเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงแย่ครับ  เพราะเหมือนมีจุดศูนย์กลางของทีมแค่สองจุดในการไล่ยำคู่ต่อสู้ บอลมันต้องเหมือนตอนที่เล่นกับแมนยูจริงๆ เพียงเพราะความสำเร็จของบาเลนเซียหรือเปล่าที่ทำให้ราฟายึดมั่นใจตัวเองมากเกินไปจนไม่มีการปรับตัวและทำความเข้าใจกับบอลอังกฤษมากเท่าไหร่ การซื้อนักเตะมาเพื่อมาเติมสีสรรค์ให้กระชุ่มกระชวยไปมันก็เท่านั้น  ถ้ายังยึดรูปแบบเดิม  ไม่มีการซ้อมในการเข้าทำหลายรูปแบบ  นักเตะแพงๆก็เหมือนนักเตะค่าตัวต่ำต้อยในที่สุดครับ  สามารถแต่ละคนในทีมมีนะครับ  แต่ราฟาเป็นคนทำลายความมั่นใจของนักเตะทีละน้อย  ทีละนิด รอบบี้คีน ไม่ผิดหรอกครับที่บางเกมเค้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย  เพราะแท้จริงแล้วคีนก็ทำดีที่สุดแล้ว  แต่การปรับตัวเข้ากับระบบทื่อๆของราฟามันค่อนข้างยากครับ  เมื่อตอรเรสยังเล่นเหมือนเดิมไม่ได้มองหาเพื่อน  เวลาบอลมาถึงก็จะแหกด่านคนเดียว  อย่างงี้ก็เท่ากับลดบทบาทคีนไปโดยปริยาย  เจ้าตัวก็ทำได้แค่ไล่กวดคู่ต่อสู้ให้คายบอลออกไปเร็วที่สุดก็เท่านั้น เมื่อผมเห็นข่าวการต่อสัญญาผมก็ชักเสียวจริงๆ  บอกตรงๆเลยว่าไม่อยากให้ราฟาเป็นนายใหญ่ในแอนฟิลด์แล้ว  ไม่มีการพัฒนาเลยจริงๆ  เด่นแต่เกมโต้กลับ  ให้ความสำคัญเฉพาะนักเตะบางคน   เสียดายตอนที่ราฟามีข่าวจะโดนเด้ง  กลับอยู่ในช่วงคาบลูกคาบดอกกับเกมสำคัญ  ในการดวลรอบคดเลือก UCL  ไม่อย่างงั้นก็อาจโดนปลดไปแล้วก็ได้  (ใจลึกๆผมเชียร์หลุย อาราโกเนส / บีเซนเต้ เดบอสเก้ / สโคลารี่) ก็นัดนั้นก็เป็นหนึ่งในนัดที่ห่วยแตกที่สุด  เข้ารอบคัดเลือกมาแบบไม่มีบารมีอะไร  ถึงลีแอสจะทุ่มเทหรือขยันเท่าไหร่ ผิดกับนักเตะลิเวอร์พลูไม่มีใครสักคนแสดงถึงทักษะการเล่นในระดับที่ต้องเอาตัวรอดให้ได้  เรียกว่าเจอดีก็สู้กันสูสี เจอทีมต่ำกว่าก็เล่นต่ำกันไปเสมือนญาติพี่น้อง บางคนอาจจะพอใจกับการเข้ารอบมากกว่ารูปเกม  แต่ถ้ารูปเกมเป็นอย่างงี้ในนัดสำคัญๆเช่นนี้  มันก็บอกถึงกึ๋นของราฟาได้หมดแล้ว   ตอนนี้ก็เป็นกำลังใจให้กับนักเตะหงส์ทุกคนให้เล่นเข้ากันโดยเร็ว  แต่ไม่เคยอยากให้ราฟายืนอยู่นะจุดนี้เลย  มันอันตรายต่อหัวจิตหัวใจของแฟนบอลอย่าง(กระผม) จากคุณ : green natural - [ 22 ก.ย. 51 10:56:18 ]