ความคิดเห็นที่ 5
 
ข่าวประจำวันที่ 28/09/2008
*-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
รายงานการแข่งขัน: อาร์เซนอล 1 - 2 ฮัลล์ ซิตี้
อาร์เซนอลต้องพบกับความพ่ายแพ้เพียงแค่นัดที่สองจาก 60 เกมที่เล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อฮัลล์แซงกลับมาคว้าชัยไปอยางเหลือเชื่อเมื่อคืนวันเสาร์
หลังเริ่มต้นอย่างช้าๆ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกก็คุมเกมเอาไว้ได้หมดในครึ่งแรก พวกเขาบุกกดดันได้อย่างต่อเนื่องและลูกโหม่งของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ที่เสาสองก็ถูกตัดสินว่าเป็นการทำฟาวล์กองหลังก่อน
ทำนบของทีมเยือนดูเหมือนจะทลายลงเมื่อครึ่งหลังผ่านไป 6 นาทีเมื่อเชส ฟาเบรกาสและพอล แม็คเชน กองหลังของฮัลล์ ชุลมุนกันที่บอลก่อนที่ลูกจะข้ามเส้นประตูไป
จีโอวานนี่ทำประตูให้ฮัลล์ตีเสมอได้หลังจากเกมผ่านหนึ่งชั่วโมงไปจากลูกยิงไกลสุดสวย และอีกสี่นาทีให้หลังดาเนี่ยล กูแซ็งก็โหม่งมำประตูได้อย่างงดงาม
อาร์เซนอลตอบโต้ได้อย่างที่คาดไว้ พวกเขาเดิใหน้าบุกแหลกและก่อนหมดเวลา 8 นาทีวิลเลี่ยม กัลลาสก็ได้โหม่งไปชนคาน และแม้ว่าจะมีโอกาสที่ใกล้เคียงอีกจากเชส ฟาเบรกาสและโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่มันก็ไม่ดีพอที่จะเป็นประตูตีเสมอได้
เมื่อเกมจบลงฮัลล์ฉลองกันอย่างเอิกเริก บรรยากาศในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเกมเมื่อวันอังคารที่ทีมพลังหนุ่มของอาร์เซนอลโชว์ฟอร์มกันอย่างสวยงามในการเก็บชัยชนะที่น่าประทับใจได้
เกมนี้จะติดอยู่ในความทรงจำของแฟนๆด้วยเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างออกไป
มันเป็นความพ่ายแพ้นัดที่สองในฤดูกาลนี้ของอาร์เซนอล และทำให้พวกเขาตกจากตำแหน่งจ่าฝูงด้วย
อาร์แซน เวนเกอร์กลับมาใช้นักเตะตัวหลักๆอีกครั้งในเกมนี้ โดยเมื่อเทียบกับทีมชุดที่บุกไปชนะโบลตันเมื่อเสาร์ก่อนแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นสองตำแหน่ง
ธีโอ วอลค็อตต์และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ได้ลงเล่นแทนอเล็กซ์ ซงและนิคลาส เบนดท์เนอร์ ส่วนสองคนที่หลุดไปก็มีชื่อเป็นตัวสำรองร่วมกับสองนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเมื่อกลางสัปดาห์อย่างคาร์ลอส เวล่าและอารอน แรมซี่ย์
เกมนี้เป็นการพบกันในลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 93 ปีของทั้งสองทีม ฮัลล์อาจจะเป็นน้องใหม่ของพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีกว่าที่หลายคนคาดไว้มาก ชัยชนะในเกมนี้จะทำให้พวกเขามีถึง 11 คะแนน ซึ่งเท่ากับคะแนนรวมที่ดาร์บี้ ทีมน้องใหม่ของฤดูกาลก่อน ทำได้ตลอดทั้งฤดูกาล
ฮัลล์เล่นอย่างทุ่มเทตามคาด จีโอวานนี่เป็นตัวจี๊ดจ๊าดในเกมรุกของพวกเขา และจังหวะที่จอร์จ บัวเต็งพุ่งเสียบเดนิลสันอยางหนักหน่วงก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของฟิล บราวน์ ผู้จัดการทีมของพวกเขา ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ก่อนเกม ส่วนอาร์เซนอลยังดูเนือยๆอยู่
แต่ก่อนที่จะผ่าน 15 นาทีแรกไปเกมก็กลับมามีชีวิตชีวาอย่างปุบปับ โดยทีมของเวนเกอร์สร้างโอกาสได้หลายครั้ง จังหวะแรกเป็นฟาเบรกาสที่ได้ยิงหลุดกรอบ หลังจากนั้นอเดบายอร์ก็ได้ขึนโหม่งที่เสาไกลเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินอลัน ไวลี่ย์เป่าว่าเขากดพอล แม็คเชนในจังหวะเทกตัวขึ้นโหม่ง
อย่างไรก็ตามโอกาสที่ดีที่สุดก็มาถึงในนาทีที่ 16 เมื่อเดนิลสันจ่ายบอลให้วอลค็อตต์หลุดขึ้นไปทางฝั่งขวา เขากระชากหนีแอนดี้ ดอว์สันไปได้ แต่อดีตกองหลังชาร์ลตันก็แก้ตัวได้สำเร็จเมื่อตามไปเสียบแย่งบอลได้อย่างเหมาะเหม็งในจังหวะที่วอลค็อตต์กำลังจะง้างเท้าสับไกจากกรอบเขตโทษ
ตอนนี้อาร์เซนอลเริ่มตั้งเกมได้แล้ว สองนาทีถัดมาฟาเบรกาสก็มีพื้นที่ใกล้เส้นหลังฝั่งขวาก่อนจะเปิดไปให้กัลลาสแตะต่อให้อเดบายอร์สับไกจากระยะเผาขนไปติดบล็อก
เจ้าถิ่นคุมเกมได้แล้วในตอนนี้แต่ยังไม่สามารถจบสกอร์ได้เท่านั้น ในช่วงครึ่งทางของครึ่งแรกวอลค็อตต์ที่ยืนว่างอยู่ไม่สามารถจับบอลจากการโยนเข้ามาของเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ได้ทั้งที่การจิ้มบอลง่ายๆก็น่าจะเป็นประตูแล้ว
รูปเกมยังคงเป็นไปในลักษณะนี้จนจบครึ่งแรก อาร์เซนอลครองเกมบุกกดดัน ส่วนฮัลล์ตั้งรับกันอย่างเต็มที่
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีลูกเปิดย้อนของฟาเบรกาสก็ไปเข้าทางวอลค็อตต์ที่เติมขึ้นมา แต่บัวเต็งจิ้มบอลจากเท้าของเขาได้ในจังหวะพอดิบพอดี หลังจากนั้นเอบูเอ้ก็ได้ยิงมุมแคบไปเข้าหน้าต่าง
ครึ่งหลังเริ่มโดยฮัลล์มีโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกม ลูกเตะมุมที่แฉลบหลุดไปถึงบัวเต็งที่หน้ากรอบเขตโทษ มิดฟิลด์ชาวดัตช์ตะบันเรียดไปหน้าประตูแต่บอลไปแฉลบข้ามทั้งมานูเอล อัลมูเนียและคานออกไป
เกมกลับมาเป็นรูปแบบเดิมหลังจากนั้นสองนาทีเมื่อวอลค็อตต์ทำให้โบซ มายฮิลล์ต้องพุ่งเซฟเอาไว้ แต่ประตูแรกก็เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากนั้น แม้จะไม่สสวยงามนักก็ตาม
วอลค็อตต์พาบอลไปถึงเส้นหลังก่อนจะเปิดย้อนไปหน้าประตู อเดบายอร์แตะต่อให้ฟาเบรกาสที่เข้าบอลชุลมุนอยู่กับแม็คเชนในระยะเผาขนก่อนที่ลูกจะข้ามเส้นประตูไป มันไม่ชัดเจนว่าบอลโดนใครในจังหวะสุดท้ายแต่มิดฟิลด์ชาวสเปนก็เฮไว้ก่อน
อาร์เซนอลยังคงทำเกมได้อย่างดุดันหลังจากนั้น ฟาน เพอรืซี่ได้ซัดหลุดกรอบและอเดบายอร์ก็ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของกองหลังเข้าไปยิงแฉลบข้ามคาน
ในระหว่างสองจังหวะนั้นดีน มาร์นี่ย์ก็สร้างปัญหาให้อัลมูเนียได้จากการตีลังกายิง
ฮัลล์เน้นเกมรับมาตลอดทั้งเกม แต่หลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลัง พวกเขาก็พยายามจะทำเกมบุกเข้าใส่อาร์เซนอลบ้างหลังจากแทบจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอดหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า
นาทีที่ 61 จีโอวานนี่ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษของอาร์เซนอล เขาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะซัดลูกใบไม้ร่วงข้ามหัวอัลมูเนียเสียงสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
อเดบายอร์เกือบจะตอบโต้ได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ลูกยิงของเขาก็หลุดเสาไกลออกไป
จริงๆแล้วเป็นฮัลล์ที่ตอบโต้ได้ นาทีที่ 66 กูแซ็งได้ยิงไปแฉลบออกหลัง จากลูกเตะมุมที่ตามมา ศูนย์หน้าทีมชาติกาบองก็ขึ้นโหม่งลูกย้อยเข้าเสียบเสาไกล
อาร์เซนอลถึงกับปั่นป่วนแต่ก็ยังมีเวลาที่จะแก้ตัวได้ เวนเกอร์ส่งเบนดท์เนอร์ลงไปในทันทีและเจ้าบ้านก็ได้ลูกเตะมุมสองครั้ง ตอนนี้เกมกลายเป็นรูปแบบนี้ไปแล้ว อาร์เซนอลเดินเกมรุกจากทั่วทุกแห่งของสนาม ส่วนฮัลล์ตั้งรับอย่างเต็มตัวด้วยแผนการที่เตรียมมาตั้งแต่แรก
เวนเกอร์ส่งเวล่าลงไปเสริมแนวรุกอีกคนเมื่อเหลือเวลา 14 นาที เมื่อถึงจุดนั้นผู้จัดการทีมคงยอมแลกแฮตทริกของหัวหอกชาวเม็กซิกันกับประตูเดียวในเกมนี้อย่างแน่นอน
ฟาเบรกาสได้ซัดไกลไปเข้ามือมายฮิลล์ แต่มาร์ลอน คิงก็มีโอกาสใกล้เคียงเช่นกันที่อีกฟากของสนามแต่ยิงเบาเกินไปจากระยะไม่กี่หลา
ความมุ่งมั่นของอาร์เซนอลที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาให้ได้ดูจะเลือนลางลงไปทุกที แต่พวกเขาก็ยังคงสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง
ฟาน เพอร์ซี่ได้หลุดขึ้นไปทางฝั่งขวาแต่ยิงเฉี่ยวเสาออกไป หลังจากนั้นกัลลาสก็ขึ้นโหม่งลูกเตะมุมย้อยไปชนคานกระดอนออกมาและถูกเคลียร์ทิ้งได้
ขณะที่เวลาลดน้อยลงไปเรื่อยๆ อาร์เซนอลก็ยิ่งเร่งเกมมากขึ้นเรื่อยๆ มายฮิลล์ต้องทำงานอย่างหนักและเขาก็ออกไปตัดบอลโยนโด่งเข้ามาในเขตโทษได้ตลอด และยังโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันลูกยิงของฟาเบรกาสไว้ได้อีก
โคโล ตูเร่ได้ซัดหลุดกรอบอีกครั้งจากตำแหน่งที่ดี และจากการเตะบอลเกือบจะครั้งสุดท้ายของเกม ฟาน เพอร์ซี่ก็ยิงไปชนคานอีกครั้ง และเกมก็จบลงไปโดยต้องให้เครดิตฮัลล์และแฟนบอลอาร์เซนอลที่ยังส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้ทีมตอนเดินออกจากสนาม แม้จะต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดก็ตาม
รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
อาร์เซนอล: มานูเอล อัลมูเนีย, กาแอล กลิชี่, วิลเลี่ยม กัลลาส, โคโล ตูเร่, บาการี ซานญ่า, ธีโอ วอลค็อตต์ (คาร์ลอส เวล่า 77), เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 69), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ฮัลล์ ซิตี้: โบซ มายฮิลล์, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, แอนดี้ ดอว์สัน, พอล แม็คเชน, เอียน แอชบี้, คามิล ซายัตเต้, จอร์จ บัวเต็ง (ริชาร์ด การ์เซีย 77), ดาเนี่ยล กูแซ็ง (แบร์กนาร์ เมนดี้ 80), มาร์ลอน คิง, จีโอวานนี่ (ไบรอัน ฮิวจ์ส 74)
ที่มา Arsenal.com
แปลโดย Thailand.Arsenal.com
จากคุณ :
YesterdayOnceMore    
- [
28 ก.ย. 51 11:16:41
]
|
|
|
