ความคิดเห็นที่ 6

หลวงพี่หมูเบิ้ล!สิงโตเฉียบถล่ม3-1
โกนหัวล้างซวยของ"หมูพลิ้ว"เวย์น รูนีย์ยังเฮี้ยนไม่เลิกล่าสุดกระหน่ำอีกสองบวกกับอีกเม็ดของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดช่วยพาทีมชาติอังกฤษบุกไล่ต้อนเบลารุส 3-1 คว้าชัยคัดรอบฟุตบอลโลก 100 % 4 นัดรวดสุดเทพ
บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง
เบลารุส 1-3 อังกฤษ
สนาม : ดินาโม สตาดิโอน
ประตู : 0-1 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด น.11, 1-1 พาเวล ซิตโก้ น.26, 1-2 เวย์น รูนี่ย์ น.50, 1-3 เวย์น รูนี่ย์ น.74
ผู้ชม : 32,000 คน
ฟาบิโอ คาเปลโล่ กลับยังใช้ระบบ 4-3-3 ที่ไม่ได้ผลในเกมที่แล้วกับคาซัคสถาน โดยให้แกเร็ธ แบร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ด และสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดเล่นด้วยกัน ขณะที่ตำแหน่งของจอห์น เทอร์รี่และแอชลี่ย์ โคลที่เจ็บทั้งคู่ถูกแทนที่โดยแมตธิว อัพสัน กับเวย์น บริดจ์
นัดนี้เกมเริ่มต้นมากันอย่างเนือยๆ โดยที่อังกฤษก็ไม่ได้เร่งจังหวะบดเจ้าถิ่นมากนัก แต่ก็พอได้ลุ้นแบบถูไถในนาทีที่ 8 เมื่อวัลคอตต์ ใช้ความเร็วกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนเปิดโค้งเข้ามาถึงรูนี่ย์ ที่ปาดบอลวืดไปนิดเดียวเท่านั้น
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 11 อังกฤษ ก็ได้ประตูออกนำจนได้จากการยิงที่ชาญฉลาดของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ที่โดนวิจารณ์รุนแรงในช่วงก่อนเกม โดยเป็นจังหวะที่รูนี่ย์ เกี่ยวเอาบอลลงหน้าเขตโทษแล้วเหมือนจะเล่นต่อแต่พอเหลือบไปเห้นสตีวี่จีก็เลยไม่เล่นจนกัปตันทีมลิเวอร์พูลวิ่งเข้ามาซัดติดไซด์นอกเขตโทษบอลโค้งกะเด้งพื้นหนีมือนายทวารเบียดเสาเข้าไปอย่างเหนือชั้นสุดๆ สิงโตจึงคำรามอย่างรวดเร็ว 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม
อย่างไรก็ดีเบลารุส ไม่ได้เสียขวัญและมีการตั้งเกมเพื่อลุยแลกจะเอาประตูคืนซึ่งได้จังหวะยิงไกลของโมลอชที่เจมส์ รับหลุดมือสร้างความกระชุ่มกระชวยให้แฟนบอลในดินาโม สตาดิโอนได้บ้าง
จากนั้น เจ้าถิ่นก็เหมือนบอลได้ใจที่ค่อยๆสร้างปัญหาให้แนวรับทีมเยือนได้ทีละเล็กทีละน้อย ก่อนจะมาได้โอกาสทองในนาทีที่ 28 เมื่ออิกอร์ สตาเซวิช เปิดหยอดมาที่เสาไกลให้พาเวล ซิตโก้ เติมขึ้นมาโหม่งเช็ดเบาๆที่เสาไกลในจังหวะที่ไม่มีตัวประกบ ทำให้เบลารุสไล่ตีเสมออังกฤษได้สำเร็จเป็น 1-1
ทีนี้เบลารุสก็เหมือนบอลได้ใจ เล่นสู้กับทีมดังระดับโลกอย่างอังกฤษได้สนุก ตรงข้ามกับทีมเยือนที่เหมือนช็อกและพยายามจะเร่งเครื่องขึ้นมา แต่ก็มีได้ลุ้นแค่จากลูกเตะมุมที่แลมพาร์ด เปิดให้เฮสกีย์ขวิดที่เสาแรกแต่ลูกออกข้างไป
ทีมเยือนกลับมาเรงเกมได้อีกครั้งในช่วงท้ายครึ่งแรก เพียงแต่ก็ยังไม่เฉียบคมพอที่จะทะลวงตาข่ายเบลารุสได้อีกครั้ง ทำให้จบครึ่งแรกจึงยังเสมอกันอยู่สกอร์เดิม
ครึ่งหลังคาเปลโล่ ยังไม่มีการเปลี่ยนผู้เล่น แต่อังกฤษดูเหมือนจะตื่นตัวกันมากขึ้น และแค่ไม่นานก็กลับมานำได้อีกครั้ง เมื่อเฮสกีย์ลากจี้หากองหลังก่อนหลอกนิดนึงจนขาตายแล้วกระชากพรวดเดียวถึงเส้นหลังก่อนตบมาให้รูนี่ย์วิ่งมาวางเท้าแปเผาขนหนีเป็น 2-1 สบายๆ แต่หลังจากที่ได้ประตูนำอีกครั้ง นักเตะสิงโตสามตัวก็ผ่อนคันเร่งอีกรอบไม่ได้บดขยี้ยิงเบลารุสให้ขาดแต่อย่างใด ทำให้ทีมเจ้าถิ่นยังพอได้ตั้งเกมสู้กันอีกครั้ง แต่ด้วยความเก๋าที่ห่างชั้นกันทำให้ไม่มีโอกาสจะได้ลุ้นอะไรเหมือนในครึ่งแรกอีก
อังกฤษ เล่นกันแบบเรื่อยๆมาเรียงๆแต่ก็ยังมีทีเด็ดเหลือเฟือ โดยถึงนาทีที่ 74 สกอร์ก็ไหลเป็น 3-1 จากการประสานงานระดับสุดยอด เมื่อบริดจ์ที่เติมมาทางซ้ายจ่ายเข้ากลางมา รูนี่ย์ โชว์กึ๋นวิ่งหลอกข้ามบอลก่อนทำทางให้เจอร์ราร์ดแปบอลเลียดจังหวะเดียวคืนให้ซึ่งแม้น้ำหนักบอลจะขาดไปเล็กน้อยแต่ "หมูพลิ้ว" ก็โชว์ลีลาสมชื่อด้วยการโยกหลบจังหวะกองหลังจนเข้าพรวดก่อนชิพง่ายๆเข้าตัวนายทวารที่พุ่งเซฟวัดดวงแบบสุดเหนือชั้น
หลังจากนั้นเจอร์ราร์ด เกือบจะทำประตูที่ 2 ของตัวเองได้บ้าง เมื่อได้โชว์ลีลาเลื้อยเข้าไปในเขตโทษก่อนหลบผู้รักษาประตูไปแล้ว แต่กลับเลือกยิงดีดด้วยขาขวาแทนที่จะยิงซ้ายบอลเลยชนเสาแบบเหลือเชื่อ ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือจะไม่มีใครทำอะไรกันได้อีก เกมจึงจบลงด้วยสกอร์ 3-1 และเป็นการเก็บชัยชนะ 4 นัดรวดของ "สิงโตคำราม" นำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไปอย่างสุดยอด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบลารุส : ยูริ เชฟนอฟ 7, ดิมิทรี เวอร์คอฟสตอฟ 6.5, อิกอร์ ฟิลิเพนโก้ 7.5, เซอร์เกย์ โอเมลยานชุค 6.5, ดิมิทรี่ โมลอช 7.5, อเล็กซานเดอร์ คุลชี่ 6.5, พาเวล ซิตโก้ 8, แอนทอน พุตซิโล่ 6.5(วิตาลี โรดิโอนอฟ น.67,6) , อิกอร์ สตาเซวิช 8, วิทาลี คูตูซอฟ 7(โอเล็ก สตราคาโนวิช น.77,6.5) , วิตาลี บูลิก้า 7
ใบเหลือง : พุตซิโล่ น.21
อังกฤษ : เดวิด เจมส์ 7, เวส บราวน์ 7, ริโอ เฟอร์ดินันด์ 6.5, แมตธิว อัพสัน 7, เวย์น บริดจ์ 7.5, แกเร็ธ แบร์รี่ 7, แฟรงค์ แลมพาร์ด 8, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 8, ธีโอ วัลคอตต์ 7(ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.68,6.5),เวย์น รูนี่ย์ 9* (เดวิด เบ็คแฮม น.86) , เอมิล เฮสกีย์ 8.5(ปีเตอร์ เคราช์ น.70,6)
ใบเหลือง :
ผู้ตัดสิน : เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)
จากคุณ :
NutZerO
- [
16 ต.ค. 51 10:21:58
]
|
|
|