ความคิดเห็นที่ 1 มาดูการจัดไลน์อัพของป๋ากันดีกว่าครับ เห็นไลน์อัพปุ๊บ ผมก็รีบไปหาเปิดกระป๋องเบียร์ไฮเนเก้นทันที กะว่านัดนี้มียิงกระจายแน่ๆ (ขอโทษน้องเสือด้วยนะครับ) ก็เพราะว่าผู้เล่นที่ป๋าจัดลงไปนี่มันชุดใหญ่เกือบทั้งหมด ไปดูกันนะครับ                 รูนี่ย์     เบอร์บาตอฟ นานี่          แอนนี่     คาร์ริค       โรนัลโด้ เอวร่า         วิดิช        ริโอ            แกรี่                            ซาร์ จะเห็นว่า การจัดตัวของป๋าในนัดนี้ คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์โดนน้องใหม่สอนบอล คือไม่หวังที่จะเก็บตัวหลัก โรเตชั่นเอาตัวสำรองลงมาเล่น ก็น่าจะเป็นการไม่ประมาทน้องใหม่ทีมนี้ ถือเป็นความคิดที่ดีครับ ทีมที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยเห็นฟอร์ม ไม่ประมาทไว้ น่าจะดีที่สุด ดูจากผู้เล่นที่ส่งลงมา แกรี่เองก็ยังเป็นตัวหลัก แอนนี่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ หากดูว่าคู่ของเขาคือคาร์ริค และนอกนั้นก็เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่งแล้ว ส่วนซุ้มผู้เล่นสำรอง ก็ยังมี เบ็น ฟอสเตอร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอห์น โอเช, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ปาร์ค จี ซุง, ไรอัน กิ๊กส์, และคาร์ลอส เตเวซ ก็ถือเป็นผู้เล่นสำรองที่ดีที่สุด ที่เราเคยมีมาก็ว่าได้ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเกมครึ่งแรกมา ยังไม่ทันตั้งหลักซดเบียร์ โรนัลโด้ก็แผลงฤทธิ์ทันที ด้วยการแตะบอลกลับหลังให้เบอร์บาตอฟในจังหวะที่วิ่งตีคู่ไปกับสองกองหลังฮัลล์ทางกราบขวา และถูกประกบกดดันหนัก ก่อนที่จะวิ่งฉีกตัวเองเข้าหน้ากรอบ เบอร์บาตอฟตวัดบอลแรงกลับคืนมา โรนัลโด้เก็บบอลได้ ดึงออกซ้ายและกดเรียดชนโคนเสาแรกเข้าประตูไปตั้งแต่ผมยังไม่ทั้นตั้งตัว ส่งให้ยูไนเต็ดออกนำเร็ว จากนั้น เกมยังคงเป็นของยูไนเต็ดในการครองบอล ฮัลล์เองก็ไม่ได้ลนลานหรือตื่นตกใจ แต่กลับใช้โอกาสสวนกลับเข้าทำได้น่ากลัวอยู่ประปราย วิดิชกับริโอเจองานหนักมากๆ ในการตามประกบมาร์ลอน คิงและ กูแซง ที่เล่นลูกกลางอากาศได้โดดเด่น บอลของยูไนเต็ดเน้นออกไปที่ปีกสองข้างเป็นพิเศษ ก่อนจะเพิ่มความหลากหลายในการเข้าทำจังหวะสุดท้าย แต่ยังไม่คมพอจะจบสกอร์เพิ่ม ฮัลล์มาได้ประตูตีเสมอแบบช็อคใจผมมากๆจากจังหวะที่ดูไม่มีอะไร การเตะฟรีคิกจากกราบขวาของฮัลล์โดยแอนดี้ ดอว์สัน ส่งบอลโค้งเข้าหาประตู ก่อนที่กูแซงจะเทคฝ่ากองทัพหัวเจ้าบ้านขึ้นเช็ดบอลเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย เล่นเอาเบียร์กร่อยทันที และยูไนเต็ดก็ดูจะตื้อๆไปจากจังหวะนี้เช่นกัน กลับกัน ฮัลล์เริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้ว เล่นได้แน่นอนและน่ากลัวขึ้น แต่กลับมาถูกทีเด็ดเบอร์บาตอฟและคาร์ริคเล่นงานคืนในจังหวะสวนกลับเร็ว เมื่อเบอร์บาตอฟได้บอลตรงกลางสนาม ก่อนจะลากขึ้นไป และเลือกจ่ายให้คาร์ริคที่เติมขึ้นสูงทางซ้าย คาร์ริคลากต่อเข้ากรอบก่อนจะดึงจังหวะนิดนึง และกดเรียดฝ่ากองหลังฮัลล์สองสามคน ส่งบอลชนโคนเสาไกลเข้าประตูไปในนาทีที่สามสิบ ลูกนี้จะเห็นเลยว่า รูนี่ย์ นานี่ และโด้ วิ่งดึงกองหลังเทหนีคาร์ริคไปหมด ทำให้คาร์ริคมีจังหวะยิงเหน่งๆ จากนั้น ฮัลล์ก็ดูจะช็อตไปอีก เกมเป็นของยูไนเต็ดอีกครั้ง ก่อนจะกดดันหนัก จนมาได้ประตูเพิ่มช่วงท้ายครึ่งแรก เมื่อนานี่เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้ามา โรนัลโด้โฉบเข้ามาโหม่งที่เสาแรก บอลแฉลบหัวแม็คเชนตุงตาข่าย ให้ยูไนเต็ดนำห่างเป็น 3:1 ก่อนจบครึ่งแรก จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มครึ่งหลัง ยังไม่มีการเปลี่ยนตัว เกมยังเป็นของยูไนเต็ด แต่ฮัลล์ดูจะมีสมาธิมากขึ้น มีความแน่นอนมากขึ้น และเริ่มโต้กลับได้น่าหวาดเสียวมากขึ้น วิดิชหยุดคิงแบบไม่เสียฟาล์วนี่แทบนับครั้งได้ เราเสียฟาล์วหน้ากรอบถี่ขึ้น ในขณะที่ริโอเองต้องเจอกับทั้งกูแซงและโจวานนี่กดดัน แต่ยังคงยืนหยัดต้านทานไว้ได้ ยูไนเต็ดยังคงครองเกมได้มากกว่าและมาได้ประตูเพิ่มอีกจากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่รูนี่ย์เปิดเข้ามา บอลข้ามหัวผู้เล่นเสาแรกมาตกหน้าวิดิชที่ขึ้นมาพอดี วิดิชเลือกยกเท้าขวาขึ้นแปแบบไม่ทันคิดอะไร แต่บอลได้น้ำหนักและทิศทางพุ่งลอดตัวมายฮิลล์เข้าไปเป็นลูกที่สี่ มาถึงตรงนี้ ผมสบายใจแล้ว และเริ่มจะมองหาเบียร์กระป๋องต่อไปทันที ฟิล บราวน์เปลี่ยนตัวผู้เล่น ด้วยการถอดเอาไบรอัน ฮิวจ์ส ออก ส่งแบร์กนาร์ เมนดี้ลงมา และผ่านไปสักพัก ก็เปลี่ยนอีก โดยส่งฮัลโมซี่ลงมาแทนมาร์ลอน คิงที่ถึงจะกดดันวิดิชได้เยอะจริง แต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ และท่านเซอร์ก็ส่งเตเวซลงมาแทนนานี่ ที่ดูจะไม่สบอารมณ์ เห็นป๋าเดินมาตบหลังตบไหล่เอาอกเอาใจอยู่ สุดท้ายนานี่ก็พยักหน้าหงึกๆขึ้นอัฒจรรย์ไป ยูไนเต็ดยังคงกดดันหวังจะได้ประตูที่ห้าต่อไป แต่กลับมาเสียประตูแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อลูกสวนกลับของฮัลล์ได้วางบอลข้ามฟากโด่งมาหน้ากรอบทางซ้ายมือ เหลือเอวร่ากับเมนดี้สองคน เอวร่าซึ่งเสียหลักไปแล้ว เลือกที่จะโหม่งย้อนกลับให้น้าซาร์ แต่น้ำหนักไม่ดีพอ เมนดี้กวดมาถึงบอลก่อนและชิพโด่งข้ามน้าซาร์ลูกย้อยลงใต้คานพอดี วิดิชวิ่งหน้าตั้งตามไปงัดออกมาก็ไม่ทันแล้ว ทำให้ฮัลล์ไล่ขึ้นมาเหลือสองลูก ท่านเซอร์ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ เมื่อเห็นลูกทีมเสียประตู เพราะไม่ได้ยับยั้งการเปลี่ยนตัวที่เกิดขึ้นตามมา ป๋าถอดคาร์ริคออกมาพัก และส่งกิ๊กส์ลงไปแทน และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของเกมครับ ในสายตาผม จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กิ๊กส์เมื่อมาจับคู่กับแอนนี่ ทำให้ทีมเสียสมดุลในเกมรับทันที ทั้งคู่ดูจะเติมเกมรุกมากกว่าจะสกรีนเกมรับหรือชลอเกมคู่ต่อสู้ ทำให้เกมโต้กลับหลุดมาถึงแผงหลังเราเร็วมาก และเราก็เสียประตูที่สาม เมื่อบอลโต้กลับหลุดมาถึงหน้ากรอบ เมนดี้ตามไปเอาบอลเบียดกับริโอ ก่อนจะถูกริโอดึงหนึ่งจังหวะ และสะดุดเท้าริโอล้มลงไป ไมค์ ดีน ไม่ลังเล เป่าให้จุดโทษทันที และเป็นโจวานนี่ที่ยิงเข้าไปแบบมุมดิกเมื่อเหลืออีกสิบนาที เกมของฮัลล์ได้ใจเต็มที่แล้ว และเริ่มครองบอลบุกเข้าใส่บ้าง เกมตรงกลางเราขาดน้ำหนักไปมาก และชลอเกมรุกฮัลล์ไม่ได้ และเมื่อเป็นอย่างนั้น การจะหยุดก็คือเสียฟาล์วอย่างเดียว เกมถึงตรงนี้ฮัลล์เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้รูนี่ย์ต้องถอยลงมาช่วยตามริมเส้นบ่อยๆ และทำให้เกมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาไม่กี่นาที มีใบเหลืองปลิวออกมาถึงสามใบ และรูนี่ย์กับเตเวซก็ดูจะเป็นเหยื่ออารมณ์ตัวเองเช่นเคย เมื่อไล่เสียบคู่ต่อสู้ไม่หยุดหย่อน ยูไนเต็ดเมื่อไม่สามารถปิดสกอร์เพิ่มได้อีก ไม่สามารถผลิตลูกที่ห้าได้เสียที ทั้งๆที่มีโอกาสแบบหลุดเดียวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กลับกัน ฮัลล์กลับมาได้สองประตูรวดจากเกมโต้กลับที่มีโอกาสจบสกอร์ไม่กี่ครั้ง ตรงนี้ครับ ที่น่าจะทำให้รูนี่ย์ และเตเวซเสียอารมณ์จนควบคุมไม่ค่อยอยู่ และเกือบทำให้พวกเขาต้องถูกสองใบเหลืองอีกต่างหาก ยังดีที่ทั้งคู่ยังอดกลั้นไว้ได้บ้างหลังโดนไปคนละเหลือง ท่านเซอร์เห็นรูปเกมย่ำแย่หนัก เกมตรงกลางเสียขบวนไปเยอะ จึงต้องถอดแอนนี่ออกมา และส่งโอเชลงไปแทน ในช่วงท้าย ก่อนจะจบไปด้วยสกอร์ 4:3 แบบสุดระทึก เล่นเอาเบียร์ขมไปไม่น้อยสำหรับผม จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาดูที่รูปเกมกันบ้าง จากเกมที่ดูเหมือนไม่น่ามีอะไร แต่นักเตะยูไนเต็ดและท่านเซอร์ก็ทำให้มันมีอะไรขึ้นมาจนได้ครับ เริ่มจากการที่แทนที่เราจะได้ประตูที่ห้า ที่หก ที่เจ็ด จากลูกที่มีโอกาสจะจะหลายต่อหลายครั้ง เรากลับทำไม่ได้ ทั้งจากรูนี่ย์ จากโรนัลโด้ รวมทั้งเตเวซ แต่ละลูกที่ควรจะได้ มันควรต้องเป็นประตูอย่างยิ่งครับ หากเป็นเกมอื่นที่โอกาสไม่เปิดมากๆ การพลาดลักษณะนี้ ก็คือหายนะดีๆนี่เองนะครับ และเมื่อทำประตูเพิ่มไม่ได้ กลับค่อยๆเสียประตูคืนไปให้คู่ต่อสู้ เราก็ยิ่งกดดันตัวเองมากขึ้นจนในที่สุด ระฆังก็ช่วยชีวิตไว้ได้ หากมีเหลืออีกสักสิบนาทีสิบห้านาที เราอาจจะเห็นสกอร์กลับมาเท่ากันก็ได้ เพราะตอนนั้นโมเมนตัมมันอยู่ทางฮัลล์หมดแล้ว นอกจากนักเตะจะทิ้งขว้างโอกาสกันไปเองแล้ว การเอากิ๊กส์ลงมาแทนคาร์ริคก็คือการตัดสินใจที่ผมมองว่า ทำให้ฮัลล์กลับมาสู่เกมของพวกเขาได้เต็มที่เลย เพราะเราเสียการควบคุมพื้นที่ตรงกลางสนามไปทันทีหลังจากกิ๊กส์ลงมาคู่กับแอนนี่ การดักตัดบอล การชลอเกมคู่ต่อสู้ การอ่านจังหวะเกมตรงกลางเพื่อหยุดเกมรุกฮัลล์ เหล่านี้หายไปหมด บอลทะลุพรวดเดียวถึงริโอ ถึงวิดิช ซึ่งผมมองว่าก่อนกิ๊กส์จะลงมานั้น เราเพิ่งเสียประตูไปแท้ๆ ป๋าน่าจะยั้งการเปลี่ยนตัวไว้ก่อน หรือไม่ก็เปลี่ยนเอาเฟล็ทเชอร์ลงมาแทนน่าจะดีกว่า เมื่อมองว่าเฟล็ทช์ยังดูเป็นกองกลางอาชีพมากกว่ากิ๊กส์ และน่าจะมีส่วนยับยั้งเกมรุกฮัลล์ได้บ้าง แต่ถ้าให้ผมเดา ผมมองว่าป๋าตั้งใจที่จะไม่ใช่เฟล็ทเชอร์ครับ รอดูกลางสัปดาห์ หากผมเดาได้ถูก เราน่าจะได้เห็นเฟล็ทเชอร์ยืนคู่กับคาร์ริคในเกมเยือนเซลติคครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หากจะไม่มองถึงการเสียประตูในช่วงที่เกมเปลี่ยนเป็นของฮัลล์ ซิตี้ช่วงท้ายๆนั้นแล้ว ซึ่งประตูนั้นผมมองว่าเป็นโชคร้ายของริโอครับ ที่เมนดี้ไปสะดุดเท้าเข้า ไม่รู้สิ ผมดูจากภาพช้า ผมรู้สึกว่าการฟาล์วลูกนี้ดูจะเบากว่าลูกอื่นๆที่ ไมค์ ดีนปล่อยให้ตั้งมากมาย หากไม่มองรายละเอียดของจังหวะนี้แล้ว การเสียประตูทั้งสองลูกแรกก็ถือเป็นจุดอ่อนที่สุดของเรา ซึ่งยืนยันความคิดผมเป็นอย่างดีว่าเรามีจุดอ่อนที่การป้องกันกลางอากาศ ลูกแรกที่เสียไป ก็มักจะเป็นการเสียประตูแบบสแตนดาร์ดของเราก็ว่าได้ จากลูกตั้งเตะ เปิดมาหน้ากรอบ และประกบพลาด ให้คู่ต่อสู้เทคฝ่าผู้เล่นเราขึ้นไปเช็ดได้ขนาดนั้น ซึ่งหากไม่นับโรนัลโด้แล้ว ผมยังนึกไม่ออก ว่าผู้เล่นเราที่โหม่งได้เก่งๆยังมีใครอีกบ้างที่มักจะทำประตูจากลูกโหม่งได้ ริโอก็ไม่ใช่ วิดิชตอนนี้ก็ไม่ใช่ สองคนนี้ ถนัดการโหม่งก็จากการป้องกันในโอเพ่นเพลย์เท่านั้น แต่พอเจอลูกตั้งเตะ เจอกองหน้าบึกๆล่ำๆหนักๆ ที่ถนัดโหม่งนักหนา เจอพวกนี้เข้าไป ก็มักจะเสร็จครับ ลูกที่สองนี่ยิ่งชัดเจน ฟูลแบ๊กเราสองข้างป้องกันลูกกลางอากาศไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แกรี่งี้, เอวร่างี้, บราวน์ถึงจะสูงใหญ่หน่อยแต่ก็หลับตาปี๋โหม่งทุกครั้ง อนาคตยิ่งไม่ต้องพูดถึง เงาะซ้ายเงาะขวาก็ดูจะไม่มีหวังกับการป้องกันลูกกลางอากาศ การเสียประตูในลักษณะลูกที่สองนี้ มักจะเกิดเวลาโดนสวนเร็วๆ ที่คู่เซ็นเตอร์ลงมาปิดไม่ทัน ผู้เล่นแนวรุกริมเส้นจะโฉบเข้ามาจากกราบ ซึ่งจะมีฟูลแบ๊คตามประกบ จังหวะนี้คือเอวร่า ในขณะที่คู่เซ็นเตอร์ต้องตามประกบศูนย์หน้าและรับผิดชอบพื้นที่ด้วย แต่บอลกลับถูกสาดข้ามมาจากอีกฝั่ง ข้ามยาวมาเลย เป้าหมายเหลือแค่เมนดี้และตัวสั้นๆของเอวร่า เอวร่าเกือบทำได้ดีแล้วเมื่อตามไปจนถึงขั้นที่โหม่งได้ก่อน แต่ลักษณะการเทคตัวของเอวร่าก็คือหลักไม่มีแล้วครับ แทนที่จะสะบัดหัวให้บอลเลยข้ามไป กลับเลือกตั้งหัวโหม่งคืนโกล์ทั้งๆที่ไม่มีหลัก ทำให้น้ำหนักที่จะส่งบอลถึงมือมีไม่พอ ก็เสร็จสิครับ ลูกนี้คงต้องรับไปเต็มๆ สำหรับเอวร่า จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หากคู่ต่อสู้ทีมเล็กๆ ทีมกลางๆ ได้อ่านเกมของยูไนเต็ดจริงจัง ก็น่าจะพบวิธีต่อกรได้ไม่ยาก นั่นคือทิ้งยักษ์ไว้ข้างหน้าสักตัวสองตัว ที่เหลือแพ็คเกมแน่น แพ็คลึก มีตัวโต้กลับเร็วตัวหนึ่ง ได้บอลปุ๊บ จ่ายให้ตัวโต้กลับปั๊บ แล้วเล็งเป้าไปที่ยักษ์ข้างหน้า สาดให้ทันที แค่นี้ยูไนเต็ดก็น่าจะหนาวๆร้อนๆแล้วครับ มาร์ลอน คิง ก็เล่นเอาวิดิชอ่วมทั้งเกมมาแล้ว ถึงจะทำสกอร์ไม่ได้ แต่ดูสีหน้าวิดิชแล้วก็หนักใจแทน เมื่อคู่เซ็นเตอร์แค่สองตัวไม่พอป้องกันหรอกครับ เชลซีเองยังถอยดร็อกบากับอาเนลก้ามาป้องกันลูกเซ็ตพีซลักษณะนี้เลย เพื่อกินพื้นที่กลางอากาศไว้ก่อน มีทั้งเทอร์รี่, คาร์วัลโญ่, ดร็อกบา, อาเนลก้า แม้แต่เชฟเชนโก้ยังเฝ้าเสาอีกต่างหาก หากจำได้ นั่นคือการป้องกันที่จำเป็นครับ ยังไม่ต้องห่วงเรื่องจะโต้เร็ว เพราะถ้าเสียประตู คุณก็ไม่ได้โต้อยู่ดีแหละ แหม... ว่าจะมาชมเกมรุกซะหน่อย กลับต้องมานั่งบ่นเกมรับซะงั้นครับ...เฮ้อ  แต่ก็เอาเถอะครับ ฟอร์มไม่ดี ก็ขอบ่นดังๆหน่อย หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ แหะ แหะ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูโปรแกรมที่เหลือของเดือนนี้กันอีกครั้งนะครับ November 2008 05 Nov    UEFA Champions League      Celtic                     A 08 Nov    Barclays Premier League      Arsenal                  A 11 Nov    League Cup (Carling)            Queens Park          H 15 Nov    Barclays Premier League     Stoke City              H 22 Nov    Barclays Premier League     Aston Villa             A 25 Nov    UEFA Champions League    Villarreal CF           A 30 Nov    Barclays Premier League     Man City               A จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป้าหมายสำหรับตอนนี้ เมื่อย้อนกลับไปดูที่ผลงานของทีมนัดหลังๆ ที่มักจะออกอาการสติสตังไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยนัก ก็ยิ่ง ทำให้ผมไม่กล้าคิดหวังอะไรยาวๆ ขอเชียร์แบบนัดต่อนัดไปก่อนดีกว่าครับ เริ่มจากการันตีการเข้ารอบน๊อคเอาท์บอลยุโรปให้ได้ก่อนดีกว่า ด้วยการรีดฟอร์มบุกไปเก็บสามแต้มจากรังของเซลติกให้ได้ จากนั้นค่อยกลับมาลุ้นสถานการณ์การออกไปเยือนอาร์เซนอลกันต่อไปครับ ณ ตอนนี้ เรายังอยู่อันดับที่สาม และยังไม่ทราบว่าจะถูกวิลล่าแซงขึ้นไปก่อนหน้าเกมเยือนลอนดอนหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไร การเอาชนะอาร์เซนอลให้ได้ ก็ย่อมเป็นหนทางเดียวที่จะก้าวขึ้นมาแสดงให้เห็นว่า เราพร้อมแล้วที่จะรักษาถ้วยแชมป์ไว้ต่อไปอีกปี เมื่อเราเสียไปห้าแต้ม จากหกแต้มให้กับเชลซีและลิเวอร์พูลไปก่อนหน้านี้ และเมื่อดูองค์ประกอบของอาร์เซนอลเอง ที่ตอนนี้เพิ่งถูกสโต๊คเล่นหนักๆซะจนนักเตะตัวหลักหลายรายไม่สามารถลงสนามได้ นี่คงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะต้องเค้นฟอร์มสุดยอดออกมา เพื่อไปเก็บสามแต้มที่เอมิเรตส์ให้ได้ครับ แล้วมารอลุ้นกันนะครับ ว่าผลจะเป็นอย่างไร สงบใจ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 10:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณน้าหงบฯค่ะ... เกมส์ล่าสุดมันอึ้ง ทึ่ง เสียว ทุกรูปแบบ... ตอนยิงเข้าตั้งแต่นาทีที่ 3 ก็นั่งยิ้มแล้ว ยิ่งจบครึ่งแรกสกอร์จบที่ 3-1 ยังนึกกระหยิ่มใจ สุดท้ายลุ้นแทบเป็นลม เฮ้ออออ แต่ดูเสือเล่นแล้วนึกชมเชยขึ้นมาเลยค่ะ ลงมาเปิดหน้าแลกอย่างนี้มันส์ดี เล่นกับทีมใหญ่อย่างเราแบบไม่มีกลัว...เป็นทีมเล็กแต่ใจใหญ่นับถือหัวจิตหัวใจเลย ต่อไปจะปันใจช่วยเชียร์ ขอรับไว้เป็นกิ๊กละกัน             ^_^ จากคุณ : นู๋ชม - [ 3 พ.ย. 51 10:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณ สงบใจ .... ********************************************* เกมส์นี้มีอยู่ 2  ข้อที่ผมอยากพูดถึง ก็คือ  เกมรุกและเกมรับ เอาเกมรุกก่อนนะครับ เกมรุกแมนฯยู ถ้าสังเกตุดีๆ  เวลาขึ้นรุกแต่ละทีแบ็คไม่ซ้ายก็ขวาต้องเติม ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา ที่แมนฯยูมักขึ้นเกมแบบนี้เพื่อดึง หรือเปิดที่ว่างให้โยนเข้าไป ไม่ว่าจะยังไงก้แล้วแต่มันจะจบด้วยการยิง ... ซึ่งการต่อบอลจะใช้เวลาไม่มากในการขึ้นแต่ละครั้ง มันดีตรงที่บอลทะลุเร็ว  แต่เสียก็คือ  เพื่อนบางคนไม่ทัน  คือจ่ายฟรีบ้าง  ออกตัวฟรีบ้าง  ขาดๆเกินๆนิดหน่อย  เรา(คนดู)อาจรุ้สึกหงุดหงิดนะ  ... ว่าทำไมมรึงเล่นอย่างนั้น  เล่นอย่างนี้ น่าจะเอาบอลไว้กับตัวและรออีกหน่อย ไม่ใช่เล่นบอลแตะจังหวะเดียว ซึ่งได้บอลบ้างไม่ได้ผลบ้าง..และเหล่าแฟนบอลวิพากษวิจราณ์   ก็ว่ากันไป... แต่ถ้ามองอีกมุม ...เกมส์รุกแมนฯยู  กำลังจะเล่นในรูปแบบนี้ คือแตะบอลเพื่อเล่นจังหวะเดียวในเขตโทษ บอลมันจะเร็วมาก นักเตะวิ่งวนในเขตโทษตลอด  ซึ่งที่มันได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง ก็เพราะมันยังไม่ คลิก!!! คือขอเล่นและเข้าขาไปเรื่อยๆ ...  จะเห็นได้ว่าแอนเดอร์สัน  เริ่มโชว์ฝีตรีนแล้วนะครับ  เพราะอีแอนมันชอบบอลแบบนี้นี้คือจับได้จ่าย จับได้จ่ายตลอด... ซึ่งถ้าจ่ายออกไปไม่เบิร์บ โรนัลโด หรือจะรูนีย์จะเข้ามารับเพื่อเล่นบอลจังหวะเดียวนี่แหละครับ  ขอบอกว่าน่ากลัวๆ  และถ้ามันเข้าขากันหรือจับจังหวะกันได้   ซึ่งเท่าที่ดูแล้วมันเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ ...  และถ้าเป็นอย่างนี้  ผมขอเอาคอคุณสงบใจ!!! ประกันได้เลยว่า เราจะได้เห็นเกมรุกแมนฯยูที่เจ๋งกว่านี้อีกครับ ...ผมรับรอง .... ************************************* มาถึงเกมส์รับ  หลายคนสงสัยนะครับ  มันเสีย 3 ประตูได้ยังไง ซึ่งดูแต่ละลูกแล้วไม่น่าเสีย  น่าเสียดายมันส่งผลกระทบต่อลูกได้เสียอย่างมากนะครับ ....  ทำไม??? เสีย 3ประตู  และเกมก่อนหน้านี้รู้สึกว่าแมนฯยูเวลาได้ประตูนำ มักผ่อนเกม ... เกมส์นี้ก็คล้ายกัน นำ4-1 ถ้าเป็นเมื่อก่อน  น่าจะได้ อีก 2-3 ลุก  ไม่มีทางต้องเสียเพิ่มแน่นอน เปล่าดูถุกฮัลล์ แต่แมนฯยูคุณเป็นอย่างนี้มานานแล้วไม่มีทางผ่อนเกมเด็ดขาด.... จนกว่าจะหมดเวลา .. โดยส่วนตัวผมมองว่า  นักเตะแมนฯยู ชะล่าใจและมั่นใจเกินเหตุอันส่งผลให้รูปเกมเหมือนกับว่า พอแล้ว ขอชนะก็พอ... ดูเหมือนกับผ่อนเกมส์ ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนี้  อันตรายมากนะครับ  และเฟอร์กี้ก็มองออกว่า  เวลาทีมนำลูกทีมมักแสดงอาการซะล่าใจให้เห็น  จากบทสัมภาษณ์ที่ว่า" เราต้องทำความเข้าใจกันอีกนิด นักเตะมักจะหย่ามใจหลังทีมนำซึ่งไม่ใช่แนวทางของผม" www.manutd.com มาดูว่าเจอเซลติก...จะเป็นอย่างไร สำหรับแมนฯยูในวันนี้  แมนฯยูในวันที่นักเตะเล่นกัน"แอ็คอาร์ต"เกินเหตุ.... ******************************************** สำหรับ  หลายท่านที่ต้องการเห็น โรงเรียน สอนฟุตบอลเอฟเฟ่นแบร์ก ที่จ.เชียงราย ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร โครงการก่อสร้างไปถึงไหนแล้ว???  ผมมีรูปมาฝากครับ   แต่น่าจะเป็นตอนบ่ายๆนะครับ ...ติดตามได้หน้าห้องศุภฯได้เลยครับ ... จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 3 พ.ย. 51 10:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับ เห็นด้วยในหลายๆจุดเลยครับ โดยเฉพาะป๋าเปลี่ยนตัวพลาด น่าจะส่งคนอื่นมาแทนกิ๊กส์มากกว่า มาช่วยไล่ตัดบอลแดนกลาง เพราะคาร์ริคออกไป กลางก็สู้ไม่ได้ บอลไปถึงหลังเร็วมาก แม้รูนีย์กับเตเวซจะไล่บอล แต่การเข้าแย่งบอลยังไงก็สู้นักเตะแบบ DMC จริงๆไม่ได้ ยังดีที่ไม่มีใครโดนแดง เพราะนัดหน้าเจออาร์เซน่อลด้วย นัดหน้าปืนเองก็ขาดเยอะ หวังว่ายูไนเต็ดจะคว้าชัยได้เช่นกันครับ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 3 พ.ย. 51 10:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จบเกมส์ไปแบบเหนื่อยหัวใจกันเลยทีเดียว จากที่คิดว่าน่าจะปิดเกมส์ได้แล้วตั้งแต่ตอนนำ 4-1 ฮัลล์นี่ใจสู้จริงๆ ฮึดกลับมาจนเกือบทำให้ยูไนเต็ดเสียฟอร์มเลย หลายๆ นัดหลังมานี่ เราเล่นดีแค่ครึ่งเดียวตลอดเลย สงสัยว่าเป็นเพราะท่านเซอร์ไม่แก้แท็กติก หรือเพราะฝ่ายตรงข้ามแก้เกมส์มาดีกว่าอ่ะฮะ? นอกจากนี้จังหวะที่ Turner ทำฟาวล์คาร์ริคหน้ากรอบ แต่กรรมการไม่ให้ใบเหลือง (แถมเจ้าแอนยังยิงนกเล่นซะอีก) คุณสงบใจและเพื่อนๆ ที่นี่คิดว่ายังไงอ่ะฮะ สุดท้ายก็คือชักเบื่อๆ ที่ใครๆ ก็ยกย่องเบอร์บาตอฟกันซะขนาด หนูชอบเบอร์บานะฮะ แต่แหม...ตั้งแต่ล๊อกหลบกองหลังเวสต์แฮมวันนั้นแล้ว นัดล่าสุดนี่ แต่แตะบอลยังเทพเลยอ่ะ -_-" (แต่แฟนแมนยูที่้บ้านหนูพูดเหมือนกันเลย ว่าเบอร์บานี่ซื้อมาแอสซิสต์ ไม่ได้เอาไว้ยิง ) จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 3 พ.ย. 51 10:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีตอนสายครับคุณสงบใจ ขอพื้นที่ร่วมถกฟอร์มทีมรักด้วยสักเล็กน้อยนะครับ จากเกมส์ที่ผ่านมา ผมมีเรื่องอย่างระบายดังนี้ครับ 1. เกมส์รุกไม่เฉียบขาดพอ(แม้จะยิงได้ 4 ลูก) ด้วยโอกาสขนาดนั้น น่าจะมีสกอร์เพิ่มอีกซักสองเม็ดนะครับ กับเกมส์แบบนี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเจอทีมใหญ่ๆ เคี่ยวๆ จังหวะเหล่านั้น สมควรยิงได้ด้วยประการทั้งปวงครับ 2. กิ๊กส์ไม่เหมาะกับมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างแน่นอน อย่างที่ผมเคยคอมเมนต์ในกระทู้ป๋าหงบมาสองครั้งแล้วครับ เกมส์รุกพอไหว แต่เกมส์รับนี่ กิ๊กส์แทบไม่ได้ช่วยอะไรทีมเลยครับ น่าจะเอากองกลางอาชีพลงมามากกว่า 3. เกมส์รับของเรายังคงมีปัญหากับกองหน้าตัวใหญ่อยู่เหมือนเดิม ตามที่คุณสงบใจว่าไว้เด๊ะๆ สำหรับทางแก้ ผมว่าตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มาก คงตัวเน้นให้กองกลางช่วยกองหลังมากขึ้นในจังหวะโดนโต้กลับ อย่างน้อยๆ เข้าไปช่วยบีบให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามครองบอลยากขึ้นซักนิดก็ยังดีนะครับ จากเกมส์กับเอฟเวอร์ตันและเกมส์วันนี้ ผมว่า ที่ผ่านมาเราขาดกองกลางตัวคุมจังหวะเกมส์ อย่างสโคลส์และคาร์ริค เฟล์ทเชอร์เองก็ทำได้ดีแค่บางนัด น้องแอนก็ยังเร่งจังหวะมากไปในหลายๆครั้ง กิ๊กส์ยังขาดเรื่องเกมส์รับและความแข็งแกร่งของร่างกายที่มิดฟิลด์ตัวกลางควรจะมี ยิ่งโอเชยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทำให้บางครั้ง เกมส์ของเราดูจะช็อตไปดื้อๆ ทั้งๆที่บางช่วง(ในเกมส์เดียวกัน) เรากลับทำเกมส์รุกได้วูบวาบน่ากลัวมากๆ ก็ได้แต่หวังว่า คาร์ริกกลับมาคราวนี้ จะได้ลงมาคุมแดนกลางแบบยาวๆ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บมารบกวนอีกนะครับ ปล.1 ผมว่ากรรมการเกมส์นี้ตัดสินแปลกๆนะครับ อาจเป็นเพราะผมมองเข้าข้างทีมที่เชียร์ อย่างลูกจุดโทษที่ริโอเสีย ผมว่าไม่น่าจะเป็นจุดโทษนะครับ แต่ก็โอเค มันดูก้ำกึ่งจะให้ก็ได้หรือไม่ให้ก็ได้ แต่ถ้าจังหวะนั้นมันฟาล์ว ผมว่า ลูกที่คาร์ริกโดนทำฟาล์ว นักเตะฮัลล์ก็สมควรโดนใบเหลืองเป็นอย่างน้อยนะครับ สำหรับจังหวะแบบนั้น ปล.2 ผมว่าเกมส์ในนัดหน้า อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกนัดของฤดูกาลนะครับ ฟอร์มเรากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราชนะปืนใหญ่ได้ และหงส์กับสิงห์พลาดท่าสะดุดซักนิด เราจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากๆเลยนะครับ เพราะปีนี้ เกมส์เยือนหนักๆมาตกอยู่ในครึ่งฤดูกาลแรกเกือบหมด ถ้าเราเกาะกลุ่มนำไว้ได้ ปีนี้ได้ลุ้นยาวๆเลยนะครับ จากคุณ : โค้วเต๊กซิม - [ 3 พ.ย. 51 10:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #13 ผมว่าจังหวะคาร์ริคโดนทำฟาวล์ ยังไงก็ต้องเป็นเหลืองที่ ๒ ครับ กรรมการใจดีเกินไป หลุดเข้าไปได้คือหลุดเดี่ยวแล้วอะ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 3 พ.ย. 51 10:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 4-4 ของน่อลหลอนมาอ่าลุงหงบใจ แบบลุ้นเมื่อไหร่จะหมด แถมมาลุ้นคู่liv แล้วน่อลอีก 555 นุกว่าจะได้มากกว่า 4-1 กลับมาเป็น 4-3 ซะงั้น อิอิ ขอบคุณค่า ^_______________^ จากคุณ : poojo_ke - [ 3 พ.ย. 51 11:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาอ่าน...แล้วก็เห็นด้วยครับ...^ ^ จากคุณ : ood2282 - [ 3 พ.ย. 51 11:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ชี้ไปที่ #15 จริงๆ ก็คิดแบบนี้ ยังกะอยู่เลยว่าถ้าฮัลล์เหลือสิบคน น่าจะหายใจโล่งขึ้นหน่อย (แล้วก็ต้องเตรียมบัตรคนชั่วไว้ด้วย วันจันทร์คงงานเข้าแน่ๆ อิอิ) แต่กลัวใครๆ จะหาว่าเข้าข้างยูไนเต็ด เลยมาหาแนวร่วมฮะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 11:09:59 จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 3 พ.ย. 51 11:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับ คุณสงบใจและเพื่อนๆ ดูเหมือนว่าทีมเราจะยังมีปัญหาครึ่งหลังอยู่เหมือนเดิม ชอบจังคำว่า "แอ็คอาร์ต" มันใช่เลย บางจังหวะดูแล้วก็อืม ... มันจะโชว์ไปไหนหว่าเนี่ย กลายเป้นไม่เล่นง่ายๆ กันซะอย่างนั้น รู้สึกว่าบ่อยครั้งความมั่นใจจน "ล้น" ของทีมเราทำให้รูปเกมเรามีปัญหา ยิ่งในครึ่งหลังที่เปลี่ยนคาร์ริคออก แล้วเอากิกส์ลงมา ยิ่งเห้นเลย จริงๆ แล้วหากป๋าส่ง เฟลท หรือ โอเชียมา อาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะรูปเกม 4-1 เนี่ย จำเป้นด้วยหรือ ที่ต้องการกองกลางเชิกรุก 2 คน (หรืออาจเพราะป๋าอยากตุนได้-เสีย) ซึ่งมันทำให้รูปเกมเสียสมดุลไปเลย ดูแล้ว น้องแอนยังไม่ใช่กองกลางเชิงสูงในการยืนตำแหน่ง มีบ่อยครั้งที่ต้องไล่กวด (แถมกวดฟรีอีกต่างหาก) ยิ่งรูปเกมฮัลอาศัยการบอมบ์ยาวไปทางแบ็คสองฝั่ง ซึ่งตัวเล็กทั้งคู่ ให้ปีก หรือศูนย์หน้าที่ฉีกมาโหม่งชงให้กองหน้าเข้าไปยิงได้ ยิ่งน่ากลัว = =" นอกเหนือจากนั้น หลายจังหวะ ผมรู้สึกว่ากองหลังเราลอยสูงกันด้วย เหมือนจะขึ้นๆ ไปเติมเกมกันหมด แม้กระทั่งวิดิชในบางจังหวะ .. มีแต่แบ็คสองฝั่งที่ยืนต่ำหน่อย แต่ดูแล้วโยนไป ก้อโหม่งสู้เค้าไม่ได้ ดูแล้วเป็นห่วงครับ (ยังดีที่ทีมใหญ่ๆ เค้าไม่ค่อยเล่นรูปเกมแบบนี้กัน แต่กับเซลติกกลางสัปดาห์น่าจะได้เห็นกันอีก) สุดท้ายนี้ อยากชมนานี่ เหมือนจะเข้าใจรูปเกมที่ปีกที่ดีควรจะเล่นมากขึ้นแล้ว (^__^) จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 3 พ.ย. 51 11:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ดู แต่ รู้และ เข้าใจครับ เรื่อง กิ๊กส์ ผมก็งง  ทำไมลงมา แทนที่จะเป็น โอเช หรือ เฟลท ที่เล่นเกมรับ หรือ ยังกะให้กิ๊กส์ เปลี่ยนเกม รับเป็นรุก จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 3 พ.ย. 51 11:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เกมนี้ผมดูแล้วเกมรุกไหลลื่น ดูเพลินมากเลยครับ แต่เกมรับนี่... หวังว่าถ้าเราได้ฮากรีฟส์กลับมาเกมรับคงแน่นขึ้นกว่านี้นะครับ ...เช้านี้อ่านข่าวที่ soccersuck เห็นข่าวฮากรีฟส์อาจต้องผ่าตัดพัก6เดือน - -" คุ้นๆว่าตอนซื้อมาไม่นานบาเยิร์นบอกว่าย้อมแมวขายสำเร็จ...มันเป็นเรื่องจริงเรอะเนี่ย T_T จากคุณ : kirofsky - [ 3 พ.ย. 51 11:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยนะครับที่นักเตะเราเล่นแบบเอ็คเกินไป น่าจะรัดกุมกว่านี้ จากคุณ : irr_f - [ 3 พ.ย. 51 11:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดูแล้วเครียดมากค่ะนัดนี้ (เซ็งมากกว่า) คิดถึง สโคลส์ ขึ้นมาซะเฉยๆ นำ 4-1 แบบนี้ ลูกพี่สโคลส์ สั่งตีหัวเข้าบ้าน ไม่ก็ดักฆ่าให้ตายชัวร์ๆแน่นอน ปล. แผงหลัง ยิ่งนับวันยิ่งน่าสนใจว่าจะเสียประตูแบบง่ายๆแบบไหนอีก ปล. 2 น้องแอน วิ่งได้เกิน 65 นาทีแล้ว ปล. 3 เกมส์รุกไม่เคยคิดจะผ่อนเกมส์รุก หันมาเล่นแบบมั่นคงบ้างเลยรึ จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 3 พ.ย. 51 11:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หวัดดีครับลุงหงบ :  ผู้มองเห็นปัญหา นอกเหนือจากปัญหาลูกโด่ง  ตั้งป้อมบอมใส่กองหลังแล้ว อีกปัญหานึงของแมนยูที่หายไปจาก ชุดเก่าๆคือ แรงฮึดช่วงท้ายเกม!!   ทำให้ผมคิดอยู่ว่าถ้าแมนยูโดนนำแล้วช่วงท้ายเกมจะเป็นยังไงน่าคิดมั่กๆ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข  ผมคิดว่าผมมองเห็นปัญหาเหมือนกัน ปัญหาที่มองเห็น 1.  เครื่องร้อนช้า (โดนบุกต้นเกมหนักๆอาจจะตายได้!!) 2.  ความเฉียบคมในการจบสกอร์ (ยิงตูมหายๆแบบฤดูกาลที่แล้วไปไหนหมด - -* ) 3.  ช่วงท้ายเกมหมดลูกฮึดช็อตไปดื้อเลยก็มี หลักผมเห็นแค่นี้นะครับ ปล.แต่นัดนี้ซูฮก ฮัลซิตี้จริงๆจากใจ  ฟิล บราวน์ นายแน่มากจริงๆ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 11:33:21 จากคุณ : geno_nr - [ 3 พ.ย. 51 11:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมมองว่าคาร์ริคครับ ที่ยังเล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควรแม้จะยิงได้ สังเกตุว่าจ่ายบอลเสียเยอะพอสมควร อาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเพราะพึ่ง กลับมาเล่นได้ 2 นัด แบบไม่เต็มเกมส์ด้วย จังหวะเลยหายไปพอสมควร เลยได้เห็นการส่งมิดฟิลด์ลงมาแทนคาร์ริค บังเอิญว่า เป็น กิ๊กซ์ ซึ่งแต่ไหนมา ก็เห็นได้ชัดว่ากิ๊กซ์นั้นปัจจุบันเหลือแค่จังหวะการจ่ายบอลเท่านั้นที่เป็นทีเด็ด เนื่องด้วยวัยไม่อำนวยแล้ว เมื่อไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วมันก็ลำบากครับที่จะหยุด "บอลได้ใจ"ของฮัลล์ ในนาทีนั้น แต่ท่านเซอร์อาจจะมองว่าเกมส์มันน่าจะไม่มี อะไรแล้วด้วยประสบการณ์น่าจะประคองตัวได้ แต่ฮัลล์เค้าสู้จริงๆ เลยเหนื่อยหนักหน่อย *** คุณสงบใจดื่มระหว่างดูบอลประจำหรือครับ ระวังนะครับ ผมสำลักเบียร์เกือบตายตอนโดน 1-1 ดูไม่น่าเสียยังเสีย ส่วนลูกอื่น เฉยๆครับเพราะเริ่มเมาแล้ว ไม่ค่อยตื่นเต้น ^ ^ จากคุณ : forbidth - [ 3 พ.ย. 51 11:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วนเรื่องทำไมเปลี่ยน กิ๊กซ์ ลงมาแทนที่จะเอา เฟล็ท หรือ โอเช ลงมา เพื่อแพ็คเกมส์รับแทน ความเห็นส่วนตัวผมว่าท่านเซอร์อาจจะตั้งใจให้กิ๊กซ์ลงมาช่วยเดินเกมส์บุก มากขึ้นครับ เพราะดูแล้วว่าถ้ายังบุกกดดันได้เรื่อยๆฮัลล์ไม่น่าจะทำอะไรได้ *** เคยอ่านเจอบทสัมภาษณ์ของเฟอร์กี้ที่ไหนซักที่ครับ เค้าว่าไว้ว่า "บางครั้งการเล่นกับทีมนึงเราต้องเลือกใช้เกมส์รับเพื่อปิดเกมส์ แต่กับบางทีม เราไม่สามารถใช้เกมส์รับปิดเกมส์ได้เพราะนั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้เค้ากลับมา" ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมแต่เห็นได้ชัดว่าเกมส์นี้ปิดไม่ลงจริงๆครับ จากคุณ : forbidth - [ 3 พ.ย. 51 11:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับ คาริค โอ๋เฉยๆนะคะ เพิ่งหายเจ็บมา ยิงได้ จ่ายก็โอเคแล้ว แม้ว่า จะจ่ายพลาด คุมเกมส์แดนกลางไม่ค่อยได้ อาจเพราะกลางฮัลล์ พลังเยอะเหลือเฟือมาก... แต่นั่นไม่เท่า กองหลังปล่อยจังหวะเหลือเกิน โดยเฉพาะแบ็คท้ง 2 ข้าง ปล. ทำไมวิดิชโหม่งแย่ลงๆล่ะ -- จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 3 พ.ย. 51 11:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #27 ยังไม่มีใครมาเจิมมั๊งครับสำหรับ วิดิช จากคุณ : forbidth - [ 3 พ.ย. 51 11:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ.. นำ 4-1 นึกว่าหวานแล้วเรา.. ที่ไหนได้.. ขนมมันชักจะมีกลิ่นตุๆ พาลท้องเสียซะงั้น.. จบเกมส์ด้วย 3 แต้มแบบแหม่งๆ ทำไมต้องเสียตั้งสามลูก.. เกิดอะไรขึ้นกับเกมส์รับของเรา.. แต่ก่อนเชื่อขนมกินได้เลย สำหรับแผงกองหลังของเรา... แต่เวลานี้.. ใจมันตุ้มๆต่อมๆ.. ถึงจะนำห่าง แต่ก็ยังเชื่อใจไม่ได้... เชียร์นัดต่อนัดอย่างที่คุณสงบใจว่าไว้แหละค่ะ ..ดีที่สุด จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา - [ 3 พ.ย. 51 11:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ... สำหรับเกมนี้ผมว่าไม่มีปัญหาอะไรนะ หลักๆคือ " เกมรุกแบบฉบับ แมนฯยู ดั้งเดิมกลับมาแล้วครับ !!! " ต่อบอลกับฉึบฉับแล้วยิงตูมเลย ไม่มีรอจังหวะ ดึงชง ให้เสียอารมณ์ ที่สกอร์มันออกมาแบบนี้ก็เพราะ ทีมเราขาดคำว่า " Killer Instinct " และที่ต้องถามก็คือ " แมนฯยู กลายเป็นทีมขี้แอ็คไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ? " ซึ่งคำถามหลังนี้มีมาตั้งกะเกมที่เรายิง เคียฟ แค่ 4 ลูกใน UCL เมื่อปีที่แล้ว ( ทั้งที่โอกาสเป็นล้าน แถม เคียฟ เล่นได้โหลยโท่ยมาก ) แล้วล่ะ คำตอบของหลายๆคนคงเป็นประมาณว่า " ก็ตั้งแต่ ไอ้โด้ ได้เป็นตั้วเฮีย แถมได้ลิ่วล้ออย่าง แอนนี่ + นานี่ ละมั้ง - - " ส่วนเรื่อง กิ๊กส์ ต้องขอบอกว่า ให้เวลาน้าแกอีกหน่อยครับ เกมกับ เอฟเวอร์ตัน ก็พึ่งโชว์ฟอร์มเทพ ( ครึ่งเดียว ) มาให้เห็นกันแล้ว คนเราเล่นฝั่งซ้ายซีกเดียวมาทั้งชีวิต เปลี่ยนมาเล่นตรงกลางมันก็ต้องปรับปรุงกันหน่อย เกมนี้ได้ลงสนามปุ๊ปน้าแกจ้องจ่าย killer pass อย่างเดียวเลยครับ บอลมาถึงตัวเมื่อไหร่น้าแกมองหาช่องตลอด ไอ้ที่จะมาจ่ายคืนคู่กลางอย่าง แอนนี่ นี่จะไม่ทำเลย ซึ่งเป็นที่ถูกใจกองเชียร์ที่ชื่นชอบบอลบู๊ล้างผลาญอย่างผมเป็นอย่างยิ่งครับ ( แต่ผิดกาลเทศะสุดๆ 555 ^^ ) ข้อดีที่เห็นก็คือ แอนนี่ เริ่มกลับมาแล้วใช่มั้ยล่ะครับ การให้น้องแอนไปยืนสูงคอยเก็บบอลแล้วยึกยักคายให้เพื่อนแบบ เซดอร์ฟ ในหลายๆเกมปีนี้นั้นคงไม่ใช่แนวแกแน่ๆ เพราะอดเลี้ยงบุกตะลุย แถมยังไม่ได้โชว์วิสัยทัศน์การจ่ายบอลอีกตะหาก สองเกมล่าสุดนี้ แอนนี่ ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ทางด้าน คาร์ริค ก็กลับมาแล้ว ส่วน เบิร์บ ไม่ใช่ศูนย์หน้าที่จะมายืนทื่อๆรอบอลอย่างที่หลายๆคนบอกเลยใช่มั้ยครับ เกมนี้ลงมาล้วงบอลถึงกลางสนามเลย แถมบอลที่ออกจากเท้า เบิร์บ แต่ละลูกต้องบอกว่า " มีเสียวครับ มีเสียว " ( ในที่นี้หมายถึงคนละเสียวกับบอลที่ออกจากเท้าของ เวส บราวน์ นะครับ ^^ ) ติดที่หลายๆลูก เบิร์บ แกออกจะแนวใจกว้างเป็นมหาสมุทรไปซักหน่อย บางลูกสมควรยิงเองแต่ก็กลับหาช่องจ่ายให้เพื่อนซะงั้น ซึ่งก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เรายิงถล่มขาดไปไม่ได้ สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกว่า นี่คงเป็นสัญญาณของการระเบิดฟอร์มในปีนี้แล้วล่ะครับ เกมรุกเริ่มลงตัว ส่วนทางด้านเกมรับคงต้องปรับปรุงอีกหน่อย เราคงจะได้เห็น แมนฯยู ที่ไล่ถลุงคู่แข่งเหมือนปีที่ผ่านๆมาในไม่ช้าครับ จากคุณ : SaVor - [ 3 พ.ย. 51 11:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องของฮาร์กรีฟส์ ผมยังไม่ได้ตามรายละเอียดเลยครับ เลยไม่ทราบว่าจะต้องผ่าหรือไม่ หรือต้องพักอีกนานขนาดไหน ไอ้เรื่องย้อมแมวน่ะ ผมทำใจมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแล้วล่ะครับ คาร์ริคเอง จังหวะยังไม่คืนเป๊ะๆก็จริงครับ แต่ประโยชน์ทางด้านการอ่านเกมและชลอเกมรุกของคู่ต่อสู้ ยังไงก็ดูดีกว่ากิ๊กส์แน่ๆ ข้อนี้ผมท้าให้เทียบกับตอนกิ๊กส์รุ่งๆด้วยซ้ำไปครับ เพราะกิ๊กส์ไม่ใช่นักเตะที่จะเล่นเกมรับได้แบบมืออาชีพ โอเคอาจจะช่วยลงมารับได้บ้างด้วยความขยัน แต่ถ้าจะวัดประสิทธิภาพการยับยั้งเกมรุกคู่ต่อสู้ ยังไงคาร์ริคหรือเฟล็ทเชอร์ก็ดีกว่าแน่นอน ที่กิ๊กส์ลงมาเกมนี้ผมจึงมองว่า เป็นการถอดคาร์ริคออกมาพัก และเก็บเฟล็ทช์ไว้เกมอื่นมากกว่า ประมาณว่านาทีนี้ เสียเฟล็ทช์ไปอาจส่งผลเสีหายร้ายแรงกว่าเสียกิ๊กส์ครับ จึงไม่เสี่ยงส่งเฟล็ทช์ลงมา ผมมองงี้นะ จังหวะน่าจะได้ใบเหลืองจากคาร์ริค ที่เทอร์เนอร์ไปทำฟาล์วตัดเกมจังหวะทะลุเข้ายิง ผมมองว่าถ้าลูกริโอเป็นฟาล์วและจุดโทษ งั้นลูกคาร์ริคยังไงก็ต้องเหลือง และฮัลล์ต้องเหลือสิบคนแน่นอน แต่ก็ถือซะว่า เราเองได้ประโยชน์มาก็มาก เสียไปก็มากเช่นกัน จะเพิ่มอีกช็อตคงไม่เป็นไร และเกมนี้ สามแต้มก็เก็บได้ เลยทำใจครับ ไม่อยากเอามาเปิดประเด็นขยายความต่อครับ แต่ถ้าเราไม่ได้สามแต้มนี่ผมพูดแน่ๆ ผมเพิ่งสังเกตเหมือนกัน แอนี่วันนี่ดูฟิตขึ้นเยอะแฮะ จริงๆด้วย แต่เรื่องความคมในการออกบอลเร็วยังคงต้องปรับอยู่นะครับ เรื่องดื่ม จะมีเฉพาะบางนัดครับ หรือบางงานที่ต้องไปน่วม เดี๋ยวนี้ตั้งแต่ย้ายมาประจำที่ กรุงเทพ ผมเลิกดื่มแบบจริงๆจังๆเหมือนตอนอยู่โรงงานแล้ว ตอนนี้อย่างมากก็แค่เบียร์สองสามกระป๋องเท่านั้น (ถ้าเกินนั้นต้องเป็นสิงห์ไลท์ ไม่งั้นมึนครับ) เมื่อคืนวันเสาร์ก็แค่กระป๋องเดียวแหละครับ จะลุกไปเปิดมาเพิ่ม ก็เห็นๆว่าบอลกำลังแย่ เลยเปลี่ยยนใจ เดี๋ยวสำลักเบียร์ แสบคอ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 11:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบความเห็น คุณSaVor ครับ ผมก็ชอบแนวล้างผลาญครับ คิดถึงยุคก่อนๆที่เสียเยอะ แต่ยิงเยอะยิ่งกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เกมส์มันเปลี่ยนไปเยอะ เสียขนาดแต่ก่อนเรื่องแชมป์คง ยากที่จะได้ มาตรฐานการแข่งขันมันสูงขึ้นเยอะจริงๆ จากคุณ : forbidth - [ 3 พ.ย. 51 11:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เกมส์เปลี่ยนเมื่อกิ๊กส์ลงจริงๆครับ ... รูปเกมส์หลังกิ๊กส์ลง คล้ายๆเกมส์นัดเจอเอฟเวอร์ตันครึ่งหลังเลยครับ ผมไม่พูดถึงครึ่งแรกกับเอฟเวอร์ตันนะึีัครับ เพราะนัดนั้น ที่กิ๊กส์ได้เล่นเป็นพระเอกในครึ่งแรก ก็เพราะมิดฟิลด์ของเอฟเวอร์ตัน มัวแต่นอยกับกองหน้าและปีกของแมนยูครับ เลยช่วยกันไปตั้งรับต่ำกันเกือบหมด ทำให้กิ๊กส์ทำงานง่าย พอครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันเริ่้มบุกมากขึ้น เลยทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า กิ๊กส์ไม่สามารถบดบี้กับเกมส์ตรงกลางได้เลย ซึ่งก็เหมือนกับเกมส์เจอฮัลล์๋ครับ ฮัลล์ไม่ใช่ทีมประเภทโดนนำแล้วถอดใจครับ ไ่ม่งั้นคงไม่ได้มาสูดอากาศบนตารางได้แน่ๆ เรียกได้ว่าเฟอร์กี้ประมาทก็ว่าได้ึึครับ อยากให้ตัวเก๋าๆ ประสบการณ์สูงๆ ลงไปประคองเกมส์ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ การบดบี้ตรงกลางของฮัลล์   รวมกับการพยายามเจาะทางฝั่งซ้ายของแมนยู คือเอฟร่า ที่เป็นนักเตะที่เล่นลูกโด่งได้ด้อยที่สุดในแผงหลัง เป็นสาเหตุที่ทำให้ได้ประตุตีตื่นเป็น 4-2 ทุกครั้งที่ฮัลล์ได้บอล จะโยนไปทางเอฟร่าเสมอ ซึ่งก็ได้ผลครับ ส่วนลูกที่ 3 ที่เสียลูกโทษ ก็เกิดจากเกมส์ตรงกลางที่สู้ไม่ได้เช่นกัน ทำให้โดนสวนเร็ว จนริโอต้องทำฟาวล์ หลังจาก 4-3  รูปเกมส์ก็เหมือนก่อนได้ 4-2 ครับ คือบอมบ์มันไปทางเอฟร่าอย่างเดียวนั้นแหละ   ให้พวกตัวสูงๆคอยโหม่งชงมาตรงกลาง ซึ่งก็โชคดีครับ ที่มีวิดิชคอยเก็บตกได้ตลอดเหมือนกัน เลยจบไปที่ 4-3 เท่านั้น สรุปคือ หากเฟอร์กี้จะส่งกิ๊กส์ลงมา ผมว่าต้องเกมส์ที่เจอทีมที่เล่นไม่หนัก หรือไม่เร็วอะครับ เช่น เกมส์ยุโรป เป็นต้น แต่ถ้าเป็นพรีเมียร์นี่ ขอเถอะครับป๋า มันเสียวนะครับ  ... ส่วนกรณีคาร์ริค การได้เ้ขากลับมา ทำให้แมนยูมีมิติเกมส์รุกที่หลากหลายมากขึ้นครับ  เรามีแอนนี่ที่คอยแทงทะลุช่้องอยู่แล้ว แล้วเราก็ได้คาร์ริคที่วางบอลข้ามหัวกองหลังมาเพิ่มอีกมิตินึง ซึ่งก็ทำได้สวยๆหลายครั้งนะครับ เรียกได้ว่า ต่อไปเราได้ดูบอลที่สนุกกว่านี้แน่ครับ การจับคู่ระหว่างแอนนี่ กับคาร์ริคเป็นอะไรที่น่าจับตามองมากนะครับ หากกองหน้า (หรือปีก) ไม่ยิงนกตกปลา หรือทำหมูหกเยอะล่ะก็ ผมว่ายิงกันกระจายแน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 12:04:35 จากคุณ : ดีแต่ป้อ ... ล่อแต่เป้า - [ 3 พ.ย. 51 12:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งเห็นเม้นต์หลังๆ ก็น่าคิดครับ ที่ว่าสำหรับบางทีม เราต้องปิดเกมส์ด้วยเกมส์รุก ผมเองยังไม่ได้คิดถึงแง่มุมนี้ ในเกมนี้เลย ซึ่งอาจจะเป็นจริงก็ได้ เพียงแต่ว่าแผงหลังอาจจะหลุดในจังหวะโต้กลับมากไปหน่อยครับ เลยทำให้ลำบากขึ้น บ่ายๆจะมาแจกกิ๊ฟครับ ให้ล็อกอินละครั้งนะครับ ของมีจำกัด แหะ แหะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 12:02:41 จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 12:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมว่าเกมส์เมื่อวันเสาร์น่ะ การที่เปลี่ยนกิ๊กส์ลงไปก็ดูสมเหต สมผลนะครับ เพราะสกอร์ตอนนั้นขาดแล้ว แต่...ฟิล บราวน์แกไม่ยอมครับ แกสั่งลูกทีมเล่นหนักไล่บี้ และอิตากรรมการแกก็ปล่อยในหลาย ๆ จังหวะ เลยทำให้นักเตะแมนยูเริ่มของขึ้น เริ่มแรงขึ้นตามเกมส์ของ ฮัลล์เพียงแต่ ถูกจับฟาวล์ ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่ และเริ่มเล่นลูกเกเร รวมถึงไม่ได้เล่นตามแท็กติก เลยทำให้บอลกลางสนามเสียไปถึงกองหลังง่ายขึ้น ผมเข้าใจว่าทีแรกป๋าต้องการปล่อยกิ๊กลงมาประคองเกมส์ และจ่ายบอลงาม ๆ มากกว่า แต่พอมาโดนนักเตะฮัลล์ไล่บี้ก็เป๋ครับ ซึ่งกิ๊กไม่ชอบเกมส์แบบนี้ และแอนนี่ก็ยังตั้งหน้า ตั้งตาทำเกมส์รุกต่อไปเรื่อย ๆ เลยไม่มีตัวตัดบอล สรุปคือเราเล่นพลาดก็ส่วนนึงที่ทำให้เสียถึง 3 ประตูในบ้าน แต่...อย่าลืมว่า ฮัลล์ก็เล่นได้ดีมากนะครับ คิดดู 4 ลูกที่เสีย Myhill (ชอบนามสกุลแกจริง ๆ) หมดปัญญาทั้งนั้น ชนโคนเสา 2 ลูก โหม่งแฉลบ 1 แปเต็มเท้าอีก1 และแกช่วยเซฟไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ใจจริงวันนั้นอยากให้เสมอมากเลย จะได้โดนกันถ้วนหน้าซะที พอนำแล้วติดประมาททุกที ยังไงพุธนี้ก็ยังก้มหน้าก้มตาเชียร์กันต่อไป ทำไงได้ก็ใจมันรักไปแล้ว จากคุณ : Jaxx5788 - [ 3 พ.ย. 51 12:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณน้าหงบค่ะ เป็นอีกเกมที่ไม่ได้ดู (เพราะมีคนจ้างไว้ไม่ให้ดู 555) ก็ถือว่าผ่านมาได้ แต่ก็เล่นเอาหวาดเสียวเหมือนกัน เฮ้อออ~~* ตอนนี้มีข่าวออกมาคอนเฟิร์มแล้วนะคะ ว่า ฮาจัง จะต้องขึ้นเขียงผ่าเข่า 6 เดือนเต็มๆค่ะ ก็คือจะหายไปทั้งฤดูกาล อาจกลับมาไ้ด้อีกทีก็ UCL รอบชิง น่ะค่ะ (อิอิอิ) ไม่อยากคิดเรื่องย้อมแมวเลยค่ะ แค่รู้ว่าจะหายไป 6 เดือนก็แย่แล้ว จากคุณ : องค์หญิงการะบุหนิง - [ 3 พ.ย. 51 12:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมว่าหลายๆนัดที่ผ่านมา  ริโอกับวิดิชยืนห่างกันมากไป คือต้องถ่างออกไปคุมแบ็คด้วยเวลาเพื่อนบุกหรือแบ็ค2ข้างเติมขึ้นไป และพอโดนสวนกลับ แบ็คลงไม่ทัน บวกกับเจอกองหน้าตัวใหญ่ๆ เก็บบอลดีๆ เลยทำให้มีพื้นที่เล่นเยอะ ผมมองว่าแผงหลังเราเล่นได้ไม่แน่นเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา  และอีกอย่างพวกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่นแบ็คซ้ายเติม แบ็คขวาต้องไม่ลอยตาม และที่แทบไม่เห็นในฤดูกาลนี้เลยคือผู้ช่วยป๋าลงมาตะโกนแก้เกมข้างสนามเวลาโดนกดดัน(ต่างจากเคยรอชมาก)หรือเราเร่งจังหวะของเกมตัวเองมากไป จากคุณ : Martreff - [ 3 พ.ย. 51 12:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^___^ ขอบคุณค่า จากคุณ : K-modjung - [ 3 พ.ย. 51 13:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีทุกคนคะ นัดนี้แผงหลังมีปัญหาจริงๆ เล่นติดประมาทด้วยอ่ะ .. TT วันนี้ได้ข่าว ฮาจัง พักอีก 6 เดือน .. - -* แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 13:33:54 จากคุณ : aimer@ - [ 3 พ.ย. 51 13:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดือนนี้งานหนักใช่ย่อยแฮะ -*- จากคุณ : dabodabo55 - [ 3 พ.ย. 51 13:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รอวันน้องแอนยิงได้ ไม่นับจุดโทษใน UCL นะ ลุ้นน้องแอนมากก อิอิ จากคุณ : poojo_ke - [ 3 พ.ย. 51 14:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7167873/S7167873.html ขอยืมพื้นที่ฝากกระทู้เรื่องทำบุญหน่อยนะคะ ขอโทษลุงหงบใจด้วยค่ะ จากคุณ : poojo_ke - [ 3 พ.ย. 51 14:15:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ว่ากันครับ คุณปู  ขออนุโมทนาด้วยอีกแรง ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งครับ ถึงแม้จะเป็นแค่ให้ยืมพื้นที่กระทู้ก็ตาม โอกาสหน้า หวังว่าผมจะได้มีส่วนร่วมมากกว่านี้นะครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 3 พ.ย. 51 14:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แก้ปัญหาลูกตั้งเตะไม่ได้ซักที โดนมุมนั้นหลายลูกแล้ววววววววว จากคุณ : ป๋าช่วยด้วย (ผีหลายบทบาท) - [ 3 พ.ย. 51 14:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จะว่าไปแล้ว  โดนยิงบ้างก็ดีเหมือนกัน (แต่ต้องชนะนะ) ป๋าจะได้คุมทุกเม็ด  ไม่ชะล่าใจนัก ดู ๆ ไปนัดนี้  ก็คล้ายกับสมัยก่อนช่วงยุคปี 90   ที่แมนฯยูฯ  มักจะเสียประตูเยอะ  แต่ยิงคืนได้เยอะกว่า แต่ต่างกันตรงที่  แต่ก่อน  ถ้าไม่เป่านกหวีดหมดเวลา นักเตะแมนฯยูฯ  จะไม่ยอมหยุดวิ่ง อยากได้สปิริตแบบนั้นคืนมาจัง จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 3 พ.ย. 51 15:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดูแมทช์นี่แล้วเครียดเลยครับ ช่วงหลัง กองหลังแมนยูยังมีรูอยู่ค่อนข้างเยอะเลยครับ จากคุณ : seifer - [ 3 พ.ย. 51 15:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาอ่านค่ะ..... รอคารวะท่านอาจารย์ จากคุณ : july 19 - [ 3 พ.ย. 51 16:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากครับน้าหงบสำหรับบทวิพากษ์เจ๋งๆเช่นเคย ดีใจครับที่เห็นคาริคกลับมาแล้ว ^^ เชียร์กันต่อไปฮะ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 3 พ.ย. 51 16:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คิดถึงไอ้ประเภทแบบ คีน อินช์ รอบโบ้ หรือฮิวจ์จังเลย ดูๆ เหมือนตอนนี้เกือบครบอะฮะ ..ขาดแต่คนที่เรียกว่า "หัวใจ" ของทีมมั้งฮะ เพราะต้องเป็นคนที่เหมือนเฟอร์กี้ลงมาด่าเองในสนาม .. เรื่อง Passion แต่ไม่มีการปรุงแต่งหรือใช้ให้ถูกทาง มันก็ไม่ต่างจากปล่อยสัตว์ป่าให้วิ่งพล่านในเมือง ..ดูน่าอันตราย แต่ไม่น่ากลัวเกรง อย่าง..รูน น่านี่ เจ็ทโด้ เตเบส หรือแอนนี่... จะเอาแรงลงไปเท่าไหร่ ถ้าไม่มีคนคอยบงการชี้แนะ หรือคิดแทนแบบคุมจังหวะในเกมส์กลางสนามเลย มันก็จะเจอรูปสวยแต่นอนแข็งนิ่งบนเตียง .. ส่วนตัวข้าเจ้าว่าเหมือนขาดคนที่เป็นจอมทัพนะหลังๆ เนี่ย... จอมทัพ ไม่ใช่ลูกหาบ ไม่ใช่แค่เพลเมกเกอร์ ...เหมือนขาดลูกพี่ ลูกพ่อ .. เฟอร์ดินานด์เป็นกัปตันแต่ตำแหน่งมันไม่สามารถไปสั่งการณ์คุมโมเมนตัมได้ ...กิ๊ก สโคลล์ หรือแกรี่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นจอมทัพโดยธรรมชาติ เพราะตอนขึ้นมาในทีมก็มีลูกพี่ให้ช่วยอุ่นใจอยู่แล้ว เหมาะกับลูกหาบหรือผู้ช่วยมากกว่า... คนที่เป็นจอมทัพ นอกจากจะคอยคุมโมเมนตัมเกมส์แล้ว ไหนจะอ่านทิศทางการทำเกมส์ เล่นตามแผน (แต่ไม่ตายตัว ปรับเกมส์เป็น) กระตุ้นทีมได้ผลตลอด (ถ้ามีเราจะไม่เจอปัญหาครึ่งแรกรัวครึ่งหลังรั่วแน่ๆ) ... จริงๆ ท่าทีที่น่าเกรงขาม ดูมีคลาสแบบคันโตน่าเดี๋ยวนี้คงหาไม่ได้แล้วมั้ง แม้แต่ซีดานเองข้าเจ้ายังคิดว่าเค้ามีสไตล์การเป็นเพลเมกเกอร์มากกว่าจอมทัพ ต่อให้ยังไม่แขวนเกือกและอายุเท่าเบอร์บี้ แต่ถ้ามีในทีมตอนนี้ก็ยังไม่น่าจะแก้ปัญหาสนอง need ความเป็นผีดุได้เท่าไหร่เลย ตอนนี้เหมือนป๋าแกลืมหรือคิดไม่ถึงไปนิดๆ กลางเรามีแต่ เพลเมกเกอร์ กับ ลูกหาบ ...แต่ไม่มีจอมทัพแบบในอดีตที่ผ่านมา ...ซึ่งส่วนตัวมองว่ามันสร้างยากที่สุด... จริงๆ ถ้าเมื่อซัก 5-6 ปีที่แล้วได้กัตตูโซ่มาเนี่ย เนียนเลย แต่พอไม่มีไม่ได้ มันเลยออกมาได้กลางแบบกระจายอย่างนี้.. มองว่าอนาคต ถ้าจะปั้นกัน ไม่รู้ว่ารูน กับแอนนี่เนี่ย เค้าจะไปได้ในส่วนนั้นมั้ย ส่วนเพลเมกเกอร์... ข้าเจ้าว่าทีมเรามีแล้วนะ ถ้าทำดีๆ อยากเห็นคาริคไม่ก็พอสเซบอนในส่วนนั้นจริงๆ (ยกเว้นจะส่งพอสเซบอนให้ย้ายไปกินนอนกับเฮียคีนในบ้านซัก 1 ปี เผื่อจะได้วิญญาณโหดมาบ้าง) ...เรื่องแบ๊ค 2 ข้างที่ช่วยเรื่องกลางอากาศไม่ได้ ข้าเจ้ายังมองว่ามันยังมีแนวทางการเล่นที่แก้จุดด้อยตรงนั้นได้โดยไม่ต้องไปสรรหาตัวที่เล่นเกมส์กลางอากาศดีๆ นะ ....อย่างการกันลูกก่อนเปิด ไม่ก็อ่านทางตัวรับลูกแล้วเข้าแทคบีบทางวิ่ง คือ ช่วงนี้แบคที่เล่นยังไม่ได้เป็นสไตล์เล่นอย่างฉลาดๆ หน่อย ... มองว่าป๋าแกอาจจะหวังจากคู่แฝดไว้ไม่มากก็น้อยอยู่ ไม่ได้ดูถูกนะฮะ แอบเชียร์พี่เสือนิดๆ ให้ได้เตะถ้วยยุโรปปีหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่เกมส์ที่ตีตื้นขึ้นมา ข้าเจ้าว่ามันไม่ได้วิลิศมาหราอะไรมากมาย ออกจะเป็นมาตรฐานทีมแชมป์เปี้ยนชิพมากกว่าด้วยซ้ำ แค่จังหวะและใจมันลงตัวเฉยๆ ถ้ามาเจอผีในช่วงซัก 10 กว่าปีก่อน ซักประตูเดียวคงไม่ได้ด้วยซ้ำ (นึกถึงฟอร์เรสเลย) ...ส่วนเรื่องแอ๊คอาร์ตของเด็กๆ ผี ..มันก็อาจจะมีหลงเหลือมาบ้างตามประสาเด็ก (เพราะเด็กมันล้นทีมจริงๆ) เพียงแต่มันไม่ส่งผลหนักหนาแบบนัดแพ้ปอมปีย์ในปีที่แล้ว ไม่งั้น...ได้โกนหัวยกทีมแน่ๆ (แบบว่าโดนไดร์เป่าผมจนหลุดร่วงเสียทรงแล้วต้องแก้เขินด้วยการโกนหัว ไม่ก็ขี้เกียจโดนน้ำลายติดผมจขนต้องแก้ด้วยการโกน) เกมส์เด็กเก๋าชนเด็กห้าวอาทิตย์หน้า น่าจะเห็นทิศทางชะตากรรมที่แท้จริงของทั้ง 2 ทีมได้มากขึ้น ปัญหาในแต่ละทีมน่าจะมาเห็นแจ้งแดงแจ๋ในวันเสาร์นี้แหงๆ ..ถ้าไม่เสมอ คงไม่บ้านใครแตกก็ต้องมีโกนหัวเพิ่มบ้างล่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 17:45:01 จากคุณ : _K_F_C_ - [ 3 พ.ย. 51 17:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สมมติว่า นัดสุดท้ายแล้วแต้มเท่ากันแบบฤดูกาลที่แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยครับ จากคุณ : นายน้อยโนริ๊ - [ 3 พ.ย. 51 17:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีครับน้าหงบ หลายๆนัดที่ผ่านมาช่วงนี้ เหมือนว่าทีมรักจะติดประมาท ไม่ค่อยละเอียดในหลายๆจังหวะ และเห็นด้วยอย่างคุณ คห.37ครับ อยากให้มีผู้ช่วยป๋ามาตะโกนสั่งแก้เกมเหมือนตอนเครอชอยู่ แบบว่ากระตุ้นนักเตะไปในตัวด้วย "แอ็คอาร์ต" กันจัง จากคุณ : aPPle_station - [ 3 พ.ย. 51 17:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ จากคุณ : ขอบตะวัน - [ 3 พ.ย. 51 18:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สู้ตายครับ จากคุณ : Bierhoff - [ 3 พ.ย. 51 19:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีค่ะ นัดนี้ถ้าเล่นต่ออีก 10 นาทีมีหวังโดนตีเสมอแน่ๆ นอกจากบ่นทีมตัวเองแล้ว ก็ขอให้เครดิตฮัลล์ด้วยแล้วกัน วิ่ง สู้ ฟัด จริงๆ หลายคนพูดถึงกองกลางของเรา เอ้อ... ไม่รู้จะว่าไง แต่ว่าภาพของ อินซี่ กับ คีน มันโผล่มาตลอดเกม อยากให้มีสักคนที่สกัดได้ถึงใจขนาดนั้น (เอ.. หรือว่าเราออกแนวซาดิสม์) แต่เอาเถอะยังไงก็ชนะแบบลุ้นจนปวดตับ (อีกแล้ว) นัดกลางสัปดาห์กับเซลติก ขอดูคาร์ริคคู่กับเฟลททีเถอะ สาธุ จากคุณ : Merlion - [ 3 พ.ย. 51 20:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ออกไปเยือนเชลติกช่อง 3 กับ 7 ถ่ายไหม ใครรู้หลังไมล์มาทีครับ จากคุณ : หนูโด้ 1 - [ 4 พ.ย. 51 00:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณค่ะคุณสงบใจและหลายๆ ท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น อ่านบทวิพากษ์ของคุณสงบใจแล้วชักจะไม่อยากดูแมนยูฤดูกาลนี้แล้วแฮะ เพราะรู้สึกว่าจะตื่นเต้นเกินไป กลัวเดี๋ยวไม่มีน้ำนมให้ลูกกิน นัดกับเอเวอร์ตันก็ทีนึงละ ดูแล้วลุ้นเกิน น้ำนมหายเลย ขอมาติดตามอ่านหลังจบเกมดีกว่าค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านานๆ เลยนะคะ จากคุณ : ผ่านมาทักทาย - [ 4 พ.ย. 51 01:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ดีที่ไม่มี "อะไร ๆ ก็โทษกิ๊กส์" อีก คราวก่อนที่ผมโพสท์ไปว่าพอเปลี่ยนกิ๊กส์ลงมาแทนคาร์ริค เกมผีก็แทบสลบ โดนแฟนน้ากิ๊กส์ไปหลาย ไม่ได้หมายถึงกิ๊กส์ทำให้เกมพังหรือเสีย แต่หมายถึงป๋าเปลี่ยนไม่ถูกตำแหน่งมากกว่า เหมือนตอนวันแดงเดือดที่คาร์ริคเจ็บนั่นแหละ นึกว่าจะเอาเฟลทเชอร์ลงมาบี้กลางหงส์แทน แต่กลายเป็นกิ๊กส์ลงมาแทน จากนั้นก็เป็นหงส์ยำใหญ่อยู่ข้างเดียว(เพราะการเจอกับทีมระดับบิ๊กโฟร์ด้วยกัน จะยิ่งเห็นผลกระทบข้อแตกต่างในเกมชัดยิ่งขึ้น) สรุปคือเปลี่ยนลงมาผิดตำแหน่งคับ เลยเสียสมดุลไป ขาดตัวคุมเกม เชื่อมเกมที่เนียน ๆ อีกอย่าง ตอนเสียฟรึคิกช่วยไปยืนคุมเสาไกลกันสักคนได้ไหม ปีที่แล้วที่โดนแมนฯซิตี้ยิง(แพ้ 1-2)ก็ลูกลักษณะนี้ มันเห็นแล้วเซ็ง เหมือนเสียซ้ำซากไม่รู้จักจำหรือป้องกันแก้ไขกันสักที บรรดากองแช่งก็เฮกันใหญ่  แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นอาทิตย์ที่แฟนผี แฟนไก่ แฮปปี้กันสุด ๆ นะ ทีมก็ชนะ คู่อาฆาตก็แพ้ จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) - [ 4 พ.ย. 51 08:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับคุณเคเอฟซีนะ โดยเฉพาะเรื่องขาดหัวหน้าแก๊งครับ คนสุดท้ายก็คือ คีนนั่นแหละ ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีสำหรับทีมเรา เป็นตัวแรกที่จะชนในทุกๆเรื่อง ไม่ปล่อยให้เด็กห้าวๆเข้าหากันเองสะเปะสะปะ ไม่ว่าจะกับกรรมการ หรือนักเตะฝ่ายตรงข้าม คีนยังเป็นลูกพี่ใหญ่ในทีมเสมอ ยามที่ลงสนาม แต่ตอนนี้ไม่มีจริงๆครับ...เฮ้อ.... ถ้ามีคีน หรือคนที่เหมือนคีนเล่นในเกมนี้ ผมว่าหมูกับเตไม่โดนเหลืองหรอก อารมณ์จะไม่ขึ้นกันขนาดนั้น เพราะคีนจะแบกมันไว้เองครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 4 พ.ย. 51 10:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แล้วเด็กๆทีมเรามีใครพอจะก้าวมาเป็นลูกพี่ใหญ่ไหวมั้ยครับ จากคุณ : kirofsky - [ 4 พ.ย. 51 10:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อีกทีมหนึ่งฟอร์มเหมือนจะเด่น แต่สุดท้ายกลับคว้าสามแต้มได้แบบหัวใจแฟนๆแทบจะวายตาย <==== เอิ๊กส์ โดนนนนนนนนน Y_Y จากคุณ : freetimez_เวลาอิสระ - [ 4 พ.ย. 51 12:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณฮะลุงหงบ แต่ นัดนี้ ผมรู้สึกว่า รูนีย์ ผิดฟอร์มไปอย่างแรง อ่ะ ประมาณว่า ....... ไม่มีตัวตน - -* คือ แบบจังหวะ ที่โด้หลุดไป มีสองคนไปประกบ หมูว่างๆ ไม่จ่าย ยิง ไปติดซะงั้น - - แล้วอีกหลายๆ จังหวะ ของคู่นี้เป้นแบบนี้ ดูเหมือน ระบบ พอมีโด้(แต่มันยิงได้) ลงมายืนแล้ว สมุดลในเกมส์มันเอียงๆ ยังไงไม่รุอ่ะครับ จากคุณ : vn, man - [ 4 พ.ย. 51 13:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณเฮียหงบฮะ ...มันขาดคนคุมหรือปรุงแต่งโทนของเกมส์แบบนั้นจริงๆ ในทีมชุดปัจจุบันเนี่ย จริงๆ ก็รู้สึกว่ามันคงต้องเลือกฮะระหว่าง 1. ตัวผู้เล่นคนๆ นั้นทำหน้าที่ในตำแหน่ง + ปั้นเกมส์ 2. ตัวผู้เล่นคนๆ นั้นทำหน้าที่ในตำแหน่ง + ผู้เล่นอีกคนที่เป็นคนคุมเกมส์ ปั้นเกมส์ ตอนนี้คิดว่าเพราะทีมเราไม่มีตัวธรรมชาติในแบบที่ 2 ในส่วนกัปตันแบบตัวคุมเกมส์ เลยอาจจะเห็นหลายๆ เกมส์ ผู้เล่นชุดนี้เป็นแบบที่ 1 ซึ่ง - แค่หน้าที่ตัวเองยังไม่เนียนพอ ต้องมาเสียแรงแบ่งสมาธิกับหน้าที่คุมเกมส์เอง ทั้งที่ตั้งใจ (แบบรูน) และไม่ตั้งใจ (แบบเบอร์บี้) ฉะนั้น เวลาจุดเข้าได้เข้าเข็ม มันจึงขาดๆ เกินๆ ...ไอ้ที่ต้องยิงก็ไม่ยิง ไอ้ที่ต้องเด็ดขาดก็ดันเรียกสมาธิมาไม่ทัน (เพราะเสียเสี้ยววินาทีเปลี่ยน mode จากปั้นเกมส์เป็นยิง) - ป๋าเองไม่รู้แกรู้ว่าเกิดปัญหาแบบขาดตัวนี้หรือปล่าว.. หรือกำลังปั้นแต่เรามองไม่ออก หรือ ..แกคงขอแค่ได้อีกซักแชมป์ก่อนวางมือแล้วเรื่องปั้นคนแบบ J.T. ของหงส์ หรือ L.P. ของสิงห์น้ำเงิน ค่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการทีมคนต่อไป ตอนนี้คิดว่า ถ้าต้องไปเจอกับบาซ่าอีกรอบ ไอ้ที่เรายันเค้าได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องฟลุคจริงๆ ขั้นมาฮะ ...คือข้าเจ้าหมายถึง ฟอร์มแบบนี้ในปีนี้ ณ เวลานี้ ไม่พอต่อการป้องกันแชมป์ได้เลย จากคุณ : _K_F_C_ - [ 4 พ.ย. 51 20:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แวะมาปิดกระทู้ฮะ ณ เวลานี้ ผมยังมองไม่ออกว่าทีมเราควรจะให้ใครเป็นหวหน้าแก๊งถึงจะดีนะครับ คือด้วยบุคลิก ด้วยแรงขับในตัว ด้วยความุ่งมั่น ความกระหาย ถ้ามองตรงนี้ ก็คงเห็นแกรี่เข้าวินมาคนแรก มีเจ้าหมูตามมาติดๆ แอนนี่เองก็พอไหว แต่ถ้าดูตรงอายุการใช้งาน และความสม่ำเสมอในการลงสนามในอนาคต แกรี่ก็จะถูกกาชื่อทิ้งไปทันที ถ้ามาควบดูร่วมกับความคงเส้นคงวาในการเล่น ในความมุ่งมั่น รักษาไว้ได้ทุกเกม แอนนี่ก็ถูกกาทิ้งไปอีกคน ถ้าดูจุดที่สำคัญที่สุด คือความเป็นผู้นำ ยับยั้งชั่งใจได้ คุมอารมณ์ตัวเองได้ และกันเพื่อนออกนอกวงได้ รูนี่ย์จะถูกกาทิ้งแบบไม่ต้องเสัยเวลาคิดเลยครับ แล้วจะเหลือใคร เรามากาทิ้งทีละคนเลยนะ ด้วยอายุอานามทั้งแก่ไป เด็กไป -- สโคลส์, กิ๊กส์, นานี่, แอนนี่, จอนนี่, เงาะแฝด ด้วยแพสชั่นในเกม -- วิดิช, เอวร่า, บราวน์, ฮาร์โก้, คาร์ริค, ปาร์ค ด้วยบุคลิก ภาวะผู้นำ การควบคุมอารมณ์ -- เบอร์บา, เตเวซ, รูนี่ย์, (โรนัลโด้-พุ่ง) นี่ผมกาทิ้งหมดทีมเลยนี่นา ยังครับ ยังเหลือโอกาสให้พอหวังได้บ้างก็ตรงที่ว่า บางคนในทีม ยังพอจะปั้นได้ โรนัลโด้ ต้องลบภาพจอมแหกตาในสนามอกไป และพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อองค์กร รวมทั้งความสามารถในภาวะความเป็นผู้นำในสนาม รูนี่ย์ ได้ทุกอย่างแล้ว ยกเว้นเรื่องการคุมสติ คุมอารมณ์ นำลูกทีมให้มีสติ ไม่ใช่นำไปทะเลาะกับกรรมการ เบอร์บา/คาร์ริค ต้องพิสูจน์ตัวเองกับที่นี่วักสองสามปีก่อน และต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ ไม่ใช่เงียบๆ สนใจแต่จะเล่นบอลอย่างเดียว แอนนี่ ยังต้องลงสนามมากกว่านี้ รักษาความมุ่งมั่นของตัวให้ได้ตลอดทั้งเกม ตลอดทุกเกมที่ได้ลงสนาม ผมมองรูนี่ย์ไว้ว่ามีโอกาสมากที่สุดในอนาคตครับ เพราะมีข้อเสียน้อยที่สุด แต่ข้อเสียนั้น ดันสำคัญมากต่อทีมซะด้วย ต่อการคงอยู่ในสนามของตัว จากคุณ : สงบใจ - [ 5 พ.ย. 51 08:39:41 ]