ความคิดเห็นที่ 1 ฮิวจ์สโล่งนายหัวหนุนคุมเรือใบต่อ 13/11/2008 11:36:38    มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สบายใจไปเปลาะหนึ่งหลัง ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เจ้าของสโมสรชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาแถลงการณ์ยืนยันยังไว้วางใจให้คุมทีมต่อไป    มา ร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมเลือดเวลส์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก ใจชื้นขึ้นเป็นกอง หลังจาก ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจ้าของสโมสร ออกแถลงการณ์สนับสนุนเขาในการคุมทัพ "เรือใบสีฟ้า" ต่อไป        หลัง จาก ฮิวจ์ส ได้เข้าพบกับทาง คาลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร และ แกร์รี่ คุ้ก ประธานบริหาร เพื่อชี้แจงสถานการณ์ต่างๆ ของทีมในช่วงที่ผ่านมา และตอนนี้ดูเหมือนว่า อดีตหัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า จะสบายใจมากยิ่งขึ้นเมื่อทาง ชีค มันซูร์ ยืนยันว่ายังคงไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่นายใหญ่แห่งถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ต่อไป        แถลงการณ์ของ ชีค มันซูร์ ระบุเอาไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า "ผมได้พบกับ มาร์ค (ฮิวจ์ส) และ แกร์รี่ (คุ้ก) เพื่อร่วมแบ่งปันความมุ่งมั่นสำหรับความสำเร็จของทีม, ความกระตือรือร้น และความสามารถในการที่จะส่งผ่านความทะเยอทะยานเหล่านี้ให้กับทีม ผมพอใจกับศักยภาพของทั้ง 2 คนที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยรวม"        "ผมให้ความเชื่อมั่นในแผนการต่างๆ ที่ได้รับการอนุมัติจาก คาลดูน ผู้บริหารของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  มาร์ค และแกร์รี่ ร่วมแบ่งปันกับผมแล้ว พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายที่เหมือนกันของเราก็คือการเห็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พัฒนาขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของโลก" แถลงการณ์ของ ชีค มันซูร์ ระบุ        "สิ่งที่สำคัญคือเราได้เห็นพัฒนาการต่างๆ ในทุกๆ ระดับ และให้การสนับสนุนต่อไปเรื่อยๆ รากฐานสำคัญของสโมสรคือทีมเยาวชน, แฟนบอล และความสัมพันธ์ภายในชุมชนของเมืองแมนเชสเตอร์" เจ้าของสโมสรชาวยูเออี ระบุ        ขณะ ที่ฮิวจ์ส พูดถึงการเข้าพบมูบารัค และผู้บริหารสโมสร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "มันเป็นการประชุมที่ดี ท่านประธานสโมสรเดินทางมาที่บ้านของผมเพื่อทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัวของ ผม ในคืนวันเสาร์ มันเป็นช่วงเวลา 2-3 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วยเรื่องดีๆ เราพูดคุยหลายอย่างที่ยอดเยี่ยม และรู้สึกเป็นกันเอง"          "การ ประชุมช่วงเช้าวันอาทิตย์ก็เต็มไปด้วยเรื่องในแง่บวก และผมก็ได้เจอบอร์ดบริหารคนใหม่อีกด้วย ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา ในการใส่สิ่งต่างๆลงไปในทีม และเราก็รู้ว่ายังต้องการอะไรเพื่อทำเป้าหมายให้เป็นจริง ผมพอใจมากกับการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา" อดีตกุนซือ แบล็คเบิร์น กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081113_047.html ตอนนี้ยังให้โอกาส    ช่วยชนะสองสามนัดข้างหน้าหน่อยนะท่านฮิวจ์ จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชีคสั่งคุ้มครองฮิวจ์สให้คุมทีมต่อ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือเก้าอี้ร้อนของทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หายใจโล่งปอดเมื่อได้รับการยืนยันจากท่านชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ได้ยืนยันว่าจะให้ทำงานต่อไป โดยหลังจากที่ได้มีการยืนยันไปรอบหนึ่งแล้วจากทางด้านคาลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสรที่ได้รับการแต่งตั้งจากกลุ่มทุนอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป กุนซือชาวเวลส์ก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากเจ้าของตัวจริงอย่างชีคมันซูร์ที่ ยืนยันให้การสนับสนุนเหมือนเดิม "ผมมีความพอใจกับศักยภาพของทั้งสองคนที่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในแง่บวกของแมนฯ ซิตี้ในเวลานี้" "ผมให้การสนับสนุนแผนการที่ได้รับการรับรองโดยบอร์ดของทีมซิตี้ ทั้งคาลดูน, มาร์ค และแกร์รี่ ที่ลงความเห็นร่วมกับผม" "พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายของเราในการที่จะทำให้แมนฯ ซิตี้ ได้ก้าวไปเป็นหนึ่งในสโมสรที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกของฟุตบอล" "สิ่งสำคัญก็คือเราได้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว และมันจะยืนยาวได้ก็ต่อเมื่อมีรากฐานอย่างระบบเยาวชนของสโมสร แฟนๆ และความสัมพันธ์ในชุมชนแมนเชสเตอร์ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=116679 จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรือจมมูเซย์โนกู้ซาก โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเกรียนเทพยืนยันทนต่อแรงเสียดสีในทีมอินเตอร์ มิลาน ได้สบายมากจึงไม่คิดกระโดดไปคุมงานแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่ๆ อดีตบอสเชลซีตกเป็นข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่ากำลังถูกกลุ่มทุนอาหรับ ตามจีบให้ไปปลุกปั้น "เรือใบสีฟ้า" เนื่องจากไม่พอใจในผลงานของ มาร์ก ฮิวจ์ส กุนซือคนปัจจุบันทำท่าเข็นทีมไม่ขึ้น จากคำให้การ คัดลูน อัล มูบารัค ประธานสโมสรแมนฯซิตี้เผยเตรียมทุ่มเม็ดเงินมหาศาลในเดือนมกราคมหวังพลิกโฉม ทีมให้ได้ซึ่งหมายถึงว่าจ้าง มูรินโญ่ เจ้านายคนใหม่ด้วยสนนราคา 15 ล้านปอนด์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามกุนซือโปรตุเกสปฎิเสธถึงความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิง ยืนยันยังมีความสุขดีในรังจูเซ็ปเป้ เมียซซ่าจึงไม่คิดไปไหนทั้งนั้น แม้ผลงานยังไม่เป็นที่ถูกใจใครหลายๆคนก็ตาม "จริงอยู่ที่ใครๆต่างก็รู้ผมนั้นรักฟุตบอลอังกฤษเพียงใด"มูรินโญ่กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว 'สกาย สปอร์ตส์' เมื่อวันวานก่อน "แต่ทุกคนควรตระหนักด้วยว่าผมดำรงสถานะกุนซือทีมอินเตอร์ มิลานอยู่นะ" _________________ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=116661 จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฤ ว่าเทรนด์บุกแหลกของบุนเดสลีกามีจุดอันตราย? เมื่อวานทำคอลัมน์"รู้ไว้ใช่ว่า"ลืมบอกที่มา ของเรื่องไปเฉยเลยคือถอดความมาจากเดอะ การ์เดี้ยน พอดีดูรายการตีสิบเรื่องของต้น ทิคแทคโทในอดีตจนลืมไปว่าไม่ได้เกริ่นนำ ฮา วันนี้ก็จากเดอะการ์เดี้ยนเหมือนเดิมครับแต่คราวนี้ทำไปเครียดไปเพราะตอน แรกกวาดสายตานึกว่าทำเสร็จแป๊บเดียวเลยเอามานั่งทำที่ออฟฟิส ปรากฏโอโหใช้ศัพท์ยากโคตรๆเปิดดิกกันมือหงิกเลย ก็นะใช้ภาษาง่ายๆหน่อยก็ไม่ได้เสียเวลานั่งทำไปสามชั่วโมง(สลับกับเปิดดู เวบนู่นเวบนี่ไปเรื่อยเปื่อย อิอิ) กว่าจะเสร็จส่งเที่ยงคืนนิดๆนู่นเลย เป็นบทความของ Rafa Honigstein ที่ให้มุมมองแง่คิดต่อบุนเดสลีกาที่ดีแม้ว่าจริงๆแล้วปรากฏการณ์ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ที่เล่นเกมรุกเร้าใจแม่ยกยิงมากสุดในลีก(31 ประตู)ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจลีกเยอรมันมากขึ้น แต่เกมรุกบ้าระห่ำจนลืมความสมดุลหรือค่อยๆเป็นค่อยๆไปในจุดหลักของฟุตบอลกำลังเป็นผลเสียในระยะยาวหรือไม่ เส้นทางแห่งความสำเร็จอยู่ที่ความพอดีและค่อยๆเป็นค่อยๆไป "less is more หรือ น้อยๆแต่ดูมากมาย"วลีอมตะของ เลอกอร์บูซีเย (Le Corbusier)สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ของโลกในยุคต้น 1900 น่าจะยังใช้ได้อยู่นะครับ... หากพูดถึงบุนเดสลีกาคำว่า"ความทะเยอทะยาน"และ"เกียรติยศ"เป็นคำสกปรกหรือในภาษาเยอรมันคือ schmutzig เพราะนอกเหนือจากบาเยิร์น มิวนิคเจ้าพ่อเมืองเบียร์ที่กระสันต้องการแชมป์ในทุกๆซีซั่นแล้วทีมอื่นๆ ล้วนแล้วเหมือนจะแฮปปี้กับการทำตัวลีบๆอยู่ไปวันๆไม่ได้คาดหวังความสำเร็จ อะไรมากมาย ทุกๆทีมอยากเป็นพวกหมาจนตรอก พวกเขาเต็มใจใช้เงินขำๆนิดๆหน่อยในแต่ละซัมเมอร์มากกว่าระดมไอเดียสร้างทีมเพื่อความสำเร็จ สิ่งนี้เคยเป็นแนวทางทำธุรกิจแบบ Bundesrepublik Deutschland (เยอรมันตะวันตก)... เคราะห์ยังดี....อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นภายหลังผลงานจาก ศึกฟุตบอลโลก 2006 เมื่อเยอร์เก้น คลินส์มนน์สร้างทีมคนหนุ่ม,ปั้นแข้งคนยี้,ทีมร้ายกาจให้บินสูงติดลมบนด้วย วิถีความฟิตตามแบบฉบับคนอเมริกัน,การกระตุ้นแบบเปิดอกภายนอกออฟฟิส,พูดตรงๆ แสบสันต์,สร้างจุดแรงจูงใจพิเศษ ยุคนี้สมัยนี้แฟนบอลคาดหวังให้ทีมของพวกเขาอย่างน้อยๆต้องสู้ยิบตาและ คุณสามารถรวมพวกคนหัวโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างกุนซือประเภท'ปวกเปียกดี กว่าน่าสมเพช'ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ลที่เป็นกุนซือจอมเนกาทีฟไร้ยางอายที่ยืนหยัดอยู่อย่างเหนียวแน่น บางทีผู้จัดการทีมแฟร็งค์เฟิร์ตซึ่งไว้ทรงผมกะลาครอบผู้นี้ไม่เคยปล่อย ให้ตัวเองตกอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า"การมองในแง่ดี" สำหรับเขาแล้วเป้าหมายอันดับหนึ่งคือการเอาตัวรอดอยู่เหนือโซนอัตราย ซีซั่นก่อนเมื่อแฟร็งค์เฟิร์ตทำผลงานสุดโต่งจนลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีกใน ช่วงปลายแต่เขากลับทำให้แฟนๆท้ออย่างรวดเร็ว ลูกทีมของเขาก็ขานรับอย่างซื่อสัตย์ด้วยการเล่นสามสลึงก่อนนอนแอ้งแม้งกลาง ตารางตอนจบซีซั่น เหมือนอารมณ์ฟุงเคิ่ลออกแนวอาฆาตประมาณนั้น แต่ไอ้ประเภทมารยาแกล้งยอมจำนนอย่างง่ายดายในการกีฬาได้ถึงคราวยุติ ถ้าจะมีสิ่งที่ติดตาตรงใจ,เป็นธีมสร้างความตะลึงต่อบุนเดสลีกาซีซั่นนี้ที่ บ้าคลั่งเกินคาดเดา เป็นฤดูกาลนี้ที่เฉลี่ยยิงทุกๆ 3 ประตูในหนึ่งเกมและชาวเบอร์ลินหัวสูงทั้งหลายแห่เข้าไปชมเกมที่โอลิมปิก สเตเดียมถึง 58,000 คนเพราะอยากเห็นกับตาต่อความมหัศจรรย์ของฮอฟเฟนไฮม์ทีมที่ขึ้นชื่อว่าเล็ก ที่สุดในโลกและถ่อมตัวมากกว่าใครสามารถเล่นฟุตบอลสวยงามเป็นเหมือกนัน "ผมอยากให้ทีมฟุตบอลของเราดูแล้วคุ้มค่า นั่นเป็นเรื่อสำคัญมากกว่าจบฤดูกาลด้วยอันดับดีๆในตาราง"เยอร์เก้น คล็อปป์กุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์กล่าวเอาไว้ก่อนเปิดซีซั่น สกอร์ยอดฮิต 1-1 ตกยุคแล้วเพราะ 3-3 และ 4-4 กำลังครองเมือง....สโมสรในบุนเดสลีกากำลังเลียนแบบพฤติกรมของกลุ่มนักเรียน ย่ำราตรีเมาหัวราน้ำหลังสอบไฟนอลเสร็จ ลืมผลซะดิ้นให้ตายไปข้าง "ผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้คนกระหายการเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้มาก่อน"อูลี่ เฮอร์เนสส์ผู้จัดการทีมทั่วไปของบาเยิร์น มิวนิคกล่าว คล็อปป์อาจใช้เวลานานอีกพักใหญ่ๆในการนำยักษ์หลับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์มาเป็นพี่เบิ้มแต่ความที่เป็นผู้จัดการทีมซึ่งรักเกมรุกและชอบ เสี่ยงเปิดหน้าแลกทำให้เขาชนะทั้ง"ใจ"นักวิจารณ์และแน่นอน"ชนะ"ในเกมมาไม่ น้อย ราล์ฟ รังนิค(ฮอฟเฟนไฮม์),บรูโน่ ลาบบาเดีย(เลเวอร์คูเซ่น),คลินสํมันน์(บาเยิร์น),เฟลิกซ์ มากัธ(โวลฟ์บวร์ก)และมาร์ติน โยล(ฮัมบวร์ก) มีปรัชญาในการทำทีมแบบเน้นรุกในขณะที่ลูเซียง ฟาร์ฟของแฮร์ธ่าและเฟรด รุตเตนของชาลเก้บางทีไม่มีนักเตะที่เหมาะกับไอเดียของทีม ณ ตอนนี้ แม้กระทั่งทีมอย่างกลัดบัคและโคโลญจน์ที่ๆฟุตบอลจะไม่มีวันเดินตามความ หวังของแฟนบอลทันอย่างแน่นอน,ความกระหายสำหรับเรื่องน่าตื่นเต้นดูมีภาษีดี กว่ามาหวั่นเรื่องตกชั้น ลูกทีมของคริสตอฟ ดอย์มขยับมาถึงอันดับ 8 หลังโค่นฮันโนเวอร์ 2-1 และเป็นชัยชนะครั้งที่ 5 ใน 7 เกมหลังสุด ตามธรรมชาติ คนทั้งเมืองโคโลญจน์ฝันถึงการกลับมาเล่นในเวทียุโรปไปเรียบร้อยแล้วรวมทั้ง การกลับมาของลูคัส โพดอลสกี้จากเจ้าของทีมปัจจุบันอย่างบาเยิร์นแม้จริงๆแล้วพวกเขาอาจไม่มี เงินมากพอซื้อมาร่วมทีมก็ตาม กับสามในสี่ส่วนของลีกกำลังสู้เพื่อแย่งหาความสำเร็จกันอยู่นั้น บุนเดสลีกาไม่เคยสูสีคู่คี่แบบนี้มาก่อนเลยอย่างน้อยๆก็ในแง่ของจำนวนทีม แต่การถล่มประตูอย่างเมามันจะคงอยู่ไปเรื่อยๆอีกหรือไม่? แฟร็งค์ วอร์มัธ(หัวหน้าโค้ชอบรวมของสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน)ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าสิ่ง ที่เรากำลังเห็นอยู่เป็นผลของ"การคุมโซนมากจนเกินไป"และมีแนวโน้มที่บรรดา ผู้จัดการทีมกำลังเริ่มจำกัดพลังเกมรุกของตัวเองลงมาเรื่อยๆ ยกตัวอย่างมาร์ติน โยลมาตระหนักว่าทีมของเขาไม่สามารถพึ่งพาการ"คัมแบ็ค"จากการตามหลัง 2-0 อยู่ร่ำไปได้เลย(ฮัมบวร์กเอาชนะคู่แข่งแบบนี้มา 3 จาก 4 เกมหลังสุด) จากการรุกเป็นหลักทำให้"สิงห์เหนือ"แพ้เกมเยือนไปแล้ว 3 นัดและต้องการอัดฉีกแท็คติกส์โดยด่วน ในวันที่พบดอร์ทมุนด์อดีตบอสท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ยอมถอดเปาโล กูเอร์เรโร่แข้งตัวรุกออกจากทีมแล้วยัดโคลิน เบนจามินมิดฟิลด์ตัวรับลงไปแทน "มันอาจมองดูไม่ดีแต่ดีสำหรับผลการแข่งขัน"โยลให้สัมภาษณ์หลังเอาชนะ 2-1 ด้วยสไตล์รับแน่นและสวนสวยๆสองครั้งเป็นประตูทั้งหมด "มันเหมือนราวกับว่าเป็นฮุบบ์ สตีเฟ่น(อดีตกุนซือฮัมบวร์กคนก่อนซึ่งเน้นหนักในเกมรับ) มาสั่งการตัดสินใจเกมรับให้ทีมยังไงยังงั้น"หนังสือพิมพ์เบอร์ลิเนอร์ ไซตุ้งพาดหัวช็อกเล็กๆจากนั้นเขียนต่อว่า"ฮัมบวร์กยังคงทดลองระบบแปลกๆต่อไป พวกเขาไม่ได้เล่นตามแนวทางที่ผู้จัดการทีมต้องการต่อก็ยังชนะอยู่ดี" เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นขึ้นกับบาเยิร์น มิวนิคที่ประเคนทั้งลูกครอส,เตะมุม,ยิงไกลเป็นล้านๆก่อนบุกมาเอาชนะ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลักๆแล้วคงต้อง"กราบตีน"ฟร็องก์ ริเบรี่ปีกหน้าบากที่งัดเพลงแข้งสุดเด่นรวมทั้งการเล่นเกมสวนกลับอันสุดยอด ฟอร์มอันสุดคลาสสิกในยุคฮิตซ์เฟลด์ซึ่งเยอร์เก้น คลินส์มันน์จอมพิถีพิถันยังห่างชั้นอีกล้านปีแสง ทั้งเขาและโยลได้เห็นกับตาถึงความจำเป็นในการพอประมาณต่อปรัชญาของตัวเอง,เพียงแค่ทำอะไรให้ต่างจากทีมอื่นๆนิดหน่อยเท่านั้น จริงๆแล้วทั้งฮัมบวร์กและบาเยิร์นได้ชัยชนะครั้งสำคัญเมื่อสุดสัปดาห์(อดีต จ่าฝูงฮอฟเฟ่นไฮม์แพ้และจ่าฝูงปัจจุบันเลเวอร์คูเซ่นเสมอ 3-3 ทั้งที่นำก่อน 3-0) โค้ชแต่ละคนหาข้อสรุป"น้อยๆแต่ดูมากมาย(less is more)"ในซีซั่นนี้และปรับปรุงปรัชญาของพวกเขาให้ออกมาดีได้หรือไม่? หรือเราได้เห็นแค่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นแค่ชั่วคราวเพื่อหาความสม่ำ เสมอและเวลาสำหรับพัฒนาการในเกมรุกอันสมบูรณ์แบบให้คืบหน้าต่อไป? ไม่ว่าจะเคสไหน ความแข็งแกร่งในเกมรับจะสามารถเพิ่มคุณภาพทีมโดยรวมในระยะยาวได้ ตอนนี้ความสมดุลอาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่บุนเดสลีกาต้องการแต่มันคือสิ่งที่พวก เขาจำเป็นต้องมีแน่ๆหากพวกเขาอยากเดินหน้าก้าวต่อไปและกลับมาเป็นเต้ยในเวที ยุโรปอีกครั้ง..... _________________ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=116637 จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อองรียันไม่ย้ายหนีบาร์ซ่าแน่นอน 12/11/2008 6:01:23    เธียร์รี่ อองรี หัวหอก บาร์เซโลน่า ยันยังมีความสุขสุดๆ กับชีวิตในรัง คัมป์ นู และไม่คิดจะย้ายกลับไปโม่แข้งในเมืองผู้ดีแน่ หลังตกเป็นข่าวกับ เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ตั้งเป้าขอพา "เจ้าบุญทุ่ม" กระชากแชมป์ลีกแดนกระทิง และแชมป์โกปา เดล เรย์ มาครองให้ได้    เธียร์รี่ อองรี กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ศึกลา ลีกา ออกมายืนยัน เมื่อวันอังคารที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เขายังคงมีความสุขในการค้าแข้งกับ "เจ้าบุญทุ่ม" เป็นอย่างมาก และจะไม่ย้ายทีมไปไหนอย่างแน่นอน     ก่อนหน้า นี้มีข่าวลือว่า อดีตดาวยิง อาร์เซน่อล เตรียมจะย้ายกลับไปค้าแข้งในประเทศอังกฤษอีกครั้งกับ เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม อองรี ก็ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เนื่องจากตนต้องการคว้าแชมป์ลีก และรายการ โกปา เดล เรย์ ร่วมกับต้นสังกัดให้ได้เสียก่อน     ออ งรี กล่าวว่า "ตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนมาก และผมก็มีความสุขดีที่นี่ ผมมองไม่เห็นเลยว่า ผมจะไปเล่นในอังกฤษได้ยังไง ผมอาจจะได้ไปทำอะไรดีๆ บางอย่างที่อังกฤษ แต่ผมยังไม่ได้แชมป์กับ บาร์ซ่า เลย ซึ่งผมก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อไป มันไม่ใช่ว่าผมอยากจะได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรอกนะ แต่มันเป็นเพราะว่า ผมอยากจะคว้าแชมป์ลีก และ โกปา เดล เรย์"     "ใช่แล้ว ผมมีความสุขมากๆ ผมพูดไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว ผมชอบเมืองนี้, ชอบอาหาร และสภาพอากาศที่นี่มาก เมื่อไหร่ที่ผมได้สวมเสื้อ บาร์เซโลน่า ก่อนจะลงสนาม มันคือช่วงเวลาที่สุดยอดมากจริงๆ ปีที่แล้วมันก็ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่หรอก แต่มันก็ถือเป็นเกียรติมากแล้วที่ได้ลงเล่น" อดีตดาวเตะ "เดอะ กันเนอร์ส" ตบท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081112_029.html จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อนักเตะเทวดามานั่งแท่นกุนซือ    แฟนบอลหลายท่านคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ "ดีเอโก้ มาราโดน่า" ผู้สร้างตำนาน "หัตถ์พระเจ้า" ของวงการลูกหนังโลก ยอดนักฟุตบอลที่พระเจ้าประทานก็ว่าได้ ซึ่งมีชีวิตและเรื่องราวครบทุกรสชาติ ทั้งความสำเร็จสูงสุดในการเล่นฟุตบอล และตกต่ำสุดๆ ในเรื่องการติดยา สิ่งเหล่านี้มาราโดน่า ผ่ามมาหมด และปัจจุบันชื่อของ "เดอะเตี้ย" ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการนี้มาโดยตลอด ล่าสุดเค้าได้สร้างความฮือฮาอีกครั้งเมื่อมารับบทเป็นกุนซือทีมชาติ อาร์เจนตินา    ก่อนอื่นขอย้อนอดีตของชายที่ชื่อ ดีเอโก้ มาราโดน่า กันสักนิด เริ่มจากเด็กเก็บบอลข้างสนาม ของ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ สโมสรดังของกรุงบัวโนส ไอเรส และเดาะบอลโชว์แฟนๆ ในช่วงพักครึ่งของเกม พออายุ 15 มาราโดนา ได้เล่นทีมชุดใหญ่และค้าแข้งอยู่ระหว่างปี 1976 ถึง 1981 ก่อนจะย้ายสู่สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง โบคาจูเนียร์ ที่กลายเป็นแบรนด์ของเจ้าตัวจนถึงทุกวันนี้ตั้งแต่ปลายฤดูกาล 1981 คว้าแชมป์กับทีมสำเร็จในปีแรก    ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 16 เจอกับ ฮังการี และสัมผัสบรรยากาศฟุตบอลโลกรุ่นเยาวชน เมื่ออายุ 18 ปี ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สร้างชื่อให้ตัวเองดังกระฉ่อนวงการโดยเฉพาะเกมนัด ชิงที่ชนะ สหภาพโซเวียต 3-1 ปี 1982 หลังจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก มาราโดนาก็ย้ายสังกัดซบ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ในปี 1983 แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายอย่างหนักหน่วงของกองหลังในลีกสเปน จนเจ็บยาวเกือบต้องแขวนสตั๊ดไปเหมือนกัน    ในที่สุด ปี 1984 นาโปลี ทีมดังจากอิตาลี มาคว้าตัวเค้าด้วยราคา 220 ล้านบาทและเป็นสถิติโลกในตอนนั้น โดยประเดิมเกมแรก 23 ก.ย. 1984 และนั้นคือการก้าวเข้าสู่ความยิ่งใหญ่ของ "ดีเอโก้ มาราโดน่า" ผู้นำความสำเร็จสู่ทีมด้วยการคว้าแชมป์ลีก สองสมัย, โคปา อิตาเลีย, ยูฟ่า คัพ และ อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ นอกจากนี้ยังเป็นรองแชมป์ลีกอีก 2 สมัยด้วย    และสิ่งที่ยังไม่ลืมเลือนจนกันทุกวันนี้ ฟุตบอลโลก ปี 1986 มาราโดน่ากับตำแหน่งกัปตันทีม "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนติน่า นำทัพลุย "แดนจังโก้" เม็กซิโก ด้วยฟอร์มอันสุดยอดและโดดเด่นสุดๆ ของเขา และเกมกับอังกฤษรอบควอเตอร์ไฟนัล เกมนี้เองที่ทั้วโลกกล่าวขวัญถึง "เดอะเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า เมื่อเขาใช้มือปัดบอลเข้าประตูและทำให้อังกฤษตกรอบไป ซึ่งเขาเรียกมันว่า "Hand  of God" อันหมายถึงหัตถ์ของพระเจ้า    นับเป็นประตูที่โด่งดังมาก น้อยคนนักที่จะลืมเลือนประตูนี้ โดยเฉพาะแฟนๆ ทีม "สิ งโตคำราม" จากนั้นเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง พาทีมฟ้าขาวคว้าแชมป์โลกสำเร็จ เมื่อการล้มคู่แข่งอย่างเยอรมันตะวันตกในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 2    หลังจากนั้นชีวิตของมาราโดน่า เริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ ปี 1994 ฟุตบอลโลกที่อเมริกา มาราโดน่าถูกตรวจพบสารกระตุ้น  และอาร์เจนติน่าก็ตกรอบไปอย่างรวดเร็ว ช่วงนั้นชีวิตเขามีแต่ความตกต่ำอื้อฉาว พัวพันกับยาเสพติด จนวันที่ 29 ต.ค. 1997 มาราโดน่า ประกาศแขวนสตั๊ด    ที่กล่าวมานั้นคือไตเติ้ลชีวิตของนักเตะเทวดา "ดีเอโก้ มาราโดน่า" และต่อไปนี้เขาจะเป็นกุนซือเทวดาได้หรือไม่ เมื่อเขากลับมาในมาดกุนซือใหญ่ของขุนพลดาวเตะอาร์เจนไตน์ หลังการลาออกจากตำแหน่งของ อัลฟิโอ บาซิเล่ ที่ล่าสุดนำทีมพ่ายชิลีในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งตอนนี้อาร์เจนตินาอยู่เพียงแค่อันดับที่ 3 เท่านั้นคะแนนห่างจากอันดับ 1 ปารากวัยถึง 7 คะแนน และต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการสร้างผลงานในด้านผู้จัดการใหญ่ของทีมชาติอาร์เจน ติน่าของ "เสือเตี้ย"แล้ว    ก่อนหน้านี้มาราโดน่าก็เคยทำหน้าที่เป็นโค้ชมาแล้วโดย ปี1994 คุมทีมเดปอร์ติโบ มันดิยู แต่อยู่ได้เพียงสองเดือนเท่านั้น ต่อมาก็เป็นราซิ่งในปี 1995 และก็อยู่ได้ไม่นานแค่สี่เดือนพี่แก่ก็ไปซะแล้ว    ดูจากผลงานการทำทีมของมาราโดน่าแล้วรู้สึกว่าเขาจะมีปัญหาอยู่มาก ทีเดียว เรื่องนี้สมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินาก็คงต้องรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นและคง เตรียมการรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นคงไม่แต่งตั้งเป็นเทรนเนอร์คนใหม่แน่ๆ    และผู้ที่จะมาเป็นผู้ช่วยเขาก็คือ คาร์ลอส บิลาร์โด้ อดีตกุนซือผู้พาเสือเตี้ยคว้าแชมป์โลกปี1986 ที่เม็กซิโกนั่นเอง ซึ่งแนวคิดในการำทีมของเขาก็คือ การนำจิตวิญญาณแห่งปี 1986 กลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง    ซึ่งตอนนี้เหล่านักเตะก็พร้อมอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น เจ้าหนูมหัศจรรย์ "ลิโอเนล เมสซี่",คาร์ลอส เตเวซจนกระทั้ง เซร์จิโอ "กุน" อเกวโร่ ที่กำลังวาดลวดลายให้กับต้นสังกัดอย่างสุดยอดในตอนนนี้ เหลือเพียงแค่ ดีเอโก้ มาราโดน่า เท่านั้นที่จะใส่จิตวิญญาณของแชมป์ ปี 86 ให้กับนักเตะเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน    อีกไม่นานเราก็จะได้เห็นฝีมือนักเตะระดับตำนานเจ้าของ "หัตถ์พระเจ้า" สวมบทเป็นกุนซือใหญ่ให้กับทีมบ้านเกิดของเขา.........    และเขาผู้นั้นคือ "ดีเอโก้ มาราโดน่า" เสือเตี้ยแห่งอาร์เจนไตน์        พอเพียง จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บอลไทยเล็งง้วนเสียบหากแบนลาทีม 12/11/2008 21:41:52    บอลไทยเตรียมเรียก "เดอะแบน" ตะวัน ศรีปาน เคลียร์ปัญหามือขวา ปีเตอร์ รีด ถ้าไม่โอเค เรียก "เดอะง้วน" สุรชัย จตุภัทรพงษ์ เสียบแทน พร้อมประกาศ 30 นักเตะเก็บตัวโคราช ก่อนลุยศึก อาเซียนคัพ 2008 กลุ่ม บี บนแผ่นดินบ้านเกิด ระหว่างวันที่ 6-28 ธ.ค. นี้    ความเคลื่อนไหวของ ขุนพลทีมชาติไทย ที่มีคิวออกไปลุ้นแชมป์ศึกลูกหนัง "ทีแอนด์ที คัพ" ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม วันที่ 16 พ.ย. นี้ ก่อนที่จะกลับมาเตรียมทีมสู้ศึกอาเซียนคัพ 2008 หรือ ซูซูกิ คัพ ระหว่างวันที่ 6-28 ธ.ค.นี้ โดยรอบแรกของกลุ่ม บี ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ มีโปรแกรมจะลงฟาดแข้ง 3 นัด ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 6 ธ.ค. พบ เวียดนาม, 8 ธ.ค. พบ ลาว และ 10 ธ.ค. พบ มาเลเซีย        ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลฯ ได้ประกาศรายชื่อนักเตะ 30 ราย ซึ่งจะใช้ในการเตรียมทีมเพื่อลุยทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซึ่งนักเตะทั้งหมดยังเป็นชุดเดียวกับที่ทาง ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทยได้เรียกตัวก่อนเดินทางไปทำศึก ทีแอนด์ที คัพ ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กิตติศักดิ์ ระวังป่า (กรมศุลกากร), โกสินทร์ หทัยรัตนกุล (ชลบุรี เอฟซี), ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บีอีซี เทโรฯ)        กองหลัง สุรีย์ สุขะ (ชลบุรี เอฟซี), ณัฐพงษ์ สมณะ (ชลบุรี เอฟซี), ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ (ชลบุรี เอฟซี), ปฎิภาณ เพ็ชรพูล (กฟภ.), นิเวส ศิริวงษ์ (บีอีซี เทโรฯ), ภานุพงษ์ วงศ์ษา (กฟภ.), ชลทิศ จันทคาม (ชลบุรี เอฟซี), รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (กฟภ.), ประสิทธิ์ เทาดี (จุฬาฯ ยูไนเต็ด), เจษฎา จิตสวัสดิ์ (พนักงานยาสูบ), กฤษฎี ประกอบของ (ตำรวจ)        กองกลาง ดัสกร ทองเหลา (ฮอง อันยาลาย), ธนา ชะนะบุตร (ชลบุรี เอฟซี), สุเชาว์ นุชนุ่ม (ทีโอที), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (ธ.กรุงไทย), สุรัตน์ สุขะ (ชลบุรี เอฟซี), อาทิตย์ สุนทรพิธ (ชลบุรี เอฟซี), จักรพันธ์ แก้วพรหม (บีอีซี เทโรฯ), สุธี สุขสมกิจ (แทมปิเนส โรเวอร์), สลาฮูดิน อาแว (เมืองทองฯ)        กองหน้า รณชัย รังสิโย (กฟภ.), ธีรศิลป์ แดงดา (เมืองทองฯ), ธีรเทพ วิโนทัย (เอส.เค. ลีแอร์ส), อานนท์ สังข์สระน้อย (บีอีซี เทโรฯ), อิสระพงษ์ ลิละคร (ขอนแก่น), ศรายุทธ ชัยคำดี (โอสถสภา เอ็ม-150), พิพัฒน์ ต้นกันยา (กฟภ.)        โดยนักเตะที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ให้มารายงานตัว วันที่ 19 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ก่อนจะเดินทางไปเก็บตัวที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 19-30 พ.ย. 52 จะใช้โรงแรมปัญจดารา เป็นสถานที่เก็บตัว        ส่วนกรณีของ "เดอะแบน" ตะวัน ศรีปาน ที่ล่าสุดเปิดใจขอลาออกจากการเป็นสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย เนื่องจากกลัวโดนข้อครหาว่าเหยียบเรือสองแคม ทำงานสองที่ เพราะฤดูกาลหน้าตัวเองจะต้องทุ่มเทเวลาการทำงานทั้งหมดให้กับ สโมสรบีอีซี เทโรฯ ด้วย จึงดูเหมือนว่าไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับทีมชาติเต็มที่ ขณะเดียวกันหากว่านักเตะบีอีซี เทโรฯ ติดทีมชาติเยอะ จะโดนข้อครหาว่าเรียกแต่นักเตะในสังกัดตัวเองติดมากไปหรือเปล่า        ล่าสุด "บิ๊กเปี้ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เผยว่าได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทาง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ รับทราบแล้ว พร้อมกับจะเรียกตัว ตะวัน ศรีปาน ให้มาเคลีย์ปัญหา หากว่าไม่สามารถมาทำงานกับทีมชาติได้จริงๆ จะเรียกตัวของ "เดอะง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทย ที่เวลานี้เป็นสตาฟฟ์โค้ช ของสโมสรแทมปิเนสโรเวอร์ ทีมในศึกเอสลีก ประเทศสิงคโปร์ มาทำงานแทน"        ขณะที่ขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่เตรียมทีมเดินทางไปแข่งขันฟุตบอล ทีแอนด์ที คัพ ที่ประเทศเวียดนาม วันที่ 14 พ.ย. นี้ นั้น ทาง สมาคมฟุตบอลฯ ให้มารายงานตัวที่ โรงแรมเรดิสัน ย่านพระรามเก้า เวลา 13.00 น. วันที่ 13 พ.ย. นี้ ก่อนที่จะเดินทางไปซ้อมกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ต่อช่วงเย็น http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081112_091.html สมกับสื่อ  เรียก "สุภาพบุรุษลูกหนัง"   ขอให้ตะวัน เจริญก้าวหน้าจนขึ้นมาเป็นโค๊ชเองเลยครับ.. จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แฮนเซ่นฟันธงปีนี้ท็อปโฟร์หน้าเดิม อลัน แฮนเซ่นตำนานแข้งลิเวอร์พูลมั่นใจว่าฤดูกาลนี้จะไม่มีทีมไหนนอกบิ๊กโฟร์แทรกตัวคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เหมือนเช่นเคยและเชื่อว่าอาร์เซนอลขาดเรื่องความแกร่ง นัดเยือนเพื่อเติมศักยภาพลุ้นแชมป์ลีกอยู่ แฮนเซ่นซึ่งเคยคว้าแชมป์ลีกกับ "หงส์แดง" 8 สมัยและยูโรเปี้ยน คัพอีก 3 สมัยในช่วงยุคที่ประสบความสำเร็จมาที่สุดระหว่างปลาย 1970-1980 ก่อนเปิดซีซั่นมีการพูดถึงกันเยอะมากว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้,ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์หรือแม้กระทั่งแอสตัน วิลล่าจะแทรกตัวสู่บิ๊กโฟร์แย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกแต่เท่าที่ดูเกมมาแฮนเซ่นเชื่อว่าคุณภาพห่างกันเยอะ "คุณมีทีมบิ๊กโฟร์และจากนั้นก็ทีมที่เหลือ" "คุณต้องลองดูแต่ละทีมที่ถูกมองว่าเป็นทีมที่สามารถแทรกเข้ามาอยู่ในท็อปโฟร์ดูสิ คุณเห็นแล้วว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ แอสตัน วิลล่าและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังห่างชั้นกับทีมชั้นนำอยู่เยอะ" "ไม่มีโอกาสเลยที่ทีมไหนจะเข้ามาแทรกบิ๊กโฟร์ในซีซั่นนี้ มีคนเคยบอกว่าช่องว่างระหว่างบิ๊กโฟร์กับทีมที่เหลือเข้าใกล้กันมากขึ้น แต่สำหรับผมแล้วมันกลับห่างมากขึ้น ใครที่ได้เห็นเกมอาร์เซนอลพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเห็นว่าทีมเหล่านี้อยู่เหนือทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกห่างไกล แค่ไหนโดยมีเชลซีและลิเวอร์พูลเป็นอีกอุปสรรค กันเนอร์สเป็นเต็งสี่แต่คุณบอกผมได้ไหมล่ะว่านอกเหนือ 3 ตัวเต็งที่ว่านี้ใครสามารถต่อกรกับพวกเขาได้บ้าง? ไม่มี!!" "หลังได้ดูอาร์เซนอลเมื่อสุดสัปดาห์แล้ว กับความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นตัวเต็งอันดับสี่แทบไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ""พวกเขาเล่นฟุตบอลสวยงามเอามากๆและเมื่อวันไหนเป็นวันของพวกเขาก็จะเล่นได้ดีตามใจสั่งมา อย่างไรก็ตามหากจะมีวันที่พวกเขาพังพาบก็คงเป็นนัดเยือนที่พวกเขายังมีปัญหาเรื่องแรงปะทะ" "การคว้าแชมป์ลีกคุณต้องมีความสามารถในการโค่นทีมเล็กๆอย่างที่เชลซี,ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำเอาไว้ นอกเหนือจากนั้นแต่ละทีมจะเตรียมตัวมาอุดยามเยือนอาร์เซนอล พวกเขาจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถรับมือกับเรื่องตรงนี้ให้ได้" "ในแง่ความแข็งแกร่งของร่างกายก็สำคัญสุด มันก็โอเคนะสำหรับเล่นฟุตบอลสวยๆแต่คุณต้องเล่นให้ถูกกาลเทศะด้วย ลองดู 2 นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกดูสิ เปเล่และมาราโดน่าทั้งคู่มีทักษะและพรสวรรค์อันเหลือล้นแต่ก็เล่นหนักได้เมื่อถึงคราวจำเป็น" ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3402 จากคุณ : solo one - [ 13 พ.ย. 51 21:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งูทุ่ม2.8พันล.บวกอาเดรียโน่ล่ากุน อินเตอร์ มิลาน ตกเป็นข่าวพร้อมทุ่ม 2,760 ล้านบาท บวก อาเดรียโน่ กองหน้าส่วนเกิน ให้กับ แอตเลติโก มาดริด เพื่อคว้า เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกตัวเก่ง เสริมทัพ โดยหวังตัดหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ ที่จ้องจะซิวดาวยิงอาร์เจนไตน์ด้วยเช่นกัน "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ตกเป็นข่าวพร้อมทุ่มเงินถึง 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,760 ล้านบาท) บวกกับ อาเดรียโน่ หัวหอกบราซิเลียน เพื่อคว้าตัว เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าตัวเก่ง "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด สโมสรแห่งศึกลา ลีกา สเปน มาร่วมทีม จากการรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อินเตอร์ ตกเป็นข่าวอยากได้ตัว อเกวโร่ มานานแล้ว หลังนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า มัสซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสร "งูใหญ่" พร้อมที่จะทุ่มเงินถึง 60 ล้านยูโร บวกกับ อาเดรียโน่ ให้กับ แอต.มาดริด เพื่อหวังคว้าดาวยิงอาร์เจนไตน์มาร่วมทีมก่อนสโมสรยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ที่ต่างอยากได้ตัวไปเสริมทัพด้วยเช่นกัน มีการคาดหมายว่า แอต.มาดริด จะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ที่ต่ำกว่า 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) อย่างแน่นอน และมีความเป็นไปได้ว่าการย้ายทีมของ อเกวโร่ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นกัน จะเป็นการทำลายสถิติโลก ขณะที่ อาเดรียโน่ น่าจะหมดอนาคตในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า แล้วค่อนข้างแน่ หลังจากที่ไม่สามารถทำผลงานเป็นที่ประทับใจ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ อินเตอร์ และมีโอกาสสูงที่จะถูกปล่อยตัวไปในฐานะส่วนหนึ่งของสัญญาคว้าตัว อเกวโร่ ซึ่ง "งูใหญ่" หวังว่าจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในแนวรุกของทีมเวลานี้   --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แย่งมาให้ได้นัตัวนี้ จากคุณ : pelipe - [ 13 พ.ย. 51 21:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลีซอยิ้มอยู่ลีแอร์ส3ปีครึ่งรับเกิน10ล. 12/11/2008 21:57:41    "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกทีมชาติไทย ว่าที่เศรษฐีลูกหนัง หลังเซ็นค้าแข้ง ลีแอร์ส 3 ปีครึ่ง เตรียมรับทรัพย์รวมเกิน 10 ล้านบาท บวกเงินกินเปล่าอีก 2.5 ล้านบาท เจ้าตัวไม่สนเรื่องรายได้ให้คุณแม่จัดการ ตั้งสมาธิอยู่ที่การเล่นฟุตบอลอย่างเดียว พร้อมพิสูจน์เพื่อให้ทีมยอมรับฝีเท้า จบศึก อาเซียน คัพ เดือน ธ.ค. บินลุยลีก เบลเยียม ทันที    ความเคลื่อนไหวของ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ศูนย์หน้าทีมชาติไทย ที่เตรียมไปค้าแข้งกับสโมสรลีแอร์ส ลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยียม ด้วยค่าเหนื่อย 2 แสนบาทต่อเดือน และยังไม่นับรวมเงินโบนัสอีกต่างหาก ระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยจะเดินทางไปหลังจบศึกชิงแชมป์อาเซียน คัพ เดือน ธ.ค.นี้        ล่าสุด "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่เตรียมตัวรับใช้ทีมชาติไปทำศึก ทีแอนด์ที คัพ ที่เวียดนาม เผยเพิ่มเติมว่า "นอกจากที่ ลีแอร์ส ได้ให้เงินเดือน 2 แสนบาทแล้ว ยังมีเงินโบนัสแต่ละนัดอีกด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับผลงานของทีมและฟอร์มการเล่น แถมมีเงินกินเปล่าให้อีกก้อนเป็นจำนวน 2.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเขาเป็นทีมอาชีพอย่างแท้จริง และทำตามข้อเสนอของเราทุกอย่าง ทำให้การตกลงเป็นไปด้วยดี"        ทั้งนี้รายได้ที่ "ลีซอ" จะได้รับถ้าค้าแข้งครบ 3 ปีครึ่งกับ ลีแอร์ส นั้น มีการคำนวนว่า เงินเดือนตกเดือนละ 2 แสนบาท ถ้ารับเต็มจะเป็นเงิน 8,400,000 บาท เมื่อบวกกับเงินโบนัสแล้ว จะมีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งรายได้ที่จะได้มาเจ้าตัวกล่าวว่า "ตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะเอาไว้ทำอะไร จะให้ทางคุณแม่เป็นผู้เก็บทั้งหมด เพราะต้องการมีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลมากกว่า แต่อนาคตก็ฝันไว้แล้วว่าอยากที่จะมีธุรกิจเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งถ้าทำเงินได้มากพอจะมาดูอีกทีว่าจะทำธุรกิจประเภทไหนดี"        สำหรับการเตรียมตัวไปค้าแข้งครั้งนี้ ธีรเทพ เผยว่า "สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของสภาพร่างกายที่จะต้องฟิตพร้อมสมบูรณ์ คือเดินทางไปถึงสามารถที่จะลงซ้อมหรือได้รับการทดสอบได้ทันที โชคดีที่ได้ซ้อมกับทีมชาติเป็นประจำอยู่แล้ว นอกเหนือจากนั้นจะเล่นเวตเทรนนิ่งเสริมกล้ามเนื้อทุกวัน เพราะการเล่นลีกยุโรปจำเป็นที่ร่างกายเราจะต้องแกร่งจริงๆ"        "ส่วนเรื่องอาหาร ภาษา และอากาศที่หนาว ไม่กลัวเพราะผ่านมาแล้วสมัยที่อยู่อังกฤษ ผมโตขึ้นมาก และมีประสบการณ์มากขึ้น ได้เรียนรู้การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และการแข่งขันที่สูงภายในทีม บทเรียนเหล่านั้นผมจะนำมาใช้ในการไปค้าแข้งครั้งนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งการเป็นนักเตะเอเชีย การยอมรับในทีมไม่ง่าย เราจะต้องพิสูจน์ให้เขาเห็น และปรับตัวให้เข้ากับทีมให้ได้ ถ้าผ่านด่านนี้ได้ เมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น" ยอดกองหน้าไทย  กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081112_094.html ขอให้โชคดี       ตอนนี้เริ่มโตขึ้นแล้วมั้ง   ไม่มีความก้าวร้าว ห้าวแบบสองสามปีที่แล้ว...สู้สู้ๆๆๆๆ ประสบการณ์เยอะมากในรุ่นๆเดียวกันด้วยติดทีมชาติมาตลอด ทั้งชุดเล็กชุดใหญ่   คงจะช่วยทำทำให้แกร่งและสู้กับพวกนักเตะยุโรปได้ จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรือเรายังไม่มีชื่อเสียงมากพอจะดึงนักเตะดังๆ เราก็เอานักเตะไม่ดังแต่ฝีเท้าดีแทนก็แล้วกัน จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 13 พ.ย. 51 21:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ซามาเล็คยันปล่อยซากีหากใครให้ราคาดี ซา มาเล็ค ยืนยันต้องการขาย อาเมอร์ ซากี กองหน้าฟอร์มฮอตที่ วีแกน แอธเลติก ยืมมาใช้งาน โดยทีมดังจาก อียิปต์ เผยยินดีขายกองหน้ารายนี้ให้กับทีมที่พร้อมจ่ายสูงสุด ซามาเล็ค ทีมชื่อดังของ อียิปต์ เผยยินดีปล่อย อา เมอร์ ซากี กองหน้าตัวเก่งให้กับทีมใด ๆ ก็ตามที่ยื่นข้อเสนอให้กับพวกเขาสูงสุด เหตุเพราะ วีแกน แอธเลติก ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขาดเป็นรายแรก "อาเมอร์ ซากี เป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจมาระยะหนึ่งแล้ว และสื่อมวลชนก็ปล่อยข่าวต่างๆ นานาเกี่ยวกับการย้ายทีมของเขา ไปจนถึง วีแกน จะเซ็นสัญญากับเขาหรือไม่อย่างไร เราขอยืนยันว่า เรามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะยอมรับ หรือ ปฏิเสธข้อเสนอตามที่กล่าวมาข้างต้น และไม่มีสโมสรใด สามารถเข้ามาแทรกแซงการเจรจาได้ เราจะตอบรับข้อเสนอที่ยื่นเข้ามาสูงสุด" สาเหตุ ที่ทำให้ ซามาเล็ค ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์เนื่องจากว่าทางด้าน วีแกน แอธเลติก ไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขาด นักเตะรายนี้เป็นทีมแรกทำให้ ต้นสังกัดจากอียิปต์ สามารถปล่อยนักเตะรายนี้ให้กับทีมใด ๆ ก็ได้ ที่ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา http://sport.teenee.com/sport/19540.html ถ้าราคาไม่สูงมาก   แมนซิติ้ซื้อมาสำรองก็น่าจะดีนะ   ทั้งถึก ทั้งเร็ว   และยิงได้ด้วย   แต่ไม่รู้ว่ามาซิตี้แล้วจะเหมือนคนอื่นๆอย่าง เบญจานี  โช  หรือเปล่านะ.. ถ้ามาแบบ ไรท์จิ๋ว  บินโย่   คงจะยิงเป็นกอบเป็นกำเพิ่มขึ้นอีก  (แต่ต้องเพิ่มหลังกับกลางหน่อย) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 21:55:49 จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สเปอร์ทุ่ม 5 ล้านปอด์นจ่อสอย ดันน์ เข้าทีม ตอนนี้คงจะไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ซะแล้วถึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ " ไก่เดือยทอง " ทีมชื่อดังในพรีเมียร์ลีก ซึ่งตอนนี้กำลังกลับมาอยู่ในฟอร์มการเล่นขั้นเทพอีกครั้ง หลังจากการเข้ามารับคุมทีมของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปส์ ล่าสุด หนังสือพิมพ์ Daily Mirror ของอังกฤษรายงาน ตอนนี้ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปส์ กำลังให้ความสนใจในตัวของ ริชาร์ด ดันน์ กองหลังพันธุ์ ของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ คู่แข่งร่วมลีก พร้อมที่จะทุ่มเงินจำนวน 5 ล้านปอด์น ตอนนี้ดูเหมือนกับว่าเป็นทีมที่น่า จับตามองมากทีเดียวในตอนนี้นับตั้งแต่การเข้ามาคุมทีมของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปส์ ทำให้สีสันของทีมและบรรยากาศภายในทีมเปลี่ยนแปลงไปทันที แม้ ว่าผลงานโดยรวมจะออกมาดีในระดับหนึ่ง แต่เกมส์รับของทีมยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตอนนี้ เร้ดแน็ปส์ เองกำลังที่จะหากองหลังฝีเท้าดีเข้ามาเสริม เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาในแนวรับและเล็งไปที่ ริชาร์ด ดันน์ ของแมนซิตี้ สื่อ ในอังกฤษได้ออกมารายงาน ตอนนี้ทางบอร์ดบริหารของสเปอร์กำลังพิจารณาถึงจำนวนตัวเลขและกำลังจะยื่นข้อ เสนอเป็นเงินจำนวน 5 ล้านปอด์นให้ทาง แมนซิตี้ พิจารณาเพื่อปล่อยตัวกองหลังรายนี้มาร่วมทีม http://sport.teenee.com/sport/19530.html ฮิวจ์ตัดใจขายด้วยเถอะ....ถ้าได้รับข้อเสนอนี้จริง จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 21:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หงส์หูผึ่ง ซิเมาเปรยอยากย้ายมาอังกฤษ ถือว่าเป็นนักเตะที่การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจคนหนึ่งของวงการลูกหนังในสเปนเลยทีเดียว สำหรับปีกชาวโปรตุเกส ซิเมา ซาโบรซ่า ซึ่งตอนนี้กำลังโลดแล่นอยู่ในสังเวียนแข้ง ลาลีกา ได้ออกมากล่าวผ่านสื่อซึ่งทำให้บรรดาแฟนบอลแอตมาดริด สะดุ้งกันเป็นแถว หนังสือพิมพ์ Daily Mail ของอังกฤษรายงาน ซิเมา ซาโบรซ่า ปีกชาวโปรตุเกสวัย 29 ปีของทีมแอต มาดริด ในประเทศสเปนได้ออกมากล่าว สนใจย้ายมาค้าแข้งในลีกอังกฤษเช่นกัน ในปี 2005 ที่ผ่านมา หงส์แดง ลิเวอร์พูลเคยสนใจที่จะดึงตัวของ ซิเมา ซาโบรซ่า มาค้าแข้งยังถิ่นแอนฟิลด์ แต่ปัญหาก็คือบอร์ดบริหารในตอนนั้นค่อนข้างจะขี้เหนียว ทำให้การเจรจาระหว่างลิเวอร์พูลกับซิเมา ต้องล้มเหลวไปในที่สุด ซิ เมาได้ออกมากลาวผ่านสื่อในสเปน ผมมีความฝันนะว่าก่อนที่ผมจะแขวนสตั๊ดจะย้ายไปค้าแข้งยังลีกอังกฤษดูบ้าง ที่นั่นมันเป็นความฝันของผมตลอดมาเลยละ ผมอยากจะไปลิ้มลองประสบการณ์ที่อังกฤษก่อนที่จะเลิกเล่นฟุตบอล http://sport.teenee.com/liverpool/19520.html เอามาแปะเฉยๆครับ    เล่นปีก  ซิติ้ ก็มี บินโย่  กับไรท์จิ๋ว เป็นตัวยืนอยู่แล้ว.. จากคุณ : yut - [ 13 พ.ย. 51 22:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาครับ จากคุณ : mooagiko - [ 13 พ.ย. 51 22:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : Yahsarah - [ 13 พ.ย. 51 22:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความเครียดของฮิวจ์ส [14 พ.ย. 51 - 17:17] ศึกคาร์ลิง คัพ รอบ 4 เด็กอาร์เซนอลยัง สร้างความฮือฮาได้เหมือนทุกปี หลังจากถล่มชุดใหญ่วีแกน 3-0 โดยนัดก่อนหน้านี้ก็ยำใหญ่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาแล้ว 6-0 ดาวรุ่งปืนใหญ่ชุดนี้อายุเฉลี่ยแค่ 19 ปีเท่านั้น ที่น่ายินดีก็คืออาร์เซนอลเป็นทีมที่มีนักเตะท้องถิ่นน้อยมาก แต่นัดนี้มีเด็กอังกฤษโชว์ฟอร์มโดดเด่น 2 คน คือ แจ๊ค วิลเชียร์ วัย 16 ปี และเจย์ ซิมป์สัน ที่เหมาคนเดียว 2 ประตู อาร์แซน เวงเกอร์ ยึดนโยบายเดิมให้เด็กเล่นในคาร์ลิง คัพ ไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ ปีนี้จะไปได้ไกล แค่ไหนและเด็กเหล่านี้พอโตขึ้น จะเก่งกาจสมความคาดหวังหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป ส่วนพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ฮวนเด รามอส และโจ คินเนียร์ เคยเป็นกุนซือที่เครียดที่สุด จนกระทั่งรามอสถูกสเปอร์สปลดออกไป ขณะที่คินเนียร์ยังนำนิวคาสเซิลเก็บแต้มได้บ้าง คนที่กดดันมากที่สุดในตอนนี้กลายเป็นมาร์ค ฮิวจ์ส ของแมนฯซิตี้ เรือใบสีฟ้าปราชัย 3 นัดติดต่อกัน เริ่มจากแพ้โบโร่ 0-2, แพ้โบลตัน 0-2 และนัดล่าสุดถูกสเปอร์สบุกมาเชือด 2-1 อันดับรูดลงมาอยู่ที่ 13 มี 13 แต้ม แม้จะเป็นโซนปลอดภัย แต่เมื่อมองลงไปท้ายตาราง ทีมบ๊วยอย่างเวสต์บรอมวิชมี 11 แต้ม ห่างกันแค่ 2 แต้มเท่านั้น ทีมอันดับ 18-19 อย่างนิวคาสเซิลและซันเดอร์แลนด์มี 12 แต้มเท่ากัน ดังนั้น ผลแพ้ชนะเพียงนัดเดียวอาจทำให้แมนฯซิตี้หล่นมาอยู่ในโซนตกชั้นได้ทุกเมื่อ นัดต่อไปน่าหวาดเสียวว่าเรือใบสีฟ้าจะแพ้ 4 นัดรวด เพราะต้องไปเยือนทีม “ม้ามืด” ฮัลล์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ ปกติแล้วแมนฯซิตี้เล่นนอกบ้านไม่ดีเอาเสียเลย แถมยังแพ้ทางทีมที่มีนักเตะรูปร่างแข็งแกร่ง เล่นเกมปะทะได้ดีอีกด้วย ฮัลล์ก็เป็นหนึ่งในทีมที่มีสไตล์การเล่นดุดันแบบนั้น โอกาสที่แมนฯซิตี้จะแพ้กลับมามีไม่น้อยทีเดียว ช่วงนี้จึงมีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของมาร์ค ฮิวจ์ส ออกมามากมาย แม้คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสรจะออกมาหนุนหลังเต็มตัว แต่คงเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ตอนที่ฮวนเด รามอส ทำผลงานแย่ ผู้บริหารสเปอร์สก็โหวตไว้วางใจต่อไปเช่นกัน สุดท้ายก็ไม่รอด ผลงานในสนามเท่านั้นที่จะทำให้ฮิวจ์สนั่งเก้าอี้ต่อไป ถ้า 2 นัดจากนี้ยังไม่ดีขึ้น โอกาสโดนเด้ง มีสูงมาก ข่าวลือเกี่ยวกับโจเซ มูรินโญ ผมยังไม่ค่อยอยากเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะมูรินโญเพิ่งไปคุมอินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาลนี้ หากทิ้งมากลางคันคงจะไม่เหมาะสม เท่าไหร่ ที่ผ่านมาแมนฯซิตี้เป็นทีมที่เปลี่ยนผู้จัดการ ทีมบ่อยมาก และเป็นทีมที่ครองสถิติมีกุนซือที่เคย ทำทีมชาติมาร่วมงานมากที่สุดในอังกฤษถึง 6 คน ประกอบด้วย โจ เมอร์เซอร์ (อังกฤษ), เควิน คีแกน (อังกฤษ), มัลคอล์ม อัลลิสัน (คูเวต), สเวน โกรัน อีริกสัน (อังกฤษและเม็กซิโก), มาร์ค ฮิวจ์ส (เวลส์) และน้องใหม่ล่าสุด ปีเตอร์ รีด (ทีมชาติไทย) ถ้ามาร์ค ฮิวจ์ส ยื้อต่อไปไม่ไหว ต้องรอดูต่อไปว่า กุนซือคนใหม่จะเคยผ่านการคุมทีมชาติอีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ต้องหาคนที่ทำเกมรับเก่งๆ และ รู้จักพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี นอกจากทักษะของนักเตะที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว ต้องกล้าที่จะปะทะ เข้าบอลหนักสู้กับทีมระดับกลางๆไปจนถึงระดับล่างของพรีเมียร์ลีกด้วย. โต้ บ้านแหลม http://www.thairath.com/news.php?section=sports04&content=111310 จากคุณ : solo one - [ 13 พ.ย. 51 23:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 'ง้วน'แทน'ตะวัน' ช่วยงาน'รีด' สู้ศึกเอเอฟเอฟ [13 พ.ย. 51 - 05:18] สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยทำการประกาศรายชื่อ 30 นักเตะทีมชาติไทย เพื่อเตรียมทีมลุยแข้งในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2008” ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับอินโดนีเซีย ในเดือนหน้า ระหว่างวันที่ 6-28 ธ.ค. โดยกุนซือชาวอังกฤษ ปีเตอร์ รีด ได้เรียกผู้เล่นที่หลุดโผจากทีมชุดบู๊แข้งทีแอนด์ทีคัพที่เวียดนาม กลับมาร่วมซ้อมและคัดเลือกตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะ “โจ้ห้าหลา” ศรายุทธ ชัยคำดี ดาวยิงสโมสรโอสถสภา ที่ขอถอนตัวไปก่อนหน้านี้เพื่อรักษาอาการเจ็บเข่า ก็ถูกเรียกกลับมาร่วมทัพอีกครั้งหลังจากหายเดี้ยงสนิทแล้ว ส่วนรายชื่อผู้เล่นที่เหลือ ประกอบด้วย โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, กิตติศักดิ์ ระวังป่า, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน,สุรีย์ สุขะ, ณัฐพงษ์ สมณะ, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, ปฏิภาณ เพ็ชรพูล, นิเวส ศิริวงศ์, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, ชลทิศ จันทคาม, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, ประสิทธิ์ เทาดี, ดัสกร ทองเหลา, ธนา ชนะบุตร, สุเชาว์ นุชนุ่ม, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุรัตน์ สุขะ, อาทิตย์ สุนทรพิธ, จักรพันธ์ แก้วพรหม, สุธี สุขสมกิจ, สลาฮูดิน อาแว, รณชัย รังสิโย, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีรเทพ วิโนทัย, อานนท์ สังสระน้อย, อิสระพงษ์ ลีละคร และพิพัฒน์ ต้นกันยา ซึ่งทั้งหมดจะต้องมารายงานตัวกับสตาฟฟ์โค้ชในวันพุธที่ 19 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก่อนจะเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ จ.นครราชสีมา “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม ฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า นักเตะทั้งหมดที่มีรายชื่อจะต้องมารายงานตัวกับสตาฟฟ์โค้ชในวันพุธที่ 19 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ก่อนจะออกเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งในส่วนของตะวัน ศรีปาน ที่จะขอลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของ ปีเตอร์ รีด นั้น ได้คุยกันแล้วและตนก็รับรู้ถึงเหตุผลของเจ้าตัวที่ต้องการจะทุ่มเทสมาธิให้กับการทำงานในตำแหน่งโค้ชแอนด์เพลเยอร์ของสโมสรบีอีซีเทโรศาสนในฤดูกาลหน้าอย่างเต็มที่ ดังนั้นเราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา โดยเรื่องนี้จะให้ตะวันไปคุยกับนายกสมาคมฯ นายวรวีร์ มะกูดี อีกครั้ง ส่วนคนที่จะเข้ามาแทนนั้น ก็น่าจะเป็น “เดอะง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่กำลังจะเสร็จสิ้นภารกิจกับสโมสรโฮม ยูไนเต็ด ที่สิงคโปร์ในช่วงสิ้นเดือนนี้ และคงจะเข้ามาทำหน้าที่ให้กับทีมชาติได้ในศึกอาเซียนคัพ http://www.thairath.com/news.php?section=sports&content=111254 จากคุณ : solo one - [ 13 พ.ย. 51 23:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาร์ค ฮิวจ์ส ขอให้นายรอดอยู่ถึง January เราเชื่อในนายนะ เพราะที่เห็นว่า แพ้ๆมาหลายนัดเนี่ย ดูแล้วหลักๆมาจากความผิดของตัวนักเตะซะเยอะทีเดียว (หรือว่าเตะไล่โค้ช ฟะเนี่ย) ผมก็ติดตามมาอย่างใกล้ชิดก็จาก Season ที่แล้ว เห็นได้ชัดคือการเปลี่ยนแปลงในเกมรุก เกมส์รับจริงๆแล้วก็ยังแย่ไม่ต่างจาก Season ที่แล้วหรอก เห็นได้จากช่วงปลายๆ last season เพราะไอตัวเล่นมันก็ตัวเดิม Season ที่แล้วไม่ค่อยเปิดเกมส์รุกมากนัก ช่วงต้นๆ Season ที่ชนะเป็นกอบเป็นกำลักษณะเหมือนดวงพาไปมากกว่า.....ชนะ 1 ลูก ยิงช่วงท้ายเวลา ที่ทีมตอนนี้แย่ ถูกต้องแล้วครับว่ามันเป็นความผิดของฮิวจ์ส ผมมองว่าเพราะเค้าต้องการยกระดับคุณภาพของทีม ไปถึงจุดที่เค้าคาดหวังที่จะให้เป็น แต่กลับกลายเป็นนักเตะไม่สามารถทำสิ่งที่คาดหวังได้ โดยเฉพาะเกมรับ ทำให้มีการแพ้อย่างต่อเนื่อง ถ้าผมเป็นฮิวจ์ส ผมก็คงทำแบบฮิวจ์ส ทำ football ใน style ที่ผมเชื่อว่าจะนำความสำเร็จมาสู่ทีม แต่ปัญหาตอนนี้มันอยู่ที่ว่านักเตะไม่สามารถไปถึงจุดที่เราคาดหวัง แล้วคราวนี้เราควรจะทำอย่างไร ถอยจากเกมรุกที่เชื่อมั่น มาเล่นเน้นเกมส์รับเพื่อความอยู่รอดของเก้าอี้ผู้จัดการทีม หรือ จะยืนยันตาม style ที่มันอาจจะไม่เหมาะกับนักเตะที่มี อย่างไรก็ตามทางเลือกแรกอาจจะเหมาะสมที่สุด ณ เวลานี้ เพราะอย่างน้อยที่สุดนายจะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวอีกครั้งหนึ่ง ต้นปีหน้า........ In Hughes, I trust ปล. ขอโทษด้วยที่พิมพ์อังกฤษผสมไทยครับ com ผมไม่มีภาษาไทย ต้องเดาๆจิ้มเอา บางทีมันหาไม่เจอ. ตอกกกกกกกกกกกกกบัตร   (แต่บัตรหายไปแล้ว) จากคุณ : bigjasa - [ 14 พ.ย. 51 01:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ช่วงนี้เงียบเหงาจริงๆ จากคุณ : sovent - [ 14 พ.ย. 51 01:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มองแล้วรู้ว่าดันน์เล่นได้โคตรแย่ยังให้ลงอีกฮิวส์ยังดันลงไปเล่น  การพูดของเจ้าของทีมก็คงให้กำลังกันเท่านั้น ระดับเจ้าของทีมเป็นผู้บริหารระดับโลกย่อมรู้ว่าต้องทำอะไร   ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าต้องปลดฮิวส์กับมองว่าสมควรด้วยซ้ำ ก่อนที่ทีมจะแย่และอาจจะมีปัญหาในทีมโดยเฉพาะสตาร์  ของทีมอย่างเอลาโน่ที่ไม่ค่อยได้เล่นทั้งๆที่มีทีเด็ดในยามฉุกเฉิน อย่างที่ว่าไม่แปลกใจเลยที่ฮิวส์จะโดนปลด จากคุณ : ชูโอมารุ - [ 14 พ.ย. 51 09:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เชิญร่วมงาน “รวมพลเชียร์แมนฯ ซิตี้ ครั้งที่ 2” โดย บริษัทแมนซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และชมรมกองเชียร์ฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ วันอาทิตย์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา 18.00 น. – 22.30 น.   ณ ร้านแมนซิตี้สโตร์ อาคารชินวัตร 3 ชั้น 2 ถ.วิภาวดี-รังสิต เขต/แขวงจตุจักร กรุงเทพฯ  10900 ร่วมสนุกกับกิจกรรม : เล่นเกมส์ ตอบคำถาม ชิงรางวัลจากแมนฯซิตี้ ร่วมเชียร์ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ และซื้อสินค้าในโปรโมชั่นพิเศษสุดๆๆๆ จากร้านแมนซิตี้สโตร์ เฉพาะวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 นี้  เท่านั้น ฟรี  !!!   อาหารและเครื่องดื่มตลอดงาน  (ยกเว้นเบียร์สิงห์) สนใจลงทะเบียนได้ที่ www.mcfc.co.th www.mcfc.in.th mcfcthailand@gmail.com หรือ โทร. 02-949-2374 (ร้านแมนซิตี้สโตร์  วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 15.00 น. ) ด่วน!!!   จำนวนจำกัด จากคุณ : kaizay - [ 14 พ.ย. 51 09:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ให้ไปเลย ดันอะ จากคุณ : อินจอง - [ 14 พ.ย. 51 10:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอดันให้ไก่จิกเอาเจ้าดันน์จอมเฟอะไปที...ซ้าธุ แล้วขอบินโญ่เป็นกัปตันแทนด้วย เอิ๊กๆ ขอเอลาโน่คนรู้ บินโญ่ไว้เถอะ จากคุณ : timetable - [ 14 พ.ย. 51 18:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ม.ค.ลองสอย กองหน้าเอโต้ กลางริเคลเม่ หลังอยากได้เทพมา 4 ตัวเลย (นึกไม่ออก 555555) ขอบคุณมากครับ จากคุณ : อเดเดช - [ 14 พ.ย. 51 19:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กระทู้วันใหม่ครับ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7208021/S7208021.html จากคุณ : yut - [ 14 พ.ย. 51 21:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยปล่อยไปเถอะริชาร์ดดันน์ เล่นพลาดบ่อย  โรบินโญ่เป็นกัปตันแทน จากคุณ : คนค้ำฟ้า - [ 14 พ.ย. 51 22:02:13 ]