ความคิดเห็นที่ 1 ฟุตบอลยูฟ่า คัพ                                                         รอบแบ่งกลุ่ม                                                         วันพฤหัสบดีที่  27 พฤศจิกายน 2551                                                                                    กลุ่ม เอ                                                    ชาลเก้ (เยอรมนี) 0 - แมนฯซิตี้ (อังกฤษ) 2 สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ เปิดรังพบ แมนฯซิตี้ เจ้าถิ่นวางชุดใหญ่ทั้ง เควิน คูรานี่, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน และ ฮาลิล อัลตินท็อป ส่วนทีมเยือนพัก โรบินโญ่ ไว้เตรียมทำศึกใหญ่สุดสัปดาห์กับแมนฯยูไนเต็ด แต่ยังมี เบนจานี่ กับ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ คอยเดินเครื่อง   เปิดฉากครึ่งแรกชาลเก้ครองเกมได้เหนือกว่า นาที 9 มีจังหวะเข้าทำครั้งแรก เจอร์เมน โจนส์ ลองยิงไกล ทว่าลูกตรงตัว โจ ฮาร์ท   มาถึงนาที 20 ชาลเก้ยังบุกต่อเนื่อง และเจอร์เมน โจนส์ ได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ โจ ฮาร์ท ยังไวพุ่งปัดออกหลัง   อย่างไรก็ตามผ่านมาถึงนาที 32 กลายเป็นทีมเยือนที่บุกมานำก่อน ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้บอลกราบซ้ายก่อนจะเปิดไปเสาสองให้ เบนจานี่ ชาร์จเหน่งๆไม่มีเหลือ 1-0   พอขึ้นนำเรือใบสีฟ้าเริ่มมั่นใจมากขึ้น นาที 39 สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ล็อคหลบสองกองหลังเจ้าบ้านก่อนจะยิงจากระยะ 20 หลา มานูเอล นอยเออร์ ปัดข้ามคาน จบครึ่งแรกอาคันตุกะนำ 1-0   กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังแมนฯซิตี้ยังคุมเกมไว้ดีกว่า นาที 56 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ กระชากเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา ติดมือ มานูเอล นอยเออร์ สิบนาทีต่อมาสาวกทีมเยือนกระโดดเฮอีก สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำชิ่งกับ เบนจานี่ ก่อนจะหลุดเข้าเขตโทษและแปบอลผ่านมือนอยเออร์ง่ายๆ 2-0   ช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายเจ้าบ้านเริ่มเร่งเครื่อง นาที 76 เกรัลด์ อซาโมอาห์ ตัวสำรองสปีดเข้ายิงในรอบเขตโทษแต่ยังไม่พ้นมือ โจ ฮาร์ท   ท้ายเกมยังดาหน้าบุกต่อไปแต่ไม่ประสบผล จบ90นาที แมนฯซิตี้ บุกมายำ ชาลเก้ แบบนิ่มๆ 2-0 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   ชาลเก้ : มานูเอล นอยเออร์, ราฟินญ่า, มาร์เซโล บอร์ดอน, ไฮโค เวสเตอร์มันน์, คริสเตียน พานเดอร์, ออร์ลันโด อิงเกลาร์, เจอร์เมน โจนส์, อิวาน ราคิติช, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, เควิน คูรานี่, ฮาลิล อัลตินท็อป   สำรอง : มาธิอัส โชเบอร์, เบเนดิคท์ โฮว์เดส, คาร์ลอส ซัมบราโน่, เลวาน โคเบียชวิลี่, ฟาเบียน แอร์นทส, เกรัลด์ อซาโมอาห์, บิเซนเต้ ซานเชซ   แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แวงซองต์ กองปานี, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์รีโด้, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ดีทมาร์ ฮามันน์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดาริอุส วาสเซลล์, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์   สำรอง : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ไมเคิ่ล บอลล์, ทาล เบน-ฮาอิม, เลอันโดร เกลาแบร์, เชลุม โลแกน, โช, เชด อีแวนส์ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081128_013.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอปาดเลยนะครับ  นัดหน้าเจอแมนยู สู้ๆนะคับ จากคุณ : อินจอง - [ 28 พ.ย. 51 18:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฮิวจ์สโวเรือใบเล่นเหนือทุบชาลเก้สบาย 28/11/2008 11:34:06   มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปลื้ม ลูกทีมเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบในเกมบุกชนะ ชาลเก้ 2-0 ศึกยูฟ่า คัพ กลุ่ม เอ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มั่นใจด้วยผลงานเกมนี้ บวกกับเกมก่อนที่เพิ่งถลุง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล หมาดๆ เกมดาร์บี้แมตช์กับ "ปีศาจแดง" รับรองมันแน่นอน มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดแสนประทับใจฟอร์มการเล่นของลูกทีม เกมบุกไปเอาชนะ ชาลเก้ 04 ทีมแกร่งของ เยอรมัน 2-0 ถึงสนามเฟลตินส์ อารีน่า ศึกยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา "เรือใบสีฟ้า" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และได้ 2 ประตูจาก เบนจานี่ เอ็มวารูวารี และ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำให้ตอนนี้พวกเขาคว้าชัยชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ในรอบแบ่งกลุ่ม โดย ฮิวจ์ส บอกว่า พอใจฟอร์มการเล่นของลูกทีมสุดๆ "ผมคิดว่าวันนี้เราเล่นได้แบบสบายๆ และรู้เมื่อไหร่จะเล่นเกมโต้กลับเร็ว ผลที่ตามมาคือ ชาลเก้ ต้องเล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ นี่เป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมาก"   ชัยชนะในเกมนี้ ทำให้ ซิตี้ มีโอกาสผ่านเข้ารอบสดใส หลังจาก ราซิ่ง ซานตานเดร์ เสมอกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-2 ซึ่ง อดีตกุนซือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เผยว่า "สิ่งสำคัญเวลาเล่นในเกมฟุตบอลยุโรปคือเราต้องทำงานของตัวเองให้ลุล่วง เราไม่ค่อยได้เล่นเกมยุโรปมากนักในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้เราชนะ 2 เกม และมี 6 แต้มแล้ว" "เราอยากเล่นรายการนี้ต่อไป และดูว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะต้องได้อยู่ในตำแหน่งที่ได้ไปเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรปเป็นประจำ และนั่นคือเป้าหมายของเราในปีนี้ เรากำลังมีความเชื่อมั่น ก่อนหน้านี้ผู้คนคงมองเราว่า สัปดาห์ที่ต้องเจอกับ อาร์เซน่อล, ชาลเก้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราคงเอาตัวไม่รอด แต่ผมรู้คุณภาพในทีมของผมดี มันเป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เริ่มจากเกมที่พบกับ อาร์เซน่อล (ชนะ 3-0) เรามีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดที่นี่ และแน่นอนว่าเราจะนำความยอดเยี่ยมเหล่านั้นมาใช้ในเกมสุดสัปดาห์นี้! (พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)" ฮิวจ์ส กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081128_038.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ซิตี้มีเคืองบินโญ่รับเทิดทูนรุดเป็นฮีโร่ 28/11/2008 15:20:21   โรบินโญ่ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดอกแบบไม่หวั่นสาวกทีม "เรือใบสีฟ้า" น้อยใจ เมื่อบอกว่า ฮีโร่ของเขาคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่เขาตามดูผลงาน และยกย่องเทิดทูนตั้งแต่สมัยเล่นให้ "ปีศาจแดง" แล้ว แต่ยืนยันเกมดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะใส่เต็มที่แน่ๆ เพราะรู้ว่ามีความหมายต่อแฟนบอล เหล่าสาวก "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเคืองเล็กน้อย โรบินโญ่ หัวหอกซูเปอร์สตาร์ประจำทีม ยอมรับแบบไม่อ้อมค้อมว่า ให้ความเคารพนับถือ รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตเพื่อนร่วมทีม เรอัล มาดริด ตั้งแต่สมัย ยอดดาวยิงเลือดดัตช์ ยังสวมเสื้อสีแดงๆ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอริร่วมเมือง ที่สมัยอยู่ บราซิล เขาต้องรีบกลับไปดูเกมแข่งทางทีวีเสมอๆ   "ร็อบสัน เดอ ซูซ่า" สมัยเด็กๆ มักจะรีบกลับบ้านไปเปิดทีวีดู "ปีศาจแดง" สมัยที่ยังมี เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน เล่นอยู่ ฟาดแข้งเสมอ ๆ และ 5 ปีต่อมา เจ้าหนูที่โลกลูกหนังรู้จักในชื่อ "โรบินโญ่" เซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด และได้เล่นกับ ฟาน นิสเตลรอย ฮีโร่ ที่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และตามปกติแล้ว รุด จะส่งข้อความมือถือมาอวยพรเขาก่อนเกมเสมอ   แล้วเกม ซิตี้ เจอทีมเก่าของตัวเอง รุด จะส่งข้อความอะไรมาถึงเขา โรบินโญ่ บอกว่า "อันนี้ผมก็ไม่รู้ เราจะส่งข้อความอวยพรให้กันก่อนเกม แต่ผมไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันอาทิตย์นี้ รุด เป็นตำนานของ ยูไนเต็ด และตอนนี้ผมเล่นกับ ซิตี้ ผมว่าข้อความมือถือคราวนี้ต้องน่าสนใจมากแน่ๆ !" โรบินโญ่ กล่าว   ส่วนวัยเด็กนั้น โรบินโญ่ บอกว่าเกมฟุตบอลทางทีวีที่ บราซิล มีแต่เกม "ปีศาจแดง" ให้ดู "ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ดังไปทั่วโลก ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ถ้าคุณรักฟุตบอลคุณต้องรู้จัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมัยผมเด็กๆ และอยู่ที่ เซา เปาโล ผมก็ดู ยูไนเต็ด เล่นทางทีวี และผมชอบ รุด ฟาน นิสเตลรอย มากๆ เขาคือฮีโร่ของผม จากผลงานทำประตูทุกรายการของเขา"     "เขาเป็นกองหน้าที่มีไหวพริบ และผมพยายามเลียนแบบเทคนิคของเขาเพื่อพัฒนาเกมของตัวเอง ถึงเราจะเป็นนักเตะคนละสไตล์ก็ตาม ตอนผมเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด มันยังกับความฝัน ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว และหนึ่งในฮีโร่ของผมอยู่ในนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีสุดๆ ที่ได้เล่นกับคนที่ผมเคารพบูชา และผมสุดแสนภูมิใจที่ได้เรียกเขาว่าเพื่อน เรายังติดต่อกันอยู่ และโทรศัพท์คุยกันบ่อยๆ" โรบินโญ่ กล่าว   เกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ ก็คงเปรียบได้เหมือนเกม "เอล กลาซิโก้" ระหว่าง มาดริด กับ บาร์เซโลน่า โดย โรบินโญ่ บอกว่า "นี่คือเกมดาร์บี้ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ เกมดาร์บี้ที่ไหนในโลกของฟุตบอล เกม มาดริด เจอกับ บาร์ซ่า เป็นเกมของศัตรูคู่อริ และการเล่นเกมเหล่านี้มันตึงเครียดสุดๆ เพราะคุณรู้ดีว่า มันมีความหมายต่อแฟนบอลอย่างไร คุณเอาความภาคภูมิใจของสโมสรมาเดิมพันทุกครั้งเวลาเล่นกับ บาร์เซโลน่า"     "แต่เกมดาร์บี้แมตช์ที่นี่มันคนละอย่างกัน เพราะเป็นเกมของทีมที่อยู่ร่วมเมืองเดียวกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า สมาชิกในบ้าน หรือเพื่อนฝูง อาจเชียร์กันคนละทีมในวันนั้น และผมรู้แล้วด้วยว่า มันมีความหมายต่อแฟนบอลของเราอย่างไร มีแต่คนบอกผมเรื่องนี้ทุกหนแห่งที่ผมไป ทั้งที่ ซูเปอร์มาร์เกต, ท้องถนน จะมีคนมาทักผม และบอกว่า - โรบินโญ่ นายต้องเอาชนะ ยูไนเต็ด นี่คือเกมของเรา นี่คือวันของเรา - ผมเข้าใจพวกเขาดี และผมชอบอารมณ์พลุ่งพล่านแบบนี้มาก" โรบินโญ่ กล่าว   ด้วยการลืมตาดูโลกที่ เซา บิเซนเต้ ย่านเสื่อมโทรมที่มีแต่อาชญากรรม และความรุนแรง โรบินโญ่ เข้าใจได้ในทันทีว่า ฟุตบอลเท่านั้นที่จะนำเขาไปสู่อนาคตที่ดีกว่า "ไม่มีใครที่เกิดที่นั่นแล้วมองเห็นอนาคต มันมีแต่ความยากจนข้นแค้น ผู้คนก้มหน้าก้มตาทำงานแต่ได้เงินนิดเดียว อาชญากรรมคือปัญหาใหญ่ในย่านนั้น เด็กๆ ต้องไปมีส่วนพัวพันเสมอ ไม่ว่าจะในฐานะเหยื่อ หรือ สมาชิกแก๊ง หรือคบคนผิด"   "สำหรับเด็กๆ แล้ว ทางเดียวที่จะออกจาก เซา บิเซนเต้ ได้ก็คือ เป็นนักดนตรี หรือนักฟุตบอล ผมรู้ตั้งแต่ตอน 5 ขวบแล้วว่า ผมอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมเล่นฟุตบอลวันละหลายชั่วโมง ผมฝึกทักษะการคุมบอล และเล่นแข่งกับเด็กๆ 30 คนทุกที่ว่างเท่าที่จะหาได้ ขนาดสุสานเรายังเคยไปเล่นมาแล้ว เพราะแต่ละเกมเรามีคนเล่นเยอะมาก แม่ใช่ว่าจะชอบที่ผมเอาแต่เล่นฟุตบอลอย่างเดียว แม่จะใช้ผมไปซื้อของที่ร้าน และระหว่างทางกลับบ้าน ผมต้องหยุดเล่นบอลกับเพื่อนเสมอ"   "จากนั้น 3-4 ชั่วโมง พอกลับถึงบ้านทั้งเนื้อ และนมก็เน่าแล้ว เพราะดวงอาทิตย์ แม่ไม่ปลื้มเอามากๆ แต่ทำไงได้ ก็ผมชอบเล่นนี่ แม่บอกว่าผมน่าจะเอาเวลาไปท่องหนังสือ และขยันเรียนดีกว่า เพราะเด็กบราซิลแทบทุกคนฝันอยากเป็นนักฟุตบอลทั้งนั้น และไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้จริงๆ" โรบินโญ่ กล่าว โดยตอนนี้ครอบครัวของเขาย้ายมา อังกฤษ ขณะที่ภรรยาของเขา "วิเวียน" กำลังหัดเรียนภาษาอังกฤษอยู่   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081128_056.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรือใบเปิดเรดาร์เล็งฟาเบียโน่เสริมคม โฆเซ่ ฟูเอนเต้นเอเยนต์ข้างกายของหลุยส์ ฟาเบียโน่ เพชฌฆาตเซบีญ่าออกมาเปิดเผยว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความสนใจในฝีเท้าของกองหน้าตีนคมของทีมชาติบราซิลรายนี้ ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือหลุดออกมาอย่างมากมายว่า "เรือใบ" ต้องการคว้าตัวนักเตะกองหน้าอย่างโรเก้ ซานตา ครูซและลูคัส โพดอลสกี้มาเสริมทัพในช่วงเดือนมกราคมนี้ กระทั่ง หลุยส์ ฟาเบียโน่ ซึ่งเพิ่งกดแฮตทริกในเกมที่บราซิลถล่มโปรตุเกส ก็เริ่มมีชื่อปรากฏเข้าข่ายความสนใจของ "เรือใบ" แต่ทางเอเยนต์ก็ได้เปิดใจเพิ่มเติมว่ายังมีอีกหลายทีมที่ต้องการกระชากตัวฟาเบียโน่อยู่เช่นกัน "ทางสโมสรแมนฯซิตี้ติดต่อสอบถามมาถึงฟาเบียโน่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรหรอก เพราะพวกเขาไม่ใช่ทีมเดียวหรอกที่สนใจ" "การตัดสินใจขั้นตอนสุดท้ายขึ้นอยู่กับทางเซบีญ่า และผมก็คงจะเข้าไปคุยกับทางผู้อำนวยการสโมสรดู" โฆเซ่ ฟูเอนเต้นเอเยนต์ส่วนตัวของหลุยส์ ฟาเบียโน่กล่าว ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3417 จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เบอร์บายิงเรือ!ลงซ้อมลื่นปรู๊ด เร้ดอาร์มี่ใจชื้นเมื่อดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟกองหน้าใบ้ทระนงส่อแววลงทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ในวันอาทิตย์นี้หลังกลับมาลงซ้อมให้แมนฯยูไนเต็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แข้งวัย 27 ปีชวดลงช่วยยูไนเต็ด 2 เกมหลังสุดทั้งเสมอแอสตัน วิลล่าและบีญาร์เรอัลในสกอร์ยอดฮิต 0-0 หลังเจ็บเอ็นหัวเข่ากับทีมชาติบัลแกเรียเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามตอนนี้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยินดีต้อนรับแข้งค่าตัว 30 ล้านปอนด์กลับสู่สนามซ้อมเพื่อเคาะสนิมก่อนเจอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันอาทิตย์นี้ "เราหวังว่าเบอร์บาตอฟเริ่มซ้อมได้ในวันนี้(วันพฤหัส)"ป๋าเผย "มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เขาไม่เคยเจ็บเอ็นหัวเข่ามาก่อน" "เราต้องตัดสินอีกทีว่ามันเป็นการฉลาดหรือไม่หากคิดจะใช้งานเขาในวันอาทิตย์หรือให้นั่งสำรองไปก่อน มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะซ้อมดีแค่ไหน" ส่วนเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์นายทวารร่างโย่งจะกลับมาเฝ้าเสาได้เช่นกันหลังถูกพักในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกส่วนแกรี่ เนวิลล์และพอล สโคลส์ยังต้องร้องเพลงรอไปก่อน "เราให้เอ็ดวินพักในวันอังคารและเขาจะเล่นให้เราวันอาทิตย์แน่นอน ประสบการณ์ของเขามีความสำคัญในเกมแบบนี้เสมอ" "แกรี่ เนวิลล์ก็กลับมาซ้อมแล้วเมื่อวันพุธและสโคลส์อาจมีชื่อในสัปดาห์หน้านู้นแต่เกมดาร์บี้แมตช์ไม่ทันแน่" ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3417 จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เชลซีเรียกดูโอเอเชียซ้อม เชลซีขอทดสอบฝีเท้าเซอร์เวอร์ ดเยปารอฟของอุซเบกิสถานและอาห์เหม็ด คาห์ลิลดาวรุ่งของสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์มาร่วมซ้อมเพื่อเป็นการจับมือพัฒนาวงการฟุตบอลเอเชียตามที่ตั้งใจไว้ ดเยปารอฟและคาห์ลิลเพิ่งได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและดาวรุ่ง แห่งปียอดเยี่ยมของเอเชียตามลำดับเมื่อวันก่อนและ ตอนนี้ทั้งเชลซีกับสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตกลงร่วมกันว่าทั้งคู่จะเดินทางมาซ้อมในเดือนหน้านี้ "เหลือการไฟเขียวที่จำเป็นอีกนิดหน่อยและนักเตะอยากมาซ้อมด้วย เราดีใจที่จะได้ต้อนรับเซอร์เวอร์และอาห์เหม็ดที่สนามซ้อมคอบแฮม"ไซมอน กรีนเบิร์กโฆษกเชลซียืนยัน "การตกลงกับทาง AFC เป็นบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจช่วยพัฒนาฟุตบอลเอเชียและการเชิญ มาทดสอบฝีเท้ามีแต่ช่วยเปิดโลกแห่งคุณภาพของฟุตบอลเอเชียอีกด้วย" ดเยปารอฟวัย 26 เป็นแข้งชื่อดังของสโมสรบันย็อดคอร์แชมป์อุซเบกิสถานและ ได้รับการยกย่องจากริวัลโด้เพื่อนร่วมทีมว่าฝีเท้าดีพอจะเล่นในลีกชั้นนำของยุโรป ส่วนคาห์ลิลหอกของสโมสรอัล อาห์ลีเพิ่งอายุ 17 ปีแต่ก็ฉายแววรุ่งเมื่อลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ AFC ยู-19 เมื่อต้นเดือนนี้เอง ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3417 จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เซอร์ลั่นผีพร้อมรับคำท้าทายจากซิตี้ 28/11/2008 1:35:15   เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศลั่น "ผีแดง" พร้อมรับมือกับการท้าชิงความยิ่งใหญ่จากอริร่วมเมือง อย่าง แมนฯ ซิตี้ ในทุกรูปแบบ แต่ชี้คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดตอนนี้ยังคงเป็น เชลซี และ ลิเวอร์พูล เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พลพรรค "ปีศาจแดง" พร้อมที่จะรับมือกับการท้าทายทุกรูปแบบจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับมหาเศรษฐีร่วมเมือง ก่อนหน้าที่ทั้ง 2 ทีมมีคิวจะลงทำศึกพรีเมียร์ลีก นัดดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เซอร์ อเล็กซ์ ยอมรับว่า การเข้ามาเทกโอเวอร์ของ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในชั่วข้ามคืน โดยทำให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่มีอำนาจการจับจ่ายสูงที่สุดในโลก และมีโอกาสประสบความสำเร็จในการแข่งขันทุกระดับ ไม่ต่างจาก เชลซี ซึ่งสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี หลังจากการที่ได้ โรมัน อบราโมวิช มิลเลียนแนร์ชาวรัสเซียน เข้ามาซื้อกิจการสโมสรเพียง 2 ปีเท่านั้น เฟอร์กูสัน กล่าวว่า "มันเป็นความเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด และสิ่งที่เราต้องทำก็คือ ยอมรับการท้าทายครั้งนี้ เราเคยมีประสบการณ์มาแล้วกับ เชลซี ตอนที่ อบราโมวิช ก้าวเข้ามา และซื้อนักเตะทุกคนตลอดช่วงซัมเมอร์ จากนั้นพวกเขาก็เป็นแชมป์ลีกในอีก 2 ปีให้หลัง" "สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถพูดเกี่ยวกับสโมสรนี้ได้ก็คือ เราสามารถยอมรับการท้าทาย และทำบางอย่างกับมันได้ เราต้องทำบางอย่างกับการท้าทายอย่างนี้ หรือไม่เราก็ต้องกลับไปเป็นที่สองอีกครั้ง เรายอมรับการท้าทาย และโชคดีเหลือเกินที่เราเป็นแชมป์ลีกใน 2 ปีหลังสุด" นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กล่าว อย่างไรก็ตาม "เฟอร์กี้" มองว่า ปัจจุบัน เชลซี และ ลิเวอร์พูล คือคู่แข่งที่อันตรายที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากทั้ง 2 ทีมมีคะแนนนำหน้า "เร้ด เดวิลส์" อยู่ถึง 8 แต้มเลยทีเดียว โดยระบุว่า "อาจจะมีจุดสนใจที่แตกต่างไปในเกมดาร์บี้แมตช์หนนี้ จากการที่ มาร์ค ฮิวจ์ส (ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้) มีเงินให้ใช้สอย และกำลังจะซื้อนักเตะหลายคนในเดือนมกราคม" "แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของเราสำหรับเกมนัดนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส จะใช้เงินอย่างไร และจะสร้างทีมของเขาอย่างไร นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้คู่แข่งที่น่ากลัวของเรายังคงเป็น เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งมีอันดับอยู่เหนือเรา" บรมกุนซือชาวเมืองขี้เมา กล่าวในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081128_001.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รูนสุดกระสันทำศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ 27/11/2008 20:19:59 เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดกระสันกับการลงสนามดวล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดสัปดาห์นี้ เพื่อวัดกันให้เห็นว่าทีมไหนเจ๋งกว่ากันในเมืองแมนเชสเตอร์ หลังชวดลงเล่นทั้ง 2 เกมเหย้า-เยือนเมื่อฤดูกาลที่แล้วไปแบบน่าเสียดาย เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ประจำเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งกับการทำศึก "ดาร์บี้แมตช์" ที่จะบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่แค้นร่วมเมือง วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.นี้ หลังจากที่ไม่ได้ลงเล่นเลยทั้ง 2 นัดเมื่อซีซั่นที่แล้ว เนื่องจากต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในเกมบุกไปแพ้ "เรือใบสีฟ้า" 0-1 และติดโทษแบนในเกมที่พ่ายคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด เสียท่าแพ้ แมนฯ ซิตี้ ทั้ง 2 นัดเหย้า-เยือนในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ "ปีศาจแดง" ก็ยังคงผงาดครองความยิ่งใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์ หลังเหมาซิวแชมป์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในซีซั่นนี้อาจจะถึงคราวเปลี่ยนมือบ้าง เนื่องจาก "อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป" กลุ่มเงินทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้ามาซื้อกิจการสโมสร "เรือใบสีฟ้า" พร้อมงบประมาณสนับสนุนจำนวนไม่อั้น ด้วยเป้าหมายที่จะนำทีมก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรยิ่งใหญ่ระดับโลกให้ได้ รูนี่ย์ กล่าวว่า "การแข่งขันวันอาทิตย์นี้คือเกมนัดสำคัญมากๆ ใช่เลย เรามีหนี้ติดค้างแฟนบอลจากการแพ้เกมดาร์บี้แมตช์เมื่อซีซั่นที่แล้ว แม้ว่าเราจะเหมาครองแชมป์ได้ถึง 2 รายการก็ตาม การปราชัยทั้ง 2 นัดเหย้า-เยือนนับเป็นความผิดหวังมหาศาล มันคือเกมสำคัญสำหรับทั้งนักเตะ, แฟนบอล และสโมสร โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเทกโอเวอร์ที่ ซิตี้" "มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมในการแสดงให้พวกเขาได้เห็นว่าใครคือราชันตัวจริงของเมืองแมนเชสเตอร์ ผมพลาดดาร์บี้แมตช์ทั้ง 2 นัดไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และนั่นก็เป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดใจจริงๆ ที่ทำได้แค่นั่งดูโดยทำอะไรไม่ได้เลย ผมจึงตั้งตาคอยเป็นอย่างยิ่งกับเกมวันอาทิตย์นี้ มันไม่ได้สร้างความรำคาญใจให้กับเราเลยที่ ซิตี้ ได้รับความสนใจแบบนี้ หากพวกเขาคว้าแชมป์ได้ต่างหาก มันถึงจะทำให้เราเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจมปลักอยู่แถวๆ กลางตาราง ผมก็ไม่มีความรู้สึกรำคาญใจเลยสักนิด" นอกจากนี้ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ วัย 23 ปี ยอมรับว่าพลพรรค "เร้ด เดวิลส์" จำเป็นต้องเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ให้ได้ เนื่องจากมีคะแนนตามหลัง เชลซี และ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงร่วมของตารางอยู่ถึง 8 แต้ม แม้ว่าจะลงแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม "มันจะเป็นเกมที่แตกต่างไปจากนัดอื่นๆ บรรยากาศที่ ซิตี้ ยอดเยี่ยมสุดๆ จนนักเตะทุกคนมีอารมณ์มุ่งมั่นมากขึ้นตามมาด้วย แฟนบอลของเราจะคอยช่วยกระตุ้นได้เป็นอย่างดี หากเราคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ซึ่งผมมั่นใจว่าเราจะทำได้เช่นกัน มันก็คงจะเป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา" "เราไม่มีทางปล่อยให้ทีมพลาดคว้าชัยชนะในนัดนี้ โดยเฉพาะถ้า ลิเวอร์พูล และ เชลซี ต่างก็เอาชนะในเกมของพวกเขาได้ เราจะต้องรักษาชัยชนะให้ได้ในทุกเกม และผมก็มั่นใจว่าเราจะเก็บคะแนนไล่ตามพวกเขาทันในท้ายที่สุด ฟอร์มของเราในเกมเยือนยังไม่ค่อยดีนัก ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น แต่เราก็ไม่ได้มีอันดับอยู่ห่างไปจาก ลิเวอร์พูล และ เชลซี นั่นคือสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับเรา เรามักจะจบฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่งมาตลอดอยู่แล้ว และก็หวังว่าเราจะทำได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้" รูนี่ย์ กล่าวปิดท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081127_109.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กาก้าอ่อยพรีเมียร์ฯเปรยสนย้ายเล่น 27/11/2008 11:36:33 ริคาร์โด้ กาก้า เพลย์เมกเกอร์รูปหล่อของ เอซี มิลาน อ่อยเหยื่อทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยบอกว่า ไม่ปิดโอกาสย้ายมาเล่นในเวทีลีกผู้ดี ในอนาคต เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น พลางปากหวาน ยกให้เป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก เพราะเต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นยอด และทีมชั้นนำมากมาย ริคาร์โด้ กาก้า เพลย์เมกเกอร์ระดับโลกของ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ของ อิตาลี ให้สัมภาษณ์ชวนให้เกิดสงครามประมูลค่าตัวของเขาในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี เมื่อจู่ๆ ดันบอกว่า สนใจย้ายเล่น พรีเมียร์ลีก และที่ผ่านมาก็เคยคุยกับ เอลาโน่ และ โรบินโญ่ 2 สตาร์เพื่อนร่วมชาติ เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย   ทีม "เรือใบสีฟ้า" ตกเป็นข่าวกับนักเตะระดับโลกมากมาย ตั้งแต่มีเจ้าของทีมใหม่เป็นกลุ่มเงินทุนจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งนักเตะระดับ กาก้า ย่อมเป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขา และล่าสุด สตาร์รูปหล่อวัย 26 ปี ออกมาอ่อยเหยื่อ ด้วยการบอกว่า เขาชอบ พรีเมียร์ลีก และยกให้เป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้เลยทีเดียว   "ผมชอบ พรีเมียร์ลีก มาก พวกเขาเป็นลีกที่แข็งแกร่ง มีนักเตะชั้นนำหลายคนเล่นที่นั่น และเต็มไปด้วยทีมใหญ่ๆ เยอะแยะ ตอนนี้ผมเลยคิดว่า พวกเขาน่าจะเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกแล้วตอนนี้ และผมคิดว่าบางทีวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่ มันคงสุดยอดไปเลยหากได้เล่นที่ อังกฤษ" กาก้า กล่าว   ส่วนโอกาสย้ายซบ ซิตี้ นั้น กาก้า บอกว่า "ผมมีเพื่อนหลายคนเล่นที่นั่น ผมเลยดูเกมที่นั่นบ้าง และผมก็ยังคุยกับ โรบินโญ่ และ เอลาโน่ เกี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081127_064.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซามาราสขอพาทีมซิว3แชมป์ชดเชยร่วงชปล. 27/11/2008 8:55:49 จอร์จอส ซามาราส ดาวยิงทีมชาติกรีซของ กลาสโกว์ เซลติก สุดห้าว ประกาศก้อง ขอนำทัพ "ม้าลายเขียว-ขาว" คว้า 3 แชมป์ให้จงได้ เพื่อเป็นการชดเชยที่โดน อัลบอร์ก เขี่ยตกรอบแบ่งกลุ่ม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จอร์จอส ซามาราส กองหน้า กลาสโกว์ เซลติก ยักษ์ใหญ่จากสกอตแลนด์ ตั้งเป้าขอพาทัพ "ม้าลายเขียว-ขาว" คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ อย่าง สกอตติช พรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ให้จงได้ เพื่อเป็นการล้ายอายจากการตกแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายหลังแพ้ อัลบอร์ก 1-2 เมื่อวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สถานการณ์ล่าสุด เซลติก ไม่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแน่นอนแล้ว หนำซ้ำยังหมดสิทธิ์ทำอันดับไปเล่นศึกยูฟ่า คัพ ในรอบ 32 ทีมอีกต่างหาก เนื่องจากเสียเปรียบ อัลบอร์ก ทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม ในเรื่องกฎเฮดทูเฮด ภายหลังรวมผลการแข่งขัน 2 นัด แพ้ 1-2 ดาวเตะวัย 23 กะรัต กล่าวว่า "ผมคิดว่า ทุกคนคงรู้สึกผิดหวังที่เราโดนเขี่ยออกจากฟุตบอลสโมสรยุโรป เราโชคไม่ดีอยู่นิดนึง แต่นั่นแหละฟุตบอล เราสร้างโอกาสได้ไม่มากนัก บอลในจังหวะสุดท้ายไม่เป็นใจให้เรา แต่ในช่วงท้ายมันเกิดสถานการณ์ที่อับโชคอยู่ 2 ครั้ง ทำให้เราต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป" "สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือเชิดหน้าขึ้น และเดินออกไปพร้อมกับคว้าชัยชนะในศึกเอสพีแอล (สกอตติช พรีเมียร์ลีก) วันอาทิตย์นี้ เราต้องให้ไปให้ความสนใจในเรื่องการคว้าแชมป์ในประเทศทั้ง 3 รายการ ครับ แน่นอนว่าเรามีขุมกำลังที่สามารถคว้าแชมป์ที่กล่าวมาทั้งหมดได้" อดีตหัวหอก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081127_040.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ซิตี้ทุ่มเฉียด6พันล.ล่ากาก้า-จิจี้ 27/11/2008 2:55:56   "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เตรียมโชว์อำนาจเงินอันไร้ขีดจำกัดอีกครั้ง เมื่อวางแผนทุ่มเฉียด 6 พันล้าน เพื่อคว้า 2 ซูเปอร์สตาร์ประจำลีกเมืองมะกะโรนีอย่าง กาก้า และ จานลุยจิ บุฟฟ่อน มาค้าแข้งยังถิ่นอีสต์แลนด์ แต่คาดงานนี้มีสิทธิ์ซดน้ำแห้ว เหตุต้นสังกัดของทั้งคู่ยืนยันกระต่ายขาเดียวมาตลอดว่า ไม่คิดจะขายสมบัติล้ำค่าของตัวเองให้ใคร ไม่ว่าจะด้วยราคาไหนก็ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อภิมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี ตกเป็นข่าวว่า เตรียมจะทุ่มเงินก้อนมหึมาถึง 130 ล้านยูโร (ประมาณ 5,980 ล้านบาท) เพื่อคว้า 2 ดาวดังแห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่าง ริคาร์โด้ กาก้า จอมทัพหน้าหยก เอซี มิลาน และ จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารทีมชาติอิตาลีของ ยูเวนตุส มาเสริมแกร่ง ในช่วงเปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคมศกหน้า หนังสือพิมพ์ "เดลี่ เทเลกราฟ" ประเทศอังกฤษ รายงานว่า แมนฯ ซิตี้ มีแผนจะขอซื้อ บุฟฟ่อน มาเฝ้าเสายัง ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ด้วยค่าตัว 65 ล้านยูโร (ประมาณ 2,990 ล้านบาท) และพร้อมจะทุ่มเงินจำนวนเท่ากัน เพื่อแลกกับลายเซ็นของ กาก้า อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ "เรือใบสีฟ้า" ยุคเศรษฐีอาหรับครองเมืองจะสมหวังนั้น ดูจะริบหรี่เต็มทน เนื่องจาก ยูเวนตุส เคยออกมายืนกรานก่อนหน้านี้แล้วว่า จะไม่ปล่อย บุฟฟ่อน ออกจากทีมเด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ค่าตัวมากแค่ไหนก็ตาม เช่นเดียวกับฝั่ง มิลาน ที่ยืนยันว่า กาก้า ไม่ได้มีไว้ขาย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081127_011.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปูดเรือใบ,ชุดขาวรุมจีบโอลิเวียร่าเสริมคม 27/11/2008 8:53:07 ลือสนั่น แมนฯ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด กำลังรุมยื้อแย่งคว้าตัว ริคาร์โด้ โอลิเวียร่า หัวหอก เรอัล ซาราโกซ่า ไปร่วมทีม คาดอดีตทีมดังในลีกสูงสุดเมืองกระทิง น่าจะอยากปล่อยให้กองหน้าแซมบ้า ย้ายไปค้าแข้งกับ "เรือใบสีฟ้า" เนื่องจากมีแนวโน้มได้เงินค่าตัวสูงกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด 2 สโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี และ ลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าวกำลังแย่งกันคว้าตัว ริคาร์โด้ โอลิเวียร่า ดาวยิงชาวบราซิเลียนของ เรอัล ซาราโกซ่า มาร่วมทัพ ตามรายงานข่าวจากประเทศอังกฤษ วันพุธที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา "ราชันชุดขาว" กำลังมองหากองหน้าคนใหม่ เข้ามาแทนที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย หัวหอกคนสำคัญ ที่บาดเจ็บหัวเข่า และต้องพักยาวไปจบจบฤดูกาล และมองว่า โอลิเวียร่า น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของพวกเขา ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ก็สนใจจะคว้าดาวเตะวัย 28 ปี ซึ่งมีค่าตัวถึง 16 ล้านปอนด์ (ราว 960) ล้านบาท มาเสริมคม ในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมเช่นกัน และดูเหมือนว่า ซาราโกซ่า ก็น่าจะอยากขายอดีตกองหน้า เอซี มิลาน ให้กับ ซิตี้ ด้วย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินสูงกว่า   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081127_039.html จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดับเบิ้ลดาร์บี้แมตช์ คอลัมน์ คุยนอกจอ โดย เอกราช เก่งทุกทาง ช่วงเปิดตลาดรอบ 2 ปีใหม่นี้ เรื่องที่แฟนบอลอังกฤษจับตามองคือ ใครจะโชว์ฟอร์มป๋า ทุ่มเงินซื้อนักเตะมากกว่ากันระหว่างเศรษฐีใหม่ แมนฯซิตี้ กับเศรษฐีเก่า เชลซี เรือใบสีฟ้ายุคอาหรับราตรี อาจมีเงินเยอะกว่าแต่ไม่รู้จะได้ของแค่ไหนเพราะต้องโดนโก่งราคาแบบสุดสุด ยิ่งกว่านั้นยังต้องการตัวใหม่เยอะกว่า ถ้าให้ดีถึงขั้นลุ้นไปยุโรปก็อาจต้องซื้อเพิ่มร่วม 4-5 คน โอกาสจะอัดงบฯสู้ค่าตัวนักเตะคนใดคนหนึ่งเป็นสถิติโลกจึงไม่น่าจะใช่ แต่อาจเฉลี่ยกันไปพอท้วมๆ มากกว่า แมนฯซิตี้ต้องการปริมาณด้วย คุณภาพด้วย ขณะที่เชลซีขอเน้นๆ เนื้อๆ เอาดาวยิงเวิลด์คลาสมาอีกแค่คนเดียวก็น่าจะอยู่ แต่คนเดียวที่เชลซีอยากได้คงเป็นระดับไม่ธรรมดา เพราะต้องเอามาเสียบแทน นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ฟอร์มยังไม่นิ่ง รวมทั้ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบ้า ซึ่งอนาคตเอาแน่นอนไม่ได้ แถมเจ็บบ่อยอีกต่างหาก สิงโตน้ำเงินครามแจ่มแจ๋วในแดนกลางกับหลังอยู่แล้ว ขอแค่กองหน้าดุดันยิงเป็นกอบเป็นกำ แชมป์พรีเมียร์ลีกก็อยู่แค่เอื้อม ขณะที่แมนฯซิตี้ซึ่งหวังจะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจใหม่ ยังเพิ่งตั้งไข่ ในทีมมีนักเตะระดับโลกคนเดียวคือ โรบินโญ่ ไม่พอจะช่วยอัพเกรดขึ้นไปทาบบิ๊กโฟร์ในตอนนี้แน่ๆ สภาพที่ยังไม่เต็มของทั้งสองทีม ทำให้เสียคะแนนในเกมที่ไม่น่าเสียหลายนัด และอาทิตย์นี้ที่ต้องเล่นบิ๊กแมตช์ทั้งคู่ก็เจอความท้าทาย ผ่านไม่ง่ายพอๆ กัน แมนฯซิตี้จะทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แมนฯยูไนเต็ด ส่วนเชลซีลุยลอนดอนดาร์บี้กับ อาร์เซน่อล ฤดูกาลที่แล้ว เรือใบสีฟ้าคว่ำปีศาจแดงได้ทั้งใน นอกบ้าน แต่เมื่อเปลี่ยนกุนซือเป็น มาร์ก ฮิวจ์ส แท็คติคก็เปลี่ยนตาม แมนฯซิตี้เล่นเกมบุกมากขึ้น ยิงประตูได้มากมาย แต่ก็แย่ตรงเกมรับดันกลวง เสียประตูแบบหมูตู้ให้เห็นบ่อยๆ เรื่องนี้ถ้ายังแก้ไม่ตกก่อนลงไปหวดกับแมนฯยูก็น่าหวาดเสียวแทน ผมไม่ไว้ใจคู่เซ็นเตอร์แมนฯซิตี้ ขณะที่ ปาโบล ซาบาเลต้า แบ๊คดาวรุ่งอาร์เจนตินาก็รั่วง่าย ปรับตัวเข้ากับความเร็วของบอลอังกฤษได้ไม่ดีนัก ถ้าเรือใบจะลุ้นเอาแต้ม ต้องหวังพึ่งมหัศจรรย์ของ โรบินโญ่ เพราะจะว่าไปกองหลังปีศาจก็ใช่ว่าจะรวดเร็วอะไร เจอลูกจี๊ด เทคนิคแพรวพราว ก่อกวนหนักๆ เข้ามีสิทธิหลุดได้เหมือนกัน เสียดายทีเด็ดของซิตี้มีน้อยไปหน่อย ชั้นบอลรวมๆ ก็ยังสู้ไม่ได้ ไม่เหมือนคู่ลอนดอนดาร์บี้ "เชลซี-อาร์เซน่อล" ซึ่งน่าจะสูสีกว่าที่คิด อย่าไปมองว่า ปืนใหญ่กำลังรวน มีปัญหาภายใน ผลงานตกต่ำแล้วจะมาเป็นเหยื่อให้จ่าฝูงง่ายๆ เกมนี้มันคนละเรื่องกับตอนเจอ สโต๊ก หรือ ฮัลล์นะครับ อาร์เซน่อลอาจแพ้ทางบอลขี้ตืด ไม่ชอบเกมอุด จี้ติดๆ แต่เชลซีไม่ใช่คู่แข่งประเภทนั้น ทั้งสองทีมเน้นเกมเปิด เล่นสร้างสรรค์ เดินหน้าเอาประตูเหมือนกัน ดูแล้วแทบจะไม่แตกต่าง ตรงนี้จะทำให้ปืนใหญ่มีอากาศหายใจ เล่นได้ในเกมถนัดของตัวเอง แพ้-ชนะไม่รู้ แต่ไม่วันเวย์ก็แล้วกัน โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 29 พ.ย. แอสตัน วิลล่า-ฟูแล่ม, มิดเดิ้ลสโบรช์-นิวคาสเซิล, สโต๊ก-ฮัลล์, ซันเดอร์แลนด์-โบลตัน, วีแกน-เวสต์บรอม วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย. แมนฯซิตี้-แมนฯยู, ปอร์ทสมัธ-แบล๊คเบิร์น, สเปอร์ส-เอฟเวอร์ตัน, เชลซี-อาร์เซน่อล วันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. ลิเวอร์พูล-เวสต์แฮม โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ คืนวันเสาร์ 29 พ.ย. เวลา 22.00 น. แอสตัน วิลล่า-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต 5) มิดเดิ้ลสโบรช์-นิวคาสเซิล(ทรูสปอร์ต 1) สโต๊ก-ฮัลล์(ทรูสปอร์ต 3) ซันเดอร์แลนด์-โบลตัน(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2) วีแกน-เวสต์บรอม(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1) เวลา 02.00 น. เกตาเฟ่-รีล มาดริด(ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.30 น. ยูเวนตุส-เรจจิน่า(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 04.00 น. เซบีญ่า-บาร์เซโลน่า(ทรูสปอร์ต 1) คืนวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย. เวลา 20.30 น. แมนฯซิตี้-แมนฯยู(ทรูสปอร์ต 1,5) เวลา 21.00 น. อินเตอร์-นาโปลี(ทรูวิชั่นส์ 106), โรม่า-ฟิออเรนติน่า(ทรูวิชั่นส์ 107) เวลา 22.00 น. ปอร์ทสมัธ-แบล๊คเบิร์น(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1) สเปอร์ส-เอฟเวอร์ตัน(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 23.00 น. เชลซี-อาร์เซน่อล(ทรูสปอร์ต 1) คืนวันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. เวลา 03.00 น. ลิเวอร์พูล-เวสต์แฮม(ทรูสปอร์ต 1) จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 18:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "บังยี"แจ้ง3ทีม"ไทย"ปลอดภัย เตรียมเช่าเครื่องบินไปรับที่ตจว. นายกส.บอลมาเลย์ยันมาแข่งแน่ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวทีมฟุตบอลของมาเลเซีย ไม่อยากเดินทางมาแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008” ที่ไทยเป็นเจ้าภาพรอบแรกกลุ่ม B ระหว่างวันที่ 6-10 ธ.ค. นี้ เพราะห่วงเรื่องความไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ และการเดินทางที่ไม่สะดวกนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ตนยังได้คุยกับ สุลต่าน ฮาจิ อาหมัด ชาห์ นายกสมาคมฟุตบอลมาเลเซีย ที่เดินทางไปประชุมคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ร่วมกันที่นครเซี่ยงไฮ้ ท่านก็ไม่เห็นทราบข่าว พร้อมยืนยันว่าจะส่งทีมเข้าแข่งขันตามกำหนดเดิม นายวรวีร์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้ยืนยันความปลอดภัยไปยังทั้ง 3 ทีมร่วมสาย ได้แก่ มาเลเซีย, เวียดนาม และลาว เรียบร้อยแล้ว ถ้าเหตุการณ์การยึดสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่คลี่คลาย ก็จะประสานงานให้ทั้ง 3 ทีมจองเที่ยวบินที่ไปลงสนามบินในต่างจังหวัด เช่น อุบลราชธานี, ขอนแก่น, หาดใหญ่ หรือภูเก็ต แล้วทางฝ่ายเราจะเช่าเครื่องบินเล็กแบบเหมาลำไปรับนักเตะทั้ง 3 ทีมแล้วมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถโค้ช ส่วนเรื่องที่มาเลเซียจะแย่งสิทธิไปจัดแทนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราได้เตรียมงานไว้พร้อมหมดแล้วทั้งสนามแข่งขัน-ฝึกซ้อม, โรงแรมที่พัก อีกอย่างบรรยากาศในกรุงเทพฯ ก็ไม่มีอะไรเลย ซึ่งตนได้ทำหนังสือยืนยันไปยังคณะกรรมการบริหารของเอเอฟเอฟ ว่าประเทศไทยไม่มีอะไรน่ากลัว ดำเนินการจัดการแข่งขันได้ต่อไป และมีความปลอดภัยแน่นอน อนึ่ง นายวรวีร์ ได้เดินทางจากนครเซี่ยงไฮ้ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะหาทางกลับเมืองไทยต่อไป เพราะไม่มีเที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้เดินทางมาเมืองไทย ขณะที่ “บิ๊กเปี๊ยก” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า ทีมต่าง ๆ จะทยอยเดินทางมาเมืองไทยในราววันที่ 3-4 ธ.ค. นี้ ด้านความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยที่ปักหลักฝึกซ้อมอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ช่วงเช้างดซ้อม ส่วนช่วงบ่ายไปเล่นเวตเทรนนิ่ง ที่ ม.เทคโนโลยีสุรนารี โดยทีมชาติไทยมีคิวอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายพบกับ ทีมรวมนครราชสีมา เป็นเกมเปิดสนามฟุตบอลอายุ 18 ปี ลิปตพัลลภคัพ ครั้งที่ 1 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา วันที่ 28 พ.ย. เวลา 17.00 น. ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า การอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายนี้จะเป็นการซ้อมทีมเบา ๆ โดยหมุนเวียนให้ลงเล่นครบทุกคน แต่จะไม่ปะทะหนัก เนื่องจากเกรงว่านักเตะจะบาดเจ็บ ในเช้าวันที่ 29 พ.ย. ตนจะทดสอบความฟิตของนักเตะอีกครั้งก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ สำหรับการตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 22 คน ตนจะประชุมทีมงานทันทีที่ถึงกรุงเทพฯ ซึ่งได้เก็บข้อมูลนักเตะทุกคนไว้แล้ว เพื่อคัดนักเตะที่ดีที่สุด ในรายของ กฤษฎี ประกอบของ ที่มีอาการบาดเจ็บต้องตรวจสอบว่าจะหายทันหรือไม่ ส่วนตัวอยากได้เขาไว้กับทีมเพราะโชว์ฟอร์มได้ดีมากในนัดที่เล่นกับเวียดนาม แต่ถ้าอาการเจ็บหายไม่ทันจริง ๆ ก็จำเป็นต้องตัด อีกทั้งผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าของทีมชุดนี้ก็มีอยู่ถึง 6 คน ต้องตัดออก 2-3 คน ถือว่าเป็นตำแหน่งที่แข่งกันสูงทีเดียว ส่วนศึกครั้งนี้ตนอยากให้นักเตะไทยได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลชาวไทย อยากเห็นบรรยากาศการเข้ามาเชียร์กันในสนามเยอะ ๆ แต่ถ้าจำเป็นต้องย้ายไปที่อื่นตนก็พร้อมทุกสถานการณ์. http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=183781&NewsType=1&Template=1 จากคุณ : solo one - [ 28 พ.ย. 51 19:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อคืน กอมปานี เทพมาก ลูกแรกที่ได้ต้องชมเลยว่า อ่านเกมขาดจริงๆ อาจเป็นเพราะเล่นในบุนเดสลีกามาก่อนเลยเข้าใจเกมสไตเยอรมันเป็นอย่างดี เกมเจอแมงรู ภาวนาให้พี่มาร์คจัดกอมปานีไว้ตำแหน่งแบบนี้เลย จากคุณ : เด๋วรู้จัก (เดี๋ยวรู้จัก) - [ 28 พ.ย. 51 19:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อไปเราเชียร์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอลุ้นให้ได้ถึง 3 ลูก  ไม่งั้นกดดันแย่เลย 555555 จากคุณ : อเดเดช - [ 28 พ.ย. 51 20:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าน่าเล่นอุดแล้วสวนกลับน่ะครับ 4-5-1  รับรอง ได้เสีย กองหน้า กลางรุกเรา แต่ละตัว เร็วๆอยู่แล้ว อย่าไปเปิดแลกเลย กองหลัง แมนยูเขาแน่นอนกว่าเยอะ จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 28 พ.ย. 51 20:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ก็ยังอยากได้อยู่ดีนะ นัดละ 3 ลูกน่ะ อยากได้ทุกนัดเลยด้วย จากคุณ : yellow fins - [ 28 พ.ย. 51 20:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 2-0 ทำด้ายงัย จากคุณ : mooagiko - [ 28 พ.ย. 51 21:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อืมม  อยากให้ถึงปีใหม่เร็วๆจัง จากคุณ : pelipe - [ 28 พ.ย. 51 21:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โป๊งเหน่งสุดยอดมาก จากคุณ : Yahsarah - [ 28 พ.ย. 51 22:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อไหร่ MJ จะหายเจ็บ Petrov คงปีหน้าอีกนานเลย แล้วก็ Bojinov เป็นไงมั่งแล้วเนี่ย หาข่าวคราวไม่ได้เลยครับ มีใครพอทราบบ้างไหมครับ จากคุณ : รักยูงทอง - [ 28 พ.ย. 51 22:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ติดตามข่าวเช่นเคยครับ จากคุณ : bowlman - [ 28 พ.ย. 51 22:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีมากโรบินโญ่ พยายามกล่อมพยายามดึงมาทั้งกาก้า ทั้งรุด ฟาน นิสเตลรอยเลย จริงๆเห็นข่าวกาก้า นึกถึงตอนเอลาโน่ออกมาพูดว่ากาก้าคือเบอร์1นะ ประมาณว่าแอบกล่อมไว้นานแล้วล่ะสิ เรือใบคงซื้อเพียบแต่จะได้มากี่คน คงต้องตามดูกัน ได้คนเก่งๆมาจะได้เอาประสบการณ์ รวมทั้งเทคนิคต่างๆของคนเหล่านั้นมาพัฒนาคนในทีมด้วย อย่างไอร์แลนด์นี่ ยิ่งมีคนเก่งยิ่งพัฒนาขึ้น คิดว่าถ้าเป็นแนวนี้ คนอื่นๆก็คงเหมือนกัน อนาคตเด็กปั้นเรือใบจะยิ่งมีความเก่งกาจเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องซื้อมากเหมือนตอนนี้ จากคุณ : Robonin S.knight - [ 29 พ.ย. 51 00:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อคืนจุดแข็ง ซิตี้มีด้วยกันสองจุด ข้อแรก การปรับเกมรับที่ใช้ คอมพานี่ ยืนคู่กับริชาร์ดดัน ไม่กาห์ไปยืนแบล็คขวา ข้อสอง เพื่อให้แน่ใจว่าเกมตั้งรับและรอสวนกลับได้ผล ได้ให้ฮามันน์ยืนหน้า แผงหลังทั้ง 4 คนเพื่อเก็บกวาดขันแนวรับให้แน่นขึ้น และรอสวนกลับซึ่งได้ผลดีมาก ที่เด็ดไปกว่า นั้นคือฮามันน์เล่นครบ 90 นาที จากคุณ : จอบศักดิ์ - [ 29 พ.ย. 51 01:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากตำหนิมาพอสมควร ขอยกความดีความชอบให้พี่มาร์คกับสูตรสำเร็จ 4-5-1  ก็ขอให้ทำได้อย่างนี้ตลอดไปสนับสนุน แต่ถ้ารักษาฟอร์มไม่ได้ ลุ่มๆดอนๆก็ตัวใครตัวมัน อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 51 01:48:35 จากคุณ : จอบศักดิ์ - [ 29 พ.ย. 51 01:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จุดอ่อนของเราคือกองหลังโดยเฉพาะดันน์เหมือนเดิม จากคุณ : ชูโอมารุ - [ 29 พ.ย. 51 08:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Man City 3 - 1 Man UTD Robinho 14' Ireland 45' Jo 69' -  Dunne (O.G.) 60' จากคุณ : bakiman - [ 29 พ.ย. 51 09:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าดิยาร์ร่ามาคอนเดือนมกราคมก็โอเคแล้วครับ ถอยกอมปานีไปยืนคู่ไมกาห์ แล้วใช้ดิยาร์ร่ายืนตัวรับแทน ฮามันน์ผมว่าเค้าแก่เกิน ยืนระยะไม่น่าไหวครับ แถมเมื่อวานบอลเยอรมันเล่นกันไม่เร็วเหมือนอังกฤษ ฮามันน์เลยพอไหวครับ ถ้าเจอเกมที่นักเตะวิ่งกันเยอะๆแบบพรีเมียร์ลีก ฮามันน์ก็เอาไม่ค่อยอยู่ครับ จากคุณ : bankook - [ 29 พ.ย. 51 11:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นหัวข้อที่ว่า แมนซิตี้ยิง3ถึงชนะก็อยากชี้แจงสถิติของแมนซิตี้หน่อยนึงนะครับ สถิติพรีเมียร์ (จนถึง 29/11/51)ที่น่าสนใจ - เป็นทีมที่ได้ประตูมากเป็นอันดับ2 เสียประตูมากเป็นอันดับ5 ร่วมกับนิวคาสเซิลและเวสต์แฮม - จำนวนประตูในฤดูกาลนี้เท่ากับจำนวนประตูในฤดูกาล2006/2007 ทั้งฤดู - นัดไหนเสียประตูไม่เคยชนะ - เป็นทีมที่ชนะด้วยผลต่างประตู3ลูกขึ้ นไปอันดับ1 ร่วมกับเชลซี สถิติ ยูฟ่าคัพ - นัดไหนยิงประตูได้ชนะ 100% - ไม่เคยมีผลเสมอ ดังนั้นที่ว่ากฎยิง 3 ลูกถึงชนะใช้ไม่ได้กับยูฟ่านะครับ ส่วนพรีเมียร์ลุ้นเอาว่าอย่าโดนยิงก็แล้วกันไม่งั้นโอกาสแพ้สูงมาก จากคุณ : Mint_3D - [ 29 พ.ย. 51 12:33:05 ]