ความคิดเห็นที่ 1 จากนั้นก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ได้ยึดติดกับยี่ห้อ เตะครั้งเดียว ลืมทิ้งไว้ที่สนามบ้าง เพิ่งมาจริงๆ จัง ก็คู่นี้ เพราะเห็นว่าสวยดี สวยที่สุดในบรรดารุ่นพรีเดเตอร์ที่เห็นมา คู่นี้ซื้อประมาณ ต้นปี 2007 มั้ง จำได้ว่า ตะลุยหาเลยทีเดียว เพราะตอนที่ตัดสินใจว่าจะซื้อแล้วนั้น มันใกล้จะตกรุ่นแล้ว (สีใหม่ๆ ออกมาแทนสีนี้) สุดท้ายไปเจอที่เซ็นทรัลบางนา ในราคา 2,7xx บาท จากคุณ : Ryuichi - [ 30 ธ.ค. 51 23:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สภาพ จากคุณ : Ryuichi - [ 30 ธ.ค. 51 23:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แถบยางเริ่มหลุดๆ ไปบ้างแล้ว จากคุณ : Ryuichi - [ 30 ธ.ค. 51 23:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พอต้นปี 2008 อาดิดาส ออกพรีเดเตอร์รุ่นใหม่ออกมา ด้วยความกลัวประสบการณ์ซ้ำรอย (กลัวสีที่อยากได้หมด) ก็เลยรีบซื้อทันที ทั้งๆ คู่เก่ายังใช้ไปไม่เท่าไหร่ แล้วก็ได้คู่นี้มาในราคาสุดแพง ขนาดที่ควักกระเป๋าดังหนึบ 5,000 บาท (ไม่ต้องใส่ xxx เพราะจำราคาแม่นมาก) จากคุณ : Ryuichi - [ 30 ธ.ค. 51 23:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่สุดท้าย รองเท้าคู่นี้กลับสร้างปัญหาตรงที่ นอกจากไม่สวยเท่ารุ่นเก่าแล้ว ยังทำให้บาดเจ็บบ่อยๆ อีกต่างหาก ตรงที่มันบีบหัวแม่โป้งข้างซ้้ายให้เล็บม่วง เล็บหลุดอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่คู่เก่าไม่เคยเป็น ก็ยังตะแบงใช้ไปสักพัก ด้วยความเสียดายว่า มันแพงด้วย แถมเป็นรุ่นใหม่ด้วย จนทนบาดเจ็บไม่ได้ ขนาดพี่ต้นยังบอกว่า ของอย่างนี้ต้องตัดใจ ตอนนี้ก็เลยเลิกใส่แล้ว แต่คิดว่า คงไม่ขายทิ้ง เพราะเสียดาย อีกอย่าง คงขายได้ไม่กี่ตังค์ เลยเก็บสะสมดีกว่า ทุกวันนี้เลยใส่คู่เก่าเป็นหลักครับ จะเชยยังไงก็ช่าง เอาสบายเท้าไว้ก่อนดีกว่า ป.ล. จริงๆ แอบชอบ AdiPURE ด้วยนะ ดูนิ่มสบายเท้าดี แต่ว่าไม่มีตังค์แล้ว และเดี๋ยว AdiPURE II ก็เริ่มเข้ามาแล้ว ใครช่วยลองให้ดูทีสิว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าดีจะซื้อสีดำคาดขาว (ซึ่งก็ต้องรีบอีก เพราะัมันเข้ามาเป็นสีแรก) จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 00:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สภาพตอนนี้เหมือนไปรบมาอ่ะโน ทำความสะอาดครั้งหลังสุดเมื่อชาติที่แล้ว 555+ ว่าจะถอยคู่ใหม่เหมือนกัน เก็บตังวันละ 10 บาทอยู่ จากคุณ : The Red - [ วันสิ้นปี 00:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เล็งคู่นี้ไว้ ใฝ่ฝันมานานแล้วอยากมีสตั๊ดสีชมพูเป็นของตัวเอง จากคุณ : The Red - [ วันสิ้นปี 00:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่จำได้ โดยไม่ต้องไปค้นดู ทีมเราใส่รองเท้ากันไม่ซ้ำกันเลย ถึงซ้ำรุ่นก็ไม่ซ้ำสี ลูกตั้งเตะ Adidas Predator Power Swerve สีแดง CrazyHyena Adidas Predator Absolute สีดำ-ลิ้นแดง maezono_no7 Adidas Predator Power Swerve DB สีทอง Dr.เต่า Nike Tiempo ดำคาดขาว The Red Diadora LX สีขาวคาดแดง-ส้ม supernont AdiPURE สีน้ำเงิน-คาดเงิน tuainatania Diadorra LX สีดำคาดทอง ERIC THE KING Adidas Predator Absolion DB สีขาว-ฟ้า ทิดบึม Adidas Predator Power Swerve DB สีขาวคาดทอง opptimist Adidas Predator Absolion สีน้ำเงินคาดเงิน เมสตาย่า & เวเซอร์ Adidas Predator Power Swerve สีขาว-ดำ-แดง teaseah Adidas Predator Power Swerve Champions League สีขาว-เขียว-กรมท่า Pop-Ple Adidas Predator Absolardo Champions Leauge สีดำคาดขาว เจ้าชายเท้าเปล่า Diardora LX สีขาวคาดฟ้า (สีสลับกับคู่เก่าที่หายไปสีฟ้าคาดขาว) 9ho Nike Total 90 Laser II สีขาว-ดำ NoLoGo_Zeeds PAN Destroy สีขาว-ทอง จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 00:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อมูลสุดยอดมาก ๆเลยอาจารย์โน................ ข้อมูลแน่นมาก ๆ ช่างสังเกตได้สุดยอด จากคุณ : My name is Pop (Pop-Ple) - [ วันสิ้นปี 00:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยากดูรองเท้าในคอลเลคชั่นของพี่ต้นอ่ะ เห็นว่ามีเยอะ จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 00:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาของเปิ้ล nicky2003 ด้วยสิจานโน 555+ ใส่ไม่ซ้ำคู่แต่ละนัด จากคุณ : The Red - [ วันสิ้นปี 00:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากดูรองเท้าของพี่ต้นด้วยคน........ จากคุณ : My name is Pop (Pop-Ple) - [ วันสิ้นปี 00:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 #11 เวลาที่พี่เขามา ผมมักจะแคล้วคลาดไม่เจอกันทุกที จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 00:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เปิ้ลนัดล่าสุดใส่พูม่ามั้งเห็นแว๊บๆ ขานี้บ้าสตั๊ดเช่นกันซื้อมาสะสมแข่งกับนกมาคอร์ 555+ ส่วนแฟร้งลำไผ่ใส่เดียรุ่นล่าสุดสีเดียวกับตี๋มั้ง แชมป์ก็ใส่เดียแต่ไม่รู้รุ่นไหน จากคุณ : The Red - [ วันสิ้นปี 00:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าคู่แรกที่จำความได้จริงๆเป็นFBT ต่อมาก็เป็น Diadoraรุ่นบาจโจ้สีดำ แต่สมัยนั้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้อะ งั้นข้ามมายุคที่เริ่มเล่นบอร์ดศุภใหม่ๆเลยนะ เป็นรุ่นพรีเดเตอร์มาเนียมั้ง บอลโลก2002 รุ่นเดียวกับเดวิด เบคแค่ม สีครีมๆหน่อย แต่เนื่องด้วยเป็นสตั๊ดคู่แรกที่ซื้อแบบตัวท็อป  โง่มากๆที่ดันซื้อปุ่มเหล็กมา  ไอ้เราก็ไม่เคยลองสตั๊ดปุ่มเหล็ก ไม่รู้ว่ามันจะกัดเท้าซะขนาดนั้น แถมคนขายก็ยุอีกว่าใส่ได้สบาย ไม่เจ็บหรอก ให้ทายว่าซื้อจากร้านไหน..... ก็ไอ้ร้านอาจารย์ในตำนานนั่นแหละ เข็ดจนถึงวันนี้เลย จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 00:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทนใส่Predator 2002ตัวท็อปปุ่มเหล็กอยู่หลายเดือน  สุดท้ายทนรองเท้ากัดไม่ไหวเลยถอยรุ่นเดียวกันแต่สีขาวออกมา คราวนี้งบน้อย เป็นตัวรองท็อป ใส่ดีมากๆเลยรุ่นนี้ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 00:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใส่อยู่ประมาณปีกว่าๆก็เปลี่ยนอีก คราวนี้นอกใจAdidasมาคบ Nike จำได้ว่าคู่นี้แฟนเก่าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ใช้ไนกี้ไปอีกปีนึง ช่วงนั้นใกล้บอลโลก2006  AdidasออกPredatorรุ่นใหม่อีกแล้ว  เห็นพี่เบคใส่สีแดงเล่นให้เรอัลมาดริดก็กิเลสขึ้น  เลยถอยมาใส่สมใจ  คู่นี้ปั่นฟรีคิกฉมังมากๆ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในบอลโลก 2006  เดวิด เบคแค่มใส่สตั๊ดสีฟ้าที่เป็นลายมังกร   พอจบจากทัวร์นาเม้นต์นั้น แม้ว่าเบคจะเปลี่ยนไปใส่สีอื่นแล้ว แต่ผมยังคงชอบสีฟ้านี้อยู่  สุดท้ายจำใจต้องถอยตัวท็อปออกมาจนได้ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นสตั๊ดสีที่ชอบมากๆอีกคู่หนึ่ง เพราะโดนส่วนตัวชอบสตั๊ดสีไม่เหมือนชาวบ้านอยู่แล้ว จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คบกับ Adidas มายาวนาน ก็กลับไปกิ๊กกับ Nike อีกจนได้ คราวนี้ใส่ Nike Tiempo รุ่นเตเวซ   ใช้ดีมากๅ นุ่มสุดๆ ปั่นฟรีคิกพาทีมในแผนกคว้าแชมป์ได้ด้วย อิอิ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่สุดท้าย ผมก็รู้แล้วว่าอะไรเหมาะกับผมที่สุด แล้วก็คงไม่นอกใจไปใส่ยี่ห้ออื่น หรือว่ารุ่นอื่นอีก Adidas Predator(สีเจ็บๆ)เท่านั้นที่ผมต้องการ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณRyuichiสำหรับกระทู้นี้ด้วย ตามประสาคนบ้าสตั๊ด (Adidas Predator)เหมือนกัน จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ^ ระวังถูกขโมยไปใช้นะ รูปน่ะ จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 01:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ่ายรูปเสร็จแล้ว หาสาย USB ไม่เจอ เซ็งๆๆๆ ขอเวลาไปหาก่อน เจอเมื่อไหร่เดี๋ยวเอามาให้ดู #10 ของพี่ไม่เท่าไหร่หรอก ต้องของเปิ้ลนั่นแหละโน เยอะของแท้ ตัวท็อบทั้งนั้นด้วย 55 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 01:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พี่ต้นปาดซะงั้น ^ ^ ^ ^ <<<     ^     ^     ^ ระวังไม่ทันแล้วมั้งคุณเพื่อน เค้าขโมยไปใช้เรียบร้อยแล้วอะดิ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 01:33:40 จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 01:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 . แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 04:11:26 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตกลงหาสาย USB ไม่เจอจริงๆ ต้องเปลี่ยนไปใช้กล้องมือถือแทน คุณภาพก็อาจจะด้อยไปหน่อยนะครับ ถ่ายกลางคืนด้วย 55 สตั๊ดที่ผมใช้ในตลอดช่วงเวลาที่เล่นบอลมามีทั้งสิ้น 18 คู่ ถึงปัจจุบันเหลืออยู่แค่ 8 คู่ ที่เหลือก็แจกจ่ายไปบ้าง หายไปบ้าง ขายไปบ้าง สตั๊ดคู่แรกในชีวิตของผมคือ Pan รุ่นอะไรจำไม่ได้หรอก ราคาแค่ 4-500 บาท ใส่แล้วเหมือนหล่อคอนกรีตไว้ที่เท้า แข็งมาก ใช้ได้ไม่นานก็ทนไม่ไหว เปลี่ยนมาใช้ Nike แทน ราคาประมาณ 7-800 บาท หนังนุ่มใช้ได้เลย เสียที่ตรงตัวรองเท้าเดินด้ายเย็บมากจุดเกินไป มีรอยต่อมากมาย โดยเฉพาะตรงส้นเท้า ทำให้มีจุดปริแตกของด้ายเกิดขึ้นได้ง่ายตามรอยต่อพวกนั้น ใช้ Nike คู่นั้นได้ไม่นานนัก รองเท้าก็พัง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมกลายมาเป็นสาวกของ Adidas เนื่องจากอยากได้สตั๊ดที่ใส่สบาย และทนทานไม่พังง่ายๆ เหมือนคู่ที่ผ่านๆมา ก็เลยหันความสนใจมาที่ Adidas ตั้งแต่ตอนนั้นเอง Adidas คู่แรกในชีวิตผมจำชื่อรุ่นไม่ได้ล่ะ จริงๆมันมีติดอยู่ที่กล่อง แต่กล่องมันอยู่ในห้องเก็บของแล้วขี้เกียจรื้อ ตัวรองเท้าเองก็ให้คนงานไปนานแล้วด้วย ตัวนี้ราคาอยู่ที่พันต้นๆ เป็นรองเท้าบอลราคาเกินพันคู่แรกของผม คู่ต่อมาเป็น Diadora สีขาว คู่นี้เป็นคู่ขัดตาทัพ ออกมาเพื่อใส่เตะบอลภายในของออฟฟิตเก่าในปีนั้นอย่างเดียวเลย เพราะตอนนั้นรองเท้าบอลยังนิยมกันแต่สีดำ เราก็ใส่สีขาวมันซะเลย ฝีเท้าอาจจะงั้นๆ แต่รองเท้าเปรี้ยวตรีนไว้ก่อน  แล้วก็เปรี้ยวดีจริงๆ ลงสนามทุกนัดโดนกองหลังคู่แข่งไล่หวดทุกนัดเลย คู่ที่ 5-6-7 เป็น Adidas ทั้งหมด รุ่นอะไรจำไม่ได้เช่นกัน สมัยนั้น Adidas รุ่นที่ยอดนิยมคือ Copa Mundial ซึ่งราคาสูงเกินไปสำหรับผม แล้วก็ Predator ที่เพิ่งจะเริ่มออกมาไม่กี่ปี ตอนนั้นยังมีขายแต่ตัว Top เท่านั้น ซึ่งราคาก็ยังสูงเกินไปสำหรับผมเช่นกัน Predator ในช่วงนั้นไม่มีตัวรอง ตัวบ๊วยขายเหมือนสมัยนี้ นอกจาก Predator กับ Copa แล้ว รองเท้าของ Adidas ตัวอื่นๆ จะเป็นรุ่นอื่นๆไปเลย ซึ่งราคาก็อยู่ระหว่างสองพัน ไล่ไปจนถึงหลักร้อยสำหรับคนที่ทุนทรัพย์น้อย ผมเองไล่ซื้อ Adidas ตัวตั้งแต่ราคาพันนิดๆ ไปจนถึงพันปลายๆ เปลี่ยนบ่อยมาก ไม่ถึงปีก็เปลี่ยน ทุกครั้งที่เปลี่ยนก็จะไปด้อมๆมองๆ Predator กับ Copa ตามแผนกกีฬาของห้าง แต่สุดท้ายก็ถอยรุ่นที่ราคาถูกกว่ากลับมาทุกที ด้วยความที่ไม่กล้าจะลงทุนกับรองเท้าที่ระดับราคาป้าย 4-5 พันในสมัยนั้น จนกระทั่งแฟนผมเองเริ่มรู้สึกว่า ผมใช้รองเท้าค่อนข้างเปลือง ไอ้ที่อยากได้ก็ไม่กล้าซื้อซะที มัวแต่ไปซื้อตัวที่ถูก แล้วก็เบื่อ แล้วก็เปลี่ยน เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ประกอบกับมัวโง่อยู่นาน ผมก็เพิ่งรู้ว่าถ้าไปซื้อรองเท้าที่หลังสนามศุภ ราคามันจะถูกกว่าในห้างอยู่หลายพันเลย ในที่สุดวันเกิดปีนั้นของผม ผมก็ได้ Predator คู่แรกในชีวิตเป็นของขวัญวันเกิดจากแฟนผม Predator Accelerator พรีเดเตอร์ตัวคลาสสิคที่ออกมารับบอลโลกปี 1998 ปัจจุบันสตั๊ดตัวนี้ไม่ได้อยู่กับผมแล้ว เพราะให้ลูกพี่ลูกน้องยืมไปใช้ แล้วมันไม่ยอมคืน ทวงเท่าไหร่ก็ไม่ได้ซะที จนคนทวงเบื่อไปเอง รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นคลาสสิคที่ผมชอบมากที่สุดแล้ว ในบรรดา Predator ที่ออกมาทุกตัวตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญมันยังเป็น Pradator ตัวแรกในชีวิตผมอีกด้วย ตัวจริงไม่อยู่แล้ว เอาภาพแทนไปก่อนละกัน จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คู่ต่อมา เป็นสตั๊ดตัวที่เก่าที่สุดที่ยังอยู่กับผม นอกนั้นก็อย่างที่บอก แจกจ่ายไป หายไป ขายไปหมดแล้ว Predator Precision รุ่นบอลยูโร 2000 ตัวนี้ซื้อหลังจากซื้อตัวแรกประมาณปีกว่าๆ ใช้งานไม่เยอะมาก เพราะช่วงที่ใช้คู่นี้ ผมประสบอุบัติเหตุไหปลาร้าข้างซ้ายหักในระหว่างการแข่งบอลภายในออฟฟิตเก่าพอดี รองเท้าคู่นี้ก็เลยเก็บมากกว่าใช้ เพิ่งจะมีเมื่อ 2-3 ปีก่อนที่ผมนัดเตะบอลกลางสัปดาห์เป็นประจำกับเพื่อนสมัยมัธยม ก็เลยเอาออกไปให้มันใช้ รองเท้าก็เลยจะโทรมๆลงหน่อย เพราะสนามไม่ค่อยดี คุณภาพรูปอาจจะแย่หน่อยนะครับ ใช้กล้องมือถืออะ จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกมุมหนึ่ง จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หลังใช้ตัว Precision มาได้เกือบ 2 ปีผมก็เปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่ Predator Mania บอลโลก 2002 สตั๊ดคู่นี้เป็นสตั๊ดสีดำตัวสุดท้ายของผม เพราะหลังจากนี้ผมก็ไม่เคยใช้สตั๊ดสีดำ หรือสีเข้มอีกเลย จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตัวนี้สภาพจัดว่าโทรมค่อนข้างมากครับ เพราะใช้งานเยอะมาก ทั้งปริมาณการใส่ลงสนาม รวมถึงสภาพสนามที่เจอหลายๆที่ก็ไม่ค่อยดีด้วย ทำให้รองเท้าตัวนี้เป็นรองเท้าบอลที่ทรุดโทรมเกือบจะที่สุดแล้วของผม หนังแข็งเพราะไม่ค่อยได้ดูแล มีจุดปริและเปิดของรองเท้าเป็นแห่งๆ ปุ่มก็สึกไปเยอะเลยเมื่อเทียบกับคู่อื่นๆ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 04:26:51 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆ ตัว Mania นี่ถือว่าเป็นสตั๊ดคู่ใจผมเป็นช่วงเวลาที่ยาวพอสมควร เพราะตั้งแต่ได้มันมา ผมก็เดี้ยงมั่ง ไปบวชมั่ง ไม่ได้เตะบอลเป็นเวลานานเลย ก็เลยไม่ได้ถอยคู่ใหม่มาแทนซะที หลังจากใช้ Predator Mania มาได้ระยะหนึ่ง (ปกติผมจะถอยพรีเดเตอร์หลังจากปีที่มันออกประมาณปีนึงได้ เพราะสมัยก่อนรองเท้ายังไม่วางตลาดในไทยชนิดตปท.ขาย ไทยขาย หรือยังไม่บ้าชนิดที่ว่ารุ่นใหม่ออกปุ๊บต้องซื้อปั๊บเหมือนตอนนี้) ราวๆปี 2005 ผมก็เกิดอยากได้สตั๊ดสีอื่นที่มันไม่ใช่สีดำ แล้วก็ไปปิ๊งกับไอ้เจ้าตัวนี้เข้า F50+ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 20:16:06 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 04:33:38 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จำได้ว่าเห็นยอน อาร์เน่ รีเซ่ใส่ในนัดชิง UCL กับมิลาน เห็นแล้วก็อยากได้โคดๆ อยากได้สุดๆ แต่ดันมาอยากได้เอาตอนที่สีนี้มันหายไปจากตลาดแล้วนี่ซิ ไปเดินหาจนทั่วหลังสนามศุภ รวมถึงแผนกกีฬาของทุกห้างก็หาไม่ได้ ใจจริงตอนนั้นตั้งใจจะซื้อแค่ตัวรองท็อบ คือ F30+ เท่านั้น เพราะช่วงนั้นราคาสตั๊ดรุ่นท็อบของ Adidas เริ่มปรับราคาป้ายจาก 4 พันกว่าๆ มาอยู่ที่ 5 พันปลายๆ ทำให้จากที่เคยซื้อรองเท้าตัวท็อบที่หลังสนามศุภได้ในราคาประมาณ 3 พันกว่าๆ กลายมาเป็นสี่พันกว่าๆ แพงขึ้นอีกเยอะ ทำให้ผมตั้งใจจะซื้อแค่ตัวรองของรุ่นนี้เท่านั้น แต่อย่างที่บอกหลังจากเดินหาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ ทั้งตัวรอง ตัวท็อบนั่นแหละ วันนึงผมไปเดินที่มาบุญครอง แล้วก็ไปเจอร้านๆนึง มีไอ้เจ้าตัวนี้ สีนี้วางขายทั้งตัวรอง ตัวท็อบเลย พอได้จับตัวรองจริงๆ คุณภาพมันไม่สมราคาเอามากๆ แม้ว่าราคาจะถูกกว่าตัวท็อบอยู่เยอะ ก็เลยเปลี่ยนใจกลางอากาศอยากได้ตัวท็อบขึ้นมาในตอนนั้นเอง แต่ F50+ ที่ร้านนั้นขายอยู่ที่ประมาณ 4500 ลดไป 15% จากราคาป้าย ซึ่งแพงกว่าหลังสนามศุภ(ถ้ามีของ) อยู่ประมาณ 3-400 บาท และแพงกว่ารองเท้าทุกคู่ที่ผมเคยซื้อมาเลย คิดหนัก.... แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 04:43:31 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากเดินวนไปเดินเวียนมาอยู่ในมาบุญครองเกือบชม.ผมก็ตัดสินใจว่า ซื้อก็ซื้อวะ ก็อยากได้นี่หว่า... ก็เลยถอยคู่นี้ออกมา F50+ หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามของรองเท้า Spiderman ด้วยส่วนประกอบที่มีโครงพลาสติกพาดไปทั่วตัวรองเท้ากลายเป็นลวดลายคล้ายกับใยแมงมุมนั่นเอง F50+ เป็นรุ่นที่ 3 ของรองเท้าซีรีย์นี้ ออกมาโดยทำตลาดว่าเป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา เน้นลวดลายค่อนข้างจะแฟชั่นหน่อย และ F50+ ตัวนี้ก็รู้สึกจะเป็นตัวแรกที่ทำพื้นรองในรองเท้าออกมา 3 แบบ สำหรับสนามแบบ Soft Ground Firm Ground และ Hard Ground เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้พื้นรองตามสภาพสนามที่ลงเล่นนั้นๆได้ แต่เอาเข้าจริงผมว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่หรอก เพราะพื้นรองมันไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพื้นสนาม จนมาถึงรุ่นหลังๆ ถึงได้เปลี่ยนจากพื้นรองสำหรับสนามแบบต่างๆ ไปเป็นปุ่มสำหรับสนามแบบต่างๆแทน ซึ่งตรงเป้ามากกว่า แต่สิ่งที่ผมได้ค้นพบจากการใช้สตั๊ดรุ่นนี้ก็คือ เล็บนิ้วเท้าของผมที่จะช้ำม่วงทุกครั้งหลังจากลงสนามในแต่ละนัด มันหายไปเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่เปลี่ยนจาก Predator มาใช้ F50+ ทำให้ผมค้นพบว่าที่จริงแล้ว เล็บช้ำ เล็บม่วง มันไม่ใช่เรื่องปกติของการใส่สตั๊ดลงสนามเตะบอลตามที่เข้าใจมาตลอด แต่มันขึ้นอยู่กับรูปทรงของสตั๊ดที่ใส่ต่างหาก แหม โง่จังเลยกรู รองเท้าคู่นี้เป็นอีกคู่ที่ผมใช้แบบสมบุกสมบันมากๆๆ เพราะช่วงที่ใช้มัน เป็นช่วงที่เตะบอลหลากหลายสนามมากๆ และส่วนใหญ่จะเป็นสนามที่คุณภาพแย่ ไปจนถึงแย่มาก ทำให้รองเท้าบอลคู่ที่แพงที่สุดของผมในตอนนั้น กลายเป็นรองเท้าที่โทรมเร็วที่สุดของผมเช่นกัน รวมถึงเป็นคู่แรกที่ใช้จนหนังรองเท้าทะลุจนต้องเลิกใช้ ต่างจากคู่ก่อนๆ ที่เลิกใช้เพราะอยากได้ตัวใหม่ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 04:58:43 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 04:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เริ่มง่วง แต่ยังไม่หมด ต่อๆๆๆ ระหว่างที่ยังใช้ F50+ อยู่ ผมก็บังเอิญไปรู้จักกับเพื่อนคนนึง ซึ่งสามารถซื้อรองเท้า Adidas ได้ในราคาลดพิเศษ และจากการที่หันมาหลงใหลสตั๊ดสีที่ออกแนวขาวๆ เงินๆ เข้าไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่เป็นใจ ผมก็เลยถอยไอ้เจ้าตัวนี้ออกมาซะ Predator Pulse 2 (Dragon) หรือพรีเดเตอร์รุ่นเบ็คแค่ม หรือเรียกอีกชื่อว่าเจ้ามังกร จากลวดลายรูปมังกรตรงข้างรองเท้านั่นเอง แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 07:42:58 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 05:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 การกลับมาใช้พรีเดเตอร์ ทำให้เล็บของผมกลับมาช้ำ และม่วงอีกครั้ง แต่ยอมรับครับว่าคู่นี้เตะมันจริงๆ หนังนุ่มมากๆ อัดบอลก็ได้แรงสะใจดี คู่นี้ใช้มาถึงยุคที่มาเล่นกับ LRFC ในช่วงแรกๆด้วยนะครับ สภาพจนถึงปัจจุบันก็ยังถือว่าดีอยู่ แต่เก็บเข้ากรุล่ะ เพราะช่วงหลังๆ นี่เริ่มเปลี่ยนรองเท้าบ่อย ตามคติประจำใจในช่วงหลังว่า อยากได้ก็ซื้อไปเถอะ ปล.ผมชอบสีของสตั๊ดตัวนี้มากๆเลย ผมว่าสีเงินมันสวยมากๆ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 05:08:25 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 05:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาถึงสตั๊ดที่ผมรักมากที่สุด รองเท้าตัวนี้ผมเกิดอยากได้ขึ้นมาจากการตลาดของมันแท้ๆ ด้วยความที่มันโปรโมทว่าเป็นรองเท้าที่น้ำหนักเบามากๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้สปีดในการลงสนาม อะ นั่นมันตัวเราชัดๆ ผมก็เลยอยากได้มาใส่มั่ง เพราะที่ผ่านมาใช้แต่พรีเดเตอร์มาตลอด หรือ F50+ ตัวนั้นก็ยังเป็นหนังจิงโจ้ที่น้ำหนักก็ยังมากอยู่ อยากจะลองดูว่าถ้าใส่รองเท้าเบาๆ มันจะวิ่งมันขึ้นขนาดไหน อ้อ ขอแทรกนิดนึง ตอนที่ใช้ F50+ ผมตั้งใจเลยนะว่าต่อไปจะใช้แต่ตระกูล F Serie ของแดสเท่านั้น เพราะรูปทรงรองเท้ามันเข้ากับเท้าผม แต่ก็ต้องมาล้มเลิกความตั้งใจ เนื่องจาก F50 ในรุ่นต่อมา เปลี่ยนแนวจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง จากหนังจิงโจ้ไปเป็นหนังสังเคราะห์ จากรองเท้าที่เน้นดีไซน์ก็จริง แต่ยังไม่จัดมาก กลายเป็นรองเท้าที่เหมือนมาจากนอกโลก บอกตรงๆว่าไม่กล้าใส่ครับ พอ F50+ ของผมพัง ก็เลยใช้เจ้ามังกรมาเรื่อยๆ จนมาเจอกับเจ้าตัวที่ว่าไปข้างต้นนี่แหละ สตั๊ดที่ผมว่าก็คือ Nike Mercurial Vapor 3 นั่นเอง แต่ความตั้งใจของผมตั้งใจจะซื้อตัวรองของมันนั่นก็คือ Nike Mercurual Talaria 3 เนื่องจากราคาของ Vapor สูงมากๆ แตะหลัก 6-7 พันเลย ในขณะที่ Talaria จะอยู่ที่ประมาณ 4500 สำหรับราคาในเมืองไทย (ดูเอาเถอะ 4500 แต่ก่อนซื้อตัวท็อบได้ เดี๋ยวนี้ซื้อได้แค่ตัวรอง ) พออยากได้ก็เริ่มออกตามหา บอกได้เลยว่าสตั๊ดคู่นี้นอกจากผมจะรักมากที่สุดแล้ว ยังเป็นสตั๊ดที่กว่าจะได้มา ยังลำบากยากเย็นที่สุดอีกด้วย ผมไปเดินหาจนทั่วหลังสนามศุภ ช็อบไนกี้ทุกที่ แผนกกีฬาทุกแห่ง ร้านไหนก็ตามที่ขายรองเท้ากีฬา แม้แต่เพื่อนที่ไปตปท.ก็ฝากให้ดูให้ รวมถึงเพื่อนที่เป็นเซลล์ของบริษัทเครื่องกีฬาที่ต้องขึ้นล่องตจว.บ่อยๆ ก็ฝากเค้าดูให้อีก ปรากฎว่าไม่ประสบความสำเร็จเลย เพราะสีที่ผมอยากได้คือสีเงินแดง กับขาวเหลือง มันหมดไปจากตลาดแล้ว ตอนนั้นมีแค่สีเหลือง สีฟ้า สีแดงเท่านั้นเองที่ยังมีขายอยู่ อันนี้เป็นตย.สีเงินแดง ที่ผมอยากได้มากที่สุดในตอนแรก ที่ตลกคือล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ที่ร้านหลังสนามศุภมีรุ่นนี้ สีนี้ แถมไซส์ผมด้วยวางขายเฉยเลย ราคาก็ไม่แพงมากด้วย มันมาขายอะไรกันตอนนี้วะเนี่ย แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 07:48:24 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 05:26:29 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 05:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ในที่สุดผมก็เริ่มหาในเนท ปรากฎว่ามีรองเท้ารุ่นนี้ สีที่อยากได้ขายอยู่ในเนทพอสมควร แต่ด้วยความที่ไม่เคยสั่งของจากตปท.ผ่านเนท รวมถึงยังกังวลในเรื่องของราคารองเท้า ค่าจัดส่ง ภาษีนำเข้า ทำให้ผมลังเลว่าจะสั่งซื้อดีมั้ย เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน ในที่สุดความอยากได้ก็ชนะ ผมตัดสินใจสั่งซื้อกับเวปขายสตั๊ดเวปหนึ่งในอังกฤษ ด้วยความที่มันลดราคารองเท้ารุ่นนี้ถึง 60% ค่าจัดส่งที่ถูกกว่าเวปอื่นๆ และถึงจะโดนภาษีเบ็ดเสร็จที่ต้องจ่ายก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ แต่พอตัดสินใจว่าจะซื้อ สีเงินแดงที่อยากได้ก็ไม่มีของซะแล้ว เหลือแต่สีขาวทอง ซึ่งก็ไม่มีปัญหา ยังไงก็ขาวๆ เงินๆ ชอบอยู่แล้ว หลังจากสั่งซื้อไป 1 อาทิตย์ของก็ถูกส่งมา ไปรษณีย์เรียกให้ไปรับ โดยถูกศุลการกรประเมินราคารองเท้าไว้ต่ำมากๆ ทำให้เสียภาษีนำเข้ารวมกับ vat ตกเป็นเงินแค่ 3-4 ร้อยบาท ทำให้เบ็ดเสร็จผมจ่ายไปที่ 3 พันต้นๆ ซึ่งนับว่าถูกมากๆ แม้จะเทียบกับราคาในบ้านเราเองในกรณีที่มีของก็ตาม ตอนนั้นปอนด์หนึ่งยัง 72 บาทอยู่เลยด้วย เห็นราคาแล้วผมก็เสียดายที่ไม่สั่งตัวท็อบมาซะให้รู้แล้วรู้รอด เพราะถ้าคิดภาษีเรทเดียวกัน ผมจะจ่ายเงินแค่ประมาณ 4 พันกลางๆสำหรับตัวท็อบ ซึ่งจัดว่าถูกมากเมื่อเทียบกับราคาขายในบ้านเราที่ 6 พันบาท แต่ใครจะไปรู้ ถ้าผมสั่งตัวท็อบจริงๆ แล้วเค้าเกิดประเมินราคารองเท้าตามจริงหรือสูงกว่า ผมก็ต้องจ่ายภาษีค่ารองเท้าอ๊วกเลย เพราะคำนวนดูแล้วถ้าเข้าข่ายกรณีที่ว่า จะต้องจ่ายค่ารองเท้ารวมค่าอื่นๆเบ็ดเสร็จถึง 5 พันกว่าเกือบ 6 พันเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:39:57 แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:38:12 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 06:02:55 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 05:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Nike Mercurial Talaria III สตั๊ดคู่ที่ 13 ของผม พอได้ใส่คู่นี้ ผมพบว่ามันคือรองเท้าที่เหมาะกับเท้าผมมากที่สุด รูปทรงรองเท้าที่เรียวตรงช่วงเท้าแต่มนตรงปลายรองเท้าน้ำหนักที่เบามาก ทำให้ใส่แล้วเตะบอลสนุก วิ่งมัน บางทีก็อุปาทานว่าวิ่งเร็วขึ้น 30% ซะงั้นด้วย แถมช่วงที่ใส่คู่นี้ยังยิงเยอะอีกด้วยนะนั่น ข้อเสียของมันคือ รองเท้ามันขาวมากทำความสะอาดยาก ผมต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังเตะบอลในแต่ละนัด พยายามจะไม่ใช้มันในสนามที่สภาพไม่ดี แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดร่องรอย ซึ่งเกิดง่ายอยู่แล้วสำหรับรองเท้าสีแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 06:12:49 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 05:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเก็บรองเท้าคู่นี้ไว้ใช้กับแมทช์สำคัญๆ แมทช์สนามใหญ่ หรือสนามหญ้าที่สภาพดีๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ในสนามหญ้าเทียม เพราะมันจะเสี่ยงกับการเกิดรอยได้ง่าย แต่สุดท้ายหลังจากใช้มาประมาณปีเศษๆ หนังมันก็ขาด เป็นรอยยาวประมาณ 3 ซม.จริงๆมันก็ยังใช้ต่อได้อีกแหละ แต่ผมไม่อยากเสี่ยง ที่สำคัญคืออยากได้คู่ใหม่ด้วยแหละ สตั๊ดคู่โปรดคู่นี้ก็เลยขึ้นหิ้งตั้งแต่บัดนั้น จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ระหว่างที่ยังใช้ Talaria III อยู่ เป้นช่วงที่ผมมาเล่นบอลกับทีมเราเต็มตัวแล้ว ช่วงนั้นทีมเราเตะสนามหญ้าเทียมเกือบทุกอาทิตย์ ทำให้ผมอยากจะได้สตั๊ดอีกซักคู่ ที่คุณสมบัติคล้ายๆกับ Talaria แต่ราคาไม่แพงมาก ก็มาลงตัวที่ F30.7 ตอนที่ซื้ออยู่ในช่วงที่สีนี้ใกล้จะตกรุ่น ราคาลดลงมา 30% เหลือ 2 พันนิดๆ ก็เลยถอยมาเลย ไว้เตะสนามหญ้าเทียมกับสนามหญ้าจริงที่สภาพไม่ค่อยดีเป็นหลัก มันก็เลยจะมีริ้วรอยเยอะหน่อย แต่จริงๆ สภาพยังดีนะครับ เพียงแต่เวลาเตะหญ้าเทียมมันจะเปื้อนง่ายมาก ผมไม่ค่อยได้ดูแลมากด้วยตัวนี้ รอยเลอะก็เลยจะเยอะหน่อย F30.7 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 07:50:17 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คุณสมบัติคล้ายๆ Talaria เลยครับ เบา วิ่งมันดี แต่ข้อเสียคือหัวมันจะบีบกว่าเยอะเลย ตัวรองนี่ไม่มีแบบ Wide Fit หรือรุ่นหัวกว้างแบบตัวท็อบ ใส่แล้วก็จะอึดอัดหน่อย แต่หนังมันบางก็เลยไม่บีบเท้ามากเท่าพรีเดเตอร์ แล้วไอ้หนังที่บางนี่ล่ะครับ โดนเหยียบทีนอกจากจะเลอะง่ายแล้ว ยังเจ็บอิ๊บเลย จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รูปนี้ตอนใส่ลงสนามนัดแรก ยิงได้ลูกนึงด้วย ยังใหม่เอี่ยมขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะอยู่เลย จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาถึงคู่นี้ คู่นี้เป็นของ Copy ครับปกติผมไม่ชอบ Nike ตระกูล Total เท่าไหร่ ผมว่ามันไม่สวย แต่พอตัวนี้ออกมา มันสวยอะ ก็เลยอยากได้ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะยอมจ่ายเงิน 5-6 พันเพื่อถอยออกมา พอดีไปเจอตัว Copy ราคาถูกมาก ก็เลยลองซื้อมาใส่เล่นดู ก็สวยดีครับ ดูจากภายนอกเหมือนของแท้เลย แต่ใช้งานแล้วไม่ work ด้วยน้ำหนักของรองเท้าที่หนักมาก ปุ่มกลมที่ไม่คุ้นเคยทำให้เวลาวิ่งรู้สึกเหมือนมันจะพลิกตลอดเวลา ก็เลยใช้งานน้อยมากๆ ไม่เกิน 5 ครั้งเองมั้ง ที่สำคัญมันหายไปแล้วด้วย ที่สนามเอสวัน ดันเอาไปลืมไว้ซะได้ เอาไปก็ไม่ได้ใส่เล่นแต่กะเอาไปให้ ดร.เต่าลอง ดร.เต่าลองแล้วก็ไม่ใส่อีก สุดท้ายลืมทิ้งไว้ซะงั้นผม รูปปัจจุบันก็เลยไม่มีแล้ว เอารูปตอนที่ใส่เล่นมาลงแทนละกัน แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 06:30:09 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แถมๆ จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่อ มาโพสไรเช้าขนาดนี้อ่ะ จากคุณ : K-modjung - [ วันสิ้นปี 06:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 และแล้วก็มาถึงรองเท้าในฝันของผม จากการที่เคยใช้ Talaria แล้วชอบมากๆ ก็เลยอยากจะได้ตัวท็อบของมันก็คือ Vapor แต่ติดขัดตรงราคาที่สูงถึง 6-7 พันนี่แหละ ที่ทำให้ยังตัดใจซื้อไม่ลงซะที แต่พอ Talaria ขาด ความอยากได้ Vapor ก็กลับมาอีก หลังจากถูกปั่นหัวโดยภรรยาแอนด์เดอะแก๊งค์ อีกอย่างคือรุ่งวิทย์เจ้าของสนามไทยเตะ ที่รู้จักๆกัน กำลังจะไปตปท.ซึ่งจากที่คุยกันราคาจะซื้อได้ถูกกว่าในบ้านเราอยู่บ้าง ผมก็เลยตัดสินใจทุ่มเงินก้อนโตสำหรับตัวเอง เพื่อรองเท้าในฝันซักครั้งหนึ่งในชีวิต ผมได้รับรองเท้าคู่นี้หลังจากฝากซื้อไปเกือบเดือนๆ เนื่องด้วยอุปสรรคหลายๆอย่าง สุดท้ายมันก็มาอยู่ในมือผมแล้ว รองเท้าในฝัน... แต่พอลองใส่เท่านั้นแหละ มันก็กลายเป็นรองเท้าฝันร้ายไปเลย เพราะผมยัดเท้าไม่เข้าเลย กว่าจะยัดเท้าเข้าไปได้ก็ตั้งหลายนาที แถมพอใส่เข้าไปได้ ก็แน่นอึดอัดมากๆ บีบเท้าซะจนชาไปหมด ตรงเกราะกันกระแทกส่วนส้นเท้าที่ทำจากเคฟร่าของรุ่นนี้ก็แข็งซะจนกัดส้นเท้าผมในขณะที่แค่ลองใส่เดินเท่านั้นเอง Nike Mercurial Vapor IV ตัวจริงมันสวยมากๆเลยนะ แต่ใส่แล้วไม่ไหว อีกอย่างมาคิดๆดู มันขาวจั๊วะกว่าตัวอื่นๆซะอีก คงดูแลกันลำบากแหงๆ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:44:29 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 07:53:28 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 06:44:33 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #47 ยังไม่ได้นอนเลยปร้าโม้ดดดด พอดีมันติดพันอะ จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หลังจากลองแล้วลองอีกจนท้อใจ ผมก็ตัดสินใจลองเช็คดูกะรุ่ง ปรากฎว่างวดนี้ซื้อมาหลายคู่ ก็เลยลองถามดูว่ามีไซส์ที่ใหญ่กว่าคู่นี้มั้ย ก็ปรากฎว่ามี แหม ดีใจแทบแย่ แต่พอได้ของมาจริงๆ ผมก็พบว่ามันมีปัญหาอีกแล้ว นั่นคือรองเท้าที่ไซส์ใหญ่กว่าไซส์ปกติของผม มันไม่กัดผมเหมือนเดิม ไม่บีบไม่แน่นเท่าทีแรก แต่มันเหลือข้างหน้าเท้าเยอะพอสมควรเลย ทำให้ใส่แล้วไม่กระชับเท้า ผมเองชินกับการใส่สตั๊ดที่ค่อนข้างไม่เหลือหน้าเท้าด้วย ก็เลยยิ่งไม่ถนัดไปกันใหญ่ จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สุดท้ายหลังจากลองใส่เล่นที่เอสวันไปครั้งเดียว ผมก็ตัดสินใจขาย เพราะขนาดยัดถุงเท้าไป 2 คู่ บวกกับแผ่นรองส้น ยังไม่กระชับเท้าเลย อีกอย่างซื้อมาแพงด้วย ถ้าใส่แล้วไม่ชอบก็ไม่รู้จะทนไปทำไม ก็เลยประกาศขายในเนท และขายไปได้ในราคา 5 พันบาท ขาดทุนจากที่ซื้อมาประมาณ 5 ร้อยบาททั้งที่ใส่เล่นไปแค่ครั้งเดียว แต่ก็ดีกว่าเก็บไว้จนไม่มีราคาแล้วก็ไม่ได้ใช้ หรือใช้แล้วก็ไม่ชอบ จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 06:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โห คุณต้น กะสะตัีค นี่ สมคำร่ำลือ จากคุณ : K-modjung - [ วันสิ้นปี 06:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาถึง 2 คู่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หลังจากขายได้เงินมาก้อนหนึ่งก็กะว่าจะเอาไปซื้อใหม่อีกคู่หนึ่ง สำหรับใช้เป็นคู่หลักเตะสนามใหญ่อะไรพวกนี้ ส่วนสนามหญ้าเทียมก็ใช้ F30.7 ตัวเก่าไปเหมือนเดิม พอผิดหวังจาก Vapor IV ผมก็หันมาที่ Talaria IV ตัวรองท็อบสีเดียวกัน แต่ไอ้ตัวเนี้ยมันไม่เข้ามาวางขายในไทย จะมีก็แต่พวกที่หิ้วเข้ามาแค่นั้นเอง หลังจากรู้ว่าร้านๆหนึ่งที่หลังสนามศุภมีขาย ก็เลยตรงดิ่งไปเลย กะว่าถ้ามีไซส์ ลองปุ๊บถ้าใส่ได้ก็จะถอยออกมาเลย ปรากฎว่ามีไซส์จริงๆ แต่รุ่นนี้ตัวรองไม่สวยเลยอะ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาของมัน แต่จริงๆลองแล้วใส่สบายด้วยนะ (ทำให้ผมรู้อีกอย่างว่า ใส่ Talaria ดี อาจจะใส่ Vapor ไม่ดีก็ได้ แม้มันจะเป็นตระกูลเดียวกันก็เถอะ) ไอ้ตัวที่อยู่แถบขวามือกับแถวล่างของภาพนั่นล่ะครับ ไม่สวยเอาซะเลยเลยเมื่อเทียบกับ Vapor แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:47:38 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 07:12:33 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 07:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พอไม่ประทับใจกับรองเท้าที่ตั้งใจจะซื้ออย่าง Talaria IV ก็เท่ากับต้องเริ่มต้นใหม่เลย มีรองเท้าเข้ามาในหัวเยอะแยะไปหมด หลังจากไปเดินๆลองๆแล้ว ก็คิดว่ Laser II น่าจะเหมาะ สีขาวดำเหมือนตัวแรกที่ซื้อมาใส่ แถมปุ่มยังปรับมาเป็นแบบใบมีดใส่แล้วมั่นคงกว่าเดิม ติดที่ราคาสูงถึง 5500-6500 แล้วแต่ร้าน แต่คิดสะระตะแล้วก็เอาดีกว่า แต่ขอที่ราคา 5500 พอ ปรากฎว่าพอจะซื้อจริงๆ แหมมันตั้งราคา 6500 ทุกร้านเลย ก็เลยตัดใจ เปลี่ยนมาเล่นตัวรองคือ Nike Strike II แทน ด้วยราคาที่ย่อมเยากว่าเกือบครึ่ง แถมคุณสมบัติก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ให้ตายดิ ที่หลังสนามศุภดันไม่มีไซส์ซะอีก สุดท้ายเดินหาไปหามา ผมก็ไปได้ที่มาบุญครองร้านเดิม ลดราคา 15% เหมือนเดิม เท่ากับแพงกว่าหลังสนามศุภ 200 บาทแต่ก็ถูกกว่าซื้อในห้างอยู่หลายร้อยเหมือนกัน จริงๆมันสวยกว่านี้นะ แต่นี่เตะล่าสุดแล้วยังไม่ได้ทำความสะอาดมันเลย เลยจะเลอะๆหน่อย จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 07:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนแรกที่ใส่เล่น ผมเกิดอุปาทานว่ามันจะเหมือนตัว Copy รุ่นแรกของมันอีกแล้ว เพราะเหมือนจะใส่แล้วไม่ถนัดๆยังไงไม่รู้ แถมน้ำหนักที่มากกว่าทั้ง Talaria และ F30.7 ที่เคยใส่อยู่เดิมทำให้คิดไปเองว่ามันไม่ชินและไม่เหมาะกะเราเลย แต่สุดท้ายหลังจากใส่ไประยะหนึ่ง ผมก็พบว่า นี่ล่ะรองเท้าที่เราจะเอาไว้ใช้เป็นคู่หลักในตอนนี้ของผม Nike T90 Strike II แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:49:55 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 07:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 พอตัดสินใจซื้อ Strike II เงินที่ขาย Vapor ไปได้มันก็เลยเหลือ ประกอบกับ Adidas กำลังมีแคมเปน เอารองเท้าเก่าไปแลกซื้อรองเท้าใหม่ลดได้ 1000 บาท ผมก็เลยเล็งไปที่ F30.8 เพราะราคาถูกลดแล้วยิ่งถูก คุณสมบัติก็เหมือนๆตัวที่เคยใช้ แต่ใหม่กว่า ตอนแรกกะเอามาลองใส่สลับกับ Strike II แล้วดูอีกทีว่าจะใช้ตัวไหนเป็นคู่หลักคู่รองดี แต่สุดท้ายก็ใช้ F30.8 เป็นคู่รอง ไว้เตะสนามหญ้าเทียม รวมถึงสนามสภาพไม่ค่อยดีทั่วไป (แต่จริงๆ Strike II นี่ก็ไปเจอสนามไม่ค่อยเรียบหลายทีแล้วเหมือนกัน) F30.8 แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 01:50:33 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 07:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สุดท้ายแล้วครับ จากติดพันกลายเป็นรู้สึกว่ามันจะยาวเกินไปแล้ว จะมีคนอ่านซักกี่คนกันล่ะเนี่ย 555 ตัวนี้ก็ใส่สบายดีครับ บีบเท้านิดหน่อยเพราะไม่ใช่ตัว Wide Fit แต่ก็ชินมากับการใช้ F30.7 แล้วก็เลยเฉยๆ น้ำหนักก็เบาเหมือนเคย วิ่งมันดีแท้ แต่ยิงมันสู้ Strike II ไม่ได้ 2 ตัวที่ใช้ล่าสุดนี้ดูแล้วก็คงไม่ได้แบ่งเป็นคู่หลักคู่รองชัดเจนแบบตอนก่อนอะครับ เพราะคุณสมบัติมันก้ำกึ่งๆกัน ไม่เหมือน Talaria 3 ที่มีครบในคู่เดียวเลย ตัวผมเองยอมรับว่าบ้าสตั๊ดพอสมควร แต่ก็ดูความเหมาะสมหลายๆอย่างประกอบ ไม่ใช่อยากได้ต้องซื้อ รุ่นใหม่ออกต้องซื้อ หรือซื้อมาเพื่อสะสม แต่ทุกตัวที่ซื้อจะเกิดจากความอยากได้ ในข้อแม้ว่าราคาและคุณภาพต้องเหมาะสม รวมถึงเอามาใช้งานจริงๆ ไม่ใช้ซื้อมาเก็บ รองเท้าทุกคู่ที่ผมซื้อมาก็เลยจะผ่านการใช้งานที่คิดแล้วคุ้มกับที่เสียเงินซื้อมา ยิ่งในช่วงหลังที่ซื้อรองเท้าราคาแพงขึ้น ก็แทบจะไม่มีเลยที่ซื้อใส่ครั้งสองครั้งแล้วเลิก ทุกคู่จะต้องใช้งานจนผมเองคิดว่ามันคุ้มแล้ว ที่ซื้อมา เพราะฉะนั้นถ้ามันจะทรุดโทรมไปบ้าง ผมก็เฉยๆ เพราะร่องรอยมันก็คือจารึกของประสบการณ์ที่เราผ่านมานั่นเอง จบล่ะครับ ขอลาไปเข้านอนล่ะ สวัสดี... แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 08:06:06 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 08:00:09 จากคุณ : 9ho - [ วันสิ้นปี 07:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โห...พี่ต้น สุโค่ย เด๋วผมรีวิวมั่ง คู่ที่ใส่สมัยมัธยมคือ Nanyang Classic Series รุ่นนี้จะเป็นตัวท็อป มีสามสีให้เลือกคือ ขาว ดำ น้ำตาล ที่ผมใส่อยู่จะเป็นสีดำ (ไม่มีรูปนะ เก่ามาก ขาดแล้ว ทิ้งไปแล้ว ต้องไปยืมรูปจากเว็บอื่นมา) จุดเด่นของรุ่นนี้คือ หัวยางที่หนาเตอะ ทำให้ใช้แรงน้อยในการดีดหรือจิ้มลูกบอล (พลาสติก) ข้าง ๆ หัวยาง จะมีแถบ เพื่อเพิ่มความหนืด เวลาปั่นโค้ง มีรูระบายอากาศสองรู บริเวณข้างเท้า จุดด้อยของรุ่นนี้คือ พื้นแข็ง และบริเวณปลายเท้าจะขาดง่ายมาก แต่รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับเด็กไฮสคูลเป็นอย่างมาก พื้นซีเมนต์ขอให้บอก Nanyang Classic Series ครองความเป็นจ้าววววว ผมใส่รุ่นนี้เก็บกวาดชัยชนะมานับไม่ถ้วนตั้งแต่สมัยไฮสคูล จนกระทั่งสมัยมหาลัยก็ได้เป็นแชมป์ของคณะ ที่สำคัญราคาตัวนี้ไม่สูงมากนัก ๒๐๐-๓๐๐ บาท (ราคาในขณะนั้น) ตอนนี้ราคาไม่รู้เท่าไรแล้ว ไม่ได้ติดตาม Nanyang Classic Series ผมว่าน่าจะเป็นคู่บุกเบิกสำหรับนักเตะของ LRFC กันเกือบทุกคนเลยนะครับ (รีวิวเหมือนพี่ต้นมะ หุหุ) จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 08:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สุดท้ายแล้วครับ จากติดพันกลายเป็นรู้สึกว่ามันจะยาวเกินไปแล้ว จะมีคนอ่านซักกี่คนกันล่ะเนี่ย 555 ------------ 9ho เอ่อ คุณต้น ปลาคู่อ่านอ่ะ สตั๊ดก็ไม่มีไม่รู้เรื่องหรอก แต่กลับตามอ่านสนุกดี 555 ปล. เผลอปาดไผ่ป่ะเนี่ย จากคุณ : piscespair - [ วันสิ้นปี 09:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โหยยยยย พี่ต้น รีวิวยังกะเปิดกรุรองเท้าของสาวห้องแป้งเลย อ่านเพลินมากๆเลยค่ะ ใครมีเอามาลงอีกนะ อยากอ่านอ่ะ จากคุณ : Mrs.Del (นายไผ่) - [ วันสิ้นปี 10:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สุดยอดมากมายเลยพี่ต้น แต่กิ๊บหมดแล้วอ่ะ คุงไผ่ ๆๆๆ ใช้รุ่นเดียวกันเลย แต่รุ่นคลาสสิคจริง ๆ ต้องไม่มีคำว่านันยางตรงด้านข้างนะ ราคาล่าสุดในเทสโก้ โลตัส 235 บาท เมื่อประมาณสี่ห้าเดือนที่แล้ว สมัยมัธยมผมใช้สีน้ำตาล เปลี่ยนแทบทุกเทอมเพราะนิ้วก้อยทะลุ แต่พอจบมัธยมเข้ามหาวิทยาลัย ก็เปลี่ยนมาใช้สีขาวจนทุกวันนี้ ซึ่งคู่ปัจจุบันก็นิ้วก้อยทะลุแล้วเช่นกัน จากคุณ : teaseah - [ วันสิ้นปี 10:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เพิ่งรู้ว่า พี่ต้นเคยใส่ของปลอมกับเขาด้วย จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 10:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 63 #58 ตอนนี้ก็ยัง 200 กว่าบาทปลายๆ อยู่ ผมเพิ่งซื้อไปไม่นาน เอาไปทำรองเท้าเพนท์สีที่มาบุญครอง จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 10:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คราวนี้มารีวิวคู่ปัจจุบันบ้าง Diadora LX R รุ่นนี้เป็นตัวบ๊วยของ LX Series ตัวท็อปมันคือ LX K-Pro หนังจิงโจ้ (ที่ Totti ใส่อะแหละ) ซื้อมาพันกว่าบาท (ลด 20% แล้ว) ตัวนี้เป็นหนังสังเคราะห์ แต่เอาเหอะ ฝีเท้ากาก ๆ อย่างเรา ใส่หนังนกอีมูก็ใช่ว่าจะเก่งขึ้น ใส่แค่สองครั้ง ครั้งแรกไม่มีปัญหา แต่ครั้งที่สองรู้สึกว่ามันจะกัดบริเวณเอ็นร้อยหวายด้านขวาซะแล้ว เด๋วจะลองดูครั้งที่สามซิ ว่ามันจะกัดอีกหรือเปล่า โดยรวมแล้วพอใจกับคู่นี้ ไม่หนัก ไม่เบาเกินไป แต่ไอ้ตรงลิ้นที่พับเพื่อมาปิดเชือกนั้น ตีนตุ๊กแกมันเล็ก เลยไม่ค่อยจะติดทนดีนัก ซ้ำยังชอบดูดเชือกรองเท้าให้ติดมาด้วย ทำให้เชือกหลุดบ่อย ๆ วิธีแก้คือการรัดเชือกทับลิ้นนั้นเลย ไม่หลุดแน่ ๆ แต่เราจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากลิ้นปิดเชือกนั้นเลย จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 10:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ดูมุมท้ายรถกันบ้าง... จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 10:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ข้างซ้าย... จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 11:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ข้างขวา (มีอยู่คู่เดียว โพสแม่มซะเยอะเลยกู) จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 11:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 68 พี่ต้นรีวิวสุดยอดมากๆ  เป็นคนรักสตั๊ดที่ใช้งานได้คุ้มค่ากับราคาสุดๆจริงๆ จากคุณ : maezono_no7 - [ วันสิ้นปี 11:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คิดเหมือนเจ๊เลย อ่านรีวิวของพี่ต้นเพลินมากกกกก เจ๊ ไว้เรารีวิวรองเท้าส้นสูงกันมั่งนะ จากคุณ : กากีแกมเขียว - [ วันสิ้นปี 11:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขนาดพี่ต้น ไม่กี่คู่เองยังรีวิวยาวมาก (แต่อ่านนะ อิอิ) ถ้าพี่เปิ้ลมารีวิว สงสัย คห. ทะลุพัน จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ วันสิ้นปี 11:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โอ้ย กระผม ไม่ได้มีเยอะอะไร ไม่ได้สะสม ไม่ได้ขายต่อ ไม่เคย รีวิว ไม่เคยถ่ายรูป (เนี้ยเพิ่งจะถ่าย) สรุปไม่ได้ยึดติดกะอะไรของนอกกายเลย เวลาใส่แล้วเบื่อ ก็ บริจาค น้อง ๆ พี่ ๆ แถวบ้าน ใครโชคดี ใส่เบอร์เดียวกัน หรือใกล้เคียง ก็เอาไป คือที่ซื้อเยอะเพราะ หาถูกใจไม่ค่อยได้ครับ อีกเหตุผลนึงคือ เปลี่ยนรองเท้า มันง่ายกว่าเปลี่ยนอย่างอื่น 555+ รองเท้าฟุตบอล มันมี อะไรหลายอย่างมากกว่า แค่รองเท้าเตะบอล บางคู่สีสวย บางคู่บางเบา บางคู่มีน้ำหนักดี บางคู่หนังนุ่ม บางคู่พื้นดี หาดีทั้งหมดคงยาก สภาพสนามและตำแหน่งที่เล่นก็สำคัญกับเลือกรองเท้า นี่ก็อีกเหตุผล ที่จะซื้อหลาย ๆ คู่ อีกเหตุผล คือ มันไม่มีให้รองใส่ลงไปเตะหรอกครับ ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า ใส่แล้วจะไม่กัดเท้า รุ่นนี้ ไม่กัดเท้าเรา อาจไปกัดอีกคนก็ได้ ไม่เหมือนรถยนต์ ปรับแต่งได้ ตอนนี้ ก็ใช้ PUMA Vkon2 อยู่ครับ ใช้ดีนะสำหรับผม แต่บางคนบอก โครตบีบเท้าเลย กำลัง Vkon3 อยู่ ลุ้น ๆ ว่าจะดีเหมือนเดิม หรือ ดีกว่าเดิมป่าว ก็ไม่รู้อีกแหละ จากคุณ : เปิ้ล (nicky2003) - [ วันสิ้นปี 13:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เลิกเตะบอลมาหลายปี(มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก) คู่ทุกข์คู่ยากที่ทิ้งไปตอนย้ายบ้านคู่สุดท้า่ยคือเจ้านี่อ่ะครับ ใช้มาต่อเนื่องประมาณ 10 คู่ได้มั้ง................โคปา มุนเดียล ล่าสุดเพิ่งไปเห็นรุ่นฉลองครบรอบ 25 ปี ราคาหย่อนหมื่นไปร้อยเดียว เอิ๊กสสสสสสสสสสสสสสสส์ ขนาดว่าตอนนั้นต้องฝากหิ้วจากสิงคโปร์ ก็ล่อเข้าไปคู่ละ 2,500 ว่าแพงแล้ว จากคุณ : 190อีสีขาว - [ วันสิ้นปี 13:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ยอมๆๆๆ ไปหารูปก่อน จากคุณ : supernont - [ วันสิ้นปี 14:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เฮีย...ใส่โคปารุ่นแรกด้วย โบร๊านนนนนน โบราณ จากคุณ : นายไผ่ - [ วันสิ้นปี 14:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่ได้เล่นฟุตบอลกับเค้าแต่ถ้าเป็นรองเท้าเล่นบาสนะก็มีหลายคู่เหมือนกัน ปล.รองเท้าที่ใส่เล่นบาสนี่มีผลต่อการเล่นพอสมควรเลยนะ ประมาณว่าช่วยบวกพลังในการกระโดดได้ประมาณ5% จากคุณ : อยากให้กลับไปเป็นเหมือนวันวาน - [ วันสิ้นปี 15:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านรีวิวของพี่ต้นแล้วสุดๆอ่ะ ไม่น่าเชื่อว่าความผูกพันของรองเท้ากับนักฟุตบอลมันจะลึกซึ้งกินใจปานนี้ T T สุดยอดครับพี่ !!! จากคุณ : badboy07 - [ วันสิ้นปี 16:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 Predator Power Swerve ของผม (รุ่นใหม่) ที่ผมมีปัญหาด้วย มีคนขอซื้อ 3,500 แน่ะ จะขายดีป่าว สองจิตสองใจ ซื้อมาตั้ง 5,000 แต่ใส่แล้วมันก็เจ็บ 3,500 มันก็สมราคาอยู่ แต่ไม่อยากขายฟ่ะ จากคุณ : Ryuichi - [ วันสิ้นปี 16:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาอ่านรีวิวพี่ต้น พี่เล่นโพสต์ตังแต่ ตี1-7โมงเ้ช้า ขอปรบมือให้กับความพยายามของพี่ต้น รองเท้าพี่แต่ละคู่สุดยอดมาก ๆครับ ส่วนผม มีแค่ 2 คู่ Kappa เน่าๆ กับ Adidas Predater ตัวบ๊วย.... รองเท้าฟุตซอลมี Asics กับ Adidas Predator สีฟ้าขาวที่ใส่ไปเล่นวันนั้นล่ะ จากคุณ : My name is Pop (Pop-Ple) - [ วันสิ้นปี 20:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 79 กว่าจะอ่านจบ ยาวโคด ยังกับพงสาวดารเลยพี่ต้น จากคุณ : The Red - [ วันสิ้นปี 23:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 80 พี่ต้น สั่งรองเท้าจาก prodirectsoccer เหมือนกันเลยครับ แต่ของผมเกือบสองอาทิตย์ถึงจะได้ของครับ ราคาเค้าถูกกว่าบ้านเราจริงๆครับ พี่ต้นมีรองเท้าเยอะมากๆเลยครับ ทำไมไม่เปิดร้านขายเองไปเลยครับ มีความชอบทางด้านนี้เปนทุนอยู่แล้ว เพื่อนๆLRFCจะได้มีที่ซื้อรองเท้าง่ายๆ จากคุณ : Gordo's Man - [ วันปีใหม่ 09:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 81 แวะมาอ่าน :-) จากคุณ : firdous - [ วันปีใหม่ 15:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 82 พี่ต้นรีวิวเหมือนผู้ญห้องแป้งเค้ารีวิวกันเลยค่ะ ละเอียดยิ๊บ ^^ เมื่อคืนจะเข้ามาให้กิ๊ฟพี่ต้น แต่ดันล็อกอินไม่ได้ กิ๊ฟเหลือเยอะด้วย   ตอนนี้ล็อกอินได้แล้ว แล้วก็ขึ้นเดือนใหม่แล้ว กิ๊ฟมีน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด พี่ต้นเอาไปกิ๊ฟเดียวละกันนะคะ 5555 จากคุณ : เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ - [ วันปีใหม่ 16:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ^ ^ งก แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 52 17:12:41 จากคุณ : 9ho (9ho) - [ วันปีใหม่ 16:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 74   เฮีย...ใส่โคปารุ่นแรกด้วย โบร๊านนนนนน โบราณ   จากคุณ : นายไผ่    - [ วันสิ้นปี 14:50:04 ] /////////// เตะซะดีมั้ง????? ตำนานโคปา ฯ เนี่ย มันรุ่นสองของรองเท้าสตั๊ด(แบบเอาจริงเอาจังนะ) เพราะตัวแรกจริง ๆที่ลงทุนมากมายใส่ซองซื้อก็คือเวิลด์คัพ 6 ปุ่ม สาเหตุที่บ้าเลือดเพราะคนเรา นอกจากจะโง่แล้ว ยังมีตังค์ เย้ยยยยยยยยย มันยังบ้ายุ..............ตอนนั้นออกใหม่ ๆสวยเฉียบ สวยค่อด ๆ เจ้าประคุณเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ใส่ที่ตรีน ราศีจับถึงหน้า แมตช์แรกเท่านั้นแหล่ะ เจอฤทธิ์พื้นสนามเทพหัสดิน..............ล่อซะระบมข้อเท้าไปหมด ต้องหาทางขายต่อให้เพื่อนที่ไอคิวไม่ต่างจากเรามากนัก จากนั้นก็หาทุนไปซื้อโคปา มุนเดียลคู่แรกมาใส่ แล้วก็เป็นสาวกโคปา ฯ แต่นั้นมาและก็ไม่เคยชายตามองสตั๊ด 6 ปุ่มอีกเลย จากคุณ : 190อีสีขาว - [ 2 ม.ค. 52 14:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 85 แวะเข้ามาส่งการบ้านอาจารย์คับ ต้องรอให้กระทู้มันหายซาไปก่อน เพราะถึงแม้หนังหน้าผมจะใช้ได้ แต่สภาพรองเท้ามันไม่ค่อยน่าจะเอามาโชว์ซักเท่าไหร่...นี่ถ้าไม่รักกันจริงไม่เอาออกมาโชว์นะเนี่ย ชีวิตผมกับสตั๊ดคู่แรกมันเริ่มที่ PAN ราคา 3-4 ร้อยบาท อย่างที่พี่ต้นว่า รองเท้าสมัยนั้นแข็งมาาาาาาาก แต่ก็ถือว่าโอเค เพราะซื้อมาหัดเตะบอล ยังไม่ได้เข้าขั้นบ้าบอลถึงทุกวันนี้ หลังจาก PAN คู่นั้น ที่ซื้อตั้งแต่เมื่อสมัยประถม จนจบมัธยม ผมมีรองเท้าหลายคู่มากครับ ต้องถือว่าเข้าขั้นบ้ารองเท้าพอสมควร เพราะเริ่มมีชื่อเสียงในจังหวัด ติดทีมโน่นทีมนี่ แถมยังต้องใส่เตะมันทุกวัน สภาพสนามบ้านนอกก็พอๆ จะรู้กันอยู่ ไม่ได้ปูหญ้าเขียวขจีเหมือนในตัวเมือง แต่ก็ยังกระแดะใส่โคป้ามั่ง พรีเดเตอร์มั่ง ชีวิตสมัยนั้นก็เหมือนเด็กหนุ่มกำลังเพิ่งหัดมีความรักคับ ยังไม่รู้หรอกว่ารักเป็นยังไง เห็นอันไหนสวยหน่อย ตื่นตาตื่นใจหน่อย ใหม่หน่อย ก็เอาแล้ว ซื้อมาใช้ก่อน ดีไม่ดีว่ากัน ได้คู่ใหม่มา คู่เก่าก็จะถูกลดความใส่ใจไปโดยปริยาย!!! ผมเคยลองคบหากับสตั๊ดมาหลายยี่ห้อแล้วคับ ลองไล่ดูดีกว่า - PAN อันนี้เป็นคู่แรกในชีวิต มี๊ซื้อให้ ตามคำแนะนำของเจ้าของร้าน เค้าบอกว่า PAN ใส่ดีสุดเลยนะหนู ... ไอ้เราก็เออออห่อหมกไม่เคยซื้อ เห็นเจ้าของร้านบอกดีเราก็ว่าดี พอเดินออกมาจากร้าน จำได้ว่าป้ายชื่อร้าน ชื่อเดียวกับรองเท้าเลย ... เออ ของเค้าดีจริงๆ ดีกว่า ADIDAS อีก - REEBOK เป็นรองเท้าคู่ต่อมาที่ผมใช้ ... อันนี้เลือกเองละ ซื้อเพราะไรอัน กิ๊กส์เลยนะเนี่ย เค้าใส่แล้วเท่ห์ เพรียวพริ้วเชียว ทำไมซื้อมาแล้วไม่เห็นเหมือนกันเลย เอิ๊กกก - UMBRO อันนี้ซื้อเพราะอยากลอง คบเล่นๆ เอามาใช้สำรอง ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ถูกใจเท่าไหร่ ถือว่าจบกันไม่สวย - DIADORA คู่นี้ซื้อตามกระแส (อีกแล้วครับ) เห็นเฮียบาจโจ้แกใส่ โตคตรเท่ห์เลย จริงๆ อยากจะไว้เปียก่ะเค้ามั่ง แต่ชีวิต ม.ปลาย มีเส้นผมงอกยาวขึ้นมาคุ้มกบาลเกิน 3 เซ็นต์ก็หรูแล้ว เลิกคิดเรื่องเปียไปได้เลย ... DIADORA เป็นอีกคู่ที่ผมใช้คุ้มมาก เพราะใส่จนมันขาดแบบไม่สามารถกู้ชีวิตมันขึ้นมาได้เลย แถมใส่สบายอีก น่าเสียดายที่หลังๆ มานี้ผมไม่ได้ใช้ DIADORA อีก เพราะย้ายมาเป็นสาวก ADIDAS ไปซะก่อน แถมเกมเตะลดลง เลยไม่จำเป็นต้องมีรองเท้าหลายคู่เหมือนสมัยเอ๊าะๆ - NIKE ที่ผมใช้ มีเพัยงคู่เดียวเท่านั้นคับ คือ รุ่นที่พี่ก็องโต้ใส่กระโดดถีบแฟนบอลคริสตัลพาเลซ จำติดตาเลย รองเท้าสวยสาาาาาาาด ... เลยไปซื้อมามั่ง มันก็ใส่โอเคนะครับ แต่คงเพราะสภาพสนามไม่เอื้อ ซื้อมาได้ไม่เท่าไหร่ พื้นมันหักกลางซะงั้น ผมเลยค่อนข้างอคติกับ NIKE พอสมควร เรื่องพื้นรองเท้า และไม่กล้ากลับไปคืนดีเลยนับจากนั้น - PUMA เคยคบกันเล่นๆ คับ ใส่นิ่มดี แต่ไปทำหายที่ไหนไม่รู้ หลังจากพลัดพรากกันไปคราวนั้น ก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย PUMA King สมัยนี้มันก็แพ๊งแพง ราคาระดับนั้น ไปซื้อ Predator ดีกว่า!! - KIKA เป็นรองเท้าสัญชาติกาหลีที่เจ๋งมากๆ ครับ สภาพหนังค่อนข้างใกล้เคียงกับ Copa แต่ความทนหรอ น้อยกว่ามาก Copa นี่เป็นรองเท้าที่ทนสุดๆ จริงๆ ... ผมมักจะซื้อ KIKA มาใช้เวลาต้องลงซ้อมสภาพสนามแข็งๆ หรือแฉะๆ ... ตอนที่เล่นที่อิตาลี ก็ฝากมี๊ซื้อส่งไปให้เหมือนกัน เพราะสนามซ้อมที่โน่น สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไหนจะแข็ง ไหนจะเจอหิมะอีก เวลาซ้อมปกติเลยต้องพึ่งพาเจ้า KIKA นี่แหละ - ADIDAS เป็นรองเท้าที่รูปทรงเหมาะกับเท้าผมมากที่สุดเลย คู่แรกที่ใช้คือ Predator รุ่นไหนจำไม่ได้แล้วครับ ผมใช้ ADIDAS เป็นครั้งแรก เมื่อตอนที่ NIKE มันหักกลางลำนั่นเอง หลังจากนั้นผม็จะใช้ ADIDAS เป็นรักหลักของผมตลอดมา มีทั้ง Predator (เป็นส่วนมาก) รวมทั้ง Copa ด้วย ซึ่ง Copa นี่เปนรองเท้ารุ่นเดียวที่ผมเคยซื้อมาใช้มากกว่า 1 ครั้ง คือสมัยเด็กครั้งนึง และเมื่อตอนต้นปีอีกครั้งนึง - ตราไก่ !! รองเท้าสตั๊ดตราไก่ราคา 99 บาท เป็นสตั๊ดที่มัดขายตามร้านกีฬาอาแปะในตลาด มัดขายหยั่งก่ะแหนม ด้วยความที่อยากรู้ว่าทำไมมันถูก เลยไปซื้อมาลองใส่ ... สรุปว่าเอาเงินทิ้ง 99 บาทฟรี ... สตั๊ดบ้าอะไรไม่รู้ แข็งโคตรๆ ผมว่าผมเจอ PAN เลวร้ายมาแล้ว มาเจอตราไก่ ... สุโค่ยยยยย!!! แล้วยิ่งตอนนั้นผมอุตริ อยากได้รองเท้าสีอื่นนอกจากสีดำ ก็เลยเสร่อไปซื้อสีสเปร์แดงแป๊ดมาพ่นรองเท้าตราไก่นี่แหละ แม่เจ้า สีเจ็บมาก แต่ใส่เล่นแล้วเจ็บกว่า หนังพลาสติกเดิมของมันที่ว่าแข็ง พอเจอสีเข้าไป ยิ่งกว่าเดิมอีก ........ เออ ตอนเด็กๆ ก็คิดไปได้เนาะ กรู T_T จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 86 จบชีวิตรักพเนจรไปเรียบร้อยแล้ว พอพ้นรั้วโรงเรียน เข้าสู่มหาวิทยาลัยไร้รั้ว ผมก็คิดได้ว่า รักจริงๆ ผมของ มันอยู่กับ ADIDAS เท่านั้น เนื่องจากพอเข้ามหาลัย ผมก็เลิกเล่นบอลจริงๆ จังๆ หันมาตะบอลแบบขำๆ เอามันส์ไปวันๆ แทน เพราะคิดว่าอาชีพเตะบอลในประเทศไทย คงไม่ใช่อาชีพที่น่าสนใจเท่าไหร่นัก (เว่อร์...จริงๆ จะไปจีบสาวมหาลัย เลยไม่อยากเตะบอล!!!) ตั้งแต่ ปี1 จนถึงตอนนี้ ผมมีสตั๊ดใช้อยู่แค่ 4 คู่เองคับ ... เรียกได้ว่าพฤติกรรมหลายใจมันถูกล้างไปแล้ว รักเดียวใจเดียว อยู่ด้วยกันจนตายจากกันไปข้างนึง ถึงได้แสวงหาคน เอ้ย คู่ใหม่ แหละนี่คือโฉมหน้าของสตั๊ดเมื่อตอน ปี1 ครับ ADIDAS Predator รุ่นไรอันนี้จำไม่ได้คับ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คู่นี้อยู่กับผมนานมาก ตั้งแต่ ปี 1 ยันปี 4 เลย จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สภาพมันตอนนี้ ร่างกายแข็งมากแล้ว เคยลองเอาไปปัดฝุ่นใช้งานเหมือนกัน วิ่งไม่กี่เก้า ดินทรายเต็มรองเท้าเลย เพราะรอบตัวมันรอยรั่วเยอะมาก จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 89 กลัวมันไม่อิ่ม เลยให้อาหารมันคาปากไว้อย่างงั้นแหละ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สภาพหนังรองเท้าที่เสื่อมอย่างเห็นได้ชัด (หรือว่าสกปรกวะ?? ) จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อีกรูป จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 หลังจากทนใช้คู่นี้อยู่จนจบปี 4 ผมก็คิดว่า เราคงเข้ากันไม่ได้แล้วจริงๆ เลยตัดสินใจลดความสัมพันธ์กัน จากคู่รัก เป็นแค่เพื่อน เมื่อไหร่คิดถึง ค่อยกลับไปหา แล้วก็มาเจอกับสาวน้อยคู่ใหม่ ซึ่งก็เป็น Predator เหมือนกัน แต่เป็นรุ่นใหม่กว่า เสียดายที่ผมไม่เคยมีภาพตอนที่เค้ายังสาวและสวย ... มีแต่ภาพตอนเค้ายับเยินไปแล้ว และคู่นี้ก็เป็นคู่ที่อยู่กับผมนานเหมือนกัน 2 ปีได้มั้ง ใส่ลุยทุกสนามเลย (ก็มีใช้อยู่คู่เดียว) จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ลักษณะมันจะเยินกว่าเจ้าคู่แรกอีกนะเนี่ย จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 94 รูปก่อนหน้านี้จะเห็นว่า หน้าเท้าซ้ายไปซะแล้ว แผลเหวอะมาก ... อ่ะ โพสท์ท่าสวยก่อนสิ้นใจถาวร (อีกรอบ) จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ลืมรูป จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ถัดจาก Predator แล้ว ผมก็พยายามมองหาคู่ใหม่มาทดแทน จริงๆ อยากลองใช้ AdiPure แต่เนื่องจากของยังไม่เข้า แล้ว Predator ผมมันก็ไม่สามารถฝืนสังขารได้อีกต่อไป ทางเลือกเดียวที่เหลือคือ กลับไปหาซื้อ Copa มาอีกรอบ แม่เจ้า Copa สมัยก่อน 2,000 นี่แพงแล้ว ... ราคา ณ ปัจจุบันผ่านมา 10 ปี มันขึ้นเป็น 4,300 นี่ขนาดซื้อของหิ้วนะเนี่ย!! จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สภาพตอนคบกันใหม่ๆ งามมาาาาาาก ดูทีไรก็คลาสสิค จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 98 แต่อยู่ด้วยกันไม่ถึงปี เจอใช้งานอย่างสมบุกสมบัน จากที่เตะอาทิตย์ละครั้ง ฟิตมาเตะอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ... มันเลยไปไวมาก ไม่น่าเชื่อว่า Copa ที่ว่าทนๆ ผ่านมากี่เดือนจะมีสภาพเป็นเยี่ยงนี้!! จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 99 โอ้วว จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ไม่ว่าคู่ไหนๆ มันก็ชอบกินดินกินหญ้ากันทั้งนั้นเลยแหะ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สภาพสีข้างชัดๆ อีกรูป จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ทุกวันนี้ Copa ยังไม่ถึงกับตาย แต่คงไม่พร้อมจะลุยเกมหนักๆ แหละ สภาพพื้นรองเท้าก็ย่ำแย่เต็มทน ผมจะเอาไว้ใส่เฉพาะในกมที่เล่นสนามแย่ๆ เท่านั้นแหละครับ ถ้าอยากเจอตัวเป็นๆ ขอดูได้นะครับ มันนอนพะงาบๆ อยู่หลังรถผมถาวรแล้ว จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ส่วนนี่่คือ AdiPure ... คู่รักคนปัจจุบันของผม จริงๆ อยากได้สีขาวมากกว่า ตอนซื้อ Copa มาใหม่ๆ อีกเดือนกว่าๆ ถัดมา AdiPure ก็เข้ามาไทย มีทั้งคำทั้งขาว สวยๆ ทั้งนั้น แต่ผมมี Copa อยู่แล้ว ด้วยความที่เปนคนรักเดียวใจเดียว (มากๆ ) ก็เลยไม่นอกใจมัน สุดท้าย พอรักของ Copa ไปไม่รอด เลื่อนสถานะลงมาเปนแค่กิ๊กในยามต้องการ ... เจ้า AdiPure สีขาวที่ผมหมายปองไว้ ก็ขาดตลาด ไม่มีการนำเข้าแล้ว ซะงั้น!! เหลือแต่ AdiPure สีกรมท่าแบบนี้เท่านั้นเอง สนนราคาซื้อบนห้าง ก็ 4,200 หน่อยๆ ครับ โชคดีที่บัตร SuperSports มันลดราคาได้เยอะ ไม่งั้นคงต้องไปเดินเสี่ยงเอาหลังสนามศุภเพื่อจะได้ราคานี้ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 104 จากเท่าที่ลองใช้ AdiPure เป็นรองเท้าที่ใช้งานดีครับ ค่อนข้างทน แม้จะมีบางกระแสบอกว่าพื้นมันชอบหักกลาง แต่นั่นคงเป็นเพราะคุณกับเค้าเข้ากันไม่ได้มากกว่า ส่วนผมกับเธคู่นี้ เข้ากันได้ดีอย่างแรง ตอนซื้อมาแรกๆ ยิงไม่ได้หลายเกม จะเขวี้ยงทิ้งอยู่ละ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ผมชอบหนังของ AdiPure ครับ นุ่มมาาาาาาาาาก นุ่มหยั่งก่ะตูดเด็ก!! ส่วนพื้นก็เกาะสนามดีกว่า Copa เพราะเป็นปุ่มแบบใบมีด แผ่นรองรองเท้าก็มีความหนากว่า Copa ทำให้ยิ่งนุ่มเข้าไปใหญ่ ผมเลยหลงรักเจ้าตัวนี้มากเลยครับ และคิดว่าคงจะอยู่กับมันอีกนาน อย่างน้อยๆ ก็น่าจะกลางปีนี้แหละครับ รักนะ จุ๊บๆ !! แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 22:42:42 จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ลืมรูป!!! จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 107 รักนะ จุ๊บๆ !! (อีกรอบ) ------------พบกันใหม่ คู่หน้าครับ------------ จากคุณ : supernont - [ 2 ม.ค. 52 18:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 108 #86 คู่นี้รุ่นเดียวกะ #29 ของพี่ Predator Precision จากคุณ : 9ho - [ 2 ม.ค. 52 20:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ^ ^ ^ เป็นรุ่นที่คนญี่ปุ่นเอามาพิมพ์ซ้ำด้วยนะ จากคุณ : Ryuichi - [ 3 ม.ค. 52 01:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 110 AdiPURE II ออกแล้วนะนนท์ จากคุณ : Ryuichi - [ 3 ม.ค. 52 01:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แต่ละคน สตั้ดเยอะโคกๆ น่าสนใจจริงๆ คืนนี้ดึกแล้ว เดียวพรุ่งนี้มาส่งการบ้านนะคร้าบบ จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 02:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 112 #109 รู้สึกว่ารุ่นที่ญี่ปุ่นทำออกมาใหม่น่าจะเป็น Predator Accelerator ตาม #28 นะ จากคุณ : 9ho - [ 3 ม.ค. 52 02:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ชอบ Series สตั๊ดของพี่ต้นอะ บรรยายได้สุดยอดมากครับ !!! เรียงความชีวิตของผมกับฟุตบอล(และรองเท้าสตั๊ด) สตั๊ดของผมน่ะเหรอ... มันมาพร้อมกับความอยากเล่นบอลที่กลับคืนมาอีกครั้งนั่นเอง !!! สมัยยังเรียนอยู่ป.3 เคยเล่นบอลพลาสติก... กับรองเท้าบาจาหนังสีดำ... ที่โรงเรียนเวลาพักกลางวัน ข้าวเที่ยงเหรอ ไม่กินหรอก กว่าจะกินเสร็จก็สนามเต็มแล้ว โกล์ 2 อัน บอลไม่รู้กี่สิบลูก สมัยนั้นเริ่มดูบอลแล้ว ทีมที่เชียร์ ณ วันนั้น ก็ยังเป็นทีมเดิม คนที่เป็นแรงบันดาลใจก็คือ ปีเตอร์ ชไมเคิล ผมก็เลยเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูตามไปด้วย 555+ จากคุณ : opptimist - [ 3 ม.ค. 52 11:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 114 จนมาเลิกเล่นฟุตบอลไปตอนม.ต้น เหตุผลก็เพราะว่า ทะเลาะกับเพื่อนนั่นเอง เล่นทีไร ก็ต้องทะเลาะกันทุกที ทำให้เบื่อฟุตบอล เบื่อการดูบอล หมดศรัทธากับประโยคที่ว่า กีฬาสร้างมิตรภาพ... ก็เลยเนรเทศตัวเองออกจากวงการบอลพลาสติก ไปบ้าเกมส์ไพ่กระดาษ เกมส์ออนไลน์ จีบหญิง ฯลฯ หน้าตาก็เลยเป็นแบบนี้... จากคุณ : opptimist - [ 3 ม.ค. 52 11:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ชีวิตของผมเริ่มกลับมาหาฟุตบอลอีกครั้ง หลังจากที่เข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว ช่วงนั้นมีฟุตบอลโลก 2006 ด้วยความที่กำลังซึมเศร้าจากการถูกทิ้งนั่นเอง 555+ ทำให้เกิดความคิดอยากจะไปซื้อลูกบอลมาสักลูก แล้วเอาไปเตะอัดกำแพงให้หายเศร้าไปเลย ผลที่ตามมาก็คือ โดนด่า 555+ กิ่งต้นไม้หัก กระถางแตก ประตูรั้วบ้านหัก โคมไฟของคนข้างบ้านหัก ฯลฯ สร้างความเสียหายนับไม่ถ้วน - -" พี่ชายก็เลยชวนไปงานมืตติ้งศุภชลาสัย ไปเล่นฟุตซอลหญ้าเทียม แต่รองเท้ายังไม่มีใส่เลยอะ เลยเอารองเท้าผ้าใบ Nike สีน้ำเงินเข้มมาใส่ อย่าว่าแต่รองเท้าเลย ชุดเ้ล่นบอลยังไม่มีเลยเหอะ - -" (หารูปตัวเองตอนงานมิตติ้งไม่เจอแล้วอะ ขอโทษด้วยครับ) แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 12:02:16 จากคุณ : opptimist - [ 3 ม.ค. 52 11:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ก็เลยเอาวะ ไปขอหม่าม๊าซื้อรองเท้าสตั๊ดสักคู่เอาไว้เล่นบอลละกัน ขออยู่นาน ในที่สุด... ก็สำเร็จ !!! เข้าสูตรที่ว่า ฝีเท้าไม่ดี ขอสตั๊ดสวยไว้ก่อน ฮิฮิ แต่ภาพในรูป คือ สภาพปัจจุบันซึ่งเยินพอสมควร และฝุ่นเกาะผลจากการร้างสนามไปเกือบปี !!! รองเท้าหนังบาจา -> นันยางสีขาว -> Predator สีน้ำเงินคาดเงิน ผมเชื่อว่า ความกระหายที่อยากจะเล่นบอลของผม คงไม่มีวันเลือนหายไปอีกครั้งอย่างแน่นอน และสำหรับประโยคที่ว่า กีฬาสร้างมิตรภาพ... ในวันนี้ ผมกลับมาศรัทธากับมันอีกครั้ง เพราะ พี่ๆทุกคนใน LRFC ครับ ถ้าไม่ใช่ เพราะั ฟุตบอล ผมก็คงไม่ได้รู้จักพี่ๆทุกคนครับ ขอบคุณพี่ๆทุคนที่ช่วยให้คำปรึกษาต่างๆ ให้โอกาสผมลงเล่น จบแล้วครับ แอบนอกเรื่องไปเยอะ ขอบคุณที่อ่านครับ :) ปล.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กลับมาเล่นบอล เร็วๆนี้ !!! edit 1 ครั้งเพื่อความแมน !!! แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 11:59:55 จากคุณ : opptimist - [ 3 ม.ค. 52 11:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 117 *110 AdiPURE II ไม่โดนว่ะคับอาจารย์โน เดี๋ยวรอ Predator อ่ะ ตัวสีเทาคาดเหลือง สวยสุโค่ยเลย แต่อย่างว่านะ ถ้า AdiPURE ที่ใช้อู่ยังไม่พัง คงซื้อมาเก็บอ่ะ เพราะกลัวสีมันหมดเหมือนตอน AdiPURE ขาวดำ รอมันพังเป็นคู่ๆ ไป จากคุณ : supernont - [ 3 ม.ค. 52 19:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 118 #114 จากคุณ : 9ho - [ 3 ม.ค. 52 19:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 119 มาส่งการบ้านครับ มาช้าไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มา  นะจ๊ะ เริ่มจากวันแรกที่ดูบอล จำได้ว่าเป็นคู่ ลิเวอร์พูลกับเชลซี  ถ้าจำไม่ผิดแมทนั้น ลิเวอร์พูลชนะ4-2มั้ง ประมาณปี97 ตอนนั้นประมาณ ป.5 จากนั้นไม่นาน ก็เริ่มติดตามฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง จนได้พ่อนี่แหละที่จับไปฝึก ฝึกทุกอย่าง(ที่เราไม่อยากจะฝึกเลย) จำได้ว่า พ่อพูดว่า ฝึกอย่างงี้ไปก่อน เดียวโตไปก็รู้เองแหละว่าฝึกแบบนี้ไปทำไม ให้ฝึกเลี้ยงบอลไปมาหลบกระถางบ้าง กระป๋องบ้าง(ตอนนั้นบ้านจน ใช้กระป๋องไปก่อน 555+) สตั้ดคู่แรกที่ใช้ตอนนั้นใส่เบอร์40 ของFBT ลายแดงดำ แต่ตอนนี้มันไม่อยุ่แล้ว ทิ้งไปหลายปีแล้ว เนื่องจากไม่มีรูป เอารูปรองเท้าของแชมป์ไปแทนก่อนละกัน 55 จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 20:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 120 หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยจะได้ใช้สตั้ดเลย กว่าจะมาใช้อีกทีก็ใส่ไม่ได้แล้ว คู่ที่สองเป็น แพน(เค้ก)  แพตทิอ๊อด จำได้ว่ารุ่นนั่นซิโก้เป็รพรีเซนเตอร์ให้ ราคา 2xxx จำไม่ได้เหมือนกัน รุ้แต่ตอนนั้นทุบกระปุกมาซื้อเลย ตอนแรกจะเอารุ่นรองลงมาแต่มันไม่มีไซด์ เลยต้องจำยอมเอารุ่นนี้ พื้นรองเท้ารวมถึงภายใน ค่อยข้างใช้ได้นะครับ เหมาะกับสลีระเท้าของตัวเองซึ่งใหญ่และบาน (อย่าคิดลึกนะ พูดถึงเท้านะคับไม่ใช่อย่างอื่น) ใส่ตั้งกะเข้าม.1 ไปจนถึงม.3 แต่มันเป็นสตั้ดได้เพียงปีเดียวมันก็ขาด เลยเอาไปเปลี่ยนพื้นเป็นฟุตซอล ก็ใส่มันจน ม.3แหละ ค่อนข้างคุ้ม เพราะเตะทุกวัน ช่วงนั้นซ้อมบอลรร.ทุกเย็น ใส่จนขาดเลย สังเกตุที่หัวนิ้วโป้งขวา อ่อลืมบอลไป คู่ที่พูดถึงก็คือ ทางขวาล่างของรูปนะครับ เชือกข้างนึงแดงข้างนึงดำ ทำไปได้ จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ต่อมาเป็นล๊อตโต้ครับ คู่นี้ใส่ตอนประมาณ ม.3 ปลายๆ ตอนนั้นจำได้ว่ารร.จ้างโค้ชมาฝึกให้เป็นจริงเป็นจัง เลยต้องหาซื้อมาใส่ให้มันเป็นระเบียบ แต่รองเท้าคู่นั้นก็หมดวาสนาจะได้อยุ่ด้วยกัน เพราะใช้อยุ่ได้ไม่นานก็มีนางฟ้าแสนสวย(แม่) ซื้อสตั้ดคู่ใหม่ให้ ภาพสตั้ดเป็นคู่ที่แม่ซื้อให้นะครับ เพราะคู่ที่กล่าวถึงตอนต้นนั้นถูกเพื่อนที่อยุ่ในทีมรร.ยืมไป แล้วก็ใส่ขาดกระจุย แอบเสียดายนิดนึง แต่ช่างมันเหอะ จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คู่ที่แม่ซื้อให้ช่างทนเหลือเกิน ใส่จนถึงม.6 มันก็ยังไม่พัง ทั้งๆที่ตัวเองอยากได้คู่ใหม่ใจจะขาด 55 แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่พัง มาพังตอนอยู่ปี 2 ดูจากพื้นยังไม่สึกหรอมากเท่าไหร่ แต่กาวมันเอาไม่อยุ่แล้ว ก็ต้องปลดประจำการมันเสียที จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 123 หลังจากจบ ม.6 ก็ห่างหายจากการเตะฟุตบอลมานาน นานมากเหลือเกิน ทั้งไม่มีเพื่อนและไม่อยากเตะ จนถึงเวลาที่สตั้ดขาดก็ยิ่งไม่อยากเตะเข้าไปอีก ช่วงที่สตั้ดขาด ยังไม่ได้หาซื้อคู่ใหม่ ก็ต้องเอาของพ่อ ยืมมาใส่ชั่วคราว รู้สึกจะใส่ไปแค่ 2-3นัดเอง เพราะมันไม่กระชับ และที่สำคัญ มองแล้วมันไม่สวยและไม่เท่เลย จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 124 และในที่สุดก็จำเป็นต้องซื้อสตั้ดคู่ใหม่เสียที จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจเลือกคู่นี้มาด้วยซ้ำ แต่เพราะช่วงนั้นเรียนหนัก งานเยอะ ไม่มีเวลาไปซื้อทั้งๆที่รู้ว่าจะมีรายการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จนในที่สุดวันแข่งก็มาถึง แล้วรองเท้าล่ะ......ยังไม่ได้ซื้อเลยง่ะ หุหุ แล้วก็ต้องขับรถไปซื้อตอนเช้า ที่เซนท่าน พระราม 2 ชั้น 2 ร้านอะไรไม่รุ้ จำชื่อไม่ได้ อยู่ตรงร้านค๊อฟฟี่เวอร์ เอาตังไปแค่พันเดียว ถูกจำกัดงบ เลยได้มาแค่เนี้ยอ่ะ จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 125 รายการนั้น รองเท้าก็ใหม่ แถมคนก็ใหม่ เพราะไม่เคยเตะรายการนั้นเลย ลงไป 2 นัด นัดแรก 1 ประตู จากลูกชิบข้ามหัวผู้รักษาประตูสุดสวย นัดที่ 2 ยิงแฮตทริก ยิงไกล 1 ลูก เผาขน 1 ลูก และฟรีคิกเสียบสามเลี่ยมอีก 1 ลูก เป็นแฮตทริกในการแข่งแบบจริงจังครั้งแรกในชีวิต จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ดูจากสภาพยังใหม่เอี่ยมอยุ่เลย  แอบเสียดายนิดๆตอนซื้อคู่นี้ไป 2 วัน เดินที่เดอะมอลล์บางแค ตอนนั้นมันลดทั้งห้าง ไปเจอล๊อตโต้ สีส้มสวยถูกใจ ราคา 7xx ถูกกว่าที่ใช้อยู่อีก แต่ทำงัยได้ ซื้อมันมาแล้ว ก็ต้องใส่ให้คุ้มก่อน แต่ก็ไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน เพราะคู่นี้ ถึงแม้จะมีความทรงจำที่ดี(ทำแฮตทริกแรกในชีวิต) แต่ใส่คู่นี้ลงสนามทีไร เป็นได้พองทุกครั้งไป แถมหลังที่ไปเตะกับ LRFC ยังได้เล็บเปิดเป็นของแถมอีกตังหาก จากคุณ : Striker no.9 - [ 3 ม.ค. 52 21:37:57 ]