ความคิดเห็นที่ 1 เจตนารมย์ประจำโต๊ะ "โต๊ะน้ำชา เป็นที่เสวนาของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ "ปืน" และเป็นการเสวนาที่สร้างสรรค์ หรือถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่อ  เราจะไม่วิวาทกับใคร ถ้าใครไม่มาก่อวิวาทกับเรา" จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 11:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมของอาร์เซนอลประจำฤดูกาล 2008/09 เดือนมกราคม 2009 10  EPL    Arsenal - Bolton Wanderers                  22.00 น.   17  EPL    Hull City  - Arsenal                               17.30 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Everton   - Arsenal                               20..00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 31  EPL    Arsenal - West Ham United                   15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) เดือนกุมภาพันธ์ 2009 07  EPL    Tottenham Hotspur - Arsenal               15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 21  EPL    Arsenal - Sunderland                           15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 24  UCL   Arsenal - Roma                                    19.45 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Arsenal - Fulham                                 15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) **เวลาที่อังกฤษช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง** จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 11:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปการยิงประตูของนักเตะอาร์เซนอล 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  12 ประตู (EPL 8, UCL 2, FA 2) 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  11 ประตู (EPL 7, UCL 4) 3.  ซามีร์ นาสรี่  5 ประตู (EPL 4, UCL 1) 4.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  5 ประตู (EPL 1, UCL 2, Lge Cup 2) 5.  วิลเลี่ยม กัสลาส  5 ประตู (EPL 2, UCL 3) 6.  คาร์ลอส เวล่า  4 ประตู (Lge Cup) 7.  ธีโอ วัลคอตต์  3 ประตู (EPL 1, UCL 2) 8.  เดนิลสัน  3 ประตู (EPL) 9.  เจย์ ซิมป์สัน 2 ประตู  (Lge Cup) 10. อาบู ดิยาบี้  2 ประตู (EPL 1, UCL 1) 11. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  1 ประตู (EPL) 12. แจ๊ค วิลเชียร์  1 ประตู (Lge Cup) 13. เซสก์ ฟาเบรกาส  1 ประตู (EPL) 14. อเล็กซ์ ซง  1 ประตู (UCL) 15. อารอน แรมซีย์  1 ประตู (UCL) 16. มิคาเอล ซิลแวสตร์  1 ประตู (EPL) 17. กาแอล กลิชี่  1 ประตู  (EPL) *รวมประตูจาก UCL รอบคัดเลือก (กัสลาส 2, บายอร์ 1, เบนดท์เนอร์ 1, นาสรี่ 1, วัลคอตต์1) ------------------------------------------------------- สรุปการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู (Assist) 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  6 (EPL 3, UCL 3) 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  6 (EPL 4, UCL 2) 3.  เซสก์ ฟาเบรกาส  6 (EPL 4, UCL 2) 4.  เดนิลสัน  6 (EPL 5, UCL 1) 5.  ธีโอ วัลคอตต์  4 (EPL 1, UCL 3) 6.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  4 (EPL 2, UCL 1, Lge Cup 1) 7.  ซามีร์ นาสรี่  4 (EPL 2, FA 2) 8.  อารอน แรมซีย์  3 (EPL 1, Lge Cup 2) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  3 (EPL 2, UCL 1) 10. คาร์ลอส เวล่า  2 (Lge Cup) 11. คีแรน กิ๊บส์ (Lge Cup) 12. ฟราน เมริด้า (Lge Cup) 13. มิคาเอล ซิลแวสตร์  (UCL) 14. แจ๊ค วิลเชียร์  (Lge Cup) 15. โยฮัน ฌูรู  (Lge Cup) 16. อเล็กซ์ ซง  (EPL) *รวม Assist จาก UCL รอบคัดเลือก (ฟาน เพอร์ซี่ 1, เดนิลสัน 1, วัลคอตต์ 2,  เบนดท์เนอร์  1) **Lge Cup = Carling Cup ***ประตูของอาร์เซนอลในเกมกับฮัลล์ ซิตี้ เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ McShane ยึดตามเว็บ premier league ค่ะ http://www.premierleague.com/page/MatchReports/0,,12306~43945,00.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 11:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปจำนวนใบเหลือง 1.  กาแอล กลิชี่  6 (EPL 4, UCL 2) 2.  อเล็กซ์ ซง  6 (EPL 5, UCL 1) โดนแบนเกมเอฟเอคัพรอบสาม 3.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 6 (EPL 3, UCL 3) 5.  บาการี่ ซานญ่า 4 (EPL 3, UCL 1) 6.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  4 (EPL) 7.  อาบู ดิยาบี้  4 (EPL 3, UCL 1) 8.  เดนิลสัน 3 (EPL 2, UCL 1) 9. นิคลาส เบนดท์เนอร์ 3 (EPL1, UCL 1, FA 1) 10.  วิลเลี่ยม กัสลาส 2 (EPL) 11. โคโล่ ตูเร่ 2 (EPL) 12. ซามีร์ นาสรี่ 1 (EPL) 13. โยฮัน ฌูรู 1 (UCL) 14. อารอน แรมซี่ย์ 1 (Lge Cup) 15. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 1 (UCL) 16.  เซสก์ ฟาเบรกาส 5 (EPL) -----*** ล้างใบเหลืองเรียบร้อยแล้ว *รวม UCL รอบคัดเลือก (กลิชี่ 1, เดนิลสัน 1, ฟาน เพอร์ซี่ 1) ------------------------------------------------------- สรุปจำนวนใบแดง 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว **Lge Cup = Carling Cup แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 12:04:12 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 11:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข่าวประจำวันที่ 04/01/2009 *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* รายงานการแข่งขัน: อาร์เซนอล 3 - 1 พลีมัธ อาร์ไกล์ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ฉลองเกมแรกของเขาในฐานะกัปตันทีมอาร์เซนอลด้วยการทำสองประตูสำคัญในเกมที่ทีมของอาร์แซน เวนเกอร์พิชิตพลีมัธ 3-1 และลิ่วเข้าสู่รอบ 4 ของศึกเอฟเอคัพ หัวหอกชาวดัตช์โหม่งประตูแรกได้ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง และทำสกอร์ปิดท้ายได้ก่อนหมดเวลา 5 นาที ระหว่างสองประตูนั้นเป็นเดวิด เกรย์ที่ทำลูกเข้าประตูตัวเองก่อนที่คาร์ล ดูกิดจะแก้คืนได้ทันควันให้ทีมนักเดินทางมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง สกอร์อาจจะบอกว่าอาร์เซนอลเจองานง่ายแต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย จริงๆแล้วพวกเขาปลอดภัยจริงๆก็ตอนที่กัปตันทีม ซึ่งได้สวมปลอกแขนแทนเชส ฟาเบรกาสและมานูเอล อัลมูเนีย ยิงประตูได้ก่อนเสียงนกหวีดหมดเวลาจะดังขึ้น อย่างไรก็ตามงานอย่างแรกของอาร์เซนอลในวันนี้ก็คือการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ขึ้น ก่อนเกมนี้เวนเกอร์บอกว่าเขาจะส่งนักเตะตัวจริง 90 เปอร์เซ็นต์ลงสนาม และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ลูคาซ ฟาเบียนสกี้ได้ลงเฝ้าเสาตามที่ผู้จัดการทีมบอกไว้ว่าจะให้นายทวารชาวโปแลนด์ทำหน้าที่ในรายการนี้ในฤดูกาลนี้ ขณะที่อารอน แรมซี่ย์ถูกส่งลงเล่นในแผงมิดฟิลด์ ฟาน เพอร์ซี่กลับมาลงเล่นในแนวรุกอีกครั้งและรับหน้าที่กัปตันทีมเป็นครั้งแรก ดังนั้นเอ็มมานูเอล อเดบายอร์จึงถูกถอดไปเป็นตัวสำรอง เดนิลสันไม่ได้ลงเล่นเพราะเจ็บหลัง ขณะที่อเล็กซ์ ซงติดโทษแบน กาแอล กลิชี่ได้พักและมิกาแอล ซิลแวสตร์ก็ถูกโยกไปยืนแบ๊กซ้ายแทนเพื่อให้โยฮัน ฌูรูได้กลับมาลงสนาม เอฟเอคัพรอบ 3 ถือเป็นโปรแกรมสำคัญในปฏิทินฟุตบอลมาตลอด ดังนั้นแฟนบอลพลีมัธกว่า 9,000 คนจึงตามมาเชียร์ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมในนัดนี้ แม้พวกเขาจะมีผลงานระดับกลางๆในแชมเปี้ยนชิพก็ตาม การเข้าเสียบดุของดูกิด กัปตันทีมเยือน สองครั้งในช่วงต้นเกม บอกได้ว่าพลีมัธจะไม่ยอมสยบให้กับชื่อชั้นของเจ้าถิ่นอย่างแน่นอน ถึงอย่างนั้นอาร์เซนอลก็เริ่มเกมได้อย่างมีชีวิตชีวาและน่าจะได้ประตูนำตั้งแต่นาทีที่ 6 เมื่อลูกยิงแป้กของแรมซี่ย์หลุดเข้าไปทางของฟาน เพอร์ซี่ที่ไม่สามารถยิงผ่านโรแมง ลาร์ริว ผู้รักษาประตูพลีมัธ ได้ในทั้งสองครั้ง เกือบจะทันทีหลังจากนั้นที่อีกฝั่งของสนามงเจมี่ แม็คคีก็ได้วอลเลย์เร็วไปติดบล็อก มันเรียกเสียงเชียร์จากแฟนบอลทีมเยือนได้มาก แต่ทิศทางของเกมก็ไม่ได้อยู่ข้างพวกเขา ในนาทีที่ 15 เอบูเอ้ก็ทำชิ่งกับนาซรี่และทำให้ลาร์ริวต้องโชว์การเซฟเอาไว้ ฟาเบียนสกี้ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากกองหลังของเขาหลังจากคริส คลาร์กพาบอลลุยขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดเรียดเข้ากลางไปที่เสาใกล้ แต่ลูกโยนเข้ากลางของซานญ่าก็ผ่านลาร์ริวไปได้ และเมื่ออาร์เซนอลเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษอีกครั้งจากฝั่งซ้าย เบนดท์เนอร์ก็โขกหลุดกรอบ ก่อนเกมจะครบครึ่งชั่วโมงการบุกกดดันของอาร์เซนอลก็นำมาสู่ลูกเตะมุม ครั้งแรกมันถูกเคลียร์ออกไปได้แต่เอบูเอ้ก็กระดกบอลไปให้กัลลาสที่ฝั่งขวาของเขตโทษได้ กองหลังชาวฝรั่งเศสซัดเรียดเต็มเท้า บอลแฉลบคริส บาร์เกอร์ไปทางลาร์ริว แต่นายทวารทีมเยือนก็ทำได้ดีในการพุ่งไปคว้าไว้ได้แบบอาศัยโชคช่วยนิดๆ ลาร์ริวเริ่มเจองานหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เขาป้องกันลูกยิงของเบนดท์เนอร์เอาไว้ได้ก่อนที่ซิลแวสตร์จะถูกแทนที่โดยคีแรนกิ๊บส์ คาดกันว่าอดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถูกเตะจนเจ็บ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามากนักจนกระทั่งถูกเปลี่ยนออก แต่หลังจากเปลี่ยนตัวไปแล้วอาร์เซนอลก็ต้องเล่นแค่ 10 คนเมื่อกัลลาสหายเข้าไปในอุโมงค์อยู่สองสามนาทีก่อนจะกลับออกมาเล่นต่อได้โดยไม่มีปัญหาอะไร จนถึงตอนนี้พลีมัธเริ่มจะมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ลูกยิงย้อยของพอล กัลลาเกอร์ทำให้ฟาเบียนสกี้ต้องปัดข้ามคานออกไป อย่างไรก็ตามก่อนครึ่งแรกจะจบลง เอบูเอ้ก็ได้ยิงและเบนดท์เนอร์ได้โหม่งแต่ไม่เข้ากรอบ ขณะที่แรมซี่ย์ก็ได้ซัดไปติดบล็อก พลีมัธมีจังหวะของพวกเขาเช่นกันในครึ่งแรก แต่ในช่วงพักครึ่งดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ว่าอาร์เซนอลจะทำประตูได้เมื่อไหร่เท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะที่สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 ทีมเยือนก็ยังมีความหวังอยู่เสมอ และนั่นมีความหมายมากในเกมของรอบ 3 ความหวังดังกล่าวเริ่มหดหายไปตั้งแต่สองนาทีแรกของครึ่งหลังและแทบจะหมดลงในอีกไม่นานหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามทีมเยือนก็ยังมีพิษสงอยู่ อาร์เซนอลขึ้นนำตั้งแต่ต้นครึ่งหลังจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย นาซรี่เปิดเข้าไปในเขตโทษและฟาน เพอร์ซี่ที่ยืนอยู่โล่งๆก็ก้มตัวโหม่งเข้าประตูไป เป็นประตูง่ายๆประตูหนึ่ง ภายในสามนาทีถัดมาสกอร์ก็ขยับไปเป็นเท่าตัว เอบูเอ้เปิดบอลให้ฟาน เพอร์ซี่หลุดขึ้นไปทางขวาของเขตโทษและเขาก็เปิดเข้ากลางไปให้เบนดท์เนอร์ยิงในระยะเผาขน แต่น่าจะเป็นเดวิด เกรย์ กองหลังของพลีมัธ ที่โดนบอลเป็นคนสุดท้าย ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริง เขาก็แก้ตัวได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 52 เมื่อลุค ซัมเมอร์ฟิลด์เปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ บอลถูกสกัดไม่ขาดจนหลุดไปถึงเกรย์ ซึ่งสอดขึ้นมาที่ฝั่งขวาของเขตโทษ เขาเปิดบอลเรียดเข้าไปในเตโทษและดูกิดก็จิ้มบอลเข้าประตูไปในระยะเผาขนก่อนฉลองอย่างบ้าคลั่งต่อหน้าแฟนบอลทีมเยือน เกมเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามประตูนั้นก็กลายเป็นเพียงการยับยั้งอาร์เซนอลไว้เท่านั้น จู่ๆทีมเยือนก็อยากจะรักษาสกอร์ที่นำอยู่เอาไว้เฉยๆ ทำให้คาร์ลอส เวล่าถูกส่งลงไปแทนเอบูเอ้และลงเล่นในตำแหน่งประจำของเขาทางฝั่งซ้าย รอรี่ ฟอลลอนยิงไกลไปตกบนตาข่ายหลังประตูในช่วงท้ายเกม แต่สองนาทีถัดไปแรมซี่ย์ก็ทำแบบเดียวกันที่อีกฝั่งของสนาม เมื่อเหลือเวลาอีก 8 นาทีกิ๊บส์ก็กดดันลาร์ริวจนสกัดบอลทิ้งออกมาไม่ดี และลูกยิงไกลของนาซรี่ก็ถูกมาร์เซล เซปสกัดไว้ได้บนเส้นประตูขณะที่นายทวารของทีมได้แต่ยืนมอง สองนาทีให้หลังกิ๊บส์ ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ก็ยิงเฉี่ยวเสาออกไป อย่างไรก็ตามประตูที่สามก็อยู่อีกไม่ไกลแล้วเมื่อนาซรี่เปิดบอลให้ฟาน เพอร์ซี่ควบขึ้นไปจากกลางสนาม หัวหอกชาวดัตช์กระดกบอลผ่านลาร์ริวไปได้ก่อนจะยิงเช็ดคานเข้าไป พลีมัธเกือบจะทำประตูที่สองได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่อาร์เซนอลก็เคลียร์พ้นเส้นประตูไปได้ทันเวลา จริงๆแล้วเจ้าถิ่นน่าจะทำประตูเพิ่มได้เช่นกันเมื่อลูกยิงแฉลบของนาซรี่ไปชนคาน และแรมซี่ย์ก็ยิงเรียดไปติดเซฟของลาร์ริว ซึ่งเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ของพลีมัธในนัดนี้ ทีมเยือนปรบมือให้กองเชียร์ที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาเมื่อเกมจบลง และขณะที่เดินออกจากสนามพวกเขาก็ได้รับการยืนปรบมือให้เกียรติจากแฟนบอลเจ้าถิ่นเช่นกัน นี่เป็นหนึ่งในเกมที่ทั้งสองทีมสามารถเดินเชิดหน้าออกจากสนามได้ทั้งคู่ อาร์เซนอล: ลูคาซ ฟาเบียนสกี้, บาการี ซานญ่า, โยฮัน ฌูรู, วิลเลี่ยม กัลลาส, มิกาแอล ซิลแวสตร์ (คีแรน กิ๊บส์ 30), อาบู ดิยาบี้, อารอน แรมซี่ย์, ซาเมียร์ นาซรี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (คาร์ลอส เวล่า 69), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, นิคลาส เบนด์เนอร์ (แจ๊ค วิลเชียร์ 86) พลีมัธ: โรแมง ลาร์ริว, คริส คลาร์ก (เคร็ก นูน 78), คริส บาร์เกอร์, มาร์เซล เซป, คาร์ล ดูกิด, เจมี่ แม็คคี, ลุค ซัมเมอร์ฟิลด์, เดวิด เกรย์, เคร็ก แคธคาร์ท, รอรี่ ฟอลลอน, พอล กัลลาเกอร์ (ลอยด์ แซ็กซ์ตัน (72) ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เวนเกอร์ "เราทำงานของเราอย่างจริงจัง" อาร์แซน เวนเกอร์พูดถึงชัยชนะที่เด็ดขาดในเกมเอฟเอคัพรอบ 3 พูดถึงการผ่านเข้าสู่รอบ 4... เราทำงานของเราอย่างจริงจัง ถ้าเราไม่มีสมาธิอย่างเต็มที่และพร้อมจริงๆ เราอาจจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบในวันนี้ ผมให้เครดิตทีมของผมที่ทำหน้าที่อย่างจริงจังโดยมีสมาธิเต็มที่ และผมให้เครดิตพลีมัธที่มีเกมที่ดีเช่นกัน พูดถึงคู่ต่อสู้ที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น... ผมแปลกใจที่พวกเขาเล่นได้เป็นระบบขนาดนี้ และการที่พวกเขาแข็งแกร่งมากในการดวลกันต่อตัวต่อและการเข้าบอล พวกเขาไม่ยอมแพ้เลยและมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมาก ผมพูดไว้เมื่อสองอาทิตย์ก่อนว่าช่องว่างระหว่างทีมจากแชมเปี้ยนชิพกับพรีเมียร์ลีกลดลงแล้ว ลองดูผลการแข่งขันเอฟเอคัพในวันนี้สิแล้วคุณจะเห็น พูดถึงฟอร์มการเล่นของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ในฐานะกัปตันทีม... เขาใส่ใจในปัญหาและเรื่องราวของทีมเสมอและอยากช่วยแก้ปัญหาต่างๆอยู่ตลอด ในทีมชุดนี้เขาคือนักเตะที่เล่นให้ทีมมานานที่สุดและผมคิดว่าเขาทำหน้าที่ได้ดีมาก ผมเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เป็นตัวอย่างที่ดีว่าคุณสามารถพัฒนาขึ้นได้ เมื่อคุณมองเขาตอนที่เขามาที่นี่ใหม่ๆกับมองเขาในวันนี้ คุณจะเห็นว่าเขาพัฒนาขึ้นมาก มีคนไม่มากนักที่เชื่อว่าเขาจะเป็นกัปตันทีมอาร์เซนอลได้ตอนที่เขาย้ายมาใหม่ๆ พูดถึงเกมที่เปลี่ยนไปในครึ่งหลัง... ผมบอกว่าเราต้องคงความเร็วของเกมเอาไว้ให้มากที่สุด เพราะในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกดูเหมือนนักเตะจะเริ่มแผ่วลงไป แม้แต่ตอนที่สกอร์ 2-0 เราอาจจะคิดว่าเราทำได้มากพอแล้วและผ่อนเกมลงไป พวกเขาไล่มาเป็น 2-1 ได้และพวกเขาก็มีลูกตั้งเตะที่ดีและอันตรายอยู่เสมอ พวกเขาเล่นได้ดี พูดถึงประตูที่สองของอาร์เซนอล... ผมมองไม่เห็น ผมคิดว่าเป็นประตูของนิคลาส เบนดท์เนอร์ พูดถึงความเห็นของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเกี่ยวกับโปรแกรมที่แน่นเกินไปเมื่อเร็วๆนี้... วันนี้ผมมีโอกาสได้ดูโดยบังเอิญว่าเฟอร์กูสันตั้งคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมการแข่งขัน (มีโทรศัพท์เข้ามาพอดีในระหว่างการแถลงข่าว) เขาโทรมา เขาได้ยินได้ยังไงว่าผมพูดอะไรอยู่? เป็นอย่างนี้ทุกที่เลย! ผมต้องบอกว่าเราก็เช็กโปรแกรมเช่นกันเพราะเราอยากรู้อยู่เสมอ และผมคิดว่าเขาก็คงทำแบบนั้น แต่ผมคิดว่าเรามีข้อข้องใจเช่นกัน ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวนเกอร์ "ความจริงเกี่ยวกับการร้องขอย้ายของตูเร่" โคโล ตูเร่ได้ยื่นคำร้องขอย้ายทีมจริงแต่ก็ได้ขอถอนออกไปแล้ว อาร์แซน เวนเกอร์เปิดเผยข่าวดังกล่าวที่การแถลงข่าวก่อนเกมเอฟเอคัพกับพลีมัธ มันยืนยันข่าวที่สื่อรายงานในสัปดาห์นี้ แต่ผู้จัดการทีมปฏิเสธคำพูดที่ว่าการกระทำของตูเร่มีแรงกระตุ้นมาจากความขัดแย้งระหว่างเขากับวิลเลี่ยม กัลลาส แม้จะมีข่าวลือว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้สนใจเขา แต่ดูเหมือนว่ากองหลังชาวไอวอรี่ โคสต์จะยังอยู่ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมต่อไป "สถานการณ์คือเขาเป็นนักเตะที่เหลือสัญญาอยู่อีกสองปีครึ่งและจะยังอยู่กับเราต่อไป" เวนเกอร์กล่าว "ผมพอใจกับนักเตะที่ทุ่มเทให้กับทีมและโคโลก็คือตัวอย่างที่เด่นชัดในเรื่องนั้น มีเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆที่คุณอาจจะเอาไปคูณอีก 20 เท่าได้ มันเกิดขึ้นทุกวันในทุกสโมสรและตอนนี้มันก็คลี่คลายไปแล้ว โคโลมีความสุขดีที่นี่" ภายหลังผู้จัดการทีมถูกถามว่าตูเร่ได้ขอย้ายทีมจริงหรือไม่ "จริง" เวนเกอร์ตอบ "แต่เราคุยเรื่องนั้นกับเขาแล้วและผมคิดว่าเขาเปลี่ยนใจแล้ว" หลังจากนั้นกุนซือชาวฝรั่งเศสก็ถูกถามว่าเซนเตอร์แบ๊กรายนี้ได้ถอนคำร้องของเขาหรือยัง "ใช่" เขาตอบ ตูเร่ไม่สามารถสอดแทรกเข้าสู่ทีมอาร์เซนอลได้ในช่วงเดือนหลังๆ เพราะเวนเกอร์ไม่เต็มใจที่จะส่งกัลลาสและตูเร่ลงเล่นร่วมกันในตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊ก ก่อนที่อาการบาดเจ็บนาน 11 ชั่วโมงของโยฮัน ฌูรูจะทำให้ตูเร่ต้องถูกส่งลงเล่นในเกมกับแอสตัน วิลล่าในวันบ๊อกซิ่งเดย์นั้น ทั้งคู่ไม่ได้เล่นร่วมกันในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมแล้ว อยางไรก็ตามผู้จัดการทีมกล่าวว่ามันขึ้นอยู่กับรูปร่างที่สูงใหญ่และบุคลิกภาพของพวกเขา "มันไม่ใช่คำถามเรื่องที่ว่าเป็นโคโล ตูเร่หรือวิลเลี่ยม กัลลาส" เวนเกอร์กล่าว "มันเป็นเรื่องของการที่เมื่อทั้งคู่ลงเล่นร่วมกันเราจะขาดความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศไปบ้าง เราต้องการเพิ่มนักเตะรูปร่างสูงใหญ่ในตำแหน่งนั้น" "ผมคิดว่าโดยส่วนตัวแล้วพวกเขาเข้ากันได้ พวกเขาเข้ากันได้ดีกว่าที่คนทั่วไปคิด และถ้าคุณอยู่กับเราทุกวันคุณจะเห็นเรื่องนั้น ยังไงก็ตามไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ามิตรภาพที่แน่นแฟ้นจะช่วยให้คุณชนะเกมฟุตบอลได้" "โคโลมีปัญหานิดหน่อยตอนที่เขากลับมาจากการแข่งขันแอฟริกัน เนชั่นส์คัพ (ต้นปี 2008) เขาไม่ได้เฉียบคมเหมือนเดิมอีกแล้ว ตอนนี้เขากลับมาอยู่ในระดับการเล่นที่ดีเยี่ยมแล้วและเขาก็ทำงานอย่างหนักในการซ้อม" "โคโล ตูเร่เป็นคนที่ยอดเยี่ยม" ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 "เวนเกอร์" ชมแข้งปืนที่เล่นอย่างจริงจังจนชนะพลีมัธ       อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอล ออกมากล่าวชมลูกทีมที่เล่นกันอย่างเอาจริงเอาจังจนคว้าชัยชนะเหนือ พลีมัธ ทีมจากศึกแชมเปียนชิป 3-1 ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา             เกมนัดดังกล่าว "ปืนใหญ่" ทำประตูได้จากการยิงของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กองหน้าชาวดัตช์ที่เหมาคนเดียวสองประตูในนาทีที่ 47 และ 85 ส่วนอีกประตูได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เดวิด เกรย์ ขณะที่ทีมเยือนได้ประตูปลอบใจจาก คาร์ล ดูกิด ในนาทีที่ 53             ภายหลังการแข่งขัน เวนเกอร์ ออกมากล่าวชมลูกทีมว่า "พวกเราทำผลงานด้วยการเล่นที่จริงจัง ถ้าพวกเราไม่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เช่นนี้ พวกเราจะไม่สามารถผ่านเกมวันนี้ไปได้ ผมขอยกเครดิตให้กับลูกทีมที่เล่นกันอย่างเอาจริงเอาจัง"             กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าวยกย่องทีมคู่แข่งว่า "ผมขอยกเครดิตให้กับพลีมัธด้วยเพราะพวกเขามีเกมที่ดีเช่นกัน ผมรู้สึกประหลาดใจทีเดียวกับการเล่นของพวกเขาที่มีการจัดระบบระเบียบไว้อย่างดีเยี่ยมรวมถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาทุกครั้งที่เข้าแย่งบอล อย่างที่ผมเคยพูดเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อนว่าลีกแชมเปียนชิปและพรีเมียร์ ลีก มีช่องว่างที่ลดลง ดูได้จากผลการแข่งขันของฟุตบอลเอฟเอ คัพ ในวันนี้"             นอกจากนี้ เวนเกอร์ ยังกล่าวยกย่อง ฟาน เพอร์ซี ที่รับบทบาทกัปตันทีมในนัดนี้พร้อมกับช่วยทำสองประตูให้กับทีมว่า "เขาใส่ใจต่อปัญหาของทีมอยู่เสมอและมีความต้องการที่จะขจัดปัญหาให้หมดไป โดยเกมวันนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่อยู่กับทีมมายาวนานที่สุดและผมคิดว่าเขาทำผลงานได้ดีมาก ผมเชื่อว่าเขาเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถก้าวหน้าต่อไปได้อย่างไร หากคุณตัดสินตัวเขาจากเมื่อตอนที่เพิ่งย้ายเข้ามาร่วมทีมกับสิ่งที่เขาเป็นในวันนี้ คุณจะพบว่าเขาเติบโตขึ้นอย่างมาก เพราะหลายคนไม่เชื่อว่าเขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ (การเป็นกัปตันทีมอาร์เซนอล) หากวัดกับตอนที่เขาเพิ่งมาร่วมทีม" http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154184 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เวนเกอร์ชี้อีก10ปีค่อยตัดสินผลงานปืนโต อาร์แซน เวนเกอร์ เชื่อในเวลานี้อาจยังไม่มีแฟนบอลเล็งเห็นความสำเร็จของทัพอาร์เซน่อล แต่ในอีก 10 ปีข้างหน้า ทีมจะได้รับคำชมอย่างล้นหลามแน่นอน เหตุจากตนไม่ได้ทุ่มเงินกว้านซื้อนักเตะมาเสริมทัพอย่างบ้าคลั่งเหมือนบางสโมสร อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ออกอาการเชื่อมั่นว่า งานของตนกับทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" อาจยังไม่ได้รับคำยกย่องชื่นชมอย่างน้อยก็ต่อไปอีก 1 ทศวรรษ หลังยังคงยึดมั่นทำให้สโมสรมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเชื่อว่า ความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินก้อนโตในตลาดซื้อขายนักเตะ นายใหญ่แห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กล่าวว่า "ผมคิดว่า แฟนบอลซึ่งวิเคราะห์สโมสรใน 10 ปี หรือ 15 ปี จะตระหนักว่า นี่คือช่วงเวลาสำคัญของสโมสร และเป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นมาก และเป็นช่วงที่ยากลำบากด้วยเช่นกัน พวกเขาจะตระหนักว่า งานที่พวกเราได้ทำลงไปตลอด 2 หรือ 3 ปีที่ผ่านมานั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง" "สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นคือชัยชนะ และทำงานกับนักเตะที่มีมากกว่ากับคนที่ได้รับการคาดเดาหรือกำลังเจรจา สิ่งสำคัญคือสโมสรได้สร้างสนามแห่งใหม่ขึ้น และเราก็มีฐานการเงินอันแข็งแกร่ง ลองดูว่ามีกี่สโมสรที่ทำได้เช่นนี้ เราโลดแล่นอยู่ในระดับหัวแถว มีกี่สโมสรกันที่ได้สร้างสนามแห่งใหม่ มีฐานการเงินที่ดีเยี่ยม และยังคงทำผลงานได้ในระดับหัวแถว? ทีมชุดนี้ค่อยๆ ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ" กุนซือเฟร้นช์แมน ระบุ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_011.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตามคาด! เวนเกอร์บอกเซ็งผลงานปีที่แล้ว อาร์แซน เวนเกอร์ หวังว่าอาร์เซนอลจะพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีกว่าปีที่แล้วได้ โดยยอมรับว่าปีที่แล้วนั้นน่าผิดหวังจริงๆ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลยอมรับว่าปี 2008 เป็นปีที่จบได้ไม่ดีเลย แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในปี 2009 นี้ ปีที่ผ่านมา ปืนโตไม่ได้ถ้วยรางวัลใดๆติดมือเช่นเคย แถมตอนนี้ยังโดนจ่าฝูงลิเวอร์พูลทิ้งห่างไปถึง 10 แต้มแล้ว เดอะซัน รายงานว่าเวนเกอร์ยอมรับว่าปีที่แล้วเป็นปีที่น่าผิดหวังจริงๆ "ปี 2008 เป็นปีที่ไม่น่าปลื้มเอาซะเลย ผลงานของฤดูกาลที่แล้วจบลงด้วยความน่าผิดหวัง" เวนเกอร์เกริ่นก่อนจะเสริมว่า "เราไม่ได้แชมป์อะไรติดมือมาเลยทั้งๆที่น่าจะได้นั่นอาจะเป็นเพราะว่าอะไรๆมันก็ไม่เป็นใจ" เดอะกันเนอร์สยังต้องรีดเอาความสม่ำเสมอออกมาให้ได้ในฤดูกาลนี้ แต่บอสปืนใหญ่บอกว่าเขาไม่เคยตัดสินใจผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยบอกว่า "คุณไม่สามารถบอกว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดไปจากเดิมเลยไม่ได้หรอก เว้นแต่ว่าคุณจะโคตรโง่เลย" กุนซือเฟรนช์แมนยังมั่นใจว่าศักยภาพของสโมสรจะส่งผลดีออกมาในอีกไม่กี่ปี โดยอธิบายว่า "งานที่เราทำมาที่สโมสรนี้กว่าสองสามปีกำลังจะทำให้หลายๆคนประทับใจภายใน 10 ปีนี้" เวนเกอร์ยังได้ชี้ว่าสถานะทางการเงินของสโมสรเป็นจุดเด่นที่สุดของอาร์เซนอล โดยบอสเสริมว่า "เราบริหารการเงินมาถูกทางจนทำให้เรามั่นคงมากเพราะไม่ต้องดิ้นรนหนีตายเหมือนทีมอื่น" "เราไม่มีมีคนๆเดียวที่ควบคุมการเงินทั้งหมด และชะตากรรมของเราก็ไม่ได้ผูกไว้กับธนาคาร" กุนซือเฟรนช์แมนยังยืนยันว่าแม้จะไม่ได้ถ้วย แต่ก็ยังอยู่ในสถานะที่น่าพอใจอยู่ โดยทิ้งท้ายว่า "เรามีสนามใหม่แล้ว การเงินก็มั่นคงและเราก็ยังเป็นทีมอันดับต้นๆของตารางพรีเมียร์ลีกทุกปี" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=126929 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 “เวนเกอร์” รับเจอพิษเศรษฐกิจไม่ทุ่มซื้อนักเตะเสริมทัพปืน       อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล กล่าวยืนยันจะไม่ทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่งเพื่อซื้อตัวผู้เล่นรายใหม่มาเสริมทัพในช่วงเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากทีมได้รับผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำในเวลานี้เช่นกัน             อาร์เซนอล มีปัญหากับฟอร์มการเล่นไม่คงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้เนื่องจากประสบการณ์ของผู้เล่นในทีมที่มีไม่มากพอรวมถึงการเสียนักเตะคนสำคัญจากอาการบาดเจ็บทั้ง เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์กัปตันทีม หรือ ธีโอ วัลคอตต์ ศูนย์หน้าความเร็วสูง เป็นต้น             จากปัญหาข้างต้นทำให้ “เดอะกันเนอร์ส” ตกเป็นข่าวว่าเตรียมจะเสริมทัพเป็นการใหญ่ในช่วงเดือนมกราคมนี้ทั้งการทุ่มเงินกว่า 20 ล้านปอนด์ (ประมาณพันล้านบาท) เพื่อดึงตัว อังเดร อาร์ชาวิน ดาวเตะทีมชาติรัสเซียของ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก หรือการซื้อตัว มิเกล อาร์เตตา มิดฟิลด์ชาวสแปนิชของ เอฟเวอร์ตัน คู่แข่งร่วมลีก             แต่ล่าสุด เวนเกอร์ ออกมายืนยันว่าตนจะไม่ทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวนักเตะมาเสริมทัพเนื่องจากทีมได้รับผลกระทบจากสภาพทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำในเวลานี้เช่นกัน             “พวกเราได้รับงบประมาณไม่มากนัก ดังนั้นพวกเราจะพยายามใช้จ่ายมันอย่างคุ้มค่าที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่ผู้เล่นชุดนี้ของทีมก็กำลังมีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือสานต่อการพัฒนาให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง” กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าว             “พวกเราไม่ได้อยู่ในดินแดนแห่งความฝันที่จะซื้อตัวผู้เล่นมาร่วมทีมด้วยจำนวนเงิน 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) หรือ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2 พันล้านบาท) เพราะสิ่งนั้นไม่ถูกต้องจากความเป็นจริง” เวนเกอร์ ยืนยัน http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154067 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เวสต์บรอมหวังเจ้าหนูซิมป์สันตะบันแหลก โทนี โมว์เบรย์ บอสของเวสต์บรอมอยากจะให้นักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งจะยืมมาจากอาร์เซนอลยิงให้กับต้นสังกัดชั่วคราวเป็นถุงเป็นถังก่อนจะย้ายกลับไปรังปืน เจย์ ซิมป์สัน ได้รับแรงกระตุ้นจากผู้จัดการทีมคนใหม่ของเขาที่เวสต์บรอมวิชอัลเบียนให้สังหารประตูมากที่สุดเพื่อเดอะแบ็กกีเพื่อพัฒนาฝีเท้าตัวเองไปด้วย โทนี โมว์เบรย์เชื่อว่าเจ้าหนูที่ยืมมาจากอาร์เซนอลรายนี้มีดีพอที่จะเบียดแย่งขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ในพรีเมียร์ลีกเพื่อสร้างชื่อตัวเองและจะกลายเป็นนักเตะตัวหลักที่เอมิเรตส์ได้ต่อไปในอนาคตแน่นอน "ที่ผมหวังเอาไว้ก็คือว่านักเตะคนนี้จะยิงประตูได้เรื่อยๆนะ" โมว์เบรย์กล่าวในวันนี้ "แต่เขา(ซิมป์สัน)ก็เพิ่งจะมาซ้อมกับเราครั้งแรกเมื่อวันพฤหัส เขายิงคมดีนะและผมก็อยากจะใช้งานเขาเร็วๆ เขาเล่นกองหน้าฝั่งขวาได้ดี แต่ก็เคยเล่นฝั่งซ้ายแถมเคยลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ด้วย ในใจเขาคิดแต่เรื่องอยากจะเล่นแล้วก็ทดสอบว่าตัวเองอยูในพรีเมียร์ชิพได้รึเปล่า" "เราก็จะให้โอกาสเขาลงสนามแน่ เราจะดูก่อนว่าจะส่งเขาลงสนามช่วงไหนถึงจะดีที่สุดและก็จะดึงเอาประโยชน์จากเขาให้ได้มากที่สุด เขามีพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อมากแต่หลังจากนี้จะเก่งหรือไม่เก่งก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไป ผมไม่รู้หรอก" "เขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว มีพรสวรรค์ มีแรงผลักดัน มีความกระหาย และผมก็หวังว่าเขาจะไปได้สวยกับเรา" "ขอให้เขาเป็นนักเตะดาวดังของเราให้ได้นะ" เวสตร์บรอมวิชอัลเบียนอยากจะยืมนักเตะของอาร์เซนอลมาใช้งานมานานแล้วเพราะว่าลูกทีมของโมว์เบรย์นี้ชอบเล่นเกมต่อบอลไม่ใช่โยนยาวแบบทีมลีกผู้ดีทีมอื่นๆ และโมว์เบรย์ก็เชื่อว่าการได้ตัวมาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทีมมากมาย "ผมฟันธงได้เลยว่าหลายสโมสรอยากจะได้ตัวนักเตะอาร์เซนอล" เขาเสริม "ผมได้มาคนนึงแล้วทั้งๆที่เด็กคนนี้โดนสโมสร 15 แห่งรุมขอยืม ผมไม่รู้หรอกว่าคุณเวนเกอร์ปั้นยังไงถึงได้เก่งขนาดนี้ แต่ผมก็ดีใจที่ได้เห็นเจย์ ซิมป์สันมาเล่นกับเรา เขาไม่เคยขอลงตัวจริงเลย อาร์เซนอลเป็นทีมที่กำลังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีกอยู่ พวกเขามีแต่นักเตะดาวรุ่งที่ไม่ธรรมดาเลย แต่นักเตะพวกนี้ก็มาเล่นให้กับทีมที่ลุ้นการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ดีเหมือนกัน" "ก็แค่ความคาดหวังมันต่างกัน" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=126819 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มอยส์ยันไม่ขายอาร์เตต้าให้ปืน เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ยืนกราน จะไม่ขาย มิเกล อาร์เตต้า จอมทัพคนเก่ง แน่นอน แม้ลือกระฉ่อน อาร์เซน่อล พร้อมประเคนเงินก้อนโตให้ก็ตาม รับอยากได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพ แต่คงเป็นการทำสัญญายืมตัวมากกว่า เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน สโมสรชื่อดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่า ตัวเขาจะไม่ขาย มิเกล อาร์เตต้า เพลย์เมกเกอร์ชาวสแปนิช ออกจากทีมเด็ดขาด แม้จะมีข่าวลือว่า อาร์เซน่อล สโมสรเพื่อนร่วมลีก พร้อมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลถึง 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 660 ล้านบาท) ขอซื้อตัวไปร่วมทัพก็ตาม "เดอะ กันเนอร์ส" ตกเป็นข่าวว่า ต้องการดึง อาร์เตต้า มาเสริมทีม เพื่อแทนที่ เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์คนเก่ง ที่บาดเจ็บจนต้องพักยาว ขณะเดียวกัน มอยส์ ก็ยอมรับว่า "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ไม่มีเงินทุนซื้อนักเตะหน้าใหม่มาเสริมแกร่ง แต่ถึงกระนั้น กุนซือชาวสกอตต์ ก็ยืนกรานหนักแน่นว่า ในเดือนนี้ตัวเขาจะไม่ขายนักเตะกินอย่างแน่นอน       "แน่นอนเลยว่า ผมจะไม่พิจารณาขายใครเพื่อนำเงินมาซื้อนักเตะใหม่ ผมไม่มีเจตนาที่จะทำแบบนั้นเลยจริงๆ ไม่มีนักเตะคนไหนที่ผมอยากขายเลย ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมมี ถึงแม้ว่าพวกเรากำลังพยายามยืมตัวนักเตะหน้าใหม่มาใช้งานสัก 1-2 รายก็ตาม" อดีตนายใหญ่ เปรสตัน กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_033.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ็นซ็อกเบียยันพร้อมลาสาลิกา-รับปืนทีมในฝัน ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย วิงแบ็กกราบซ้าย นิวคาสเซิ่ล ยืนกราน ถึงเวลาที่ต้องโบกมืออำลาถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค แล้ว หลังตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลังๆ รับ อาร์เซน่อล คือทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่ตนฝันถึงมากที่สุด ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย วิงแบ็กฝั่งซ้ายของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่า ตัวเขาต้องการอำลาถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค หลังจากที่ไม่มีตำแหน่งตัวจริงกับ "สาลิกาดง" ในช่วง 2-3 เดือนล่าสุด ดาวเตะอนาคตไกลวัย 22 ปี กล่าวว่า "ผมคุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษ ดังนั้นการอยู่ที่นี่ต่อไปคือสิ่งที่ผมสนใจเป็นอันดับแรก ฝรั่งเศส น่ะเหรอ? ผมไม่รู้อะไรมากมายนักหรอก แต่ผมก็คิดถึงมันนะ ผมไม่ได้รับการติดต่อจากสโมสรในฝรั่งเศสเลย และก็สโมสรอื่นๆ ด้วย" "ผมได้ถามตัวเองเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของผมที่นิวคาสเซิ่ล พวกเราอยู่แถวๆ ท้ายตารางมา 3 ปีแล้ว ผมอยากคว้าแชมป์ และผมก็มีเป้าหมายส่วนตัวอย่างเช่นการติดทีมชาติฝรั่งเศสด้วย ผมได้พูดกับนิวคาสเซิ่ลถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการย้ายทีมแล้ว ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อได้ย้ายทีมในช่วงหน้าหนาวนี้ ถ้าหากสโมสรได้รับข้อเสนอที่งดงาม พวกเขาจะพยายามขายผมออกไป" วิงแบ็กชาวฝรั่งเศส ตบท้าย นอกจากนี้ เอ็นซ็อกเบีย ยังออกมายอมรับด้วยว่า อาร์เซน่อล เป็นสโมสรในอังกฤษที่ตนอยากย้ายไปร่วมทีมมากที่สุด โดยระบุว่า "อาร์เซน่อล เป็นสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ที่ทำให้ผมฝันถึงมากที่สุด ลียง เป็นสโมสรที่ดีมากๆ ขณะที่ เปแอสเช ก็กำลังมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในขณะนี้" "ถ้าหากผมได้ย้ายไปที่นั่น ผมจะไม่รู้สึกเสียใจเลย มันเป็นทางเลือกที่ดีด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ผมอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล มานานแล้ว ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสโมสร ซึ่งพวกเขาเปิดทางให้ผมได้เป็นนักเตะอาชีพ" สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสชุดเล็ก กล่าวในที่สุด   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_022.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 “เฟอร์กี้” บ่นอุบโปรแกรมลีกทำผีแดงเสียเปรียบ       เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือแห่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาบ่นถึงการจัดโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ว่าเหมือนมีการกำหนดแต้มต่อเพื่อให้ทีมของตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบคู่แข่งทีมอื่น             กุนซือวัย 67 ปีไม่พอใจที่เห็นการแข่งขันช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเป็นฝ่ายออกเดินทางไปเยือนคู่แข่งที่เป็นทีมจบ 10 อันดับแรกของปีก่อนถึง 9 ทีม             “ผมเคยกล่าวถึงเรื่องนี้มาเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้วว่าโปรแกรมการแข่งขันไม่ช่วยส่งเสริมพวกเราเลย จนทำให้ผมคิดว่าพวกเรามีการกำหนดแต้มต่อในเกมพรีเมียร์ ลีก แม้พวกเขา (ฝ่ายบริหารของลีก) บอกผมว่าไม่มีการกำหนดล่วงหน้าอย่างแน่นอน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ใครจะไปเชื่อ!” กุนซือชาวสกอตต์บ่น             ด้านฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ออกแถลงการณ์ตอบโต้นายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทันทีโดยปฏิเสธว่าไม่มีการล็อกโปรแกรมการแข่งขันทั้งสิ้น เพราะเป็นการกำหนดขึ้นจากการเดาสุ่มและหลังจากทำขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้วยังต้องผ่านการตรวจสอบจากหลายฝ่ายอีกครั้ง             “มีปัจจัยหลายประการในการจัดโปรแกรมการแข่งขัน ทั้งตามคำร้องขอของ ตำรวจ (เพื่อจัดเตรียมกำลังพล) หรือสโมสรฟุตบอลเอง รวมถึงฟุตบอลระดับยุโรป หรือ ฟีฟ่า เป็นต้น ดังนั้นทีมจะมีโชคต่อโปรแกรมการแข่งขันอย่างไรขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้”ข้อความส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154163 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หงส์รอเช็กอาการบาดเจ็บ "อลอนโซ"       ลิเวอร์พูล ต้องรอลุ้นอาการบาดเจ็บของ ชาบี อลอนโซ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมของทีมว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด หลังจากประสบปัญหาจนถูกเปลี่ยนตัวออกระหว่างเกมที่ "หงส์แดง" บุกไปเอาชนะ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 2-0 ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา             มิดฟิลด์ชาวสแปนิช ได้รับบาดเจ็บจากจังหวะการเข้าปะทะกับกองหลังทีมเปรสตันจนไม่สามารถกลับมาลงสนามได้อีกในช่วงครึ่งหลังของเกม โดย แซมมี ลี ผู้ช่วยผู้จัดทีมลิเวอร์พูล ออกมาเปิดเผยว่าสโมสรยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าอาการบาดเจ็บมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใดเพราะต้องรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมงก่อน             "โชคไม่ดีที่ ชาบี ต้องถูกเย็บถึง 7 เข็มบริเวณเท้าของเขา" ลี เปิดเผยภายหลังจบเกม "พวกเรายังไม่รู้ถึงขอบเขตของอาการบาดเจ็บว่ารุนแรงเพียงใด แต่ความเป็นจริงเขาจะมีอาการเจ็บปวดอย่างมากในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าจะไม่มีส่วนใดได้รับความเสียหาย แต่พวกเรายังไม่รู้อย่างชัดเจนจนกว่าจะผ่านไป 24 หรือ 48 ชั่วโมง"             นอกจากนี้ ลี ยังกล่าวยกย่อง สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมที่แม้ว่ากำลังเผชิญกับปัญหาส่วนตัวอยู่ก็ตามแต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะในเกมที่ผ่านมา             "สตีเวน เป็นมืออาชีพอย่างที่สุด เขาทุ่มเทให้แก่สโมสรแห่งนี้อย่างเต็มที่ อย่างที่คุณได้เห็นผลงานของเขาในเกมวันนี้ มันแสดงให้เห็นถึงการเป็นนักฟุตบอลคนหนึ่ง เขาทำผลงานได้อย่างน่าตื่นตะลึงและพวกเราทุกคนพร้อมหนุนหลังเขา" ลี กล่าว http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154182 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จ่าแฮร์รี่จวกปอมปีย์โก่งค่าตัวเดโฟพันล้าน พอร์ทสมัธ โดนจวกไม่ไว้หน้า โก่งค่าตัว เจอร์เมน เดโฟ หัวหอกตัวจี๊ด แพงโอเวอร์ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้าน) เป็นอย่างต่ำ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือสเปอร์ส โวยลั่นทีมเก่าหน้าโลหิตสิ้นดี ตัวเองซื้อมากับมือราคาไม่ถึงครึ่ง จ้องจะเอากำไรอื้อซ่า บอกหากยังคุยกันไม่รู้เรื่อง เบนเข็มไปงาบดาวยิงรายอื่นถูกกว่าแยะ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยื่นคำขาดไปยัง พอร์ทสมัธ ทีมเก่าของตัวเอง ว่าจะไม่ยอมจ่ายเงิน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) เพื่อซื้อตัว เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ มาร่วมงานด้วยกันอีกครั้งในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน อย่างแน่นอน หลังจากที่เป็นคนดึงตัว เดโฟ ไปร่วมทีม "ปอมปีย์" ด้วยค่าตัวเพียง 7.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 412.5 ล้านบาท) เท่านั้น เมื่อปีที่แล้ว เร้ดแน็ปป์ กล่าวว่า "ทั้งสองสโมสรยังอยู่อีกห่างไกลแสนไกลกับการตกลงเรื่องค่าตัวร่วมกันได้สำเร็จ ประธานสโมสรของเราไปพบปะหารือกับ ปีเตอร์ สตอร์รี่ ซีอีโอ พอร์ทสมัธ ในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา) แล้ว แต่บอกได้เลยว่าพวกเขายังคงมีความเห็นแตกต่างกันลิบลับ ผมคิดว่าพวกเขาต้องการจะได้เงินมากกว่า 20 ล้านปอนด์ด้วยซ้ำไป ถ้าหากยังไม่มีอะไรคืบหน้า เราก็คงจะต้องเดินหน้ามองหาคนอื่นๆ กันต่อไป" พร้อมกันนั้น นายใหญ่ "ไก่เดือยทอง" ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทาบทาม สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกจรวด มิดเดิ้ลสโบรช์ ให้ย้ายมาร่วมทีมด้วยกันแบบผิดกฎกติกาแต่อย่างใด หลังจากที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ "เดอะ โบโร่" กล่าวหาว่า สเปอร์ส พยายามตอดเล็กตอดน้อยหวังฉกตัวดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ไปไว้ในครอบครองให้จงได้ "ผมคุยกับ แกเร็ธ ด้วยตัวผมเองไปแล้ว ผมถามเขาว่านักเตะคนนี้มีไว้ขายหรือไม่ เขาตอบว่าไม่ และมันก็จบแค่นั้น เราคงจะต้องเดินหน้ามองหาทางเลือกอื่นๆ กันต่อไป" เร้ดแน็ปป์ ทิ้งท้าย   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090103_092.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามคาด!เรือใบซิวบริดจ์ประเดิมตลาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตัว เวย์น บริดจ์ ฟูลแบ็กตัวสำรอง เชลซี มาเสริมทัพประเดิมตลาดนักเตะฤดูหนาวตามคาด ด้วยค่าตัวมูลค่าราวๆ 550 ล้านบาท หลังรุกคืบเจรจาข้อเสนอมาตลอดในช่วงหลังๆ ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" เผยสุดยินดีที่ได้แนวรับฝีเท้าดีระดับทีมชาติมาร่วมก๊วนสมใจอยาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีหน้าใหม่ในศึก พรีเมียร์ลีก จัดการเซ็นสัญญา เวย์น บริดจ์ แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ จาก เชลซี ยักษ์ใหญ่ร่วมลีก มาเสริมทัพเป็นรายแรกในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ ด้วยสัญญาค้าแข้ง 4 ปีครึ่ง ภายในสนนค่าตัวที่คาดว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 10 ล้านปอนด์ (ราว 550 ล้านบาท) หลังจากที่ได้เจรจาบรรลุข้อตกลงเรียบร้อยไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" กล่าวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร (www.mcfc.co.uk) เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า "ผมเคยลงเล่นกับเขามาแล้วในทีม เซาธ์แฮมป์ตัน ผมได้เห็นเขาไต่เต้าขึ้นมาจากทีมเยาวชน ซึ่งในเวลานั้น เขาถือเป็นนักเตะรุ่นเยาว์ที่มีฝีเท้าโดดเด่น และเขาก็พบกับความก้าวหน้าในอาชีพมาตลอดทุกๆ ปี เขาคือผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จ เขาติดทีมชาติอังกฤษ และเพิ่งจะได้ค้าแข้งกับหนึ่งในยอดทีมระดับท็อปโฟร์ของประเทศ" "เขามีคุณภาพฝีเท้าที่เหมาะสมกับทีม และเขาก็เป็นผู้เล่นประเภทที่เราควรจะให้ความสนใจ เราต้องการนักเตะฝีเท้าดีที่เข้าใจในสไตล์เกมลีกที่นี่ และเราก็คาดหวังที่จะเดินหน้าในแนวทางนั้นต่อไป เพื่อคว้าตัวแข้งใหม่มาเสริมทัพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" กุนซือชาวเวลส์ ปิดท้าย ทั้งนี้ บริดจ์ วัย 28 ปี เจ้าของสถิติติดธง "สิงโตคำราม" 32 นัด ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาสวมเสื้อ "สิงโตน้ำเงินคราม" ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ราว 385 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ปี 2003 แต่กลับประสบปัญหาในการแย่งตำแหน่งตัวจริงมาตลอด นับตั้งแต่ยอดทีมแห่งกรุงลอนดอน ได้ตัว แอชลี่ย์ โคล มาจาก อาร์เซน่อล ในปี 2006   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_007.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พลาตินีบอกบ้ารึเปล่าแก้กฎยูฟ่าให้มาดริด ราชันชุดขาวถึงกับจ๋อยไปเลยทีเดียวเมื่อนายใหญ่ยูฟ่าประกาศแล้วว่าไม่สามารถให้ทั้งลาร์สซานา ดิยาร์ราและคลาส ยาน ฮุนเตลาร์ลงทะเบียนทำศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ทั้งสองคนพร้อมๆกัน เรอัล มาดริดหวังว่าอุธรณ์ให้ทางยูฟ่าพิจารณาให้คลาส ยาน ฮุนเตลาร์และลาร์สซานา ดิยาร์ราลงสนามทำศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ทั้งสองคน แต่ทางมิเชล พลามินี ประธานของสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่าได้ประกาศให้รามอน กัลเดรอน ประธานของเรอัลมาดริดทราบแล้วว่า กฎข้อนี้เปลี่ยนไม่ได้แล้ว โฆษกของยูฟ่าและมาร์กา สื่อดังเมืองกระทิงยืนยันมาว่า กัลเดรอนได้โทรศัพท์สายตรงถึงพลาตินีเพื่อให้ผ่อนผันกฎข้อที่ 17.18 ที่ระบุว่าทีมจะส่งนักเตะที่เคยเล่นยูฟ่าคัพจะมาเล่นในแชมเปียนส์ลีกให้กับทีมใหม่ในฤดูกาลเดียวกันหลังจากย้ายทีมแล้วไม่เกิน 1 คนเท่านั้น กัลเดรอนทุ่มเงินซื้อฮุนเตลาร์และดิยาร์ราด้วยค่าตัวรวมถึง 40 ล้านยูโร แต่สามารถเลือกใช้งานในเกมน็อกเอาต์ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น พลาตินีตอบกัลเดรอนว่า "ผมเสียใจด้วย แต่เรายอมผ่อนผันให้ไม่ได้จริงๆ" มีรายงานล่าสุดมาว่าตอนนี้เรอัลมาดริดได้ยื่นให้ทางศาลตัดสินคดีความกีฬา(CAS)ช่วยพิจาณาเรื่องนี้ และแน่นอนว่าข่าวนี้ย่อมทำให้ทางยูฟ่าไม่ปลื้มแน่นอน http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=126829 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จบข่าวค่ะ ^^ สถิติหลังเกม จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หา Player Ratings ไม่เจอค่ะ -_-" จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 12:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อิอิ เมื่อคืน RvP เป็นกัปตัน Bischoff มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ผมอยากเห็นฝีเท้าไอ้หมอนี่จริงๆ เพราะเป็นนักเตะที่แทบจะไม่มีใครเคยเห็นฝีเท้าแบบจริงๆ จังๆ เลย เนื่องจากลงเล่นให้ เบรเมน น้อยมาก จากคุณ : Anduril - [ 4 ม.ค. 52 13:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ไ้ด้ดูครับ ไฮไลท์สำหรับท่านที่อยากดู http://www.videoplayer.hu/videos/play/293637 จากคุณ : Eastern rising - [ 4 ม.ค. 52 13:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โรบินเป็นกัปตันให้ปืนครั้งแรกเลยหรือป่าวนี่ ระเบิดฟอร์มเลยแฮะ ยิง2จ่ายหนึ่ง ยิงแต่ละลูกกลัวข้ามคานจริงๆเลย ^ ^ จากคุณ : ราชันย์ชุดหมี - [ 4 ม.ค. 52 13:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าฟอร์มแบบนี้ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นนะ ถ้าเจอทีมในพรีเมียร์ชิฟ หรือทีมแกร่งๆ ต้องเล่นให้ดีกว่านี้อะครับ เกมรับยังดูเหวอๆ เหมือนเดิม จากคุณ : An Inimitable Man - [ 4 ม.ค. 52 13:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #24 น่าจะเป็นครั้งแรกที่โรบินได้เป็นกัปตันทีมค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 13:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กุนซือเข็ด นักเตะขยาด เมื่อตลาดขยับ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองทั่วทั้งยุโรปจะเปิดทำการรับศักราชใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2552 หลายทีมตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะหาผู้เล่นใหม่เข้ามายกระดับ รวมถึงอุดรอยรั่วที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่คงมีอีกหลายทีมที่กล้าๆ กลัวๆ จะควักเงินในช่วงครึ่งทางแบบนี้ เพราะไม่มีใครสามารถการันตีได้เลยว่าผู้เล่นที่ซื้อมาจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ใส่ได้อย่างลงตัว             หลายทีมล้วนมีเป้าหมายของตัวเองไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการหว่านเม็ดเงินที่มีแบบไม่อั้นของมหาเศรษฐีชาวอาหรับ ซื้อซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ทีม ส่วน อาร์เซนอล ต้องการมิดฟิลด์คนใหม่เพื่อมาแทน เชส ฟาเบรกาส จอมทัพที่เจ็บยาว 4 เดือน ด้าน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ส อยากได้ปีกซ้าย รวมถึงกองหน้าคมๆ ที่ไว้ใจได้มาช่วยยิงประตูให้หนีพ้นโซนตกชั้นเสียที             จริงอยู่ที่ว่าคือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่สามารถพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะผู้เล่นที่เข้ามาใหม่อาจจะเป็นกุญแจที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลุ้นแชมป์หรือหนีตกชั้นก็เป็นได้ แต่ก็เป็นช่วงที่ต้องเรียกว่า "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการเข้ามาเกี่ยวข้องจนกลายเป็นความเสี่ยงในการที่จะหาซื้อนักเตะในช่วงกลางฤดูกาลแบบนี้ จนทำให้ผู้จัดการทีมและนักเตะหลายต่อหลายคนประสบปัญหามาแล้ว             เริ่มต้นด้วยปัจจัยที่ปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือระยะเวลา 1 เดือนจากนี้ถือว่าน้อยและกระชั้นชิดเกินไป รอย ฮอดจ์สัน กุนซือที่เข้ามาทำ ฟูแลม รอดตกชั้นจากเวทีพรีเมียร์ชิป เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กล่าวว่า "คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ผมไม่อยากที่จะนำผู้เล่นเข้ามาในสัญญาระยะสั้น พวกเขาไม่เพียงจะต้องเข้ามาช่วยเราให้รอดพ้นการตกชั้นเท่านั้น แต่นักเตะเหล่านั้นต้องทำให้ทีมแข็งแกร่งในอนาคตได้ด้วย"             อดีตนายใหญ่ อินเตอร์ มิลาน วัย 61 ปี เผยอีกว่า "เมื่อพูดถึงการซื้อขายนักเตะในช่วงเดือนมกราคมผมคิดว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะมันเป็นโอกาสเสริมทีมครั้งเดียวที่มีทั้งฤดูกาล เมื่อครั้งผมไปคุมทัพที่ กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ตอนนั้นตลาดเปิดซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายมาก เพราะทุกทีมต่างพยายามที่จะขวนขวายหาแต่นักเตะดีๆ กันทั้งนั้น"             ถัดมาเป็นเรื่องของการปรับตัวสำหรับนักเตะที่ต้องย้ายลีกไปค้าแข้งอีกประเทศหนึ่ง เนมานยา วิดิช กองหลังชาวเซิร์บ และ ปาทริช เอวรา แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส เคยประสบปัญหาจุดนี้ตอนย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโก และ โมนาโก ตามลำดับ มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงต้นปี 2006 โดยเฉพาะรายหลังที่ออกมาบ่นในเรื่องของอาหารการกินและสภาพอากาศที่แปรปรวนของเมืองผู้ดี จนเกือบที่จะถอดใจย้ายออกไปแล้ว             ต่อมาคือเรื่องของกฎระเบียบที่ทำให้ผู้เล่นบางคนต้องติดคัพไทคือไม่สามารถลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ในถ้วยที่ลงเตะให้กับทีมเก่าไปแล้ว โดยเฉพาะในศึกใหญ่อย่าง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ระยะหลังสโมสรใหญ่จึงไม่นิยมซื้อนักเตะในช่วงปีใหม่กัน เช่น เฟอร์นานโด มอริเอนเตส หอกหน้าหยกที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ดื้อซื้อจาก รีล มาดริด มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2005 ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 338 ล้านบาท) แต่ไม่ได้เล่นในนัดชิงจ้าวยุโรปกับ เอซี มิลาน             ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ส่งผลให้มีผู้เล่นมากมายที่ย้ายทีมในช่วงกลางฤดูกาลแบบนี้แล้วไม่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น โฮเซ อันโตนิโอ เรเยส กองหน้าที่แจ้งเกิดกับเซบีญา แต่ว่ามาดับกับอาร์เซนอล อย่างแท้จริง ย้ายมาเมื่อปี 2004 ด้วยค่าตัวที่จะพุ่งสูงถึง 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 884 ล้านบาท) แล้วแต่เงื่อนไข แต่สุดท้ายปรับตัวเข้ากับเกมหนักของพรีเมียร์ชิปไม่ได้ ล่าสุดอดีตหอกทีมชาติสเปน เร่ร่อนไปอยู่กับเบนฟิกา ในโปรตุเกส             นักเตะกองกลางอย่าง สกอตต์ ปาร์คเกอร์ ก็แจ้งดับจากการย้ายทีมช่วงปีใหม่เช่นกัน เมื่อโยกจาก ชาร์ลตัน แอธเลติก ไปอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 520 ล้านบาท) ในปี 2004 แต่สุดท้ายไม่ค่อยได้ลงสนามและหลุดจากทีมรวมถึงหมดอนาคตในทีมชาติอังกฤษ ที่ย้ายแพงๆ แต่ผิดหวังอีกก็มี ฌอง อแล็ง บูมซง กองหลังสัญชาติฝรั่งเศส ที่ อินเตอร์ และ ลิเวอร์พูล อยากได้นักหนา แต่ความซวยไปตกกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ซื้อบ่อน้ำมันไปด้วยราคา 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 416 ล้านบาท) จาก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส เมื่อปี 2005             แต่ที่เลวร้ายสุดๆ คงจะเป็นทีมในโซนท้ายตารางที่มักจะเป็นทีมเล็กๆ มีงบประมาณไม่มากต้องยอมกลืนเลือดควักเงินเพื่อลุ้นให้ทีมอยู่รอดอย่าง คริสตัล พาเลซ ที่จ่าย 2.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 143 ล้านบาท) แลกกับ วาเลเรียง อิสมาเอล กองหลังฝรั่งเศส เมื่อปี 1998 เพื่อจะมาอุดเกมรับ แต่สุดท้ายก็ไม่วายต้องตกชั้นจาก พรีเมียร์ชิป อยู่ดี             ทั้งหมดที่กล่าวมาคือปัจจัยที่บ่งชี้ให้เห็นว่าการซื้อนักตะในช่วงตลาดเปิดหน้าหนาวค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงสูง กุนซือจึงจำเป็นที่จะต้องพินิจพิเคราะห์และตัดสินใจอย่างถี่ถ้วน ส่วนนักเตะเองก็ต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้การย้ายทีมในช่วงแบบนี้เป็นการขุมหลุมฝังอนาคตของตัวเองเช่นกัน http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000153214 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 14:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อวานเน็ตล่ม เลยไม่ได้ตามลุ้น แต่ชนะก็ดีใจ เพราะตอนนี้ปืนใหญ่ต้องการชัยชนะมาเสริมกำลังใจเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับทีมเล็กๆนี่แหละ! ปล. ดูจากคลิปนี่ก็เล่นกันมีมูฟเมนต์ดีนะ จากคุณ : Psychorchid - [ 4 ม.ค. 52 14:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ....ต้องขอชม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เลยครับ ฝีเท้าพัฒนาขึ้นกว่าเดิมเยอะ โดยเฉพาะเท้าขวา ที่ซีซั่นนี้ปิดบัญชีไปหลายลูกแล้ว ...อีกคนที่ระเบิดฟอร์มอลังการมาสองนัดแล้ว ก็คือ นาสรี่ ในตำแหน่งมิดฟิลล์ตัวกลาง เป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นด้วย .. นักเตะที่พรสวรรค์เทพขนาดนี้ เอาไปยืนปีกก็เหมือนจะเสียดายของ เพราะมีดีมากกว่าความเร็วมากนัก ....จะไม่ให้บอสคิดว่าเป็นประตูของเบนเนอร์ได้ไง ก็พี่แกเล่น วิ่งไปหาแฟนบอล เพื่อนๆก็กรูเข้ามาดีใจด้วยเป็นโขยง ซะขนาดนั้น กองหลังพลีมัธ: เฮ้ย!.. กรูยิง T-T จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 4 ม.ค. 52 14:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอ็นซ็อกเบีย เพ้อฝันหรือเปล่า แบคซ้ายทีมปืนมีเย่อะแย่ะแล้ว ที่สำคัญ ตาโอเล่ น่าจะดีกว่าคุณด้วยซ้ำ ตัวเลือกแรกที่ต้องการ "อาชาวิน" "เวโลโซ่" "อิลแลร์" ขอแค่นี้ จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ - [ 4 ม.ค. 52 15:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อคืนใครเป็นกลางรับเหรอครับ จากคุณ : Yochaaa - [ 4 ม.ค. 52 15:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มีใครสังเกตเหมือนผมบ้างหรือเปล่าครับว่าเอบูเอ้เริ่มจ่ายบอลในจังหวะทีเด็ดทีขาดดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ...จากนัดที่จ่ายให้เดียบี้เข้าไปยิง เมื่อคืนลูกที่สองก็จ่ายให้เพอซี่สวยๆ ต้นเกมก็ยังขึ้นไปซัดซะเต็มๆ เสียดายที่โดนเซฟซะก่อน...ถ้าเค้าไม่เสียเซล์ฟจากนัดที่โดนโห่ ผมว่าน่าจะเห็นอะไรดีๆ จากเค้าเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : ป๊ะป๋าปอปัน - [ 4 ม.ค. 52 16:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับข่าวคะคุณแนนคนสวย^^ เมื่อวานได้ดูครึ่งหลังคะตอนเรานำอยู่2-1 เพอซี่นัดนี้ยิงได้ตั้ง2ลูก รับขวัญกัปตันทีมคนใหม่ เพอซี่กับบทบาทนี้ก็เข้าท่าดีทีเดียว หน่วยก้านใช้ได้เลย ข่าวซื้อตัวผู้เล่นก็ยังไม่คืบหน้าสินะคะ รอดูต่อไปก็แล้วกัน ความจริงอยากได้อาเตต้าแต่ดูถ้ามอยส์ขายให้ก็บ้าแล้ว-- พรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว งดดื่มคะ ดื่มมาหลายวันจนเปลี่ย-__-'เวียนหัวไปหมด รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน โชคดีปีใหม่คะ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 52 16:09:57 จากคุณ : pawiamp - [ 4 ม.ค. 52 16:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แทคติคปิดตาเพอซี่ จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จอมทัพ(ขัดตาทัพ)คนใหม่ ... S. Nasri จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จอมทัพนาสรี่ กับ ท่านรองแรมซี่ ^^ จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แถมอีกรูปเซ่นแม่ยกแถวนี้ ^^ จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ทิดเบ๊นคิดจะแอบเนียนเรอะ เสียใจรูปมันฟ้อง ^^ จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 39 VELA เล่นเป็นปีก ก็ต้องบินสิ !! รูปสุดท้ายละ เดี๋ยวบอร์ดอืด ^.^ จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ความจริงวันนี้!! ความขัดแย้งของเวนเกอร์และบอร์ดเรื่องอาร์ชาวิน หนังสือพิมพ์เดลี่ สตาร์ของอังกฤษ รายงานว่าสโมสรอาร์เซน่อลเกิดความรอยร้าวภายในระหว่างอาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของทีมกับบอร์ดบริหารของสโมสร รอยร้าวที่ว่าเกิดจากงบประมาณที่เวนเกอร์จะใช้ในการเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดรอบสองเดือนมกราคม โดยที่เวนเกอร์ต้องการอย่างแรงกล้าที่จะคว้าตัวอังเดร อาร์ชาวิน เพลย์เมกเกอร์ระดับเทพแห่งแดนหมีขาว เข้ามาเสริมทัพให้ได้ ด้วยค่าตัวสูงถึง 20 ล้านยูโร เพื่อเพิ่มศักยภาพในกับทีม เพื่อสู้ศึกในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ หลังจากต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญไปหลายต่อหลาคน ปัจจุบันอาร์เซน่อลอยู่อันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก ต้องลุ้นอย่างหนักกับแอสตันวิลล่า เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกในฤดูกาลหน้า แต่ความต้องการซื้ออาร์ชาวินของเวนเกอร์ ต้องถูกระงับไว้โดนบอร์ดบริหาร ที่ไม่ต้องการจะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นค่าตัวของอังเดร อาร์ชาวิน ทำให้โครงการเสริมทัพครั้งใหญ่อของอาร์เซน่อลต้องหยุดชะงักลงอย่างไม่มีกำหนด ทำให้เกิดกระแสข่าวว่ากุนซือวัย 59 ปีกำลังที่จะโยงไปคุมทีมราชันชุดขาว รีลมาดริล หลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แต่ล่าสุดเวนเกอร์ก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวแล้ว และต้องการที่จะอยู่คุมอาร์เซน่อลไปอีกนานแสนนาน ที่มา: NorthamptonChronical http://gunnerthailand.com/board/index.php?topic=5815.0 จากคุณ : MAVEL - [ 4 ม.ค. 52 16:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมดิต้องกลับมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศอีกแล้ว เหงาฉิบ นอนไม่หลับ กลับเข้ามาอ่านอีกรอบ คิดถีงพ่อโว๊ย ขอแปะเพลงไว้หน่อย จากคุณ : Eastern rising - [ 4 ม.ค. 52 16:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมเฉยๆนะกับเรื่องกลางรับอะ แบบว่าอยากให้เล่นแบบบาซ่ายุคหนึ่งอ่ะครับที่เล่นแบบไม่มีกลางรับ รุกฆ่ามันให้ตาย  รุกอย่างเดียว  ไรประมาณเนี้ยอะครับสะใจดี อยากได้พวกตัวรุกแบบแรงๆสักตัวอะครับ ถ้าโดนยิงไปเท่าไรก็ยิงให้มากกว่าก็ชนะแล้ว เคี้ยก  ฮ่า  ฮ่า ๆๆ  (สวมวิญญาณฮิรูม่า) จากคุณ : อยากให้รู้ว่า..junt - [ 4 ม.ค. 52 17:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อคืนก็ดูไม่ออกนะครับว่าใครเล่นกลางรับ ดูช่วยกันเล่นแต่ดูนาสรี่จะขึ้นสูง ดิยาบี้จะยืนต่ำหน่อย ดูว่าน้องแรมซี่เล่นขวา เทพเอ้เล่นซ้าย เด่นสุดนาสรี่กับเพอซี่นี่แหละครับ ผมว่าสองคนนี้เข้าขากันนะ มีต่อบอล ทำชิ่งกัน ดูจะไปกันได้ดี ส่วนนาสรี่เล่นตรงกลางเด่นกว่าปีกเยอะเลย สมเป็นซีดาน 2 (แม้เขาจะบอกว่าเขาจะไม่ใช่) จากคุณ : เทพปืนโต - [ 4 ม.ค. 52 18:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มีแต่คนแซวเบนดท์เนอร์ว่า... ดีใจยังกับยิงประตูได้เอง จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 18:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องเบนเนอร์นี่ผมว่าต้องให้เครดิตทั้งสามคนเลยแหละครับ  ทั้งคนเปิด คนเข้าฮอร์ส ที่สำคัญคือคนทำเข้าประตู อิอิ จากคุณ : Aria Shachou - [ 4 ม.ค. 52 18:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ เค้าคงดีใจกะแฟนบอลละมั้งครับ นานๆที ช่วงหลังๆมานี้ตัดผมบ่อยเหลือเกินน้า ท่านเบนเนอร์ จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 4 ม.ค. 52 18:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สงสัยว่าบอร์ดได้คืบจะเอาศอกหรืออย่างไร?   ที่ผ่านมาก็ประหยัดแล้ว จะเอาประหยัดอีก ที่ผ่านมาเวนเกอร์ไม่เคยได้ใช้เงินเต็มงบเลยซักปี แล้วโควต้า ที่บอกๆมาตลอดว่า 30 ล้านบ้าง 60 ล้านบ้าง หายไปไหนหมด? หรือที่พูดไปอย่างนั้นว่างบเยอะเพราะรู้นิสัยเวนเกอร์ว่าไม่ใช้เงินมาก แต่พอจำเป็นจะต้องใช้เงินกู้วิกฤติจริงๆ ก็หางโผล่ว่าไม่มี แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนล่ะครับ ต่อไปพูดอะไรมาใครจะเชื่อถืออีก จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 4 ม.ค. 52 19:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สรุปเมื่อวานนาสรี่เล่นตรงกลางใช่ไหมครับ คงต้องรอดูเกมที่เจอกับทีมที่มีกลางรับดุๆเล่นหนักๆแดนกลางว่าจะไปรอดหรือเปล่า แต่ถ้าแผนมาแบบนี้ ก็เปิดช่องให้ปีกคนใหม่ได้เลย จากคุณ : Lueng - [ 4 ม.ค. 52 19:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อคืนคลื่น 99 คึกครื้นมาก ฟังเเล้วเสียวจริงๆ กูรูบอลเพียบ บอกมาเเต่ละเวบ เสียว โดนบล็อกชมัด จากคุณ : meawmeao - [ 4 ม.ค. 52 20:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่เข้าใจระบบทีมทำไมชอบให้ศูนย์หน้าตัวใหญ่ๆถ่างออกไปเล่นริมเส้น เพื่ออะไรไม่เข้าใจ?? เวลาเปิดมาคนที่อยู่ในกรอบนี้มีแต่ตัวเล็กๆ เราไม่มีอองรี แผนแบบนี้มีแต่จะทำลายนักเตะดีๆซ่ะเปล่า เพราะเล่นตามระบบที่จัดให้ลงไม่ได้ เท่าที่ดูเกือบทุกนัดเป็นงี้จริงๆน่ะ >,< จากคุณ : ~MingKung~ - [ 4 ม.ค. 52 20:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตูเร่ขอย้าย  นับเป็นข่าวร้าย แถมสัญญาเหลือ 2 ปี ครึ่ง จบฤดูกาลนี้ถ้ายังไม่ต่อสัญญาก็ขายไปดีกว่าครับ จริงๆแล้วก็เสียดายไม่อยากให้ขายเพราะเป็นนักเตะที่สโมสรปั้นมาแท้ๆ แต่ก็ดีกว่าเสียไปฟรีๆ จากข่าว คห.9 อีกสิบปีเลยเหรอ นานไปมั่งครับ ถ้ายังไม่มีถ้วยแชมป์ติดสโมสร อีก 10 ปี อีก 10 ปี ข้างหน้าคงไม่มีนักเตะในชุดเหลืออยู่เลย แม้แต่วิลเชียร์คงย้ายออกไปแล้ว จากคุณ : เปิ้ล นะคอน - [ 4 ม.ค. 52 21:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น่าเสียดายที่ไม่มีถ่ายทอดสด FA Cup ทางทรูวิชั่นส์ หรือฟรีทีวีค่ะ -_-" จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 21:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาดีใจ กับ ชัยชนะ ของทีมครับ จากคุณ : ผมชื่ออะไร - [ 4 ม.ค. 52 22:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อาร์เซนอลเจอกับคาร์ดิฟฟ์ ทีมเก่าของแรมซี่ย์ในเอฟเอคัพรอบ 4 ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 22:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 Arsenal drawn at Cardiff in FA Cup 4th Rnd Arsenal have been drawn at Cardiff in the FA Cup Fourth Round This tie will take place around the weekend of January 24/25. http://www.arsenal.com/news/news-archive/arsenal-drawn-against-in-fa-cup-4th-rnd จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 22:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับทีมอื่นๆ ที่จะเจอกันค่ะ Liverpool v Everton Southampton/Man United v Tottenham Hull/Newcastle v Millwall/Crewe Sunderland v Blyth/Blackburn Hartlepool v West Ham Leyton Orient/Sheff Utd v Charlton/Norwich Cardiff v Arsenal Portsmouth/Bristol City v Histon/Swansea Chelsea/Southend v Ipswich Cheltenham/Doncaster v Aston Villa West Brom/Peterborough v QPR/Burnley Torquay v Coventry Kettering Town v Fulham Watford v Leicester/Crystal Palace Derby County v Nottingham Forest Birmingham City/Wolves v Middlesbrough. จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 4 ม.ค. 52 22:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่ไดเข้ามาเสียนานเลย เพราะตะเวณไปตามพื้นที่ห่างไกล แต่ติดตามข่าวตลอด และรอบ 4 เจอคาดิฟท์ ก็โอเคนะ ดีกว่าลิเวอร์พูล(เจอเอฟเวอร์ตัน) กับแมนฯยู (เจอสเปอร์) แล้วปีนี้ ดูตัวผู้เล่นที่ลงสนาม แสดงว่า หวังกับถ้วยนี้อยู่เหมือนกัน จากคุณ : The Old Gun - [ 4 ม.ค. 52 23:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เยี่ยม! เจอ คาร์ดีฟ น่าจะผ่านได้ครับ ปีนี้มีดวงเรื่องจับฉลากจริงๆ ถึงจะประมาทไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าผลจับของ ผี กับ หงส์ อะครับ ผี(ถ้าผ่าน) เจอไก่ หงส์ เจออริร่วมเมือง ทอฟฟี่ ... ซี๊ดด~ จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 4 ม.ค. 52 23:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ดีครับ เข้ามาอ่านข่าว จากคุณ : kunikun - [ 4 ม.ค. 52 23:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ดูโปรแกรม จนถึง เดือนกุมภาพันธ์ ตามศักดิ์แล้ว ผมว่าเราไม่ควรแพ้เลยแม้แต่นัดเดียว เสมอก็ไม่ได้ ถ้าสามารถชนะได้หมด ผมเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้นอีกเยอะโข เพราะชนะในลีกเจ็ดแปดเกมรวด ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นทีมใดก็ตาม เจอ โบลตัน ต้องเชือด ให้ได้ยิงให้เยอะ  แม้เขาจะมารับแน่ๆ เจอ Hull ต้องเอาคืนให้ได้ จะชนะเท่าไรก็เหอะ เอเวอร์ตัน เวสแอม เอาชนะได้ จะทำให้กำลังใจมากอีกมากโข แต่เป็นเกมที่ยากแน่นอน ต้องเล่นให้ท๊อปฟอร์ม เจอ สเปอร์ ก็ต้องเอาคืนให้ได้ น่าจะเป็นเกมที่เหนื่อยที่สุด ในช่วงก่อนเข้าเดือนสาม โรม่าเจอในบ้าน ถ้าไม่ยิง ไม่ชนะ ด้วยแต้มดีๆ จะกดดันได้ แล้วอาจจะมีผลถึงถ้วยอื่นๆ --------------------------------------------------------------------- เดือนมกราคม 2009 10  EPL    Arsenal - Bolton Wanderers                  22.00 น.   17  EPL    Hull City  - Arsenal                               17.30 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Everton   - Arsenal                               20..00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 31  EPL    Arsenal - West Ham United                   15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) เดือนกุมภาพันธ์ 2009 07  EPL    Tottenham Hotspur - Arsenal               15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 21  EPL    Arsenal - Sunderland                           15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 24  UCL   Arsenal - Roma                                    19.45 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Arsenal - Fulham                                 15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) ----------------------------------------------------------------------- ดูดู้ กลับมาเมื่อไรครับ เนี่ย จะได้มีตัวเลือกเพิ่มอีกเยอะๆ แล้วถ้าบอร์ดไม่อนุมัติเงินจริงๆ สงสัย คงได้นักเตะประสบการณ์สูง ราคาถูกหรือยืมตัวแน่เลย ไม่งั้นก็กลางๆ ประมาณ หกถึงสิบล้าน จากคุณ : Everyday Arsenal (An Inimitable Man) - [ 5 ม.ค. 52 01:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เจอกับคาดิฟ แรมซี่ได้กลับบ้านด้วย ทีมนี้มันรองแชมป์เก่า แต่ไม่กลัว น่าจะผ่านครับ จากคุณ : เทพปืนโต - [ 5 ม.ค. 52 07:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มกราคม กับกุมภาพันธ์ ขอชนะ 8 นัดรวดเลยแล้วกัน จากคุณ : กังหันฟ้าขาว - [ 5 ม.ค. 52 10:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับคุณ Lueng ค่ะ.ว่านาสรี่จะผ่านไม๊ถ้าเจอกลางแพคแน่น ๆ.. ที่ผ่านมาสองนัด นาสรี่เล่นแทนตำแหน่งเซสตลอดเหรอป่าวไม่แน่ใจ แต่เท่าที่อ่านกระแสก็ถือว่าน่าจะดีกว่าเอาเดนิลสันเล่นเพราะเป็นตำแหน่งเดิมที่นาสรี่เคยเล่นมาก่อน.. ถ้าเล่นได้ดี..ก็ให้เล่นไปเลย..แล้วไปหาซื้อปีกเร็ว ๆ คล่อง ๆ มาดีกว่าค่ะ ไม่งั้นนาสรี่จะเสียของป่าว ๆ ค่ะ จากคุณ : NongGrace - [ 5 ม.ค. 52 10:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีครับ พอดีไม่ได้ดูครับ มาอ่านข่าว อ่าน คอมเม้นท์ หลังเกมครับ จากคุณ : Walkin' On the Sun - [ 5 ม.ค. 52 10:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สำหรับดูดู้คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้ คาดว่าอย่างเร็วก็คงเป็นปลายเดือนมกราคมนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 11:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โต๊ะน้ำชาอาร์เซนอล... อาร์เซนอลเจอคาร์ดิฟฟ์รอบ 4 เอฟเอคัพ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 11:58:45 ]