ความคิดเห็นที่ 1 เจตนารมย์ประจำโต๊ะ "โต๊ะน้ำชา เป็นที่เสวนาของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ "ปืน" และเป็นการเสวนาที่สร้างสรรค์ หรือถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่อ  เราจะไม่วิวาทกับใคร ถ้าใครไม่มาก่อวิวาทกับเรา" จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 11:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมของอาร์เซนอลประจำฤดูกาล 2008/09 เดือนมกราคม 2009 10  EPL    Arsenal - Bolton Wanderers                  22.00 น.   17  EPL    Hull City - Arsenal                               17.30 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 24  FA Cup   Cardiff - Arsenal                              15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Everton - Arsenal                                20..00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 31  EPL    Arsenal - West Ham United                   15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) เดือนกุมภาพันธ์ 2009 08  EPL    Tottenham Hotspur - Arsenal               15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 21  EPL    Arsenal - Sunderland                           15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 24  UCL   Arsenal - Roma                                    19.45 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 28  EPL    Arsenal - Fulham                                 15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) เดือนมีนาคม 2009 03  EPL    W.B.A. - Arsenal                                 19.45 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 11  UCL   Roma - Arsenal                                    19.45 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) 14  EPL    Arsenal - Blackburn Rovers                     15.00 น.   (ตามเวลาท้องถิ่น) 21  EPL   Newcastle United - Arsenal                      15.00 น.  (ตามเวลาท้องถิ่น) **เวลาที่อังกฤษช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง** จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปการยิงประตูของนักเตะอาร์เซนอล 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  12 ประตู (EPL 8, UCL 2, FA 2) 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  11 ประตู (EPL 7, UCL 4) 3.  ซามีร์ นาสรี่  5 ประตู (EPL 4, UCL 1) 4.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  5 ประตู (EPL 1, UCL 2, Lge Cup 2) 5.  วิลเลี่ยม กัสลาส  5 ประตู (EPL 2, UCL 3) 6.  คาร์ลอส เวล่า  4 ประตู (Lge Cup) 7.  ธีโอ วัลคอตต์  3 ประตู (EPL 1, UCL 2) 8.  เดนิลสัน  3 ประตู (EPL) 9.  เจย์ ซิมป์สัน 2 ประตู  (Lge Cup) 10. อาบู ดิยาบี้  2 ประตู (EPL 1, UCL 1) 11. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  1 ประตู (EPL) 12. แจ๊ค วิลเชียร์  1 ประตู (Lge Cup) 13. เซสก์ ฟาเบรกาส  1 ประตู (EPL) 14. อเล็กซ์ ซง  1 ประตู (UCL) 15. อารอน แรมซีย์  1 ประตู (UCL) 16. มิคาเอล ซิลแวสตร์  1 ประตู (EPL) 17. กาแอล กลิชี่  1 ประตู  (EPL) *รวมประตูจาก UCL รอบคัดเลือก (กัสลาส 2, บายอร์ 1, เบนดท์เนอร์ 1, นาสรี่ 1, วัลคอตต์1) ------------------------------------------------------- สรุปการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู (Assist) 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  6 (EPL 3, UCL 3) 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  6 (EPL 4, UCL 2) 3.  เซสก์ ฟาเบรกาส  6 (EPL 4, UCL 2) 4.  เดนิลสัน  6 (EPL 5, UCL 1) 5.  ธีโอ วัลคอตต์  4 (EPL 1, UCL 3) 6.  นิคลาส เบนดท์เนอร์  4 (EPL 2, UCL 1, Lge Cup 1) 7.  ซามีร์ นาสรี่  4 (EPL 2, FA 2) 8.  อารอน แรมซีย์  3 (EPL 1, Lge Cup 2) 9.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  3 (EPL 2, UCL 1) 10. คาร์ลอส เวล่า  2 (Lge Cup) 11. คีแรน กิ๊บส์ (Lge Cup) 12. ฟราน เมริด้า (Lge Cup) 13. มิคาเอล ซิลแวสตร์  (UCL) 14. แจ๊ค วิลเชียร์  (Lge Cup) 15. โยฮัน ฌูรู  (Lge Cup) 16. อเล็กซ์ ซง  (EPL) *รวม Assist จาก UCL รอบคัดเลือก (ฟาน เพอร์ซี่ 1, เดนิลสัน 1, วัลคอตต์ 2,  เบนดท์เนอร์  1) **Lge Cup = Carling Cup ***ประตูของอาร์เซนอลในเกมกับฮัลล์ ซิตี้ เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ McShane ยึดตามเว็บ premier league ค่ะ http://www.premierleague.com/page/MatchReports/0,,12306~43945,00.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปจำนวนใบเหลือง 1.  กาแอล กลิชี่  6 (EPL 4, UCL 2) 2.  อเล็กซ์ ซง  6 (EPL 5, UCL 1) โดนแบนเกมเอฟเอคัพรอบสาม 3.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 6 (EPL 3, UCL 3) 5.  บาการี่ ซานญ่า 4 (EPL 3, UCL 1) 6.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  4 (EPL) 7.  อาบู ดิยาบี้  4 (EPL 3, UCL 1) 8.  เดนิลสัน 3 (EPL 2, UCL 1) 9. นิคลาส เบนดท์เนอร์ 3 (EPL1, UCL 1, FA 1) 10.  วิลเลี่ยม กัสลาส 2 (EPL) 11. โคโล่ ตูเร่ 2 (EPL) 12. ซามีร์ นาสรี่ 1 (EPL) 13. โยฮัน ฌูรู 1 (UCL) 14. อารอน แรมซี่ย์ 1 (Lge Cup) 15. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 1 (UCL) 16.  เซสก์ ฟาเบรกาส 5 (EPL) -----*** ล้างใบเหลืองเรียบร้อยแล้ว *รวม UCL รอบคัดเลือก (กลิชี่ 1, เดนิลสัน 1, ฟาน เพอร์ซี่ 1) ------------------------------------------------------- สรุปจำนวนใบแดง 1.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว 2.  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1 (EPL) -----*** โดนแบนครบแล้ว **Lge Cup = Carling Cup จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข่าวประจำวันที่ 05/01/2009 *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* อาร์เซนอลเจอคาร์ดิฟฟ์รอบ 4 เอฟเอคัพ อาร์เซนอลถูกจับฉลากไปเยือนคาร์ดิฟฟ์ในเกมเอฟเอคัพรอบ 4 เกมรอบนี้จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์ของวันที่ 24 และ 25 มกราคม ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ซิลแวสตร์ต้องพัก 3 สัปดาห์ อาร์แซน เวนเกอร์เปิดเผยว่ามิกาแอล ซิลแวสตร์อาจจะต้องพักนานสามสัปดาห์ กองหลังวัย 31 ปีลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมเอฟเอคัพรอบ 3 กับพลีมัธเมื่อวันเสาร์ แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ 30 นาทีแรกเพราะเจ็บต้นขา ซึ่งทำให้เขากลายเป็นกองหลังคนล่าสุดต่อจากกาแอล กลิชี่และโคโล ตูเร่ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน "มันเป็นปัญหาที่ต้นขา" ผู้จัดการทีมกล่าว "เขาต้องพักประมาณ 3 อาทิตย์หรือ 21 วันนั่นเอง" "ผมต้องดูอีกที แต่ตอนนี้ปัญหานักเตะบาดเจ็บทำให้เราค่อนข้างขาดผู้เล่นในทุกตำแหน่ง ผมหวังว่าโคโลจะไม่ต้องพักนานนัก เพราะโคนขาหนีบของเขาอักเสบขึ้นมาอีก" "ทางฝั่งซ้ายเราก็มีตัวเลือกน้อยแต่กาแอล กลิชี่น่าจะกลับมาได้อาทิตย์หน้า" ที่มา Arsenal.com แปลโดย Thailand.Arsenal.com จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวนเกอร์แจงเหตุเลือกฟานเพอร์ซี่เป็นกัปตัน อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ชมเปาะ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำหน้าที่กัปตันทีมได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่คาดเอาไว้ หลังให้สวมปลอกแขนผู้นำทีมเกมเอฟเอ คัพ กับ พลีมัธ แม้ในทีม 11 ตัวจริงจะมี วิลเลี่ยม กัลลาส อยู่ด้วยก็ตาม อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ทีม "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล ชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ ให้เป็นกัปตันทีมเกมเปิดสนาม เอมิเรสต์ สเตเเดี้ยม ทุบเอาชนะพลีธ อาร์ไกล์ 3-1 ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา แม้จะมี วิลเลี่ยม กัลลาส ลงสนามด้วย โดยบอกว่า เพราะมั่นในใจวุฒิภาวะที่เต็บโตขึ้นมากนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม จากประตู 3 ลูก ฟาน เพอร์ซี่ เหมายิง 2 ลูก ส่วนอีกลูกมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของแข้งทีมเยือน แต่ประเด็นที่สื่อให้ความสนใจก็คือการที่ เวนเกอร์ เลือก ฟาน เพอร์ซี่ เป็นกัปตันทีม เพราะเกมนี้ไม่มีทั้ง เชส ฟาเบรกาส และ มานูเอล อัลมูเนีย แม้ว่า กัลลาส จะเป็น 11 ตัวจริงด้วยก็ตาม "เขาเป็นคนที่สนใจปัญหาของทีม และเรื่องราวต่างๆ ภายในทีมเสมอๆ เขาอยากช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในทีมวันนี้เขาเป็นคนที่เล่นให้สโมสรยาวนานที่สุด และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีด้วย ผมเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่แสดงให้คุณเห็นถึงพัฒนาการที่ดี จากตอนที่เขาถูกมองครั้งย้ายมาเล่นที่นี่ใหม่ๆ เทียบกับตัวเขาในวันนี้ เขาพัฒนามาก ไม่มีกี่คนหรอกที่จะเชื่อว่าเขาจะได้เป็นกัปตันทีมตอนเขาที่นี่" เวนเกอร์กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_085.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เวนเกอร์เห็นด้วยเซอร์โวยโปรแกรมลำเอียง อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล หนุน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โวยวายว่าโปรแกรมแข่งไม่เป็นธรรม เล่นเกมเยือนแทบทุกครั้งหลังจบเกมถ้วยยุโรป เผยลองกลับไปเช็กโปรแกรมทีมตัวเอง ปรากฎว่า "ปืนใหญ่" เยือน 8 จาก 10 นัด (รวมเกมทีมชาติ) ส่วน "ปีศาจแดง" โดนไป 9 นัด ผิดกับ เชลซี เล่นในบ้าน 6 นัด และ ลิเวอร์พูล เล่นในบ้านถึง 8 นัด อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือคู่อาฆาตทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรณีออกมาโวยวายเรื่องโปรแกรมแข่งขันเกมลีกที่ไม่เป็นธรรม เพราะส่วนใหญ่แล้วต้องเล่นเป็นทีมเยือนเสมอ หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์   เวนเกอร์ แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้หลังเสร็จงานพาเด็กๆ ในค่าย "เดอะ กันเนอร์ส" บอมบ์ พลีมัธ อาร์ไกล์ 3-1 ฉลุยเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพ วันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "ผมได้ยิน เฟอร์กี้ พูดเรื่องโปรแกรมแข่งขัน และเราลองเช็กดู เพราะเราเองก็อยากรู้ เขาพูดกรณีของเขา และเราเจอแบบเดียวกัน ถ้าหากคุณนับทั้งโปรแกรมทีมชาติ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกทีมจะเล่น 10 นัด แบ่งเป็น แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 นัด และทีมชาติ 4 นัด"   "และหลังจากเกมทั้ง 10 เกมนั้น ปรากฎว่าเราเล่นเกมเยือน 8 นัด เหลือเล่น 2 นัดในบ้าน ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นเกมเยือน 9 นัด ขณะที่ เชลซี เล่นในบ้าน 6 นัด เยือน 4 นัด และ ลิเวอร์พูล เล่นในบ้าน 8 นัด เกมเยือนแค่ 2 นัด ซึ่งคุณอาจแย้งว่าจุดเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เป็นเกมทีมชาติ เมื่อนักเตะบางคนของคุณเล่นคืนวันพุธที่เม็กซิโก และไม่สามารถเล่นเกมวันเสาร์ได้หากคุณเริ่มเล่นตั้งแต่หัววัน" เวนเกอร์ กล่าว   ส่วนทางออกนั้น เวนเกอร์ บอกว่า จะต้องปรับโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ให้มีความสอดคล้องกับเกมทีมชาติ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยบอกว่า "ผมคิดว่าทางที่ดีก็คือ ถ้าคุณเล่นเกม 10 เกมหลัง แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือทีมชาติ ทุกทีมควรได้เล่นเกมเหย้า-เยือน อย่างละ 5 นัด แต่นี่คุณมีบางทีมได้เล่นเกมเยือน 8-9 นัด และบางทีมเล่นในบ้านตั้ง 8 นัด มันไม่ยุติธรรมเลย มันเกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบ และนั่นก็อธิบายได้มากแล้ว ซึ่งในกรณีนั้น ผมเห็นด้วยกับ เฟอร์กูสัน"   กุนซือน้ำหอม เปลี่ยนมาเอ่ยถึงข่าวลือย้ายทีมของ โคโล่ ตูเร่ ที่ไม่ได้เล่นเกมกับ พลีมัธ เพราะเจ็บโคนขาหนีบ โดยยืนยันว่า ไม่มีข้อเสนอใดๆ ยื่นมาทั้งนั้น แต่ในทางกลับกัน ตอนนี้เขากำลังพิจารณาเรื่องการเสริมทีมอยู่อย่างจริงๆ จังๆ เพราะล่าสุดในเกมนี้ มิกาแอล ซิลแวสตร์ เล่น 30 นาทีเท่านั้นก็เจ็บต้นขา เบื้องต้นคาดว่าพักยาว 3 อาทิตย์   "ผมกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ตอนนี้เรามีปัญหาผู้เล่นเจ็บ ทำให้มีผู้เล่นเหลือน้อย กรณีของ โคโล่ ผมหวังว่าเขาจะเจ็บไม่นาน โคนขาเขาอักเสบ แต่ กาแอล กลิชี่ น่าจะกลับมาได้ในสัปดาห์หน้า" เวนเกอร์ กล่าว http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_071.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปืนแตก!เวนเกอร์เกาเหลาบอร์ดเรื่องอาร์ชาวิน ความตึงเครียดระหว่างบอร์ดอาร์เซนอลกับผู้จัดการทีมเริ่มมีมากขึ้นแล้ว โดยคาดว่าประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องการซื้อขายเพลย์เมคเกอร์รัสเซียชื่อดัง เรื่องวุ่นวายในแคมป์"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อล่าสุดมีข่าวว่าอาร์แซน เวนเกอร์กุนซือเลือดน้ำหอมไม่ลงรอยกับบอร์ดบริหารเรื่องงบประมาณเพื่อซื้ออังเดร อาร์ชาวินแข้งทีมชาติรัสเซียในเดือนมกราคมนี้ กุนซือเฟรนช์แมนกำลังเร่งความตัวอังเดร อาร์ชาวินมาจากเซนิตเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก แต่ทางยอดทีมแดนหมีข่าวเรียกค่าตัวสูงถึง 20 ล้านยูโร ซึ่งทางปืนโตคงจะไม่ยอมจ่ายเงินมากมายขนาดนั้นแน่ โดยทีมผู้บริหารของยอดทีมแห่งลอนดอนเหนือบอกเสมอว่าพวกเขาพร้อมจะสนับสนุนเวนเกอร์ด้านการซื้อขายเสมอ แต่ดูเหมือนว่าครั้งล่าสุดนี้ทางบอร์ดจะไม่ยอมปล่อยเงินก้อนโตให้กับกุนซือเฟรนช์แมนได้เพราะตลาดคราวนี้ไม่เหมือนคราวก่อนๆแล้ว โดยอดีตกุนซือโมนาโกคาดว่าซัมเมอร์นี้จะได้เงินก้อนโตมาใช้เสียทีหลังจากประหยัดมานาน แต่บอร์ดของเอมิเรตส์เหมือนจะไม่ยอม ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความไม่ลงรอยกันในการซื้อขายครั้งนี้ นอกจากนั้น กุนซือวัย 59 ปีคนนี้ยังตกเป็นข่าวว่าพร้อมจะฉีกสัญญากับทางอาร์เซนอลเพื่อไปร่วมงานกับเรอัลมาดริดในซัมเมอร์หน้าอีกด้วย ข่าวนี้ยิ่งจะเข้าใกล้ความจริงขึ้นไปอีกหากปืนใหญ่ไม่สามารถคว้าโควตาไปเล่นแชมเปียนส์ลีกได้เหมือนที่ผ่านๆมา โดยตอนนี้ยังนอนอยู่อันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก และกุนซือสมองเพชรคนนี้อาจจะหันกลับมามองอนาคตของตัวเองอีกครั้งแล้ว http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=127080 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปืนต่อรองเรือใบเอาไอร์แลนด์แลกตูเร่ สื่อเมืองผู้ดีตีข่าว อาร์เซน่อล หวังให้ แมนฯ ซิตี้ ยอมปล่อย สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ มิดฟิลด์จอมทำประตู มาให้ หากอยากได้ โคโล ตูเร่ ไปเสริมแนวรับในถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แต่คาดคงเป็นไปได้ยาก เพราะ "เรือใบสีฟ้า" ไม่มีทางปล่อยดาวเตะคนสำคัญออกไปแน่ๆ "นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" หนังสือพิมพ์เล่มดังของอังกฤษ รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาว่า อาร์เซน่อล เปิดฉากต่อรองกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ลีก โดยเสนอว่าอยากได้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ กองกลางตัวเก่ง "เรือใบสีฟ้า" มาร่วมทัพ หากปล่อย โคโล ตูเร่ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ไปให้       ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" เล็งคว้า มิเกล อาร์เตต้า มิดฟิลด์ เอฟเวอร์ตัน มาทดแทน เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องคนสำคัญที่เจ็บเข่าพักยาว 4 เดือน แต่ติดตรงที่ เดวิด มอยส์ กุนซือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ขายให้โดยเด็ดขาด ทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องเปลี่ยนเป้าหมายทันที รายงานระบุว่า เวนเกอร์ อาจใช้ประโยชน์จากการปล่อย ตูเร่ ที่ "เรือใบสีฟ้า" ยื่นข้อเสนอซื้อมาให้ 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 440 ล้านบาท) ในการต่อรองขอซื้อ ไอร์แลนด์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้เป็นการแลกเปลี่ยน       อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ฮิลล์-วู้ด ประธานสโมสรอาร์เซนอล เพิ่งจะออกมาขวางลำ ตูเร่ ไม่ให้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีม เนื่องจากทีมกำลังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เองก็ไม่มีแผนปล่อยตัว ไอร์แลนด์ ในเวลานี้เช่นกัน http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_090.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปืนต่อรองเรือใบจะเอา "ไอร์แลนด์" แลก "ตูเร"       อาร์เซนอล เปิดฉากต่อรองยื่นหมูยื่นแมวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ โดยเสนอว่าอยากได้ สตีเฟน ไอร์แลนด์ กองกลางขาลุยมาร่วมทัพ หากปล่อยตัว โคโล ตูเร ดาวเตะสารพัดประโยชน์ไปให้              ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือปืนใหญ่เล็งคว้า มิเกล อาร์เตตา จอมทัพชาวสเปนของ เอฟเวอร์ตัน มาทดแทน เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องคนสำคัญที่เจ็บเข่าพักยาว 4 เดือน แต่ติดตรงที่ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมทอฟฟีสีน้ำเงินปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ขายให้โดยเด็ดขาด ทำให้ เดอะ กันเนอร์ส เตรียมเปลี่ยนเป้าหมาย              ซึ่งเวลานี้ “เรือใบสีฟ้า” ที่มีกำลังทรัพย์มหาศาลเริ่มเดินหน้าเสริมทัพในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม และจ้องกระชาก ตูเรผู้พี่ ด้วยข้อเสนอ 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 416 ล้านบาท) หลังเพิ่งรวบ เวย์น บริดจ์ จาก เชลซี เข้ามาอุดช่องโหว่ตรงแบ็กซ้ายหมาดๆ              โดย นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ สื่อจอมแฉแห่งแดนผู้ดีรายงานว่า เวนเกอร์ อาจใช้ประโยชน์จากการปล่อยดาวเตะทีมชาติไอวอรีโคสต์ไปยังถิ่นซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม ในการต่อรองขอซื้อ ไอร์แลนด์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในซีซันนี้เป็นการแลกเปลี่ยน              อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ฮิลล์-วูด ประธานสโมสรอาร์เซนอล เพิ่งจะออกมาขวางลำ ตูเร ไม่ให้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีม เนื่องจากทีมกำลังประสบปัญหาผู้เล่นเดี้ยงหลายราย ขณะที่ แมนฯ ซิตี เองก็ไม่มีแผนปล่อยตัว ไอร์แลนด์ ในเวลานี้ http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154250 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วัลค็อตต์เซ็งปืนเตะถ่วงสัญญาใหม่ ธีโอ วัลค็อตต์ หัวหอกอนาคตไกลอาร์เซน่อล ชักจะหมดความอดทนที่ "ไอ้ปืนใหญ่" มัวแต่ถ่วงเวลาเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวสามารถพิสูจน์ฝีเท้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติมาหมดแล้ว ธีโอ วัลค็อตต์ กองหน้าดาวรุ่งอาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก รู้สึกผิดหวังที่ต้นสังกัดยังคงนิ่งเฉย ไม่ยอมยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้พิจารณาเสียที ทั้งๆ ที่สัญญาฉบับปัจจุบันมีอายุเหลือเพียง 18 เดือนเท่านั้น โดยที่ปรึกษาของหัวหอกทีมชาติอังกฤษ เคยเปิดเจรจาเบื้องต้นกับผู้บริหาร "เดอะ กันเนอร์ส" มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนใดๆ กลับมาแม้แต่น้อย แหล่งข่าวใกล้ชิดของดาวเตะวัย 19 ปี เผยว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ธีโอ รู้สึกผิดหวังที่ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ของเขาแม้แต่น้อย สโมสรแจ้งว่าจะเริ่มเปิดเจรจากันในเดือนตุลาคม เพราะว่าพวกเขาต้องการเห็นฟอร์มของธีโอ ในช่วงต้นฤดูกาลเสียก่อน ซึ่ง ธีโอ ก็ยอมรับแต่โดยดี เนื่องจากเขาให้ความเคารพ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นอย่างสูง" "ทุกๆ คนต่างให้การยอมรับว่า ธีโอ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของ อาร์เซน่อล จนกระทั่งเขามีอาการเจ็บบริเวณหัวไหล่ เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งกับสโมสรและทีมชาติ แต่ก็ยังคงไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับสัญญาเลยสักนิด จริงๆ แล้วเขารู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้วในเวลานี้ และเขาอยากจะรู้สึกว่าทุกคนอยากจะให้เขาต่อสัญญาต่อไปจริงๆ ก็เท่านั้นเอง" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_108.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดร็อกยกบายอร์ซิวแข้งยอดเยี่ยมแอฟริกา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกเชลซี ควงแขน ซามูแอล เอโต้ ดาวเตะบาร์เซโลน่า ออกโรงยกย่อง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงอาร์เซน่อล สมควรคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา ประจำปี 2008 ที่จะทำการประกาศรางวัลในช่วงปลายเดือนนี้ ซูฮกทำผลงานให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ได้สุดยอดเมื่อซีซั่นที่แล้ว ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายกย่อง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโก สังกัดสโมสรอาร์เซน่อล ว่า สมควรได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา ประจำปี 2008 เมื่อพิจารณาจากผลงานที่ทำมาตลอดปีที่แล้ว ดาวยิงวัย 30 ปี ซึ่งปีที่แล้วปฏิเสธจะเดินทางไปร่วมพิธีแจกรางวัลที่ประเทศโตโก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กล่าวว่า "นักเตะที่สมควรได้รางวัลน่ะเหรอ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอเดบายอร์ ซึ่งมีพัฒนาการอย่างคงเส้นคงวาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เขาเป็นกำลังสำคัญให้อาร์เซน่อลเมื่อปีที่ผ่านมา ฟอร์มการเล่นของเขาสมควรที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลนี้" ด้าน ซามูแอล เอโต้ กองหน้าทีมชาติแคเมอรูนของบาร์เซโลน่า ซึ่งเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของแดนกาฬทวีปมาแล้ว 3 สมัย ก็ยกให้ อเดบายอร์ ที่ซัดให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ไป 24 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป็นเต็งหนึ่งสำหรับรางวัลนี้ "ด้วยความจริงแล้ว ทั้งดร็อกบาและผมต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อเดบายอร์ช่วยยกระดับชื่อเสียงนักเตะแอฟริกาในยุโรป ได้เป็นอย่างดี" เอโต้ เผย ทั้งนี้ สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา (ซีเอเอฟ) ประกาศ 5 รายชื่อสุดท้าย ที่มีสิทธิ์ได้รับรางวัลออกมาแล้วได้แก่ ดร็อกบา, อเดบายอร์, มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์กานา ของ เชลซี, อาเมอร์ ซากี้ หัวหอกทีมชาติอียิปต์ จากวีแกน และ โมฮาเหม็ด อาบูตริก้า คนยิงประตูชัยให้กับอียิปต์ ในนัดชิงชนะเลิศ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ครั้งที่ผ่านมา โดยจะทำการประกาศรางวัลในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. นี้ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090104_107.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผี, ปืน, หงส์ว้าวพี่มาร์กบ๊ายบายเสือใต้ มาร์ก ฟาน บอมเมล จอมทัพดัตช์ทำเอา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ เชลซี ถึงกับหูผึ่ง เปรยพร้อมโยนปลอกแขนกัปตันทีมบาเยิร์น มิวนิค ทิ้ง เพราะไม่พอใจสัญญาฉบับใหม่ อดีตซูเปอร์สตาร์บาร์เซโลน่ายืนกรานต้องการค้าแข้งในรังอัลลิอันซ์ อารีน่า ยาวนานกว่าระยะเวลาที่ขยายให้แค่ปีเดียวเท่านั้น "ใจจริงผมอยากจะอยู่ต่อนะ แต่ปีเดียวมันสั้นเกินไปสำหรับบางคนที่เพิ่งอายุ 32 ปีเอง" มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์เปิดใจกับหนังสือพิมพ์ 'บิลด์ ไซตุง' เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ดังนั้นผมไม่พอใจเลยกับเงื่อนไขดังกล่าว มันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผม" "ผมขอเวลาจนกว่าจะจบเดือนมกราคมเพื่อทบทวนหลายสิ่งหลายอย่างประกอบการพิจารณา" "ตอนนี้ยังไม่มีทีมไหนรู้ว่าผมกำลังจะกลายเป็นอิสระในไม่ช้า แต่พอผมหมดสัญญาเมื่อไหร่ล่ะก็ แน่นอนเลยว่าต้องมีสักสโมสรติดต่อทาบทาม" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=127157 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต๊อตติมีลุ้นเรียกฟิตทันบู๊ปืน   ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ดาวยิงกัปตันทีมโรม่าที่เจ็บต้นขาเรื้อรังในยามนี้ กำลังเข้ารับการฟื้นฟูและเรียกความฟิตแบบเต็มสูบ หวังทำสถิติหายอย่างรวดเร็วเพื่อกลับมาช่วยทีมในเกมชปล.ที่จะเจออาร์เซน่อลในเดือนกุมภาพันธ์นี้ให้ได้ ต๊อตติได้รับบาดเจ็บต้นขาจากเกมบุกพ่ายคาตาเนีย 2-3 เมื่อวันที่21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้แพทย์คาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลาพักรักษาตัว 2 เดือน นั่นหมายความว่าราชันหมาป่าที่เจ็บต้นขาจะต้องพลาดลงสนามช่วยทีมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก น็อกเอ้าท์ หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ที่จะไปเยือนถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมของอาร์เซน่อล ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 แต่ล่าสุดเจ้าตัวอาจทำสถิติเรียกความฟิตกลับมาเร็วได้อีกเหมือนเคย เมื่อแพทย์ยืนยันว่าอาการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ และอาจกลับมาซ้อมได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งของทีมหมาป่า http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=39049&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บัลดินี่ฟันธงทีมผู้ดีอ่วมชนทีมเลี่ยนในชปล. ฟรังโก้ บัลดินี่ มือขวา ฟาบิโอ คาเปลโล่ ในทีมชาติอังกฤษ ชี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่สุดในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่อินเตอร์ มิลานก็แข็งแกร่งพอเขี่ยแชมป์เก่าตกรอบเช่นกัน ส่วนอาร์เซน่อลกับเชลซี ที่จะเจอทีมจากอิตาลีเช่นกัน คือ โรม่า และยูเวนตุส ตามลำดับ ถือว่าน่าเป็นห่วง ฟรังโก้ บัลดินี่ มือขวาของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ในทีมชาติอังกฤษ ออกโรงทำนายทายทักดวงชะตาของ 4 ทีมยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เผยการวิเคราะห์ของเขายึดฟอร์มการเล่นปัจจุบัน และยกให้ทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ามีโอกาสดีกว่าอีก 3 ทีมเล็กน้อย แม้เตือนว่า อินเตอร์ มิลาน ก็แกร่งไม่ใช่เล่นก็ตาม   เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกจาก ลิเวอร์พูล ที่จะเจอ เรอัล มาดริด แล้ว ทีมอังกฤษอีก 3 ทีมจะรับมือกับทีมอิตาลีทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ ยูไนเต็ด จะเจอ อินเตอร์, เชลซี เจอ ยูเวนตุส และ อาร์เซน่อล เจอ โรม่า โดย บัลดินี่ แสดงความเห็นส่วนตัว เน้นไปที่การเจอกันเองของทีมจาก อังกฤษ และ อิตาลี ว่า "ถ้าหากผมจะต้องสรุปภาพรวมของการประกบคู่ ผมคงจะต้องขอบอกว่า - ทีมอังกฤษ น่าเป็นห่วง"   "ผมจะลองทำนายดู แต่นี่จะยึดจากฟอร์มการเล่น ณ เวลานี้ เพราะฉะนั้นอีก 2 เดือนอะไรๆ อาจเปลี่ยนไปได้ ทั้งหมดที่คุณต้องการคือ ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ และ ฟอร์มหล่นหาย ที่จะมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป พูดกันตรงๆ ผมว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่สุด คุณมองแค่แผงแนวรุกของเขาก็พอแล้ว เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, คาร์ลอส เตเวซ, อันแดร์สัน และ นานี่"   "อย่างไรก็ตาม อินเตอร์ เหมือนทีมที่มีขึ้นเพื่อสร้างปัญหาให้ทีมของ เฟอร์กูสัน ฟอร์มของทีมแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก และ สโมสรโลก ยังกระท่อนกระแท่นเวลาเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งๆ อินเตอร์ แข็งแกร่งมาก คุณจะบอกว่าพวกเขาเป็นรถถังก็ได้ การจะชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณต้องเล่นให้ดุดัน และยั่วพวกเขา สิ่งสำคัญก็คืออย่าปล่อยให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ เตเวซ ได้บอลติดเท้า ไม่งั้นคุณตายแน่" บัลดินี่ กล่าว     บัลดินี่ หันมาพูดถึง ยูเว่ กับ โรม่า ว่า "ผมให้ ยูเว่ มีโอกาสเข้ารอบ 51 เปอร์เซ็นต์ ต้องขอบคุณ โรม่า ของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เพราะ เชลซี ออกทะเลไปไกลนับตั้งแต่แพ้ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก และผมให้ โรม่า มีโอกาสมากกว่า อาร์เซน่อล ผมว่า อาร์เซน่อล นี่แหละเป็น http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090105_035.html จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #9 พาดหัวข่าวเกินจริงไปหน่อยนะ ถึงขั้นทีมแตกเลยเหรอ ส่วนข่าววัลคอตต์ จำได้ว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว สื่อเล่นข่าวว่าอาร์เซนอลเสนอสัญญาฉบับใหม่ ค่าเหนื่อย 60,000 ปอนด์ให้วัลคอตต์ แต่คราวนี้เล่นข่าวว่าไม่ยอมคุยเรื่องสัญญาใหม่กับวัลคอตต์อีก o_O เฮ้อ! อ่านข่าวแล้วต้องฟังหูไว้หูจริงๆ -_-" แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 12:43:31 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 10 สุดยอดย้ายทีมฟุตบอลอังกฤษ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองเปิดทำการมาได้แค่ 4 วัน จึงยังไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร "MGR Sport" จึงหยิบเอา 10 สุดยอดการย้ายทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของฟุตบอลอังกฤษ จากสำนักข่าว "เดลี เมล" (Daily Mail) มาฝากกัน มี อาร์เซนอล ติดอันดับถึง 3 รายจากผลงานของ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส             1.เอริค คันโตนา - จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 1.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 62 ล้านบาท)       แมนฯยู ช็อกวงการฟุตบอลด้วยการดึง คันโตนา มาจากอริอย่าง ลีดส์ เมื่อปี 1992 แต่ก็ถือเป็นจุดกำเนิดตำนานคนใหม่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากการพาทีมคว้าแชมป์ลีก 4 ใน 5 ฤดูกาล ยิงประตูชัยคว่ำ ลิเวอร์พูล นัดชิง เอฟเอ คัพ ปี 1996 รวมถึงดับเบิลแชมป์ 2 ใน 3 ฤดูกาล ด้วยลีลาการเล่นอย่างชาญฉลาดจนถูกยกให้เป็น "ศิลปินลูกหนัง"             2.เอียน รัช - จาก เชสเตอร์ สู่ ลิเวอร์พูล ค่าตัว 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 10 ล้านบาท)       ในยุคปัจจุบันคงหากองหน้าฝีเท้าดีและราคาถูกอย่าง รัช ไม่ได้อีกแล้ว ดาวยิงสัญชาติเวลส์ ฉายา "เพชฌฆาตหน้าติดหนวด" ซัดกระจายถึง 346 ประตูจาก 660 นัดที่ลงเล่น จนถูกยกย่องให้เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในถิ่น แอนฟิลด์ โดยเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล สองช่วงเวลา 1980-87 และ 1988-1996             3.เธียร์รี อองรี - จาก ยูเวนตุส สู่ อาร์เซนอล ค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 520 ล้านบาท)       ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ย้ายจาก โมนาโก ไปดับที่ ยูเวนตุส ก่อนจะถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงมาชุบชีวิตจนกลับมาเกิดอีกครั้งในสีเสื้อ อาร์เซนอล เมื่อปี 1999 ซึ่ง 8 ปีในวงการฟุตบอลอังกฤษ อองรี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคือนักเตะชั้นดี ทุบสถิติดาวยิงสูงสุดของ "ปืนโต" คือ คลิฟฟ์ บาสติน คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยและ เอฟเอ คัพ 3 สมัย             4.นิโกลาส์ อเนลกา - จาก ปารีส แซง แชร์กแมงต์ สู่ อาร์เซนอล ค่าตัว 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 260 ล้านบาท)       หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของกุนซือตาเพชรอย่าง เวนเกอร์ เมื่อคว้า อเนลกา มาจาก เปแอสเช เมื่อครั้งอายุ 17 ปี ด้วยค่าตัวแสนถูก ก่อนจะฟันกำไรมหาศาลจากการขายต่อให้ รีล มาดริด ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,144 ล้านบาท) เพราะยิงกระจายจนพาทีมคว้าแชมป์ลีกและ เอฟเอ คัพ             5.เควิน คีแกน - จาก สคันธอร์ป สู่ ลิเวอร์พูล ค่าตัว 35,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)       อีกหนึ่งตำนานในถิ่น แอนฟิลด์ ที่ไม่ใช่พวกสเกาเซอร์ ใช้เวลา 6 ฤดูกาลพา ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากมายทั้งแชมป์ ดิวิชัน 1 ถึง 3 สมัย, ยูฟา คัพ อีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ อีก 2 สมัย รวมถึง ยูโรเปียน คัพ อีกหนึ่งสมัย หากยังไม่ย้ายไปอยู่ ฮัมบูร์ก ในปี 1977 คงจะสั่งสมเกียรติยศในชุดสีแดงอีกมากโข             6.เอียน ไรท์ - จาก กรีนวิช โบโร สู่ คริสตัล พาเลซ แบบไม่มีค่าตัว       ทุกคนรู้จักเขาในฐานะตำนานกองหน้าจอมถล่มประตูของอาร์เซนอล แต่ก่อนหน้านั้น ไรท์ คือดาวยิงที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษของคริสตัล พาเลซ จากการซัด 117 ประตูในการเป็นตัวจริง 253 นัดและสำรอง 24 นัด ก่อนจะผละไปอยู่กับ "ปืนโต" เมื่อปี 1991 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 130 ล้านบาท)             7.ปาทริค วิเอรา - จาก เอซี มิลาน สู่ อาร์เซนอล ค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 182 ล้านบาท)       นักเตะ อาร์เซนอล คนที่ 3 แล้วที่ติดทำเนียบ 10 คน เวนเกอร์ คว้าตัว วิเอรา มาจาก เอซี มิลาน โดยที่ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักผู้เล่น เซเนกัล ที่เกิดใน ฝรั่งเศส คนนี้เลย ก่อนจะมาดังเปรี้ยงปร้างติดทีมชาติฝรั่งเศส คว้าทั้งแชมป์โลกและแชมป์ยูโร ก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมก่อนที่จะย้ายออกไปอยู่กับ ยูเวนตุส             8.รอย คีน - จาก ค็อบห์ แรมเบลอร์ส สู่ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ค่าตัว 47,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท)       ไบรอัน คลัฟ เป็นผู้ค้นพบ คีน ก่อนที่ แมนฯยูไนเต็ด จะดึงไปปลุกปั้นในปี 1993 เคยพา "เจ้าป่า" คว้าแชมป์ ฟูล เมมเบอร์ส คัพ ในปี 1992 แม้จะเป็นกองกลางแต่ยิงได้ถึง 22 ประตูตลอดระยะเวลา 3 ปีในถิ่น ซิตี กราวนด์ ก่อนจะแพ้ลมปาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกปัด อาร์เซนอล และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการย้ายมา "ผีแดง"             9.อลัน เชียเรอร์ - จาก เซาแธมป์ตัน สู่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ค่าตัว 3.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 171 ล้านบาท)       คีย์แมนที่ทำให้ แบล็คเบิร์น คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป ในปี 1995 ด้วยการประสานงานกับคู่ขาในแดนหน้า คริส ซัตตัน ยิงรวมกันไป 49 ลูก โดย "ฮอตชอต" ซัดได้ถึง 34 ประตู ซึ่งปีก่อนหน้านั้นก็คว้ารองแชมป์มาครองแล้วครั้งหนึ่งจากการที่เขายิงคนเดียว 31 ประตูจาก 40 เกม             10.ปีเตอร์ ชไมเคิล - จาก บรอนด์บี สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 26 ล้านบาท)       นายทวารเจ้าของฉายา "เดอะ เกรท เดน" การย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำให้ ชไมเคิล กลายเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของโลก ด้วยลีลาการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วแม้ว่าจะตัวใหญ่กว่ากองหลัง รวมถึงมีเสียงคำรามสั่งการที่น่าเกรงขาม จนพาทีมคว้าแชมป์เป็นว่าเล่นรวมถึง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในปี 1999 http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154302 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 12:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่ามันเป็นเรื่องปกตินะที่หลังเกม UCL ทีมไหนได้เล่นในบ้านก็มักจะได้เล่นในบ้านติดๆกัน ทีมไหนได้เล่นนอกบ้านก็จะได้เล่นนอกบ้านติดๆกันเพราะ UCL มันเตะอาทิตย์เว้นอาทิตย์อยู่แล้ว และจะมานั่งจัดโปรแกรมตามทีมใหญ่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องจัดโปรแกรมแบบเสมอภาคให้ทีมที่ไปเล่นยูฟ่าคัพด้วย และหากพิจารณาเกมทีมชาติอีก แทบจะทุกทีมในลีกเค้าก็มีนักเตะติดทีมชาติกันทั้งนั้น หากพิจารณาทุกจุดแบบนี้ การจัดโปรแกรมก็คงวุ่นวายตาย จากคุณ : Lueng - [ 5 ม.ค. 52 12:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ   วัลค็อตนั้นเก่งครับ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอนาคตที่สุดของอาร์เซน่อล แต่ก็มีข้อเสียคือ เจ็บง่ายเกินไป ทำให้การพัฒนาหยุดชะงัก ขาดช่วง ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลึกๆแล้วเชื่อว่า เวนเกอร์ ก็เป็นกังวล ถึงเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน    ถ้าครึ่งฤดูกาลหลังวัลค็อตกลับมาเล่นได้อย่างแข็งแกร่งและไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนจนจบฤดูกาล จะเป็นเรื่องที่ดีมากครับ แต่!! ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น คำถามที่จะเกิดขึ้นคือ อาร์เซน่อล อาจจะรอปีกขวาตัวจริงที่ชื่อ ธีโอ วัลค็อต ไหวไหม? ซึ่งถ้าปืนหาปีกขวาดีๆมาทดแทนในระยะยาวได้แล้วละก็ ผมกลัวว่า ธีโอ จะอยู่กับเราไม่นานน่ะสิครับ ขึ้นชื่อว่าม้านั่งข้างสนามแล้วไม่เข้าใครออกใครซะด้วย.~    สรุปว่าตอนนี้ วัลค็อต ควรฟิตร่างกายและกระดูกให้แข็งแกร่งพอที่จะกลับมายึดตัวจริงปืนใหญ่ตลอดฤดูกาลเป็นอันดับแรกครับ แล้วสัญญายาวจะตามมาเอง จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ 5 ม.ค. 52 12:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รีวิวเอฟเอ คัพในวันที่คนไทยไม่ได้ดู เป็นอีกครั้งที่ชะตาชีวิตคนเรามาแล้วก็ไปดื้อๆ เหมือนฟุตบอลที่ขึ้นสู่ศักราชใหม่แต่อารมณ์เก่าๆ อย่างเอฟเอ คัพหวนกลับมาสู่กลิ่นอายโบราณแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ดังที่พวกเราคนรุ่นเก่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี ก่อนพาไปคุยเรื่อง"เนื้อ" ขอเกริ่นเรื่อง"เส้น"ก่อน(จะบอกว่าน้ำก็ไม่เชิงเพราะเป็นสาเหตุใหญ่ของปัญหา) คือการถ่ายทอดสดเอฟเอ คัพที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราแฟนบอลชาวไทยหาดูจากฟรีทีวีหรือเคเบิ้ลไม่ได้เลย ยกเว้นบรรดาจานดาวเทียมทั้งหลายแหล่ คือผมเองก็ไม่ได้ชอบอะไรทรูมากมาย แต่ก็ขอออกตัวร้อยเมตรแทนว่างานนี้เขาไม่เกี่ยว เนื่องจากเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริงคือบริษัท ADAMAS ซึ่งตัดหน้าเซ็นสัญญากับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ 4 ปีเริ่มสิงหาคม 2551 ไปจนถึง 2555 ไม่ยอมถ่ายเอง สำหรับพวกเราคนไทยคือใครได้เห็นสปอตทางช่อง ESPNStar คงเจ็บแสบอย่างบอกไม่ถูกเพราะระดมโหมประชาสัมพันธ์รายการเอฟเอ คัพอย่างหนักแต่ระบุด้านล่าง not available in Thailand ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่บริษัท ADAMS ไม่ยอมถ่ายอันนี้ผมไม่อยากรับทราบเพราะอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจภาษาธุรกิจ แต่ที่แน่ๆ คือทุกวันนี้บริษัทหลายเจ้ามักชอบซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลมาดองตัดหน้าคนที่ตั้งใจจะเอามาถ่ายทอดสดจริงๆ อย่างฟรีทีวีช่องบันเทิงช่องนึงถ้าไม่เตะหลังเที่ยงคืนชาตินี้อย่าหวังว่าจะได้ดูบอลดีๆ หรือซ้ำร้ายคนที่รอดูรีรันต้องทนให้จบรายการหนังหรือเพลงลูกทุ่งซะก่อน โชคดีผมไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรมาก ก็อีแค่ไม่ได้ดูบอลคงไม่น่าจะถึงกับตาย... อย่างไรก็ตามถ้าข้อมูลผมไม่ผิดพลาดหลังรอบ 4 ไปแล้วพวกเราจะได้ดูทางฟรีทีวีครับแต่จะเป็นช่องไหนรบกวนเช็กกันเอาเอง มีอยู่ช่องเดียวนั่นแหละครับ เอาล่ะครับกลับมาที่เรื่องของเรากันบ้าง... ในรอบ 3 หรือรอบที่มีตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกลงสนามมีสโต๊คสังเวยเบิกทางยมบาลเป็นทีมแรกหลังเสียท่าให้ฮาร์เทิ่ลพูลทีมอันดับ 15 จากลีกวัน 2-0 เฉกเช่นเดียวกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ซึ่งส่งนักเตะชุดใหญ่เต็มสตีมขาดเพียงแค่โรบินโญ่ไปคนเดียว แต่ถึงแม้จะใช้ชุดผสมหรือต่อให้ไร้เงาหัวใครก็ตามการแพ้ในบ้านตัวเองให้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ทีมท้ายตารางเดอะแชมเปี้ยนชิพด้วยสกอร์ขาดลอย 3-0 จึงหมดสิทธิ์หาข้อแก้ตัวด้วยประการทั้งปวง เรียกว่าเอฟเอ คัพเป็นความสำเร็จทางลัดรายการเดียวในประเทศจบเห่อย่างรวดเร็วและงานนี้มาร์ค ฮิวจ์สรับไปเต็มๆ เพราะตั้งใจจะตั้งตัวในปีใหม่กับรายการบอลถ้วยหลังฟอร์มในลีกห่วยสนิทชัยชนะแค่หนึ่งจาก 9 เกมหลังสุด แฟนบอลจึงรวมหัวกันโห่ทันทีที่จบเกมพร้อมตั้งคำถามว่าสปาร์กี้ใช่คนที่เหมาะสมสำหรับ"เรือใบ"หรือไม่ เพราะรอคอยเงินฟาดหัวซื้อนักเตะมาเสริมทัพนั่นก็อีกเรื่องนึงแต่เหตุไฉนการรับช่วงทีมที่ดีอยู่แล้วจากสเวน โกรัน เอริคส์สันถึงได้แพ้ง่ายแพ้ดีเช่นนี้ จุดน่าสังเกตคือ 3 ประตูที่เสียให้"เจ้าป่า"เป็นการยิงเข้ากรอบ 3 ครั้งตลอดทั้งเกม ในขณะที่เกมรุกซิตี้พับสนามบุกแหลกมีโอกาสยิง 18 ครั้งเข้ากรอบ 10 ครั้งแต่กลับทำไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว ความสมดุลในทีมแย่ครับปล่อยให้ลูกทีมเสียความมั่นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจอทีมในพรีเมียร์ลีกยิงง่ายแต่ก็เสียง่าย เกมเมื่อวันเสาร์ห่วยทั้งรุกและรับ ว่ากันว่าอนาคตของฮิวจส์จะไม่ยืดไปกว่านี้หากยังลุ่มๆดอมๆ ชนะหนึ่งนัดแพ้สามนัด เนื่องจากเงินที่กำลังจะได้ถลุงในเดือนมกราคมนี้ค้ำคอให้ต้องชนะสถานเดียวชนิดดิ้นไม่หลุดจริงๆครับ ฮิวจส์คงทราบดีแล้วนะครับคุมทีมใหญ่ที่ใช้เงินเยอะ+ต้องการความสำเร็จในระยะสั้นบริหารยากแค่ไหน ลงสนามทุกครั้งก็ต้องเอาใจแฟนบอลจะมาเน้นแท็คติกส์เหมือนคุมแบล็คเบิร์นก็คงลำบาก น่าสนใจนะครับเมื่อใช้เงินสมใจอยากได้นักเตะตามที่ต้องการแล้วฮิวจส์จะมีแท็คติกส์หรือวางระบบดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาได้หรือเปล่า ถ้ายังทำไม่ได้เห็นทีต้องบอกว่า"เรือใบ"ยุคเศรษฐีต้องการคนมี"กึ๋น"มากกว่าคนใส่สูทเสียงดังอย่างเดียวแล้วล่ะครับ บทสรุปของ"เรือใบ" คล้ายๆกับเชลซีครับ เพียงแต่ลูกทีมหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ให้ความรู้สึกเหมือนแพ้ภัยตัวเอง แม้ว่าลึกๆแล้วหลายคนมองว่าเกมรีเพลย์เซาธ์เอนด์โอกาสพลิกล็อกหนสองคงลำบาก อย่างไรก็ตามผลเสียที่มากกว่ารีเพลย์ให้มีเกมตกค้างเพิ่มขึ้นมาอีกคือผลงานในบ้านของเชลซีที่ ณ เวลานี้ต่ำกว่ามาตรฐานจนผิดวิสัยทีมหัวบนตารางมากเกินไปพอดีแล้วล่ะครับ ตอนแรกเหมือนจะเป็นแค่วันเบาๆ รอจุดเปลี่ยนซักนัดสองนัดตามปกติ แต่นี่ก็ 5 เดือนเต็มๆเข้าให้แล้ว จำกันได้ไหมครับว่าคาร์ลิ่ง คัพพวกเค้าก็ตกรอบให้ทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพอย่างเบิร์นลีย์ที่มายันเสมอแล้วดวลจุดโทษชนะ 5-4 ในพรีเมียร์ลีกก็เพิ่งชนะในบ้านแค่ 4 จาก 10 นัดซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่ากับ"บ๊วย"เวสต์บรอมจนยากจะเข้าใจจริงๆครับ ผมได้ดูเกมระหว่างเชลซีกับเซาธเอนด์ผ่านเวบและเห็นสมควรด้วยที่"บิ๊กฟิล" ถึงกับเดือดดาลเนื่องจากเกมนี้พวกเค้ามีองค์ประกอบพร้อมสำหรับผู้ชนะครบถ้วนเหมือนที่ผ่านๆมา แต่กลับไม่สามารถเพิ่มสกอร์ 1-0 ที่กาลูทำไว้ตั้งแต่นาที 31 จนเท่ากับไปเชื้อเชิญกวักมือเรียกให้คู่แข่งตีเสมอ โอกาสยิงประตูที่สองสามและสี่ของ"สิงห์ไฮโซ" ไม่ใช่แบบงูๆปลาๆแต่เป็นจังหวะสมควรเป็นประตูไม่ว่าจะลูกโขกเน้นๆของเบลเล็ตติถูกเคลียร์บนเส้น หรือจังหวะเซฟแบบกอร์ดอนแบ็งค์ของมิลเดนฮอลล์ในช่วงวินาทีสุดท้าย จะพูดว่า"บิ๊กฟิล"เข้ามาล้างสมองนำเอาสไตล์เล่นสวยแต่ประสิทธิ์ภาพต่ำของโปรตุเกสมาใช้กับเชลซีก็คงไม่ถูกนักเพราะโอกาสมากมายของเชลซีเป็นนอกบ้านที่สามารถกวาดชัยชนะได้เน้นและเปลี่ยนให้เป็นประตูได้มากกว่า จุดอ่อนที่เหมือนแนวรับเชลซียังปล่อยให้ส่งกลิ่นมานานตั้งแต่เปิดซีซั่นยังอยู่ที่จังหวะเดดบอลสารพัดและประตูที่เสียให้เซาธ์เอนด์ซึ่งฟอร์มช่วงหลังย่ำแย่แพ้ 4 จาก 5 นัดที่มาจากลูกทุ่มไกลก่อนที่ริคาร์โด คาร์วัลโญ่นักเตะคู่บุญของ"บิ๊กฟิล"ทำพลาดจนถูกตีเสมอในนาทีสุดท้าย ด้านอาร์เซนอลแม้แนวรับยังแกว่งๆอยู่ แต่เมื่อมองจากสภาพทีมที่ตอนนี้แฟนลุ้นให้จบเกมไม่มีใครเจ็บก็เหมือนได้ชัยชนะแล้ว ชัยชนะเหนือพลีมัธทำให้อาร์แซน เวนเกอร์ต้องหยิบยกแต่เรื่องโพสิทิฟมาสรรเสริญลูกทีม อย่างน้อยที่สุดโรบิน ฟาน เพอร์ซี่เป็นความหวังเดียวของ"ปืนใหญ่" สำหรับการทำประตูแบบหวังผล+มีประสิทธิภาพ ซึ่งเวนเกอร์มองว่าลูกทีมเขาเล่นกับทีมรองบ่อนเหมือนเจอกับทีมชั้นนำแบบไม่ติดประมาท นี่คือจุดสำคัญที่เวนเกอร์พยายามหาทางแก้ไขให้เกิดผลในระยะยาวหาใช่ในระยะสั้น ปิดท้ายที่"หงส์แดง"ซึ่งเน้นผลการแข่งขันไม่เน้นเรื่องเล่นสวยทำให้พวกเค้าสามารถเตรียมทีมและมีสมาธิกับพรีเมียร์ลีกโดยไม่ต้องลงเล่นในเกมรีเพลย์เหมือนเชลซี เรื่องฟอร์มผมคงไม่ขอพูดถึงมากนักเพราะอย่างน้อยๆครึ่งแรกก็เล่นเหนือกว่าและมีโอกาสนับไม่ถ้วนแต่เหล่ากองหน้าโดยเฉพาะร็อบบี้ คีนยังยิงนกตกปลาทำให้เปรสตันลงสนามในครึ่งหลังด้วยความฮึกเหิมจนรูปเกมพลิกเป็นของเจ้าถิ่น ข่าวร้ายคือราฟาเอล เบนิเตซมีลิสต์นักเตะเจ็บเพิ่มสองคนและเป็นในตำแหน่งยุทธศาสตร์ของ"หงส์แดง"ด้วยนั่นคือมิดฟิลด์ทั้งในรายของชาบี้ อลอนโซ่และฮาเวียร์ มาสเคราโน่ แต่ข่าวดีคือสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดยังคงแคแรคเตอร์ของกัปตันแม้เพิ่งขโมยข่าวหน้าหนึ่งมีเรื่องวิวาทในคลับเมื่อสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้เฟร์นานโด ตอร์เรสกลับมาลงสนามเป็นนัดแรกหลังเจ็บเอ็นหัวเข่าก็ได้รับการช่วยเหลือจาก"หัวขิง"ซึ่งเจตนาปั้นให้เพื่อนรักจนมีชื่อทำประตูในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายเป็น"ซูเปอร์แอสซิต"เพื่อปูทางให้"เอลนินโญ่"อย่างแท้จริง นี่ขนาดเอฟเอ คัพรอบสามซึ่งไม่มีถ่ายทอดสดในเมืองไทยยังมีประเด็นเรื่องราวให้พูดถึงมากมายราวกับนั่งดูอยู่ขอบสนาม สงสัยรอบสี่คงเล่าเป็นฉากๆเหมือนเราลงไปเล่นเองแน่ๆ... จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 13:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ปรากฏการณ์ "ยักษ์ล้ม"...มนต์เสน่ห์เอฟเอ คัพ สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ หวังว่าวันหยุดยาวที่ผ่านมาคงได้พักผ่อนชาร์จแบตเตอรี่กันแบบเต็มอิ่มเพื่อเตรียมตัว "สู้ชีวิต" กันต่อในปีวัวนี้ : ) ลีกอังกฤษสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีคิวต้องหลีกทางให้ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่และ มีเสน่ห์มนต์ขลังมากที่สุดในโลกถ้วยนึงอย่างเอฟเอ คัพรอบ 3 ซึ่งเริ่มคู่แรกไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า "ทีมตราไก่" สเปอร์ส ยังโชว์ฟอร์มได้สมราคาเจ้าพ่อบอลถ้วยในอดีตเมื่อปราบ "เดอะ ลาติกส์" วีแกน แอธเลติกคู่ปรับจากเวทีพรีเมียร์ชิพด้วยกันไป 3-1 ตบเท้าเข้ารอบ 4 เป็นทีมแรก ขณะที่วันถัดมา (เสาร์ที่ 3 ม.ค.) เป็นคิวของพวกบิ๊กทีมอย่างเชลซี, ลิเวอร์พูล และอาร์เซนอลลงทำศึกปรากฏว่า หงส์แดงอาศัยตัวผู้เล่นที่เหนือกว่ามากเอาชนะไปได้ 2-0 ส่วน "สิงห์ไฮโซ" เชลซีซึ่งฟอร์มรูดดำดิ่งมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วยังควานหาฟอร์มเทพเหมือนในช่วงต้นฤดูกาลไม่เจอ เมื่อลงเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ของตัวเองแล้วทำได้แค่เสมอทีมลีกวันอย่างเซาธ์เอนด์ไป 1-1 โดยถูกปล้นชัยในนาทีสุดท้ายของเกมทำให้ต้องไปเหนื่อยเตะนัดรีเพลย์ต่อ เพิ่มความกดดันให้กุนซือหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่เก้าอี้สั่นคลอนมากขึ้นทุกทีแล้ว แต่ที่เก้าอี้หักไปแล้วหนึ่งข้างรอวันโดนเชือดสถานเดียวแน่นอนว่าหนีไม่พ้นกุนซือผมสีดอกเลา มาร์ค ฮิวจ์ส นายใหญ่แมนฯซิตี้เมื่อจัดชุดฟูลทีมเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม "หมูสนาม" อย่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรตส์ทีมอันดับ 21 ในศึกแชมเปี้ยนชิพแล้วโดนยำเละดับอนาถคาบ้านของตัวเอง 0-3 "ตอกย้ำ" สัจธรรมของวงการฟุตบอลอีกครั้งนึงว่าบางที "เม็ดเงิน" ก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จเสมอไป นี่แหละครับถือเป็น "เสน่ห์" ของเอฟเอ คัพซึ่งทุกปีจะต้องมีบิ๊กทีมกระเด็นตกรอบไปตั้งแต่เนิ่นๆ แบบนี้เสมอมา เนื่องมาจากเป็นบอลน็อกเอาต์ที่เตะกันนัดเดียวจอดไม่ต้องลีลามาก กรรมการเป่าปี๊ดเริ่มเขี่ยทีมไหนมีกุนซือใจนักเลงหน่อย เราก็จะได้เห็นทีมเล็กวิ่งไล่บี้ไล่เตะพวกจอมเทคนิคทั้งหลายของทีมใหญ่ให้แหยงกับการเข้าบอลหนักๆ ซึ่งถือเป็น "ตำราปราบเซียน" มานักต่อนัก อย่างที่ฟอเรตส์เพิ่งแสดงให้เห็นในการปราบพยศทีมเรือใบนัดที่ผ่านมา อีกหนึ่งสาเหตุที่ทีมใหญ่มักจะ "บ้อท่า" ในบอลถ้วยนี้ก็คือลูกประมาทซึ่งตรงนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญและน่าห่วงมากที่สุดสำหรับกุนซือทีมใหญ่ และก็เป็นโอกาสของทีมรองบ่อนที่จะใช้โอกาส+ฉกฉวยความได้เปรียบตรงนี้ปฏิบัติการ "ล้มยักษ์" ให้แฟนๆ ได้อึ้งแต่ไม่เสียว เพราะทำท่านต่อกระเป๋าแห้งไปตามๆ กัน! สำหรับคู่อาร์เซนอล VS พลีมัธซึ่งผมเดินทางไปดูที่เอมิเรตส์ สเดี้ยม ปรากฏว่าไม่มีพลิกล็อกให้เห็นแต่ทว่าผลงานโดยรวมของทีมปืนโตชุดผสมที่อาร์แซน เวนเกอร์จัดลงไปเล่นก็ถือว่าไม่ได้ดีเด่และน่าประทับใจมากมายอะไร... เกมนี้อาร์เซนอลมาด้วยระบบ 4-4-2 ใช้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่เป็นกองหน้าคู่กับนิคลาส เบนท์เนอร์ ขณะที่กองกลางใช้ซาเมียร์ นาสรี่และอารอน แรมซีย์ลงปั้นเกมร่วมกัน ส่วนทีมเยือนจัดทัพเต็มอัตราศึกและก็ต้านทานเกมรุก ได้ดีเหลือเกินในครึ่งแรกวิ่งสู้ฟัดจนขุนพลปืนโตหลายรายถึงกับเล่นกันไม่ค่อยจะออก จ่ายลูกง่ายๆ เสียบ่อยครั้ง อย่างไรก็ดีในวันที่แข้งกันเนอร์สโชว์ฟอร์มกันไม่เอาอ่าวเอาทะเลกันหลายคน โดยเฉพาะเบนท์เนอร์และเอบูเอ้ที่วันนี้ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานเยอะทีเดียว พวกเค้าก็ยังได้ "ทีเด็ด" และ "ความเด็ดขาด" จากสองคีย์แมนสำคัญในเกมนี้อย่างซาเมียร์ นาสรี่และโรบิน "เดอะแมน" ฟาน เพอร์ซี่ โชว์ฟอร์มเด็ดดวงสมกับเป็นสตาร์ของทีมพากันเป็นเสาหลักให้แนวรุกอาร์เซนอลขึ้นนำสองประตูติดๆ ในช่วงต้นครึ่งเวลาหลัง ก่อนที่จะสมาธิหลุดโดนยิงตีตื้นมาเป็น 2-1 แต่ก็ได้ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันในเกมนี้ยิงเบิ้ลตอกย้ำชัยชนะให้ทีมปิดกล่องเป็น 3-1 ในช่วงก่อนหมดเวลา 5 นาที เล่นเอาแฟนบอลปืนโตหายใจกันไม่ค่อยทั่วท้องเลยทีเดียวในช่วงก่อนหน้านั้น ครับนี่เป็นอีกเกมที่อาร์เซนอลเล่นกันไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่ก็สามารถเก็บชัยชนะได้ซึ่งตรงนี้ผมถือว่าน่าพอใจกว่าเล่นดีเพลินตา แล้วสุดท้ายแพ้เป็นไหนๆ ก็ต้องชมกึ๋นของอาร์แซน เวนเกอร์เค้าละครับที่ยังประคองทีมไว้ได้แม้ว่าจะขาดมิดฟิลด์ประเภทสร้างสรรค์เกมไปเพียบทั้งโทมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลค็อตต์ และเชสก์ ฟาเบรกัส ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับนะครับว่าถ้วยเอฟเอ คัพอาจเป็นซิลเวอร์แวร์ใบเดียวที่ทีมปืนใหญ่มีโอกาสได้ลุ้นมากที่สุดในฤดูกาลนี้ หลังจากทัพ "ยังบลัด" ของเวนเกอร์โดนถีบตกรอบคาร์ลิ่ง คัพด้วยน้ำมือเบิร์นลี่ย์ไปอย่างเจ็บแสบเดือนก่อน แถมโอกาสลุ้นแชมป์ในพรีเมียร์ชิพก็เลือนราง ถ้วยใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ ลีกก็ยังไม่รู้อนาคตเพราะไปจับติ๋วเจอโรม่าทีมแกร่งจากอิตาลีด้วย ถือว่าน่าหนักใจแทนแฟนและบอร์ดบริหารทีมปืนโตจริงๆ ว่าจะวืดทุกแชมป์อย่างปีก่อนอีกรึเปล่า? งานนี้ถ้าเวนเกอร์อยากได้สักแชมป์ก็คงต้องรีบยิงสายด่วนไปกดดันปีเตอร์ ฮิลวู้ดเพื่อนำเงินมาช็อปนักเตะฝีเท้าดีพร้อมใช้งานสักคนสองคน ก่อนตลาดนักเตะรอบนี้จะปิดตัวลงแล้วล่ะครับ! ฮัลโหล จากลอนดอน โดย ใหม่ โมบาย ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3453 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 13:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เวลาเห็นโรบินเป็นกัปตันรู้สึกว่าเขาเท่ห์มากเลย รัศมีมันเปร่งปรั่ง ว่าแล้วต้องถอยเสื้อแบบรบิน ฟานเพอซี่มาซักตัวไว้ใส่เตะบอลเท่ห์ๆ ^ ^ จากคุณ : ราชันย์ชุดหมี - [ 5 ม.ค. 52 13:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 การที่เวนเกอร์ส่งตัวจริงจากทีมใหญ่ "หลายคน" ลงเล่นในเกมเมื่อวันเสาร์ เป็นสัญญาณ "ร้าย" ที่ถ้าไม่จงใจแกล้งหลับตาข้างเดียวก็คงจะต้องมองออกนะ ว่าปีนี้เวนเกอร์เองไม่ได้เป็นห่วงแค่โควต้า ชปล.อย่างเดียว แต่ยังเผื่อใจล่วงหน้าไปถึงโควต้า "ยูฟ่าคัพ" ด้วยเลย ผมไม่แน่ใจนะว่า จำนวนทีมที่จะได้สิทธิ์ในโควต้าของ ชปล.จะลดลงเหลือแค่ 3 ทีม ในปีนี้หรือปีหน้าแน่ๆ แต่ที่แน่ใจเลยก็คือ โควต้ายูฟ่าคัพสำหรับทีมจากลีก (ถ้าไม่นับพวกอินเตอร์โตโต้และแฟลเพลย์) ยังไงก็มีแค่ทีมเดียวเหมือนเดิม จับพลัดจับผลูทำผลงานดิ่งเหวแบบนี้ อย่าว่าแต่ตกรถไฟด่วนขบวน ชปล.เที่ยวเดียวเลย เผลอๆ รถหวานเย็นขนหมูขบวนยูฟ่าคัพก็อาจจะวืดได้ง่าย ไม่แพ้กันเลย........แฟนปืนอย่ามัวแต่มองโลกในแง่ดีเชียวหละ.. กรณีนักเตะย้ายทีม ทั้งเข้า-ออก สำหรับตูเร่ ถ้าได้ตัวที่ดีๆ (อย่างไอร์แลนด์) เข้ามาแลกก็ถือว่าคุ้ม หรือขายเอาตังค์ก็ไม่น่าเสียหายอะไร นักเตะหมดใกล้หมดสภาพแล้ว ถึงจะเป็นตัวที่ก้าวขึ้นมาพร้อมกับความรุ่งเรื่องของทีม ก็มิอาจจะยึดติดกับสิ่งนั้นได้ สุดท้าย เรื่องของนาสรี (ที่บังเอิญเหมือนว่าผมจะเป็นพ่อยกเพียงรายเดียวของหมอนี่อยู่ด้วย) ก็คงจะยังพูดอะไรในตอนนี้ไม่ได้ จนกว่า 4 เดือนที่ไม่มีฟาเบรกาสอยู่ จะพิสูจน์ได้ว่า ทีมไม่ได้มีผลงานตกลงจากระดับที่เคยอยู่ก่อนหน้านั้น (หรือเผลอๆ ถ้าดีขึ้น) ก็จะเป็นการย้ำให้เห็นว่าเวนเกอร์ไม่ได้คิดผิดที่มอบบทบาทนี้ให้กับเค้า (แม้ในความเป็นจริง เวนเกอร์ก็คงไม่กล้าทำ ตราบใดที่ฟาเบรกาสยังคงลงสนามได้อยู่) | | v เสียดสีได้แสบสันต์มากเลยนะนั่น...คงอึดอัดมานานแรมปี 555 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 14:23:54 จากคุณ : Grand Gunner - [ 5 ม.ค. 52 13:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดูเหมือนบอร์ดบริหารของ Arsenal จะ “เคยตัว” กับ การไม่เข้าตลาดซื้อขายนักเตะไปซะแล้ว  พวกผู้บริหารประเภทนี้  ไม่ได้ใส่ใจกับผลงานของทีมมากนัก  ขอเพียงสนามเต็มความจุ  ได้เล่นแชมป์เปี้ยนลีกทุกปี  มีกำไรจากการซื้อขายนักเตะ  ก็พอใจแล้ว   ผมแทบไม่เคยเห็น ปีเตอร์ ฮิลล์-วู๊ด  หรือ แดนนี่ ฟิซแมน  พูดเรื่องผลงานของทีมเลย   คำให้สัมภาษณ์ของ ฮิลล์-วู๊ด  จะมาในช่วงตลาดซื้อขายเปิด  หลับตาท่องมาจากบ้าน  “ทีมเรามีเงินให้ผู้จัดการใช้จ่าย  แต่เราจะไม่ใช้เงินแบบบ้าคลั่ง”  นี่มันจะให้เงินไว้ซื้อนักเตะ  หรือจะกดดันไม่ให้ซื้อนักเตะกันแน่วะ   อาร์เซน่อล มีกำไรก่อนหักภาษี (ถ้าจะไม่ผิด) ประมาณร่วม 20 ล้านปอนด์เมื่อปีที่แล้ว  แน่นอนว่า  เค้กก้อนนี้  ยังไงก็แบ่งกันอิ่มถ้วนหน้าแน่ๆ  เพราะฉะนั้น  ทีมไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ  แต่ขอให้มีกำไรเยอะๆ  เรื่องการต่อสัญญา  เรื่องซื้อนักเตะใหม่   จึงไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนสำหรับทีม    ว่าแล้ว ก็เตรียมกดดันให้ อาแซน เฉดหัวเจ้า กัลลาส ออกไปซะ  เพราะเจ้านี่ มีค่าเหนื่อยสูงเหลือเกิน  เก็บเจ้า ตูเร่ ไว้ดีกว่า  ค่าเหนื่อยมันถูกกว่าเท่าตัวเลยนะนั่น  แล้วจะได้ไม่ต้องไปซื้อนักเตะใหม่อีกด้วย   ใช้นักเตะดาวรุ่งเถอะ  ขี้หมูขี้หมายังไงก็ขายได้   เจ้า อูซมานอฟ อีกคน  มันรุกหนักจะเทคโอเวอร์ทีมให้ได้   ว่าแล้ว  ก็ออกข่าวโจมตีมันหน่อย  มันเป็นแฟนทีมแมน ยู นะนั่น   แถมออกข่าวอีกดอก  “อยากเห็นทีมสโมสรอังกฤษ  มีเจ้าของทีมเป็นคนอังกฤษ”   ต้องล็อบบี้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ขยายเวลา ไม่อนุญาตให้ขายหุ้นเพิ่มออกไปแบบไม่มีกำหนด   ไม่งั้น  ตู ก็หลุดจากประธานสโมสรนะสิ  แหม!  มันจะมีสโมสรอื่นๆ อีกไหมนั่น  ที่จะทำกำไรพุงปลิ้นแบบสโมสรนี้ได้อีก    เอาไว้ ทีมหลุดจากแชมป์เปี้ยนลีกเมื่อไหร่  ค่อยว่ากันใหม่ละกัน จากคุณ : Aledier - [ 5 ม.ค. 52 14:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ...อยากเห็นเราได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพจัง ถ้าเป็นไปได้ ขอกลางรับดีๆ แล้วปีกหรือตัวรุกอีกคนก็น่าพอใจแล้วครับ...แต่ถ้าไม่เสริมทีมเลย แฟนๆ คงต้องลุ้นกันเหนื่อยแน่ เพราะตัวหลักเราพากันเจ็บเยอะเหลือเกิน จากคุณ : chromosome-Gunner - [ 5 ม.ค. 52 15:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าตอนก่อนตลาดจะเปิด มีข่าวออกมาเยอะมากว่าปืนจะเอาตัวโน้นตัวนี้ แต่มาตอนนี้ข่าวออกมาตรงข้ามกันซะงั้น งั้นคงต้องรอชูเสื้อเลย หรือไม่ก็รอเอาตลาดปิดโน่นแหละ ความจริงถ้าจะซื้อควรซื้อมาซะก่อนพรีเมียร์ชิพที่จะเปิดบ้านเตะกับโบลตันนะ จะได้ให้นักเตะใหม่มาซ้อมปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมก่อน แต่ถ้าตลาดปิดแล้วไม่ซื้อนะ ตัวใครตัวมันหละคราวนี้ ผมว่าข่าวเวนเกอร์จะย้ายหรือทีมจะแตกจะหนักกว่านี้ แล้วยิ่งถ้าสรุปจบฤดูกาลด้วยอันดับต่ำกว่าที่ 4 โอย ไม่อยากจะคิด หวังว่าจะมีใครมาแก้สถานการณ์ให้มันดีขึ้นกว่านี้นะครับ จากคุณ : ห้อยน้อยๆแต่ห้อยนานๆ - [ 5 ม.ค. 52 15:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Eduardo’s Mentality To Be Tested On Midlands Return Arsenal’s Reserves return to action tomorrow evening with an away trip to West Bromwich Albion - their first test since the winter break. Neil Banfield’s boys have had mixed form this campaign, but currently sit in a very respectable 2nd place in the Reserves League South table. Last time out they edged past a hard working and well organised Portsmouth outfit, but the result was almost forgotten about. Why? because fans favourite Eduardo da Silva started and played 45 minutes - his first action since suffering a fractured fibula and a dislocated ankle during the 2-2 draw with Birmingham last February. The 25-year-old had a timid start, before finally finding his feet and smashing Amir Begovic’s post. Without doubt Dudu showed his class. His quick feet, intelligent runs, perfect positioning - it was exactly the same marksman as before. Yet whenever there was a physical battle, Eduardo seemed cautious and a little frightened at the prospect of taking another clobbering. With the home support as it was, realistically nobody was going to stick their boot in on the Croatian International. But tomorrow evening sees a tricky trip to the Midlands to take on West Brom. He’ll be playing just miles away from the Selly Oak Hospital where surgeons fought to save his career just 11 months ago. Arsène Wenger believes his number 9 will be back, and even better than ever, on one condition. He overcomes the mental side of the game - the fear of the same injury happening again. The Baggies are almost certain to be a much tougher prospect to that of Pompey, and without the protection of his home faithful, Eduardo must stand up and fight for himself, and his team. We’ll know a lot more about how far away the most promising finisher in the Premier League is from a first team return on the final whistle - and Young Guns will be bringing you full coverage of the fixture from tomorrow afternoon. http://youngguns.wordpress.com/ --------------------------------------------------------------------------------------------------- เวลา 19.00 น. ของวันนี้ (ตามเวลาของอังกฤษ) ทีมสำรองของอาร์เซนอลจะไปเยือนเวสต์บอร์มวิช อัลเบียน โดย Neil Banfield จะใช้นักเตะดาวรุ่งในทีมสำรองผสมกับนักเตะในทีมชุดใหญ่ เหมือนกับเกมที่ชนะพอร์ทสมัธ 2-0 เมื่อเดือนที่ผ่านมา นัดที่แล้วดูดู้ได้ลงสนาม 45 นาที เพราะเกิดอาการบาดเจ็บ ถ้านัดนี้ไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะได้ลงสนามเต็มเกมอย่างแน่นอน จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 15:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #27 ข่าวที่ว่าอาร์เซนอลจะซื้อคนโน้นคนนี้ ก็มีเยอะทุกครั้งที่ตลาดซื้อขายจะเปิดนี่คะ อย่างซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นข่าวกับนักเตะทุกตำแหน่งรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คน แต่ที่ได้มาและมีชื่อในทีมชุดใหญ่ มี 4 คน จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 16:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็คนหนึ่งที่เป็นแฟนอาเซน่อล และตามเชียร์ทีมโปรดทุกอาทิตย์และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทีมแทบจะทุกวัน ทั้งทางทีวี (เคเบิ้ลช่องสยามสปอร์ต) ทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ ถ้าไม่ติดธุระอะไรสำคัญและเวปบอร์ด โดยเฉพาะที่โต๊ะน้ำชาแห่งนี้ แต่ก็ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกที่โต๊ะนี้ ผมมีประเด็นอยู่นิดหนึ่งที่เวนเกอร์เคยพูดไว้ หลังจากอาเซน่อลชนะเชลซีในลักษณะว่า "เชลซีมีโอกาสจะตกต่ำลงไปอีกหลังจากที่แพ้นัดนี้" และเมื่อมาถึงวันนี้ ผมจึงได้มองเห็นว่าเวนเกอร์เป็นคนที่มองการไกลได้ดีทีเดียว ผมไม่เห็นด้วยกับ คห 25  ในกรณีของการเทตโอเวอร์เพราะถ้าสถานะการณ์การเงินยังเป็นแบบนี้ เราไม่มีโอกาสที่จะได้นักเตะดีๆมาแก้ปัญหาในยามจำเป็นจริงๆอย่างปัจจุบันนี้ และถ้าเกิดทีมไม่ได้ไปแชมเปี้ยนลีค ไม่มีถ้วยติดมือ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะนักเตะที่เก่งๆอาจจะขอย้ายทีม เพราะทีมไม่มีความทะเยอทะยานอยู่ไปโอกาสประสบความสำเร็จน้อย ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่ผู้จัดการทีมจะไม่ต่อสัญญาก็มีสูง ยังไงๆผมก็ยังเห็นว่าเงินยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จ โดยเฉพาะกับผู้จัดการทีมที่มีความสามารถ  เพราะฉนั้นถ้าบอร์ดบริหารไม่มีน้ำยาในการจะหาเงินมาให้ ผจก. ใช้จ่ายได้ก็ควรขายทีมให้คนอื่นเขาเข้ามาบริหารแทน... จากคุณ : เกาะแซะ - [ 5 ม.ค. 52 16:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วันที่ 17 นี้รู้สึกช่อง 7 จะถ่ายคู่เรากับฮัลส์ ซิตี้นะครับ  ส่วนเอฟเอคัพช่องคุณแดงก็จะถ่ายแล้วเช่นกัน แต่คงไม่ใช่คู่เรา ประเด็นทีมแตก ผมว่าสื่อไทยเขียนให้คนสนใจมากกว่านะครับ จากคุณ : เทพปืนโต - [ 5 ม.ค. 52 16:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นิดนึง...เห็นด้วยกับ #23 ครับว่า RVP สวมปลอกแขนกัปตันแล้วดูรัศมีเปล่งปลั่งมากครับ ในระหว่างที่รอคอยกัปตันเชสอยู่ ผมว่ายกหน้าที่นี้ให้ RVP เฉพาะกิจ ก็ไม่เลวนะ... ส่วนข่าวซื้อ-ขายนักเตะเราตอนนี้ ทีมเราไม่ควรเสียใครออกไปอีกแล้วโดยเฉพาะตูเร่ ยังไงผมก็เห็นว่าแกเป็นหัวใจหลักในเกมรับของเราคนนึง ถึงปีที่ผ่านมาฟอร์มตกไปพอควร ถ้าได้ตูเร่คนเดิมกลับมา เกมรับเราดูดีขึ้นแน่ จากคุณ : chromosome-Gunner - [ 5 ม.ค. 52 16:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #31 ขอบคุณค่ะ ^^ เหลือเวลาอีก 29 วันกว่าตลาดซื้อขายนักเตะจะปิด มาลุ้นกันค่ะว่าจะได้ใครและตำแหน่งไหนมาเสริมทีม จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 16:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมไม่รู้ว่า คุณเกาะแซะ จะเข้าใจผมผิดไปหรือเปล่า   สิ่งที่ผมเขียนในช่วงท้ายๆ เรื่องอุซมานอฟ  เป็นการเขียนแบบ ประชด ประชัน ทั่น ปีเตอร์ ฮิลล์-วู๊ด หนะครับ ตัวผมเองไม่ชอบทัศนะคติ และ หลายๆ อย่างของ ปีเตอร์ ฮิลล์-วู้ด และอยากให้สโมสรเปลี่ยนมือจากคนกลุ่มนี้มานานแล้ว  เหมือนอย่างที่คุณเกาะแซะบอกไว้หละครับ   บอร์ดชุดนี้  ไม่มีความทะเยอทะยาน  ไม่มีความคิดในมุมมองของแฟนบอล  คุณลองสังเกตดูนะครับ  คุณจะไม่เห็นบทสัมภาษณ์ในเรื่องฟุตบอล  เรื่องหลังแม็ทช์  เรื่องการเสียผลประโยชน์ในการแข่งขันจากฮิลล์-วู๊ด   คำให้สัมภาษณ์  จะเน้นในเรื่องธุรกิจ อย่างเดียวเท่านั้น  การให้สัมภาษณ์ล่าสุดเมื่อวันก่อน ในเรื่องที่ทีมจะไม่มีเงินให้ช็อปปิ้ง  เป็นการยืนยันในเสิ่งที่ผมเขียนไว้เป็นอย่างดี จากคุณ : Aledier - [ 5 ม.ค. 52 17:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมก็ยังมองในแง่ดี...การออกตัวเรื่องไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยของ ฮิลล์ วู๊ด เพราะเอเย่นนักเตะ และทีมที่จะขายให้จะได้ไม่ถีบราคาจนเกินเหตุ ก็ยังเชื่อมั่นในบอร์ดบริหารเสมอ.....พวกเค้าไม่เคยส่งเสียงดังเวลาจับจ้อง จะซื้อใคร กว่าที่แฟนๆจะได้รู้ว่าใครจะมาก็วันที่ชูเสื้อแล้วทุกที........เนอะ ผี สิงห์ หงษ์ อาจเจรจาซื้อขายกันดังสนั่นเมือง.. แต่..เสน่ห์ของปืน ก็คือการเจรจาแผ่วๆข้างหู ให้ขนลุก...ซ่าน.... พอเปิดตัวก็ นั่งสะอึกกันทั้งแถบ...ว่า..ใครหว่า??? ให้มันรู้ไป ว่าจะอดไป UCL ...ก็ไม่หนักใจ...แชมป์ ยูฟ่า อาจจะง่ายกว่าก็ได้แฮะ จากคุณ : สงัด - [ 5 ม.ค. 52 18:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ความคิดเห็นที่ 30   ผมก็คนหนึ่งที่เป็นแฟนอาเซน่อล และตามเชียร์ทีมโปรดทุกอาทิตย์และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทีมแทบจะทุกวัน ทั้งทางทีวี (เคเบิ้ลช่องสยามสปอร์ต) ทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ ถ้าไม่ติดธุระอะไรสำคัญและเวปบอร์ด โดยเฉพาะที่โต๊ะน้ำชาแห่งนี้ แต่ก็ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกที่โต๊ะนี้ ผมมีประเด็นอยู่นิดหนึ่งที่เวนเกอร์เคยพูดไว้ หลังจากอาเซน่อลชนะเชลซีในลักษณะว่า "เชลซีมีโอกาสจะตกต่ำลงไปอีกหลังจากที่แพ้นัดนี้" และเมื่อมาถึงวันนี้ ผมจึงได้มองเห็นว่าเวนเกอร์เป็นคนที่มองการไกลได้ดีทีเดียว จากคุณ : เกาะแซะ  - [ 5 ม.ค. 52 16:07:34 ] ----------------------------------------------------------------- เห็นด้วยครับ ถ้ายังจำกันได้ก่อนหน้าฤดูกาลไร้พ่าย เวนเกอร์ยังเคยบอกว่าอาร์เซน่อลทีมชุดนี้มีโอกาสที่จะไม่แพ้ใครทั้งฤดูกาล แล้วคนในบอร์ดยังหยิบมาแซวกันเลย พอฤดูกาลถัดมาอารเซน่อลก็ไม่แพ้ใครจริงๆแล้วก็ได้แชมป์ด้วย จากคุณ : click2 - [ 5 ม.ค. 52 18:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ดีครับ เข้ามาอ่านข่าว จากคุณ : kunikun - [ 5 ม.ค. 52 18:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Wenger rules out Inler move Arsenal manager Arsene Wenger will not be making a winter transfer window swoop for Gokhan Inler. The Switzerland international was a summer target for the Frenchman when a defensive central midfielder was high on his shopping list. Mathieu Flamini's summer departure to AC Milan has left the Gunners short of steel in the centre of the park, with Wenger still to bring in a replacement. But while Udinese's Inler was on the manager's radar in the summer, he is no longer a target for the Emirates Stadium outfit. Speaking to the press after Saturday's FA Cup third round victory over Plymouth, Wenger was asked if he was interested in Inler. "Yes, in the summer," he replied. "But not any more." Should Wenger choose to bolster his squad this month, then players who are not eligible for UEFA Champions League action could still be considered, such as Zenit St Petersburg's Andrei Arshavin. Some clubs are only prepared to bring in new faces who can feature in Europe, but the Frenchman, who is preparing for a last-16 meeting with Roma, may not go down that route. He added: "I would like to think longer term. If the right player comes in, even if he is not available for the Champions League, his class is more important for me." But Wenger has again insisted that any new faces must be of a higher standard than the young players currently on the books in North London. He said: "At the moment I feel that if we do add somebody, we need to add somebody who has a special class because we have good players. "Take a player like (Aaron) Ramsey. They show that they grow. Of course they still show lapses, a lack of experience, but they have quality and they can grow quickly." http://www.skysports.com/story/0,19528,11670_4747848,00.html ================================= เวนเกอร์ บอกว่า ไม่สนใจ โกคาน อินแลร์ ครับ จากคุณ : Anduril - [ 5 ม.ค. 52 20:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เวนเกอร์ บอกผ่านเว็บสโมสรด้วยว่า ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เคยสนใจ อินแลร์ แต่ตอนนี้ ไม่ได้สนแล้ว http://www.arsenal.com/news/news-archive/wenger-i-am-not-interested-in-inler จากคุณ : Anduril - [ 5 ม.ค. 52 20:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณสำหรับข่าวเหมือนเดิมครับ.. จากคุณ : yo_lambor - [ 5 ม.ค. 52 21:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ คุณ Anduril ว่าแต่มีใครเข้าพันทิปยากไหมคะ? ช่วงเย็นโพสต์แล้ว error ตลอดค่ะ -_-" จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 21:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Wilshere signs professional terms with Club Arsenal Football Club is delighted to announce that Jack Wilshere has signed professional terms with the Club. Jack, who turned 17 on New Year’s Day and was therefore eligible to sign his first professional contract, has already started to make an impact with his performances for the first team as he continues his excellent development at the Club. http://www.arsenal.com/news/news-archive/wilshere-signs-professional-terms-with-club --------------------------------------------------------------------------- พออายุครบ 17 ปี วิลเชียร์ก็เซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับอาร์เซนอลค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 22:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #34 ต้องขอโทษครับ  ถ้าหากประเด็นที่ผมเขียนไปเป็นการเข้าใจผิด เพราะอาจจะไม่ได้อ่านคอมเม้นส์คุณAledier ทุกหัวข้อ... จากคุณ : เกาะแซะ - [ 5 ม.ค. 52 22:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Wenger: I'll only sign special players for Arsenal Arsenal manager Arsene Wenger will consider signing only players of 'a special class' during the transfer window. Wenger is attempting to strengthen his squad and give Arsenal an injection of vitality as they bid to break into the Barclays Premier League top four. They are currently fifth, three points behind Aston Villa and Manchester United. Wenger already believes his squad is strong, and has been impressed by the youngsters who have made their mark this season. He said: 'At the moment I feel that if we do add somebody we need to add somebody who has a special class, because we have good players. '[For example] take a player like (Aaron) Ramsey. They show that they grow. Of course they still show lapses, a lack of experience, but they have quality and they can grow quickly.' The French boss has been linked with the likes of Liverpool's Xabi Alonso and Everton's Mikel Arteta. Wenger will not worry if his targets are cup-tied for this season's Champions League. He said: 'I would like to think longer term. If the right player comes in, even if he is not available for the Champions League, his class is more important for me.' http://www.metro.co.uk/sport/football/article.html?Wenger%3a_Ill_only_sign_special_players_for_Arsenal&in_article_id=459204&in_page_id=43 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 22:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่านักเตะดังๆก็ย้ายมาทีมเราแทบทุกปีนะครับ   ต่อจากช่วงไร้พ่ายก็ เคล็บ RVP บ้ายอ โรซิคกี้ กัลลาส ดูดู้ นาสรี่ และคงยังมีคนอื่นๆที่หลงลืมไปบ้าง ปัญหาคือช่วงหลังๆเหมือนทีมเราจะอับโชค นักเตะที่เล่นดีก็ดันบาดเจ็บ นักเตะที่เริ่มปรับตัวได้อย่างฟลามันนี่และเคล็บก็ดันอยากย้ายทีม ซี่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องเงินๆทองๆหรือะไรก็ตามแต่ พวกนี้บางเรื่องเวนเกอร์ก็อ่านเกมส์พลาด บางเรื่องก็เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ที่แน่ๆ ทีมเรานักเตะตัวจริงเจ็บบานเบอะ เทียบกับคู่แข่งที่เจ็บอย่างมากแค่ 2-3 คน แถมของเราเจ็บแบบข้ามปี ไม่ก็หาสาเหตุไม่ได้อีก เซ็ง.งงง สรุปว่าผมก็เห็นทีมเราซื้อสตาร์ดังๆแทบทุกปี แต่ซื้อมาเข้าวง Hospital Band มากกว่า ทีมแพทย์ห่วยหรือโหงวเฮ้งสนามไม่ดีกันแน่ฟะ ลองไม่มีตัวเจ็บบานขนาดนี้หรือเจ็บแค่ไม่กี่ตัวและสลับกันเจ็บ ไม่ใช่เดี้ยงทีพร้อมๆกัน ผมว่าป่านนี้อาจจะนำจ่าฝูงไปนานแล้วก็ได้ จากคุณ : ice-gooner - [ 5 ม.ค. 52 22:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 West Ham insist they will reject Arsenal bid for Upson West Ham insist they will reject any bid from Arsenal for their England defender Matthew Upson. Reports suggest West Ham must sell players in order to ease their financial problems. And the Gunners are believed to be keen to bring Upson back to the club he left for Birmingham in a £1million deal in 2003. Upson then signed for West Ham for £6m last year. Arsenal are also willing to throw striker Nicklas Bendtner as part of the deal but chief executive Scott Duxbury today insisted the club's top stars will not be leaving but did admit '"each approach will be considered in terms of fee, fitness, form and where the manager thinks the player is in his career'. Manchester City are also keen on the player while Mark Hughes hopes to continue his raid on West Ham with moves for Scott Parker and Craig Bellamy. http://www.metro.co.uk/sport/football/article.html?West_Ham_insist_they_will_reject_Arsenal_bid_for_Upson&in_article_id=459148&in_page_id=43 จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 5 ม.ค. 52 22:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกอย่างมีอยู่ช่วงนึง เหมือนเวนเกอร์จะเหนือกว่าเฟอร์กี้อยู่พอสมควร แต่ท่านเซอร์ก็ยังซุ่มพัฒนาจนตอนนี้ฝีมืออาจจะเหนือกว่าเวนเกอร์ไปแล้ว ทว่าเวนเกอร์ก็ยังมีโอกาสจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้แน่ๆ ถ้าอะไรๆเป็นใจมากกว่านี้ ทีมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน แถมชนะแบบฝีมือล้วนๆ ไม่ใช่อุดแล้วรอลูกฟลุค ผมว่ามีไม่กี่ทีมหรอกครับ จำได้มั้ยครับว่านัดเจอผีนั้น เราไม่มีทั้งบ้ายอและRVPด้วยซ้ำไป ต้องชมเวนเกอร์ที่วางแผนสู้กับท่านเซอร์ได้อย่างสุดยอด จากที่ใครๆก็ว่าโดนถล่มเละแน่กลับมาเอาชนะได้ ไม่ใช่อวยเวนเกอร์จนเกินเหตุนะครับ แต่นักเตะเจ็บเยอะเจ็บบานจริงๆ ถ้าฟูลทีม แล้วผลงานยังแย่ค่อยมาว่ากันอีกที จะมีก็เกมส์รับเนี่ยแหละครับที่ผมเชื่อว่ามีปัญหาพอสมควรต้องไปเน้นกันด่วนเลย ส่วนเกมส์รุกเห็นรายชื่อตัวที่เจ็บแล้ว อยากส่งด็อกเตอร์ K ไปรักษาให้ซะเหลือเกิน เฮ้อ แต่ละตัว เด็ดๆทั้งน้าน จากคุณ : ice-gooner - [ 5 ม.ค. 52 22:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ถึง คห.24 ครับ สำหรับนัดเจอพลีัมัธใน เอฟ เอ คัพ ที่ผ่านมา ซึ่งเราใช้ทีมชุดใหญ่ลงเล่นนั้น ไม่ใช่เรากลัวไม่ได้โควต้ายูฟ่า คัพหรอกครับ ถ้าผมจำไม่ผิดสำหรับถ้วยเอฟ เอ คัพ เราจะใช้ทีมชุดใหญ่เล่นอยู่แล้ว นอกจากลีก คัพ ถึงใช้ชุดเด็กเล่น ส่วนเรื่องนาสรี่ผมเห็นด้วย เพราะตั้งแต่เค้าย้ายมาผมก็คิดว่าเค้าไม่เหมาะกับปีกอยู่แล้ว คือสามารถเล่นได้ แต่มันเล่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพของเค้า เท่าที่ดูเค้าเหมาะจะเล่นตรงกลางมากกว่า ซึ่งเวนเกอร์ก็ให้โอกาสแก่เดนิลสันและซงมากกว่าจะเป็นนาสรี่ในตำแหน่งตรงกลาง จากคุณ : RZENON - [ 5 ม.ค. 52 22:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ.............. เหอๆ... ระบบโหวด มันแปลกๆนะ จากคุณ : Arson - [ 5 ม.ค. 52 22:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นเวนเกอร์ชอบพูดประมาณนี้มาแต่นมนานแล้ว ว่าเราจะเซ็นนักเตะที่พิเศษเท่านั้น อะไรประมาณนี้ สรุปคือนักเตะพิเศษที่ผมเห็นคือ หนึ่งดาวรุ่ง สอง นักเตะกำลังรุ่ง หรือ พวกเพชนในตม และที่สำคัญราคาต้องไม่แพง ถ้าแพงๆ นานๆ จะมาทีนึง ส่วนมากตัวกำลังรุ่งหรือว่าเพชรในตม จะอยู่ประมาณสิบล้านปอน์ด ส่วนดาวรุ่ง ไม่น่าจะเกินห้า จากคุณ : An Inimitable Man - [ 6 ม.ค. 52 01:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมก็ว่าทีมเรานักเตะเจ็บเยอะจริงๆครับ จากคุณ : salty - [ 6 ม.ค. 52 01:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 52 บอร์ดยังคงห่วยแตกเช่นเดิม ถ้า คราวนี้เสียวัลคอตต์ไปแบบโง่ๆอีก คงไม่มีอะไรจะพูด จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ - [ 6 ม.ค. 52 02:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สเปเชียลจริงๆก็ราคาไม่ถูก พอราคาแพงอาเซนอลก็ไม่สู้ สรุปก็ไม่ได้ใครอีกแหงๆ พอจะเข้าใจละทำไม เดวิด ดีน ถึงออก จากคุณ : ^-^ball - [ 6 ม.ค. 52 03:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นกระทู้แนะนำ ได้แหะ ผิดปกติ กำลังมานั่งอ่านนึกว่ามีกระทู้สงคราม จากคุณ : ::::อะกรูบี้ อะเหกริฟลอฟ:::: - [ 6 ม.ค. 52 10:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โต๊ะน้ำชาอาร์เซนอล... วิลเชียร์เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสร จากคุณ : YesterdayOnceMore - [ 6 ม.ค. 52 10:59:49 ]