ความคิดเห็นที่ 1 อันดับที่ 5 " Montana Winning Drive " ( ซุปเปอร์โบลว์ XXIII โจ ร๊อบบี้ สเตเดี้ยม ไมอามี่  ปีค.ศ 1988 ) ทีม ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์  คือสุดยอดทีมของ NFL ในยุค 80 จาการนำของยอดโค๊ช บิล ว๊อลซ์ และจอมทัพคู่ใจ โจ มอนทาน่า ผู้ที่เป็นสุดยอดตำนานควอเตอร์แบ๊ค ทีมคนตื่นทอง ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส สามารถที่จะครองแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ได้ถึงสองสมัย ( XVI , XIX ) และในฤดุกาล 1987- 88 นั้น ทีมโฟร์ตี้นายเนอร์ส ก็ได้เข้ามาเล่นในซุปเปอร์โบลว์อีกสมัย.. ซุปเปอร์โบลว์ ครั้งที่ 23 ทีมคนตื่นทองซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ต้องพบกับ สุดยอดทีมดาวรุ่งจากสาย AFC ซิซินเนติ เบงกอลส์ ยอดทีมคนหนุ่มที่สุดห้าว นำทัพมาโดยหัวหน้าโค๊ชไฟแรง แซม ไวส์ และมีควอเตอร์แบ๊คอีซ้ายบาซูก้า บูมเมอร์ อีเซียร์ซั่น ที่มีตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าของ NFL พ่วงท้ายมาด้วย และมีทีเด็ดอยู่ที่คู่ดูโอ้รันนิ่งแบ๊ค เจมส์ บรู๊กส์ และ อิ๊คกี้ วู๊ตส์ ที่เป็นทีมที่โฟร์ตี้นานเนอร์ส จะประมาทไม่ได้เลย.... และเมื่อทั้งคู่ต้องฟาดฟันกันในเกมจริงๆแล้ว "เจ้าลายพาดกลอน " ซิซินเนติ เบงกอลส์ ก็เล่นได้อย่างสุดคึก แบบที่ไม่มีเกรงกลัวศักดิ์ศรีแชมป์ 2 สมัยเลย ทีมรับของเบงกอลส์เล่นงานแนวบุกสุดเฉียบของโฟร์ตี้นายเนอร์ส จนแทบจะไม่เป็น..... ยอดควอเตอร์แบ๊ค โจ มอนทาน่า เจอไล่กดดันแทบตลอดในครึ่งแรก ยอดปีกเจอร์รี่ ไรท์ พลาดดร๊อปบอลง่ายๆ หลุดมือไปหลายหน ยังดีที่ทีมรับของโฟร์ตี้นายเนอร์ส ยังคงความเยี่ยมยอดอยู่ ทำให้เมื่อจบเกมในครึ่งเวลาแรกนั้น ทั้งสองทีมได้คะแนนจากฟิลด์โกล คนล่ะหน... เสมอกันอยู่ที่.....3 - 3  คะแนน.... เมื่อเริ่มเล่นกันใหม่ ในครึ่งหลัง อาการของยอดทีมโฟร์ตี้นายเนอร์ส ก็ยังทรงๆ ทรุดๆ หลังจากที่มาได้เพิ่มกันอีกคนละ 1 ฟิลด์โกล คะแนนขยับเป็น 6 - 6 ก่อนที่จะจบควอเตอร์ที่ 3 ซานฟรานซิสโก ก็มาเจอทีเด็ดจากตัววิ่งย้อนของเบงกอลส์ สแตนฟอร์ด เจนนิ่งส์ อัดรวดเดียว 93 หลา ให้ไอ้ลายพาดกลอนกลับขึ้นมานำไปอีกเป็น 13 - 6 เมื่อเกมก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้าย......ควอเตอร์ที่ 4 !!! " ในยามที่มืดมิดที่สุด.....ฮีโร่ก็จะมาปรากฏตัว " สำหรับทีมโฟร์ตี้นายเนอร์ส นั้น ............." เขาคนนั้น " จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่....." โกลเด้น โจ " โจ มอนทาน่า ยอดจอมทัพของทีม ที่เคยพลิกสถานะการณ์ให้ทีมกับมาชนะนับครั้งไม่ถ้วน. มอนทาน่า ใช้การเล่นเพียงสองเพลย์เท่านั้น นำทีมบุกของโฟร์ตี้นายเนอร์ส ลุย 71 หลา มาตั้งป้อมที่เส้น 14 หน้าบ้านของเบงกอลส์ ก่อนที่จะขว้างลูกสุดเฉียบขาดไปให้กับยอดปีกเจอร์รี่ ไรท์ ทำทัชดาว์นแรกของเกมนี้ ให้เกมกลับมาเสมอกันที่ 13 - 13 คะแนน... แต่ทีมบุกของซิซินเนติ เบงกอลส์ ก็ยังคงห้าวไม่เลิก เล่นเกมแลกกับยอดทีมของลีคได้แบบไม่มีหวั่นไหว และมาได้ลูกฟิลด์โกลสุดสำคัญ ให้เบงกอลส์พลิกกลับขึ้นมานำ โฟร์ตี้นายเนอร์สอีกครั้ง 16 - 13 คะแนน เมื่อเหลือเวลาในเกมนี้อีกเพียง 3 : 20 นาทีเท่านั้น !!! ในการที่จะเป็นสุดยอดทีม และสุดยอดผู้เล่น นั้น ก็คือ การที่จะต้อง............. " ทำได้ " เมื่อถึงเวลาที่จะ..............  " ต้องทำ " สิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียว ที่ทีมซินซิเนติ เบงกอลส์.........."  ไม่มี  " แต่ ทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส......"  มี  " ทั้ง โจ มอนทาน่า , เจอร์รี่ ไรท์ , โรเจอร์ เคร๊ก และ จอห์น เทเลอร์ แกนหลักในทีมบุกของทีมโฟร์ตี้นายเนอร์ส  คือสุดยอด.... เหลือเวลาอยู่อีกเพียง 3 : 20 นาที และได้เริ่มต้นบุกที่เส้น 8 หลา ในแดนของตัวเอง ทีมบุกของโฟร์ตี้นายเนอร์ส มีภารกิจที่สุดหิน " บุก 82 หลา เพื่อทำทัชดาว์น อย่างเดียวเท่านั้น !!! " มอนทาน่า ลงบัญชาการเกมบุกได้อย่างกล้าหาญ เขากระจายบอลไปอย่างได้ผล ทั้ง โรเจอร์ เคร๊ก รันนิ่งแบ๊ค , ปีกใน จอห์น แฟร๊งค์ และแกนหลักของทีม...เจอร์รี่ ไรท์ ต่างช่วยกันพาทีมบุกของซานฟรานฯ คืบคลานผ่านกลางสนามมาแล้ว.. เกมก้าวเข้าสู่จุดสุดสำคัญ เวลาบนสกอร์บอร์ดแสดงที่......1 : 17 นาที ดาว์นที่ 2 ต้องการถึง 20 หลา แต่จิตใจของยอดจอมทัพ โจ มอนทาน่า ก็ยังคงนิ่งเป็นน้ำแข็ง เขาขว้างบอลอย่างสุดคมไปให้กับยอดปีกเจอร์รี่ ไรท์ ที่รับบอลได้อย่างสุดสวย แล้วก็วิ่งหลบหลีก เหล่าแนวตัวคุมปีกเบงกอลส์ ได้ระยะไปอีกเพียบถึง 27 หลา ก่อนที่จะโดนหยุดลงที่เส้น 18 หน้าบ้านของซินซี่แล้ว... เพลย์ต่อมา มอนทาน่าก็ยังขว้างบอลอย่างสุดสวย ไปให้กับโรเจอร์ เคร๊ก ยอดรันนิ่งแบ๊ค ให้ทีมบุกมาถึงที่เส้น10 ...พร้อมกับขอเวลานอกหยุดเวลาอยู่ที่...39 วินาที !!! เพลย์สุดสำคัญของฤดูกาลนี้ ก็คือการเล่นในหนต่อไป.. บอลแสน๊ปเข้าสู่มือของโจ มอนทาน่า สุดยอดควอเตอร์แบ๊คดร๊อปแบ๊คลงไป พร้อมสายตาที่มองไปยังเจอร์รี่ ไรท์ เป้าหมายอันดับ 1 แต่ยอดปีกดันโดนคุมแบบนิ่งสนิท... ทันใดนั้น โกลเด้น โจ เปลี่ยนทิศทางการมองมาที่เป้าหมายที่ 2 จอห์น เทเลอร์ ที่วิ่งแนวโพสท์แพ็ทเทิ่น เข้าไปในเขตเอนด์โซนแล้ว ไวเท่าความคิด จอมทัพแขนทองบรรจงปล่อยบอลอย่างเฉียบคม ไปเข้าสู่อ้อมอกของเทเลอร์ อย่างเหมาะเหม็ง เป็นทัชดาว์นสุดสำคัญและยิ่งใหญ่ ให้ทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส พลิกกลับมาเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 20 - 16 กระชากลอมบาร์ดี โทรฟี่ จากทีมเบงกอลส์ กลับมาสู่สุดยอดทีมอันดับ 1 ของ NFL สร้างสถิติเป็นแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ สมัยที่ 3 อย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้น แชมเปี้ยนไดร์ฟ ของโฟร์ตี้นายเนอร์ส ในซุปเปอร์โบลว์ XXIII จึงกลายมาเป็นความทรงจำ แห่งตำนานซุปเปอร์โบลว์ต่อมา.......... แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 08:10:21 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:21:31 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 06:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับที่ 4 " Wide Right Norwood " ( ซุปเปอร์โบลว์ XXV แทมป้า สเตเดี้ยม  แทมป้า  ปีค.ศ 1990 ) ซุปเปอร์โบลว์ XXV เป็นการพบกันของทีมนิวยอร์ค ไจแอ๊นทส์ ทีมเก่าแก่ชั้นแนวหน้าของ NFL ที่มีทีมรับสุดแกร่งและเหนียวแน่น แชมป์ของสาย NFC ที่สามารถโค่นเต็ง 1 ของลีค แชมป์เก่า 2 สมัยซ้อนซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ได้ถึงถิ่นแคนเดิ้ลสติ๊กพาร์ค ด้วยสกอร์ 15 -13 และทีมดาวรุ่งจากสาย AFC " กระทิงเปลี่ยว" บัฟฟาโล่ บิลล์ส ยอดทีมที่มีทีมบุกที่ทรงพลัง โชว์ฟอร์มสุดแกร่งทั้งในฤดูกาลปกติ โดยมีสถิติชนะ 13 และพ่ายแพ้ไปเพียง 3 เกมเท่านั้น และในรอบเพลย์ออฟก็ยังมาถล่มไมอามี่ ดอลฟินส์ ไปกระจาย และในเกมชิงแชมป์สาย AFC นั้น บัฟฟาโล่ บิลล์ส ก็มาต้อนเอาชนะทีมสลัดดำตาเดียว โอ๊คแลนด์ เรดเดอร์ส เล่ะเท่ะไปถึง 51 - 3 คะแนน เป็นสถิติการทำคะแนนชนะห่างกันที่สุด ในเกมชิงแชมป์สาย AFC.. เมื่อทีมบุกชั้นนำต้องมาเผชิญหน้ากับทีมรับสุดแกร่งในเกมแห่งศักดิ์ศรี มันจึงเปรียบได้กับมวยถูกคู่ ในรุ่นเฮฟวี่เวตมาทำสงครามกำปั้นกันนั่นเอง... ซุปเปอร์โบลว์ 25 เป็นเกมที่คู่คี่สูสีกันอย่างที่สุด ทั้งสองทีมต่างงัดเอาจุดเด่นของกันออกมาดวล แบบไม่มีใครยอมใคร ทีมบุกของบัฟฟาโล่ บิลล์ส  นั้น นำทัพมาโดยยอดควอเตอร์แบ๊คใจเพชรนาม จิม เคลลี่ย์ โดยมียอดรันนิ่งแบ๊คเธอร์แมน โธมัส ช่วยเสริมทางภาคพื้นดิน และมีปีกสามประสานนำมาโดย อังเดร รีดส์ , เจมส์ ล็อฟตั้น และปีกใน คีทส์ แม็คเคนล่าร์ เป็นแกนนำในเกมบุก... ทีมรับของนิวยอร์ค ไจแอ๊นทส์ ที่แข็งแกร่งนำมาโดย 3 ไลน์แบ๊คเกอร์ ลอเรนซ์ เทเล่อร์, คาร์ล แบ๊งค์ส์ และ เป๊ปเปอร์ จอห์นสัน เสริมด้วยดีเฟรนซิฟเอนด์ เลียวนาร์ด มาร์แชลล์ และยอดตัวคุมปีกจอมเก๋า อีเวอร์ซัน วอลล์ เกมในช่วงแรกนั้น เป็นทางด้านของบัฟฟาโล่ บิลล์ส ที่ทำได้ดีกว่าทางไจแอ๊นทส์ แชมป์ของสาย NFC อยู่นิดๆ... เมื่อทำคะแนนขึ้นนำไปได้ 12 - 10 หลังจากที่แข่งกันไป 2 ควอเตอร์ โดยที่ บรู๊ซ สมิตต์ ดีเฟรนซิฟเอนด์จอมโหดของบิลล์ส สามารถที่จะไล่แซ็คเจฟฟ์ ฮ็อทเทสเลอร์ ควอเตอร์แบ๊คของไจแอ๊นท์ส ได้ในเขตเอนด์โซนของนิวยอร์ค กลายเป็นเซฟตี้ได้อีกด้วย... และเมื่อกลับลงมาเล่นกันใหม่อีกครั้งในควอเตอร์ที่ 3 ทีมนิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส ก็หันมาใช้เกมการบุกทางพื้นดิน โดยใช้การวิ่งตะลุยของรันนิ่งแบ๊ค โอติส แอนเดอร์สัน กระทุ้งใส่แนวรับของบัฟฟาโล่ อย่างได้ผล ทำให้เกมกลับมาเป็นของทางฝั่งแชมป์ NFC ที่ตอบโต้ จนได้ทัชดาว์นสำคัญให้ไจแอ๊นท์สพลิกกลับขึ้นมานำ ได้เป็นครั้งแรกของเกม ด้วยคะแนน 17 - 12 ..... เมื่อเกมเข้าสู่ควอเตอร์ที่ 4 บัฟฟาโล่ บิลล์ส ก็ตอบโต้ทวงคะแนนที่เสียไปคืนทันควัน เมื่อยอดตัววิ่งเธอร์แมน โธมัส ระเบิดฟอร์มวิ่ง 31 หลา ฝ่าแนวรับของไจแอ๊นท์สทั้งแผงเข้าเอนด์โซน ให้ทีมกระทิงเปลี่ยวพลิกกลับขึ้นมานำไปอีกครั้งเป็น 19 - 17 แต่ทีมสุดเก๋าอย่างไจแอ๊นท์ส ที่มียอดหัวหน้าโค๊ช บิล พาร์เซลล์ เป็นกุนซือก็ไม่มีแกว่ง ตั้งหน้าตั้งตาบุกกินแดนขึ้นมาเรื่อยๆ โดยใช้การเล่นไปทั้งหมดถึง 13 หนได้ระยะมาทั้งหมด 74 หลา และใช้เวลาในการบุกถึง 7 นาทีกว่า ก่อนที่จะส่งตัวเตะ แม๊ท บาร์ ลงมาหวดฟิลด์โกลจ่อๆ ให้ทีมยักษ์ใหญ่นิวยอร์ค ขึ้นนำไปอีกหนอย่างเฉียดฉิวด้วยสกอร์  20 - 19 ความกดดันกลับมาเล่นงานประสาทของผู้เล่นบัฟฟาโล่ แล้ว เพราะคะแนนก็ตามอยู่ แถมเวลาก็หมดลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการตามอยู่เพียงคะแนนเดียว แต่การที่จะบุกใส่ทีมรับที่ทั้งแกร่งและสุดเหนียวแน่น ของทีมนิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส นั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะกระทำได้อย่างง่ายๆเลย... เมื่อเวลาของเกมนี้เหลืออยู่อีกเพียงแค่ 2 : 16 นาที ทีมบุกบัฟฟาโล่ บิลล์ส มีโอกาสที่จะบุกเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยระยะทางที่ไกลแสนไกล เพราะต้องทำการเริ่มบุกที่เส้น 10 หลาในแดนของตนเอง แต่จิม เคลลี่ย์ ยอดจอมทัพที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ในสไตล์ของ " No Huddle Offense " ที่ไม่ยอมเสียเวลาไปกับการประชุมวางแผน ทำให้เป็นทีมที่เปิดเกมการบุกโดยใช้เวลาที่รวดเร็ว ทำให้ทีมรับฝ่ายตรงข้ามไม่มีเวลาตั้งตัวในการเปิดตำรารับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้ากับสถานการณ์ในช่วงเวลานี้เป็นอย่างมาก... จิม เคลลี่ย์ บัญชาการเกมการบุกในวินาทีวิกฤติ ได้อย่างยอดเยี่ยม เขานำทัพทีมบุกของบิลล์ส คืบหน้ากินระยะมาได้อย่างน่ากลัว ผ่านกลางสนาม เข้ามาจนถึงที่เส้น 40 ในแดนของนิวยอร์คแล้ว เมื่อเหลือเวลาอยู่เพียง 29 วินาทีนั้น ในดาว์นที่ 2 ที่เส้น 40 ของไจแอ๊นท์ส ทีมบุกของบัฟฟาโล่ เซตเพลย์ด้วยสไตล์ ช๊อตกันส์ แนวตัวคุมปีกของไจแอ๊นท์ส ต่างพากันลงหลังไปคุมลึก แต่มันกลายเป็นแผนที่หลอกส่งให้เธอร์แมน โธมัส วิ่งดรอส์อย่างสุดสวย 11 หลาสุดสำคัญที่ยอดรันนิ่งแบ๊คได้มานั้น มันทำให้ทีมบุกมาจนถึงที่เส้น 29 หลา ซึ่งเป็นระยะที่หวังผลได้ในการที่จะเตะฟิลด์โกล เวลานอกครั้งสุดท้ายของทีมบัฟฟาโล่ หยุดเวลาอยู่ที่.... 0 . 08 วินาที เพียงแค่ 3 คะแนนนี้เท่านั้น มันจะทำให้บัฟฟาโล่ บิลล์ส กลายเป็นแชมเปี้ยนซุปเปอร์โบลว์ XXV ทันที หน่วยของทีมพิเศษลงมาสู่สนาม ยอดตัวเตะของทีมบิลล์ส สก๊อตต์ นอร์วู๊ดส์ เดินเคียงข้างมากับ แฟร๊งค์ ไรซ์ ควอเตอร์แบ๊คมือ2 ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตั้งลูกด้วย จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า ในจิตใจของนอร์วู๊ดส์เป็นเช่นไร ??? ในสถานการณ์ที่ชัยชนะและความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับ......" เท้าขวาของเขา " ผู้เล่นของทั้งสองทีมที่อยู่บริเวณข้างสนาม กระจายกันเป็นกลุ่มๆ ต่างร่วมกันสวดภาวนา ขอในสิ่งที่ตรงข้ามกัน ต่อพระเจ้าที่อยู่เบื้องบน...... ทั้งสนามเงียบกริบ หากใครทะลึ่งทำเข็มตกตอนนี้ สกอตต์ นอร์วู๊ดส์ ที่ยืนใจแกว่งอยู่ที่กลางสนามก็คงจะได้ยิน เซนเตอร์สแน๊ปบอลได้อย่างพอดี แฟร๊งค์ ไรซ์ จับมันตั้งได้ในเวลาอันรวดเร็ว เหล่าทีมพิเศษของนิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส วิ่งกรูกันเข้ามาหวังที่จะหยุดยั้ง สกอตต์ นอร์วู๊ดส์ วิ่งเข้ามาที่บอลและเตะมันออกได้อย่างดี มันลอยโด่งผ่านพ้นมือของกำแพงทีมพิเศษของทั้งคู่ไปแล้ว สายตานับพันล้านคู่ ของผู้ชมทั่วทั้งโลก จับอยู่ที่บอลลูกเดียว มันมีแรงเหลือเฝือ ที่จะไปถึง แต่ทิศทางนี่สิเป็นสิ่งที่ต้องกังวล ไม่รู้ว่าเป็นที่ ลมจากสวรรค์ หรือ นรก หรือว่าเกิดจากความเบี้ยวตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ลูกบอลลูกนั้น ลอยแหวกอากาศ เอียงไปทางด้านขวาของเสาประตู และออกไปอย่างฉิวเฉียด...... คอของสกอตต์ นอร์วู๊ดส์ ตกลง พร้อมกับผู้เล่นของบัฟฟาโล่ บิลล์สทั้งทีม มันช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทางด้านข้างสนามของทีมนิวยอร์ค ทุกสิ่งดูช่างสวยงามไปหมด พร้อมกับน้ำในถังเกเตอร์เรต ราดรดลงบนตัวของยอดโค๊ช บิล พาร์เซลล์ นิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส คือแชมเปี้ยนซุปเปอร์โบลว์  XXV แล้ว...... ฟิลด์โกลสุดกระชากจิต  ที่ทำลายความฝันอันบรรเจิดของบัฟฟาโล่ บิลล์ส จากฝีเท้าของ สกอตต์ นอร์วู๊ดส์ ในวินาทีที่ 0 : 08 ลูกนี้ จึงต้องถูกบันทึกเอาไว้ในช๊อตแห่งความทรงจำ ของตำนานซุปเปอร์โบลว์ตลอดมา...... แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:24:07 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 06:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันดับที่ 3 " Namath's Guarantee " ( ซุปเปอร์โบลว์ III  ออร์เรจโบลว์ ไมอามี่  ปีค.ศ 1969 ) " ผมจะนำทีมเจ๊ทส์เอาชนะบัลติมอร์ โคลท์สในซุปเปอร์โบลว์.... และผมขอรับประกันว่า มันจะต้องเป็นจริง !!! " ข้อความนี้เป็นคำพูดของ " บรอดเวย์ โจ " โจ เนเม็ท ยอดควอเตอร์แบ๊คเพลย์บอยของทีมนิวยอร์ค เจ๊ทส์ แชมป์จากลีค AFL ที่พูดกับนักข่าวก่อนหน้าที่จะลงเล่นในศึกซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ 3 เมื่อแฟนๆฟุตบอลทั้งประเทศได้ฟัง คำคุยโวนี้ ถึงกับหัวเราะขบขันกันอย่างท้องคัดท้องแข็ง เพราะไม่มีใครหน้าไหนเลย ที่จะเชื่อว่าทีมต่ำชั้นอย่างเจ๊ทส์ จะสามารถล้มยักษ์เอาชนะสุดยอดทีมจากลีค NFL อย่างทีมบัลติมอร์ โคลท์ส ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น..." ทีมที่ดีเยี่ยมที่สุด ในประวัติศาสตร์ " ถึงขนาดที่ว่าลาสเวกัสให้ราคาต่อรองของซุปเปอร์โบลว์ III ออกมาอย่างน่าเกลียดที่ บัลติมอร์เป็นต่อทีมเจ๊ทส์มากมายถึง 19 แต้มเลยทีเดียว !!! สุดยอดทีม บัลติมอร์ โคลท์ส ในฤดูกาล 1968 - 69 นั้น มียอดโค๊ชอัฉริยะดอน ชูล่าเป็นสมองของทีม และมียอดตำนานควอเตอร์แบ๊คของ NFL จอห์นนี่ ยูไนตัสเป็นผู้นำทีม แต่ก่อนหน้าที่จะถึงเกมซุปเปอร์โบลว์นั้น ยอดควอเตอร์แบ๊คยูไนตัส เกิดอาการบาดเจ็บไม่สมบรูณ์ ดอน ชูล่า จึงให้ เอิลล์ มอร์เรลล์  มือ2 ลงทำหน้าที่แทน สมาชิกทีมบุกที่เหลือของทีมตราเกือกม้านี้สุดแกร่ง นำมาโดยยอดปีกในออลโปร จอห์น แม็คกี้, ยอดปีกนอก จิมมี่ ออร์ ฟูลแบ๊คจอมลุย ทอม แม๊ทท์ แต่จุดแข็งที่สุดของทีมโคลท์สนั้นอยู่ที่แนวรับ.. ที่เหนียวแน่นแข็งแกร่งถึงขนาดที่ว่า ทำสถิติเสียคะแนนน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ลีคในตอนนั้น เมื่อตลอดฤดูกาลปกติของปี 1968 นั้น ยอดทีมรับนี้เสียคะแนนไปเพียง 144 แต้ม สมาชิกจอมโหดของหน่วยนี้นำทัพมาโดย ดีเฟรนซีฟเอนด์ บั๊บบ้า สมิตต์ , ไลน์แบ๊คเกอร์จอมโหด ไมค์ เคอร์ติส และยังมี 2 ยอดตัวคุมปีกซุปเปอร์สตาร์ ริค โว๊ลก์ และ เลนนี่ ลายด์ ที่ร่วมกันสร้างผลงานในการจัดการทีมบุกของคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วควอเตอร์แบ๊คจอมเพลย์บอย " บรอดเวย์ โจ " โจ เนเม็ท จอมทัพของทีมต่ำชั้นจากลีคฟุตบอลน้องใหม่ AFL อย่างทีมนิวยอร์ค เจ๊ทส์ ดันมาให้คำการันตีแบบเพ้อเจ้อ เข้าไปอีก ทำให้ทุกๆคนที่ได้ฟัง ต่างพากันขำกลิ้งจนตกเก้าอี้ไปตามๆกัน !!! แต่เมื่อเกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมา สุดยอดทีมบัลติมอร์ โคลท์ส ดันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานปกติ จอมทัพมือแทนเอิลล์ มอร์เรลล์ ที่เป็น MVP ในฤดูกาลปกติ เล่นแบบขาดความมั่นใจ ขว้างบอลกล้าๆกลัวๆ จนทำให้เสียอินเทอร์เซปป์ไปถึง 2 หน และทีมนิวยอร์ค เจ๊ทส์ ก็ฉวยเอาความผิดพลาดของบัลติมอร์ มาแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นคะแนนของฝ่ายตนเองได้ ทำให้เมื่อจบครึ่งเวลาแรกนั้น ทีมรองบ่อนจากลีค AFL สร้างเรื่องช๊อคเล็กๆ มีคะแนนนำหน้าอยู่ 7 - 0 เมื่อกลับลงมาเล่นกันใหม่ในครึ่งหลัง จอมทัพมือ 2 ของบัลติมอร์ เอิลล์ มอร์เรลล์ ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น ความมั่นใจอันตธานหายไปจนหมดสิ้น นำทีมบุกได้แบบสุดฝืด ปล่อยให้ทีมรองอย่างนิวยอร์คเล่นแบบได้ใจ ทำคะแนนเพิ่มมาได้อีก จาก 3 ฟิลด์โกล กลายเป็น 16 - 0 คะแนน ให้ทีมนิวยอร์ค เจ๊ทส์ เดินหน้าเข้าใกล้ลอมบาร์ดี โทรฟี่ไปเรื่อยๆ ดอน ชูล่า เฮดโค๊ชบัลติมอร์อยู่นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว จัดการส่งยอดจอมทัพตำนานของทีม...จอห์นนี่ ยูไนตัส ลงมาบัญชาการเกมบุกแทน เพื่อกระชากโมเมนตั้มให้กลับคืนมา เมื่อได้ศูนย์รวมจิตใจของทีม ลงมาบัญชาการเกม ก็เหมือนกับเป็นยากระตุ้นชั้นดี ให้แก่เหล่าสมาชิกของทีมบุกโคลท์ส ให้กลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนกับเพิ่งตื่นจากการหลับลึก ยอดจอมทัพ จอห์นนี่ ยูฯ ขับเคลื่อนทีมได้อย่างไหลลื่น สร้างความปั่นป่วนให้แก่แนวรับของนิวยอร์ค จนเริ่มที่จะเป๋ และแล้วสกอร์แรกในวันนี้ของบัลติมอร์ ก็บังเกิดขึ้น หลังจากการนำทีมบุกมาได้ไกลถึง 80 หลาของยูไนตัส ก่อนที่จะยัดบอลใส่มือของรันนิ่งแบ๊ค เจอร์รี่ ฮิลส์ วิ่งทะลวงจากระยะ 3 หลาเป็นทัชดาว์นตีไข่แตก ให้ทีมบัลติมอร์ โคลท์สไล่ตามมาเป็น..... 7 - 16 แต่น่าเสียดายที่มันเป็นคะแนนแรก และดันเป็นคะแนนสุดท้าย ของซุปเปอร์โบลว์ในครั้งนี้ ทำให้เมื่อเกมจบลง นิวยอร์ เจ๊ทส์ ทีมรองบ่อนจากลีค AFL ที่โดนดูถูกมาโดยตลอด ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ที่สุดเหลือเชื่อ พลิกล๊อคเอาชนะสุดยอดทีมของลีค NFL บัลติมอร์ โคลท์ส ไปได้แบบสุดเหลือเชื่อ......16 - 7 และแล้ว คำพูดการันตีที่สุดโอหัง ของจอมทัพเพลย์บอย  " บรอดเวย์ โจ " โจ เนเม็ท ก็กลายมาเป็นความจริง มันจึงกลายมาเป็นสุดยอดความทรงจำอีกบทหนึ่ง ของตำนานซุปเปอร์โบลว์.......... แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:27:00 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 06:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับที่ 2 " Giants's Drive to Glory " ( ซุปเปอร์โบลว์ XLII  ยูฯ ออฟฟีนิกส์ สเตเดี้ยม เกลนเดลล์  ปีค.ศ 2008 ) นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์  สุดยอดทีมแห่งยุค 2000 เป็นแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ถึง 3 สมัยในรอบ 5 ปี สุดยอดทีมนี้มีทอม เบรดี้ เป็นควอเตอร์แบ๊คจอมทัพ และยังมียอดปีกแรนดี้ มอสส์ เป็นอาวุธคู่ใจ ประกอบกับการได้รับการสนับสนุนทางภาคพื้นดิน จากตัววิ่ง 3 ประสาน รอเล็นซ์ มาโลนี่ , แซมมี่ มอร์ริส และ เควิน ฟ๊อลค์ เป็นแกนหลักในทีมบุกของนิวอิงแลนด์ และในฤดูกาลแข่งขัน 2007 - 2008 นั้น ทีมนักรบกู้ชาติกำลังจะตอกย้ำความยอดเยี่ยมให้มากขึ้นไปอีก เมื่อสุดยอดทีมแห่งยุคทีมนี้ เล่นได้อย่างแข็งแกร่งตลอดฤดูกาลปกติ ทำสถิติชนะรวด 16 เกม และในรอบเพลย์ออฟนั้น ลูกทีมของยอดหัวหน้าโค๊ชบิล บิลิชิ๊ก ก็ยังคงความยอดเยี่ยมต่อไป เอาชนะทั้งแจ๊คสันวิลล์ จาร์กัวส์ และซานดิเอโก ชาร์จเจอร์ส เพิ่มสถิติชัยชนะออกไปอีกเป็น 17 และ 18 นัด เท่าเทียมและแซงหน้าสถิติชนะรวด 16 เกม ที่ทีมไมอามี่ ดอลฟินส์ ชุดเพอร์เฟคซีซั่น 1972 -73 ทำเอาไว้ แต่การที่จะลบล้างเพอร์เฟค ซีซั่นได้อย่างสมบรูณ์แบบนั้น นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์   จะต้องปฏิบัติภารกิจสุดท้ายให้ได้สำเร็จ นั่นก็คือการเอาชัยชนะเหนือทีมนิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส แชมป์สาย NFC ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย ที่จะต้องเผชิญหน้ากันในศึกซุปเปอร์โบลว์ XLII ให้ได้เสียก่อน ซึ่งหากทำไม่สำเร็จแล้วนั้น ชัยชนะ 18 นัดรวดที่ผ่านมา ก็จะกลายเป็นหมัน สูญสลายลอยไปกับสายลม เป็นอากาศธาตุในทันที...... นิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส ผ่านเข้ามาจนถึงเกมซุปเปอร์โบลว์ XLII อย่างล๊อคถล่ม ผ่านเข้ารอบมาแบบทีมไวด์คาร์ด ต้องออกไปเป็นทีมเยือนตลอด 3 นัดในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หนักมาก ยากที่ทีมใดจะทำให้สำเร็จ แต่ยอดทีมยักษ์ใหญ่จากนิวยอร์คกลับหักปากกาทุกด้ามของเซียนฟุตบอล พลิกล๊อคเอาชนะทีมเจ้าบ้านมาได้จนหมดสิ้น เริ่มจากบุกไปเอาชนะแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ส ได้ถึงถิ่นเรมอนด์เจมส์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 24 - 14 และมาพลิกดับทีมคู่รักคู่แค้นร่วม NFC East ดัลลัส คาวบอยส์ อย่างเฉียดฉิวถึงเท๊กซัส สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์  21 - 17 ก่อนที่จะมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมชิงแชมป์สาย NFC เมื่อต้องออกไปเยือนถิ่น.." ตู้แช่บนดิน " แรมโบล ฟิลด์ ในวิสคอนซิน สนามเหย้าสุดหนาวเย็นของเต็ง 1สาย NFC  กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส และสู้กับทีมหัวเนยได้อย่างสูสี ตลอด 4 ควอเตอร์ ก่อนที่จะมาซัดฟิลด์โกลพลิกนรก ในช่วงต่อเวลา เอาชนะทีมเจ้าบ้านไปด้วยสกอร์ 23 - 20 แบบล็อกถล่ม !!! เดินหน้าเข้าสู่ศึกซุปเปอร์โบลว์ 42 เพื่ออาสา....ดับเพอร์เฟคซีซั่นของนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์  .... และทั้งสองคู่ชิงชัยก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม สมศักดิ์ศรีของเกมนัดชิงซุปเปอร์โบลว์ ตลอดทั้ง 3 ควอเตอร์ของเกมนี้ เป็นการห้ำหั่นกันด้วยทีมรับ ที่ชิงไหวชิงพริบกันสุดมัน ทำให้เมื่อเริ่มต้นควอเตอร์ที่ 4 นั้น คะแนนบนสกอร์บอร์ดของสนามขึ้นโชว์อยู่ที่... "  New York  Giants  3  , New England Patriots  7 " และเกมในควอเตอร์สุดท้ายนั้น ทั้งสองทีมต่างแลกเกมบุกกันอย่างสุดมัน อีไล แมนนิ่ง จอมทัพของนิวยอร์ค พาทีมพลิกขึ้นนำหน้าเป็นครั้งแรกของเกมนี้ได้สำเร็จ เมื่อขว้างลูกอย่างสุดสวยไปให้กับเดวิด ทายรีย์ ปีกคู่ใจในช่วงต้นควอเตอร์ที่ 4 ให้ไจแอ๊นทส์ขึ้นนำไปเป็น 10 - 7 แต่สุดยอดจอมทัพอย่างทอม เบรดี้ ของนิวอิงแลนด์ไม่มีหวั่นไหว เดินหน้าบัญชาการเกมบุก ของทีมนักรบกู้ชาติได้อย่างยอดเยี่ยม และมาได้ทัชดาว์นสุดสำคัญ ในช่วงท้ายของเกม เมื่อยอดควอเตอร์แบ๊คขว้างบอลอย่างเฉียบคม ไปเข้าสู่มือของแรนดี้ มอสส์ ยอดปีกในเอนด์โซน ให้นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์   พลิกกลับขึ้นมานำอีกครั้งเป็น 14 - 10 เมื่อเหลือเวลาของเกมนี้ อยู่อีกเพียง....2 : 42 นาทีเท่านั้น !!! ทีมพิเศษของแพทริออตส์   ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม นิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส ต้องเริ่มต้นบุกที่เส้น 16 ของตัวเอง คะแนนจากฟิลด์โกลยังไม่พอ เป้าหมายเดียวที่ทีมบุกของไจแอ๊นท์ส จะต้องทำก็คือ...."  ทัชดาว์น " 8 เพลย์แรกของไดร์ฟ ทีมบุกไจแอ๊นท์สเล่นได้อย่างทุลักทุเล ต้องผ่านการเล่นในดาว์นที่ 3 และ 4 มาได้อย่างเฉียดฉิว และอีไล แมนนิ่ง ควอเตอร์แบ๊คไฟแรงของไจแอ๊นท์สก็ทำถึง 2 เสียว หวุดหวิดที่จะเสียทั้งฟัมเบิ้ล และ อินเทอร์เซปป์..... เหลือเวลาของเกมอยู่อีกเพียง..... 1 : 15  นาที บอลอยู่ที่เส้น 44 หลาในแดนของไจแอ๊นท์ส ดาว์นที่ 3 ยังต้องการระยะอยู่อีกถึง 5 หลา อีไล แมนนิ่ง เซตเพลย์ด้วยช๊อตกันส์ บอลจากเซ็นเตอร์เข้าสู่มือของอีไล อย่างมั่นคง แต่แนวรับ 4 ตัวหน้าของแพทริออตส์   ทำงานได้ดีเกินคาด กดดันแนวป้องกันของไจแอ๊นท์สจนเป๋ และดีเฟรนซีฟเอนด์ของนิวอิงแลนด์ จาร์วิส กรีน เกือบที่จะคว้าตัวของอีไล แมนนิ่งได้อยู่แล้ว แต่ยอดควอเตอร์แบ๊คใจเพชรไม่ยอมแพ้ สะบัดตัวหลุดออกมาได้ และดร๊อปแบ๊คลงไปตั้งป้อมบอม์บลึก ลูกบอลถูกขว้างออกมาจากมือของอีไลอย่างเต็มแรง เป้าหมายของมันอยู่ที่ เดวิด ทายรีย์ แต่ยอดปีกกำลังโดนประกบติดอยู่โดยร็อดนี่ แฮร์ริสัน ตัวคุมปีก และยังมีแนวรับของนิวอิงแลนด์อีก 3 คน อยู่ตรงบริเวณนั้น แต่จะเป็นที่ความแม่นของอีไล หรือจะเป็นที่การยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมของทายรีย์ ก็ไม่รู้ได้ บอลลอยมาจนถึงยอดปีก ที่กระโดดขึ้นไปรับได้อย่างเฉียดฉิว และในจังหวะที่ตัวของเขาจะตกลงสู่ดินนั้น ลูกบอลทำท่าว่าจะหลุดออกมาจากอุ้งมือของเขา แต่ยอดปีกใช้ไหวพริบที่มีอยู่อย่างยอดเยี่ยม เขาใช้หมวกกันน๊อค เป็นตัวพักลูกบอลเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ กลายเป็นลูกคอมพลีสอย่างสมบรูณ์แบบที่เส้น 25 หลาของนิวอิงแลนด์ โมเมนตั้มของเกมนี้กำลังจะเปลี่ยนทิศอีกครั้ง.. เมื่อเหลือเวลาอยู่ที่ 59 วินาที !!! ทีมรับของแพทริออตส์ พยายามที่จะหยุดยั้งทีมบุกนิวยอร์คเอาไว้ให้ได้ และทำได้แค่เพียง 3 เพลย์เท่านั้น จนเมื่อบอลมาอยู่ที่เส้น 14 หลาหน้าประตูบ้านของนิวอิงแลนด์ อีไล แมนนิ่ง ก็ขว้างลูกล็อปสุดสวย ข้ามหัวของตัวคุมปีกนิวอิงแลนด์ เอลลิส ฮอปป์ ที่เสียจังหวะลื่นล้ม ไปเข้าสู่อ้อมอกของเพล๊กซิโก้ เบอร์ริส ยอดปีกนอกในเอนด์โซน เป็นทัชดาว์นสุดยอดเยี่ยม ให้นิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส พลิกกลับมาดับฝันเพอร์เฟค ซีซั่น 19 - 0 ของนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ อย่างสุดเจ็บปวดด้วยคะแนน 17 -14 ...... ดังนั้นการเล่น 12 ครั้ง 83 หลา ในเวลา 2 : 07 นาที ที่ก้าวไปสู่เส้นทางสายแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ XLII ของนิวยอร์ค ไจแอ๊นท์ส ที่สุดระทึกและยอดเยี่ยม จึงกลายมาเป็นความทรงจำอีกบทหนึ่ง ในหน้าประวัติศาสตร์ของศึกซุปเปอร์โบลว์.......... แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:29:35 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 06:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และอันดับที่ 1 ของ Super Moments ก็ได้แก่..................                                                                                                           > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 07:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับที่ 1 " Open Field Tackle..Safe Champion "  ( ซุปเปอร์โบลว์ XXXIV จอร์เจียโดม แอ๊ตแลนต้า  ปีค.ศ 1999 ) ฤดูกาลแข่งขัน 1999 - 2000 มันคือฤดูกาลแข่งขันที่สุดเหลือเชื่อ ของทีมเซนต์หลุยส์ แรมส์ และควอเตอร์แบ๊คพเนจรเคิร์ท วอร์นเนอร์ หลังจากที่เป็นทีมรองบ่อนของ NFC มาเป็นระยะเวลาถึง 10 ปีเต็ม และก่อนหน้านี้ 1 ปีในฤดูกาล 1998 นั้น ทีมเซนต์หลุยส์ แรมส์ ก็ยังมีสถิติที่สุดห่วย ชนะแค่ 4 แต่แพ้ไปถึง 12 เกม รั้งท้ายของสาย NFC ตะวันตก อย่างต่อเนื่องเหมือนเคยตามปกติ... และในฤดูกาล 1999 - 2000 ทีมก็เริ่มต้นด้วยความโชคร้าย เมื่อต้องเสียเทรนท์ กรีน ควอเตอร์แบ๊คมือ1 ตัวจริงของทีมไปตั้งแต่ปรีซีซั่น ต้องหันมาใช้ เคิร์ท วอร์นเนอร์ ควอเตอร์แบ๊คจอมพเนจร ที่มีชีวิตที่ล้มลุกคลุกคลาน ตกอับอยู่กับหลายทีมในลีค และมาเซ็นต์สัญญาสุดถูกอยู่กับทีมแรมส์ ในฐานะควอเตอร์แบ๊คสำรอง.. ขยับขึ้นมาเป็นจอมทัพของทีมแทน แบบจำยอม... แต่ยอมจอมทัพสุดอาภัพ ทีมีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร เมื่อได้รับโอกาสที่รอคอย ก็ใช้มันอย่างยอดเยี่ยม นำทัพทีมบุกเซนต์หลุยส์ได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของลีค ( MVP) ในปี 1999 ด้วยผลงานสุดเหลือเชื่อ ขว้างไปถึง 4353 หลา , 41 ทัชดาว์น และเสียอินเทอร์เซปป์ไปเพียง 13 ครั้ง ได้เรตติ้งสูงถึง 109 .2 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ส่วนประกอบของทีมเซนต์หลุยส์ยังมี มาร์แชลล์ ฟ๊อลค์ ยอดรันนิ่งแบ๊คที่เยี่ยมทั้งการวิ่งและการรับบอล เล่นได้เยี่ยมถึงขนาดที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทีมบุกยอดเยี่ยมของลีค เสริมด้วยคู่หูปีกสุดพระกาฬ ไอแซค บรู๊ซ และ ทอร์รี่ โฮ็ลท์  ที่สุดอันตราย ทั้งหมดนี้สร้างสรรค์ผลงานให้ทีมบุกของแรมส์ได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นทีมบุกที่ทรงพลังที่สุดของลีค ด้วยผลงานทำระยะทางบุกไปได้ทั้งสิ้นถึง 6639 หลา ทำคะแนนไปได้ทั้งสิ้นถึง 526 คะแนน.... ทีมรับของเซนต์หลุยส์ก็แข็งแกร่งและเหนียวแน่น นำทัพมาโดย ยอดเอนด์แกร๊นต์ วิสตรอม   เสริมด้วย 3 ประสานไลน์แบ๊คเกอร์ ลอนดอน เฟล๊ทเชอร์ , ไมค์ โจนส์ และ จอมแกร่ง ท๊อด คอนลินส์ และเหล่าแนวตัวคุมปีกสุดอันตราย...ทร็อท์ ไรท์ , เดร บรายส์ และเด็กเตอร์ แม็คคลีออน ... ทีมเซนต์หลุยส์ แรมส์  1999 จึงกลายเป็น ซินเดอเรล่า ของ NFL ระเบิดผลงานที่สุดยอดเยี่ยมชนะไปถึง 13 เกม และพ่ายแพ้ไปเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น เป็นแชมป์ของสายตะวันตก และได้เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และในรอบเพลย์ออฟนั้น ทีมบุกสุดระเบิดของแรมส์ก็ยังคงสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง ไล่ถล่มทีมแกร่ง มินนีโซต้า ไวกิ้งส์ ไปแบบเล่ะเท่ะ ด้วยสกอร์ถล่มทลายถึง 49 - 37 คะแนน ก่อนที่ในเกมชิงแชมป์NFC จะมาเฉือนเอาชนะ ทีมสลัดแดง แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ส ไปได้ 11 - 6 คะแนน ก้าวเท้าเข้าไปเล่นในเกมซุปเปอร์โบลว์ครั้งที่ 34 ได้อย่างสุดเหลือเชื่อ !!! คู่ต่อสู้ของทีมเซนต์หลุยส์ แรมส์ ในซุปเปอร์โบลว์ XXXIV ก็คือ เทนเนสซี่ ไททันส์ อดีตทีม ฮิวส์ตั้น ออย์เลอร์ส นั่นเอง ทีมไททันส์นำทัพมาโดยยอดควอเตอร์แบ๊คพรสวรรค์สูง สตีฟ แม็คแนร์ และสุดยอดตัววิ่ง เอ็ดดี้ จอร์จ และมีปีก 3 ประสาน แยนซี่ ธิ๊กส์เพน , เควิน ดาร์ยสั้น และ แฟร๊งค์ ไวเช็คส์ เป็นแกนนำในทีมบุก ส่วนทีมรับก็มี เจวอร์น เคิร์กส์ , เอ๊ดดี้ โรบินสัน และ ซามารี่ โรลว์ เป็นแกนนำ เข้ารอบเพลย์ออฟมาแบบทีมไวด์คาร์ด ก่อนที่จะมาเอาชนะบัฟฟาโล่ บิลลส์ ไปได้ 22 - 16 คะแนน ต่อด้วยพลิกเอาชนะอินเดียนาโพลิส โคลท์ส ไปได้อย่างฉิวเฉียด ด้วยสกอร์ 19 - 16 คะแนน และมาระเบิดฟอร์มแกร่งดับแจ๊คสันวิลล์ จาร์กัวส์ ในเกมชิงแชมป์ AFC 33 - 14 คะแนน ก้าวเท้าเข้ามาเล่นในเกมซุปเปอร์โบลว์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม........ เทนเนสซี่ ไททันส์ และ เซนต์หลุยส์ แรมส์ ร่วมกันทำให้ซุปเปอร์โบลว์ ครั้งที่ 34 เป็น 1 ในศึกซุปเปอร์โบลว์แห่งความทรงจำ ในครึ่งเวลาแรก เป็นช่วงเวลาของทีมรับ เมื่อแนวรับของทั้งสองทีม ต่างทำงานกันได้อย่างสุดยอดเยี่ยม ป้องกันไม่ให้ทีมบุกสุดระเบิดของทั้งสองฝั่ง ก้วเท้าเข้าไปเหยียบเขตเอนด์โซนของแต่ละฝ่ายได้เลย แต่ทางทีมแรมส์ มาได้ 9 คะแนน จาก 3 ฟิลด์โกลของยอดตัวเตะ เจฟฟ์ วิลกิ้นส์ ให้ทีมออกนำไปก่อน 9 - 0 คะแนนเมื่อพักครึ่งเวลา.. แต่เมื่อกลับลงมาเล่นกันใหม่ในครึ่งเวลาหลัง ช่วงเวลาของทีมบุก ก็เริ่มต้นขึ้น... เมื่อเคิร์ท วอร์นเนอร์ นำทีมบุกของแรมส์ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะขว้างบอลระยะ 9 หลา เข้าสู่มือของทอร์รี่ โฮ๊ลท์ ในเอนด์โซนเป็นทัชดาว์นแรกของเกมวันนี้ ให้เซนต์หลุยส์ แรมส์ ออกนำไปอีกเป็น 16 - 0 คะแนน.... แต่ก่อนที่จะจบควอเตอร์ที่ 3 นั้น เทนเนสซี่ ไททันส์ ได้รันนิ่งแบ๊คเอดดี้ จอร์จ วิ่งทะลวงจ่อๆ 2 หลา หน้าประตูบ้านของแรมส์ ให้ไททันส์ได้คะแนนตีไข่แตก ไล่มาเป็น 6 - 16 .. เมื่อเกมเดินทางมาถึงควอเตอร์ที่ 4 โมเมนตั้มทั้งหมดก็หันกลับมาที่ทางด้านของทีมเทนเนสซี่ เมื่อจอมทัพสตีฟ แมค์แนร์ เริ่มบัญชาการเกมบุกได้อย่างไหลลื่น และได้เกมการวิ่งที่ยอดเยี่ยมของเอ็ดดี้ จอร์จ เจาะทะลวงเข้าใส่แนวรับของเซนต์หลุยส์อย่างได้ผล และยอดรันนิ่งแบ๊คก็มาทำทัชดาว์นสุดสำคัญ ให้เทนเนสซี่ ทำคะแนนไล่มาใกล้เข้าไปอีกเป็น 13 - 16 ..... มาถึงตอนนี้ ทีมบุกสุดระเบิดของทีมแรมส์ ถูกปิดประตูลงกลอน บุกแทบจะไม่ขึ้นอีกแล้ว เกมทั้งหมดตกมาอยู่ในกำมือของเทนเนสซี่ ไททันส์ หมดสิ้น และเทนเนสซี่ ก็มาได้ฟิลด์โกลสุดสำคัญระยะ 43 หลา จากตัวเตะ อัล เดลเก๊กโก ทำให้เทนเนสซี่ ไททันส์ ไล่มาเสมอกับเซนต์หลุยส์ แรมส์ เป็น 16 - 16 คะแนน เมื่อเหลือเวลาของเกมอยู่อีก 2 : 12 นาทีเท่านั้น โมเมนตั้มทั้งหมดของเกมนี้ พลิกมาอยู่กับไททันส์หมดสิ้นแล้ว แต่ใครก็จะมาประมาททีมบุกชุดนี้ของแรมส์ ที่นำทัพโดยเคิร์ท วอร์นเนอร์ ไม่ได้ เมื่อผู้เล่นของไททันส์ กำลังขาดสมาธิจากความดีใจที่ไล่มาตีเสมอได้ ทำให้การประกบตัวในแนวรับหละหลวม จึงโดนวอร์นเนอร์ลงโทษ โดยทันที เพียงการเล่นเพลย์แรก หลังจากการวิ่งคิ๊กออฟรีเทิร์น ยอดจอมทัพ เคิร์ท วอร์นเนอร์ ก็ช๊อคไททันส์ทั้งทีม ด้วยลูกบอม์บลึก 73 หลาไปให้กับยอดปีกคู่ใจไอแซค บรู๊ซ สปีดเข้าเอนด์โซน ให้เซนต์หลุยส์ แรมส์ กระชากโมเมนตั้มกลับมาอีกครั้ง พลิกกลับมานำไปเป็น 23 - 16 คะแนน เมื่อเหลือเวลาของเกมนี้อยู่อีกเพียงแค่ 1 : 48 นาทีเท่านั้น...... การวิ่งคิ๊กออฟรีเทิร์นของไททันส์ไปถึงเส้น 21 ต้องโดนเรียกย้อนถอยหลังลงมาเมื่อเจอโทษดึงเข้าไปอีก ทำให้ทีมบุกต้องลงมาเริ่มเล่นที่เส้น 12 ในแดนของตัวเอง สตีฟ แม็คแนร์  จอมทัพของไททันส์เล่นได้อย่างสุดนิ่ง เขาเล่นแผนขว้างสั้นสลับยาวเล่นงานแนวรับแรมส์จนลิ้นแทบห้อย ยอดรันนิ่งแบ๊ค เอ็ดดี้ จอร์จ เลิกวิ่งสนิท มาเป็นปีกเสริมให้การบุกของไททันส์ มีอาวุธเพิ่มขึ้น สตีฟ แม็คแนร์ พาทีมบุกเทนเนสซี่กินระยะคืบหน้ามาได้เรื่อยๆ จากแดนตัวเอง ข้ามกลางสนาม มาจนถึงเส้น 26 หลา หน้าบ้านของแรมส์แล้วอย่างน่ากลัว ทีมรับของเซนต์หลุยส์รวนไปหมด เปิดตำรารับการบุกของไททันส์ แทบไม่ทัน เหลือเวลาอีกเพียง 22 วินาที จากแผนช๊อตกันส์ สตีฟ แม็คแนร์ วิ่งเอาตัวรอด หลบหนีเงื้อมือของเควิน คาร์เตอร์ ดีเฟราซีฟเอนด์ของแรมส์มาได้หวุดหวิด ก่อนที่จะขว้างบอลอย่างยอดเยี่ยมไปเข้ามือของเควิน ดาร์ยสั้น เข้ามาจนถึงเส้น 10 หลาหน้าบ้านของเซนต์หลุยส์แล้ว จอมทัพแม็คแนร์เรียกเวลานอกครั้งสุดท้ายของเกม เมื่อเวลาบนสกอร์บอร์ดโชว์ว่า.....0.06 วินาที เพลย์สุดสำคัญกำลังจะมาถึงแล้ว... เมื่อกลับเข้ามาเล่นใหม่อีกครั้ง แม็คแนร์ เซตเพลย์บุกด้วยช๊อตกันส์เช่นเคย ทีมรับของแรมส์กระจายตัวออก ป้องกันลึกครอบคลุมไปในเอนด์โซน บอลสแน๊ปเข้าสู่มือจอมทัพพรสวรรค์สูง แม็คแนร์ดร๊อปแบ๊คลงไปมองหาปีกที่ว่าง ... แต่ในแนวลึกต่างโดนประกบจนหมด เหลือเพียงเควิน ดาร์ยสั้น คนเดียว ที่ลอยว่างอยู่ที่หน้าเอนด์โซนของแรมส์ เวลาไม่มีให้คิดมาก เร็วเท่าความคิดแม็คแนร์ปล่อยบอลไปให้กับปีกคู่ใจทันที ดาร์ยสั้น รับบอลได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับพลิกตัวจะวิ่งเข้าไปสู่เอนด์โซน ใกล้ตัวของเขาที่สุด ก็คือ ไมค์ โจนส์ ยอดไลน์แบ๊คเกอร์ของแรมส์ ยอดปีกสปีดเต็มกำลังเป้าหมายอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว แต่ไมค์ โจนส์ ไลน์แบ๊คเกอร์ใจเพชร ทำในสิ่งที่ผู้ชมทั้งโลกต้องตะลึง เมื่อเขาพุ่งเข้าแท๊กเกิ้ลใส่ดาร์ยสั้น แบบเดี่ยวๆ โดยไม่มีตัวช่วย พร้อมกับรวบตัวของยอดปีกให้ล้มลง ก่อนหน้าที่จะเข้าไปถึงเขตเอนด์โซน แค่เพียงหลาเดียวเท่านั้นเอง แม้ว่ายอดปีกจะพยายามยืดแขนส่งบอลไปให้ไกลที่สุด มันก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว..... เวลาของเกมซุปเปอร์โบลว์ XXXIV ที่สุดมันนี้จบลงทันที ผู้เล่นของเซนต์หลุยส์ แรมส์ ดีใจจนแทบคลั่ง ปล่อยให้ยอดปีก เควิน ดาร์ยสั้น นอนหมดแรงและหมดใจ อยู่ตรงเส้น 1 หลา ประวัติศาสตร์นั่นเอง..... ช๊อตแท๊กเกิ้ลเดี่ยวๆ ที่สุดยอดเยี่ยม เพื่อเซฟชัยชนะให้กับทีมเซนต์หลุยส์ แรมส์ พร้อมกับดับฝันของเทนเนสซี่ ไททันส์ ให้หยุดลงที่ตรงเส้น 1 หลา ของไลน์แบ๊คเกอร์ใจเพชร ไมค์ โจนส์ จึงกลายมาเป็นสุดยอดความทรงจำ แห่งประวัติศาสตร์ของศึกซุปเปอร์โบลว์ตลอดมา....... แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 08:12:14 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 08:08:36 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:32:08 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 07:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทราบผลกันเป็นที่เรียบร้อย แล้วนะครับ สำหรับอันดับที่ 1 ..... ดังนั้น ทุกๆท่าน ที่ทายคำตอบกันเข้ามาว่าเป็น ช๊อต Open Field Tackle.... Safe Champion ของยอดไลน์แบ๊คเกอร์ ไมค์ โจนส์ ของเซนต์หลุยส์ แรมส์ จาก Super Bowl XXXIV ปี 1999... ซึ่งมีหลายท่านมากเลยที่ทายได้ถูกต้อง ขอเวลาให้ผม เพื่อรวบรวมรายชื่อ และจับสลากผู้ที่ทายถูกเพียง1 ท่าน เพื่อรับของรางวัล.... "  NFL Season Highlight 1966 - 1995 & Super Bowl I - XXX  " แล้วในช่วงคํ่าของวันนี้ จะมาประกาศผลอีกครั้ง ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับผม........^_^                                                                                                           > Shine on you crazy diamond < แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 07:34:48 จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 07:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นัดปี 1999 นั่งดูอยู่ลุ้นมากครับ ขอบคุณมากนะครับที่นำมา Review ให้อ่านกันอีกครั้ง จากคุณ : supermandk - [ 30 ม.ค. 52 08:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยอดเยี่ยมมากครับ ติดตามตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้ เป็นเหมือนการอุ่นเครื่องการเกมส์จริงที่วิเศษ ยังจำ  " Open Field Tackle..Safe Champion " ได้ แม้จะผ่านมาหลายปี นั่งดูตอนนั้นมัน งง งง แบบว่า เฮ้ย จบแล้วเหรอ คงหาเพลย์ไหนมาพิชิตได้ยากมากจริงๆ จากคุณ : สุพจน์ - [ 30 ม.ค. 52 08:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สุดยอดจริงๆ ครับ ขอบคุณ จขกท มาก จะได้ว่าปีนั้นเชียร์น้าเคิร์ตสุดๆ พอแทคเกิลได้นี่แบบโดดตัวลอย เฮสุดๆ เลยครับ ปีนี้อยากให้คาร์ดินัลได้แชมป์จริงๆ ทีมบุกระเบิดแบบนี้นี่แบบน่าเชียร์จริงๆ แต่แอบกลัวว่าปีนี้เป็นปีของคนผิวสีจริงๆ จากคุณ : นักบอลหมายเลข 8 - [ 30 ม.ค. 52 11:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สุดยอดจริงๆครับ ดูใน youtube ขนลุกซู่เลย จากคุณ : bolshoi booze - [ 30 ม.ค. 52 11:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิ.... ทายถูกคนแรกด้วยย ^^ จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก - [ 30 ม.ค. 52 11:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วาว สุดยอดมากๆครับ รวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วนจริงๆ จากคุณ : Jay Cutler - [ 30 ม.ค. 52 14:39:18 A:58.137.244.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 สุดยอดเพลย์แห่งความทรงจำจริงๆ คาราวะคุณ Romancini 1 จอกครับ m(_ _)m จากคุณ : Ghost to the Post - [ 30 ม.ค. 52 20:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กลับมาอีกครั้งครับผม... สรุปรายชื่อของท่านที่ทายกันมาว่า อันดับที่ 1 ของ Super Moments Of Super Bowl คือ... ช๊อตที่ ไมค์ โจนส์ หยุด เควิน ดาร์ยสัน ได้ที่เส้น 1 หลา เซฟแชมป์ซุปเปอร์โบลว์ให้กับทีมแรมส์ ในซุปเปอร์โบลว์ 34 โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้นะครับ.... ~ ท่าน 123 ปลาฉลามขึ้นบก ~ ท่าน ปล่อยผม ~ ท่าน Salty ~ ท่าน สุพจน์ ~ ท่าน S[l]ay ~ ท่าน egg ผมจะทำรายชื่อของทุกท่านขึ้นมาแล้วจับฉลาก เพื่อให้ได้ เพียงท่านเดียวนะครับผม............. ที่จะได้..... "  NFL Season Highlight 1966 - 1995 & Super Bowl I - XXX  " เป็นแผ่น DVD ไรท์ 3 แผ่นนะครับ....... ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ติดตามมาโดยตลอดครับ.........^_^                                                                                                        > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 22:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กลับมาแล้ววววววว หลังจากที่ไปนั่งทำฉลากรายชื่อ แล้วให้ ผบ.สส ในบ้านเป็นผู้มาจับรางวัลให้ ผู้ที่ได้รับรางวัล "  NFL Season Highlight 1966 - 1995 & Super Bowl I - XXX  " ได้แก่.............. คุณ......" สุพจน์ " ครับผม !!!                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 23:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแสดงความยินดี ด้วยนะครับ ผมจะติดต่อการรับรางวัลที่หลังไมค์ไป หรือหากว่า.... ท่านพี่ สุพจน์ ไปดู Super Bowl Party ที่โรงแรม Zenith ผมก็จะได้หอบของรางวัลไปมอบให้ที่งานเลยครับ.... ......................... ส่วนท่านที่พลาดไป ไม่เป็นไรครับผม คราวหน้าผมจะหาเกมมาให้เล่น ชิงรางวัล สนุกๆกันใหม่ ขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งนะครับ........^_^                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 30 ม.ค. 52 23:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นี่คงเป็นครั้งแรกเลยมั่งครับ ที่มีโชคจากจับสลาก ขอบคุณคุณ Romancini มากครับ ทั้งการมาอุ่นเครื่อง ทั้งการมอบโชค ที่โรงแรม Zenith คงไม่ได้ไปหรอกครับ ตื่นไม่ไหว ขอนอนดูอยู่ที่บ้านแล้วกัน ตอนนี้ เปิดหลังไมค์รอไว้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : สุพจน์ - [ 30 ม.ค. 52 23:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปล่อยบิตๆๆๆ ^^ จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก - [ 31 ม.ค. 52 00:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาอ่านค่ะ จากคุณ : Opey - [ 31 ม.ค. 52 14:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อวานมองผ่านกะทู้นี้ไปได้ไงเนี่ย ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะครับ ปี 1999 ดูจบไปคุยกับเพื่อนที่โรงเรียนตลอดบ่ายเลย กับระยะอีกแค่ หลาเดียว กลางคืนกลับบ้านมาดูเทปที่ช่อง 3 อีกก็ยังสนุกเลยครับ จากคุณ : salty - [ 31 ม.ค. 52 20:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มองผ่านไปเหมือนกัน หะหะ แต่ตอนนี้เข้ามาดูแล้วคร้าบบบบ ผมดูไฟล์ช่วงเพลย์สุดท้าย มาดตอนสั่งการเวอร์มิลแกเหมือนคุณครูมากกว่าโค้ชอีก แถมตอนชนะก็ดีใจแบบไม่มีพลังเอาซะเลย เฮ้ย! นี่เฮียชนะซุปเปอร์โบวล์นะเฟ้ย ดีใจให้มันสุดๆหน่อย!!! อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ :) จากคุณ : Lueng - [ 1 ก.พ. 52 15:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่าแกลุ้น...จนหัวใจจะวายแล้วมั้งครับวินาทีนั้น หมดแรงจะเฮแล้วววว... แกทั้งบ่นทั้งด่า ทีมรับ ทั้งเควิน คาร์เตอร์ , ดิมาร์โก ฟาร์ ที่เดินลิ้นห้อยออกมาพักที่ข้างสนาม ตอนใกล้จะหมดเวลาอ่ะ อย่างจี้เลยครับผม.......                                                                                                       > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 1 ก.พ. 52 22:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วิ่งย้อนอินเตอร์เซ้ป 100 หลา ของแฮร์ริสันอยู่อันดับเท่าไหร่ดีครับเนี่ย จากคุณ : bianconeri - [ 2 ก.พ. 52 17:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเอาไว้ 1 ใน 5 ของ Super Moments นะ.........                                                                                                            > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini - [ 3 ก.พ. 52 00:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณคุณ Romancini มากเลยนะครับ แม้ว่าจะไม่ได้รางวัล แต่ก็แชร์ข้อมูลดีๆ ให้ผมมีอารมณ์ร่วมได้อย่างมากจริงๆ ครับ (ปลุกอารมณ์เก่งจริงๆ) ปล. ผมหลังไมค์ไปแล้วนะครับ จากคุณ : ปล่อยผม - [ 5 ก.พ. 52 08:54:25 ]