Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    10 ประตูแห่งความทรงจำ... ตลอดกาล

    เมื่อสงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เช่นเดียวกับเกมลูกหนัง "เมื่อคุณยังไม่ได้ยินเสียงนกหวีดสุดท้าย คุณยังไม่แพ้" คำกล่าวข้างต้นนี้ ได้อธิบายคำจำกัดความของหัวข้อคอลัมน์ได้เป็นอย่างดี กล่าวกันว่า เหตุการณ์ที่จะหยิบยกมานำเสนอคุณผู้อ่านในสัปดาห์นี้ ไม่ต้องใช้ทุนสร้าง แต่กลับตรึงอารมณ์ความรู้สึก ราวกับได้ดูภาพยนต์ออสก้ายังไงหยั่งงั๊น และเหมือนเช่นเคย จงอย่าเชื่อกับลิสต์ข้างล่างนี้ แต่จงบอก 10 อันดับในใจคุณให้เราได้รับรู้บ้าง



    อันดับ 10. ฮอลแลนด์ 2 อาร์เจนติน่า 1 (ฟุตบอลโลก 98 รอบก่อนรองชนะเลิศ, สนาม สต๊าด เวโลโดรม, มาร์กเซย  )   4 กรกฎาคม 1998

    เบิร์กแคมป์ แสดงให้บรรดาผู้เล่นอาร์เจนติน่า ได้เห็นถึงความสุดยอดด้วยทักษะอันแพรวพราว และกึ๋นของการจบสกอร์ ที่ไม่ใช่มีแต่นักเตะอเมริกาใต้เท่านั้นที่จะทำได้, เขารับลูกโยนยาวกว่า 60 หลาของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ เพื่อนร่วมทีม ก่อนที่จะโชว์การดูดบอลลงอย่างชดช้อย ราวกับว่าต้องเป็นช่างศิลปผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้นถึงจะทำได้ ก่อนที่จะดีดด้วยขวาอย่างเหนือชั้น ประตูนั้นของ  เบิร์กแคมป์ ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกให้เป็นหนึ่งในประตูสุดคลาสสิคที่สุด และมันเกิดขึ้นในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ที่สำคัญมันส่งอดีตแชมป์ 2 สมัยกลับบ้าน ส่วน ฮอลแลนด์ ได้ที่ 4 ในทัวร์นาเม้นท์นั้น
    http://www.youtube.com/watch?v=HqEWpHuib9A





    อันดับ 9. อาร์เซน่อล 4 สเปอร์ส 4 ( พรีเมียร์ชิพอังกฤษ, สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ) 29 ตุลาคม 2008

    ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับการปฎิวัติสภาพจิตใจของ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส หลังไม่ชนะทีมใดมาหลายเกมจนรั้งบ๊วยของตารางคะแนน การจากไปของ ฆวนเด้ รามอส และการเข้ามาเป็นความหวังสูงสุดของแฟนสเปอร์ส ของ แฮร์รี่ เรดแน็ปป์,  29 ตุลาคม 2008 ดาร์บี้แมตช์เกมแรกภายใต้การคุมทัพ จ่าแฮร์รี่ นำลูกทีมบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีแต้มติดมือกลับออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกนำห่าง 4-2 และเหลือเวลาอีก 2 นาที, สุดท้ายเกมจบลงเสมอ 4-4 ด้วยลูกยิงของ อารอน เลนน่อน ในจังหวะซ้ำลูกยิงของ ลูก้า โมดริช ถือเป็นการคัมแบ็กที่น่าเหลือเชื่อ ในขณะที่ แฮร์รี่กระโดดดีใจเหมือนเด็กๆ ข้างๆกันนั้น เส้นโลหิตในสมองของ อาร์แซน เวนเกอร์ กำลังจะแตก
    http://www.youtube.com/watch?v=18p8RZ5W4UY





    อันดับ 8. อาร์เซน่อล 1 รีล ซาราโกซ่า 2 (ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 1995, สนาม ปาร์ค เดส์ แปรงซ์ )10 พฤษภาคม 1995

    ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอล อาร์เซน่อล ยังจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี โดยเฉพาะ เดวิด ซีแมน ในยุคที่ อาร์เซน่อล ประสบความสำเร็จในบอลถ้วยเป็นอย่างมาก, ฤดูกาล 1994-95 อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะป้องกันแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย หลังก่อนหน้านี้ในฤดูกาล 1993-94 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ นัดชิงชนะเลิศกับ รีล ซาราโกซ่า ผลจบลงที่เสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปจนกระทั้งเหลือนาทีสุดท้าย เกมทำท่าว่าจะต้องดวลจุดโทษหาแชมป์ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ นาอิม อดีตนักเตะ สเปอร์ส คู่ปรับร่วมเมืองยิงไกลร่วมๆ ครึ่งสนาม บอลลอยข้ามหัวเดวิด ซีแมน แบบช็อกทุกคนในสนาม ว่ากันว่าปีนั้นนอกจาก รีล ซาราโกซ่า จะคว้าแชมป์  คัพ วินเนอร์ส คัพ ไปครองแล้ว แฟนบอล สเปอร์ส ก็ดูเหมือนจะดื่มด่ำร่วมไปกับรีล ซาราโกซ่า ราวกับได้แชมป์ร่วมยังไงหยั่งงั๊น
    http://www.youtube.com/watch?v=psfSqgLQFzU





    อันดับ 7. อังกฤษ 4 เยอรมัน ตะวันตก 2, ( เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม เวมบลีย์ ) 30 กรกฎาคม ปี 1966

    หนึ่งในแมตช์ชิงที่ทั่วโลกรอคอย มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือคำถามที่ว่าลูกยิงในช่วงทดเวลาของ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ ข้ามเส้นประตูไปแล้วหรือยัง ยังหาคำตอบไม่ได้ ทั้งยังกลายเป็นชนวนบาดหมางระหว่างสองชาติมาจนทุกวันนี้ และต้นเหตุของปัญหาดังกล่าวคงหนีไม่พ้น ลูกยิงในช่วงนาทีสุดท้ายของ โวล์ฟกัง เวเบอร์ ที่ซ้ำลูกยิงฟรีคิกของ โลธาร์ เอ็มเมอริช ช่วยให้ เยอรมัน ตะวันตก ตีเสมอ อังกฤษ 2-2 แบบช็อกแฟนบอลอังกฤษทั้งสนาม
    http://www.youtube.com/watch?v=13mS0I04zxo





    อันดับ 6. อังกฤษ 2 กรีซ 2 ( ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก, โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ) 6 ตุลาคม ปี 2001

    กรีซ สร้างความปั่นป่วนให้กับทีม "สิงโตคำราม" เป็นอย่างยิ่ง และการขึ้นนำ 2-1 ทำให้ความหวังของอังกฤษที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปแบบอัตโนมัติเป็นหมันทันที เข็มวินาทีที่เดินผ่านไป ความหวังของคนเมืองผู้ดีก็ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่เหลืออะไรอีก แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 อังกฤษได้ฟรีคิกระยะไกลกว่า 30 หลา และนี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วของพลพรรคสิงโตคำรามที่จะรักษาความหวังเอาไว้ให้ได้ และก็เป็นเบ็คแฮม ที่ปั่นบอลโค้งลูกพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสุดอัศจรรย์ นี่คือประตูที่สุดแสนจะล้ำค่า และสุดแสนอัศจรรย์ที่สุดประตูหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ และของ เดวิด เบ็คแฮม กล่าวกันว่าถ้าจะให้คำจำกัดความหรือความหมายของชื่อเสียงและการกระทำของ เบ็คแฮม แล้วล่ะก็ ฟรีคิก ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายในแมตช์นี้แหละคือคำตอบ ประตูนี้ส่งพลพรรค "สิงโตคำราม" ผ่านเข้าไปเตะเพลย์ออฟกับ ยูเครน และก็สามารถเข้าไปโชว์แข้งในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ได้สำเร็จ
    http://www.youtube.com/watch?v=4vPaw3ImXfY&feature=related





    อันดับ 5. ตุรกี 1 โครเอเชีย 1 ( ยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ) 21 มิถุนายน 2008

    " เกมยังไม่จบจนกว่า ฟาติห์ เตริม จะให้สัญญาณ" ฟุตบอลยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศที่แสนอึดอัด ตลอด 90 นาทีไม่มีการทำประตูจนต้องต่อเวลาพิเศษออกไป และในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 118 จากความผิดพลาดของ รุสตู เรคเบอร์ ผู้รักษาประตูของ ตุรกี ที่ได้มอบของขวัญผูกโบให้กับ โครเอเชีย นำ 1-0 ใครๆก็นึกว่าเกมคงจบลงแล้วไม่เว้นแม้แต่ สลาเวน บิลิช โค้ชของ โครเอเชีย ที่วิ่งแหกปากมากว่า 50 หลาเข้ามาร่วมดีใจกับลูกทีม แต่มีอยู่หนึ่งคนที่ไม่คิดเช่นนั้น  เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ฟาติห์ เตริม กุนซือจอมเก๋าของตุรกี สั่งให้ลูกทีมเติมเกมรุกให้หมดในจังหวะได้ลูกตั้งเตะบริเวณกลางสนาม รุสตู เรคเบอร์ รับหน้าที่เปิดบอลยาวเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น เซมิห์ ซานเติร์ค ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเสียบเพดานตะข่ายตีเสมอได้อย่างเหลือเชื่อ เกมจบ120 เสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน และก็เป็นตุรกีที่เป็นฝ่ายชนะไปในที่สุด
    http://www.youtube.com/watch?v=Ys0LEEga300&feature=related





    อันดับ 4. ลิเวอร์พูล 3 เวสต์แฮม 3 ( เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ, สนาม มิลเลเนี่ยม สเตเดี้ยม ) 13 พฤษภาคม ปี2006

    นี่คือสุดยอดนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ที่ดีที่สุดตลอดกาล  ตลอดทั้ง 90 นาทีงานที่นึกว่าจะง่ายของ ลิเวอร์พูล ในแมตช์นั้นกลับกลายเป็นยากเย็นแสนเข็ญ อย่างไรก็ตามมันกลับคุ้มค่าสำหรับแฟนบอล "เดอะค็อป" ทั่วโลก และ โดยเฉพาะ สตีวี่ จี ที่ไม่แยแสกับอาการเจ็บ และจัดการซัดบอลจากระยะ 35 หลาในวินาทีสุดท้ายตีเสมอได้อย่างปาฏิหาริย์ ขนาดปรมาจารณ์ลูกหนังอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยังได้เขียนลงในหนังสือพิมพ์ เดอะ เมล์ ไว้ว่า "มันเป็นวันที่โลกได้รับรู้ว่า เอฟเอ คัพ คืออะไร "
    http://www.youtube.com/watch?v=0FWqJ2twRZs





    อันดับ 3. ลิเวอร์พูล 0 อาร์เซน่อล 2 ( ดิวิชั่น 1 อังกฤษ ปี 1989,  สนาม แอนฟิลด์ ) 26 พฤษภาคม ปี1989

    นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ช็อกความรู้สึกของแฟนบอล ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง นัดสุดท้ายของฤดูกาล ลิเวอร์พูล กำลังจะคว้าแชมป์ ดิวิชัน 1 อังกฤษ ในปี 1989 โดยเงื่อนไขก็คือชนะ เสมอ หรือแพ้ได้ 1 ลูกก็จะคว้าแชมป์ทันที แถมได้เล่นในรัง แอนฟิลด์ จบ 90 นาที ประตูของ อลัน สมิธ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ แต่แล้ว อาร์เซน่อล ก็ทลายเงื่อนไขผลต่าง 2 ประตู ได้แบบเหลือเชื่อ จากฝีเท้าของ ไมเคิล โทมัส ที่หลุดเข้าไปซัดผ่าน บรูซ กร็อบเบลาร์ ตุงตาข่าย พร้อมทั้งกระชากถ้วยแชมป์ใบแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรกลับสู่ถิ่น ไฮบิวรี่
    http://www.youtube.com/watch?v=4jiBIdtUKhs&feature=related





    อันดับ 2. คาร์ไลส์ 2 พลีมัธ 1, (บรันตัน พาร์ค ดิวิชั่น 2 อังกฤษ) 8 พฤษภาคม ปี1999

    เราเคยได้เห็นการทำประตูในช่วงวินาทีสุดท้ายมานักต่อนัก แต่เชื่อเหลือเกินว่าเหตุการณ์ที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจจะเกิดขึ้นครั้งนี้และครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ลูกหนังนับจากนั้นมาก็ว่าได้ ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นผู้รักษาประตูทำประตูได้ และยิ่งไม่บ่อยครั้งเข้าไปใหญ่เมื่อประตูที่ทำนั้นมันเกิดขึ้นจากจังหวะยิงครั้งสุดท้ายของฤดูกาล จิมมี่ กลาส! ๆ ๆ ๆ คือชื่อที่แฟนบอล คาร์ลไลส์ ไม่เคยลืม 8 พฤษภาคม 1999 คาร์ลไลส์ ต้องเอาชนะ พลีมัธ ให้ได้เพื่ออยู่รอดไม่ตกชั้นลงไปเล่นใน ดิวิชั่น 3 , 90 นาที เกมทำท่าว่าจะเสมอกัน ที่ 1-1 แต่ในช่วง 10 วินาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา คาร์ไลส์ ได้ลูกเตะมุม และ จิมมี่ กลาส ก็ได้ทำในสิ่งที่ผู้รักษาประตูน้อยคนนักที่จะทำได้ เขาทำประตูได้จากจังหวะนั้น คาร์ไลส์ ไม่ตกชั้น ชื่อของ จิมมี่ กลาส ถูกนำมาแต่งเป็นเพลง ที่สำคัญทั้งฤดูกาลเขามีโอกาสได้ลงสนามให้กับสโมสรแค่เพียง 3 นัด และนี่คือหนึ่งในสามนัดที่ จิมมี่ จะไม่มีวันลืม
    http://www.youtube.com/watch?v=KejwqhLDeOs




    อันดับ 1. บาเยิร์น มิวนิค 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 ( ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ, สนาม คัมป์นู ) 26 พฤษภาคม ปี1999

    ใครว่าฟุตบอลฆ่าคนไม่ได้ แมตช์นี้คือสุดยอดไคลแม็กซ์ที่เป็นทึ่จดจำและถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้ มันเป็นค่ำคืนที่เหมือนฝันของแฟน แมนฯยู ในทางตรงกันข้าม มันก็เป็นค่ำคืนที่สุดแสนทำร้ายจิตใจจนเกือบทนพิษบาดแผลไม่ไหวของใครหลายต่อหลายคน ที่สกอร์ 1-0 และเหลืออีก 3 นาที ในสนามคัมป์นูเกมยังคงดำเนินต่อไป แต่มุมเล็กๆมุมหนึ่งในสนามเจ้าหน้าที่กำลังขะมักเขม้นขริบริบบิ้นสีเทาเลือดหมูพร้อมตราสัญญาลักษณ์ของ บาเยิร์น มิวนิคเพื่อเตรียมการเฉลิมฉลองโดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่อึดใจมันจะสูญเปล่า, ทันทีที่ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม และ โอเล่ กุนนาร์ โซลส์ชาร์ ถูกส่งลงสนาม 3 นาทีนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเติมเต็มความรู้สึกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมไปถึงคำนำหน้าชื่อของเขาด้วย
    http://www.youtube.com/watch?v=zIpdpYSeOi4


    ที่มา : http://www.hotleague.com/column/view_column_detail.asp?clmcode=372

    แปลและเรียบเรียง โดย

    ฮันนิบาล

    i_lovemyjob@hotmail.com

    จากคุณ : ManTheKop - [ 30 ม.ค. 52 22:09:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom