ความคิดเห็นที่ 1 อยากถามคุณว่า คุณติดตามบอลไทยลีกแค่ไหนถึงได้มาตั้งคำถามโชว์เกรียนแบบนี้ ผมไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคุณ จากคุณ : ไทนาวี - [ 6 ก.พ. 52 08:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วรายได้หลักของทีมฟุตบอลอาชีพหละมาจากไหน? ถ้าเป็นคนดูบอล ก็ต้องตอบว่า "ก็มาจากค่าตั๋วที่เก็บจากแฟนบอลสิ" ใช่ครับมาจากแฟนบอล แล้วทุกวันนี้ ไอ้เงินที่เก็บจากแฟนบอลได้มันมีสักกี่บาทกัน ผมขอเปรียบเทียบก่อนนะครับว่า เงินที่ได้จากองค์กรต้นสังกัด = การขอเงินพ่อแม่ เงินที่ได้จากสปอนเซอร์ = การขอเงินจากคนรู้จัก หรือขอทุนการศึกษา เงินที่ได้จากบัตรผ่านประตู = รายได้จากอาชีพหลัก เงินที่ได้จากของที่ระลึก = รายได้จากอาชีพเสริม แล้วมองย้อนกลับไปดูทีมในไทยลีกแต่ละทีมสิ ว่าตอนนี้คุณยังเป็นนักเรียนอยู่ หรือพร้อมที่จะเป็นอาชีพแล้วหรือยัง จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 08:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คห. 1 ครับ รอผมบรรยาย ให้หมดก่อนอีกแป๊บนึงครับ แล้วค่อยมา discuss กัน จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 08:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขออภัยนะครับ คือผมไม่ใช่สไตล์ ท่านแดฯ ที่บรรยายแล้วมีภาพประกอบ คือผมมันพวกต้องบรรยาย แล้วให้นึกเอาเอง มาต่อ... ถ้าถามคุณว่า ค่าบัตรผ่านประตูมันเก็บมาจากไหน คุณก็ต้องตอบว่า มันเก็บมาจากแฟนบอลสิ ถูกต้องครับ อย่างนี้ทีมที่คนดูเยอะแยะในไทยลีก อย่างชลบุรี สมุทรสงคราม นครปฐม การไฟฟ้า (ยุดยา) คนดูเป็นหลักพัน ต้องเก็บเงินจากค่าบัตรผ่านประตูได้เป็นกอบเป็นกำสิ.... ถ้าเป็นฟุตบอลลีกที่อื่นอาจใช่ แต่ในไทยผมไม่แน่ใจ จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 08:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บางคนอาจคิดว่าวันนี้ไอ้ nongden มาเกรียน แต่ผมคิดว่าผมมาแสดงทรรศนะครับ เพราะไม่อยากให้การมองแบบภาพลวงตา มาทำร้ายเรา จนกว่าจะหาทางสว่างเจอ เราก็ม้วยแล้ว อีกอย่างวันนี้ผมว่าง เลยมาเตรียมรับคำติเดียนทางความคิดอย่างเต็มที่ มาต่อ.... ถ้าเป็นฝืมือของนักเตะผมคงไม่เถียงว่า ไทยไม่เป็นรองใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องการจัดการ สิทธิประโยชน์ และการหารายได้หละ ทำกันได้ดีแค่ไหน (กระทู้นี้ของผมอยู่ในวงจำกัดแค่ อาชีพ กับ รายได้) ชลบุรีบอกว่ามีคนดูแต่ละนัดในบ้าน 5-8 พันคน ไฟฟ้า 5 พันคน แม่กลอง 3-5 พันคน ถ้าเอาตัวเลขมาคูณด้วยค่าบัตร เอาสัก 40 บาท ชลบุรีต้องไปสัก 2-3 แสนบาทต่อนัด ไฟฟ้า 2 แสน แม่กลอง 1 - 2 แสน แล้วผมขอถามกลับมาว่า ทั้ง 3  ทีมเก็บได้ตามนั้นจริงหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 08:37:00 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 08:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมรออ่านอยู่ครับ จากคุณ : picassoinhell - [ 6 ก.พ. 52 08:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปูเสื่อรอ พร้อมป๊อบคอร์น จากคุณ : ชิ[a]ม่อน - [ 6 ก.พ. 52 08:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไทยลีก ไม่ใช่ มาม่า ต้มยำกุ้งนะคับเพ่ ที่จะเติมน้ำแล้ว แดรกไดเลย มีหลายผ่าน หลายทีมที่มีฟามพยายามที่จะให้คนไทยดูบอลในสนามแทน จอแก้วแทน บางทีมก็มาถูกทาง บางทีมก็หลงงมโข่ง บางทีมก็มีเงินสร้าง แต่ก้ยังเห็นความพยายามของพวกเขาที่ลงมือทำคับ   ดีกว่ามานั่งถกกัน แค่ในกระดาษ ถึงแม้ว่าจะยาก(เพราะนิสัยคน    แล้วมักจะสนุกกับงานผ้าป่า ทอดกฐินซะมากกว่า) จากคุณ : คิงส์ เควิน - [ 6 ก.พ. 52 08:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทั้ง 3 ทีมผมคิดว่า ชลบุรีคงเก็บค่าบัตรผ่านประตูได้ใกล้เคียงจำนวนคนดูมากที่สุด แต่แฟนไฟฟ้าครับ คุณอาจจะว่าผมก็ได้ แต่ผมคิดว่าทีมไฟฟ้าคงเก็บได้ไม่เยอะหรอก ผมเคยได้ยินว่า (พอดีผมไม่เคยได้ไปดูไฟฟ้าที่อยุธยาเลยจริงๆ ) ฤดูที่ผ่านมาเขาจะไม่เก็บเงินจากแฟนๆที่ใส่เสื่อเชียร์ไฟฟ้า อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ แฟนไฟฟ้าช่วยมายืนยันหน่อย ขณะที่ปีนี้ก็มีข่าวอีกว่ายังตกลงกันไม่ได้ว่า การไฟฟ้า หรือ อบจ. อยุธยา ใครจะเป็นคนเก็บค่าผ่านประตู มาถึงแม่กลอง ทีมนี้แฟนบอลเยอะมากเหมือนกัน แต่ทีมนี้ออกมาบอกทุกปีว่าไม่มีงบในการทำทีม ปีที่แล้วได้สัก 8 ล้าน ปีนี้เหลือแค่ 5 ล้าน แค่ค่าตัวนักบอลก็หมดแล้ว ที่พอจะหวังพึ่งได้คือเงินจากบัตรผ่านประตู แต่...ถ้าคิดย้อนกลับไปปีที่แล้ว แม่กลองเล่นในบ้าน 15 นัด ถ้าเก็บค่าบัตรได้เต็มที่ตีซะนัดละแสน หมดลีกคงได้สัก 1.5 ล้าน ก็ถือว่าเป็นเงินไม่ใช่น้อย กองเชียร์แม่กลองมาบอกหน่อยสิว่า ปีที่แล้วได้เงินจากค่าบัตรมาเท่าไหร่ ลองมาชิมลางการเก็บค่าบัตรจากการแข่งควีนส์คัพกัน จากเว็บบอร์ดบอลไทยอีกแห่งหนึ่ง http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=40691.msg474666;topicseen#new พัทยาคนดู 2000 แต่เก็บเงินค่าบัตรได้แค่ 50% ขณะที่ทีมปลาทูคะนอง คนดู 3000 แต่เก็บได้แค่ 570 คน!! แล้วคุณคิดว่าทีมดีๆ อย่างแม่กลองจะอยู่รอดได้สักกี่ปี สปอนเซอร์ก็หายาก แถมเงินที่ได้จากคนดูจริงมีแค่ 30กว่าเปอร์เซนต์เท่านั้น อันนี้ผมไม่รู้ว่าคนดูไม่จ่ายหรือเงินมันหายไปกลางทางนะ จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 08:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห. 8 นั่นแหละครับ คือประเด็นที่ผมอยากมานำเสนอในเว็บบอร์ด แต่อาจเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น แค่ผมอยากให้คนอื่นลองอ่านความคิดในมุมของผมดู ผมคิดว่ามันแก้ไม่ได้ใน 1-2 เดือน หรอกครับปัญหาเหล่านี้ แต่ก็อยากให้รีบหันมามองกันได้แล้ว อย่างท่านแดฯ อาจมองว่าที่ปลาทูขาดสปอนเซอร์ เนื่องจากนักเตะดีๆ อย่างคนึง ไม่ถูกเรียกติดทีมชาติ อันนั้นผมก็เห็นด้วย แต่ปัญหาคือ ถ้าคนึงติดทีมชาติ แล้วคนดูเยอะขึ้นจริง แต่ถ้าคนดูยังจ้องแต่ดูฟรี หรือ คนดูจ่ายเงิน แต่เงินหายไปไหนไม่รู้ พอคนึงฟอร์มตกหลุดทีมชาติแล้วทำไงครับ สปอนเซอร์หาย แล้วจะหาเงินจากที่ไหน คนทำทีมก้อต้องมานั่งปวดหัวเหมือนเดิม ในปีนี้ไทยลีกจะต้องมีความเป็นอาชีพตามกฎ AFC แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นด้วย คือการแสดงงบหรือบัญชีของแต่ละสโมสร ในส่วนของรายได้และเงินทุนผมอยากให้แสดงออกมาชัดเจนเลยว่า มันมาจากแหล่งไหนบ้าง มาจากองค์กร บริษัท หรือจาก รายได้ที่เป็นค่าบัตรหรือของที่ระลึก ข้อมูลเหล่านี้มันจะทำให้รู้ถึงปัญหา และการเตรียมตัวแก้ไขในอนาคตครับ ในความคิดผมนะ ถ้าเงินส่วนใหญ่มาจากองค์กร แล้วถ้าองค์กรมีปัญหา หรือเปลี่ยนผู้ใหญ่แล้วไม่สนับสนุน พอเห็นว่าทีมฟุตบอลมันเป็นนิติบุคคลนี่หว่า ลงทุนไปกับมันตั้ง 20 ล้าน ไหนๆมันก็แยกตัวไปแล้ว ให้มันไปหาเงินเองละกัน ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จะทำยังไง ในส่วนของสปอนเซอร์ที่เป็นแหล่งเงินทุนหลักของหลายทีมเช่นกัน ถ้าวันดีคืนดีบริษัทที่คาดหน้าอกเกิดเจ๊งขึ้นมาหละ หรือเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจขึ้นมาหละจะทำไงดี แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 10:17:07 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 09:19:53 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 09:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาปูเสื่อรอดู  คห อื่น ที่จะมาด่า มาแย้ง รอ ท่าน จขกท เล่ามาให้จบก่อน ค่อย ตัดสินใจ ว่าเกรียนไม่เกรียน ล่อเป้าไม่ล่อเป้า เงื้อไว้ก่อน ปล่อยออกมาแล้ว  จขกท ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่าน ด่า มา ท่านจะเป็นอย่างที่ท่านด่าเขาไปเสียเองนะครับ จากคุณ : Wastrel - [ 6 ก.พ. 52 09:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจำนวนการเก็บค่าบัตรผ่านประตูที่คุณ nongden พูดถึง เป็นตัวเลขจริงๆ ผมว่า แฟนบอลของทีมนั้นๆ ก็คงต้องนึกถึงทีมด้วยแล้วล่ะครับผม จ้องแต่จะดูฟรีกัน ทีมจะเอาอะไรกินเนี่ย แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้น มันมีอีกหลายๆ ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องอีกแหละครับผม แค่เสื้อสวย - เสื้อเชยก็เกี่ยวข้องแล้วนะผมว่า จากคุณ : Bz in Red - [ 6 ก.พ. 52 09:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ประเด็นของแกแยบยลน่ะ ลองฟังของแกก่อนซิครับ ผมตามอ่านอยู่อย่างสนใจมากๆ จากคุณ : danielle - [ 6 ก.พ. 52 09:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นั่งอ่านอยู่นะครับ จากคุณ : Kisugi - [ 6 ก.พ. 52 09:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นั่งอ่านแล้วก็มีข้อที่เห็นด้วยและเห็นแย้ง เรื่องการเก็บเงินได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่คนเข้าดูไม่จ่ายค่าเข้าชม หรือว่าเงินรั่วไหลเพราะเหตุ corruption ก็ตาม ผมเห็นด้วยที่ว่ามันคือปัญหาที่ต้องหาทางแก้ แต่เรื่องหาแก้ที่อยากให้มีการแสดงบัญชีให้ทราบโดยทั่ว อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะผมเข้าใจว่า สโมสรถูกผลักดันให้เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากต้นสังกัด จึงถือว่าเหมือนเป็นบริษัทหนึ่งๆ ที่ต้องทำกำไรเอง การแสดงงบการเงินให้คนทั่วไปเห็น อันนี้ผมมองว่าอาจเป็นเรื่องความลับของสโมสรเอง เหมือนสโมสรในอังกฤษเค้าไม่โชว์รายรับรายจ่ายให้ใครๆ เห็นทั่วไป ดังนั้น มันจึงอาจไม่ถูกนักที่จะบังคับให้นิติบุคคลต้องแสดงเงินได้ให้ประชาชนทั่วไปเห็น ถ้าเป็นนิติบุคคลมหาชน อันนั้นอีกเรื่อง ผมก็ยังไม่มีข้อเสนอให้ชัดนักกับเรื่องนี้ เพราะว่า คงต้องเป็นหน้าที่ของสโมสรเองที่ต้องอยู่รอดด้วยการแก้ไขปัญหาของแต่ละสโสมร ถ้าเก็บเงินได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็จะอยู่ไม่ได้ ก็ต้องยุบไป เขาก็ต้องแก้ไขปัญหาเองให้ได้ ไม่งั้นก็จะไม่ทำให้เป็นอาชีพได้เต็มตัว ส่วนทางออก ที่มองก็คือว่า หากให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลมหาชน มีขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป ด้วย ก็คงดี เพราะจะได้มีส่วนร่วมในสโมสรได้เต็มที่ และแสดงผลประกอบการให้ผู้ถือหุ้นได้ดูด้วย รอความเห็นท่านอื่นแล้วกันคับ แหะๆ ปล. แก้ไขคำผิดคับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 09:30:33 จากคุณ : ชิ[a]ม่อน - [ 6 ก.พ. 52 09:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าองกรณ์ที่ดูแลจัดการเรื่องลีกมานั่งถกปัญหาแบบนี้บ้างแล้วเอาปัญหามาแก้ไข เราจะใด้แนวทางพัฒนามากมายเลยอยางที่ จขกท พูดถูกแล้วครับ มันบูมจริงแต่ดูท่า จะบอบบางแต่ละทีมต้องเข้าหามวลชลมากกว่านี้ประชาสัมพันธตัวเองมากกว่านี้เข้า สู่อาชีพเต็มตัวแล้วหาเงินจากใหน ทำยังไงให้คนมาดูบอลมากๆใด้เงินมาแล้วบริหารจัดการ อย่างไร พัฒนาสนามและสิ่งอำนวยความสดวกสำหรับแฟนบอลอย่างไรให้ดึงดูดเค้า ให้กลับมาอีกอย่างนี้เป็นต้น ผมว่านี้คือเบสิคจริงๆที่ทุกสโมสรต้องทำเลยนะ จากคุณ : akejar1 - [ 6 ก.พ. 52 09:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่อยากจะพูดเรื่องแม่กลอง แต่ขอแจมหน่อย ผมไม่รู้ครับว่าแม่กลองเก็บค่าบัตรได้เท่าไร แต่ปีที่แล้วแว่วๆว่า คำนวนงบไว้ 6 ล้าน ต่อให้เก็บได้ครบก็ไม่พอครับ ปีนี้คงเพิ่ม แม่กลองมีเงินมาเพิ่มอีกทางหนึ่งจาก เงินที่องค์กรปกครองท้องถิ่นลงขันกันให้ครับ 5 เทศบาล(เมือง อัมพวา กระดังงา บางนกแขวก เหมืองใหม่)+1อบจ. ถามว่าได้เยอะไหม ที่ผมทราบพอสมควรแต่ไม่เยอะเลยครับ อันนี้พูดตรงๆจะตำหนิก็ลำบาก ในจังหวัดอย่างแม่กลอง แต่ละเทศบาลมีงบการกีฬาค่อนข้างน้อย เพราะเทศบาลเล็กๆ แถมจังหวัดมาขออีตอนกลางปีงบประมาณ พูดง่ายๆเขาไม่ได้เตรียมงบไว้ให้ อยากจะตำหนิอย่างเดียว ถ้าเป็นจริงอย่างที่ผมทราบข่าวมา(ผมวงไม่ในมาก) เทศบาลเจ้าของพื้นที่คุณออกน้อยกว่าคนอื่นได้ยังไง ทั้งที่คุณมีภาษีในมือมากที่สุด ทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ ก็อย่างว่าแหละครับเมืองไทย อีตอนทีมไม่มีคนรู้จัก ก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ พอดังขึ้นมาหน่อย มะรุมมะตุ้มกันจังเลย จริงๆอย่าดูถูกครับ ถ้าเตรียมกันให้ดีๆ คุยกันดีๆ วางแผนเอาไว้ เทศบาลละ 0.5-1 ล้านพอไหวครับ  ถึงจะเล็กแต่งบคุณเกือบร้อยล้าน แหมแชร์มาบ้างจะเป็นไรเงินค่าตั๋วค่าเสื้อเอาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ ทำการตลาดเพิ่มก็ได้ ทำกิจกรรม ขยายจากอำเภอเมืองไปที่อื่นเพิ่มขึ้น แฟนบอลเยอะๆ ต่อไปทีมจะได้อยู่ได้ด้วยตัวเอง แถม เรื่องติดไฟสนามที่แม่กลอง ทีมไม่มีสิทธิ์ติดนะครับที่ผมทราบ เพราะสนามเป็นของ อบจ. ตอนนี้การเมืองในอบจ.ก็ยังไม่นิ่งดี ผมตอบอาจจะมั่วๆไปหน่อย เพราะมันหลายเรื่อง จากคุณ : Tyranny - [ 6 ก.พ. 52 09:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมอาจจะเป็นพวกมองในแง่ร้าย แต่ด้วยความที่อยากให้มันเป็นอาชีพได้จริงๆ ก็อยากให้มันหลุดออกจากระบบแบบเดิมๆ ให้ได้ ถ้ามองว่าเราเป็นคนค้าขาย พ่อแม่ (องค์กรต้นสังกัด) สร้างในเราเกิดแถมส่งเสียเราในวัยเยาว์ แต่สุดท้ายท่านก็ต้องมีวันจากเราไป สถานศึกษาหรือหน่วยงานต่างๆ (สปอนเซอร์) แม้จะให้เงินเราเรียนจนจบ แต่หลังจากจบแล้วเขาก็ไม่ให้เงินเราแล้ว แถมบางที่ยังให้เราใช้หนี้เงินทุนคืนอีกต่างหาก พอจบมาเรากลับมาค้าขายเอง หรือสานต่อกิจการพ่อแม่ก็ตาม สิ่งที่เราต้องสร้างและรักษาคือลูกค้า (แฟนบอล) เราก็ต้องดึงดูดด้วยรสชาดหรือบริการ (ฝีมือของทีม) แต่ถ้าสินค้าเรามีรสชาดหรือบริการค่อนข้างดี มีคนมากินเยอะพอควร แต่กินแล้วชักดาบ หรือบางคนก็จ่ายบางคนก็หนี บางทีทุกคนจ่ายแต่ลูกจ้างดันยักยอก แทนที่กิจการจะขยาย แต่กลับค่อยๆ หดตัวลง สุดท้ายถ้าร้านไม่ปิดตัวลง ก็คงขายเพื่ออยู่ไปวันๆ (มองในแง่ร้ายจริงๆ เรา) จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 09:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าจะว่ากันเรื่อง  ค่าบัตรผ่านประตู ที่ไม่มีอภิสิท.......... ก็คงจะมีเเต่ ฉลามชล ทีมเดียว ที่เก็บได้น้ำได้เนื้อสุด ๆ คนไทยชอบดูบอลฟรีเป็นนิสัย เเละชอบนอนดูอยู่บ้าน รอดูถ่ายทอดสด มันเป็นวัฒนธรรมยัดใส้ ของสือบางจำพวก เเละสมาคมเราก็มีวิศัยทัศน์ คือ การนอนให้หนอนเเดรกไปวัน ๆ 555+ จากคุณ : ยักษ์ท่าเตียน - [ 6 ก.พ. 52 09:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมพอจะเข้าใจครับ ว่าตอนนี้ยังไม่เป็นอาชีพเต็มตัว แต่ถ้า คุณ : nongden  ดูตั้งแต่ ไทยลีก 1 จะเห็นได้ว่ามันมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก สมัยที่ยังไม่มีทีมจังหวัดเข้ามา ไทยลีกแทบจะไร้คนดู เงียบเชียบ แต่นับตั้งแต่ ทีมจังหวัดเข้ามา พร้อมกับต้นแบบอย่างชลบุรี ไทยลีกกำลังเดินก้าวไปข้างหน้า แม้ลีกไทยจะไม่สามารถเดินได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังพอมองเห็นแสงสว่างแล้ว จะเป็นอาชีพเต็มตัว ก็ต้องรออีกหลายปีเลยครับ แต่ผมว่าอีกไม่นานหรอก เพราะตอนนี้ นักเตะ รายได้เริ่มจะดี 30000-70000 นี่น่าจะมีแทบทุกทีมแล้ว  ยิ่งกระแสไทยลีกเริ่มดี คนมีเงินเริ่มเข้ามาทำทีมกันมากขึ้น อดทนแล้วรออีกนิดครับ แล้วอย่าลืมช่วยกันไปอุดหนุนไทยลีกแล้วกันนะครับ ลีกอังกฤษเอง กว่าจะเป็นอาชีพเต็มตัว ก็เป็นลีกสมัครเล่น 10 กว่าปี ทีมในลีกเองก่อนจะเป็นทีมอาชีพ ก็เป็นสมัครเล่นมานาน สุดท้ายกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ไทยลีกแบบอาชีพเต็มตัว ก็ต้องใช้เวลาครับ จากคุณ : กังหันฟ้าขาว - [ 6 ก.พ. 52 09:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มารอ่านต่อ จากคุณ : juapung - [ 6 ก.พ. 52 09:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ประเด็นของแกแยบยลน่ะ ลองฟังของแกก่อนซิครับ ผมตามอ่านอยู่อย่างสนใจมากๆ จากคุณ : danielle .............................................................................................. ท่านแดฯ ครับ ผมไม่แยบยลอะไรหรอก ส่วนหนึ่วอาจเป็นเพราะผมเป็นพวกเรียนเศรษฐศาสร์แบบกลวงๆ เลยมองว่า เมื่อทีมฟุตบอลเป็น supply เสนอขายสินค้าแล้ว คนดูหรือ demand ของแต่ละทีมจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพของ supply แต่ถ้าคนดูจะเรือกดูทีมไหนแล้วคุณก็ควรจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่คุณต้องการมัน ทีมฟุตบอลอาชีพต้องได้รับผลตอบแทนหรือรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตามคุณภาพที่ทีมมี (วัดจากจำนวนคนดู) ทีมฟุตบอลอาชีพไม่ใช่สินค้าสาธารณะ (public goods) จะมีแต่คนดูฟรี (free rider) หรือต้องเสียไปเพราะการคอรัปชั่น ถ้าจะสำเร็จทุกคนต้องได้ในสิ่งที่พึงได้ และต้องเสียในสิ่งที่พึงเสียครับ ทีมฟุตบอลหลายทีมที่กองเชียร์เยอะอยู่แล้วควรจะเริ่มมองวิธีการเปลี่ยน phase จากการสร้างฐานแฟนบอล เป็น phase การสร้างรายได้จากแฟนบอลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้แล้ว เพราะถ้าไม่สามารถสร้างแรงผลักให้เดินต่อไปได้ อาจจะเจอแรงต้านให้ถอยหลังกลับไปเหมือนเดิม บางคนบอกว่าลีกอาชีพเราเพิ่งจะเริ่มต้น แต่ถ้าเราไม่วางแผนไว้ เราอาจจะเดินวนอยู่กับที่ ตอนแรกว่าจะเขียนต่อ แต่กลัวสับสนในความคิดของตัวเองครับ เอาละครับคราวนี้ผมพร้อมจะรับคำตำหนิ หรือข้อคิดเห็นต่างๆ แล้วครับ แล้วบางความคิดเห็นผมตอบกลับบ้าง อย่าถือสานะครับ มา discuss กัน มันคงไม่มีใครผิดใครถูกไปซะหมด แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 11:18:55 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 10:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราจะเห็นได้จาก เวลาทีมชาติไทยมีเตะ จะมีเสียงบ่นระงม " บัตรเเพงจังว่ะ  โห้ยตั้ง 200 นะเนี้ย โคตรเเพง " ทีเวลาไปดูหนัง กินเหล้า เเดรกเบียร์ เลี้ยงนารี เเพงกว่านี้ ไอ้คนที่บ่น มันยังหาว่าถูกกว่าดูบอลไทย นั้นล่ะมันเป็นสันดาร ที่เเทรกลึกลงในกรวงสมองส่วนใหญ่ ของคนไทย เพราะว่าการดูบอลมันยังไม่ใช้วัฒนธรรม มันยังเป็นเเค่ส่วนเล็กน้อยในช่วงชีวิต ไม่เหมือนกับต่างชาติ ที่มันซึมซับเข้าไปในสายเลือด วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ครอบครัวในท้องถิ่น ที่มีทีมฟุตบอล จะพากันไปดูบอลกันอย่างสนุกสนาน (  ดูบอลเวียดนาม หรือว่า บอลอินโด เป็นตัวอย่างประกอบ ) พวกเค้าซื้อตั๋ว สนับสนุนทีม ซื้อของสโมสร กันอย่างเพลิดเพลิน เพื่อช่วยเหลือสโมสรที่รักสุดใจ เเต่คนไทย ส่วนใหญ่ของประเทศ วันหยุดเสาร์อาทิตย์  ก็จะไปเดินห้าง ไปดูหนัง ไปทำอะไรก็เเล้วเเต่ ที่มันเเทบไม่มีฟุตบอลเกี่ยวข้องเลย เพราะว่า มันยังไม่เป็นวัฒธรรม ขนานเเท้  มันยังไม่ใช่ในตอนนี้ !! จากคุณ : ยักษ์ท่าเตียน - [ 6 ก.พ. 52 10:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับเรื่องการจัดการภายในสโมสรแบบมืออาชีพที่ต้องมีได้แล้วถ้าอยากจะเกิดจริงๆ เพราะถ้าไม่ทำตอนนี้กระแสลีกเกิดดร็อปไปอีกที่นี้ สปอนเซอร์ก็จะยิ่งหดไปสโมสรที่ไม่ใช่สโมสรดังๆก็คงแย่แน่ๆ ละก็คงต้องกลับไปสู่วังวนเดิมๆอีก ป.ล. ผมคิดเหมือน จขกท เรื่อง corruption ในองค์การควรอย่าให้เกิดขึ้นครับ จากคุณ : เตียวกงจื้อ - [ 6 ก.พ. 52 10:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สิ่งที่ทำในตอนนี้ได้ คือ พวกเราทุกคนในที่นี้ ก็ต้องไปดูบอลไทย กันเข้าไป ดูให้ตายกันไปเลย ใครอยู่ใกล้ทีมไหน สโมสรใด เล่นห่วยเเตก อย่างไง ก็ขอให้เข้าไปดูในสนาม จูงลูก หอบ หลาน ควงเมียน้อย เมียหลวงไปดูกันให้หมด ลากเพื่อนมาให้ได้ เเม้มันไม่สนใจก็ตาม อย่างน้อยให้ พวกมันได้ซึมซับเข้าไปทีละน้อยก็ยังดี... ที่เหลือ ก็เเล้วเเต่เวรกรรมที่ท่าน นายกสมาคม ได้ก่อไว้ เพราะนี้คือ การทำหน้าที่ของเเฟนฟุตบอลที่ดีที่สุด เท่าที่จะทำให้ได้ ว่าเเต่ ท่านนายกสมาคม ท่านทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเเค่เนี้ย หรอ ..? แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 10:18:40 จากคุณ : ยักษ์ท่าเตียน - [ 6 ก.พ. 52 10:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รอดหรือไม่...ก็ต้องเดินหน้าต่อไปล่ะครับ ทุกอย่างต้องพัฒนา Software  ยังเขียนให้ดีที่สุดไม่ได้  ในเวอร์ชั่นเดียวเลย จากคุณ : ฟัลเกา - [ 6 ก.พ. 52 10:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #20 ผมดูมาตั้งแต่ จอห์นนี่วอร์กเกอร์เหมือนกันนะ เห็นด้วยครับที่ไทยลีกพัฒนามาเรื่อยๆ และก็ยินดีที่ค่าตัวนักเตะไทยลีกเพิ่มขึ้นมามาก แต่ที่ผมคิดคือ อยากให้มีความสมดุลย์ระหว่างรายรับกับรายจ่ายครับ ทีมที่มีค่าตัวนักเตะมาก ก็สมควรที่จะหาเงินจากค่าบัตรได้มากด้วย เพราะผมกลัวว่าจะเกิดปัญหาทีมล้มละลายก่อนที่ไทยลีกจะเป็นอาชีพเต็มตัวหนะครับ คือผมอยากให้ทีมเพิ่มแฟนบอลทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพไปพร้อมกันครับ อาจต้องสร้างแรงจูงใจและจิตสำนึกของคนดูไปด้วย ค่อยๆ ทำก็ได้ครับ แต่อยากให้เริ่ม ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ อาจแก้นิสัยดูฟรีไม่ได้อย่างถาวร ที่ผมตั้งกระทู้นี้เพื่อต้องการให้คนมาดูไทยลีก นั้นไม่ใช่แค่สนับสนุนเฉพาะไปดูอย่างเดียว แต่สนับสนุนตัวเงินด้วย แล้วเวลาพาเพื่อนไป ก็ช่วยบอกกันด้วยว่า เอ็งอย่ากระโดนข้ามรั้วเข้าไปนะเว้ย (สนามรั้วมันเตี้ยเหลือเกิน) ช่วยๆ สนับสนุน ให้เงินเขาทำทีมหน่อย ผมละเซ็งเวลาได้ยินว่า จะไปเสียเงินทำไมว่ะ โดดเข้าฟรีก็ได้ กลายเป็นคนซื้อบัตรโง่ คนเข้าฟรีฉลาดซะงั้น แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 10:29:05 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 10:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 บางคนเป็นญาติคนคนเก็บตั๋วก็เข้าฟรีได้ บางคนยอมมาดูครึ่งหลัง เพราะเข้าฟรีได้ เฮ้ยยยย นี่มันบัตรใบละ 50 บาทเองนะเว้ย เฮ้ยยยยยยยย จากคุณ : หมีหน้าหมู - [ 6 ก.พ. 52 10:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วิเคราะห์ได้ดีครับ เอาล่ะ ทีนี้ทุกคนต้องมาช่วยกัน ผลักดันไทยลีกให้ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ......เงิน......คือทุกสิ่งจริงๆ จากคุณ : Dangda_Is God (Zero_C) - [ 6 ก.พ. 52 10:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อนาคตอาจจะต้องนำระบบของ NFL มาใช้ครับ จำกัดค่้าเหนื่อยของแต่ละทีม ไม่ให้เกินเพดาน เพื่อให้ทีมช่วยอยู่รอด และช่วยให้แต่ละทีมมีมาตรฐานไม่ต่างกันมากจนเกินไป จากคุณ : +Carbocat+ - [ 6 ก.พ. 52 10:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้ดีครับ... จากคุณ : ThaiKickOff_WM (สุมาโจจี้) - [ 6 ก.พ. 52 10:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดดีครับ ผมขอเสริมนิดนึงครับ การจัดให้ดีทางสมาคมฯต้องมีส่วนร่วมมากๆด้วย อย่างที่เห็นบ่นกันมากก็ตารางการแข่งแต่ละปีที่น่าจะปรับปรุง บ้านเราฝนตกชุก สนามต่างจังหวัดทุกแห่งไม่มีระบบระบายน้ำที่ดีฝนตกทีบอลก็ไม่สนุกทั้งคนเล่นคนดู เห็นปิดฤดูกาลทีก็หลายเดือน ถ้าเลี่ยงหน้าฝนได้ก็น่าจะดี สนามดีบอลเล่นสนุกคนก็ไปดูสบาย ส่วนหน้าร้อนก็ไม่น่ามีปัญหาถ้ามีไฟสนาม อาจเลื่อนเวลาจัดไปช่วงเย็นอีกนิด ซึ่งงบประมาณติดตั้งระบบไฟอาจกู้เงินสมาคมมาใช้ก่อน โดยเอางบที่ตั้งไว้ดูงานต่างประเทศมาใช้ เพราะเห็นไปดูงานทุกปีถ้างดสักปีเอาเงินมาช่วยพัฒนาสนามตามต่างจังหวัดน่าดีกว่า จากคุณ : pisake - [ 6 ก.พ. 52 10:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ผมได้มีโอกาสพูดกับบุคคลในวงการฟุตบอลไทยในหลายระดับ และได้เสนอไอเดียวิธีทำฟุตบอลไทยให้เป็นอาชีพที่แท้จริงครับ และผมกล้าพูดได้เลยว่าถ้าไม่ทำในทางที่ผมเสนอ ลีกอาชีพเราไม่มีทางโตครับ เป็นได้แค่เด็ก แคระเกร็น ผมเคยพูดในที่นี้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ขออนุญาตนำเสนออีกครั้งนะครับ แต่ทว่าจะไม่สำเร็จได้เลยถ้าองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่นำไปปฏิบัติ ขอเริ่มตรงนี้ก่อนนะครับ 1.  งบประมาณที่ใช้ในการบริหารทีมในไทยลีก/ปี ประมาณเท่าไรครับ 10 ล้าน หรือ 20 ล้านบาท/ปี เอาละผมให้งบประมาณ ของปีที่แล้วที่เขาใช้กันมาแล้วคือโดยเฉลี่ยประมาณ 12 ล้านบาท/ปี หรือ 1 ล้าน/เดือน 2. แล้วรายได้หละ จะได้เท่าไร/10 เดือน (ฤดูการแข่งขัน) ก. ค่าตั๋ว จะเก็บได้เท่าไหร่ครับ/เดือน สมมุตินะครับว่า ทีมนึงแข่งในบ้าน 2 ครั้ง/เดือน มีคนดูแต่ละเกมกี่คน ค่าตั๋วที่เก็บตอนนี้คนละ 50 บาท  สมมุติ อีกนะครับว่า 5,000 คน/เกม x 50 บาท = 250,000 บาท x 2 = 500,000 บาท/เดือน ยังขาดอีก 500,000 บาท แล้วจะหาจากไหนดีเอ่ย ข. ขายเสื้อตัวละ 450 บาท กำไรตัวละ 250 บาท (หักต้นทุนแล้ว) สมมุติ ขายได้ 5,000 ตัว/ฤดูกาล = 1,250,000 บาท ก็เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายได้ 1 เดือน กับอีกนิดสสสส ค. ขายอาหารในระหว่างการแข่งขันอีก จะได้เท่าไรดี ง.  สปอนเซอร์หละ เท่าไหร่ดีครับ 1 ล้าน 2 ล้าน ฯลฯ เห็นตัวเลขหรือยังครับว่า มันไม่พอที่จะเลี้ยงทีมให้ครบฤดูกาลนึงได้เลย เอาหละแล้วเรามาดูกันว่าจะหาเงินยังไง และที่อื่นเขาทำกันยังไง เคยได้มีโอกาสคุยกับผู้บริหารทีมใน Premier League อังกฤษ ปรากฏว่ารายได้ทั้งหมดของเขามาจาก ก/ข/ค/ง + เงินที่ได้จากการถ่ายทอดสด และครึ่งนึงของรายได้ทั้งหมดของแต่ละทีมใน Premier League มาจากส่วนแบ่งของ Barclay Prremier League ที่ได้มาจากการถ่ายทอดสดครับ แต่บ้านเราไม่มีครับ ถ่ายทอดสดที่ UBC แบบเสียมิได้  (ยกตัวอย่างเช่นทีมนึงมีรายได้ทั้งหมด 80 ล้านปอนด์ 40 ล้านมาจาก Barclay Prremie League ) วิธีแก้ครับ สมาคมฟุตบอลฯ และองค์กรที่จัดการแข่งขันต้องไม่หน้าบางครับ  ต้องช่วยครับ  ออกไปพูดคุยกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศ ซัก 20 บริษัท ขอสปอนเซอร์จากเขา 20 ล./บริษัท ก็ = ได้มา 400 ล. บาทแล้ว แล้วก็ให้มีการถ่ายทอดสดทุกคู่ทุกอาทิตย์ครับ โดยแยกการแข่งขันออกเป็นดังนี้ วันเสาร์ 3 คู่ 4 โมง เย็น 1 คู่ 6 โมงเย็น 1 คู่ 20.15 น อีก 1 คู่ วันอาทิตย์ อีก 3 คู่ เวลาเดียวกับ วันเสาร์ และอาจจะมีวันศุกร์/พุทธอีก 1 คู่ ก็ครบ 16 ทีม ผมเชื่อว่าเมื่อมีการถ่ายทอดสด ทุกอาทิตย์ เหล่าสปอนเซอร์ทั้งหลายได้เห็นสินค้าเขาออกทีวีประจำย่อมที่จะพอใจกับเงินที่จ่ายไป แต่ทุกวันนี้คำถามอันนี้ยังไม่มีใครตีโจทย์แตกเลย แล้วทางฝ่ายจัดการก็ให้เงินสนับสนุนแต่ละทีมไปเลยทีมละ 8 ล้านบาท ไม่รวมเงินรางวัลสิ้นฤดูการอีกต่างหาก ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 4 ล้านบาท ผมก็เชื่อว่าน่าจะหาเองใด้ไม่ยากนัก เอ้าแล้วบางคนก็จะถามว่า (ซึ่งผมได้ยินบ่อยมาก) ต้องให้มีแฟนคลับ ต้องมีคนดูที่สนามเยอะๆก่อน ผมว่าตรงนี้ มันจะตามมาทีหลัง การเล่นให้สนุก มีการจัดการอย่างมีออาชีพ ในทุกระดับ ดังนั้นการแข่งขันที่ดี/เร้าใจ คนดูที่สนามก็จะตามมาเอง ประเด็นคือ ต้องให้เป็นอาชีพ และนักกีฬาสามารถที่จะดำรงชีวิตอย่างมีศักด์ศรีจากการเป็นนักกีฬาอาชีพ แล้วสิ่งที่พวกเรารอคอยในการไปฟุตบอลโลกย่อมไม่ไกลเกินฝันครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 10:24:27 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 10:21:59 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 21:38:52 จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 10:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ย้อนกลับไปถึง คห 1 ครับ ดูจากชื่อ ผมคิดว่าคุณคงเป็นแฟน ราชนาวี ผมมีข้อสงสัยบางประการเลยอยากถามครับ ถ้าคุณย้อนกลับมาอ่านช่วยตอบหน่อยครับ (อันนี้ไม่ได้กวนนะ แต่อยากทราบความเคลื่อนไหวจริงๆ) ระหว่างราชนาวี กับ ระยอง ตอนนี้ลงตัวหรือยังครับ แล้วข่าวที่ว่าแข่งที่ระยองครึ่งแรก แข่งที่สัตหีบครึ่งหลังนี่จริงหรือเปล่าครับ แล้วแฟนที่ระยองตอบรับดีไหม แล้วมีข้อสรุปหรือยังครับว่า ระยองหรือราชนาวีใครเป็นคนดูแลเรื่องบัตรผ่านประตู ถ้าไม่มีปัญหาอะไรผมว่าราชนาวีก็คงมีแนวโน้มที่ดี เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 10:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่าสนใจครับ มุมมองของจขกท. จะว่าไป ก็ไม่ผิดกับที่ผมมองสักเท่าไหร่ ประเด็นของผม ผมยังให้ความเห็นว่า สโมสรฟุตบอลของไทย ณ วันนี้ ยังไปไม่ถึงครับ กับคำว่าสโมสรฟุตบอลอาชีพ แต่หลายสโมสร ชลบุรีของค่ายคุณปลื้มที่ยกขึ้นมานั้น ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่พัฒนาขึ้นไปแล้วอีกระดับหนึ่ง บีอีซี ก็ใช่................แต่ทั้งสองสโมสร ยังคงห่างไกลครับ กับคำว่าฟุตบอลอาชีพ สโมสรเอง ก็ต้องทำงานหนักกันต่อไปครับ ในการจะยกระดับให้เป็นอาชีพอย่างแท้จริง จะตั้งเป้าหมายอย่างไรก็แล้วแต่ สามปีห้าปีสิบปีสิบห้าปี มันยังมีรายละเอียดอีกเยอะมากครับ สำหรับผมแล้ว สโมสรฟุตบอลอาชีพ ไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่มันคือการสร้าง "สถาบัน" ซึ่งองค์ประกอบและคำจำกัดความของสโมสรไทยในปัจจุบัน ยังก้าวไปไม่ถึง เช่นกันครับ สำหรับเรื่องของแฟนฟุตบอลสโมสร บ้านเราก็ยังคงอยู่ในห้วงเวลาของการเริ่มต้น(ส่วนใหญ่) บางสโมสรก้าวหน้าไปบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสโมสรภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ยังอยู่บนเส้นทางอีกยาวไกลครับ กว่าที่จะหลอมรวมความเป็นสถาบันของสโมสรฟุตบอลกับความเหนียวแน่นของแฟนฟุตบอลไทย หลับตานึกภาพนะครับ.................ผมเป็นแฟนบอลอาร์เซนอล เคยได้ไปสัมผัสวัฒนธรรมการดูฟุตบอลอังกฤษของชาวกูนเนอร์ส (จริง ๆก็สัมผัสมาแล้วทั้งเอฟเวอร์โตเนี่ยน , เดอะ ค็อป , เร้ดอาร์มี่) สิ่งที่ได้เห็นคือมันไม่ได้แค่รัก แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทุกวันเสาร์...............อย่างที่เห็นประโยคนี้กันจนชินตา When Saturday Comes.................................... จะต้องเข้าสนามติดตามทีมรัก ทวดอุ้มปู่ ปู่อุ้มพ่อ พ่ออุ้มลูก ลูกอุ้มหลาน เข้าสนามกันตั้งแต่ยังเดินไม่ได้ ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก รุ่นสู่รุ่น..................ถึงวันนี้ อาร์เซนอลก่อตั้งสโมสรมาแล้ว (ตั้งแต่ใช้ชื่อวูลวิช อาร์เซนอล) ร้อยกว่าปี................. จากคุณ : 190อีสีขาว - [ 6 ก.พ. 52 11:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 # 34 ใช่เลยครับ แหล่งรายได้อีกแหล่งหนึ่งที่ผมไม่ได้พูดถึงคือ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทางทีวีครับ ซึ่งมันจะเป็นรายได้ที่แน่นอนต่อปี ที่ผ่านมามีแต่ชลบุรีไปจ้าง NBT 19 แต่จะทำยังไงครับที่จะให้ NBT 19 หรือช่องอื่นๆ เป็นฝ่ายซื้อลิขสิทธิ์ซะเอง เรื่องนี้ต้องคิดหาทางกันดีๆ ครับ เพราะถ้าซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ทีวีบ้านเราคงพร้อม แต่ถ้าจะมาซื้อลิขสิทธิ์ไทยลีก ทีวีบ้านเราคงหัวเราะ แต่...แต่ ก็มีแนวโน้มที่ดีนะครับ เพราะปีนี้ช่อง 3 เข้ามาถ่ายแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเฉพาะ BEC หรือเปล่า ถ้ามีการตอบรับดี ก็อาจมีความเป็นไปได้ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 11:11:24 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 11:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ให้กำลังใจทุกคนครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 11:17:30 จากคุณ : cobaindownload - [ 6 ก.พ. 52 11:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากให้ถ่ายทอดใจจะขาด ละคร น้ำเน่าเอาออกไปบ้างเห๊อะ.... เดี๋ยวก็ตบ เดี๋ยวก็ด่ากัน เปลี่ยนเป็นกีฬาบ้างก็ดี จากคุณ : zeezent - [ 6 ก.พ. 52 11:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องนี้ เป็นประเด็น ที่เขาพูดกันเมื่อ .... 3 ปี ที่แล้ว   ดูเหมือนว่า จขกท  มาช้าไปหน่อย เขาพูดกันตั้งแต่ สมัย โปรลีก บูมกระแส มาแข่งกับไทยลีก   สมัยนั้น ในเวปบอร์ด บอลไทย  มีคนนั่งเอาปากกาจิ้มหัว ผู้ชม ในนราธิวาส ด้วยซ้ำ  ว่ามากันเป็นหมื่นๆ จริงไหม ( จิ้มแล้ว นับได้ประมาณ 3 พัน และก็เก็บค่าตั๋วตามจริงได้เท่านั้น ) และทุกวันนี้  หลายๆ ทีมก็ได้ กำลังแก้ปัญหา  และพยายามที่จะเป็นอาชีพเต็มตัวอยู่ครับ   เพียงแต่มันยังไม่สำเร็จสมใจ    จขกท . มาบอกว่า บอลไทยไม่ใช่บอลอาชีพเต็มตัว   เพื่ออะไรครับ   เพื่อจะบอกว่ามันไปไม่รอดหรอกหรือครับ    อันนี้ผมแย้งเต็มตัว  เพราะเมื่อ3 ปีที่แล้วก็มีคนพูดแบบนี้ ว่าไทยลีกจะต้องยุบ  แต่ทุกวันมันกลับดีขึ้นครับ  ผมว่ามันไปรอด  และจะดีขึ้นเรื่อยๆ  อาจจะไม่เห็นผลภายใน 5 ปี นี้  แต่ของแบบนี้ มันต้องใช้เวลาครับ  รอดู กันยาวๆ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 11:33:32 จากคุณ : Roy E Nem - [ 6 ก.พ. 52 11:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรืองของการถ่ายทอด   อยากจะ  ให้  เป็นแบบ  ว่า  เป็นรายการ สกู๊ปรายการแล้วมีเทป ไฮไลท์เจาะลึกประมาณอย่างนี้มากกว่าเหมือนสมัยก่อนมีรายการ "เจาะสนาม ของช่อง 7 " เราๆ ท่าน ก็ รอชมทุกสัปดาห์กันใช่ไหม รายการมันจะเป็นตัวชูโรง... เพื่อดึงความสนใจ ส่วนถ่ายทอดสด  ควร  เว้นช่วง ไม่ควรบ่อย เพราขนาดบอลต่างประเทศยังมีปัญหาเลย  ผมเคยนำบทความจาก   หนังสือ star soccer forever มาให้หลายท่านอ่าน หลายท่านคงเคยอ่าน ลองอ่านอีกทีน่ะแล้วผมค่อนข้างจะเห็นด้วยเลย http://playmaker.thport.com/kwebboard/ans.php?post_autoid=100&category=talk จากคุณ : ฟัลเกา - [ 6 ก.พ. 52 11:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 41 เรืองของการถ่ายทอด   อยากจะ  ให้  เป็นแบบ  ว่า  เป็นรายการ สกู๊ปรายการแล้วมีเทป ไฮไลท์เจาะลึกประมาณอย่างนี้มากกว่าเหมือนสมัยก่อนมีรายการ "เจาะสนาม ของช่อง 7 " เราๆ ท่าน ก็ รอชมทุกสัปดาห์กันใช่ไหม ....อันนี้เห็นด้วยกับคุณฟัลเกาครับ จากคุณ : Dangda_Is God (Zero_C) - [ 6 ก.พ. 52 11:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เงินที่ได้จากสปอนเซอร์น่าจะเป็นหลักเหมือนกัน เหมือนการตลาด คนในประเทศสนใจ  สปอนเซอร์ก็จะเทเข้ามา เมื่อไหร่ที่แฟนบอลจะสนใจ  บอลไทยต้องเทพ อาชีพไม่อาชีพ มันอยู่ที่ว่าจะขายให้แฟนบอลติดตามได้อย่างไร จากคุณ : กินเหล้าให้เป็น - [ 6 ก.พ. 52 12:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงคุณ Roy E Nem จะว่าไงดี...คือในความคิดของผม ไทยลีกยังไงก็ไม่ยุบครับ แต่ความเป็นอาชีพของสโมสรอาจทำไม่สำเร็จครับถ้าไม่รีบหาทางแก้ไข หรือทำอย่างจริงจัง ผมอาจนำประเด็นมาพูดซ้ำกับเมื่อ 3 ปีที่แล้วสมัยโปรลีก แต่ปัญหามันก็ยังคงอยู่ ผมก็เลยต้องนำกลับมาพูดอีกครั้งหนึ่ง โดยชี้ไปที่นิยามคำว่าอาชีพที่ผมอ้างก็คือ รายได้ ครับ โดยเฉพาะจากแฟนบอล ถ้าสโมสรจะเป็นอาชีพได้ส่วนหนึ่งก็คือแฟนบอล ถ้าคนที่ไปดูบอลในสนามซื้อตั๋วกันครบทุกคน และเงินไม่รั่วไหล ลองคิดดูซิครับว่า สโมสรจะพัฒนาได้อีกขนาดไหน คือผมอาจจะไม่ใช่คนวงในของทีมต่างๆ เป็นแค่แฟนบอลเฉยๆ ก็ไม่รู้ว่าแต่ละทีมเขาแก้ไขปัญหากันยังไงบ้าง แต่พอรู้เรื่องของแม่กลอง แล้วก็เป็นห่วงครับ เหมือนกับเราทำงานโดยคิดว่าอีก 10 ปีเราจะมั่นคง แต่ถ้าในระหว่าง 10 ปี เราไม่ค่อยได้เงินเดือนเลย หรือได้ก็แค่พอปะทังชีวิต ทั้งๆ ที่เราก็ทำงานอยู่ตลอด ผมว่าเราอาจจะอยู่ไม่ถึง 5 ปีครับ อีกอย่างผมก็เห็นด้วยครับว่าของแบบนี้มันต้องดูกันยาวๆ แต่ถ้าเราเจอปัญหาก็ต้องรีบหาทางแก้ไข ถ้าปล่อยเอาไว้มันก็อาจจะลามได้ครับ จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 12:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ทีมไหนยังไม่พร้อมเป็นอาชีพคงต้องอยู่ดิวิชั่น 2 ไปก่อนครับ ดิวิชั่น 2 ไม่ต้องจดทะเบียนอาชีพ จากคุณ : 555จีจ้า - [ 6 ก.พ. 52 12:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อย่างที่เคยตั้งกระทู้ไป ต้องใช้ กลอุบายเข้ามาช่วย งานนี้ต้องระดับรัฐบาลต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงจะทำสำเร็จ คนไทยชอบล๊อตเตอรี่  ก็ให้รัฐออกเป็นล๊อตเตอรี้ ตั๋วบอล ซึ่งต้องเข้าชมเท่านั้น ถึงจะมีสิทะฺรับรางวัลได้ รับรองขายดีแน่ๆอีกทั้งได้เข้าชมกีฬา สนับสนุนมีเวลาให้ครอบครัวด้วย ได้เงินอีกมากมายมาทำทีม และสร้างเศรษฐกิจใหม่ พวกขายของ เงินมีการหมุนเวียนกระตุ้น การใช้จ่ายได้อีกมากมาย  ทั้งยังสร้างอาชีพใหม่อีก มีแต่ได้กับได้ เรียกว่า  นำสิ่งที่มีผลเสียมาสร้างประโยชน์ได้มากกว่าเ้สีย จากคุณ : sunseg888 - [ 6 ก.พ. 52 12:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เสริมคุณน้องเด่นนิดเดียว ผมชอบความคิดคุณครับ ผมว่าคุณมองโลกในแง่ที่เป็นไปได้จริงๆ ที่ลีกใหญ่ๆอย่างพรีเมียร์อยู่ได้ นอกจากเงินถ่ายทอดสดแล้ว รายรับส่วนหนึ่งมาจากวงการพนันขันต่อด้วย กล่าวคือเนื่องจากอังกฤษมีสถานรับพนันบอลแบบถูกกฏหมายมากมายหลายที่ ทางรัฐบาลออกกฏเลยว่า ถ้าคุณหาประโยชน์จากฟุตบอลวิธีนี้ คุณต้องส่งเงินคืนกลับมายังสมาคมฟุตบอลด้วย ปีละหลายๆล้านปอนด์ อาจเกือบถึง ร้อยล้านปอนด์ในแต่ละปี   นอกจากค่าต๋งที่รัฐเก็บอีกก้อนแล้ว และเงินส่วนนี้ ก็นำไปลงสมาคมฟุตบอลเลย เขาถึงมีรายได้ไปจุนเจือแม้กระทั่งทีมระดับท้องถิ่น นอกลีกไงครับผม บ้านเรา คงไม่พ้นเรื่อง ล็อตเตอรี่หรือสลากอะไรสักอย่าง ที่ทางรัฐฯหรือกระทรวงฯจะออกให้ แต่ทั้งนี้ ตัวที่จะทำเงินก้อนนี้หายมากที่สุดคือ สมาคมฟุตบอลและคนในสมาคมนั่นแหละครับ ตัวอันตรายเชียว จากคุณ : พัฒน์ - [ 6 ก.พ. 52 15:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมขอออกคห.สั้นๆว่า ยากครับ และอีกนานครับ กว่ารายรับที่ไม่ใช่เงินอัดจากสปอนเซอร์อย่างเดียวหรือจากองค์กรจะมากพอในระดับที่ให้สโมสรเลี้ยงตัวได้ มันอยู่ที่วัฒนธรรม และการจ่ายเงินเพื่อดูกีฬาของคนไทยที่แตกต่างจากพวกฝรั่งหรือยุ่นด้วย และที่สำคัญคือ องค์กรที่ควรสนับสนุนเรื่องนีเอย่างสมาคมก็ไม่เก่งเรื่องการจัดการเอาเสียเลย ต้องใช้เวลาอย่างมากครับ จากคุณ : eagle1000 - [ 6 ก.พ. 52 15:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คห. 41 ก้แล้วแต่ครับว่าจะไปดูที่สนาม หรือดูที่บ้าน อันนี้ไม่สำคัญครับ อย่างที่คุณ 190E พูดนั้นถูกต้องครับ มันเป็นวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมครอบครัว ถึงแม้ว่ามีการถ่ายทอดสด สนามก็เด็ม หรือเกือบเต็มครับ แต่ที่เราถกกันนี้คือ จะทำยังไงให้ทีมฟุตบอลแต่ละทีมเลี้ยงตัวมันเองได้ อันนี้ถือว่าเป็นความสำคัญอันดับแรก สำคัญกว่าเรื่องอื่นๆ เสียอีก จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 15:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นั่นสิครับ จะทำยังไงถึงจะสร้างวัฒนธรรมการดูฟุตบอลของไทย ว่าไม่ใช่มาเล่นให้ดูฟรี ผมว่าวัฒนธรรมการดูฟุตบอลไทยเริ่มดีขึ้นมากแล้ว อีกอย่างถ้าปีเตอร์รีดส์ ตระเวณไปตามสนามต่างๆ เพื่อดูฟอร์มนักกีฬา คิดว่ากระแสด้านคนดูก็น่าจะดีขึ้น เพราะเค้าจะลุ้นว่า นักฟุตบอลที่พวกเขาเชียร์จะติดทีมชาติของรีดส์หรือเปล่า แต่กระแสต่อไป ก็น่าจะส่งเสริมให้คนดูทุกคนซื้อบัตรผ่านประตูเข้าไปดูนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า แต่ก็อยากให้มีการประกาศระหว่างพักครึ่งไปครับ ว่ายอดจำหน่ายบัตรวันนี้มีกี่ใบ แล้วเงินที่ได้รับจริงมีเท่าไหร่ รีบนับกันเลย จะได้รู้ว่าจำนวนคนดู จำนวนบัตรที่ขายได้ กับจำนวนเงินที่ได้รับ มันสอดคล้องกันหรือเปล่า คนที่อยุ่ในนั้นจะได้รู้กันไปเลยว่า ไอ้ที่คนเยอะหนะ ที่จริงแล้วจ่ายเงินสักกี่คน จะได้ช่วยกันกระตุ้นให้มีการจ่ายค่าบัตร ช่วงแรกๆ ผมก็ไม่ได้คาดว่าสโมสรจะต้องมีรายได้ค่าบัตรเป็นกอบเป็นกำหรอกครับ แต่อยากให้มีรายได้จากคนดูอย่างเต็มที่ ถ้าสปอนเซอร์รู้ว่าที่นี่เงินสะพัด ก็คงทยอยเข้ามาสู่ทีมขึ้นเรื่อยๆ สโมสรก็จะมีเงินมาพัฒนาทีมมากขึ้น แต่ผมก็เกรงเหมือนกันว่า พอรู้ว่าเงินมันสะพัด ตัวเหลือบมันจะมาด้วยนะสิ ปัญหาแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลย แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 16:14:24 จากคุณ : nongden - [ 6 ก.พ. 52 16:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คห.50 อันนี้ต้องใช้เวลา และการสร้างค่านิยม หรือวัฒนธรรม ต้องช่วยกันหลายๆฝ่ายครับ อย่าลืมนะว่า ทีมในอังกฤษเขามีวัฒนธรรมเป็นร้อยปี ไอ้เราเพิ่งเริ่มเอง ต้องจายเย็นๆๆ ผมก็ต้องย้ำคิดน้ำพูดละครับว่า การถ่ายทอดสดจะทำให้มีเงินเลี้ยงทีมได้ครับ อย่างอื่นก็ทำไปพร้อมๆกันได้ แต่ถ้ามีการถ่ายทอดสด มันจะเป็นตัวเร่ง หรือตัวช่วย ให้ลีกประสบความสำเร็จใด้เร็วขึ้นครับ จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 16:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องลีกอาชีพ เรื่องคนดู ผมค่อนข้างจะเห็นด้วย แต่ไม่ทั้งหมด มีลีกประมาณที่เห็นในปัจจุบัน เราก็ไปบอลโลกได้ครับ ไม่เชื่อก็ดูตอนทหารอากาศยุคพี่ตุ๊กสิ เป็นทีมองค์กรเหมือนกัน ไม่มีอะไรผูกพัน แต่คนเข้าไปเพราะรู้ว่า จะได้เห็นอะไรดีๆจากพี่ตุ๊กและเพื่อนร่วมทีมแน่ นักเตะเองก็เป็นส่วนสำคัญในการเรียกคนดูไม่น้อยไปกว่าตัวจังหวัดเลยล่ะ แต่!! โจทย์มีอยู่ว่า... เราต้องทำยังไงก็ได้ ให้คนที่ฝันจะเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆเนี่ย ไม่ทิ้งความฝันตัวเอง และไปเลือกที่จะทำอาชีพอื่นๆ เพื่อความมั่นคงในชีวิต เราต้องทำให้รายได้นักฟุตบอลเทียบเท่ากับหมอ ทนายความ หรือข้าราชการ ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เกิดแก่เจ็บตายอีกร้อยครั้ง พันครั้ง เราก็ไม่ได้ไปบอลโลกครับ ถ้าฟุตบอลมันไม่สร้างให้คนเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนได้... แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 16:44:54 จากคุณ : King of Extreme - [ 6 ก.พ. 52 16:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สมมุติ การไฟฟ้า เล่นในบ้าน มีคนดู 3000  ค่าตั๋วคนละ 50 = แสนห้า เล่นในบ้าน 2 นัด ก็ สามแสน  นี่ก็หรูแล้วนะครับ ..... พอจ่ายค่าตัว ฟัลเกาที่เอามาจากบราซิล  เดือนนึง เกือบ สองแสน  และที่เหลือก็ พอจ่ายค่าตัวนีกเตะ ดีกรีทีมชาติได้ ซัก สองคน ครับ  ทั้งสนามก็มีผู้เล่น 3 คนครับ ที่เหลือ ค่าของที่ระลึก ก็เอาไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ได้ครับ แล้ว เงินที่เหลือค่าสปอนเซอร์  และอื่นๆ ยังไง ก็ไม่มีทางพอ ถ้าต้องการแชมป์  มันต้องควักเองด้วย  แต่ทีมเขาต้องการผลงานที่ดีไงครับ เขารอไม่ได้   เขาก็พยายามหาเงินทุกทางแหละครับเพราะ  ถ้าผลงานดี  แฟนบอลเยอะต่อไป อีก 5 ปี 10 ปี แฟนบอลอาจจะเยอะมากขึ้นถึง ห้า  หก พันคน  เก็บตั๋วได้ คนละร้อย  มันก็ดีขึ้น  ได้ค่าลิขสิทธิ  มากขึ้น  สปอนเซอร์มากขึ้น  วันนั้น ก็คงเรียกว่าทีมอาชีพให้สมใจได้ มันต้องลุงทุน  และต้องใช้เวลา พิสูจน์กันครับ  ทีมไหนห่วย ทำไมไหว ก็ตกลงไปเอง   ทุกอย่างมันต้องก้าวไปด้วยกัน    ทีมไหนดี แล้วก็จะได้เห็นกันในอนาคต ทีมไหนห่วย ตกลงไป  ขึ้นอยู่กับทีมนั้นๆ  สำหรีบผม ผมก็คงช่วยได้แค่เชียร์ทีมที่ผมชอบแหละครับ จากคุณ : Roy E Nem - [ 6 ก.พ. 52 16:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ King of Extreme อยากถามว่าผู้ปกครองคุณจะสนับสนุนคุณให้เล่นฟุตบอลเป็นหลักมั๊ย ถ้ารายได้ และ อนายุของการเล่นมันช่างสั้นเหลือเกิน แน่นอนครับรายได้ต้องมาก่อน และต้องดีด้วย แล้วเราจะทำยังไงดีหละที่จะให้เงินผู้เล่นเยอะๆถ้า ปัจจุบันนี้ทำทีมยังเจ๊งอยู่ เรื่องทหารอากาศ นั่นมันเป็นอดีตไปแล้วครับ และผมไม่เชื่อว่าทีมทหารอากาศจะกลับขึ้นมาเล่นไทยลีกได้อีก เพราะเรื่องการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งเขาจะต้องหาทางแก้ ปัญหานี้ให้ใด้ถ้าคิดจะอยู่ต่อ เขาจะกลายเป็นตำนาน ตามทีมกรุงไทยแน่ และเช่นเดียวกับทีม ธ.กรุงเทพที่ตกชั้นลงไปจนต้องเลิกส่งทีม จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 16:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ Roy E Nem คุณเข้าใจตัวเลขดีอยู่แล้ว ประเด็นที่ผมย้ำอีกทีนะครับ ก็คือ ทำไม ผู้มีอำนาจจัดการแข่งขัน ไม่ช่วยทุกทีมหละครับ  ผมเชื่อว่าช่วยได้ด้วยถ้าตั้งใจจะช่วย ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรม ให้หาเงินเอง มันยากสสสสสสส์จริงๆ ผมใด้ผ่านขั้นตอนการช่วยทีมหาเงินมานักต่อนักแล้วครับ ก้หาให้ 16 ทีมเลย แล้วถ้าทีมตกชั้นไป มันก็มีทีม จาก ด. 1 ขึ้นมา ทีมพวกนี้ก็มีสิทธิที่จะได้เงินแบ่งจากการถ่ายทอดสดเช่นเดียวกัน ไม่มีใครใด้เปรียบเสียเปรียบ แถมไม่ต้องไปใช้งบของรัฐหรือองค์กร ด้วยซึ่งมาจากภาษีของประชาชน จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 17:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สิ่งสำคัญที่สุดของฟุตบอลลีก คือแฟนบอลครับ แฟนบอลจะต้องติดตามอย่างเหนียวแน่น จะต้องคลั่งไคล้และมี passion กับทีมอย่างเต็มที่ ในสนามคนดูก็เต็ม ส่วนทางทีวีคนก็สนใจเปิดดูอย่างเต็มใจ โดยไม่ต้องไปยัดเยียดให้ช่องนั้นช่องนี้ฝืนถ่ายทอดแบบไม่ค่อยมีคนสนใจ ส่วนเรื่องวิธีการบริหารการเงิน วางระบบอะไรต่างๆน่ะไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ ทุกทีมจะจ้างนักเศรษศาสตร์เก่งๆมาวางแผนซักกี่คนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทำยังไงให้ฟุตบอลไทยลีกมันบูม และคนทั่วไปสนใจ ถึงแม้ว่าจะช่วยกันรณรงค์ให้ไปดูแค่ไหนมันก็ได้แค่เฉพาะกลุ่มครับ มันคงต้องใช้เวลาอีกนานมากไม่ต่ำกว่า 20-30ปี ที่จะสร้างค่านิยมของคนดูจนสามารถไปถึงระดับอาชีพเต็มตัวได้ แต่วิธีก้าวกระโดด ในการสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับสินค้าเพื่อเพิ่มความคลั่งไคล้ให้คนดูมันก็พอมีครับ เพียงแต่ต้องลงทุนกันหน่อย ก็คือการสร้างนักเตะระดับแม่เหล็กขึ้นมา ในอดีตเรามีปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่เป็นแม่เหล้กดึงดูดคนดูได้อย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ จากพรสวรรค์ระดับอัจฉริยะของเขา ปิยะพงษ์สามารถดึงดูดคนดูให้อยากเข้าไปดูเกมในสนามจนเต็มสนามได้ หรือแม้แต่ถ่ายทอดทางทีวีก็มีคนสนใจดูกันตรึม แต่ในปัจจุบัน นักเตะไทยไม่มีใครที่เจ๋งขนาดดึงดูดคนดูได้เลย ดังนั้นมันจึงมีวิธีเดียว ก็คือจ้างนักเตะเก่งๆจากต่างชาติครับ ต้องเอาแบบที่เก่งจริงๆ มีความแตกต่างจากนักบอลไทยอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับ J-ลีค ในช่วงเริ่มต้น ที่เขาให้ความสำคัญกับนักเตะต่างชาติที่มีชื่อเสียงมาก เพราะสิ่งนี้แหละที่จะดึงดูดคนดูได้มากที่สุด เมื่อคนดูเข้ามาในสนามเพราะต้องการอยากดูบอลจริงๆ (ไม่ใช่เข้ามาแบบอยากช่วยทีม หรือมาแบบรณรงค์กวาดต้อนกันมา) เมื่อนั้นแหละที่ค่านิยมในการดูบอลของคนจะเกิดขึ้นเองครับ และเมื่อคนดูเยอะ และมีการคาดหวังในผลงานที่สูง ถึงตอนนั้นคนดูก็จะค่อยๆมีpassion เกิดขึ้นเองดดยอัตโนมัติครับ จะมีทีมคู่ปรับ คู่รักคู่แค้นกันเกิดขึ้น แฟนบอลคู่อริจะไม่ค่อยถูกกัน แฟนบอลทุกคนคาดหวังในผลงานของทีม ชนะก็เฮสุดขีด ถ้าแพ้แบบเล่นห่วยๆก็ต้องด่า ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ค่าตั๋ว50เลยครับ ค่าตั๋ว 200-1000 ก็ยังมีคนจ่ายเพื่อเข้าดู เผลอๆถ้าเป็นเกมที่ดวลกับทีมคู่อริ หรือเป็นเกมนัดสำคัญนี่ตั๋วผีระบาดด้วยซ้ำ เรื่องทีวีไม่ต้องพูดถึง ฮิตกันขนาดนี้ขายได้แน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการค้าขายในการดึงดูดลูกค้า ก็คือการสร้างคุณภาพของสินค้านั้นๆขึ้นมาให้ได้อย่างถูกใจคนดูซะก่อน ต้องให้ลุกค้าเต็มใจซื้อจริงๆ ไม่ใช่ยัดเยียดให้ซื้อหรือรณรงค์ให้ซื้อเพื่อการกุศล เมื่อนั้นแหละครับ คือการเดินไปอย่างถูกทางแล้ว จ้างนักเตะต่างชาติชื่อดัง เป็นหนทางลัดทางเดียวครับ แต่ปัญหาคือจะไประดมทุนจากไหนมาจ้างนักเตะแม่เหล็กมาเล่นดีล่ะ ? แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 17:11:23 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 17:07:10 จากคุณ : ซาโนสุเกะ - [ 6 ก.พ. 52 17:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สักวันก็เหมือนญี่ปุ่นล่ะครับ ขนาดที่ว่าแน่ๆ เค้ายังต้องใช้การพนันเข้ามาช่วยเลยครับToto น่ะครับ ผมแค่อยากจะเสนอเป็นอีกทางเลือกนะครับ (ผมไม่เคยแทงฟุตบอลนะครับ อย่างมากก็เล่นกับเพื่อนตอนเรียนได้เสียเป็นการเลี้ยงข้าวเท่านั้น) ผมว่าเราควรรับความจริงว่าประเทศไทยคนส่วนใหญ่บ้าการพนันนะครับ แล้วทำไมเราต้องเอาเงินตรงนั้นให้หายไปกับใครบางคนที่มีอิทธิพล ที่มีสี ด้วยล่ะครับ แทนที่จะเอามาพัฒนาอะไรๆ ได้หลายๆ อย่าง เพียงแต่การจัดการต้องดีมากเท่านั้นเองครับ ว่างๆผมจะเอาบทความที่อาจารย์ มธ. เขียนเกี่ยวกับการพัฒนาฟุตบอลลีกมาลงให้ดูนะครับ ว่าเค้ามีแนวความคิดในการจัดการกับค่าผ่านประตูอย่างไร (แน่นอนว่ามีการเอาการเสียงโชคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ) จากคุณ : khanchang - [ 6 ก.พ. 52 17:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ชวนเพื่อนไปดูมันถามก่อนเลยว่า "ดูฟรีเปล่า" พอบอกว่า 50 บาท มันตอบว่า "เฮ้ยแพงจังวะ" อ้าวแล้วทีมิงเอาตังค์ไปแทงบอลทีละหลายร้อย หลายพันล่ะ? จากคุณ : Firepocket - [ 6 ก.พ. 52 17:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ชวนเพื่อนไปดูมันถามก่อนเลยว่า "ดูฟรีเปล่า" พอบอกว่า 50 บาท มันตอบว่า "เฮ้ยแพงจังวะ" อ้าวแล้วทีมิงเอาตังค์ไปแทงบอลทีละหลายร้อย หลายพันล่ะ? จากคุณ : Firepocket   - [ 6 ก.พ. 52 17:22:31 ช่ายเลย  มีคนอย่างนี้จริงๆ จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 17:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ แล้วอ่านแบบไม่ค่อยละเอียดด้วย..น่าสนใจมากครับ ผมคิดว่ามันต้องเริ่มจากสมาคม ที่ต้องกำหนดปฏิทินการแข่ง ระเบียบกฏเกณฑ์ต่างๆ ให้มันแน่นอน  สโมสร, ทีมต่างๆจะได้มีเป้าหมายในการเตรียมทีม ไม่ใช่ซ้อมไปวันๆ แข่งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วทีมในลีกล่างๆยิ่งน่าเป็นห่วง  บอลถ้วย ค,ง  ตารางแข่งไม่เคยตรงกันซักปี.. พอได้แบบนี้ อะไรๆก็จะง่ายขึ้น...ดึงคนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมมากๆ..ผมรับรองว่า ทุกที่ มีคนที่มีความคิดก้าวหน้าอยู่มาก  เพราะฉะนั้น เราคงหาคนเก่ง คนดี มาช่วยกันพัฒนา คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าใครอยากมาดูลีซอก็ติดต่อผมมาล่วงหน้านะครับ...ผมจะพาไปดูระบบการจัดการของเค้าว่าทำยังไงสโมสรถึงได้อยู่รอด ทำไมคนดูถึงได้เต็มทุกแมทช์  แล้วคนดูส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองนั้นหรือใกล้เคียง ร้านขายฮอทดอกก็เป็นของสโมสร  คนขายตั๋ว ขายของในร้าน แม้กระทั่งจนท.รักษาความปลอดภัยก็เป็นคนในเมืองนั้น...ป้าที่ผมเจอในแมทช์บ่อยๆแกถือร่มที่ซื้อจากร้านของสโมสร เสื้อที่ว่าแพง  ผ้าพันคอราคาผืนละ 15 ยูโร (ประมาณ 700 บาท ) ธง หมวก มีคนซื้อไม่เคยขาด...ราคาขนาดนี้จะไปซื้อของดีๆที่ไหนก็ได้แต่ทุกคนยินดีที่จะซื้อ เพราะซื้อความที่เป็นของสโมสร เบียร์ในสนามแพงกว่าข้างนอกแต่คนยินดีไปดื่ม...ร้านข้างในใช้การซื้อคูปองไปแลกเบียร์นะครับ..เงินเลยไม่ค่อยหายระหว่างทาง แล้วผมจะพาไปดูพวกสปอนเซอร์ของสโมสร...จะได้เห็นว่า เค้าแต่งตัวยังไง ขับรถอะไรมาดูบอลทุกสัปดาห์...เมืองไทยคนรวยเยอะครับ...ต้องช่วยกันทำให้เค้าเห็นว่า การสนับสนุนฟุตบอลเป็นเรื่องที่ดี นี่ยังไม่รวมพวกคลับนอกลีก ที่เป็นการรวมตัวเล่นกัน ( ผมก็เพิ่งไปร่วมกับทีมนึงครับ )...สปอนเซอร์เป็นแค่ไอริชผับ  แต่มีลีกให้เล่น  รวมตัวซ้อมกันทุกวันพฤหัส  มีแข่งทุกวันเสาร์  ว่ากันเป็นลีกยาวไปเลย เปิด-ปิดฤดูกาลพร้อมจูปิเลอร์ลีก มีกรรมการได้มาตรฐานมาตัดสิน มีสนามดีๆไว้ซ้อม ซึ่งไม่ได้ใช้เงินมากอะไรเลย มันอยู่ที่การจัดการของสมาคมล้วนๆครับ จากคุณ : จอมเทคนิค - [ 6 ก.พ. 52 18:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมมองว่าเตะ 4 โมงเย็นวันเสาร์จะเร็วไปหรือเปล่าครับ เพราะมีแฟนบอลหลายท่าน และคนที่จะเป็นแฟนบอลในอนาคต หลายท่าน ที่วันเสาร์ต้องทำงาน เลิกงานก็ 5 โมงเย็นแล้วล่ะครับ  วันเสาร์นี้เริ่มสัก 17.30 - 18.00 กำลังดีเลยครับ ผมไม่ทราบว่าตอนนี้มีกี่ทีมที่มีไฟในสนามสามารถเตะ ตอนกลางคืนได้ แต่ถ้าจัดตารางดี ๆ น่าจะลงตัวน่ะครับ แล้วไปเน้นเตะเยอะ ๆ วันอาทิตย์แทน เพราะเป็นวันสบาย ๆ บางคนทำงานเหนื่อยก็ไม่อยากจะไปดูบอลหรอกครับ จากคุณ : ต้อมติ้ว - [ 6 ก.พ. 52 19:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยกับคุณจอมเทคนิค เรื่องสมาคมและการจัดการ อันนี้เป็นปัญหาจริงๆ แต่ก็โทษเขาไม่ใด้หรอกครับ เพราะเขาไม่มีเงินจริงๆ ทั้งสมาคมมีคนรู้เรื่องอยู่แค่คนเดียว (เดี๋ยวผมจะบอกว่าทำไมถึงมีปัญหา) ข้อเสนอของคุณใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดครับ ถ้าคุณอ่านคห.ที่ 34 ของผมอย่างพินิจพิเคระห์ จะเห็นได้เลยว่าจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด และ เบ็ดเสร็จเด็ดขาดครับ อีกอย่างครับที่พวกเราอาจจะยังไม่ทราบ ว่าทำไมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยถึงทำงานไม่เหมือนมืออาชีพ ก็เพราะว่า สมาคมจดทะเบียนเพื่อการแข่งขันฟตบอลชนิดสมัครเล่นครับ ไม่ใช่อาชีพ รัฐธรรมนูญ เขาบังคับมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 6 ครับ ไม่มีใครกล้าที่จะไปแก้ไขกฏนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 21:54:51 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 21:53:46 จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 19:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คห. 61 ก็ ok ครับ ขึ้นอยู่กับทีม/สนาม ครับ ว่ามีไฟหรือเปล่า ก็แล้ว แต่ แต่ประเด็นหลักคือ ต้องมีการถ่ายทอดสดทุกคู่ครับ ให้ความยุติธรรมกับทุกทีม เรื่องเวลา ก็ต้องปรึกษากับผู้จัด ฯลฯ อันนี้มันเป็นประเด็นปลีกย่อย ซึ่ง คิดว่าถ้ามีการถ่ายทอดสดจริงย่อม แก้ไขวันเวลาได้ครับ Premier League ในอังกฤษ ก็ทำกันบ่อยๆ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 21:44:54 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 21:44:25 จากคุณ : SPFC - [ 6 ก.พ. 52 19:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้ดี มีสาระ มองต่างมุมบ้าง แต่ไม่มีการสาดอารมณ์ใส่กัน ใช้ข้ออ้างยกเหตุผลมาถกมาพูดคุย สมควรเป็นกระทู้แนะนำอย่างยิ่งครับ ว่าแล้วก็โหวตซะ... จากคุณ : The Sweet Suffering - [ 6 ก.พ. 52 20:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ว่าจะอ่านแต่ยังไม่ได้อ่าน....แต่กระทู้นี้  โหวตให้ครับ... จากคุณ : yut - [ 6 ก.พ. 52 22:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จริงๆในความเห็นผมนะ.....ทุกความเห็นในนี้ไม่มีใครผิดเลยและมีประโยชน์มากที่เดียวครับ   เพราะเรื่องที่ทุกคนเป็นห่วงเป็นกังวลนั้น  มันก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลซะด้วยซิ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โกงค่าบัตร หรือเรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆ   แม้กระทั่งออกเป็นlotto สนับสนุนบอลลีกซะ  ผมว่าเป็นหนทางที่น่าเป็นไปได้ทั้งหมดและบางอย่างก็เป็นไปแล้ว......ผมอยากให้มีใครสักคนที่หาญกล้าเอาความคิดในนี้ไปปรับปรุงแล้วต่อยอดซะ    อาจจะนานหน่อยแต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นบอลอาชีพที่เป็นอาชีพได้อย่างภาคภูมิ..... ปล.เข้ามาโหวตอย่างจริงจังเลยครับพี่น้อง จากคุณ : daxter - [ 6 ก.พ. 52 22:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 67 น่าสนใจครับอยากรู้เหมือนกันว่าสโมสรต่างๆมีวิธีดูแลพวกรายรับจากการเข้าชมกันยังไง จากคุณ : tunaz - [ 6 ก.พ. 52 23:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สาบานครับ ไทยลีกฤดูกาลนี้ ผมไม่พลาดแน่ๆ จากคุณ : The Sweet Suffering - [ 7 ก.พ. 52 00:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ ขอเอาประสบการณ์ที่เคยดูบอลต่างประเทศมาเพิ่มทัศนะ เรื่องการเดินทางไป-กลับสนาม โดยเฉพาะสโมสรในกรุงเทพฯ ที่ควรจะมี mass transport เข้าถึง หรือมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถ ในช่วงก่อน-หลังแข่ง แฟนบอลสามารถกะเวลาในการเดินทางได้ค่อนข้างแน่นอน ถ้ามีการประสานตรงนี้ได้ น่าจะทำให้แฟนบอลเพิ่มมากขึ้น และเรื่องหนังสือโปรแกรม ถ้าผมเป็นแฟนบอลทีม บางทีก็อยากรู้ว่าผจก.ทีม, นักเตะในทีมมีความเห็นยังไงก่อนลงสนาม มีรูปสวยๆของนักเตะ ทำเป็นเล่มขายสิบบาท พอเป็นที่ระลึกก็น่าจะช่วยเพิ่มรายได้บางส่วน สำหรับบัตรเข้าชมก็ทำให้ดูดี น่าสะสม เรื่องล็อตเตอรี่นี่น่าสนใจมาก ที่อังกฤษอย่างของอาร์เซน่อล เค้ามีจับสลากเบอร์หนังสือโปรแกรม ของรางวัลเป็นพวกเสื้อที่มีลายเซ็นต์ของนักเตะเป็นหลัก แต่ถ้าของบ้านเรา จะเอาเงินเข้าล่อแทนก็ดูดีเหมือนกัน หาจุดคุ้มทุน น่าจะดึงคนเข้ามาเพิ่มได้บ้าง หรือบางสโมสรก็มีให้ซื้อตั๋วชิงโชคต่างหาก คนละปอนด์ แล้วเอาไปจับชิงโชคเงินห้อนใหญ่ คนถูกรางวัลก็ได้ไปส่วน สโมสรก็ได้ไปส่วน สำหรับเรื่องถ่ายทอดสด ผมคิดว่าไม่ควรจะถ่ายทุกคู่ เพราะแฟนบอลจะเข้าสนามน้อยลง ควรจะถ่ายเป็นบางคู่ หมุนเวียนทีมกันไปดีกว่า จากคุณ : Lueng - [ 7 ก.พ. 52 00:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนเรื่องพนันผลการแข่งขันนี่ ในอนาคตถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะดี แต่ผมยังกังวลเรื่องผลกระทบตามมาเรื่อง 'ล้มบอล' ซึ่งผมคิดว่าโอกาสจะเกิดขึ้นนั้นมี (จากประวัติศาสตร์) อาจจะต้องรอให้บอลอาชีพนิ่งเสียก่อน นักเตะอาจจะต้องมีรายได้ประจำมากพอที่จะไม่คิดเอาตัวไปเสี่ยงกับตรงนั้น จากคุณ : Lueng - [ 7 ก.พ. 52 00:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จขกท.เลือกประเด็นได้ดีมากเลย โหวตให้ครับ อ้อ..เห็นด้วยกับ คห.64 อย่างยิ่งครับ จากคุณ : paoninho - [ 7 ก.พ. 52 01:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมว่าเอาให้คนดูเข้าสนามให้เยอะๆไว้ก่อนเถอะครับ จะเก็บได้กี่เปอร์เซ็นต์ตอนนี้ผมว่ายังเป็นประเด็นรอง มันเหมือนทำโปรโมชั่นน่ะครับ มันต้องมีลดแลกแจกแถมกันบ้าง ช่วงแรกๆเนี่ย จากคุณ : Certain_Shade_of_Green - [ 7 ก.พ. 52 03:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรื่องการเดินทางไป-กลับสนาม โดยเฉพาะสโมสรในกรุงเทพฯ ที่ควรจะมี mass transport เข้าถึง หรือมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถ ในช่วงก่อน-หลังแข่ง แฟนบอลสามารถกะเวลาในการเดินทางได้ค่อนข้างแน่นอน ถ้ามีการประสานตรงนี้ได้ น่าจะทำให้แฟนบอลเพิ่มมากขึ้น และเรื่องหนังสือโปรแกรม ถ้าผมเป็นแฟนบอลทีม บางทีก็อยากรู้ว่าผจก.ทีม, นักเตะในทีมมีความเห็นยังไงก่อนลงสนาม มีรูปสวยๆของนักเตะ ทำเป็นเล่มขายสิบบาท พอเป็นที่ระลึกก็น่าจะช่วยเพิ่มรายได้บางส่วน สำหรับบัตรเข้าชมก็ทำให้ดูดี น่าสะสม เรื่องการเดินทางนี่ ก็ใช่เลย สำคัญมาก เรื่องหนังสือ โปรแกรม อันนี้มีแล้วครับ ทำโดย TPL Weekly. จากคุณ : SPFC - [ 7 ก.พ. 52 06:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมว่าเอาให้คนดูเข้าสนามให้เยอะๆไว้ก่อนเถอะครับ จะเก็บได้กี่เปอร์เซ็นต์ตอนนี้ผมว่ายังเป็นประเด็นรอง มันเหมือนทำโปรโมชั่นน่ะครับ มันต้องมีลดแลกแจกแถมกันบ้าง ช่วงแรกๆเนี่ย จากคุณ : Certain_Shade_of_Green  - [ 7 ก.พ. 52 03:56:07 ] ผมได้พูดดักไว้แล้วครับใน คห. 34 (จขกท คงไม่ว่านะครับที่ผมได้เข้ามาตอบแทน) จากคุณ : SPFC - [ 7 ก.พ. 52 07:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เรื่องพวกน้มันต้องใช้เวลา ครับ จะมากจะน้อย แค่ไหน ขึ้นอยู่ กัน กลุ่มคนที่ชื่นชอบฟุตบอลครับ จากคุณ : vn, man - [ 7 ก.พ. 52 09:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ก่อนอื่นทำอย่างไงก็ได้ให้มีแฟนประจำนัดละ 2000 อย่างต่ำให้ได้ก่อน เรื่องอื่นก็ค่อยๆปรับไป และนิสัยคนไทยนะ ถ้ามีทีมอย่างชลบุรี ประสบความสำเร็จหลายๆทีม เดี๋ยวก็แห่กันทำตาม จากคุณ : กังหันฟ้าขาว - [ 7 ก.พ. 52 10:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 77 การทำลีกมันไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ แต่เรื่องความตั้งใจและจริงใจของคนที่ทำมากกว่าครับที่จะบอกได้ว่ามันจะอยู่หรือมันจะไป ผมไม่ได้เข้ามาตอบแต่แรกเพราะอยากฟังความเห็นของทุกคน ถ้าคนจริงใจและตั้งใจน่ะครับ เขาจะพยายามสร้างแผนงานของลีกให้เป็นหลัก ไม่ให้ลีกขึ้นกับคน เรามีการพัฒนาเรื่องลีกมาใสรอบสองสามปีนี้ตามลำดับจากชุดบริหารการจัดการของคนชื่อชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว มาเป็นชุดการจัดการของสมาคมคือนายวรวีร์ มะกูดีร์ (จำชื่อนี้ไว้น่ะครับ) คนๆ นี้มีปัญหาในเรื่องการสอบถามงบประมาณฟีฟ่าของแฟนชัยภักดิ์เขาแล้วจึงได้ดำเนินการตัดตอนคนชอบยุ่งเรื่องข้อมูลการเงิน เลยกำจัดได้สำเร็จทั้งสองคน ผัวเมียกระเด็นจากงานสมาคม หรือก๊วนอั่งยี่ก๊วนโจรหรืออะไรก็แล้วแต่ โดยมีนาย (ดร.) วิชิต แย้มบุญเรือง เป็นคนที่เข้ามาจัดการ ถ้าผมไม่รู้จักท่านนี้มาก่อนผมก็คงมองว่าแกคงเป็นคนที่เก่งและเป็นคนที่จะเป็นความหวังให้กับไทยลีกหรือ.... เราทดไว้ในใจกัน พวกคุณคิดกันหรือครับว่าวงการฟุตบอลบ้านเราจะเจริญขึ้นได้ด้วยคนที่ชื่อ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมหรือครับ หรือกรรมการอย่างถนอม บริคุต หรืออย่างนายสมบัติ คุรุพันธ์ ประธานสพก. หรือคนอย่างนายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่ากกท. หรือพล.ต.ฐิติวัชร ประธานฝ่ายผู้ตัดสิน เหล่านี้หรือครับคือคนที่เราบอกว่ามีความรู้ความสามารถในการช่วยกันทั้งหมดทุกภาพของวงการบอลไทย... เอาล่ะ ก่อนเราจะไปพูดเรื่องลีก มาดูโครงของแต่ล่ะคนในสมาคมก่อนครับ ยุคนายยีที่คนยี้ 1 มีดังนี้ครับ นายวรวีร์  มะ(กระผม)ดี   นายกสมาคมฟุตบอลฯ  ถือว่าเป็นผู้นำแต่ตลอดเวลามีภารกิจออกต่างประเทศตลอด เรียกว่าทำงานต่างประเทศมากกว่าในบ้าน การบริหารอำนาจรวมศูนย์ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเอาหน้าผลงานก็จะเห็นเขาเดินไปให้สื่อพูดก่อนก่อนที่คนเป็นโค้ชจะไปเสียด้วยซ้ำ หลังจากนั้นจึงค่อยเป็นลูกน้องแสนรักอย่างนายชาญวิทย์ ในสมัยที่คุมเป็นหัวทัพวงการฟุตบอลไทย... แม้แต่เรื่องการจัดการเรายังไม่เคยได้ยินชื่อหรือรู้เรื่องกันเลยใช่ไหมว่าใครเป็นคนจัดการกลับเห็นหน้านายวรวีร์ลงสนามไปประหนึ่งว่าเท่ห์เหลือเกินในนัดอัปยศกับเลบานอน ฯลฯ (เดี๋ยวไปว่ากันยาวๆ ในกระทู้วิชั่นเอเชียอีกที) นายองอาจ  ก่อสินค้า  เลขาธิการฯ เป็นคนที่พยายามเรียนรู้งานและคอยประสานงานมากกว่า แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับตัวนายกสมาคมฯ เท่านั้น เป็นคนที่ตั้งใจทำงานแต่ไม่รู้ว่างานที่ทำนั้นตนเองตั้งใจทำไปได้อะไร ทำไปเพื่ออะไร ดูๆ ไปแล้วแทบจะไม่เรียกว่าตำแหน่งเลขาธิการแต่เป็นเลขานุการน่าจะได้ เพราะนายสั่งไปทำอะไรก็ทำหมด ขยันตั้งใจแต่ทำแล้ว เจอนายหักมุขหลังแทบหักเกือบทุกลูกโดยเฉพาะมุข โบร่า พล.ท.รังสฤษดิ์ แจ้งเจนกิจ อุปนายกฝ่ายบริหาร น่าจะไม่มีใครรู้จักมีแต่ชื่อเท่านั้น คนนี้ใครหรือครับ แฟนบอลไทยทราบกันบ้างไหมครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าเขามีตัวตนหรือเปล่า หรือเป็นผู้มีบารมีมีอำนาจในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษหรือเปล่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกและประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน ที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องจัดการแข่งขันเลย นอกจากเวลาเข้าประชุม ไม่รู้ไม่พอแถมเวลามีปัญหาในการจัดการ เราอยากจะด่าคนนี้เหลือเกินแต่กลายเป็นว่าต้องมีคนชื่อวรวีร์ออกมาในเรื่องการจัดการทุกอย่าง (เคยมีคนถามว่าไม่อยากด่าแค่นายวรวีร์ แต่ไม่รู้ว่าคนนั้นได้รับรู้หรือยังว่าจริงๆ มันคืออะไรในการจัดการ) นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  อุปนายกและประธานคณะกรรมการพัฒนาเยาวชน ไม่มีผลงานในการทำงานอะไรเลย  และยังทำให้ทีมเยาวชน 17 ปีตกรอบแรกหลังจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทยของกรุงเทพมหานคร ไม่อยากพูดน่ะครับ เพราะเป็นพวกฝ่ายการเมืองถ้าแกจริงใจจริงๆ น่าจะกระซิบบอกพวกกันที่อยู่ในกรุงเทพมหานครในการผลักดันเรื่อง Bangkok United ให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นคนยุคใหม่ที่ไร้คุณภาพอย่างสิ้นเชิงจะเอาดีด้านไหนสักด้านก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราว มาทำงานวงการบอลก็ไม่ได้รู้เรื่องฟุตบอลอะไรเลย นายสุภชัย วีระภุชงค์ อุปนายกและประธานฝ่ายสวัสดิการ, นายสรัญ รังคสิริ ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน, นายวราวุธ  สุวกร  ประธานฝ่ายศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศ  ทั้งหมดนี้ไม่มีบทบาทอะไรเลย มีชื่อเป็นสภากรรมการบริหารเท่านั้น ไม่รู้เอาชื่อมาแปะทำขนมอะไร พล.ต.ฐิติวัชร   กำลังเอก อุปนายกและประธานฝ่ายผู้ตัดสิน เริ่มแรกทำงานเข้มแข็ง แต่ระยะหลังปัญหาผู้ตัดสินมีมากและแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ด้านผู้ตัดสินอย่างท่องแท้ นายสามารถ  มะลูลีม  ประธานฝ่ายวิชิาการ, นายวรวิทย์  หงวนศิริ  ประธานฝ่ายปฏิคมและกิจกรรมพิเศษ, นายวิโรจน์  ปลุกใจ ประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลส่วนภูมิภาค, นายพันธ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ประธานฝ่ายติดตามและประเมินผล,  นายประเวช  รัตนเพียร  กรรมการกลาง, นายพัฒนาชาติ  กฤดิบวร นายทะเบียน ทั้งหมดนี้ไม่เคยเห็นทำงานถูกตามที่ได้รับการแต่งตั้ง บางคนไม่เคยเห็นหน้าอีกด้วย พ.อ.ศิรพล ศิริบาล ประธานฝ่ายรักษาความปลอดภัย เป็นคนที่ทำงานปิดทองหลังพระ เพราะทุกครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจะอยู่เบื้องหลังในการรักษาความปลอดภัย และซวยทุกครั้งที่เวลาจะดำเนินการอะไรแล้วมีปัญหา เอาน่าอย่างน้อยอย่างมีท่านคนหนึ่งล่ะที่ประสานอยู่ นายชัยโชค  พุ่มพวง อุปนายกและประธานฝ่ายการเงินและงบประมาณ มีคนบอกว่าขยันทำงานติดต่อต่างประเทศและนำทีมเยาวชนออกไปแข่งขันต่างประเทศอยู่ตลอดเสมอมา แต่เอ๊ะตำแหน่งมันคืออะไร ทำไมไปทำซะแทนที่หลายๆ ตำแหน่งข้างบน นายธัญญา  โพธิ์วิจิตร ประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ พยายามเน้นทำทีมเยาวชนอายุ 12-14 ปีตลอดมา เพื่อวางรากฐานให้กับสมาคมฯ แต่หลับหูหลับตาพัฒนาแล้วเละมาโดยตลอด เราไม่ต้องแปลกใจเลยว่างานสมาคมผ่านฝ่ายนี้ "ฝ่ายพัฒนาสู่ความเป็นเลิศคืออะไร" ดร.กษม  ชนะวงศ์ เหรัญญิก มีความตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ในตำแหน่งเหรัญญิกไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ มีคนบอกว่ามุ่งมั่นมากแต่ผมมองว่าหุ่นไล่กาเอามาแปะไปงั้น ทั้งหมดนี้คือผลงานของสภากรรมการบริหารยุค "บังยี 1"  โดยมีอีกหลายคนมากที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกโดยตรง มันเป็นตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาฟุตบอล ทั้งระบบ โดยเฉพาะลีก โดยในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมามีคณะกรรมการไทยลีกบริหารจัดการโดยนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์เป็นคนรับผิดชอบแต่หลังจากมีปัญหาถามเรื่องเงิน "แตะเรื่องเงินแตะเรื่องกรู เมิงตาย" ทำให้สองผัวเมียกระเด็นออกจากวงการบอลไทยไป แล้วเกิดเป็นรูปแบบการจัดการใหม่ภายใต้คนที่ออกหน้าไปหยิบมาทำเองชื่อ นายวรวีร์ มะกูดี ...................... (เราต้องย้ำตรงนี้ให้ดีๆ ก่อน) เขาเป็นคนแหกปากบอกสังคมว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้รับการจัดการบริหารไทยลีกมาทำเอง แล้วเขาทำตามนิสัยสันดานที่เขาถนัดนั่นคือ ทำเองผ่านจากนอมินีในภาษาหรูๆ บ้านเราหรือ แพะในภาษาทางการหนึ่งของประเทศไทย ไทยลีกจะรอดไม่รอดเราต้องว่ากันตั้งแต่ระดับโครงเรื่องกาพย์กลอนกันมาก่อนเลยน่ะครับ มาดูกันว่า โครงสร้างฟุตบอลไทยลีกปัจจุบันเป็นอย่างไร จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 10:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 คือทัศนคติของคนไทยมันประหลาด เพราะถูกหล่อมหลอมมาอย่างประหลาดๆ ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ของสังคมเชื่อว่า คนซื้อตั๋วดูบอลคือคนโง่ ดูฟรีคือคนฉลาด .. คนเหล่านี้ไม่เคยมองอะไรไกลเกินตัวเองหรอกครับ ไม่คิดหรอกครับว่าไม่มีเงินเราแล้วเขาจะอยู่ยังไง ไม่เคยมีกระบวนการคิดที่เป็นระบบ แหมประหลาดน๊ะครับบัณฑิตจบมามีนึงเป็นแสนๆคน แต่ประเทศเจริญได้แค่เนี้ย ..ผมว่ามันประหลาด เป็นสังคมที่เน้นปริมาณมากกว่า คุณภาพจริงๆ จากคุณ : iamhotmale - [ 7 ก.พ. 52 10:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เวลาเราพูดเรื่องนี้ เมื่อก่อนสมัยคุณ art_anfield แกเคยทำมาผมรู้สึกว่าเห็นใจแกมากเพราะเราพูดแล้วเราไม่เห็นภาพ ทีนี้เรามาดูกันว่าคนที่จะเป็นหัวในการจัดการ (แพะ) คนนี้คือใคร ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง คืออดีตนักฟุตบอลทีมชาติ ผมขอให้เกียรติแกก่อนในเรื่องคุณสมบัติของแก จบมัธยมศึกษาจากสวนกุหลาบวิทยาลัยและเตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบโท M.A.Columbia Univ. จนมาจบเอกที่ M.S. Univ. of Pittsvurgh U.S.A ผ่านการเล่นบอลอย่างโชกโชนเริ่มชีวิตค้าแข้งกับธ.กรุงเทพ ได้แชมป์ถ้วย ก.สามสมัย แชมป์ควีนส์คัพอีกหนึ่งสมัย ติดทีมชาติในชุดเยาวชนชิงแชมป์เอเชียที่มาเลยเซีย ได้เล่นกีฬาซีเกมส์สมัยเป็นกีฬาแหลมทองครั้งแรกแต่ได้แค่รองแชมป์ หลังจากนั้นหกปีจึงค่อยมาได้เหรียญทองกับการคว้าเหรียญทองในการเปลี่ยนชื่อเป็นเซียฟเกมส์ เขาเล่นบอลอยู่สมัยหนึ่งแล้วก็ไปเรียนต่อ กลับมาด้วยวุฒิปริญญาโทก็ยังได้กลับมาเล่นในนามทีมชาติ ส่วนใหญ่ก็เซ็นเตอร์ แบ๊ค มาเป็นกองกลางและปี ยิงได้ห้านัดในร้อยเกมส์ที่รับใช้ทีมชาติ กลับไปเรียนต่อเอกด้านเศรษฐกิจสังคม (มันเกี่ยวอะไรกับฟุตบอล) กลับมาเมืองไทยครั้งแรกได้เป็นโค้ชคิงส์คัพ ที่คุมนักเตะชุดที่มีนักเตะคุ้นชื่ออย่างน้าอ่ำอำนาจ เฉลิมเชาวลิต, ดาวยศ ดารา, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ทำได้พักเดียวก็หันหลังให้ฟุตบอลอีกไปทำงานที่ตนเองเรียนมา ตอนนี้อายุเท่าไรครับ .............. 66 ปี ทำงานปตท.มายี่สิบปี เกษียณอายุแล้วไม่มีงานอะไรทำก็มาทำงานลีกที่เราต้องการคนที่ตั้งใจคนที่มีกำลังคนที่มีไฟ ได้เขามาในฐานะกรรมการบริหารมือหนึ่งอีกมือเป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆ นี่คืออะไรกันครับ... ช่วยกันตอบหน่อย เกิดแกตายมาในระหว่างเล่นลีกอยู่ เราจะทำอย่างไรกันครับ เพราะมันอยู่ที่คนมากกว่าอยู่ที่ระบบ เปลี่ยนจากชัยภักดิ์มาก็เปลีย่นแค่จากคนไปสู่คนแต่สมาคมไม่ได้ทำให้ลีกมันเป็นระบบ คนต้องมาตามระบบจะไม่มีชัยภักดิ์แต่แผนเดิมระบบเดิมมีก็ต้องทำไปตามนั้น แล้วตอนนี้เป็นไงครับ ทำตามหัวตัวใหม่นี่คือการเดินทางของบอลไทยลีก ดีกรีการศึกษา การทำงานบริษัท มันคนละเรื่องกับวุฒิและความรู้ของทางด้านกีฬาโดยตรง ถ้าเข้ามาจดทะเบียนรับทำงานเป็นคนจัดการไทยลีกแล้วบอกกับสังคมว่า ทุนจนทะเบียนช่างมันเถอะ ตกลงบริษัทไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกที่บริหารจัดการงบประมาณลีกเป็นหลายสิบล้านด้วยทุนแบบนี้คือการจัดการแบบฝรั่งหาเมียไทยแล้วจดทะเบียนซื้อบ้านแบบนั้นใช่ไหมครับ พอเปลี่ยนกันอีกก็ปิดบริษัทแล้วจดใหม่ทำใหม่ นี่ครับโครงโลกนิติบทแรกของคนมีการศึกษาและคนมีวิสัยทัศน์จัดการเรื่องลีก ผมแก่แล้ว เขาเห็นว่ามีประโยชน์เขาก็เชิญมา เอาอีกแล้วครับ เชิญมา เชิญมาช่วย เชิญมายำ เชิญมาอ่าเหวอะไรก็แล้วแต่ เหมือนโค้ชไงครับ เชิญมันมาจนตกรอบบอลโลกเพราะมาช่วยไง มันจบที่มาช่วย ห่วยชาติบรรลัยมันจบประโยคเดียวก่อนเดินจากไปคือ "ผมมาช่วยน่ะ อย่ามาด่าผม" แต่มือน่ะแบรับเงินเต็มๆ จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 10:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผม ดู แต่ ฟุตบอล ยุโรบ นะครับ จากคุณ : เบียร์ (เจ้าเมืองบูรพา) - [ 7 ก.พ. 52 10:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ดูกันใหม่อีกทีน่ะครับว่าจดทะเบียนเมื่อไร... (ทดเรือ่งกฏเอเอฟซีไว้ในใจก่อนน่ะครับอย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน) คำถามคือ จดมานานแล้ว แล้วทำไมวางแผนงานเรื่องลีกไม่ได้อีก ได้แต่ออกมาหึ่มๆ เขา ทีโอทีจดหรือยัง กรุงไทยจดหรือยัง เหมือนคนมีวิสัยทัศน์ดีไหมล่ะครับกับระดับ ดร.น่ะ กี่ดร.แล้วในเมืองไทยที่เห็นหน้าสังคมแล้วความคิดกับวิสัยทัศน์ประหลาด กรุงไทยแถลงกับสังคมผ่านส่วนงานกีฬาเขาว่าวันที่ 8 มกราคมจะแถลงว่ากรุงไทยอยู่หรือไป ไม่ได้รู้เรือ่งไม่พอครับ เขายังไม่ตามไม่ตั้งเงื่อนไข จนมารู้ทีหลังว่ากรุงไทยยุบก็ปลายเดือนมกราคม โยงมาต้นเดินกุมภาพันธ์ กำหนดเดิมที่จะเปิดลีกคือวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ ก็เลื่อนไปทันทีอีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น ตอนนี้ทำงานหรือยังครับ ประกาศใส่สังคมว่าจะมีตารางลีกอีกไม่นาน ตารางลีกไม่ออกไม่ต้องคุยเรื่องวิสัยทัศน์การทำงานของไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ผมเล่นประเด็นคำถามนี้มาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมผ่านบอร์ด มีสมาชิกมากมายช่วยกันตอกย้ำ ตารางไทยลีกมันจะบอกหมดครับว่า ไปตรวจสนามแล้วหรือยัง ไปตรวจว่าทุกทีมพร้อมหมดแล้วกับเงื่อนไขของเอเอฟซีจดทะเบียน มีรายชื่อกรรมการที่มีวิสัยทัศน์มีคุณภาพมีผลการทำงานที่ดีกว่ากรรมการห่วยๆ อย่างถนอม บริคุตและอีกมากมาย มีหน่วยงานในการพิจาณาโทษและการตัดสินของทุกๆ คนเหล่านั้นทั้งนักเตะ โค้ชและกรรมการ อย่าลืมคำนี้น่ะครับคำคลาสสิคเลยของชุดบริหารสมาคมภายใต้หน้าของคนที่ชื่อวรวีร์ มะกูดี ทำไมเราถึงพยายามอยากหาคนชื่ออื่นบ้างเพื่อมาพูดกันถึงแก่นปัญหา ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นเพิ่งจะแก้ไขกันไปด้วยการหยิบเอาบางกอกกลาสมาเสียบใส่กับกรุงไทย บางกอกกลาสคืออะไร ก็คือทีมที่เคยมีปัญหากับนครปฐมมาแล้วจนแฟนบอลหลายคนหมดศรัทธาไปกับการพยายามควบรวมฮุบ นครปฐมถึงทางตันแล้วกับการหาทางออก จะอดทนเอาบ้านไปจำนองและเอาที่ไปไว้กับธนาคารได้มากน้อยแค่ไหน นี่คือประเด็น น้าฉ่วยเองก็ออกมาส่งเสียงแล้วว่มีแค่ห้าล้านเอาอย่างไรดี จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 10:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 82 นี่คือจุดแรกก่อน ปีที่แล้วเรามีปัญหาเรือ่งไล่ไปจดทะเบียนกับทีมๆ หนึ่งชื่อทีมจังหวัดพิษณุโลกซึ่งเป็นทีมจังหวัดที่ไปจดทะเบียนโดยลืมดูโครงสร้างของทีมว่าทีมเกิดมาได้จากจังหวัดรับงบจากกกท.พอไปจดปั๊ปก็มีปัญหาทันทีเนื่องจากงบทำทีมเป็นงบกกท.จังหวัด นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกในเบื้องต้น หันมาที่นครปฐมผมเชื่อว่าการที่มีอดีตรมต.คนหนึ่งไปนั่งดูในสนามโดยเฉพาะนัดที่กระฉ่อนโลก แฟนบอลวิ่งเข้าไปต่อยหน้ากรรมการต่อหน้ารมต.คนนั้น คนที่นามสกุลชอบเก็บทรัพย์สินอะไรนั่นแหละ ถามว่าจริงใจหรือเปล่าในการให้ความช่วยเหลือ เหมือนกับสายชลบุรี ตอนนี้ชลบุรีไปไกลมากในระดับฟุตบอลพื้นๆ ผมสงสารทีมหลายๆ ที่ที่พยายามอยากจะให้ทีมเป็นระดับอาชีพแต่เนื่องจากประเทศนี้มันไม่มีกระแส กระแสคืออะไรคือการโหมประชาสัมพันธ์ บอลอังกฤษมันดังไม่ใช่เพราะดังที่เตะสนุกอะไรมากมาย แต่มันเป็นเพราะกระแส บอลกัลโช่ในอดีตก็เช่นกันมันดังเพราะกระแส บอลไทยก็ดังเพราะกระแส แต่กระแสจะดังได้อย่างไรถ้าระดับหัวมันไม่มีแผนประชาสัมพันธ์ งบประชาสัมพันธ์เป็นงบหลักที่ภาคธุรกิจมองแต่อยากให้เขาเป็นแบบธุรกิจแต่ไม่มีการบริหารเรื่องสื่อ กระแสง่ายๆ ที่เริ่มคืออย่ากลัวตัวเองหน้าแหก อย่ากลัวตัวเองเสียชื่อ แต่จงจริงใจในการสร้างกระแส ด้วยการถ่ายทอดสดฟุตบอล ปล่อยให้ฟุตบอลเป็นธรรมชาติของมัน แต่เพราะหลักการฟุตบอลเมืองไทยมันบิดเบี้ยวไปด้วยเรื่องเดียวคือผลประโยชน์ พอมีผลประโยชน์มันก็มีพวกพ้อง ไปถามกับปากคนชื่อวรวีร์ มะกูดีซิครับว่า สมาคมให้สิทธิ์สื่อชนิดใดเป็นสื่อข้างกายของตัวสมาคมฯ หรือสื่อใดที่ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดที่ไม่ใช่ระดับลีก การบริหารจัดการทุกอย่างบิดเบี้ยว เลวร้าย เม็ดเงินถูกเก็บมุบมิบ ผลประโยชน์ระดับชาติแต่จัดการและเปิดเผยระดับภูธร ตราบใดไม่มีสื่อไม่ต้องพูดถึงกระแส .............. ถ้าไม่มีกระแสก็ไม่ต้องพูดเรื่องพัฒนาอะไรอีกต่อไป แล้วเมื่อพูดถึงเรื่องพัฒนาไม่ได้อีกต่อไป มันก็จะเริ่มมีสัญญาณแห่งหายน่ะของวงการบอลไทย จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผมแค้นใจมากว่าทำไมขับรถไปตั้งไกล ทำไมหลายทีมเล่นกันไปอย่างนั้น.... นี่หรือทีมที่เรียกได้ว่าระดับไทยลีก หรือทีมที่เล่นในลีกของประเทศไทย เขาเตะอะไร เขาทำทีมกันอย่างไร แต่เราจะไปด่าพวกนี้ทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะเขาลอยคอพวกนี้ให้ทำกันแล้วตัวฉันนั่งเกาเคราเก็บผลประโยชน์ไป พวกเขาก็ท้อ บ่นคำเดียว ตัดสินได้แย่มากมันบอกว่า "ทำพวกกรูหรือ ทำอะไรทำได้แต่ทำพวกกรูเมิงอยู่กันไม่ได้" ผลก็คือหายหน้าไปหกเดือน ออกมาโวยวายแบบอาร์เซน แวงเกอร์ แล้วโดน นี่หรือครับลีกที่จัดการดีบริหารดี ตอนนี้ก็แค่มีเงินก็ทำกันไปไม่มีก็จบกัน ทิศทางไปไหนครับ จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไปนั่งดูกันไป มีก็ดูไม่มีก็ดูงั้นหรือ เราคิดกันได้แค่นี้ใช่ไหมกับวงการฟุตบอลของไทย ได้ลองไปคุยกับพวกเขาไหมที่ปีที่แล้วเขากำลังมีฝัน มีงบลงมาตั้ง 18 ล้านแต่ปีนี้หายหน้าไปแล้ว.... หายไปสองทีม ฮอนด้ากำลังจะหายไปอีกทีม ถ้าคนพูดแบบสุกเอาเผากินน่ะ.. ก็นี่ไงเส้นทางการพัฒนา ใครอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ต้องหายไป ใช่เลยครับจริงครับ แต่มันอยู่กันไม่ได้ที่ฐานของปัญหา ผมเชื่อว่าปีนี้ถ้าบางทีมในไทยลีกจะถอนตัวหรือยุบทีมกลางลีกก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แต่ก็จะมีทางแก้ด้วยการโยนเงินมันลงลงมา แก้ไขกันไปปีต่อปี แผนพัฒนาคืออะไรกันแน่และลีกไทยที่ว่ากระแสดีๆ ที่ว่านี่คืออะไรกัน น้ำตาจะไหลไหมครับทีมมีเงินด้วยแต่เล่นไม่ได้ เงินมากกว่าทีมหลายทีมแต่เขาไม่เล่นเขาไม่เอาแล้ว น้ำจาจะร่วงกันไหมครับเห็นมาตั้งแต่ยังเด็กยังเล็กเคยไปนั่งดูสมัยเล่นกันไทยญี่ปุ่น สนามศุภ คนแก่ๆ หัวหงอก ที่เคยสังกัดกันมาก็น่าจะรู้สึกและสำนึกกันได้แล้วว่าอะไรจะเป็นอะไร ทีมไหนจะหายกันอีก พวกคุณเดาไม่ออกจริงๆ หรือ จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กรรม แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 11:32:28 จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 86 บาร์เซโลน่าและบอลลาลีก้า มีระบบแฟนบอลบวกผู้บริหาร เขาจะเปิดให้แฟนบอลที่เป็นแฟนบอลเข้าชื่อซื้อสิทธิสมาชิกปีหนึ่งประมาณ 140 ยูโร (ผิดถูกไม่ต่างจากนี้นิดหน่อยน่ะครับ) เขาให้แฟนบอลที่เข้าเป็นสมาชิกต้องลงชื่ออย่างน้อยครึ่งปีก่อนที่จะมีสิทธิ สิทธิที่ว่าคือเลือกตั้งประธานสโมสร สโมสรเป็นแก่นแล้วให้ประธานมาแล้วไป แต่เมืองไทย ประธานอ่าเหวอะไรก็แล้วแต่เป็นประธานแล้วสโมสรและทีมเป็นตัวรอง ถ้าเขาหายไป ก็คือทีมหาย เหมือนบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกหรือหัวสมาคมฟุตบอลมันหายไปเมื่อไรก็ต้องเริ่มกันใหม่เพราะมันไม่ได้จริงใจทำงานวางระบบให้บอลไทยและวงการบอลไทย ทุกตัวทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง พวกเขาแม้แต่สนามเขาก็ยังเอาไปใช้ทำอะไรมากมายผมเลยตั้งคำถามว่ากรุงไทยเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าสนามก็น่าจะเอาสนามมาทำอะไรแบบพวกเขาการหาเงินมันทำได้หลายๆ อย่าง เช่นจัดคอนเสิร์ต จัดเทศกาล จัดทัวร์นาเมนท์บอลเด็กเรียกพ่อเรียกแม่มาจ่ายเงินดูลูก ผมติดตามสถานการณ์ของชลบุรีมากเพราะสายชลบุรีที่ไปตระเวนดูฟุตบอลไม่ใช่ธรรมดา เขาไม่ใช่จะเอาที่นั่งมาใส่ เขาเอาไฟมาใส่ก่อน เงินมันมีจำกัดก็ค่อยๆ ตกค่อยๆ แต่งแล้วค่อยๆ เติม จัดกระแสแล้วเรียกคนดูมาให้ได้เท่านั้นเองอันนี้สำคัญมาก เงินมันหาได้จากตั๋วเท่านั้นจริงๆ หรือครับ เอามาจ่ายค่าสิทธิเช่าสนามบางแห่งอย่างสนามจุ๊บ วันล่ะเป็นแสนๆ น่ะครับ เก็บอย่างไรก็ไม่คุ้มหรอกครับนี่ยังไม่ต้องไปพูดเรื่องจ่ายค่าตัวนักเตะ ตั๋วเข้าชมหรือครับ.................... มันไม่ใช่คำตอบหรอกน่ะ นั่นเป็นแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นเอง เสื้อมันจะขายได้ก็ต่อเมื่อมีนักเตะที่เก่งเรียกเป็นแม่เหล็กเหมือนท่านหนึ่งพูด ต้องมีนักเตะหล่อๆ เดี๋ยวนี้น้องผู้หญิงหรือผู้หญิงมันมากกว่าประชากรชาย เข้าไปนั่งดูบอลควีนส์คัพไปดูเหมือนไปดูคอนเสิร์ตปวดแก้วหูแต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกนี้แหละพวกตลาด เหมือนนิตยสารฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้ช่วงหลังเหมือนหนังสือบอลหาคู่ แบบในไทยรัฐ เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ขอเป็นแฟนขอเป็นน้องสาวได้ไหมค่ะ มีแฟนหรือยัง....... ถึงจะบอกว่ากรรมกับบอลไทยแต่มันก็ต้องจับพวกนี้มาทำเป็นเงินดีกว่าปล่อยให้ไปซื้อเทปเกาหลีหรือรูปเกาหลีหรืออย่างอื่นแทน จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 87 danielle  รู้ดีจัง  ใน คหที่ 78 อะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 11:35:51 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 11:35:07 จากคุณ : ^-^Fanta-Boy^-^ - [ 7 ก.พ. 52 11:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ผมก็เคยคิดเหมือนจขกท.และน้ำตาตกมาแล้วกับการเห็นภาพธ.กรุงเทพต้องยุบทีม ต้องเห็นกรุงไทยยุบทีม.... ต่อไปประเทศเราก็คงมีแต่สายชลบุรีแข่งกันถ้ายังเป็นกันแบบนี้เพราะว่ามันไม่ใช่แค่เอาตัวรอดเท่านั้นแต่การเล่นมันก็ต้องเอาตัวรอดด้วย เด็กนักฟุตบอลจะมาเห็นแก่ตัว กรูจะเล่นสไตล์กรูอย่างเดียวพวกนี้อย่าเก็บไว้ครับ ถ้าเปลี่ยนแนวคิดไม่ได้ ไม่สามารถจัดการทีมสอนบอลโค้ชบอลให้มันดีขึ้นจนเรียกศรัทธาแฟนบอลไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดครับ บอลองค์กรเอาตัวรอดไหมเอาตัวรอดได้ครับแต่ไม่ใช่เอาตัวรอดเพราะรายได้แต่เอาตัวรอดเพราะงบที่เขาจัดให้ หายน่ะของวงการบอลไทยอยู่ที่ระบบการโค้ชและสอนบอลเด็ก ทำไมญี่ปุ่นยุคแรกๆ เขาถึงกล้าซื้อกล้าเอาโค้ชดังๆ มาไม่ใช่เพราะต้องการเอาชื่อเอาเสียงแบบที่นายกสมาคมไทยเคยปัญญาอ่อนไปให้สัมภาษณ์อะไรไว้ในบางรายการ อนารถมากครับ เขาเอาไปเพื่อไปปรับแนวคิดการเล่นของนักเตะญี่ปุ่น มาเห็นเขาเล่นชนะฟินแลนด์ขาด แต่แพ้ทางบอลบาร์เรนก็ช่างมันเถอะครับแต่สไตล์การเล่นของเขามันไม่ใช่ทีมเอเชียแล้ว เขาจะไปหนึ่งในสิบทีมของโลกแล้วเรายังตั้งไข่ไม่ได้เลยคืออะไร ถ้าบอลมันบูมจริงๆ ทีมทุกทีมต้องมีงบประมาณทุกอย่างตั้งแต่เปิดลีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านแล้วครับ ลิขสิทธิ์ไฮไลท์บอลไทย เสื้อ สนาม ของที่ระลึก อีเวนท์ฟุตบอล ฯลฯ มันถึงกันหรือเปล่าครับ แล้วถึงกันกี่ทีม องค์กรธุรกิจปีนี้กำลังจะเน่า ดร.สายเศรษฐศาสตร์คิดเผื่อหรือยังครับ แล้วถ้าเขาไม่มีเงินทำทีมต่อไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน เล่นไปแปะเงินนักเตะไปแบบที่เห็นนั่นล่ะจะทำอย่างไร สิ่งที่เห็นว่าดีบางทีก็ไม่ดีอย่างที่คิดหรอกครับ มันเป็นภาพลวงตาเราครับ แฟนบอลเขาพยายามทำแล้ว แต่มันทำไปบนพื้นฐานของการดิ้นรนเชื่อเหอะครับไม่นานหรอกครับ คืนสู่สามัญ แฟนบอลอย่างผมยังเซ็งเลยน่ะไปแล้วเห็นเล่นแบบเดิมๆ อย่างนี้หรือ ไปแล้วไปเตะกันไปงั้นๆ เดิมๆ จะลากจะเลื้อยเล่นยากๆ บอลไม่เป็นบอล เตะกันหยุดเตะกันหยุด ไปเตะบอลใต้ตึกเถอะครับ บางคนเห็นชัดเลยมันเตะฟุตซอลมาไปจับเด็กมาจากฟุตซอลหรือ เอาหน้าเท้าแปะบอลเล่นกันแคบๆ พื้นที่สนามมีตั้งมากแล้วจะทำอย่างไร เกิดอะไรขึ้นเอากันให้แน่ๆ เลยครับ มันเละมากแล้วครับ จะบีบเขาให้ไปจดทะเบียน ส่วนของสมาคมที่ลงงบประมาณเท่ากับเวียตนามหรือเปล่า กกท.ให้เท่าไร ปตท.ให้อีกสามปี 75 ล้าน แฟนบอลเขาจำ มันเตะกันหนึ่งถึงแปดได้กันยี่สิบกว่าล้านถามว่ามันจะขยับไหม บางทีมก็ต้องมองเงินอยู่ตรงนั้น ใส่กันเต็มที่หาได้ไหม จริงใจไหม บางทีมทำมาเจอแบบนี้เข้าไปถามว่าจะทำอย่างไร ส่งบุคลากรตะไลในนามฟีฟ่ามาทำทีมเขาพังอีก แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 22:23:06 จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 89 จัดกันมา ทีมเอาตัวรอดหาเงินรายได้ไม่ได้ นักเตะไม่สามารถขึ้นไปเล่นในระดับเรียกศรัทธาได้ เก็บเงินและหาอีเวนท์ลงกับสนามฟุตบอลและทีม ฯลฯ ไม่ได้ สมาคมไม่สามารถจัดการองค์กรรับผิดชอบเรื่องบอลลีกเป็นวาระแห่งสมาคมไม่ได้ สมาคมหาคนที่ทำงานในไทยลีก กรรมการสนาม กรรมการพิจารณาโทษ ผู้ตรวจสนามและผู้ประสานงานของสมาคมในลีกเพื่อรักษาความเรียบร้อยในสนามไม่ได้ สมาคมไม่สามารถรองรับปัญหาที่จะเกิดในภาพความจริงใจแทนที่จะเอากลุ่มนั้นเป็นพวกกลุ่มนี้เป็นพวก นักเตะเล่นกันไปเดิมๆ โค้ชก็โค้ชกันเดิมๆ แล้วจะเห็นแบบเดิมๆ อะไรใหม่ๆ จะมีหรือไม่ เงินยังหวังกันที่กลุ่มทุนและสปอนเซอร์โดยทำแบบคนอื่นไม่ได้ที่มีระบบธนาคารลงมาเหมือนทีมในเวียตนาม ญี่ปุ่น ไม่ต้องไปเอาบาร์ซ่าลงมา ไม่มีเงินไปกู้มาเติมสนาม มาซื้อสนาม มาทำที่นั่ง ฯลฯ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น และตราบใดที่มี มีกรรมการ มีคนจัดการแข่งขัน มีคนประสานงานและพิจารณาโทษเดิมๆ ก็เตรียมดูครับบางทีมอาจเตะแล้วเซ็งถึงที่สุดทำร้ายกรรมการแล้วประชดเลิกทีมกันเลยแล้วเราจะทำอย่างไรครับ สร้างกันมากับมือแฟนบอลไทย ไอ้คนรับผิดชอบง่ายๆ แค่ทำให้มันบูมยังทำไม่ได้ คนที่ทำคือแฟนบอลแล้วจะทำอย่างไร จำไว้ล่ะกันกับบุคลากรที่จะเป็นหายนะและทำวงการบอลไทยลีกสบั้นในปีที่จะถึงนี้ พวกนี้ครับ และขอให้จำชื่อนี้ไว้น่ะครับ "ถนอม บริคุต" ลองไปติดตามการเป่านกหวีดของเขาได้ หลังจากเห็นกันมาในแมทช์สนั่นโลกมาแล้วไม่นานนี้ จับตาดูบุคลากรของสมาคม ที่จะเป็นหายน่ะของวงการบอลไทยลีกดีๆ ครับ ถ้ามันจะตายก็ตายจากตรงนี้เป็นต้นเหตุทั้งหมดทั้งปวง จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 11:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ใครก็ได้ เอากระทู้นี้ ไปให้ทุกทีมในไทยลีกอ่านหน่อยครับ และ Xerox ไปกองหน้าสมาคมฯ สัก 100-200 ชุด ให้เขาได้อ่านความคิดดีๆ ของแฟนบอลบ้างครับ ถ้าได้เริ่มทำบางอย่าง ตามความเห็นแบบในกระทู้ บอลไทยเกิดแน่ครับ จากคุณ : Tong (Tong tongie) - [ 7 ก.พ. 52 12:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ความคิดเห็นที่ 87   danielle  รู้ดีจัง  ใน คหที่ 78 อะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 11:35:51 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 11:35:07 จากคุณ : ^-^Fanta-Boy ระวังน่ะผมดักอะไรไว้บางอย่าง.... ความเห็น 78 ไม่ใช่ของผมน่ะอ่านล๊อคอินดีๆ และความเห็นใน 77 นั้นไม่ใช่ความเห็นของผมหรอกน่ะ ตอนนี้ผมกำลังดักดูความคิดว่ามีขบวนการแปลกๆ ไหมในการแก้ภาพหรือสร้างความชาชินกับปัญหาวงการบอลไทย กระทู้นี้ผมถึงได้บอกว่าจริงๆ แล้วถ้าตีมันดีๆ น่ะ นี่คือกระทู้ที่แรงที่สุดแห่งปีและเป็นกระทู้ที่สุดยอดแห่งประเด็นบอลไทยแล้วล่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 14:32:56 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 12:11:06 จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 12:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เข้ามาดู ... อ่านแล้ว รู้สึกดีครับ ... จากคุณ : D_YONG - [ 7 ก.พ. 52 12:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คห 91  ถ้าขยายความได้จะดีมากครับ คุณdanielle จากคุณ : ^-^Fanta-Boy^-^ - [ 7 ก.พ. 52 13:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เห็นด้วยกับ 56,60 สมควรเป็นกระทู้แนะนำจริงๆ แต่ที่อยากรู้อีกอย่างที่เรากำลังถกกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกัน จะมีใครจากสโมสรในไทยลีกมาเก็บข้อมูลบ้างไหม นี่แหละแฟนบอลไทยของจริง จากคุณ : สายลมเชยเชย - [ 7 ก.พ. 52 13:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เดี๋ยวนี้หลายเรื่องเริ่มเปิดเรื่องวิชั่ยเอเชียมาเยอะแล้วน่ะ.... รายละเอียดเอาไว้ทบยอดรวมเรื่องสรุปผลงานวรวีร์ในรอบการทำงานสองปีที่ผ่านมาดีกว่าครับ... จากคุณ : danielle - [ 7 ก.พ. 52 14:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 96 วันนี้เวียนอยู่กระทู้นี้ทั้งวันเลยไม่อ้อมค้อมเลยนะอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงฟุตบอลไทยในทางที่ดีใด้เห็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของฟุตบอลไทยจากหลายๆ ความเห็นหลายๆท่านมันมีความหวังยังไงก็ไม่รู้ผมอยากให้คนในสมาคมเข้ามาดูบ้างจริงๆว่าแฟนบอลเดี๋ยวนี้จะมาปากว่าตาขยิบโชว์วิสัยทัศน์แบบลมๆแล้งๆไม่ใด้อีกแล้วนะครับ จากคุณ : akejar1 - [ 7 ก.พ. 52 16:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 97 จำ วีระพงษ์ เพ็งลี กันได้ไหมคับ... จากคุณ : Ring of Fire - [ 7 ก.พ. 52 16:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 หลาย ๆ คน เชียร์ ลิเวอร์พูล  ก็อยากมีโอกาสไปนั่งเชียร์ ซึมซับบรรยากาศถึงใน แอนฟิลด์ แฟนบอลแมนยูฯ  ก็อยากมีโอกาสไปเชียร์ถึง โอลด์แทรฟฟอร์ด แฟนบอลอาร์เซนอล  ก็คงอยากไปนั่งเชียร์ใน เอมิเรตส์ สเตเดียม แฟนบอลเชลซี   หลาย ๆ คน ก็อยากไปนั่งเชียร์ถึงใน  สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฯลฯ อยากเห็นคนไทยคิดแบบเวลาเชียร์ทีมใน EPL  ชียร์ทีมไหน ถ้ามีโอกาสต้องไปเชียร์ในสนาม ของทีมนั้นให้ได้กับบอลไทยน่ะครับ  ถ้าทำได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้น  เป็นเวลากอบโกยของสโมสร แล้วล่ะครับ .. ยกตัวอย่าง   ถ้าแฟนบอล รักที่จะเชียร์ ชลบุรี เอฟซี และต้องตามไปดู ฉลามชล ถึง สนามเหย้าเลยแม้จะอยู่เชียงใหม่ก็เหอะ ..     ถ้าเป็นแบบนี้เมื่อไหร่  อื้อหือ .... จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม - [ 7 ก.พ. 52 20:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คุณ danielleรู้ดีมากกกกก เกี่ยวกับสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งมันก็เป็นมาอย่างนี้นานนมเนแล้วครับ ความจริงผมก็ไม่อยากลากเรื่องนี้ออกมา แต่ไหนๆคุณ danielle ก็พูดออกมาแล้ว ถ้างั้นขอถามต่อเลยว่าแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร จะให้สมาคมแก้ คงพึ่งไม่ใด้หรอกครับ สมาคมฟุตบอลฯ เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในการจัดการ การแข่งขันในประเทศไทย ประเด็นที่ผมกำลังให้พวกเราคิดต่อก็คือนายกสมาคม ถูกเลือกโดยสมาชิก แล้วสมาชิกมีใครบ้าง เอ่ยยยยยยย จากคุณ : SPFC - [ 7 ก.พ. 52 22:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เปิดไทยลีกเมื่อไหร่ก็ช่วยกันไปดูเยอะๆละกันครับ นั่นแหละที่เราทำได้ดีที่สุด จากคุณ : hellojob - [ 7 ก.พ. 52 22:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 กระทู้ดีมั่กๆ ครับ ทำให้ช่วยกระตุกต่อมความคิดของคนทำทีมไทยลีกเรื่องการบริหารจัดการเรืองเงินๆทองๆ ว่า อะไร คือ มายา อะไร คือ แก่น ที่ คนทำทีม ต้อง เน้น ในการหารายได้ ที่ไม่ใช่มาจาก สปอนเซอร์ รึว่า องค์กร เป็นหลัก เพื่อ ทีม จะ ได้โตแบบยั่งยืน Thai League Keep Walking... จากคุณ : K...United (oatbita) - [ 8 ก.พ. 52 02:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 102 หลงประเด็นกันหรือเปล่า ผมเชื่อแน่นอนครับว่า คนไทยดูบอลทีมชาติไทยที่สนามเยอะและรู้มั้ยว่าทำไมคนถึงไปดู ก็เพราะเป็นทีมชาติไทย เป็นของคนไทยทุกคนและผมก็เชื่อด้วยว่าคนพวกนี้ อยากไปดูบอลไทยลีกกันทั้งนั้น และเชื่อด้วยว่าเงินแค่ 50 บาท ทำไมจะเสียไม่ได้ เล็กน้อยมาก แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ระบบต่างๆของลีกส์น่ะ มันมีความเป็นสากลหรือยัง คือ ต้องเป็นทีมท้องถิ่น หรือ ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน จากตัวอย่างที่ตื่นเต้นกันไปทั่วประเทศก็ ชลบุรี สมุทรสงคราม นครปฐม พวกนี้มันตายตัวอยู่แล้วครับ เพราะเป็นทีมจังหวัด  แต่ถามหน่อยแล้วที่เหลือล่ะ แมวหน้าไหนจะไปเชียร์ บีอีซี เทโร (ชาวช่อง 3 ไปเชียร์หรือไง )  พนักงานยาสูบ ( คนที่ติดบุหรี่ไปเชียร์หรือไง?) หรือแม้แต่ พวกทีโอที การท่าเรือ ม.กรุงเทพ อะไรเทือกนี้  ถามหน่อยเถอะ คุณจะไปเชียร์มั้ย ไปถามคนรักบอลไทยเข้าเส้นบางคน อ๋อ ผมเชียร์ยาสูบ เพราะเล่นเร้าใจดี เป็นระบบ แต่ถามตัวเองอยู่ตรงไหนของประเทศ ตอบลพบุรี??? คือมันสามารถเชียร์ได้หมดแหล่ะครับ ถ้าชอบบอลไทยจริงๆ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเชียร์ใครก็ได้  เหมือนที่ชลบุรีมีการเห่อไปพักใหญ่   ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ไม่พ้นเหมือนกับการดู แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี มาดริด หรอกครับ คือ ก็เชียร์ ถามว่าเชียร์ยังไง ตอบก็มันเล่นสนุก ตื่นเต้น ถามว่าเวลามันชนะ เราจะภูมิใจมั้ย??? แมนยูเป็นแชมป์ชาวเมืองแมนเชสเตอร์ก็ฉลองกันทั้งเมือง ส่วนตาสีตาสาเมืองไทยล่ะ  ก็เฉยๆ มองตาปริบๆ       ตัวผมเองอยู่ นนทบุรี มืดแปดด้านไม่รู้จะเชียร์อะไร จะเชียร์ทีโอทีก็ใช่ที่ หรือจะเมืองทอง ก็แปล่งๆ  อยากจะให้มีทีมนนทบุรีซักทีก็ไม่มีโอกาส  ดังนั้นผมจึงเชียร์กรุงไทย เหตุผลคือ สนามน่าจะใกล้ที่สุด(สนามจุ๊บ) และมีมาตรฐานที่สุด ก็ติดตามเชียร์มาหลายฤดูกาล  จนฤดูกาลที่แล้ว  กรุงไทยเล่นแชมเปี้ยนลีกส์นัดสุดท้ายพบทีมจากจีน  นัดนี้เป็นนัดที่ทุกอย่างมันดูแย่ไปหมดในสายตาผม  เพราะผมตั้งใจไปดูมาก ที่สนามราชมัง  เดินไปหน้าสนาม เจอคนขายตั๋วนั่งหลับ เลยเดินไปอีกฝั่ง คนขายตั๋วก็นั่งอ่านหนังสือสปอร์ตพูลเตรียมแทงบอล ก็ซื้อตั๋ว ราคา100 บาทเข้าไปดู   เข้าไปถึง อึ้งเรยเพราะ คนดูทั้งหมดน้อยกว่านักบอลและสต๊าฟโค้ชรวมกันเสียอีก หนึ่งในจำนวนนั้นมีทีมชาติไทยยุค อ.หรั่งนั่งชมด้วย คาดว่าน่าจะเพิ่งซ้อมเสร็จ บรรยากาศระหว่างเกมเงียบมากๆ  มีกองเชียร์แฟนพันแท้กรุงไทย คาดว่าน่าจะเป็นญาติประมาณ 6-7 คน นั่งดูอยู่  (ถามกลับกันถ้าเป็นทีมชลบุรีแข่ง ถึงแม้จะตกรอบแล้ว คนดูจะเยอะมั้ย แน่นอน เยอะแน่นอนครับ ) เศร้ามากๆ  ก่อนจบครึ่งแรกบรรดานักเตะทีมชาติไทยก็ทยอยกันกลับบ้าน ไม่สนใจที่จะดูฟอร์มทีมกรุงไทยเลย เนี่ยแหล่ะครับ มืออาชีพ  อ่าว ออกทะเลมาซะนาน ก็คือ สรุปว่า คำว่าอาชีพของ จขกท คือการเก็บเงินค่าผ่านประตูใช่มั้ย ผมว่า ไม่ใช่  ลองให้ทุกทีมเป็นทีมท้องถิ่นหมดเลยสิ รับรองเต็มทุกนัด เมื่อเต็มทุกนัด สปอนเซอร์เริ่มเข้า เมื่อสปอนเซอร์เริ่มเข้า ก็เริ่มมีการโฆษณา เมื่อโฆษณา ก็มีคนเชียร์มากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะเป็นทีมท้องถิ่น  เมื่อแข่งไปเรื่อยก็เริ่มเอาเงินที่เก็บได้(แม้จะน้อยไปบ้าง)+กับสปอนเซอร์ปรับปรุงระบบการเก็บเงินหรือระบบต่างๆของสนามไปเรื่อยๆ อาจจะมีการขายตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บของสโมสร หรือ ออกมาตรการไม่ขายบัตรหน้าสนาม แค่เนี้ยแหล่ะครับ ใครมันจะกล้าเข้าฟรี   เพราะฉะนั้นครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปไม่รอดหรอก เอาให้มันเป็นสากลจริงๆ และให้คนดูเยอะก่อน  มันจะเป็นอาชีพแน่นอนครับ!! แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 18:52:12 จากคุณ : อิวาโนวิช - [ 8 ก.พ. 52 18:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณอิวาโนวิช ไปเชียทีม อบต นนทบุรีก็ได้นะครับ ตอนนี้เล่นชิงถ้วย ง. อยู่ หรือทีม ลพบุรี ซึ่งเข้าใจว่ากำลังจะแข่งในระดับ ด. 2 เลือกเอา จากคุณ : SPFC - [ 8 ก.พ. 52 18:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 104 สมมุติบริษัทแห่งนึง รายได้ 1,000 ล้านต่อปี ต้องเสียภาษีอย่างใดอย่างนึง 1.5% เท่ากับ 15 ล้านบาท แต่หากมีการ ออกกฏหมายว่า บริษัทที่สนับสนุนทีมกีฬา(ซึ่งเป็นทีมท้องถิ่น) ของจังหวัดใดจังหวัดนึง จะเสียแค่ 0.9% เท่ากับ 9 ล้านบาท แล้วเงินจำนวนนี้จะถูกนำให้สโมรสรท้องถิ่นนั้นๆ โดยมีการตรวจสอบ การใช้จ่ายต่างๆ ผมว่าบริษัทที่มีรายได้ พันล้านในไทยมีรายบริษัทอยู่ น่าจะ win win ทั้งคู่ จากคุณ : งุ๊งงิ๊งนุ๊งนิ๊ง - [ 9 ก.พ. 52 01:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 105 คุณงุ๊งงิ๊งฯครับ รัฐบาลในสมัยนายกทักษิณ ได้ออกพรก ฏีกาฉบับที่ 458 ปี 2547 ว่า ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือบุคคล บริจาคให้กับ สมาคมกีฬาฯ จะได้ส่วนลดหย่อนภาษี 1.5 เท่าของเงินบริจาค แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 20% ของรายรับก่อนหักภาษีครับ จากคุณ : SPFC - [ 9 ก.พ. 52 07:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ^^ ปัจจุบันกฏหมายนี้มีอยู่ป่าวครับ ผมไม่ทราบจริงๆ หรือว่าโดนโละทิ้งไปแล้ว... จากคุณ : งุ๊งงิ๊งนุ๊งนิ๊ง - [ 9 ก.พ. 52 10:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ดูด้วยนะครับ ตามกฎหมายนั้นน่ะ เงื่อนไขคือบริจาคให้ใคร ยังไง ทีมฟุตบอลจดทะเบียนรับโดยตรงไม่ได้สิทธิ์นี้นะครับ ต้องบริจาคผ่านองค์กรตามที่กฎหมายกำหนด จากคุณ : Certain_Shade_of_Green - [ 9 ก.พ. 52 11:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ การบริจาคนี้บริจาคผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ ท้ายที่สุดก็ให้กับสมาคมกีฬาที่ผู้บริจาค.งจะถูกระบุลงไปใน check ที่สั่งจ่าย เรื่องนี้เรื่องเล็กครับ เรื่องใหญ่คือหาผู้บริจาคครับ จากคุณ : SPFC - [ 9 ก.พ. 52 16:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 109 กฏหมายนี้มีผล 5 ปี เข้าใจว่าปีนี้เป็นปีสุดท้าย และเข้าใจอีกว่าเขากำลังทำเรื่องต่ออายุครับ จากคุณ : SPFC - [ 9 ก.พ. 52 16:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เชิญเข้าไปที่นี่ใด้เลยครับ เกี่ยวกับ พรก ที่กล่าวถึงในคห. 105 http://www.rd.go.th/publish/31852.0.html จากคุณ : SPFC - [ 9 ก.พ. 52 16:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ผมตามอ่านไม่หมดครับ ความเห็นเยอะมาก  เมื่อเริ่มคิดจัดตั้งอาชีพ ก็เริ่มเข้าท่าหน่อย  การตั้งอกตั้งใจที่จะพัฒนาบอลไทยเป็นเรื่องที่ไม่ใช่คิด และ วิจารณ์กันอย่างเดียว  กรุณาให้ความเห็นที่เกิดประโยนช์ในอันที่ คนที่รับผิดชอบจะนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังได้ด้วย   บอลไทยทำท่าดีทีเหลวมามากแล้ว  แทนที่จะได้ไปเล่นรายการใหญ่ๆอย่างที่ตั้งใจกันไว้ก็ไม่เห็นไปได้สักที   มาวันนี้ทั้งกระแสคนดู  กระแสหลายทาง บอลไทยควรเข้าที่เข้าทางกันได้เสียที   คนที่ลงมือทำก็หวังผลเลิศ  คนที่คอยก่อกวน ก็ยังทำกันต่อไป  แต่เชื่อว่าสักวันหนึ่ง ยังไม่รู้วันใหน ปีใหน ที่บอลไทยจะสำเร็จ  เมื่อความพยายาม ความตั้งใจมีมาตั้งแต่ต้น เด่ยวก็สำเร็จ  อย่ามาเปรียบกับต่างชาติ ที่เขาไปไกลกว่า  วัฒนธรรมคนไทย  นิสัยคนไทยเราก็ไม่เหมือนชาวบ้านเจาอยู่แล้ว  ดูเขาแล้วมาพัมนานั้นมันได้ แต่ถ้ามาเลียนแบบ กลัวว่าจะไม่เหมือน บอลไม่ได้เหมือนเสื้อผ้าที่ไทยเก่งลอกเลียนจนเหมือน แต่นี่ลูกกลมๆท่าจะใช้เวลานานอยู่ วันที่รอ พอศอ ที่คิดถึง เป็บเดียวก็ถึงแล้ว   ใจเย็นๆครับท่านผู้ชม   ใจเย็นๆ จากคุณ : ลำไยแห้ง - [ 10 ก.พ. 52 10:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ไปต่างจังหวัดมา กลับมาตกใจมาก ไม่คิดว่ากระทู้ที่ตั้งไว้จะยาวเหยียดขนาดนี้ แต่ผมดีใจครับที่แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ว่าก็แตกต่างกันด้วยเหตุผล ไม่มีการทะเลาะกันในกระทู้ เท่าที่อ่านผ่านๆ อย่างแรก.... ที่ผมเขียนใน คห. บนๆ ว่าไฟฟ้าไม่มีการเก็บค่าบัตร หรือใส่เสื้อไฟฟ้าเข้าฟรี ผมขอเปลี่ยนแล้วนะครับ เพราะไปดูที่ thailandsusu มาเขาบอกว่า คนต่อคิวซื้อตั๋วยาวมาก แสดงว่าไฟฟ้าผ่านไปอีกขั้นนึงแล้ว หรือที่ผมเคยบอกว่าเปลี่ยนจากสร้างฐาน เป็นสร้างรายได้ อย่างที่สอง.... คุณ SPFC ครับ อุตสาห์หลังไมค์มา ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเปิดกระทู้เพื่อให้แสดงความคิดเห็นกัน อาจเห็นเหมือนบ้าง หรือเห็นแย้งบ้าง หรือไม่เห็นด้วยเลย ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะ..เพราะผมเชื่อว่าต้องมีคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไทยลีกสักด้านได้เข้ามาอ่าน (อย่างน้อยเท่าที่ตามสื่อต่างๆ ก็เคยมีอ้างกระทู้ในพันธุ์ทิพ ไปพูดในรายการ) เพื่อนำความคิดเห็นของพวกเราไปปรับใช้ หรือทบทวนกัน คือ...ผมเชื่อว่าพวกเราไม่ได้วิเคราะห์ วิจารณ์แบบสาดเสียเทเสีย แต่เอาเหตุผลของแต่ละคนมาประกอบ เป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีใครเข้ามาอ่านและเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็จะเป็นผลดีครับ และสุดท้าย ผมยอมรับครับว่า ผมให้คำนิยามกับคำว่า "อาชีพ" นั้นแคบไป ซึ่งอาจเป็นแค่ส่วนเดียวครับ แต่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อาจจะสื่อถึงได้ดีที่สุด เพราะถ้าจะให้กล่าวถึงทุกๆ ด้านนี่ คงต้องเขียนหนังสือกันเป็นเล่มๆ ได้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่มาแบ่งปันกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 52 13:40:55 จากคุณ : nongden - [ 10 ก.พ. 52 12:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ เยี่ยมจริงๆ จากคุณ : k i b k e y - [ 10 ก.พ. 52 16:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ผมว่าพูดเกินไปนะคับ #78 "คือทัศนคติของคนไทยมันประหลาด เพราะถูกหล่อมหลอมมาอย่างประหลาดๆ ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ของสังคมเชื่อว่า คนซื้อตั๋วดูบอลคือคนโง่ ดูฟรีคือคนฉลาด .. คนเหล่านี้ไม่เคยมองอะไรไกลเกินตัวเองหรอกครับ ไม่คิดหรอกครับว่าไม่มีเงินเราแล้วเขาจะอยู่ยังไง ไม่เคยมีกระบวนการคิดที่เป็นระบบ แหมประหลาดน๊ะครับบัณฑิตจบมามีนึงเป็นแสนๆคน แต่ประเทศเจริญได้แค่เนี้ย ..ผมว่ามันประหลาด เป็นสังคมที่เน้นปริมาณมากกว่า คุณภาพจริงๆ" ยกตัวอย่าง คนจ่ายเงิน เป็นพันเพื่อเล่นบอล กินเหล้า เที่ยว เพราะเขาพอใจกับกับการจ่ายเงิน และพอใจกับสิ่งที่ได้รับกลับมา ถ้าผมไม่อยากดูบอลไทย หรือดูก็ได้ไม่ดูก็ดี จ่าย 30บาทผมยังว่าแพงเลย คุณอย่าเอาตัวเองเป็นศุนย์กลางจักวาฬ อย่างน้อยคุณต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค เมื่อคำว่าบอลอาชีพเป็นสินค้า การที่มันเป็นสินค้าแล้วจะให้พวกคุณลากพ่อแม่พี่น้องเพื่อน ที่เขาไม่ได้เตมใจเข้าไปก็ไม่น่าถูกนัก เหมือนกับคุณพยายามอุ้มเขากันอยุ่ ผมว่านะ จากคุณ : The แมลงปอ - [ 10 ก.พ. 52 18:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมคิดว่า เราได้ข้อสรุปพอสมควรในการเปิดประเด็นนี้ และก็อย่างว่าแหละ ผมได้สรุปใว้แต่ต้นแล้วว่าการถ่ายทอดสด จะแก้ปัญหาความเป็นฟุตบอลอาชีพได้อย่างบูรณาการที่สุดครับ ขอบคุณทุกความเห็นที่มีค่าในฐานะแฟนบอลไทยอย่างแท้จริง และก็อยากเห็นทีมไทยก้าวขึ้นสู่ทีมชั้นนำในเอเชีย และของโลกในอนาคต อย่างยั่งยืน จากคุณ : SPFC - [ 10 ก.พ. 52 20:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ให้กำลังใจทุกคนครับ ผมดูบอลนอกมายี่สิบกว่าปี เพิ่งเข้าไปดูบอลไทยเตะที่สนามจริงปีนี้เอง ตั้งใจว่าจะซื้อตั๋วเชียร์ทั้งในบ้านและนอกบ้านซักฤดูกาลนึง ดูว่ามันจะได้ใจผมมั๊ย ถ้านักเตะ กรรมการ สโมสร เป็นมืออาชีพพอ ผมก้อจะขอเป็นกองเชียร์มืออาชีพให้สโมสรท่านครับ ปล นัดที่ไปดูนักบอลดันจะวางมวยกันซะงั้น เฮ้อ จากคุณ : ErdbeereN - [ 10 ก.พ. 52 20:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 117 #116 เรื่องแบบนี้ผมก็เป็นห่วงเช่นกัน...แล้วส่วนใหญ่มันดันเกิดจากผู้ตัดสินซะด้วย..เข้าข้างใครหรือเปล่านั้นผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่า ไอ้กรรมการเทวดาพวกนี้ ขี้เกียจวิ่ง เป่ามั่ว ไม่ทันเกมส์ ไม่แม่นกฏแต่ชอบเป่าหยุดเกมส์เพื่อโชว์ว่าตัวเองแม่น มะเร็งร้ายของวงการบอลไทยโดยแท้...แล้วมันอึดอัดตรงที่เราทำอะไรพวกมันไม่ได้ซะด้วย... จากคุณ : จอมเทคนิค - [ 10 ก.พ. 52 22:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 118 แวะมาให้แล้วนะคะ จากคุณ : แพรวขวัญ - [ 10 ก.พ. 52 23:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ผมอ่านไม่ครบนะครับ แต่อยากแสดงความคิดเห็นนิดนึง ผมแย้งเต็มที่เรื่องถ่ายทอดสด ไอ้ถ่ายทอดสดนี่แหละจะทำลายวงการฟุตบอลไทย เพราะมันจะทำให้คนไม่ไปดูที่สนาม!!!! ที่อังกฤษ ไม่มีหรอกนะครับถ่ายทอดสดบอลพลีเมียลีก จะมีก็เฉพาะคู่ใหญ่ๆเท่านั้น และถ้ามีก็ต้องเสียเงินดู ไม่มีหรอกนะครับดูฟรี เขาต้องการให้คนดูไปดูที่สนามครับ จำได้ไหมสมัยพี่ตุ๊กยังเตะอยู่ แล้วตอนนั้นรัฐบาลไม่ยอมให้มีการถ่ายทอดบอลไทย เพราะต้องการประหยัดเงินค่าไฟ ปรากฏว่าคนดูเข้าไปดูกันล้นสนาม!!! ล้นจริงๆล้นไปถึงขอบเส้นสนามเลย ดังนั้นห้ามเด็ดขาดครับเรื่องถ่ายทอดสด ถ้าจะมีก็ต้องมีกฏที่่ว่าไม่มีถ่ายทอดสดในระดับท้องถิ่น เช่น หากทีมชลบุรีเตะ ที่ชลบุรีจะต้องดูนัดถ่ายทอดไม่ได้ แล้วคนที่จะดูได้ก็ต้องจ่ายเงินเป็น Pay per view ทางคนถ่ายเขาจะได้มีเงินไปจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ทีมบอล คนไทยชอบของฟรี ทั้งฟรีจริงๆ และฟรีแบบโกงๆ วิธีแก้ทำยังไง ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะมันติดเป็นสันดารเสียแล้ว ขนาดตัวผมเองยัง download หนังฟรีๆมาดูเลย จากคุณ : เก็น (guz-jung) - [ 11 ก.พ. 52 05:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 120 คุณ guz jung, การที่คุณค้าน ผมคิดว่า คุณยังไม่เข้าใจ ประเด็นค่าใช้จ่ายเลยนะครับว่าจะทำยังไงให้ทีมฟุดบอลเลี้ยงตัวมันเองได้ จากคุณ : SPFC - [ 11 ก.พ. 52 06:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เชื่อไหมว่าคนไทยไม่เหมาะที่จะทำงานให้คนไทย...ผมฟันธงตรงนี้ก่อนเลยน่ะ ดูอย่างกระทรวง ทบวง กรมก็ได้ เป็นหน่วยองค์กรเพื่อชาติแต่ก็ยังโน้มเอียงเข้าหาคนที่เข้ามาเป็นหัวหรือบุคคลที่มันเดินเข้ามาในชื่อที่เรียกว่ารัฐมนตรีแล้วทบวงกระทรวงทั้งหลายก็เน่าจากการดำเนินการ มันเลยไม่ต่างจากองค์กรที่เข้ามาจัดการเรื่องไทยลีกทั้งระบบ เรามีบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เพื่ออะไร เราไม่ต้องไปทำอะไรมากแค่ไปตรวจทะเบียนบริษัทก็พอแล้ว เขาจดทะเบียนไว้ที่ห้าล้านบาท แต่มาบริหารจัดการเกือบๆ ร้อยล้านบาท แถมต้องจัดการลีกทั้งระบบตั้งแต่พรีเมียร์, ดิวิชั่นหนึ่ง, ดิวิชั่นสอง, โปร ฯลฯ ถ้วย ก, ข, ค, ง ถึงเวลาต้องทำให้ชัดเจนหรือยัง ชัดเจนนั่นคือต้องแจงให้ได้ว่างบประมาณแต่ลาบาทนั้นเป็นอย่างไร ค่าใช้จ่ายในเรื่องบุคลากรเป็นอย่างไร ในเมื่อคุณผูกขาดทำกันเองแบบนี้ดันกันแบบนี้อำนวยกันแบบนี้ ถ้าว่ากันตามจริงแล้วนี่คือการกระทำในระดับคอร์รับชั่นเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกทีเวลาประมูลงานในส่วนงบประมาณของรัฐจะต้องเปิดประมูลเขาเล่นเรื่องนี้มาทำอย่างไรแต่มันเป็นแบบนี้มานานแล้วจนความเลวเป็นความชาชิน ทำถนนจดทะเบียนสิบล้านมารับงานร้อยล้านกี่ที่แล้ว แล้วหนีมากี่ที่แล้ว นี่คือสิ่งเดิมๆ กับระบบการดำเนินการที่วิสัยทัศน์ ผมจะไม่ด่าเลยน่ะถ้าหัวขององค์กรนี้ไม่เป็นคนในวงการสมาคมฟุตบอลไทย หนักไปกว่านั้นคือผมจะไม่บ่นเลยถ้าคนที่ทำไม่ใช่ดร.ระดับเศษฐศาสตร์ ผมฟันธงเลยว่าการจัดการจะแย่กว่าเก่ามาก โดยเฉพาะภาพเก่าๆ ก็จะกลับมาให้ลองติดตามดีๆ ปีที่แล้วตอนประกาศตารางแข่งขันพรีเมียร์เขาประกาศมาครบเลย ปีนี้ได้นัดต่อนัดแล้วแบบสะดุดสะอึกตลอด ยังไม่เห็นระดับวิสัยทัศน์เปิดตัวเลยมีแต่สัมภาษณ์ไปทีของคนระดับดร.อายุจะเจ็ดสิบปีไกล้เต็มทีแล้ว อนิจจาปีก่อนๆ เรายังจำได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นจำไม่ได้ผมเอามันมาฟื้นก่อน ...................................................... "สามารถ มะลูลีม ประกาศปีหน้างบประมาณกีฬาอาชีพต้องเด่นชัดแต่ละกีฬาได้เท่าไหร่ หลังงบจัดไทยลีก 70 ล้านบาท ปีนี้โดนตัดถึง 34 ล้านบาท เพื่อให้กับทีวี กีฬา แม้ว่าล่าสุดทางผู้ว่ากกท. จะยืนยันบอกว่าจะหั่นงบจากกองทุนกีฬาอาชีพมาเสริมให้จนครบ 70 ล้านบาทก็ตาม ส่วนสโมสรสมาชิกบอก หากงบโดนตัดมีปัญหาแน่ เพราะทุกวันนี้ไม่มีสปอนเซอร์หนุนต้องอาศัยงบจากรัฐบาลเข้ามาช่วย หลังจากที่มีข่าวออกมาเกี่ยวกับการที่งบประมาณไทยลีกที่จะจัดการแข่งขันในปีหน้าที่ได้จากงบกีฬาอาชีพจำนวน 70 ล้านบาท แต่งบดังกล่าวถูกหั่นออกไปจำนวน 34 ล้านบาท เพื่อไปให้กับทีวี กีฬา ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมงบประมาณไทยลีกถึงต้องมาโดนตัดทั้งที่เป็นกีฬาใหญ่ ล่าสุด สามารถ มะลูลีม ประธานคณะอนุกรรรมการกีฬาอาชีพได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองก็ไม่เข้าใจ และเริ่มสงสัยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวกับงบประมาณตัวนี้ หลังจากที่มีข่าวออกมาแล้ว ปรากฏว่ามีหลายคนโทรศัพท์ถึงตน และถามเรื่องราวต่างๆ ซึ่งได้บอกว่า ตนก็ไม่เข้าใจ งบประมาณที่ได้โดยเฉพาะฟุตบอลที่เป็นกีฬาอาชีพทำไมโดนตัด "ต่อไปนี้ผมคงจะหันมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ โดยในปีหน้าอาจจะมีการวางกฎระเบียบที่ชัดเจน ว่ากีฬาชนิดไหนได้งบประมาณเท่าไหร่ ก็รับกันไปเท่านั้น ไม่ใช่ประกาศออกมาเป็นภาพรวมว่าได้เท่านั้นเท่านี้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับโดนตัด ซึ่งจะว่าไปแล้วทีวี กีฬา น่าจะไปอยู่ในงบของการจัดการแข่งขัน ไม่ใช่งบกีฬาอาชีพ" ล่าสุดแม้ว่าทางผู้ว่าฯกกท. กนกพันธุ์ จุลเกษม จะบอกว่า งบส่วนหนึ่งที่โดนตัดออกไปจะเอางบจากกองทุนกีฬาอาชีพที่เป็นกองทุนใหม่มาทดแทนให้เท่ากับฟุตบอลลีกของไทยจะได้งบ 70 ล้านบาทเท่าเดิมก็ตาม แต่ตนถือว่าเป็นงบคนละส่วนกัน ขณะที่เหล่าบรรดาสโมสรไทยลีกก็ออกมาบอกว่า หากงบไทยลีกโดนตัดถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ โดย พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ โค้ชทีมทีโอที บอกว่า ถ้างบประมาณได้มาแค่ 36 ล้านบาท เงินบำรุงทีมย่อมได้น้อยลง และจะมีผลกระทบต่อการเตรียมทีมทุกวันนี้สโมสรแทบจะหาเงินไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสปอนเซอร์ไม่สนับสนุน ส่วน ประพล พงษ์พานิช กุนซือทีมการไฟฟ้าฯ ย้ำว่า งบประมาณกีฬาอาชีพกับทีวี กีฬา คนละส่วนกัน ไม่ควรที่จะเอามายุ่งเกี่ยวกัน" ............................................ ปีที่แล้วนี่มันบูมเพราะตรงงบที่หายไปนั่นหรือเปล่าครับ ใครก็ได้ลองตอบคำถามนี้ที บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำไฮไลท์เขาทำการถ่ายทอดแล้วเอามาขาย ขายสถานีขายอีเอสพีเอ็นเอเชีย นี่คือระดับจัดการที่เป็นมืออาชีพและเบสิคที่สุด แต่มันบูมเพราะแฟนบอลเป็นคนจัดการกันหรือเปล่า บางคนก็เขียนในเว๊ปมารีวิวให้เห็นเป็นช๊อตๆ เว๊ปไซด์สมาคมก่อนหน้านั้นเคยมีคนมาบอกว่า มีคนจัดการให้ แต่มารู้กันทีหลังรับกันทุกปากแล้วว่าจัดการกันเป็นระดับแสนแต่ได้คุณภาพมาระดับพัน กระจอกกว่าเว๊ปไซด์แฟนบอลหลายๆ คนเสียอีก ไม่มีอัพเดทข่าว ไม่มีอัพเดทประชาสัมพันธ์ลีก ไม่มีอัพเดทรายงานต่างๆ แบบที่สมาคมฟุตบอลการ์น่าก็ได้ เขายังทำได้ ทำไมเราจัดการในระดับองค์กรมืออาชีพไม่ได้ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกจัดการแจกแจงการทำงานงบประมาณและออกข่าวหรือยังว่าจะเดินหน้าตอบแทนเงินตอบแทนสิทธิให้ทุกทีมในพรีเมียร์อย่างไร จะขายภาพถ่ายทอดให้กับฟรีทีวีหรือเคเบิ้ลทีวีอย่างไร จะจัดการกับการขายลิขสิทธิให้ฟุตบอลเอเชียอย่างไร เอาว่าคิดหรือยังเพราะล่าสุดดร.วิชิตออกมาพูดในระดับดร.แล้วว่าต้องดูดูกันเป็นทีมๆ ปีที่แล้วปล่อยให้เขาจัดการกันเองอย่างชลบุรีที่ยอมเสียเงินจัดการเรื่องถ่ายทอดลงในเว๊ปของ สยามสปอร์ตเอง ปีนี้มันไปอีกระดับขั้นแล้วคุณต้องเข้าไปติดตามไม่ใช่ทำงานไร้ทิศไร้ทาง ได้เงินจากการขายสิทธิ์ก็ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าที่หนึ่งได้กี่เปอร์เซ็นต์ ที่สองได้กี่เปอร์เซ็นต์ เงินรางวัลต้องมากกว่าเก่า (ก็ไหนบอกว่ารู้จักนั่นรู้จักนี่ ปตท.ได้เงินจากการขูดรีดสถานีบริการเพื่อฮุปที่ต่างๆ มากมายเป็นมาเฟียวงการพลังงานได้เงินกินฟรีๆ จากประเทศปีล่ะกี่หมื่นกี่แสนล้าน โยนมาสามร้อยสี่ร้อยล้านคิดว่าเขาทำไม่ได้หรือ มันได้อยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้รู้จักกันและมีอิทธิพลกันจริง บริษัทอื่นๆ อีกล่ะเป็นอย่างไร เราพูดกันที่แนวคิดเพื่อให้เป็นผลสำฤทธิ์ แต่ความจริงใจกับความตั้งใจถ้าไม่เห็นจากคนจัดการระดับบริษัทพรีเมียรีหรือระดับสมาคมก็ถือว่าไม่ต้องพูดกัน ผมถึงบอกว่ามันมีทางไปน่ะ และมีทางจัดการเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจนด้วยขอเพียงแต่ถ้ามันแก้ไม่ได้คุณก็ต้องด่าสมาคมต่อไป สมาคมคือต้นเหตุหายนะของทุกอย่าง บริษัทพรีเมียร์ลีกโดยดร.หรือไม่ด๊อกก็ช่างมันเถอะแต่ถ้าทำแล้วเห็นกันเบื้องต้นแบบนี้ก็ส่ายหัวกันไปได้เลยว่า ลีกมันจะอยู่ได้แค่กันเองคือระดับแฟนบอลปั่นกระแสกันเอง ส่วนพวกเขาก็แค่ทำทำให้มันจบๆ ไปเป็นปีๆ แล้วก็ว่ากันใหม่ เหนื่อยใจไหมครับเหนื่อยใจไหม ความเป็นจริงที่ผมคิดน่ะถ้าประเทศไทยได้คนไทยจัดการกันเองชีวิตก็คงไม่เจริญ เปิดให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาจัดการประมูลแล้วทำโดยไม่ต้องไปเอาหลักการอ่าเหวอะไรที่ว่า "พี่เลี้ยง" "รู้จักเยอะ" "เป็นแบ๊คกราวด์" ต้องเปลี่ยนสมาคมให้ได้ เราถึงได้พยายามกันอยู่นี่ไงครับ รวมทั้งการให้คนนอกแข่งขันกันเสนอแนวทางพัฒนาแล้วแข่งกันเลยไม่ว่าจะไทยจะเทศแล้วจัดไป โดยเขากำหนดกฏเกณฑ์และสามารถฟ้องร้องสมาคมได้ในกรณีที่มีการแทรกแซงได้ ตราบใดหาระบบการโปร่งใสมาใส่วงการบอลไทยไม่ได้ ไม่ต้องไปหวังเริ่มนับหนึ่งกับอะไรเลยครับ ผมถึงได้ด่าสมาคมอย่างสม่ำเสมอก็เห็นมีหลายคนมันชอบสมาคมน่ะ มาเหน็บมาแนมว่ามันดีอย่างนั้นดีอย่างนี่แต่ดีอย่างไรนั่นคือสิ่งที่มันบอกไม่ได้ พื้นฐานความคิดการจัดการทั้งระบบมันเน่าทำอย่างไรก็ไม่รุ่งครับ แก้ไขตอนนี้ได้คือทุกทีมต้องกำหนดแนวทางร่วมกันกับบริษัทไทยลีก ถ้าสมมุติว่ามันจะแย่แล้วไม่ได้เล่นก็ประกาศให้สังคมได้เห็นเลย กล้าหรือเปล่าเท่านั้นเอง มีทีมในพรีเมียร์บอยคอตลีกแค่สามทีมก็จบแล้ว ทีมเอาแต่เดินตามตรูดการจัดการชีวิตทีมฟุตบอลของพวกคุณก็อยู่ในเขตระยะโคม่าเท่านั้น พวกคุณกล้าไหมจะขอประชุมร่วมแล้วกำหนดวิสัยทัศน์ให้กับบริษัทไทยพรีเมียร์หรือแม้แต่กับไอ้วรวีร์ มะกูดีมันว่า ทุกทีมขอให้มีหน่วยงานที่มีศักยภาพขอให้มีการเอาผิดกับบุคคลกรของสมาคมที่รุนแรง หากเป่าเกมส์ฟุตบอลผิดพลาดก็ต้องฟันดาบ เป่าเลวเป่าเตี้ยกันอย่างไรก็ได้เป่า ขับเบนซ์ขับวีโก้ไปจอดโชว์แบบนั้นมันบอกอะไร ระดับสุดยอดในเมืองไทยอย่างถนอม บริคุต มือระดับแค่นั้นเนี่ยะน่ะที่ว่าสุดยอด ห่วยจะตายอ่าอยู่แล้วยังบอกเป็นระดับสุดยอด เหนื่อยใจน่ะ เอาให้ได้ ถ้ากำหนดหลักการไม่ได้ก็ลองบอยคอตดูบ้างจะกล้าไหม หรือว่าเป็นประเภทมัดมือชกเหมือนผู้หญิงที่จำทนให้สามีข่มขืนทั้งๆ ที่สามีเลว ทนมันอยู่กับระบบแบบนี้พังมาก็โทษใครไม่ได้ ดูไอ้คนยกมือภาคีสมาคมปีที่แล้วหายไปสองแล้วน่ะ ใช้ความคิดให้มากๆ ล่ะกัน ถ้าพวกคุณไม่ดิ้นให้แฟนบอลไทยดิ้นให้มันไม่ได้เรื่องได้ราวหรอก ถ้าสุดท้ายหน้ามันด้านเหมือนพวกการเมืองพวกคุณจะหวังอะไร เราเอารายละเอียดมาลง เอาแนวทางมาลงและเอาหลักการแนวโน้มมาลงในเรื่องการจัดการ ถ้าสมมุติน่ะว่าเรามีสว.ไปเที่ยว เซย์ hello, how are you กับบุคคลากรพรีเมียร์บางทีมแล้วแหกปากว่านั่นคือการดูงาน ใสหัวสว.พวกนี้ไปเลยดีไหม มันรู้หรือเปล่าว่ามันจัดการเป็นระบบอย่างไร FA Premier League นั่นน่ะเขามีหลักการดำเนินอย่างไร เขาโปร่งใสอย่างไรแม้แต่ทุกเรื่องเนื้อหาลิขสิทธิเนื้อหาการทำสิทธิ ปกป้องสิทธิลงเว๊ปได้ถามว่าคุณไปมารู้มากกว่าหรือน้อยกว่าแฟนบอลไทยคุณก็ดูสมองพวกคุณก็แล้วกัน ผมเชื่อมั่นคุณ SPFP น่ะ (ถ้าผิดขอโทษด้วยครับ) อยากให้ช่วยจับตาดูการเลือกตั้งหน่อยเพราะผมจำแกได้ว่าแกเคยเข้าไปร่วมสมาคมในตอนที่มาดามมลแกยืนขึ้นถามเรื่องงบฟีฟ่า... ผมขออีกทางน่ะครับ ไม่อยากหน้าฉากหลังไมค์กับผมช่วยกันตรวจหน่อยครับว่าแต่ล่ะทีมที่เข้าเลือกตั้งมีใครบ้าง แล้วที่เลือกนั้นถ้าเลือกแบบลับก็ว่าไปถ้าไม่ลับก็ช่วยกันดูครับว่าหน้าแต่ล่ะคนนั้นเป็นแบบไหน เลือกเพราะอะไร เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไรอยากรู้ตรงนี้มากๆ ครับ จากคุณ : danielle - [ 11 ก.พ. 52 08:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 122 กระทู้ข้างล่างนี้ก็น่าสนใจครับ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7513938/S7513938.html งบประมาณจัดศึกไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกปีนี้หายห่วง กกท.เทให้เต็มที่ 63 ล้านบาท สมาคมลูกหนังไทยพร้อมจับปากกาเซ็นสัญญารับมอบอย่างเป็นทางการ 16ก.พ.นี้ แถมยังได้จาก ปตท.อีก 10 ล้านบาท แต่ยังต้องหาอีกหลายสิบล้านเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 110 ล้านบาท จากคุณ : SPFC - [ 11 ก.พ. 52 22:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ลีกปีนี้ น่าจะดีที่สุดเท่าที่เคยจัดมาแล้ว อย่างน้อย ก็ยังมีคนพอใจไปดูเป็นพันๆคน ต่อ หนึ่งสนาม ส่วนคนที่ไม่ไปดูยังไงก็ไม่ไปดูอยู่ดีนั่นแหละ พูดเรื่องนี้มา4 ปีแล้ว  ผมว่าลีกพัฒนาขึ้น แต่คนในพันทิป ส่วนใหญ่ก็ยังเหมือนเดิม  สงสัยยังไงก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย จากคุณ : Roy E Nem - [ 12 ก.พ. 52 05:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 124 มีทีมแนะนำให้ผมเชียร์ใหมครับ จะได้เป็นปีแรกที่ผมจะดูบอลไทย จากคุณ : ขุนขวาน (akejuven) - [ 12 ก.พ. 52 14:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คุณ ขุนขวาน อยู่แถวไหนครับ จากคุณ : SPFC - [ 12 ก.พ. 52 16:09:39 ]