ความคิดเห็นที่ 1 พลันที่เห็นรายชื่อของทั้งสองทีม ผมก็นึกในใจ วันนี้ ป๋าเรา เอานะ แน่ๆเลยนี่หว่า ไม่ได้ส่งตัวเด็กลงสนามมากมายอย่างที่บอกๆไว้แฮะ โดยผู้เล่นที่ลงสนามเป็นตัวจริงเกมนี้ ทางฝั่งปิศาจแดง ประกอบไปด้วย เบน ฟอสเตอร์ นายทวารดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ที่หมายมั่นปั้นมือจะแสดงลวดลายให้คาเปลโล่ได้รับชมกันสดๆ        แผงกองหลังมีจอห์น โอเช (เกร็กสัน), ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจนาธาน อีแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า        มิดฟิลด์คู่กลางใช้ พอล สโคลส์ และ ดาร์รอน กิ๊บสัน ตัวริมเส้น เลือกนานี่ ทางซ้าย และ โรนัลโด้ ทางขวา          คู่กองหน้าใช้ แดนนี่ เว็ลเบ็ค และคาร์ลอส เตเวซ ขุมกำลังพลสำรองข้างสนาม มีคุสแซ็ค, เอ็คเคอร์สลี่ย์, วิดิช, ปาร์ค, พอสเซบอน, อันแดร์สัน และ กิ๊กส์ ส่วนทางด้านจ่าแฮร์รี่ของเรา ส่งสิบเอ็ดตัวจริงลงมาดังนี้ ผู้รักษาประตูเป็น เอเรลโญ่ โกเมส      แผงกองหลังประกอบไปด้วย เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิล ดอว์สัน, เล็ดลี่ย์ คิง และ เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้        ใช้เจอร์เมน จีนาส จับคู่ ดิดิเยร์ โซโกร่า ตรงกลาง ริมเส้นมี อารอน เลนน่อน และ ลูก้า โมดริช คู่กองหน้าใช้ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ กับ ดาร์เรน เบนท์   พลสำรองข้างสนามไล่เรียงดังนี้ อัลวิค (โกล์), แกเร็ธ เบล, เดวิด เบนท์ลีย์, ทอม ฮัดเดิลสตัน, คริส กันเธอร์, อาเดล ทารับบ์ และ เจมี่ โอฮาร่า จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเกมปุ๊บ ท็อตแน่มใส่ปั๊บ ตามคาดไม่มีผิดครับ เกมนี้ แฮร์รี่  เร้ดแนปป์หรือที่ผมมักเรียกว่า เพรสซิ่งตัวพ่อ เพราะเจอกันไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ทีมไหน แกเป็นงัดเกมเพรสซิ่งเข้าใส่เราตลอด จะต่างกันบ้างก็ตรงดีเทลว่าจะเพรสซิ่งสูงหรือต่ำ หรือ หนัก เบา แค่ไหนเท่านั้นเอง เกมนี้ก็ไม่ต่างกันครับ ลูกทีมจ่าแฮร์รี่วิ่งกันลืมตาย ไล่บดบี้ กดดัน นักเตะยูไนเต็ดทุกจังหวะ ทุกพื้นที่ของสนาม หากใครไม่ได้ชมเกมสดๆ นึกภาพไม่ออก ก็ขอให้นึกเทียบกับทีมเราส่งเตเวซลงสนามทุกตำแหน่ง แล้ววิ่งไล่นั่นแหละครับ ใช่เลย เกมช่วงแรกจึงกลายเป็นสเปอร์ส ที่เร่งสปีดเกม พาจังหวะบอลของยูไนเต็ดให้หลุดจากความแม่นยำได้มาก แต่สเปอร์สเองก็เร่งซะจนเสียบอลบ่อยๆเช่นกัน แมนฯยูไนเต็ดพยายามคอนโทรลเกม ดึงจังหวะให้ช้าลงเพื่อหาทางกลับมาสู่จังหวะที่ตัวเองถนัด แต่สเปอร์สนั้นก็ไล่เพรสซิ่งบี้ได้ดีมากๆ ทำให้กว่าจะเข้าสู่เกมตัวเองได้แบบเบ็ดเสร็จ ก็ล่วงเข้าไปร่วมๆสิบห้ายี่สิบนาทีของเกม และเมื่อครองเกมได้แล้ว เกมตรงกลางสนามก็ตกเป็นของยูไนเต็ดโดยสิ้นเชิง จีนาสหายไปอย่างไร้ร่อยรอยในครึ่งแรก โซโกร่าต้องรับภาระหนักอึ้งในการตัดเกมรุกของยูไนเต็ด โดยที่สเปอร์สเองยังหวังใช้ทีเด็ดจากลูกโต้กลับเร็วโดยการวางบอลออกปีกสองข้าง ที่มีเลนน่อนที่มีสปีดเร็วกว่านรกทางขวา และโมดริช มิดฟิลด์เชิงสูงทางซ้าย เพื่อหาทางเปิดป้อนให้คู่หน้าที่ค้ำอยู่ในกรอบ  ซึ่งทั้งสองคนทั้งสองกราบสร้างปัญหาหนักหน่วงให้เราอย่างมากทีเดียวในเกมนี้ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อตัวผู้เล่นที่ป๋าเราส่งลงมานั้น บางคนยังคงไม่มีประสบการณ์มากพอจะรู้ด้วยตนเองว่า จังหวะไหนควรเร่ง ควรผ่อน ควรดึงเกมบ้าง หลายๆจังหวะเราจึงเห็นนานี่, เห็นกิ๊บสัน ตั้งหน้าตั้งตาลุยขึ้นหน้าไม่หยุดยั้ง ประกอบกับสภาพแวดล้อมนัดชิง ที่มีแพสชั่นสูงมากๆ สปีดเกมที่สเปอร์สพยายามโหมเร่งจังหวะอยู่ตลอด ยิ่งทำให้ยูไนเต็ดหลายคน เร่งจังหวะบุกตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เอวร่าเติมสูงตลอด จนกลายเป็นปีกไปแล้ว เรื่องลงไม่ทันไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่าไม่ค่อยได้ถอยลงมาจะดีกว่า เนื่องจากสปีดเลนน่อนนั้น อย่าหวังจะกวดให้ยาก ส่วนทางขวาของเรา โอเชียเองก็เติมกระจาย เมื่อเจอมิดฟิลด์เชิงสูงอย่างโมดริชเข้าไป ก็ลเยเกิดอาการเหวอ เตะจังหวะขาดบ่อยๆ ทั้งหมดนี้ภาระหนักหน่วงในการคอนโทรลเกมจึงตกที่สโคลส์ และ...ริโอ ที่คอยดึงจังหวะเกมให้อยู่กับร่องกับรอย เกมรุกของยูไนเต็ดถึงแม้จะครองบอลได้ดีกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม แผงหลังสเปอร์สยืนตำแหน่งได้ดีมากๆ เว็ลเบ็คเองก็แสดงให้เห็นว่ายังตื่นสนามเกินไป การเลือกไลน์วิ่งยังทำได้ไม่ดี จังหวะพาบอลไปกับตัวก็ไม่ดี พลิกบอลไม่ได้ แถมออกอาการลังเลทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจยิง ทำให้ผลงานในเกมนี้ค่อนข้างแย่ครับ ต้องรอประสบการณ์อีกสักสองสามปี พอเว็ลเบ็คเล่นไม่ได้ เตเวซก็เหนื่อย เพราะเหมือนต้องเล่นคนเดียว นานี่กับโด้ ถูกถ่างออกไปทางกว้างมากซะจนต่อบอลกับตรงกลางไม่ค่อยได้ ยิ่งนานี่ดูเหมือนจะเด่น แต่ถ้าดูดีๆ ก็พบว่าเฮียเล่นคนเดียวอีกแล้ว จังหวะจบกลายเป็นเรายิงติดบล๊อกบ้าง ยิงเฉี่ยวออกไปบ้างเสียหมด ในขณะที่จังหวะจบของสเปอร์สจากการโต้เร็ว มีเสียวทุกครั้งที่ได้จบ ลูกวิ่งตัดกองหลังของเลนน่อนสร้างปัญหาให้กองหลังเรามาก เมื่ออีแวนส์ต้องตามไปปิดพื้นที่ของเอวร่า และมักไม่ค่อยทันสปีดเลนน่อน ยังดีที่ฟอสเตอร์มีพลาดแค่ครั้งเดียว แต่สเปอร์สฉวยไว้ไม่ได้ จากลูกหลุดตัดหลังเข้ามายิงของเลนน่อนที่ฟอสเตอร์ออกมาวืดแล้วด้วย ยังดีที่มีริโอช่วยไว้ได้ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน ท่านเซอร์ก็ต้องส่งอันแดร์สันลงมาแทนเว็ลเบ็คที่ไม่สามารถอัพเลเวลตัวเองขึ้นมาได้ในเกม อันแดร์สันน่านี้จะถูกส่งลงมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า เนื่องจากไม่มีกองหน้าในรายชื่อสำรองเลยแม้แต่คนเดียว โดยอันแดร์สันที่มีนิสัยขยันเป็นม้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ช่วยเข้ามาเชื่อมเกมระหว่างกลางและเตเวซข้างหน้า รวมทั้งสร้างสรรค์เกมรุกหน้าแผงกองกลาง ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถเชื่อมเกมไปเป็นเกมรุกได้ดีขึ้น ไหลลื่นขึ้น แต่ผลกระทบจากการลงมาของแอนนี่ก็ไม่ใช่ไม่มี การที่แอนนี่เป็นมิดฟิลด์สไตล์ไดนาโม วิ่งไม่หยุดนี่แหละ ยิ่งทำให้เกมตรงกลางแน่นขึ้น แต่เป็นการแน่นในแบบที่ไปลดการมีส่วนร่วมของกิ๊บสันไปจากเกม กลายเป็นนานๆจึงจะเห็นกิ๊บสันสักที และส่วนใหญ่จะเป็นการรับ-ป้าย รับ-จ่าย ซะมาก กิ๊บสันเองผมยังมองว่าต้องรอให้ทีเด็ดทีขาดมีมากกว่านี้ จึงจะขึ้นชั้นได้เต็มตัวครับ ทางบอลเขาถึงแม้ว่าจะดี แต่ถูกอ่านได้ง่ายเกินไปหน่อย คู่ต่อสู้สามารถเข้ามาปิดทางออกบอล และดักลูกจ่ายได้ไม่ยากนัก ซึ่งตรงจุดนี้ ผมมองว่าพอสเซบอนยังเหลื่อมๆอยู่พอควร เพียงแต่ว่าการอ่านเกมและความแข็งแกร่ง ความสมดุลรุก-รับ พวกนี้กิ๊บสันยังดูดีกว่าครับ รูปเกมในครึ่งหลังเป็นสเปอร์สที่สามารถเร่งเกมได้ดีกว่า และเริ่มกดดันแผงหลังยูไนเต็ดได้อย่างต่อเนื่อง โอเชียต้องสังเวยเหลืองก่อนเมื่อไปสอยคู่แข่งเข้าเต็มรัก เกมของน้องไก่ยิ่งเล่นยิ่งดูดีเมื่อแฮร์รี่ถอดพาฟลิวออก และส่งเจมี่ โอฮาร่า ลงมาทำเกมเพิ่มตรงกลาง ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมเกมได้ไหลลื่น เนียนขึ้น ตอนนี้เองที่จีนาสเริ่มออกจอให้เห็นบ้างแล้ว การแก้เกมตรงนี้ แฮร์รี่คงเห็นครับ ว่าการค้ำหน้าเป้าไว้สองตัว แต่บอลไปไม่ถึงมันไม่มีประโยชน์ ยิ่งป๋าเราถอดหน้า เพิ่มกลางเข้าไป แบบนี้มีแต่บอลตรงกลางจะกลายเป็นของลูกป๋ามากขึ้นไปอีก ว่าแล้วจ่าแฮร์รี่ก็เลยส่งโอฮาร่า มิดฟิลด์พันธุ์บู๊ลงมาเพิ่ม ทำให้เกมตรงกลางเริ่มสู้ได้มากขึ้น โมดริชและเลนน่อนได้บอลบ่อยและเริ่มวูบวาบได้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ โอเชียเมื่อเจอพวกเชิงสูงกระชากบ่อยๆเข้าก็ชักไปไม่เป็น เข้าช้าบ่อยๆจนหวุดหวิดจะแดงอยู่รอมร่อ แต่ปัญหาของสเปอร์สก็ยังคงเป็นการจบสกอร์ไม่คมอีกเหมือนเดิม จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงนี้เกมของสเปอร์สไหลลื่นและดุดันมากขึ้น อีแวนส์และริโอเริ่มมีปัญหาในการตามล้างตามเช็ดพื้นที่ที่ฟูลแบ๊คปล่อยทิ้งไว้ให้ทั้งสองข้าง โดยเฉพาะอีแวนส์ที่มีปัญหากับด้านเลนน่อนมากเป็นพิเศษ พี่ติ๊กไม่ช่วยน้องแวนซ์เลย เล่นเอาอีแวนส์เริ่มออกอาการหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจ้าตัวเองก็เพิ่งพักฟื้นกลับมา ความฟิตจึงน่าจะยังไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่เกมรุกของยูไนเต็ดก็ไม่ใช่หายไป ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่แผงหลังของสเปอร์สยังยืนกันได้ดี ทำให้มักจะบังทาง บล๊อกลูกยิง หรือ ตัดไลน์จ่ายทะลุได้บ่อยๆ ทำให้ต้องมาเน้นที่การลากเข้าไปในกรอบมากขึ้น จนโรนัลโด้เองยังถูกใบเหลืองข้อหาพุ่งล้ม ทั้งๆที่ถูกเตะจริง เพียงแต่จังหวะนั้น โด้เองก็ทำอะไรกับบอลไม่ได้แล้ว เพราะจิ้มไปซะไกลเชียว เมื่อเกมรุกยูไนเต็ดจบไม่ลง เกมของสเปอร์สก็ได้ใจขึ้นเรื่อยๆ รุกเข้าใส่ กดดันได้ต่อเนื่องมากขึ้น เมื่อโดนนวดหนักๆเข้าป๋าก็ต้องส่งวิดิชลงมาแทนโอเชีย เพราะกลัวโดนใบแดงหลังจากเริ่มสอยคนอื่นเป็นงานหลัก มีการปรับอีแวนส์มายืนแบ๊คขวา ที่จะวิ่งน้อยหน่อย แล้วเอาวิดิชที่ยังสด มาช่วยรองด้านเลนน่อนแทน ซึ่งถือว่าการแก้ตรงนี้ได้ผลครับ เกมของเลนน่อนลดความอันตรายลงไปพอสมควร และด้านอีแวนส์เองก็ช่วยให้โมดริชเล่นยากขึ้น เกมยังคงแลกกันสนุก ฟอสเตอร์เองต้องโชว์ฟอร์มหนักกว่าโกเมซเยอะครับ ถึงแม้สเปอร์สจะได้ยิงน้อย แต่ถึงขั้นต้องเซฟตลอด ในขณะที่ยูไนเต็ดได้ยิงเยอะมากก็จริง แต่ไม่ค่อยเดือดร้อนให้โกเมซต้องร่อนต้องเซฟมากนัก ในนาทีสุดท้าย โรนัลโด้ได้โอกาสลากตัดเข้าในก่อนจะสับด้วยซ้ายเต็มข้อ ลูกพุ่งกระแทกเสาแรกอย่างจัง เล่นเอาฝันค้างกันไปหลายคน และก็ต้องต่อเวลาออกไป จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เกมในช่วงต่อเวลา กิ๊กส์ถูกส่งลงมาแทนกิ๊บสัน เพื่อเพิ่มมิติในเกมรุกหน้ากรอบ และเป็นการคุมจังหวะของเกมไว้ ประกอบกับเมื่อแอนนี่ลงมา กิ๊บสันก็เฝดเอ้าท์หายไปบ่อยๆด้วย เวลาผ่านไปทั้งสองทีมเริ่มผ่อนคันเร่งลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเริ่มขาตายกันแล้ว สเปอร์สอาการหนักกว่าเพราะกำลังทดแทนมีไม่มาก ผู้เล่นชุดนี้ก็กรำศึกติดต่อกันมานานแถมกลางสัปดาห์ก็ได้พักน้อยกว่า ในขณะที่ยูไนเต็ดชุดนี้มีส่วนประกอบที่ฟิตมากกว่า หลายคนนานๆได้ลงที จึงยังคงเร่งเกมได้อยู่บ้าง จ่าแฮร์รี่เปลี่ยนตัวอีกครั้ง ด้วยการส่งแกเร็ธ เบล ลงมาแทนจีนาส ที่เล่นมีส่วนร่วมมากขึ้นในครึ่งหลัง แสดงว่าจ่าแฮร์รี่ต้องการเอาสปีดและความสดมาเล่นงานแผงหลังยูไนเต็ดบ้างจากการลากเลื้อยกระชากของเบล แต่โชคร้ายมาเยือนครับ เลนน่อนเกิดเจ็บช่วงท้ายครึ่งแรกของเวลาพิเศษ ทำให้ต้องส่งเดวิด เบนท์ลี่ย์ลงมาแทน เกมของทั้งคู่เริ่มเนือยลง จะมาเน้นก็จังหวะที่ได้โอกาสจริงๆเท่านั้น ยูไนเต็ดที่ยังคงมีเรี่ยวมีแรงมากกว่า ก็พยายามกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมอีกนั่นแหละ ลูกยิงออกซ้ายออกขวาข้ามคานติดบล๊อกไปซะหมด ในขณะที่เกมสวนกลับของสเปอร์สยังเปี่ยมอันตรายเล่นเอาฟอสเตอร์ต้องเซฟลูกยิงจ่อๆของเบนท์อีกครั้ง ในขณะที่สโคลส์ก็ถูกไข้เหลืองจากการเบรกเกมสวนกลับด้วยการหยุดแกเร็ธ เบล ท้ายเกม ไมเคิล ดอว์สัน โชว์พาวเวอร์ด้วยการเป็นตะคริวถูกหามไปรักษา แต่กลับลงมาปักหลักเซฟประตูช่วยโกเมซได้หลายจังหวะ เล่นเอาผมยังต้องปรบมือให้ครับ เกมจบลงอย่างสุดระทึกด้วยการต้องชี้ขาดในการดวลจุดโทษ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กิ๊กส์ ยิงชนโคนเสาขวามือเข้าไป ในขณะที่ฟอสเตอร์เซฟลูกยิงโอฮาร่า ยูไนเต็ด 1      สเปอร์ส 0 เตเวซยิงเสียบโคนเสาขวามือ ชอร์ลูก้ายิงเข้าไปทางขวากลางๆประตู ยูไนเต็ด 2      สเปอร์ส 1 โรนัลโด้ ยึกยักก่อนยิงเข้าทางเสาซ้ายมือ เบนท์ลี่ย์ยิงออกข้างเสาซ้าย ยูไนเต็ด 3      สเปอร์ส 1 แอนนี่ยิงเข้าหน้าต่างขวามือ และสเปอร์สไม่ต้องยิงเพิ่ม เกมจบแล้วครับ ยูไนเต็ด 4      สเปอร์ส 1 ONE Down, THREE to Go ปล. ผมให้ ฟอสเตอร์ เป็น แมนฯ ครับ ส่วนทางฝั่งโน้น ให้ดอว์สันกับเลนน่อน จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จบเกมนี้ ด้วยชัยชนะ และถ้วยใบแรกของโครงการในซีซั่นนี้ พร้อมๆกับข่าวดีอย่างเหลือเชื่อ เมื่อหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ลงสนามไปเมื่อวันเสาร์ กลับพลาดท่าไปโดนโบโร่พิชิตกลับมาด้วยสกอร์ 2:0 ทำให้ตอนนี้ เชลซีก้าวขึ้นมายืนอันดับสองของตารางแทนแล้ว ซึ่งทั้งคู่มีแต้มตามหลังเรา 7 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ทำให้โครงการแชมป์พรีเมียร์ลีกเริ่มสดใสขึ้นเรื่อยๆสำหรับพลพรรคปิศาจแดง ขอเพียงเก็บชัยชนะที่เซนต์ เจมส์ ปาร์คในวันพุธนี้ได้ (หงส์แดงพบซันเดอร์แลนด์ ในขณะที่เชลซีเยือนปอมปีย์) ก็จะทำให้สมาธิเราสามารถพุ่งเต็มที่ไปที่ถ้วยเอฟเอ คัพ กับฟูแล่มวันเสาร์นี้ และเกมกับอินเตอร์เลกที่สองกลางสัปดาห์หน้าได้อย่างค่อนข้างหมดห่วง ไม่ต้องพะวงถึงผลลัพธ์จากเกมแดงเดือดในวันที่ 14 มีนาคมให้มากนัก พบกันวันพฤหัสบดี และขอให้โชคดี กับการเชียร์บอล คืนวันพุธครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 10:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ เสร็จแล้วแล้ว 1 เหลืออีกสาม จากคุณ : kayool - [ 2 มี.ค. 52 11:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ว้า นึกว่าจะได้เข้ามาคนแรกซะอีก.... สเปอส์ วิ่งได้วิ่งดีจริงๆ...... จากคุณ : proofman - [ 2 มี.ค. 52 11:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีใจครับ เมื่อคืนลุ้นน่าดู เจอสาลิกา พุธนี้ หวังว่าคงจะได้ 3 แต้ม เมื่อวันเสาร์ พอหงส์แพ้ เชลซีชนะ ผมเริ่มจะเห็นแววของ ทริปเปิ้ลรองแชมป์ของบัลลัคอีกครั้ง ถ้าเป็นจริง คงเป็นคนเดียวในโลก ที่ได้ทริปเปิ้ล ทริปเปิ้ลรองแชมป์ ในใจผม คิดว่า 5 แชมป์มันเว่อร์ไปหน่อย เหมือนเกม FM ยังไงไม่รู้ แต่ถ้าได้จริง ก้อเอา ล่ะนะ กลัวอย่างเดียวถ้าได้จริง ทีมจะแตก เพราะป๋าจะหมดไฟ เพราะกลายเป็นบุคคลอมตะ แล้ววางมือเอาดื้อๆ น่ะสิ จากคุณ : nani jung - [ 2 มี.ค. 52 11:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ มอบกิ๊ฟแรกของเดือนให้เฮียหงบครับ จากคุณ : เด็กแม่พิมพ์ - [ 2 มี.ค. 52 11:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับคุณสงบใจและเพื่อนๆ ลุ้นเหนื่อยครับ อยากให้จบภายใน 90 นาที ยืดเยื้ออย่างนี้มีผลกับนัดกลางสัปดาห์แน่เลย หวังว่าเราจะรักษาความได้เปรียบในลีกได้นะครับ สำหรับจุดโทษนัดนี้ต้องขอบคุณ ไอพอดกับสตีล(โค๊ชประตู) นะครับ ฟอสเตอร์บอกว่าสตีลเอามาใช้ศึกษาว่าใครเตะแบบไหนก่อนเตะโทษ(เช่นโอฮาร่าเตะไปทางซ้ายของฟอสเตอร์) แล้วก็ได้ผล วิทยาการทันสมัยช่วยไว้แท้ๆ จากคุณ : พรานเล็ก - [ 2 มี.ค. 52 11:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับคุณสงบใจ และเพื่อนๆ นัดนี้ลุ้นกันนาทีต่อนาทีเลย และคงทำให้หลายคนโดนหัวหน้าเอ็ดกันบ้างเป็นแน่ แต่ยังดีหน่อย ที่เราไม่ง่วงและเหนื่อยฟรี นัดนี้การเข้าทำในจังหวะสุดท้ายเราขาดๆ เกินๆ ตลอด อะไรหลายอย่างไม่คลิ้กกันเท่าที่ควร ทั้งที่จังหวะการทะลุทะลวงกไม่ได้แย่ แต่กลายเป็นจังหวะป้อนการเข้าทำอันสุดท้ายเอง ที่มีปัญหา ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้เครดิตกับดอวสั้น คิง ชอลูก้า และโซโกร่ามากๆที่ยันกันได้อย่างมีวินัยสุดๆ คิดว่าประสบการณ์ที่ได้จากนัดนี้น่าจะทำให้เด็กเราเติบโตขึ้นได้มากทั้ง ฟอสเตอร์, กิ๊บสัน, เวลเบค ซึ่งแม้จะดูตื่นสนามเกินไป แต่พอให้อภัยได้ และอีแวนส์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญทีมเต็มตัวแล้ว (เมื่อคืนแอบเปรียบเทียบกับสเคอเทลที่โดนราฟาจับไปยืนแบคขวา แต่โชคดีมากที่ไก่ไม่มีปีกซ้ายในลักษณะจี๊ดๆ หนักไปทางปีกเล่นลูกนิ่งมากกว่า) หลังจากนัดนี้ คงต้องเป็นห่วงเกมกลางสัปดาห์อยู่บ้าง เพราะเห็นเลยว่านักเตะเรา "หมด" กันหลายคนอยู่ ทั้งโด้ สโคลส์ เอฟร่า และ ริโอ รวมไปถึงเตเวซเองด้วย คิดว่าเกมกลางสัปดาห์ โด้และเอฟร่าควรจะได้พักบ้าง ไม่งั้นเตะสามวันทีแบบนี้ แถมนัดนี้120 นาทีเสียอีกกลัวนักเตะเราจะกรอบ และเสี่ยงต่อการเจ็บง่ายมากจนเกินไป อย่างน้อยก็ยังดีที่ เหนื่อย 120 นาที แล้วได้ของรางวัลเป็นแชมป์ ไม่งั้นสูญเสียทั้งกำลังใจและกำลังกาย คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ร่วมลุ้นกันต่อไปครับ ปล. ขอให้น้องไก่พ้นจากโซนตกชั้นโดยไว นับถือในสปิริตของทีมนี้จริงๆ (^___^ ) จากคุณ : Noah_1_of_4lnw - [ 2 มี.ค. 52 11:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ได้มา 2 ตามล่า ที่เหลือ... ^-^ จากคุณ : P_Pond_P - [ 2 มี.ค. 52 11:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ เมื่อคืนมีสิ่งที่ดีใจอยู่จุดหนึ่ง คือนานี่ส่งบ่อยขึ้นครับ จากคุณ : กระแตตาโต - [ 2 มี.ค. 52 11:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มีความรู้สึกว่าโกเมสมาเจอยูไนเต็ดแล้วจะเหนียวขึ้นยังไงไม่รู้ ตอนที่แข่งกันในลีกก็อีก เซฟเป็นอะไรเลย แล้วก็แมทช์นี้ฟอสเตอร์โชว์ฟอร์มขนาดนี้ คงเข้าตาคาเปลโล่มั่งล่ะนะ จากคุณ : AnotherLife - [ 2 มี.ค. 52 11:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับคุณ สงบใจ เกมส์นี้เจอความชื้นไปเต็มๆเลยนะครับ สำหรับนักเตะทั้งสองฝ่าย ต้องชมหัวจิตหัวใจ พละกำลัง ของทั้งสองทีมเช่นกัน การเลือกใครมาเตะจุดโทษ  ผมว่าความเก๋าของผจก. ที่ผ่านเกมระดับสูงๆมา  น่าจะส่งผลเห็นได้ชัดกับนัดนี้นะครับ  เพราะถ้าดูจากอายุ ของเฟอร์กี้ และ แฮรี่ แล้ว ไม่ต่างกันมาก  แต่ที่ต่างก็คือ บรรยากาศในการเผชิญกับความกดดันในเกมส์ระดับสูง  เฟอร์กี้ มีประสบการณ์มากกว่า แฮรี่  เห็นรายชื่อ คนเตะจุดโทษแล้วแทบจะลอกมา จากนัดชิง ยูซีแอล ปีที่แล้วเลย  อาจสลับตำแหน่ง  ผมว่าตรงนี้แหละสำคัญ.. สำคัญยังไง  ??? ... คนเตะจุดโทษ ไม่ใช่ใจพร้อมอย่างเดียว  ผมว่าต้องโรคจิตสุดๆเช่นกัน  ปล่าว!!! ไมได้บอกว่า นักเตะแมนฯยูโรคจิตประเภทถ้ำมองส่องสาว   แต่ มันคือ สารชนิดหนึ่ง ของนักเตะแมนฯยูทุกคน ย้ำ!! ทุกคน  ที่มันจะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สนามซ้อมในวันแรก ที่มาร่วมทีม จนถึงทุกวันนี้ ... เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า นักเตะแมนฯยู สามารถรับกับความกดดันนี้ได้ดีกว่าทีมอื่นๆ  จะเห็นว่า  ทำไม แอนเดอร์สัน ต้องเตะคนที่ 4 ไม่ใช่เพราะสเปอร์พลาดถึงต้อง เอาอีแอนมาเตะ(เพราะรายชื่อ 5 คนต้องส่งถึง กรรมการก่อนเตะอยู่แล้ว)     แต่นั่นคือหมาก ของ เฟอร์กี้  และถ้าให้ผมเดาไม่ผิด คนที่ 5 น่าจะเป็น นานี่ แน่ๆ ... ทำไมเอาละอ่อน มาเตะในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย ... ทั้งสอง(นานี่&อีแอน)อายุรวมกันแล้วแก่กว่ากิกส์ไม่กี่ปีเอง  มันคือ ความเสี่ยงที่เฟอร์กี้ต้องการ ให้เด็กมันรับรู้ มีอารมณ์ร่วม มีสารตัวที่ผมกล่าวมาข้างตันเข้าสุ่ร่างกาย  เมื่อมองย้อนกลับไป ถึงลักษณะ นิสัยเฟอร์กี้แล้ว จะยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า  เฟอร์กี้ คือคนประเภท " รู้อะไรไม่สู้รู้ด้วยตนเอง" นั่นคือสิ่งเฟอร์กี้ต้องการ ให้เด็กๆในทีมรับรู้ตรงจุดนี้ เพื่อจะก้าว ใหญ่เติบโต ในอนาคตกับสายอาชีพนี้ .. สำคัญนะครับ ... อีกอย่าง อีสองตัวนี่  เรียกว่ายิงจุดโทษตัวแม่ก็ว่าได้ ************************************ ผมไปเห็น  ข่าวหลังเกมส์ชิ้นหนึ่ง ของ นสพ.ออนไลน์  เดอะซัน ว่า   "ฟอสเตอร์ฟัง I-pod  ก่อนลงทำหน้าที่ "  เออแฮะ .. มีงี้ด้วย   เฟอร์กี้ได้กล่าวถึงฟอสเตอร์หลังเกมส์ว่า " มันคือช็อต มหัศจรรย์(เซฟลูกโอฮาร่า)ในชีวิตของฟอสเตอร์   และฟอสเตอร์จะจำมันไปตลอดชีวิตของเขา" และสุดท้าย  ป๋า กล่าวเอาไว้ว่า " งานหนักของเรากำลังเริ่มต้น" ... อืมๆน่าคิดๆ นะครับ ว่าไอ้งานหนักที่เหลือ  มันคืออะไร??????  ... เครดิต : www.thesun.co.uk แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 11:38:08 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 11:35:50 จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 2 มี.ค. 52 11:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...ผมมองว่าพอสเซบอนยังเหลื่อมๆอยู่พอควร... ขอทราบความเห็นคุณสงบใจเกี่ยวกับอนาคตในทีมชุดใหญ่ของ อันแดร์สัน พอสเซบอน และกิ๊บสันด้วยครับ ^ ^ จากคุณ : kirofsky - [ 2 มี.ค. 52 11:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากๆ ค่ะ อ่านเพลินเลย จากคุณ : Pattylala - [ 2 มี.ค. 52 11:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลุ้นกันตลอดเลย กว่าจะได้แต่ละแชมป์ จากคุณ : irr_f - [ 2 มี.ค. 52 11:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แค่อยากบอกว่า อยากนับ 1...2 ไปจนครบถ้วยที่ยังมีลุ้นอ่ะ จากคุณ : K-modjung - [ 2 มี.ค. 52 12:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หวัดดีครับน้าหงบ เมื่อคืนเห็นหน้าแบ๊งค์ วงแคลชมากกว่าเวลเบ็คอีก เกมส์เมื่อคืนนี่สเปอร์สมาดีจริงๆครับ ที่ผมให้เด่นๆก็มีดอว์สัน กับโมดริช เลนน่อนเห็นวูบวาบๆอย่างนั้นแต่ผมไม่ยักกะเสียวซักเท่าไหร่  เหมือนตอนไปเยือนคัมป์นูแล้วเมสซี่ลากเอาๆยังไงอย่างงั้น เหมือนว่าเลนน่อนแกทำเป็นสองอย่างคือลากแล้วก้มหน้าก้มตาเปิด แต่โมดริชนี่แกทำหลายอย่างเลยครับ คล้ายๆอิเนสต้าเลย ทั้งลาก ทั้งจ่าย ทั้งยิง แต่ดีที่เมื่อวานกองหลังเรายืนกันดีมาก ฝั่งเราผมยกให้ริโอเด่นสุดเลยละกัน เก็บกวาดหน้าประตูได้ทุกเม็ดจริงๆ ปล.น้องแอนหายเจ็บกลับมาคราวนี้ ผมว่าดูดีขึ้นนะ เหมือนท่านเซอร์กำชับมาว่าให้ลงไปเปลี่ยนเกมส์ไม่ใช่ลงไปเป็นลูกหาย เลยได้เห็นน้องแอนทั้งลากทั้งลุยทั้งยิงทั้งจ่าย ผมอยากเห็นน้องแอนในบทบาทนี้มานานแล้ว ส่วนเรื่องที่แย่งบอลเก่งไว้เป็นโบนัสละกัน อย่าไปยืนต่ำเพื่อตัดเกมส์ซะทีเดียว จากคุณ : boatzie - [ 2 มี.ค. 52 12:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาอ่านค่ะ  ได้ความรู้ไปเต็ม ๆ จากคุณ : นู๋แจง - [ 2 มี.ค. 52 12:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับคุณสงบใจ ดีใจมากครับยังไงปีนี้ก็ไม่มือเปล่า ลุ้นแทบตาย เท่าที่สังเกตุนะครับ วันนี้ดูฟอสเตอร์ มั่นใจมากกว่าทุกครั้งที่ลงสนาม อาจจะเพราะ คาเปลโล่มาดูด้วย  ทำให้มีแรงกระตุ้น ยิงตอนยิงลูกโทษ นี่เห็นหน้าฟอสเตอร์และยิงมั่นใจ และนี่ก็เป็นครั้งที่สามติดต่อกันแล้วนะครับ หลังจากแพ้เชลซีรอบชิงเมื่อสองปีก่อน ที่เราเตะที่นิวเวมบลีย์และเล่นไม่เคยจบใน 90 นาที ทุกครั้ง สาม ครั้งหลังยิงจุดโทษชนะหมด  เชลซี ,ปอร์สมัธ (ในคอมมูนิตี้ชิลด์)และล่าสุดสเปอร์ ประทับใจนักเตะแมนยูทุกคนเลยครับดดยเฉพาะกิ๊บสัน กิ้บสันเล่นได้ดีในระดับ หนึ่ง แต่ยังเป็ฯแกนหลักของทีมไม่ได้ครับ เพราะนอกจากทีเด็ดที่ยการยิงไกล แล้ว เรื่องการจ่ายบอล ในฐานะมิดฟิลด์ไม่มีทีเด็ดครับ แต่ที่ประทับใจคือ บุคลิก และใจเพราะดูแล้วไม่ตื่นสนามเลย แต่สิ่งที่ผมหายห่วงคือ เซนเตอร์ แต่ที่กังวลคือ เอฟร่า ครับเจอเลนน่อนออกทะเลทุกที เพราะเอฟร่าเป็นแบ็คที่คล่อง พอเจอปีกที่เทคนิคดีแต่ไม่คล่อง เอฟร่าเก็บสบาย แต่เจอปีกที่คล่องกว่าเทคนิคดี ทำให้เสียขบวนตลอดเวลา แต่เอฟร่าก็เติมได้ตามมาตรฐานถึงจะแม่นบ้างไม่แม่นบ้างครับ โรนัลโด้เหมือนเคยครับ เพื่อนไม่เข้าใจว่าจะส่งหรือจะยิง ผมว่าโรนัลโด้ ถอดวิญญาน เพชรฆาตไปครับเน้นส่งเกือบทุกลูก เพราะสมัยก่อน โรนัลโด้เลี้ยงตัดเข้าในและยิง ถึงไม่เข้าก็ยังมีที่เด็ด คือเพื่อนคอยซ้ำได้ แต่เดี๋ยวนี้เน้นเปิดและโด้เปิดไม่ดี เพื่อนไม่ทันจังหวะ(ถ้าจะให้ทันต้องเล่นกับ เบอร์บา) เสียดายเตเวซวิ่งเป็นบ้าอีกแล้วแต่ก็ยิงไม่ได้ ดีใจกับกิ๊กส์ครับ แชมป์ ลีกคัพ ครั้งที่สามแล้วครับ ท้ายสุดนี้ขอดีใจกับแฟนผีทุกคนนะครับ ลเหลือลุ้นอีกสามถ้วยครับ ลีกคัพใครว่าไม่สำคัญครับ เหมือนถ้วยเปิดหัวถ้าเปิดหัวดีถ้วยอื่นก็ไม่กดดันเท่าไรเพราะถือว่าไม่เหนื่อยฟรี ดูเชลซีปีที่แล้วครับ พลาดลีกคัพถ้วยแรก พลาดไปจนหมด จากคุณ : จูล่งแห่งเสียงซาน - [ 2 มี.ค. 52 12:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีครับ คุณสงบใจ และทุกท่าน วันนี้ยุ่งมากกกกก ถึงมากที่สุด แวะมาทักทายก่อนยังไม่ได้อ่านอะไรเลย ดีใจกับแชมป์แรก ครับ ทรรศนะนักเตะรอกันหน่อยนะครับ น่าจะออกมาช่วงดึกทีเดียว หวังคงจะไปช้าเกินไป จากคุณ : พุงกามามะ - [ 2 มี.ค. 52 12:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สงสารโด้ ไม่น่าโดนเหลืองในจังหวะแบบนั้น กรรมการก็จี้เส้น อยู่ก็ไกลเหตการณ์ วิ่งมาชูเหลืองหน้าตาเฉย ทั้งๆที่จากภาพช้า ไม่ได้พุ่งและน่าได้จุดโทษด้วยซ้ำ จากคุณ : ผีเฮี้ยน - [ 2 มี.ค. 52 12:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามความเห็นของผม - เลนน่อน ใครก็หยุดยากเพราะตัวเล็ก ๆ จี๊ด ๆ ศูนย์ถ่วงต่ำ แถมวิ่งเร็ว ต้องช่วยกันซ้อน(คล้าย ๆ ไรท์ฟิลลิป) แต่ผ่านเข้ากลางแทบไม่ได้ประโยชน์ สรุปคือได้แต่ลูกคล่อง+เร็ว ไว้ขู่กองหลังเท่านั้น - โซโกร่า อึดมาก วิ่งทั้งเกม โมดริช ก็พยายามวิ่งทำเกมตลอด เสียแต่ คู่ศูนย์หน้าเป็นของเกรดบี ถึง บีลบ เลยช่วยอะไรไม่ได้ - ดอว์สัน+คิง วันนี้ก็ยืนตำแหน่งได้ดี ส่วนนึงน่าจะเพราะ ศูนย์หน้าวัยละอ่อนอย่างเวลเบค ครึ่งหลังก็ผลัดกันเข้าผลัดกันซ้อนเตเวซ -และมาถึงดาราสำคัญ นานี่ เห็นเล่นแล้วเสียดายโควต้าของตี๋ปาร์ค ที่น่าจะได้ลงเล่นนัดชิงกะเขาบ้าง จ่ายบอลเสียหลายหนมาก -กิ๊บสันก็เล่นได้ธรรมดา ตามมาตรฐานไม่ถึงกับตื่นสนามเกินไป พอน้องแอนลงมา จะเห็นชัดถึงความแตกต่างในการทะลุทะลวงจากกลางสนาม -ฟอสเตอร์ สุดยอดคับ ปฏิกิริยาว่องไว ตื่นตัวตลอด สมกับเป็น MOM -แกเร็ธ เบล กับ เบนท์ลีย์ ลงมาแต่แทบไม่ได้ใช้ความสดช่วยเท่าไหร่ รายของเบลไม่น่าเชื่อว่าจะได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่งที่ค่าตัวเป็น 9 ล้านปอนด์ ส่วนเบนท์ลีย์ฟอร์มสมัยอยู่กับแบล็คเบิร์นหายไปหมด เหลือไว้แต่มาดที่ก็อปหนุ่มเบ๊คส์เท่านั้น แทบจะกลายเป็นของปลอมทำเหมือนทั้งคู่ (พอ ๆ กับนานี่) จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) - [ 2 มี.ค. 52 12:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ยังคงวิจารณ๊์ได้ดีเช่นเคย เมื่อคืนลุ้นเหนื่อยมากครับ แต่ก็สุขใจที่ชนะจนได้เส้นทางยังเหลืออีกมากที่ต้องก้าวกันต่อไป  ดีใจกับแชมป์แรกจริงๆครับ จากคุณ : Retrojazz60s - [ 2 มี.ค. 52 12:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อคืนไม่รู้มีใครรู้สึกเหมือนผมรึป่าวว่า...... สนามเวมบลี่  มันเล็กๆไงไม่รู้  แล้วเวลาโดนเพลสซิ่งจะถึงเร็วมาก+พื้นที่น้อย หรือคิดไปเอง - -" ปล.รู้สึกว่ากิ๊บสันเท้าหนักทั้ง2เท้า จากคุณ : geno_nr - [ 2 มี.ค. 52 12:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีอีกครั้ง มาตอบช้าไปหน่อย พอดีติดงาน ต้องขอโทษด้วย สภาพสนามที่ค่อนข้างเปียกแฉะมากเกินพอดี ในสายตาผม ทำให้เกมนี้ ยูไนเต็ดมีปัญหาพอสมควรกับบอลคอนโทรล ที่เน้นการชิ่งบนพื้น ต่างจากสเปอร์ส ที่มีปัญหาบ้าง แต่ไม่มากเท่าเรา เพราะบอลเขาแชร์กันไปด้วยทั้งบนพื้นและกลางอากาศ เห็นโมดริชลื่นล้ม แล้วโอเชียจะวิ่งไปเก็บ ดันไปลื่นล้มตามเขาซะอีก --------------------------------------------------------------------------- เลนน่อน จริงๆผมไม่ห่วงทีเด็ดทีขาดเลนน่อนนะครับ รู้อยู่แล้วว่าเป็นสไตล์ปีกอิงลิช ที่มีส่วนผสมภาคพื้นนิดหน่อย ทำให้พอโล่งใจได้บ้างว่าแกไม่ใช่ประเภทที่ชอบหักเข้าในมาเล่นเองเท่าไหร่ ทั้งเกมเห็นแกหักเข้ามาแค่สองามครั้งเอง แต่ที่ผมกลัวกว่านั้นก็เพราะการที่แกตัดหลังแบ๊คมาได้บ่อยๆ ด้วยความเร็วที่จัดมากๆ นั้น ผมกลัวว่าถ้าแกเปิดเข้าเป้าสักสามสี่ห้าลูก งานนี้เราเหนื่อย เพราะในกรอบพวกที่เล่นหัวดีๆมีตั้งสองตัวสิครับ แต่ดีที่แกไม่ได้เปิดแม่นๆเข้าเป้าเท่าไหร่ --------------------------------------------------------------------------- ปล. เห็นด้วย ว่ากิ๊บสันยิงหนักทั้งสองตรีนเลยยย แปลกใจนิดหน่อย เพราะพอรู้อยู่ก่อนว่าเด็กคนนี้ยิงไกลดีมาก แต่คิดไม่ถึงว่าหมอจะอัดได้ทั้งสองเท้า แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 12:49:26 จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 12:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เกมเมื่อคืน สนุกมาก จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 2 มี.ค. 52 12:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องอนาคตของกลางสามตัว, กิ๊บสัน, แอนนี่, พอสเซบอน จะว่าไป เรื่องใจนี่แอนนี่มาก่อนเลย ขนาดลงเป็นตัวจริงนัดแรกๆ น้องแอนยังกล้าๆเข้าไปหาเรื่องเฮียเจิดต่อหน้าแบบไม่มีกลัว ส่วนอีกสองคนยังต้องรอดูยาวๆ ส่วนเรื่องโอกาสของแต่ละคน ผมอยากให้มองไปที่ความต่อเนื่องที่ท่านเซอร์ให้โอกาสลงสนามในฐานะทีมชุดใหญ่ครับ นั่นน่าจะเป็นคำบอกใบ้กลายๆจากป๋าได้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ แอนนี่ก้าวมาแล้ว เป็นตัวเลือกแรกแน่นอน ถ้าเทียบกับอีกสองคนที่เหลือนะครับ เคยได้ลงแดงเดือดเป็นตัวจริง ย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่แกยังมีปัญหาเรื่องจังหวะจบสกอร์ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง นั่นทำให้แกคงต้องจับคู่กับพวกที่ยิงไกลได้ดีหน่อย (นี่เราพูดถึงอนาคตนะ ตอนนั้นคาร์ริคอาจจะโรยแล้วก็ได้ ปีนี้แก 28 แล้วนา) ส่วนพอสเซบอนกับกิ๊บสัน สองคนนี้คงต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร สิ่งที่ป๋าต้องการที่สุดไม่ใช่ความสุดยอดแบบจุดพลุสว่างไสวครับ แต่เป็นความคงเส้นคงวามากกว่า ยิ่งมิดฟิลด์ตัวกลางของแมนฯยูฯ นี่ถือเป็นหัวใจในการสร้างสมดุล รุก-รับ ยิ่งต้องคงเส้นคงวามากๆ แอนนี่กว่าจะก้าวมาตรงนี้ก็เป็นปีเลยที่ได้โอกาสในชุดใหญ่ ซึ่งพอสเซบอนกับกิ๊บสันยังมีความต่างกันอยู่พอสมควรครับ พอสเซบอนนี่จะบอกว่าเป็นพวกเชิงสูงก็ว่าได้ ความที่เป็นแซมบ้าในตัว ทำให้ลีลาการครอบครองบอล การคลึง ดึงจังหวะ พลิกบอล ทำได้เนียนตา และเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ดีกว่า ส่วนกิ๊บสันจะได้ในเรื่องความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่นระหว่างการเล่นรับและรุก และลูกหนักในการเป็นตัวตัดเกม ซึ่งสองคนนี้หากจับคู่กันได้ในอนาคตเราก็เหมือนมีสโคลส์กับคีนในสมัยก่อนแหละครับ ตอนที่สโคลส์เล่นตัวรุกเต็มๆน่ะครับ ซึ่งหากจะฟันธงลงสกอร์กันตรงนี้ ผมว่าคงลำบาก ในมุมมองที่ว่า ตัวกลางตอนนี้ เรายังมีผู้เล่นเหลือเฟืออีกร่วมๆสองปีแน่ๆอยู่แล้ว ช่วงนั้น มิดฟิลด์ดาวรุ่งกลุ่มที่ว่าก็น่าจะพัฒนาศักยภาพได้มากขึ้น หากยังจะฝากอนาคตกับทีมไว้ยาวๆ ผมว่าเรามีลุ้นที่จะมีกองกลางฝีเท้าดีในระยะยาวเลยทีเดียว และสามารถหมุนเวียนกันเล่นได้หลายๆนัด หลายๆแท็คติคด้วยซ้ำไป อย่าเพิ่งรีบร้อนฟันธงเลยครับ ดูยาวๆดีกว่า ช่วงสองสามปีนี้ ยังจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเยอะ ยิ่งกับดาวรุ่งที่เริ่มคิดว่าต้องการเป็นตัวจริงเพื่อพิสูจน์ศักยภาพ จนต้องขอย้ายไปเกิดกับสโมสรอื่นก่อนเนี่ย ผมไม่อยากเห็นอีกแล้วล่ะครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 13:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับ คุณสงบใจ ^^ ลุ้นกันจนเหนื่อยเลยกว่าจะได้แชมป์ ยังไงเมื่อคืน ฟอสเตอร์เราเหนียวจริงๆ ต่อหน้าคาเปลโล แบบที่ผู้พากย์ แกว่าไว้ จากคุณ : Bierhoff - [ 2 มี.ค. 52 13:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาอ่านครับ ช่วงจุดโทษลุ้นแทบแย่  นัดนี้ฟอสเตอร์เล่นดีมาก ส่วนตัวแล้วผมชอบฟอสเตอร์มากกว่าคุสแซคนะ ตัวใหญ่ หนา ดูหน่วยก้านดีกว่า ขว้างไกลยังกะชไมเคิ่ล หน้าตามุ่งมั่น เซฟดี อย่างอื่นเช่นการออกมาตัดบอล เตะบอลขึ้นไป สั่งกองหลัง ก็ฝึกกันได้ อยากให้ป๋าดันขึ้นมาแทนน้าซาร์จริงๆ เพราะเป็นคนอังกฤษด้วย ถ้าเกิดกฏ 6+5 ใช้จริงๆ ก็จะได้โควต้าอังกฤษมาคนนึงแล้ว จากคุณ : SamuDi Knight - [ 2 มี.ค. 52 13:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ สำหรัล หลังเกมส์ครับ ลุงหงบ นั่งดู ลุ้น กัน เครียดดดด เลย *0* จากคุณ : vn, man - [ 2 มี.ค. 52 13:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 37 วันไหนว่างๆ อยากมาคุยเรื่องกฎ 6+5 เหมือนกันนะครับ เพราะเห็ว่าตามกฎนี้ ไม่ได้รวมสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวแล้ว แต่พูดประมาณว่า เล่นให้ชาติของตน นั่นคือ อังกฤษก็คืออังกฤษ ตอนนี้มีใครบ้าง เอาเฉพาะที่ยังยนระยะได้ถึงวันกฎออกนะ 2013 โน่น แต่ก่อนหน้านั้น เห็นว่าจะเริ่มจาก 4+7 แล้วปรับเป็น 5+6 แล้วค่อย 6+5 เริ่มที่ ฟอสเตอร์, อามอส อีแวนส์, เอ็คเคอร์สลี่ย์, ซิมป์สัน คาร์ริค, ฮาร์กรีฟส์, มาร์ติน รูนี่ย์, แคมป์เบลล์, เว็ลเบ็ค ลองไล่ๆดู ก็ใช้ได้นี่เนอะ จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 13:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่ะ คุณสงบใจ เมื่อคืนลุ้นมาก แต่สังเกตนะคะว่านักเตะเรานี่ฟิตจริง ๆ ขนาดอายุเยอะ ๆ อย่างเฮียสโคลส์ยังวิ่งได้ครบ 120 นาที เห็นด้วยกับคุณพริบฯ เลยค่ะเรื่องความโรคจิตของนักเตะแมนยูเนี่ย คือทุกคนจะมีความโรคจิตอยู่ในตัวไม่มากก็น้อย แล้วต้องเป็นพวกจิตแข็งกับมุ่งมั่นสุด ๆ ถึงจะอยู่ในทีมนี้ได้ เราว่ามาจากที่ป๋าต้องมองแล้วว่านักเตะคนนั้นมีบุคลิกที่ไปกับทีมได้แล้วก็เกิดจากการปลูกฝังทัศนคติของป๋า หลังจากได้ดับเบิ้ลแชมป์ปีที่แล้วเราได้อ่านบทสัมภาษณ์ของนักเตะแมนยูสามคน คือ เฮียแกร์รี่ พี่วี แล้วก็ฮากรีฟ มีคำถามคล้าย ๆ กันประมาณว่า คิดว่าทีมจะอิ่มตัวกับความสำเร็จที่ได้มารึเปล่า สามคนตอบเหมือนกันเลยค่ะว่าแชมป์มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนในทีมมองไปถึงเกมต่อไปมากกว่า ที่ยูไนเต็ดทุกคนจะไม่มีการมานั่งมองกลับไปว่าเราชนะอะไรมาบ้าง แต่จะมองว่าเกมต่อไปคืออะไรแล้วทำยังไงถึงจะชนะ คือเรารู้สึกดีกับทัศนะคติแบบนี้จริง ๆ เลยค่ะ ปล. เพื่อนเคยถามว่าทำไมเชียร์แมนยู เราตอบมันว่าชอบเพราะทีมมันโรคจิตดีอ่ะ ตั้งแต่ผู้จัดการทีมยันนักเตะ โดยเฉพาะอาร์ตตัวพ่ออย่างเฮีย Gongto เพื่อนมันเลยว่าเออเหมาะกะแกดีแล้วแหละ วันนี้พอเห็นคุณพริบฯ พูดเรื่องความโรคจิตเราเลยร่ายซะยาวเลย จากคุณ : น้ำผึ้งพระจันทร์ - [ 2 มี.ค. 52 13:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หวัดดีค่ะลุงหงบ แล้สก็ขอบคุณสำหรับวิพากษ์นะคะ ดีใจมากกกกกกกก ลุ้นโคตรๆ ฟอสเตอร์เจ๋งมากๆเลย ^^ ปูลุ้นเจ้าแอนนี่ให้ยิงได้ รักมาเลยเด็กคนนี้ เมื่อไหร่จะเลิกยิงนกตกปลาซะทีหว่า ส่วนน้องกิ๊บโบ้ ถ้าลูกนั้นเข้านะจะหล่อกว่านี้อีกหลายเท่าเลย อยากเห็นน้องพอชลงด้วยล่ะ อิอิ ตอนโด้ยิงจุดโทษ ภาพ UCL มันตามหลอกหลอนปูอ่า ยิ่งเห็นมันทำยึกยักๆ แล้ว เอ่อ...โอมจงเข้าๆ ๆ ลูกที่กิ๊กซ์ยิงนี่ปูอย่างเสียว อย่างลุ้นเลยค่ะ เอ้อ... ดีใจที่ชนะ เย้ เย้ ค่อยๆเก็บจากถ้วยเล็กไปถ้วยใหญ่นะ ตั้งแต่แชริตี้ ถึงจะเป็นถาดปูก็จะนับล่ะ อิอิ แชมป์สโมสรโลก คาร์ลิ่ง ต่อไปก็มาลุ้น FA & EPL แล้วตามด้วย UCL กัน หวังว่าจะได้ถ้วยมาเพิ่มอีกนะคะ รักป๋า เชื่อมือป๋า รักแมนยู & นักเตะ รวมถึงสต๊าฟ ฯลฯ เลย ^__________________^ ไม่เคยพิมพ์ยาวๆในทู้ลุงหงบยาวขนาดนี้เลยนะนี่ 55 จากคุณ : poojo_ke - [ 2 มี.ค. 52 13:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปล. เกือบลืมคอนเฟิร์มคุณพริบฯไปครับ นักเตะยูไนเต็ดทุกคน ต้องมีดีกรีความโรคจิตติดตัวถึงขั้นครับ อิอิ ป๋าจึงจะจัดเป็นตัวจริงได้นานๆ ไม่งั้นจะอยู่ไม่ยืดดดดดดดดด จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 13:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับการวิพากษ์ครับ โดยเฉพาะช่วงอารมณ์ที่เราเป็นแชมป์ เรื่อง 5+6 สำหรับแมนยูไม่น่าห่วง เรามีเด็กอังกฤษเจ๋งเพียบ ไล่ตั้งแต่กองหน้ายังประตู จากคุณ : ณัฐกร - [ 2 มี.ค. 52 13:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ลุ้นเหนื่อยกว่าจะได้เฮกัน แต่ก็นะ วันนี้อารมณ์ดี ห่วงก็แต่นักเตะจะกรอบสำหรับ EPL วันพุธนี้แหละ ส่วนตัวเมื่อวานคิดว่านานี่จ่ายบ่อยอ่ะ ยังนึกในใจว่าทำไมคราวนี้แกไม่ขี้เลี้ยงว๊า... เผื่อจะมีลุ้นกว่านี้ แฟนยูไนเต็ดเอาใจยากอย่างนี้แหละ ช่วงที่แอนนี่ลงมา เห็นว่าทำชิ่ง 1-2 กับเตเบซค่อนข้างบ่อย ภาพติดตาจากไฮไลท์นัดคาร์ลิ่งกับแบล็คเบิร์นมาเป็นเดจาวูเลย ยังสงสัยอยู่ว่าสองคนนี้ไปซ้อมร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้สึกว่าแอนเดอร์สันกับเตเบซเล่นด้วยกันได้เพลินมากๆ เลยอ่ะ ส่วนผลของพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ "ทีมนั้น" แพ้ไป 2-0 นี่ก็นับเป็นข่าวดีนะ แต่จะดีใจมากกว่าถ้า "อีกทีม" จะทำได้แค่ 1-1 ไม่น่าฮึดชนะ 2-1 ได้เล้ยยยยย บอกตรงๆ แม้ทั้งสองทีมคะแนนจะยังห่างกับเราเท่าๆ กัน แต่เวลาทีมนี้ขึ้นมาเป็นอันดับสองในตารางทีไร เสียวทุกทีสิน่า จากคุณ : หนูติงต๊อง น้องแสนดี - [ 2 มี.ค. 52 14:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อืมมม...เรื่องนานี่ก็น่าคิดครับ มันมีสองมุมมองนะ เกมเมื่อคืนนี้ นัดนี้ที่แกผ่านบอลเยอะขึ้น ยิงน้อยลง ผมมองว่าคือผลลัพธ์ตอนจบ ซึ่งเป็นตอนที่บอลออกจากความรับผิดชอบของแกไปแล้ว แต่ขบวนการก่อนที่จะมาถึงตอนจบนี่ผมมองว่าสำคัญกว่าครับ ซึ่งเป็นเรื่องของทัศนคติ และไหวพริบในการเล่นกับบอล อย่างนานี่ แกอาจจะต้องการหาจังหวะของตัวเองให้พบอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่โอกาสจะเริ่มหลุดลอยไปเป็นของโทซิชในวันข้างหน้ามากขึ้น และวันเวลาของนานี่ อาจจะถูกเริ่มนับถอยหลัง เมื่อวันนั้นมาถึง ทำให้หลายๆครั้ง นานี่จึงมักทำอะไรขัดกับความรู้สึกแฟนๆไปบ้าง ซึ่งทั้งหมดนั่น ก็เพื่อรีบยกระดับตัวเองให้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้เต็มตัวนั่นเอง นัดก่อนอาจจะมีพ่อเลี้ยง ขี้ยิง สับติด กระชากหาย(ไปไหนไม่รู้) บางนัดอาจจะเน้นเปิด เน้นครอส มากกว่าจะเน้นเลี้ยงแหวกฝ่าเข้าไป แต่ถ้านัดไหนเข้าจังหวะ ลงล็อกล่ะก็...เป็นพระเอกได้เลย พอดีว่า โอกาสที่จะเจอนัดที่เข้าล็อก มันมีน้อยกว่าน่ะสิครับ แถมกว่าจะได้โอกาสอีกที ก็นานจนลืมแล้วว่า นัดก่อนทำได้ยังไง ยิ่งถ้าป๋าต้องการวินัยเกมรับ นัดนั้นชื่อตี๋ปาร์คเข้าวินมาก่อนแล้ว ยิ่งบางออปชั่น คือถอยรูนหรือเตลงมาเล่นกราบ เหมือนฆ่านานี่ตัดตอน แล้วไปถอยโทซิชป้ายแดงมานั่งขู่ฟ่อๆอีก รู้สึกกดดันแทนแกจัง นัดนี้ แกเลือกจะเปลี่ยนจังหวะตัวเอง ส่งมากขึ้น ยิงเองน้อยลง อันนั้นจริงครับ พวกเราทุกคนคงเห็นตรงกัน แต่จังหวะก่อนหน้านั้นสิ ขบวนการก่อนที่จะมาถึงขั้นส่งให้เพื่อน นานี่ลากมาแล้ว จนดึงคู่แข่งมาได้สองสามคน จึงค่อยจ่ายเพื่อน มองแง่ดีก็คือ นานี่ดึงตัวประกบมาได้เยอะ เปิดพื้นที่ให้เพื่อนได้ดี แต่ในหลายๆจังหวะ หากเลือกที่จะจ่ายหนึ่งสองแต่แรก เหมือนแอนนี่ โอกาสจะมีมากกว่านั้นเยอะครับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไรนะ เพราะผมว่า แกยังขาดไหวพริบในจังหวะตัดสินใจ มากกว่าครับ ซึ่งตรงนั้น ต้องให้โอกาส และเวลามากกว่านี้ เพื่อจับจังหวะทีมให้ได้ และจูนจังหวะทีมกับจังหวะของตัวเอง ให้ลงตัว เป็นจังหวะของหัวใจ ว่าแต่ ท่านเซอร์จะให้ขนาดไหน ยิ่งมีโทซิช ที่รออยู่อีกคน แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 15:15:30 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 15:14:18 จากคุณ : สงบใจ - [ 2 มี.ค. 52 15:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณน้าหงบฯสำหรับบทวิพากษ์ค่ะ ดีใจเนาะ ได้ถ้วยแชมป์มาตุนอีกหนึ่ง ถึงแม้จะใบเล็กติ๊ดเดียวแต่ก็ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก เกมส์สนุกมาก ตื่นเต้นได้ลุ้นตลอด หล่อสุด ๆ คงเป็นฟอสเตอร์ ยิ่งตอนก่อนยิงลูกโทษกล้องซูมไปที่ฟอสเตอร์               ดูหน้าตาแบบมั่นใจมากกก มีกระตุ้นอารมณ์คนดูขอเสียงเชียร์ด้วย เห็นภาพนั้นแล้วหวังลึก ๆ ในใจว่าฟอสเตอร์คงเซฟได้ซักลูกล่ะ... แล้วฟอสเตอร์ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง สเปอร์ก็เล่นดีสมกับเป็นคู่ชิงแชมป์ ถึงแพ้ก็แพ้อย่างสมศักดิ์ศรีค่ะ นักเตะที่เราสนใจเป็นพิเศษ... อารอน เลนนอน - ปีกจรวดไร้เรดาร์... คือน้องเร็วจริง แลบทะลุหลังเอฟร่าได้บ่อย ๆ แต่น้องไม่ได้ติดเรดาร์อ่ะ หลับหูหลับตาเปิดไปไหน เสียดาย ไม่งั้นแมนยูอาจซึม เอฟร่า - แบ็คซ้ายหัวใจปีก... พ่อเติมไม่ยั้ง เติมสูง เติมนาน เติมแล้วไม่อยากจะลง คือลงก็ไม่ทัน อีเลนนอนมันลากไปสุดเส้นหลัวแล้วววว ดอว์สัน - ถึงแจ๊คกี้จะว่าน้องดอสั้น แต่พี่ว่าน้องเล่นสุโค่ยมาก ๆ เลย ทุ่มเทซะน่องเป็นตะคริว สร้างปัญหาให้แนวรุกแมนยูอยู่บ่อย ๆ  เอาน่า...ถึงดอสั้นแต่มีความดีมาทดแทนนะคะ ฟอสเตอร์ - เหนียวมากกกก ช่วยเซฟไว้ได้หลายลูก ยิ่งตอนจะยิงลูกโทษหน้าตาราศีจับสุด ๆ ช่วยลุ้นให้เป็นมือหนึ่งทีมชาตินะ จอน โอเชีย - ต้องขอบคุณกรรมการที่ไม่ให้เหลืองที่สอง ไล่เสียบชาวบ้านทั้ง ๆ ที่รับไข้เหลืองมาแล้วหนึ่งดอก มันถูกต้องแล้วรึงายยย ไอ้สุดหล่อ จากคุณ : นู๋ชม - [ 2 มี.ค. 52 15:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากๆ นะคะ คุณสงบใจ ... มาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวเย็นว่างแล้วแวะกลับมาอ่านตามเคย อิอิ... เย้ๆๆๆ แชมป์ๆๆๆๆ จากคุณ : S@iYoJang - [ 2 มี.ค. 52 15:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หวัดดีค่ะคุณสงบใจ และชาวคณะ ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ค่ะ ยอมรับค่ะเมื่อคืนดูบอลเครียดมาก โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมส์ ทำไมอิโด้ไม่ยิงให้เข้าไปเลยดันไปชนเสาเสียได้ เมื่อคืนเกลียดอิบังมากๆ มันจะเล่นอะไรของมันนักหนา เล่นอยู่คนเดียว มีโอกาสก็ทำไม่ได้ บอลมาเสียมาตายที่อิบังบ่อยมาก ช่วงต่อเวลาพิเศษแทบไม่กล้าดู เพราะเห็นแต่ละคนหมดแรงกันตามๆ กัน นักเตะที่ลงตั้งแต่ต้นเกมส์ไม่เห็นมีใครไล่บอลกันเลย ขาตายกันเป็นแถว รอเวลายิงลูกโทษอย่างเดียวเลย ดีที่เผอิญนักเตะของสเปอร์สเขาก็คิดคล้ายๆ เรา และความแข็งแกร่งเขาสู้เราไม่ได้ ตะคริวรับประทานก็มี ไม่งั้นบอกได้คำเดียวว่า "ยินดีด้วยน้องไก่" จากคุณ : july 19 - [ 2 มี.ค. 52 15:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีค่า คุณสงบใจแวะมาอ่านค่ะ ดีใจที่ได้แชมป์ เย้ๆ แต่วันนี้ยังไม่มีทรรศนะคุณพุงกา เลยเนอะค่ะ รอ รอ แหะๆ.. จากคุณ : เจ้าชายหมู่เกาะกาลาปากอส - [ 2 มี.ค. 52 15:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เยี่ยม จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 2 มี.ค. 52 16:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะลุงหงบ เมื่อคืนสนุกมากๆ จริงๆ จากคุณ : mangporbaba - [ 2 มี.ค. 52 16:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีครับคุณสงบใจ เผมดูวิถีลูกบอลเมื่อคืนแล้วหวาดเสียวมาก ไม่ทราบว่าส่วนนึงเป็นที่ลูกบอลรึเปล่าซึ่งวิถีจะคล้ายๆกับพวกลูกบอลนัดชิงบอลโลก ยูโรอะไรทำนองนี้ ตอนแรกๆดูแล้วหวาดเสียวกับพวกไม่เก๋าของทีมเรา รวมไปถึงโอเชียด้วย เกมเมื่อคืนกิ๊บสัน คนที่ผมคาดหวังไว้มากเอาตัวรอดได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็เอาน่าเก็บไว้เป็นบทเรียน ส่วนนานี่นั้นส่วนตัวผม แกยังหาstepแกที่เล่นในพรีเมียร์ไม่ได้ ลูกเปิดลูกยิงนั้น นานี่พรสวรรค์กว่าโด้เยอะ ตอนนี้อยู่ที่เจ้าตัวล่ะครับบางทีศึกษาการเคลื่อนที่ของพวกรุ่นเดอะไว้บ้างจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย อ่อ ผมติดใจเรื่องโด้อยู่นิดเพราะมันขัดวิสัยป๋าเฟอร์กี้ที่เกมชี้เป็นชี้ตายมักจะจับโด้มาเล่นด้านซ้ายเพื่อชงเองกินเอง แต่ทว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นจับไปเล่นขวาไม่พอแถมให้ลงต่ำด้วยเน้นการเจาะด้านแล้วคอยใช้โด้สอดเข้าทำแบบเซอร์ไพรส์ ซึ่งบางทีก็มาไม่ทัน ถ้ามองโลกในแง่ดีเอาโด้ลงแต่กะใช้งานแค่60-70%หวังพึ่งอาวุธหนักอย่างเขา ด้วยที่สภาพไม่บุบไม่ยุบในการลุยศึกนัดต่อไป แต่ถ้ามองในแง่ร้ายผมว่าหลังๆนี่ดูเหมือนจะลดบทบาทโด้ลงไปเยอะ แต่ก็น่ะก็คงเป็นอย่างที่เราๆท่านๆคาดหวังไว้ตั้งแต่เมื่อ1-2ปีที่แล้ว ขอพูดถึงเตเบซนิด ผมชอบหัวใจเขาน่ะแต่เมื่อคืนเล่นขัดใจมาก พอถูกดันไปเล่นตัวเป้าแล้วแทนที่จะพักบอลแล้วคืนเลยกลับลากถอยหลังมาเพื่อที่จะพลิกบอลหันหน้าเข้าใส่คู่ต่อสู้ จนเกมรุกแมนยูในช่วงนั้นกลายเป็นบอลหลักลอยไปเลย แถมอีกนิดเมื่อคืนผิดหวังเอฟร่ามากๆ จริงๆนานี่ก็ต้องรับความผิดไปด้วย ที่ไม่ลงมาช่วยซ้อน ช่วยปิดทางวิ่งให้เอฟร่า แต่เอฟร่าก็น้า เข้าบอลเหมือนไม่อ่านเกมเลย สุดท้ายตอนนี้ผมแอบลุ้น4แชมป์มากๆแต่มีลางว่าUCLอาจจะยากนิดนึงแม้ว่าคลาสบอลเราจะไม่เป็นรองใครก็ตาม ได้แต่หวังว่าโชคจะอยุ่ข้างยูไนเต็ดด้วย จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง - [ 2 มี.ค. 52 16:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ดีๆจากทุกท่านเลยค่ะ (ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน คิดถึงสำนวนของคุณหงบจังเลย ^^) เมื่อคืนเป็นการดูบอลที่เสียงดังมากๆ เนื่องจากเราไม่ได้ดูผีแข่งมาหลายนัดแล้ว พอได้มาดูแบบเต็มๆแมตช์เต็มตาอีกทีเลยตื่นเต้นมาก ลุ้นมาก กดดันมาก เหมือนคนที่เพิ่งมาเชียร์ผีแดงใหม่ๆ ช่วงเวลาน้อยนิดก่อนเข้าสู่การยิงจุดโทษ ยอมรับว่ากลัวฟอสเตอร์อย่างรุนแรง กลัวจะเหวอ กลัวจะลน กลัวฯลฯ แต่มีอยู่ช็อตนึงที่ฟอสเตอร์หันไปขยิบตาให้ใครไม่รู้ มันเหมือนเรียกกำลังใจเราไปด้วย ความกลัวลดลง เหลือแต่ความมั่นใจ และความลุ้นชัยชนะอย่างเต็มเปี่ยม แค่จะบอกว่า ตอนนี้รักเบน ฟอสเตอร์ มากมายแล้วค่ะ จากคุณ : Cindecruella - [ 2 มี.ค. 52 17:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าเอฟร่าเล่นได้ตามมาตรฐานปกติ ใครมาเจอกับปีกอย่างเลนน่อนก็ต้องเหนื่อยหนักเป็นธรรมดา  ส่วนที่ทำให้เหมือนเอฟร่าโดนดูเหมือนเอาไม่อยู่ก็ตรงกองกลางผีแดงนัดนี้ช้าทั้งคู่ (สโคลส์+กิ๊บสัน) สังเกตได้ว่าโมดริชมีเวลาเล่นกับบอล หาช่องจ่ายตัดหลังเอฟร่าได้ตลอด ที่จริงผมว่ากองกลางต้องเข้าบีบเร็วให้โมดริชไม่มีเวลาคิด หรือคอยจนเห็นช่องว่าง จนมีเวลาพอจะจ่ายบอลได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักได้ขนาดนั้น สรุปแล้ว พี่ติ๊กไม่ผิดคับ รอดตัวไป จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) - [ 2 มี.ค. 52 17:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 วันนี้  วิเคราะห์เยอะมากเลยนะครับ ดีครับ  ผมชอบ  อิอิ นัดนี้  ชอบฟอสเตอร์มาก ๆ เลย นิ่ง  เหนียว  ห้าวหาญ  มาก ๆ เลย เห็นแล้ว  สบายใจเกือบเท่ากับที่น้าซาร์เฝ้าเสาเลย ส่วนเกม  ไม่ค่อยไหลเหมือนกับเกมที่ผ่าน ๆ มาเลย หรือเพราะสนามลื่น  ก็คงมีส่วน เห็นนักเตะ  เดี๋ยวลื่น ๆ  โดยเฉพาะฝั่งแมนฯยูฯ  ลื่นบ๊อย  บ่อย แต่ที่แน่ ๆ ต้องยกให้นักเตะสเปอร์  วิ่งใส่ทุกช็อตเลย นักเตะทีมเราช้าไปเกือบครึ่งก้าวตลอดเลย ทำเกมแทบไม่ขึ้น  หาโอกาสยิงเหน่ง ๆ ได้น้อยมาก ๆ ดีนะที่กลางกับหน้าฝั่งสเปอร์จูนกันไม่ค่อยติด  เลยไม่ค่อยหนักใจเท่าไหร่ ดาวรุ่งของเรา  เว้นอีแวนส์แล้ว  นอกนั้น  รู้สึกเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานนะ สุดท้ายยังดีที่ชนะได้ ตอนที่โด้ยิงชนเสา  นึกว่าโชคจะไปเข้าข้างสเปอร์ซะแล้ว ในที่สุดเราก็ได้แชมป์ไปครองครับ ดีใจจริง ๆ ป.ล.  สงสารโอฮารามาก ๆ เลย  คงผิดหวังและเสียใจมาก ๆ ที่ตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมแพ้   สู้ ๆ ต่อไปนะน้องเอ๊ย โด้  กว่าจะมายิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้  ก็เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว มุ่งมั่นต่อไป  คงจะมีสักวันหล่ะนะ จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 2 มี.ค. 52 18:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณน้าหงบมากๆครับ ขอบคุณนักเตะทั้งของแมนยูและสเปอร์ ^^ เชียร์กันต่อไป จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 2 มี.ค. 52 18:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ดีๆ ครับ แมนออฟเดอะแมตช์ผมยกให้ฟอสเตอร์ กับช่อง7 ที่ถ่ายให้ดูจนถึงตอนรับถ้วยครับ จากคุณ : นายสำรวม - [ 2 มี.ค. 52 19:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณคุณหงบสำหรับบทวิพากษ์ เห็นด้วยกับคุณพริบเรื่องนักเตะต้องโรคจิต แต่เราว่าแฟนผีก็ต้องโรคจิตพอกันแหละน่า จากคุณ : Ronove - [ 2 มี.ค. 52 20:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ จากคุณ : syusuke - [ 2 มี.ค. 52 21:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณคุณสงบใจเช่นเคย เข้ามาอ่านความเห็นของเพื่อนๆ อย่างเดียวเลย ส่วนหนึ่งที่ทำให้เชียร์ทีมนี้คือเรื่องของจิตใจนี้แหละ ขอแมนยูชนะเรื่อยๆ นะ จากคุณ : ผักทอดยอด - [ 2 มี.ค. 52 21:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพเช่นเคยนะคะคุณสงบใจ รวมทั้งของเพื่อน ๆ คนอื่นด้วยค่ะ  อ่านเพลินเลย  ^^ จากคุณ : Noey :p - [ 2 มี.ค. 52 22:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับ คุณสงบใจ และทุกท่าน มาช้าจริงๆผม ฮ่า เข้าเรื่องเลยนะครับ - เรื่องหัวใจ นี้เป็นจุดที่แข็งมากของทีมแมนยูมาทุกสมัยจริงๆ เรียกได้ว่าจิตใจนี่เกินคน ดังนั้นถ้าจิตใจแบบคนทั่วๆไป อ่อนไหวง่ายๆ คงอยู่ลําบาก นอกจากจะ Art ติสแตกไปเลย ฮ่า - เฮียจับฉ่ายผมว่าเกมนี้เล่นได้โอเคนะครับ อันนี้เห็นต่างกับทุกท่านไปบ้าง แต่ลูกที่เฮียแกโดนแต่ละจังหวะก็เป็นอะไรที่มันต้องทําจริงๆ อย่างลูกที่โดนเหลืองนี่ก็เข้าไปเบรคเกม ส่วนตัวผมว่าใบเหลืองใบนี้มันดูเบาไปหน่อย ถ้าเทียบกับหลายๆจังหวะที่ผู้ตัดสินปล่อยไปก่อนหน้านี้นะครับ อีกจังหวะก็ที่เกือบโดนแดง ตรงนั้นผมกลับว่าScholes จ่ายเบาไปและถ้าหลุดไปนี่งานเข้าทีเดียวนะครับ ก็เลยต้องเข้าไปให้ถึงแต่พอดีช้าไปก็เลยเกือบโดน เสียวเชียว แต่โดยรวมเกมสวนกลับของสเปอร์จะว่าไปมาทางพี่ติ๊กมากกว่าเยอะเลย และเป็นพี่ติ๊กที่หลุดการประบบ่อยกว่าจับฉ่ายเสียอีกนะครับ จนเฮียเต่าโวยใหญ่เลย -เกมนี้ผมประทับใจ Evans มาก ถึงมากที่สุด เป็นเกมแรกที่ผมเห็น Passion จากเค้าเด่นมากๆ เป็นตัวกระตุ้น และเหมือนมีไฟอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า เคยเล่นเกมกันมั้ยครับ ที่พอตัวของเรามีพลังถึงจุดหนึ่ง มันจะเป็นตัวแดงๆเหมือนมีไฟลุก พลังจะเพิ่มขึ้น นั่นแหละครับผมเห็นจาก Evans ในเกมนี้ ฮ่า ผมว่าถ้าเค้าอยู่กับแมนยู และไม่หลงทาง กัปตันทีมในอนาคตมีสิทธิจะเป็นเค้านี่แหละครับ -เกมนี้ดาวรุ่งคงจะได้ประสบการณ์กันไปมากโขทีเดียว และผมก็คิดว่าคงไม่มีดาวรุ่งคนไหนนอกจาก Evans ที่จะพอใจกับฟอร์มของตนเอง แต่หวังว่าจะผลักดันไปสู่การพัฒนาต่อไปได้ครับ -เจ้าบังนานี่ ผมว่ากําลังหลงทางครับ หาทางของตัวเองไม่เจอ โอกาสน้อย ไม่ได้ลงสมำเสมอ เกมนี้ไปไม่สุด เหมือนกั๊กๆ ส่วนตัวผมชอบนานี่แบบ Nani Effect มากกว่าอย่างนี้เสียอีก ผมว่าอย่างนั้นแค่ลด Ego และเพิ่มจังหวะก็จะเป็นนักเตะที่ดีมากๆได้ แต่ผมไม่อยากให้นานี่เป็นเหมือนในนัดนี้เลย มันดูเหมือนความมั่นใจน้อยลงไปด้วยหน่ะครับ ถ้าเห็น Evans แล้วเห็นเป็นตัวแดงๆ มีพลัง แต่เกมนี้ผมเห็นนานี่แล้วเหมือนตัวจะฟ้าๆ พลังหมดๆยังไงไม่รู้ หวังว่าจะหาทางกลับมาได้ในเร็ววันนี้ครับ ไม่ต้องไปตามเจ้าโด้ให้มากหรอกนะเจ้าบัง เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละเยี่ยมที่สุด ส่วนตัวผมเชื่อว่าถ้าจิตใจพร้อมทุกอย่างมันจะมาเองจากเค้าคนนี้ครับ พอแค่นี้ก่อนละกันนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : พุงกามามะ - [ 2 มี.ค. 52 22:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นวีดิชลงมาแล้วใจชื้นขึ้นมากเลยครับ ถ้าเลนนอนทะลวงพี่ติ๊กมาได้ก็จะเจอพี่วีอยู่ดี อุ่นใจมากเลยครับ แต่ต้องชม เบน ฟอสเตอร์ จริงๆ เห็นตอนจะยิงลูกโทษแล้ว ยังอึ้งเลย หน้าตาพี่แกมั่นใจมาก เยี่ยมครับ จากคุณ : Garfield-Th - [ 2 มี.ค. 52 23:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 -ขอบคุณป๋าหงบสำหรับบทวิพากษ์ดีๆ รับประกันคุณภาพเหมือนเดิม -เห็นด้วยกะคุณน้ำผึ้งทุกประการโดยเฉพาะ เฮีย ก็องโต กะ ป๋าแพนด้า -ตอนป๋าเปลี่ยนเอาเฮียวีลงมาแทน จับฉ่าย เราดีใจร้องลั่นบ้านตบมืออยู่คนเดียวจนคนที่บ้านนืกว่าไปซะแล้ว ก็คนมันลุ้นนิ่ กลัวว่าจับฉ่ายจะสะสมบัตรสมนาคุณครบ แลกที่นั่งข้างสนามได้ทันที เกือบไปแล้วแก แต่เราก็ชนะมาได้ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : TazManianEvil - [ 3 มี.ค. 52 03:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ในการต่อสู้ แข่งขัน หรืออะไรที่คล้ายกัน ใครมีใจอ่อนโยน สงสารคู่แข่ง  แล้วจะมีกะจิตกะใจมุ่งมั่นเอาชนะได้อย่างไร (คล้ายนักมวยจะชก แต่กลัวคู่ต่อสู้เจ็บ) ดูคำสัมภาษณ์ของ ผจก. นักฟุตบอล มีแต่มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ และมองไปข้างหน้าเพื่อชนะต่อไป เพียงแต่เราไม่เยอะเย้ยถากถางคู่แข่งเมื่อแพ้ คู่แข่งเล่นดีเราก็ว่าดี ชื่นชม ยกย่อง แต่ให้รู้สึกสงสารผู้แพ้ ไม่เห็นด้วย จากคุณ : กุยแก - [ 3 มี.ค. 52 11:27:47 ]